ประชาสัมพันธ์

แนวทางทองคำวันที่ 21-10-57

เเนวรับ 1240 1230 1225 เเนวต้าน 1250 1255 1260

ราคาทองคำขึ้นไปทดสอบใกล้ระดับ High เดิมบริเวณ 1250 ซึ่งต้องติดตามว่าจะสามารถผ่านไปได้หรือไม่ หากผ่านไปได้คาดว่าจะมีการ Cover-short ตามออกมาด้วย คือ คนที่มี Short คาดว่าจะปิดที่ระดับโซน 1250 นี้ แต่ในระยะสั้นมองว่า ยังไม่น่าผ่านน่าจะปรับตัวลดลงมาก่อน หลังจากเมื่อวานไปวนเวียนแถวแนวต้าน และโดนแรงขายค่อนข้างมาก โดยมีแนวรับระยะสั้นอยู่บริเวณ 1240 และสามารถยาวไปถึง 1230 ได้ หากหลุด 1230 ก็จะเปิดช่องว่างให้ราคาลงไปได้อีก ปัจจัยที่สนับสนุนอยู่คือ ค่าเงินดอลลาร์ที่ยังอยู่ในแนวโน้มอ่อนค่าในระยะนี้มาสนับสนุน จึงทำให้การปรับตัวลดลงนั้นยังมองว่ายังคงเป็นไปอย่างจำกัดเช่นเดียวกัน

ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 481 ล้านบาทเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ และหันกลับมา Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก 1896 สัญญา ทิศทางกระแสเงินทุนยังไม่มีความชัดเจน แต่ตลาดหุ้นดูเหมือนเริ่มจะสร้างฐานบริเวณนี้และยังมองว่าน่าจะถึงรอบรีบาวน์ในเร็วๆนี้หลังจากเมื่อวานเปิดกระโดดขึ้นไปแต่ก็กลับลงมาปิด Gap จนหมด ค่าเงินบาทเริ่มเข้าสู่ช่วงของการแข็งค่าอย่างเต็มตัวหลังจากผ่านระดับ 32.30 ออกมาได้ เพียงแต่การแข็งค่าจะอาจจะเป็นไปอย่างจำกัด และมองว่า หลังจากแข็.เสร็จแล้วจะอ่อนต่ออีก

ทางเลือกหลัก : มองราคาลงไปพักตัวด้านล่างก่อน มีแนวรับเรก 1240 และอาจลงไปได้ถึง 1230 มองการลงเพื่อที่จะขึ้นต่อเป็นการพักตัวใน Uptrend แล่หากหลุดเกินกว่า 1230 ลงมาอาจจะทำให้เกิดการปรับตัวลดลงต่ออีก

ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1250 ขึ้นไปเลย มองว่า ทองคำจะเริ่มขึ้นต่อทันที

รายละเอียด

- เมื่อวานนี้ไม่มีข่าวตัวเลขเศรษฐกิจออกมา มีเพียงแต่ความเห็นต่างๆ เช่น Ole Hansen หัวหน้าทีมวิจัยสินค้าคอมโมดิตีของ Saxo bank กล่าวว่า สถานะหรืออารมณ์ตลาดตอนนี้ได้เปลี่ยนจาก Bearish เป็น Neutral แต่ถ้าโดยรรมตลาดคาดการณ์ว่า ค่าเงินดอลลาร์จะต้องแข็งค่าขึ้นอีกจะทำให้เป้า Upside นั้นเป็นไปอย่างจำกัด และให้ติดตามระดับ 1250-1255 ว่าจะสามารถหลุดไปได้หรือไม่ หากหลุดได้คาดว่าจะทำให้คนที่มีสถานะ Short ต้องทยอยปิดสถานะและส่งผลให้ราคาดีดตัวกลับขึ้นไปได้อีก นอกจากนี้ตลาดหุ้นเยอรมันเมื่อวานนี้ปรับตัวลดลงหลังจากขึ้นมาแรงวันก่อนหน้า แต่โดยทั่วไปแล้วมุมมองยังอยู่ในระดับที่ดีสำหรับตลาดหุ้น

- Yield ของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของยูโรโซนปรับตัวลดลง ท่ามกลางความกังวลในเรื่องของการชะลอตัวเศรษฐกิจได้ผ่อนคลายลง เริ่มจากพันธบัตรเยอรมันอายุ 10 ปีซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนของต้นทุนทางการเงินกลุ่มยูโรโซนปรับตัวลดลงสู่ระดับ 0.85% ในขณะที่ Yield ของประเทศที่มีปัญหาหนี้อย่าง สเปน และ โปรตุเกสปรับตัวลดลง 1-2 Basis point 

- กองทุนเฮดฟันจ์ได้เพิ่มสถานะ Bullish bet เพิ่มอีกซึ่งเป็นข่าวเดิมกับวันจันทร์ที่เพิ่มสถานะ Long ครั้งแรกในรอบ 2 เดือน รวมถึงล่าสุดกองทุน SPDR เพิ่มสถานะการถือครองทองคำเล็กน้อย 1.5 ตันในสัปดาห์ก่อนถึงแม้จะเป็นการเพิ่มที่เล็กน้อยแต่ก็เป็นการไหลเข้าของเงินมายังทองคำครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน

- จากการเพิ่มขึ้นของราคานับตั้งแต่ระดับ $1180 มายังระดับนี้ส่วนหนึ่งมาจากแรงซื้อ Physical ที่ค่อนข้างมาเยอะในช่วงที่ทองลงมา ประกอบกับช่วงเทศกาล Diwali ที่จะมีในช่วงนี้คาดว่าจะ Support ราคาทองคำได้ในระดับหนึ่ง เพียงแต่แรงซื้อนั้นยังค่อนข้างเบาบาง

- สถานการณ์การประท้วงในฮ่องกงเริ่มดีขุ้นหลังจากจะมีการเปิดให้เจรจากันระหว่างรัฐบาลและกลุ่มผู้ประท้วงในวันนี้ แต่ก็ยังมีหลายฝ่ายคาดการณ์กันว่า การเจรจากันนั้นจะไม่สามารถทำให้การประท้วงครั้งนี้จบลงได้ แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีที่จะทำให้สถานการณ์ลดความตึงเครียดลง

- ECB เริ่มเข้าซื้อ Covered bond ของฝรั่งเศสแล้วเมื่อคืนนี้

- ตัวเลข GDP ของจีนออกมาที่ระดับ 7.3% สูงกว่าคาดการณ์ 7.2% เล็กน้อย

แนวทางทองคำวันที่ 20-10-57

เเนวรับ 1231 1225 1221 เเนวต้าน 1237 1243 1250

หลังจากในวันศุกร์ได้เกิดลักษณะคล้าย Bull flag แต่ราคาก็ได้แกว่งตัวออกด้านข้างจนทำเป็นรูปแบบ Sideways แทน ในช่วงแรกมองการขึ้นไปทดสอบระดับแถว 1240 ก่อน หากผ่านไปได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1250 และให้น้ำหนักในทางขึ้นก่อนมากกว่า กรณีกลับกันหากราคาลงมาต่ำกว่าระดับ 1231 จะทำให้ราคาเริ่มไหลลงและไปเจอแนวรับสำคัญ 1221 โอกาสเกิดมีทั้งสองทาง แต่ยังมองมุมขึ้นก่อนแล้วค่อยลง หรือไม่ก็ขึ้นแล้วหลุดไป 1250 ค่าเงินดอลลาร์ยังอยู่ในแนวโน้มของการอ่อนค่าและยังไม่มีสัญญาณกลับตัวให้เห็น จึงยังเป็นปัจจัยบวกกับทองคำในระยะนี้อยู่แต่ตลาดพันธบัตรได้ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 หลังจากขึ้นแรงสัปดาห์ก่อนหน้า ตัวนี้เป็นลบกับทองคำ

ต่างชาติยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 2661 ล้านบาทเป็นวันท่ 3 ติดต่อกัน แต่หันมา Long สุทธิในฟิวเจอร์ 2661 สัญญา ก็ยังไม่มากนักเมื่อเทียบกับสถานะ Short สะสมที่ระดับหมื่นสัญญาในสัปดาห์ก่อนหน้า เมื่อเช้านี้ตลาดหุ้นเปิดปรับตัวขึ้นค่อนข้างแรงจากทิศทางตลาดโลกและสัญญาณในทางบวกซึ่งกลับตัวในทางเทคนิตในวันศุกร์ที่ผ่านมา ค่าเงินบาทก็ยังอยู่ในแนวโน้มของการแข็งค่า ซึ่งมองการแข็งค่าลงมาอีกสักพักแนวรับสำคัญ 32.30

ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นไปใกล้ 1240 อีกรอบหนึ่ง หากยังผ่านไม่ได้จะกลับลงมาในกรอบใหม่ และ แนวโน้มจะเริ่มปรับตัวลดลงแล้ว สัญญาณ Bull flag เริ่มหายไปเรียบร้อย ราคาแกว่งตัวออกด้านข้างแทน

ทางเลือกรอง : -

รายละเอียด

- ทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อเปิดตลาดมาเช้านี้หลังจากปรับตัวขึ้นสองสัปดาห์ติดต่อกันร่วม 4% การปรับตัวลดลงนั้นมาจากตัวเลขเศรษฐกิจของอเมริกาออกมาดี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 86.4 (ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน กรกฏาคม 2007) จากเดือนก่อนหน้า 84.6 และคาดการณ์ 84.3 ส่วนตัวเลข Housing starts และ Building permit ก็ออกมาดีกว่าเดือนก่อนหน้าเช่นกัน เพียงแต่อาจจะมีน้อยกว่าคาดการณ์บ้างแต่โดยรวมแล้วก็ยังขยายตัวอยู่ ตัวเลขเศรษฐกิจของอเมริกาก็กลับเป็นบวกอีกครั้ง

- ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงเมื่อวันศุกร์ โดยตลาดหุ้นยุโรปเพิ่มขึ้นตามมาด้วยการปรับตัวขึ้นแรงของตลาดหุ้นอเมริกาหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาสดใสและกำไรของบริษัทจดทะเบียนในอเมริกาออกมาดี ถึงแม้ตลาดหุ้นจะรีบาวน์กลับขึ้นมาได้ แต่ยังอยู่ในโซนของการปรับฐาน และ เป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องกันสี่อาทิตย์ติดต่อกันอยู่ดี ซึ่งถือว่าไม่ได้เกิดเหตุการณ์การตกติดต่อกันสี่สัปดาห์มาตั้งแต่ปี 2011 หรือสามปีที่แล้ว ซึ่งการปรับตัวลดลงรอบนี้มาจากความกังวลเรื่องของการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ปัญหาหนี้ในยุโรปและเชื้อไวรัสอีโบลาที่กำลังระบาด ซึ่งการกังวลนั้นถึงแม้จะเบาบางลงก็ยังไม่หมดง่ายๆ เงินยังคงไหลเข้าไปยังสินทรัพย์ทางเลือกอย่างทองคำในช่วงนี้

- ตลาดหุ้นและตลาดทองคำเริ่มมีความหวังในเรื่องของการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้าหลังจากอาทิตย์ที่ผ่านมามี Comment จากประธาน FED สาขาเซนหลุยส์ที่ว่า อาจจะยังคงมี QE เพิ่มอีกหรือไม่ก็ชะลอการขึ้นดอกเบี้ย เพราะ เศรษฐกิจโลกยังฟื้นตัวไม่ดี เป็นผลทำให้ตลาดช่วงนี้หันไปในมุมมอง Dovish มากขึ้น

- สถานการณ์การประท้วงในฮ่องกงยังคงมีทีท่ารุนแรงหลังจากเข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน และรัฐบาลเริ่มจำกัดทางเลือกในการหยุดการชุมนุมส่งผลให้มีการปะทะกันรุนแรงขึ้น ล่าสุดมีคนเจ็บหลายสิบคนหลังจากการปะทะสองคืนนับตั้งแตค่วันศุกร์ที่ผ่านมา

- Hedge funds และ Money manager เพิ่มสถานะ Bullish bet ในทองคำเป็นครั้งแรกในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากลดสถาะลงมาเรื่อยๆเป็นสัปดาห์ที่ 8 ต่อเนื่องกัน ข้อมูลจาก CFCT ในวันศุกร์ที่ผ่านมา

- SPDR สถานะไม่ซื้อ-ไม่ขายคงเหลือการถือครองทองคำไว้ที่ระดับเดิม หลังจากมีการซื้อเพิ่มเล็กน้อยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

แนวทางทองคำวันที่ 17-10-57

เเนวรับ 1236 1232 1221 เเนวต้าน 1243 1245 1250

ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1236-1243 แสดงให้เห็นถึงช่วงเวลาที่ต้องรอลุ้นว่าจะผ่านทางใดทางหนึ่งออกมาหรือไม่ โดยน้ำหนักยังมองไปทางลงก่อนจากการพักตัวลงมา หลังจากขึ้นทดสอบแนวต้านไม่ผ่าน เพียงแต่ต้องยืนยันโดยการปรับตัวลดลงไปต่ำกว่าระดับ 1236 แต่หากยังไม่หลุดต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากรูปแบบยังเห็นเป็นลักษณะของ Bull flag อยู่ ถึงแม้จะส่งสัญญาณลงแต่หากลงต่ำกว่า 1236 ไม่ได้ ก็ระวังการดีดขึ้นมาด้านบนกลับ และหากดีดผ่าน 1243 จะส่งผลให้ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อตามทิศทางเดิมอีก ส่วนปัจจัยพื้นฐานยังคงมองไปในทิศทางบวกกับทองคำมากกว่า

ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1112 ล้านบาท (ยอดขายจริง 2577 ล้านบาท แต่มี Big lot ของหุ้นจำนวน 1465 ล้านบาท ส่วน Short สุทธิในฟิวเจอร์จำนวนมากถึง 10,433 สัญญา ซึ่งถือว่าเป็นการสะสมสัญญาที่ค่อนข้างมาก ค่าเงินบาทยังคงอยู่โซนของการแกว่งตัวแนวรับ 32.30 ที่ดูแล้วฝั่งแข็งค่ายังคงได้เปรียบกว่าเล็กน้อย ทิศทาง SET หลังจากเมื่อวานปรับตัวลดลงมาแรงถึง 21 จุดในวันนี้คาดว่าจะมีการรีบาวน์เล็กน้อย ถ้าไม่แรงพอดูแนวโน้มปรับตัวลงต่ออีก

ทางเลือกหลัก : มองการแกว่งตัวอยู่ในกรอบไม่มีทิศทางมากนัก เบื้องต้นมองการลงก่อน โดยจะยืนยันเมื่อหลุดแนวรับ 1236 หากไม่ลง ก็ให้โอกาสไปทดสอบ 1243 

ทางเลือกรอง : ราคาผ่าน 1243 ขึ้นไปเลย มองการปรับตัวขึ้นต่อ

รายละเอียด

- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องไปสู่ระดับ 264K จากสัปดาห์ก่อนหน้า 287K และคาดการณ์ 290K ซึ่งระดับที่ออกมาเท่านี้เป็นระดับต่ำสุดที่ไม่ได้เห็นมาหลายปี นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2010 หรือช่วงก่อนเกิดวิกฤติซะอีก แสดงให้เห็นถึงตลาดแรงงานของอเมริกาที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ยังมีตัวเลขอัตราการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นไปในทิศทางเดียวกันกับ Industrial production ทางฝั่ง Phiily FED ออกมาปรับตัวลดลงเล็กน้อยแต่มากกว่าคาดการณ์ โดยรวมแล้วตัวเลขออกมาค่อนข้างดีในวันที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดหุ้นชะลอการปรับตัวลดลงไปช่วงนี้ และ ค่าเงินดอลลาร์ก็ยังอยู่ในแนวโน้มของการอ่อนค่าลง

- มี Comment มาจากประธาน FED สาขาเซนต์หลุยส์ เสนอให้ FED ชะลอโครงการการลด QE ลงเพื่อป้องกันเงินฝืดและค่าเงินที่จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจบางคนก็ว่าไปถึงการจะออก QE4 ทั้งนี้ข่าวนี้เป็นเพียงแค่ Comment ของประธาน FED สาขาอื่น น้ำหนักเลยยังไม่มีไม่มาก ต้องติดตามเฉพาะที่ นาง Janet Yellen พูดจึงจะได้ใจความที่สุด

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี เมื่อวานนี้และก็เกิดการรีบาวน์ขึ้นมา ก็มีการคาดการณ์กันอีกว่า ราคาจะต้องลงมาถึงระดับ $50 ต่อบาร์เรลในการชดเชยการเติบโตของ Shale gas ที่ระดับ $50 ต่อบาร์เรลถึงจะทำให้การผลิตหยุดลงและราคาจะกลับมาที่เดิม ช่วงนี้อเมริกาสามารถผลิต Shale gas ได้มากจึงทำให้ลดการนำเข้าน้ำมันดิบลง

- ประธานาธิบดีปูตินได้ออกมากล่าวว่าหากยูเครนขโมยก๊าซที่ส่งให้ยุโรปไปจะเลิกส่งก๊าซจะถูกลงปริมาณลงเนื่องจากการส่งก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียไปยุโรปนั้นต้องผ่านพรมแดนยูเครน ซึ่งถ้าหากยูเครนไม่สามารถตกลงกับรัสเซียได้จะส่งผลให้ยูเครนจะเริ่มขาดแคลนพลังงานในช่วงสิ้นปีนี้

- อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลกรีซอายุ 10 ปีปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงระดับ 8.72% ซึ่งนับเป็บระดับใกล้กับเดือนมกราคมในขณะที่ช่วงกลางปีอยู่ระดับเพียง 5.5% ระดับที่เกินกว่า 7% นั้นเริ่มส่งสัญญาณไม่ดี โดยมีสาเหตุหลักมาจากการที่การ Bailout จะสิ้นสุดลงในเร็วๆนี้

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD 

Building permits 1.04M 1.00M
Housing starts 1.02M 0.96M
FED Chair yellen speaks 

20.55 USD 

Prelim consumer sentiment 84.3 84.6

แนวทางทองคำวันที่ 16-10-57

เเนวรับ 1232 1225 1221 เเนวต้าน 1240 1245 1250

เมื่อวานนี้ราคาทองคำได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขค้าปลีกของอเมริกาที่ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์กัน และได้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่บริเวณ 1248 จากนั้นเกิดแรงขายลงมาต่อเนื่อง ล่าสุดหลังจากพยายามจะผ่านไป ไม่สามารถผ่านไปได้ และมองการพักตัวลงมาระดับ 1232 ก่อนเป็นอันดับแรก การหลุด 1232 จะหมายถึง ช่องว่างให้ลงไปได้อีกพอสมควร และอาจจะเจอแนวรับถัดไปที่ 1221 ยังมองมุมมองในฝั่งของการพักเพื่อขึ้นต่อเช่นเดิม ข่าวบวกเริ่มเข้ามา ค่าเงินดอลลาร์อยู่ฝั่งอ่อนค่า รวมถึงตลาดพันธบัตรระดับนี้ Yield ลงมาต่ำมาก ต่ำกว่าระดับก่อนการลด QE จึงเป็นผลให้มุมมองต่อตลาดทองคำเริ่มดูดีขึ้นมา ข่าวในวันนี้คาดการณ์เป็นบวก แนวโน้มข่าวสำคัญพอสมควร 

ต่างชาติหันกลับมาขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1200 ล้านบาท และ Long สุทธิในฟิวเจอร์ 1,166 สัญญาเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วันทำการ แต่จำนวนค่อนข้างเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสถานะ Short ที่สะสมไว้ในช่วงก่อนหน้า เมื่อเช้านี้ด้วย Sentiment ตลาดเชิงลบส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงแรงขณะเปิดลงมาใกล้ Low เดิมต้องติดตามว่าจะหลุดไหม ส่วนค่าเงินบาททิศทางยังคงวนเวียนอยู่ในกรอบยังไม่มีนัยสำคัญมากนัก แต่แนวโน้มโดยรวมยังอยู่ในทิศทางแข็งค่า

ทางเลือกหลัก : มองราคาลงมาทดสอบด้านล่างที่ระดับ 1232 หลังจากเมื่อวานขึ้นไปทดสอบแนวต้านและไม่ผ่าน

ทางเลือกรอง : ราคาขึ้นต่อและหลุด 1250 ไปเลยจะมองการขึ้นต่อ

รายละเอียด

- ตลาดหุ้นยังคงเดินหน้าปรับตัวลดลงต่อไป และได้วิเคราะห์กันว่าตลาดหุ้นได้เข้าสู่โซน Correction คือ ปรับตัวลดลงเกินกว่า 10% ซึ่งการปรับตัวลดลงนี้คาดว่าจะยังคงดำเนินต่อไป สาเหตุเมื่อวานนี้คือ ตัวเลขค้าปลีกออกมาแย่ที่ระดับ –0.3% จากเดือนก่อนหน้า 0.6% และคาดการณ์ –0.1% ส่วนทางฝั่ง Core retail sales ที่เป็นค้าปลีกไม่รวมหมวดสินค้ายานพาหนะปรับตัวลดลง –0.2% จากเดือนก่อนหน้า0.3% และคาดการณ์ 0.2% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลางปี 2013 ที่ตัวเลขยอดค้าปลีกปรับตัวลดลงสู่ระดับติดลบ และตัวเลขค้าปลีกนั้นค่อนข้างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจ เพราะ การบริโภคเป็นปัจจัยหนุนอเมริกาที่สำคัญลำดับต้นๆ จึงเป็นผลทำให้เมื่อตัวเลขออกมาตลาดหุ้นโดนแรงเทขายซึ่งระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขายนั้น ดาวโจนส์ปรับตัวลดลงไปมากกว่า 400 จุดก่อนที่จะมีแรงซื้อปิดสูงขึ้นมาเล็กน้อย

- ตัวเลขเงินเฟ้อทั้ง PPI และ Core PPI ออกมาปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า แสดงให้เห็นถึงเงินเฟ้อในกลุ่มผู้ผลิตลดลง ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่เป็นผลดีกับเศรษฐกิจเท่าไร เพราะ เงินเฟ้อที่ลดลงหมายถึง การจับจ่ายใช้สอยที่น้อยลง ไม่ดีกับเศรษฐกิจ แต่ดีกับทองคำ เนื่องจาก เป้าหมายเงินเฟ้อของ FED อาจจะยังไม่ถึงและอาจจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยไปก่อน เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับ ความกังวลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ที่ดูเหมือนจะชะลอตัวลงกันหมดช่วงนี้

- เมื่อคืนนี้มีเบจบุ๊คออกมา (Beige book) พบว่า เศรษฐกิจอเมริกายังคงเติบโตอยู่ระดับปานกลางเช่นเดิม การบริโภคชะลอตัวเล็กน้อยถึงปานกลาง การจ้างงานและการผลิตดีขึ้น แต่ภาคอสังหารมทรัพย์ยังคงให้ภาพที่ไม่ชัดเจน พร้อมกับ FED ยังมั่นใจการเติบโตของอเมริกาว่าจะเติบโตได้ที่ระดับ 3% และอัตราเงินเฟ้อที่ 2%

- อีกตลาดหนึ่งที่น่าติดตามคือ ตลาดพันธบัตรล่าสุด Yield (อัตราผลตอบแทน) ของพันธบัตรรัฐบาลอเมริกาอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงไปถึง 1.865% นับเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2013 ที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุมาจากการกลัวต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และ แนวโน้มดอกเบี้ยที่อาจจะยังไม่ขึ้น ซึ่งระดับนี้เป็นระดับที่ต่ำกว่าตอนมีข่าวยกเลิก QE เสียอีก 

- SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำลง 0.27% สู่ระดับ 759.14 ตันเมื่อวานนี้

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD

Unemployment claims 286K 287K

20.15 USD

Industrial production 0.4% -0.1%
Capacity utilization rate 79.0% 78.8%

21.00 USD

Philly FED 19.9 22.5

แนวทางทองคำวันที่ 15-10-57

เเนวรับ 1221 1215 1210 เเนวต้าน 1230 1235 1240

ทองคำปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้หลังจากไปทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันและไม่ผ่าน ส่งผลให้เริ่มปรับตัวลดลงอีกครั้ง ในจุดนี้น่าหาสัญญาณการกลับตัวขึ้นเพื่อซื้อ เพราะ มุมมองในระยะกลางนั้นยังมองเป็นการลงเพื่อขึ้นต่อหลังจากเกิดสัญญาณกลับตัวในรายสัปดาห์เข้ามา เพียงแต่ระยะสั้นราคาหลุด Uptrend ลงมาแล้ว โดยมีแนวรับสำคัญอีกแนวหนึ่ง 1221 ซึ่งตรงจุดนั้นน่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต้องติดตามกัน ส่วนประเด็นข่าวในวันนี้มีตัวเลขค้าปลีกที่ตัวเลขคาดการณ์ออกมาน้อยลง เป็นปัจจัยบวกกับทองคำส่วนระดับความสำคัญไปในทางมาก มีนัยสำคัญพอสมควรกับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ สรุปก็คือ หาจังหวะซื้อเมื่ออ่อนตัว 

ต่างชาติหันกลับมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 250 ล้านบาทเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ และ ยังคง Short สุทธิในฟิวเจอร์อีกแต่เป็นจำนวนเล็กน้อย 764 สัญญา SET เริ่มสร้างฐานได้บริเวณนี้สังเกตุจากไม่มี Lower low ในช่วงที่ผ่านมา และเปิดตลาดก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น ยังคงมองเป็นการรีบาวน์อยู่ ส่วนทิศทางค่าเงินบาทหลังจากที่มองว่าแข็งค่านั้นตอนนี้เริ่มกลับอ่อนค่า เพียงแต่มองว่า การอ่อนค่าจะยังคงเป็นไปอย่างจำกัด เพราะ ค่าเงินดอลลาร์ในระยะกลางยังคงอ่อนค่าอยู่

ทางเลือกหลัก : มองราคาปรับตัวลดลงมาก่อนไปยังบริเวณ 1221 และควรหาสัญญาณกลับตัวขึ้นแถวนั้น

ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1221 ลงมาจะเปิดช่องว่างให้ลงอีก

รายละเอียด

- ตัวเลข ZEW ของเยอรมันซึ่งเป็นดัชนีวัดความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจปรับตัวลดลงสู่ระดับ –3.6 จากเดือนก่อนหน้า 6.9 และคาดการณ์ 0.2 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี นับจากปี 2012 และเป็นครั้งแรกในรอบปีที่อยู่ในระดับติดลบ ตัวเลขนี้ไปทำจุดสูงสุดในช่วงต้นปี 2014 จากนั้นก็ปรับตัวลดลงเรื่อยๆมาจนถึงปัจจุบันที่เริ่มเข้าสู่โซนติดลบ ซึ่งมองกราฟโดยรวมพบว่า ช่วงปีนี้ไปทำจุดสูงสุดในช่วงเดือนธันวาคม 2013 จากนั้นก็ทยอยปรับตัวลดลงมาเรื่อยๆ หลายฝ่ายคาดการณ์กันว่า กลัวเศรษฐกิจยูโรโซนจะกลับไปถดถอยอีกครั้งหนึ่งในลักษณะของ Double Dip Recession เพราะ ตัวเลขภาคการผลิตอื่นๆก็ส่งสัญญาณปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน ส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์อีกรอบหนึ่งเมื่อคืนนี้

- Yield ของพันธบัตรของเยอรมันและอเมริกาปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ( Yield ลด หมายถึงราคาเพิ่ม) หมายความว่า เงินไหลเข้าไปยังตลาดพันธบัตรโดยมีประเด็นหลักคือ ความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับ นักลงทุนส่วนใหญ่ที่คาดการณ์ดอกเบี้ยไว้ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ถูกบังคับให้ออกจากตลาดหรือ Cover-short จากทิศทางล่าสุดของ FED ที่ยังกังวลการเติบโตทำให้นักลงทุนที่เปิดสถานะ Short ในพันธบัตรไว้ต้องกลับมาซื้อคืน และ สิ่งนี้เองทำให้ในตอนนี้ราคาของพันธบัตรปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

- ช่วงนี้มีแรง Support ในทาง Physical จากอินเดียเข้ามาล่าสุดการนำเข้าทองคำของอินเดียปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแรง $3.75 Billions จากเทศกาลงานแต่งงานและช่วงเทศกาล

- ตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ของจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.6% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งนับเป็นจุดที่ไม่เห็นนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2010 ซึ่งคาดการณ์ไว้ที่ 1.7% จากคาดการณ์ 2.0% ส่วน PPI ปรับตัวลดลง -1.8% หลังจากปรับตัวลดลง –1.2% ในเดือนก่อนหน้าแสดงถึงเศรษฐกิจของจีนที่ยังคงชะลอตัวลง ส่วนตัวเลขเงินเฟ้อของอังกฤษก็ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน ส่งผลต่อถึงความกังวลว่า ธนาคารกลางอังกฤษจะขึ้นดอกเบี้ยได้หรือไม่

- ตลาดหุ้นอเมริกาชะลอการปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้หลังจากไม่มีข่าวตัวเลขอะไรออกมา มีเพียงแค่ทางฝั่งเยอรมัน กระแสการกังวลการเติบโตยังคงกดดันตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ ล่าสุดเยอรมันก็ออกมาปรับคาดการณ์การเติบโตลงอีกจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD

Core retail sales 0.2% 0.3%
Retail sales -0.1% 0.6%
PPI 0.1% 0.0%
Core PPI 0.1% 0.1%
Empirestate manufacturing index 20.3 27.5

แนวทางทองคำวันที่ 14-10-57

เเนวรับ 1231 1225 1218 เเนวต้าน 1235 1240 1250

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นและมองว่าในช่วงนี้จะยังคงเห็นทิศทางการปรับตัวขึ้นอยู่โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากกราฟรายสัปดาห์ที่เกิด Bullish engulfing เรียบร้อย ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า และ การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นฝั่งตะวันตก ทำให้ทองคำน่าจะได้รับประโยชน์จากเงินที่ไหลเข้ามาได้ในช่วงนี้ ระหว่างวันวันนี้ราคาไปคลุกคลี แถวเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันก่อน หากมีการปรับตัวเกินกว่า 1235 ที่เป็นเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันไปยัง 1240 ให้ใช้ความระมัดระวังในการปรับตัวลดลง เนื่องจากตามปกติแล้วเส้นค่าเฉลี่ยในช่วงเปลี่ยนแนวโน้มมักจะรอให้บีบเข้าหากันก่อน กรณีที่เคลื่อนไหวหรือผันผวนออกจากปกติมากไปมักจะดึงกลับมาค่ากลาง แต่โดยรวมแล้วยังมีน้ำหนักฝั่งขึ้น

ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยเป้นวันที 2 อีก 1875 ล้านบาท และยัง Short สุทธิในฟิวเจอร์ร่วม 5247 สัญญา ส่งผลให้ทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติยังคงเป็นลบต่อตลาดหุ้น เมื่อวานนี้ก็ยังคงปรับฐานต่อไป วันนี้เปิดตลาดเกิด Technical rebound เล็กน้อยตามตลาดหุ้นเอเชีย แต่ 3 วันที่ผ่านมาที่เราเห็นเงินแข็งค่าเพราะ ต่างชาติยังคงซื้อสุทธิในตราสารหนี้อยู่ ทิศทางค่าเงินบาทยังอยู่ในโซนของการแข็งค่าลงมาโดยมีแนวรับสำคัญ 32.30

ทางเลือกหลัก : มองราคาไปชะลอตัวแถว 1235-1240 และคาดว่าเมื่อไปทดสอบแถวนี้จะปรับตัวลดลงก่อนและแนวโน้มยังขึ้นต่อได้อีก

ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1231 ลงมาจะเกิดการปรับฐานระยะสั้น 

รายละเอียด

- ทองคำยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงนี้และขึ้นไปอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นและค่าเงินดอลลาร์ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก ล่าสุดตลาดหุ้นดาวโจนส์ยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้กองทุน ETF ที่ลงทุนในตลาดหทองคำได้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาบ้างหลังจากราคาตกลงมาแรง รวมถึง ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าลงมากเมื่อวานนี้หลังจากรับข่าวว่า ธนาคารจะขึ้นดอกเบี้ยช้ากว่ากำหนดจากความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ 

- ผลสำรวจจากทาง Bloomberg เมื่อเดือนกันยายนพบว่า ตลาดมอง ECB ว่าอาจจะมีการทำ QE เนื่องจากการขยายงบดุลออกอย่างเดียวอาจจะไม่พอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจในยูโรโซนได้

- ประเด็นหลักในช่วงนี้ยังอยู่ที่ตลาดหุ้นดาวโจนส์ที่ปรับตัวลดลงแรงไปต่ำกว่าระดับเส้นเฉลี่ย 200 วัน ซึ่งไม่ได้เห็นการปรับตัวสู่ระดับต่ำกว่านี้มานานแล้ว ประกอบกับลงมาทดสอบ Low เดิมเมื่อเดือนสิงหาคม ระหว่างทางได้มีข่าวร้ายมาตลอดล่าสุดได้พบผู้ติดเชื้ออีโบลาเพิ่มเติมจึงทำให้หุ้นปรับตัวลดลงต่ออีก ขณะที่นักวิเคราะห์หลายฝ่ายออกมาคาดการณ์กันว่า จะมีช่องว่างให้ลงมากกว่านี้อีกประมาณ 2-5% จากการที่ลงมาและเสียทรงทาง Technical ประกอบกับ เมื่อไปดูตลาดหุ้นเยอรมัน (DAX) พบว่า เกิดสัญญาณรุปแบบ Head and shoulder ชัดเจน จึงมองว่า ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูง และเมื่อหุ้นปรับตัวลดลง เงินส่วนหนึ่งอาจจะไหลเข้ามายังตลาดทองคำ เพราะ ตลอดที่ผ่านมาทองคำให้ผลตอบแทนที่ยังต่ำอยู่ จึงอาจจะมีเงินไหลกลับเข้ามาได้ พร้อมกับการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์มาสนับสนุน

- Goldman sachs ปรับเป้าประมาณการเติบโตของญี่ปุ่นลงจากเดิมมองว่าจะขยายตัวได้ 3.8 % ตอนนี้ลดลงมาเหลือ 2.9% เนื่องจากการขึ้นภาษี VAT และทำให้การบริโภคชะลอตัวลง

- ตัวเลขของจีนออกมาดีขึ้น ตามยอดส่งออกที่ดีขึ้นและนำเข้าที่ดีขึ้น รวมถึงยอดขายรถยนต์ที่มากขึ้น

- SPDR เพิ่มสถานะการถือครองทองคำเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ 10 กันยายนที่ผ่านมา แต่เป็นการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเพียง 1.79 ตัน สู่ระดับ 761.23 ตัน

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

16.00 EUR 

ZEW 7.1 14.2

แนวทางทองคำวันที่ 13-10-57

เเนวรับ 1218 1215 1205 เเนวต้าน 1235 1240 1250

เนื่องจากกราฟรายสัปดาห์นั้นเกิดสัญญาณ Bullish engulfing คือ ราคาสองสัปดาห์ก่อนหน้าลงแรง และสัปดาห์ที่ผ่านมา กลับขึ้นไปเท่ากับที่ลง และ ขึ้นไปมากกว่าตอนที่ลง จึงเกิดเป็นมุมมองในทางบวกขึ้นมาประกอบกับเกิดบริเวณแนวรับสำคัญที่ 1180 จากนี้ไปมองว่า ฝั่งขึ้นหันกลับมาได้เปรียบกว่าในช่วงนี้ ถึงแม้จะยังไม่มีข่าวมาสนับสนุนมากเท่าไรก็ตาม มีก็เพียงค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนและตลาดหุ้นที่เริ่มตก ซึ่งตอนนี้คงต้องปรับเปลี่ยนกันพอสมควร เนื่องจากทิศทางเริ่มจะกลับตัวได้ และต้องมาดูว่าการกลับตัวนี้จะแรงหรือไม่ ส่วนปัจจัยในระยะยาวเมื่อนำสมมติฐานค่าเงินดอลลาร์ที่จะแข็งค่ามาใช้นั้นยังพบว่า ระยะยาวทองคำจะโดนกดดันต่อ

ต่างชาติขายสุทธิหันกลับมาขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1060 ล้านบาทและ Short สุทธิเป็นวันแรกอีก 1048 ล้านบาท มุมมองตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มกลายเป็นลบ และ อาจจะทำให้กดดัน SET ไปได้อีก ล่าสุดก่อนเปิดตลาดฟิวเจอร์ของ SET50 1ปรับตัวลดลงมา 6 จุด ส่วนทิศทางค่าเงินบาทหลังจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่านั้นจะเป็นตัวเร่งให้เงินบาทกลับมาแข็งค่า โดยมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ 32.30 ส่วนปัจจัยภายในประเทศยังไม่มีอะไรใหม่

ทางเลือกหลัก : ตอนนี้ราคาเข้ามาใกล่ 1235 ที่เป็นเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน คาดว่าในวันนี้จะขึ้นไปและไปแกว่งตัวอยู่บริเวณนั้น และเนื่องจากในวันนี้เป็นวันหยุดของอเมริกาอาจจะทำให้ราคาเคลื่อนไหวไม่มากนัก

ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวลดลงเกินกว่า 1218 จึงทำให้ภาพรวมเป็นลบ

รายละเอียด

- ในสัปดาห์ที่แล้วทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.7% ซึ่งถือว่าเป็นสัปดาห์ที่ดีที่สุดของทองคำในรอบ 4 เดือนโดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากเงินดอลลาร์ที่ถูกขายจนอ่อนค่าลงหลังจากแข็งค่ามานาน และเมื่อเช้านี้ช่วงเปิดตลาดเอเชียได้เห็นแรงซื้อเพิ่มเข้ามา ท่ามกลางผลการประชุม G-20 ที่ออกมากังวลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลก

- ปัจจุบันนี้กระแสการกังวลการเติบโตเศรษฐกิจโลกมาค่อนข้างมาก เริ่มจาก World bank ได้ออกมาปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกลง ตามมาด้วย IMF และ การประชุม FOMC ที่กังวลว่า เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของอเมริกาและช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีการประชุมของ G-20 มาปรับลดอีกเช่นกัน โดยมีปัจจัยหลักมาจากการชะลอตัวของยูโรโซนที่เห็นค่อนข้างชัด และตัวเลขจากจีนที่ยังคงชะลอตัว ส่งผลให้ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลดลงต่อเนื่องกันและทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกโดนกดดันจากปัจจัยลบ ล่าสุดดาวโจนส์ปรับตัวลดลงมาอยู่เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (หลุดมาแล้ว) หากกลับมายืนไม่ได้อาจจะได้เห็นการปรับฐานแรงๆของตลาดหุ้นทั่วโลกได้ในช่วงนี้ ส่วน VIX Index ปรับตัวสูงขึ้นแรงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

- Official comment ของประธาน FED สาขาต่างๆกล่าวไว้ในทางเดียวกันว่า หากเศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณชะลอตัวลง FED อาจจะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงินได้ ส่วนทาง ECB ก็ออกมากล่าวว่า ยังมีเครื่องมือในการกระตุ้นเงินเฟ้ออีก คือ การขยายงบดุลของ ECB ซึ่งปัจจุบันยังมีช่องว่างให้ขยายได้อีก แต่ยังไม่นำมาใช้ (คล้ายกับการทำ QE) และปฎิเสธว่า ไม่ได้มีความต้องการจะให้เงินยูโรอ่อนค่าขนาดนี้ และเป้าหมายเงินยูโรที่อ่อนค่านั้นก็ไม่ใช่เป้าหมายของ ECB

- กองทุนต่างๆลดสถานะ Bullish bet ลงเป็นสัปดาห์ที่ 8 ต่อเนื่องกัน (2 เดือน) ข้อมูลจาก CFCT เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุหลักมาจากการฟื้นตัวของอเมริกาและค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ส่วน SPDR ยังลดสถานะการถือครองทองคำต่อเนื่องอีก 2.6 ตันสู่ระดับ 759.44 ตัน

- ตัวเลขส่งออกและนำเข้าของจีนปรับตัวดีขึ้นสูงกว่าตลาดคาดการณ์กัน

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

ALL USD 

Bank holidays

แนวทางทองคำวันที่ 10-10-57

เเนวรับ 1218 1215 1205 เเนวต้าน 1225 1230 1235

หลังจากเมื่อวานไปทดสอบด้านบนเกินระดับ 1225 ยาวไปจนถึง 1230 กว่า แต่ก็ไม่สามารถมีแรงขึ้นต่อ และได้โดนแรงขายปรับตัวลดลงมาด้านล่าง โดยมีแนวรับสำคัญแรกอยู่บริเวณ 1218 และเมื่อวัดฟิโบแนนซี่พบว่า ช่วงนี้นั้นยังเป็นช่วงของการรีบาวน์ของราคาในภาพใหญ่ ถึงแม้ราคาจะปรับตัวลดลงมาระดับ 1200 ก็ยังไม่หลุดจาก Uptrend ระยะสั้น เพราะที่ระดับ 1200 เ)นระดับฟิโบ 61.8% ที่ตามทฤษฎีแล้ว ราคามักจะพักลงมามากสุดที่ตรงนี้หากยังอยู่ในแนวโน้มเดิม หากราคผ่านแนวฟิโบนีไปก็จะเริ่มมองลงอีกครั้งหนึ่ง ส่วนเมื่อมาดูกราฟจะพบว่า 1215 ก็เป็นแนวรับสำคัญอีกแนวหนึ่งที่ไม่ควรหลุด สรุปว่า วันนี้มองการพักลงมาด้านล่างก่อน

ต่างชาติหันกลับมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรก 1477 ล้านบาท และหันมา Long สุทธิในฟิวเจอร์ 5789 สัญญาหลังจากเปิดสถานะ Short มาตลอดทาง เมื่อเช้านี้ SET เปิดตลาดแล้วเจอแรงขายพรวดเดียว ระหว่างวันคาดว่าจะมีการรีบาวน์ขึ้นได้บ้าง ในขณะที่ภาพรวมยังมองเป็นบวกได้อยู่ และยังมีช่องว่างให้ปรับตัวลงได้อีก 6-7 จุด ถึงจะยืนยันการปรับตัวลดลงต่อ ค่าเงินบาทเริ่มกลับมาอยู่ในทิศทางแข็งค่าได้ในช่วงนี้ โดยปัจจัยหลักก็มาจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า

ทางเลือกหลัก : มองราคาลงมาทดสอบ 1218 และ 1215 หากยังไม่หยุดจะมีแนวรับสำคัญ 1200 ที่ไม่ควรหลุดหากราคายังจะขึ้นต่อ

ทางเลือกรอง : ราคากลับขึ้นไปยืนเหนือ 1230-1235 จึงจะมองขึ้นต่อ

รายละเอียด

- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวลดลงแรงเมื่อวานนี้หลังจากขึ้นมาจากวันก่อนหน้าค่อนข้างแรงเช่นกัน นับเป็นความผันผวนที่ค่อนข้างมากของตลาดหุ้น โดยวันก่อนมีข่าวเรื่องการประมาณการเติบโตที่ลดลงของอเมริกาเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าจึงทำให้ตลาดตีความไปว่า FED น่าจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยไปก่อนเพราะอยากเห็นเงินดอลลาร์อ่อนค่า แต่เมื่อวันถัดมาเริ่มมาวิเคราะห์กันพบว่า มันไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงทางนโยบายมากนัก QE ก็ยังคงต้องลดต่อ และดอกเบี้ยก็ยังจะขึ้นเหมือนเดิม เมื่อเป็นเช่นนี้จึงเริ่มเกิดแรงขาย ประกอบกับ การกังวลการชะลอตัวเศรษฐกิจโลกหลังจากตัวเลขของเยอรมันออกมาไม่ดี ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2008 จึงเป็นเหตุให้ตลาดหุ้นโดนแรงขายสวนลงมาทั้งที่วันก่อนปรับตัวขึ้นแรง

- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ออกมาใกล้เคียงกับของเดิมที่ระดับ 277K จากสัปดาห์ก่อนหน้า 278K คาดการณ์ 293K ทางฝั่ง Wholesale inventories ปรับตัวสูงขึ้น 0.7% จากเดือนก่อนหน้า 0.3% เท่ากับคาดการณ์ ทั้งนี้ตัวเลขเศรษฐกิจส่วนใหญ่ยังออกมาดี แต่ก็ไม่ได้เป็นผลให้ตลาดหุ้นบวกเท่าไร ทั้งนี้เมื่อวานนี้เงินก็ไม่ได้ไหลเข้าตลาดทองคำเช่นเดียวกันคาดว่าจะยังรอดูทิศทางให้ชัดเจนกว่านี้ โดยตลาดที่เห็นเงินไหลเข้าเมื่อวานนั้นคือพันธบัตร

- ประธาน ECB คาดว่าจะเริ่มทำการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกในปี 2560 ซึ่งในปัจจุบันยังมีปัญหาภาวะเงินฝืด ตัวเลขทางฝั่งเยอรมันยังออกมาชะลอตัวลงทั้งส่งออกและนำเข้า โดยส่งออกปรับตัวลดลงแรงและส่งผลให้ดุลการค้าปรับตัวลดลง ส่วนธนาคารกลางของอังกฤษยังคงดำเนินนโยบายเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

- ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 2.8% ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแรงที่สุดในรอบสัปดาห์นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากไปทดสอบจุดต่ำสุดในรอบ 15 สัปดาห์

- สถานการณ์การประท้วงในฮ่องกงล่าสุดหลังจากที่มีข่าวว่า รัฐบาลจะเปิดให้แกนนำนักศึกษาเข้าร่วมเจรจาในวันนี้ ล่าสุดรองผู้ว่าผู้บริหารเกาะฮ่องกงลำดับที่ 2 ให้ความเห็นว่า การเปิดโต๊ะเจรจานั้นถือว่ามีความผิดทางกฎหมาย

แนวทางทองคำวันที่ 9-10-57

เเนวรับ 1218 1215 1205 เเนวต้าน 1225 1230 1235

ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นรับข่าว FOMC ที่ดูเหมือนไม่อยากให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งจนเกินไป ทำให้เกิดการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์และทองคำจึงปรับตัวขึ้นมา และยังมีแรงส่งขึ้นไปอยู่ ในเบื้องต้นมองว่า ราคาจะไปทดสอบ 1225 และอาจะมีเกินไปหน่อยตามแนวโน้มที่ส่งขึ้นมา เพียงแต่อยากให้ใช้ความระมัดระวังในขณะที่ราคาขึ้นไป และให้ระมัดระวังการปรับตัวลดลงมา ถ้าเกิดขึ้นไปและปรับตัวลดลงมาไม่ยอมต่ำกว่า 1225 โอกาสขึ้นต่อยังมี แต่ปัจจัยบวกนั้นยังไม่เห็นอะไรที่ชัดเจน มุมมองของคนในตลาดยังไม่เป็นบวกกับทองคำเท่าไรนัก ประกอบกับตลาดหุ้นที่เริ่มกลับตัวขึ้นมาอาจจะทำให้เงินเลือกที่จะไหลเข้ากับตลาดหุ้นที่มี Story ดีกว่าก็ได้

ต่างชาติขายสุทธิเป็นจำนวนมากถึง 2557 ล้านบาท และยัง Short สุทธิต่อเนื่องอีกเป็นวันที่ 5 จำนวน 2035 สัญญา จะเห็นว่าต่างชาติได้เก็บสถานะ Short ,มาค่อนข้างมาก ส่วนตลาดหุ้นเช้านี้เปิดมารีบาวน์แรงามทิศทางของตลาดหุ้นทั่วโลก และช่วงนี้มองว่า เงินบาทกำลังจะกลับมาแข็งค่าอีกรอบหนึ่งโดยมีแนวรับ 32.30 เป็นแนวรับสำคัญ เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์บ้างแล้ว และมองว่าเงินบาทที่เป็นสกุลคู่ค้าจะได้รับปลกระทบด้วย

ทางเลือกหลัก : มองราคารีบาวน์ต่อเนื่อง แต่ดูบริเวณแนวต้าน 1225 นั้นถือว่าเป็นแนวต้านสำคัญให้ใช้ความระมัดระวัง โดยเบื้องต้นมองว่า ราคาอาจจะมีการปรับตัวเกินไปได้ ต้องมาดูว่าเกินไปแล้วปิดได้ไหม หากปิดได้จะเปิดทางขึ้นต่อ แต่ยังมองว่าโอกาสไม่ผ่านยังมี

ทางเลือกรอง : ราคาปิดเหนือเกินกว่า 1225 จะทำให้มีช่องว่างขึ้นต่อ

รายละเอียด

- ผลการประชุม FOMC ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก มีเพียงการลดเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจลงเนื่องจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นมาและอาจจะไปกระทบการส่งออกรวมถึงการเติบโตที่ชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก จึงนำประโยคที่ว่า การขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นแบบ“considerable time” มาใช้อีกรอบหนึ่ง ซึ่งตลาดก็มองว่า อาจจะยังชะลอการขึ้นดอกเบี้ยไปก่อนในระยะสั้นนี้ เพราะ การขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้เงินดอลลาร์แข็ง อีกมุมหนึ่งค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งจะทำให้เงินเฟ้อลดลง และต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2% ทั้งนี้ความเสี่ยงที่เงินดอลลาร์จะแข็งค่าต่อไปนั้นมีอีกแหล่งหนึ่งจากฝั่งยูโรโซน เพราะ ยูโรโซนกำลังมีปัญหากับเงินฝืดและต้องการทำ QE เมื่อยุโรปทำ QE เมื่อไรเงินยูโรจะอ่อนค่ามาทันทีและไปกดดันให้ทองคำปรับตัวลดลงต่อ

- ทองคำปรับตัวขึ้นแรงในช่วง 2 วันที่ผ่านมาแต่นักลงทุนหลายคนก็ยังมองว่า ยังมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลดลงต่ออีก เพราะ โซนของราคายังอยู่ในโซนของ $1200 ต้นๆ

- การถือครองทองคำของกองทุน SPDR ลดลงค่อนข้างมากเมื่อวานนี้ที่ระดับ 5.38 ตัน คงเหลือากรถือครองที่ระดับ 762.09 ตัน ยังนับเป็นสถานะที่ต่ำสุดเมื่อนับตั้งแต่เดือน ธันวาคมปี 2008 ซึ่งการไหลออกของเงินในกองทุน SPDR เป็นตัวสะท้อนให้เห็นถึง Sentiment นักลงทุนที่ยังมองไม่ดีกับทองคำ

- นาย Vitor รองประธาน ECB ประเมินว่าจะต้องใช้เงินราว 1 ล้านล้านยูโร ในการเข้าซื้อ ABS 

- ธนาคารรัสเซียยังคงเดินหน้าแทรกแซงค่าเงินรูเบิลต่ออีกเป็นวันที่ 3 หลังจากอ่อนค่ามากจนเกินไป ส่วนทางฝั่งของจีนนั้นตัวเลข PMI ภาคบริการลดลงสู่ระดับ 53.5 จาก 54.1 ในเดือนก่อนหน้า ถือเป็นการหดตัวลงเล็กน้อย ส่วนสถานการณ์หุ้นกู้ในจีนมีบริษัทที่ไม่สามารถชำระคืนหุ้นกู้เป็นครั้งแรกซึ่งข่าวนี้ไม่ได้มีผลอะไรต่อระบบการเงินโลกมากนัก เศรษฐกิจจีนช่วงนี้ยังคงทรงตัวตามที่ IMF ประมาณการณ์การเติบโตไว้ที่ระดับใกล้เคียงกับเดิม

- ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรของญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.7% จากเดือนก่อนหน้า 0.9% และเหนือกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.5% นับเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเดือนที่สามติดต่อกัน แต่เศรษฐกิจญี่ปุ่นก็ยังอยู่ภาวะก้ำกึ่งเช่นเดียวกับจีน เมื่อเดือนที่แล้วได้ถูกปรับลดการเติบโต GDP ลงเล็กน้อย

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD

Unemployment claims 291K 287K

22.00 EUR 

Draghi speaks

แนวทางทองคำวันที่ 8-10-57

เเนวรับ 1205 1200 1180 เเนวต้าน 1215 1222 1225

หลังจากราคาฟื้นตัวจากวันก่อนหน้ากลับเข้ามาในกรอบได้เห็นราคปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆในเบื้องต้นใกล้ทดสอบเส้นแนวโน้มขาลงระยะสั้นที่1215 แล้ว โอกาสผ่านต่อไปยัง 1220-1225 ที่เป็นแนวต้านสำคัญมีสูง การปรับตัวเกินกว่าระดับ 1225 นั้นอาจจะทำให้มีช่องว่างในการปรับตัวให้สูงขึ้นไปอีกแต่การปรับตัวขึ้นแรงๆนั้นยังมองว่าเป็นไปได้ยากในช่วงนี้ ปัจจัยบวกระยะสั้นคือ ค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนค่าและตลาดหุ้นที่เริ่มตก แต่เมื่อมาดูภาพรวมกันพบว่า การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์นั้นเป็นไปในลักษณะของการพักตัวและเมื่อไรที่พักตัวเสร็จและกลับมาแข็งค่านั้นทองคำจะได้รับแรงกดดันให้ปรับตัวลดลงต่อ จึงต้องใช้ความระมัดระวังในฝั่งซื้อ

ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยเล็กน้อยหลักร้อยล้านบาทแต่ยังคง Short สุทธิในฟิวเจอร์ค่อนข้างมาก 7,953 สัญญา เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งแต่ละวันค่อนข้างหนัก ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทยเริ่มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องและค่า Basis ระหว่าง Future กับ Spot กลายเป็นลบมากขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงตลาดขาลงพอสมควร ทิศทางค่าเงินบาทจากที่มองไว้ว่าเริ่มจะแข็งลงหน่อยก็กลับยังไม่แข็งเท่าไรนัก ยังคงอ่อนมาอยู่ที่ระดับเดิม มองว่า จะอยู่ตรงนี้ไปสักพักหนึ่ง

ทางเลือกหลัก : ราคายังพอมีแรงไปทดสอบ 1215 คาดว่าอาจจะผ่านไปได้ไปยัง 1220-1225 ถึงจุดนั้นควรเผ้าระวังให้ดี เพราะ ถือว่าเป็นแนวต้านที่ค่อนข้างสำคัญ

ทางเลือกรอง : หากปรับตัวเกินกว่า 1225 จะทำให้ราคามีช่องว่างให้ขึ้นไปได้อีก 

รายละเอียด

- IMF ปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจโลกลงเมื่อวานนี้ หลังจากในวันก่อนหน้า World bank ได้ออกมาปรับประมาณการณ์เหมือนกัน โดยคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกปีนี้จะขยายตัวที่ระดับ 3.3% และปรับประมาณการณ์ปีหน้าลงเหลือ 3.8% จาก 4% โดยปรับสหรัฐดีขึ้น ส่วนยูโรโซน ญี่ปุ่นและจีนน้อยลง ซึ่งหลังจากข่าวนี้ออกมาทำให้ตลาดหุ้นตกเนื่องจากกังวลเศรษฐกิจโลกส่งผลให้ทองคำปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ นอกจากนี้ยังเกิดแรงขายออกมาก่อนการประกาศงบไตรมาสที่ 3 ของอเมริกาในสัปดาห์หน้า ส่งผลให้ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลดลงกว่า 200 จุด ปรับตัวลงต่อวันรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม

- เนื่องจากในช่วงนี้เงินดอลลาร์แข็งค่าและเศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซนดูเหมือนจะยังไม่ฟื้นตัวดีนัก ได้มีนักวิเคราะห์ออกมาให้ความเห็นว่า เงินดอลลาร์ที่แข็งค่านั้นจริงๆแล้วเป็นประโยชน์กับประเทศในกลุ่มยยูโรโซนมากกว่า เพราะ จะช่วยให้การส่งออกเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น จากนี้น่าจะเป็นผลดีกับเศรษฐกิจมากขึ้น

- ตัวเลข JOLTS Job Openings ออกมาพบว่าขยายตัว 4.84 ล้านตำแหน่งจากเดือนก่อนหน้า 4.61 ล้านตำแหน่ง ตัวเลขนี้หมายความว่า บริษัทเปิดรับสมัครพนักงานเพิ่มมากขึ้น เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจอเมริกา ซึ่งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราว่างงาน และ ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์นั้นล้วนออกมาดีทั้งหมด จึงทำให้มองว่าตลาดแรงงานเริ่มดีขึ้น

- ฝั่งจีนหลังจากหยุดมานานจาก National day วันนี้เริ่มเปิดทำการอีกครั้งหนึ่งแล้ว นักลงทุนในตลาดทองคำจึงจับตาดูว่าหลังจากตลาดจีนเปิดแล้วจะมีแรงซื้อเข้ามาหรือไม่ ถ้ามีแรงซื้อเข้ามาอย่างแข็งแกร่งอาจจะทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นกว่านี้ได้

- FED สาขานิวยอร์คประเมินว่า อัตราว่างงานยังคงฟื้นตัวช้า และ ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าจะทำให้ส่งออกของอเมริกาไม่ดี และเงินเฟ้อต่ำลง จึงมองว่า ถ้าจะขึ้นดอกเบี้ยควรจะรอกลางปีหน้าจึงจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม

- ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมันปรับตัวลดลงแรงเมื่อวาน ส่วนทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของญี่ปุ่นนั้นยังคงเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

1.00 USD

FOMC Meeting minutes