ประชาสัมพันธ์
แนวทางทองคำวันที่ 6-11-57
เเนวรับ 1141 1137 1130 เเนวต้าน 1150 1155 1160
เมื่อวานมองว่า จะปรับตัวลดลงและขึ้นต่อ ก็ปรับตัวลดลงจริงแต่ยังไม่
ต่างชาติหันกลับมาซื้อสุทธิ
ทางเลือกหลัก : มองราคาในระยะสั้นเริ่มส่งส
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ผลการเลือกตั้งกลางเทอมของอ
- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษต
- ในวันนี้จะมีผลการประชุม ECB ที่หลายฝ่ายคาดการณ์กันมากว
- การประชุม กนง ของธนาคารแห่งประเทศไทยมีมต
- มุมมองผ่าน Sentiment ต่างๆก็พบว่ายังเป็นลบกับทอ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20.30 USD
Unemployment claims 285K 287K
EUR
ECB Press conference
แนวทางทองคำวันที่ 5-11-57
เเนวรับ 1160 1155 1150 เเนวต้าน 1175 1180 1185
ราคาทองคำยังคงทรงตัวอยู่ใน
ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิในต
ทางเลือกหลัก : มองราคาปรับตัวลดลงไปในช่วง
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1160 ลงมาแล้วไม่สามารถยืนได้ จะมองการปรับตัวลดลงต่อไปยั
รายละเอียด
- การปรับตัวลดลงของทองคำอย่า
- ตัวเลข Trade balance (ดุลบัญชีการค้า) ออกมาขาดดุลมากขึ้น หมายถึง การนำเข้าที่มากกว่าส่งออก โดยการส่งออกของอเมริกาส่วน
- Europian commission ปรับตัดการคาดการณ์การเติบโ
- ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอย่าง
- SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำลงอี
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20.15 USD
ADP non-farm employment change 214K 213K
22.00 USD
ISM-non manufacturing PMI 58.2 58.6
แนวทางทองคำวันที่ 3-11-57
เเนวรับ 1160 1155 1150 เเนวต้าน 1170 1175 1180
เมื่อวันศุกร์ราคาปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญ 1180 และเป็นการปิดเดือนไปแบบไม่สวยงาม ในสัปดาห์นี้มีโอกาสปิดรอบหนึ่งให้ราคาขึ้นไปยืนบน 1180 หากไม่สามารถยืนได้จริงๆ โอกาสที่จะปรับตัวลดลงไปสร้างฐานกันใหม่แถวบริเวณ 1050-1180 มีสูงมาก ปัจจัยพื้นฐานอย่างค่าเงินดอลลาร์จะเป็นตัวกดดันต่อในอนาคต ประกอบกับ Physical demand ที่ลดน้อยลง ทำให้ปัจจัยสนับสนุนทองคำมีน้อย จึงทำให้การขึ้นรีบาวน์แต่ละรอบอาจจะเป็นไปอย่างจำกัดในระยะสั้นนี้มองราคาแกว่งตัวในกรอบ 1160-1175 (1180) มองว่า น่าจะชะลอตัวอยู่แถวนี้จนถึงปรับตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะลงต่ออีกรอบหนึ่งไปยังระดับ 1150
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยเล็กน้อย 86 ล้านบาท แต่ส่งที่น่าสนใจคือ Long สุทธิในฟิวเจอร์มากถึง 9564 สัญญา และเมื่อวัดจากต้นปีตอนนี้ฝรั่งกลายเป็นสถานะ Long สุทธิไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากวันก่อนขาดอยู่ประมาณ 5000 สัญญา แสดงให้เห็นถึงทิศทางในทางบวกของนักลงทุนต่างชาติเพิ่มมากขึ้น ตลาดหุ้นไทยวันก่อนปิดบวกเขียวเข้มจากผลพลอยได้อารมณ์ตลาดทางบวกจาก QQE ญี่ปุ่น และคาดว่าจะยังเดินหน้าปรับตัวสูงขึ้นได้ ค่าเงินบาทกรอบแนวต้าน 32.60 แนวโน้มอ่อนค่า
ทางเลือกหลัก : มองราคาแกว่งตัวในกรอบ 1160-1175 น่าจะเป็นในลักษณะของการชะลอตัวการปรับตัวลดลง และมองว่าหลังจากแกว่งตัวแล้วราคาจะปรับตัวลดลงต่อ
ทางเลือกรอง : ราคาขึ้นไปยืนเหนือ 1180 ได้จะทำให้ดูดีขึ้น
รายละเอียด
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 86.9 จากเดือนก่อนหน้า 86.4 ที่คาดการณ์ไว้ระดับนี้เช่นเดียวกัน แสดงให้เห็นถึงผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของอเมริกาในอนาคตเพิ่มขึ้น ตรงกับผลสำรวจของสำนักอื่นที่ตัวเลขส่วนใหญ่ของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้รายได้ส่วนบุคคลเดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 0.2% ในขณะที่คาดการณ์ 0.3% ซึ่งเป็นระดับของเดือนที่แล้ว ส่วนทางฝั่งยอดการใช้จ่ายส่วนบุคคลกลับหดตัวลง –0.2% จากคาดการณ์ 0.1% และเดือนก่อนหน้า 0.5% ตัวนี้ชี้ให้เห็นว่า ถึงแม้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะออกมามากขึ้นแต่การใช้จ่ายกลับยังคงชะลอตัวลง ซึ่งการใช้จ่ายที่ชะลอตัวลงต้องมาดูกันว่า จะชะลอตัวลงนานหลายเดือนไหม
- เมื่อวันศุกร์ BOJ ทำนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม (เพิ่มวงเงิน QQE ) ขยายปริมาณเงินจากเดิม 60-70 ล้านล้านเยนต่อปี ไปสู่ระดับ 80 ล้านเยน นอกจากนี้ยังเพิ่มขนาดการเข้าซื้อตราสารหนี้และเข้าซื้อในกองทุน REITs เพิ่มเติมอีก ว่ากันว่าการเพิ่มปริมาณเงิน QQE รอบนี้เนื่องมาจาก นาย ชินโซ อาเบะ เคยกล่าวไว้ว่า จะทำให้เงินเฟ้อเกิดปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ 2% ภายใน 2 ปีให้ได้ จนถึงปัจจุบันเงินเฟ้อก็ยังวนเวียนอยู่ที่แถวระดับ 1% กว่าๆ จึงทำให้ต้องมีการกระตุ้นเพิ่มเติมอีก นโยบายอื่นๆที่ทำประกอบกันอย่างการขึ้นภาษี VAT เพื่อต้องการห้ราคาสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่นโยบายนี้ยังไม่ผลเต็มที่เพราะ เมื่อราคาสินค้าขึ้นคนก็ใช้จ่ายน้อยลง จึงเป็นที่มาของการอัดฉีดเงินเพิ่ม หลังจากการอัดฉีดเงินทำให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์และส่งให้ดอลลาร์ขึ้นไปทำ New-high จึงทำให้ทองคำได้รับแรงกดดันการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์และปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญ ระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขาย ราคาทองคำปรับตัวลดลงลงไปสู่ระดับ $1165 ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี (นับจากกรกฎาคม 2010)
- SPDR ยังคงลดสถานะการถือครองทองคำอย่างต่อเนื่อง ส่วนแรงซื้อ Physical demand จาก WGC (World Gold Council) ได้แสดงให้เห็นว่า Physical demand ในช่วงนี้ได้หายไปพอสมควรเมื่อเทียบกับช่วง 2-3 ปีก่อนหน้า ส่วน Hedge funds ต่างๆได้ลดสถานะ Bullish bet ลงอีกข้อมูลจาก CFCT เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
- ธปท เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนที่ผ่านมาโตขึ้น เพียงแต่โตขึ้นในระดับปานกลาง
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
21.00 USD
ISM manufacturing PMI 56.5 56.6
แนวทางทองคำวันที่ 31-10-57
เเนวรับ 1196 1190 1180 เเนวต้าน 1202 1215 1220
ราคาปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง และแนวโน้มเป็นลบทันที ในวันนี้มองการรีบาวน์ขึ้นไปเล็กน้อยถึง 1202 มากสุดก็คือระดับ 1215-1220 ซึ่งถ้าขึ้นกว่านี้คงเป็นการเคลียร์สัญญาณลบได้ แต่ยังมองว่าโอกาสเกิดน้อย และคาดว่าหลังจากรีบาวน์แล้วราคาจะปรับตัวลดลงต่ออีกไปยังแนวรับ 1180 ซึ่งถือว่าเป็นแนวรับสำคัญสุดท้าย หากหลุดระดับนี้ไปมองว่า เราอาจจะลงไปซื้อ-ขายกันที่ระดับต่ำกว่านี้อีก และเป้าปลายที่ $1050 ของโกลแมนด์แซคส์อาจจะไม่ไกลเกินเอื้อมในปีหน้า ซึ่งอาจจะเป็นช่วงปีหน้าหรือถ้ามาเร็วปีนี้ก็คาดว่าต่อไปอาจเจอแรงขายหนักๆเพิ่มอีกในตลาดทองคำ เงินดอลลาร์พยายามอ่อนค่าลงมา แต่มองว่า ยังอยู่ในแนวโน้มแข็งค่า
ต่างชาตืหันกลับมาซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันอีกเล็กน้อย 132 ล้านบาท แต่ Long สุทธิหนักๆเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันจำนวน 5,967 ล้านบาท และสถานะ Short สะสมที่มีอยู่ก่อนหน้าเมื่อนับจากต้นปีเหลือเพียง 5000 สัญญากว่าๆ มุมมอง SET ยังคงปรับตัวขึ้นได้อยู่ ถึงแม้ Sentiment ในตลาดยังไม่กลับมาดี สังเกตุจาก Basis ที่ตัวฟิวเจอร์ยังเป็นลบเมือ่เทียบกับ Spot คือ ตัว Spot อยู่สูงกว่าฟิวเจอร์ซึงปกติถ้าตลาดขึ้นฟิวเจอร์ต้องอยู่มากกว่าสปอต ค่าเงินบาททรงตัวกรอบ 32.30-32.60 มองเริ่มแข็งค่า
ทางเลือกหลัก : มองราคารีบาวน์ขึ้นไปเล็กน้อยแล้วลงต่อ
ทางเลือกรอง : ราคาลงต่อเลย ซึ่งโอกาสเกิดก็ยังมีอยู่สูงสำหรับทางเลือกนี้
รายละเอียด
- ทองคำปรับตัวลดลงท่ามกลางตัวเลข GDP ที่ออกมาปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ในไตรมาสนี้ออกมาที่ระดับ 4.6% และคาดการณ์ว่าจะออกมา 3.1% ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 3.6% ถึงแม้จะปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่ก็เป็นการปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ และระดับก่อนหน้าที่ 4.6% นั้นค่อนข้างสูง ประกอบกับ การพูดของ Janet yellen ที่ออกไปในโทนที่ดูจะเข้มงวดในเรื่องของการดำเนินนโยบายทางการเงิน (Hawkish tone) จึงทำให้ทองคำโดนแรงเทขายออกมาค่อนข้างหนัก และเงินได้ไหลเข้าไปตลาดหุ้นเป็นส่วนใหญ่ เป็นการกลับตัวรูปแบบ V-shape อีกครั้งของอเมริกา
- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของอเมริกาออกมาระดับ 287K จากสัปดาห์ก่อนหน้า 284K และคาดการณ์ 280K ถึงแม้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ดูเทรนแล้วยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องสะท้อนตลาดแรงงานของอเมริกาฟื้นตัวขึ้นมาก
- ทองคำปรับตัวลดลงมาใกล้ระดับ 1200 นับเป็นสัปดาห์ที่น่าจะปรับตัวลดลงแรงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ หากวันนี้ไม่สามรถปิดสูงกว่านี้ได้ ขณะที่ Silver หลุดระดับ Low เดิมที่เมื่อเทียบกับทองคำแล้วคือระดับ 1180 เรียบร้อยแล้ว และตอนนี้มาเล่นกันอยู่แถวจุดต่ำสุดในรอบ 4 ปีครึ่ง
- IMF ออกมาเตือนว่า เศรษฐกิจโลกกำลังสูญเสียโมเม็นตัมของการเติบโต ที่อยากให้มหาอำนาจเร่งจัดการกับปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการระบาดของไวรัสอีโบลา สถานการณ์ตะวันออกกลางและยูเครน การชะลอตัวของยูโรโซน ปัจจัยต่างๆเหล่านี้ IMF มองว่าเป็นสิ่งที่มาท้าทายการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของยูโรโซนออกมาระดับ 100.7 จุด เพิ่มมากกว่าที่คาดการณ์และเดือนก่อนหน้าขณะที่ตัวเลขอัตราว่างงานของเยอรมันทางตัวที่ระดับ 6.7% ระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปี
- กองทุน SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำอีก 0.16% สู่ระดับ 741.20 ตัน เป็นระดับการถือครองที่ต่ำสุดในรอบ 6 เดือน
- ในตอนนี้ทางการจีนได้ทำการตรวจสอบปริมาณการส่งออกทองคำในเดือนกันยายนที่ผ่านมาเนื่องจากมีคาดว่ามีการผิดพลาดของตัวเลขส่งออกที่เกิดขึ้น และจะสืบสวนหาสาเหตุต่อไป
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Core PCE Price index 0.1% 0.1%
20.55 USD
Consumer sentiment 86.4 86.4
แนวทางทองคำวันที่ 30-10-57
เเนวรับ 1205 1200 1180 เเนวต้าน 1220 1225 1230
ผลการประชุม FOMC เมื่อวาน ลด QE จนหมด ประกอบกับยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย และให้ความเห็นว่า ตลาดแรงงานพัฒนาดีขึ้นแล้ว เมื่อข่าวออก ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว และทองคำก็ได้ปรับตัวลดลงมา เป็นการหลุดเส้นแนวรับ 1220 ซึ่งในระยะสั้นมองว่า โอกาสที่ราคาจะขึ้นไปทดสอบ 1220 นั้นยังมีอยู่ จากตัวเลข GDP ที่จะประกาศในคืนนี้คาดว่าจะออกมาหดตัวลง เพียงแต่ หากขึ้นไปแล้วยืนไม่ได้แนวโน้มจะปรับตัวลดลงมาสู่ระดับ 1205 และหากระดับ 1205 ไม่สามรถรับอยู่ ก็จะเปิดทางไปยัง 1180 อีกรอบหนึ่ง ค่าเงินดอลลาร์เกิดรูปแบบ Invert head and shoulder เล็กๆขึ้นอาจจะทำให้เป็นปัจจัยที่กดดันราคาทองคำในช่วงนี้
ต่างชาติหันกลับมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 980 ล้านบาท แต่ไป Long สุทธิในฟิวเจอร์เป็นจำนวนมากภึง 14,607 สัญญา นับเป็นการเปิดสถานะ Long วันเดียวที่สามารถล้าง Short สะสมในฟิวเจอร์ทั้งหมดในช่วงที่ผ่านมาและค่อนข้างจะเปิดเกินกว่าไปด้วย จึงมองว่ายังมีมุมมองทางบวกกับตลาดหุ้นไทยอยู่พอสมควร ถึงแม้ระยะสั้นอาจจะมองว่า มีการพักตัวลงมาเล็กน้อย แต่ก็ยังมีช่องว่างให้ขึ้นต่อได้ ทิศทางค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่าไปทดสอบ 32.60 สาเหตุหลักจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าแรงเมื่อคืนนี้
ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นไปทดสอบแนวต้าน ที่เมื่อก่อนกลายเป็นแนวรับบริเวณ 1220 หากยืนบนนั้นได้จะมองในทางบวกกับทองคำ
ทางเลือกรอง : ราคาขึ้นไปและไม่สามารถยืนได้ หรือหลุด 1205 ลงมา จะมองการปรับตัวลดลงต่อไปอีก
รายละเอียด
- ผลการประชุม FOMC เมื่อวานนี้เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ คือ ลดวงเงิน QE จนหมด เป็นการปิดฉากนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายที่ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจลงหลังจากทำมาเป็นเวลา 5 ปี การลดวงเงิน QE จนหมดนั้นหมายความว่า สภาพคล่องจะไม่ถูกอัดมาเพิ่มเติมเข้าในระบบอีก แต่ของเดิมที่มีอยู่ก็ยังไม่ได้ดูดกลับเข้าไป เมื่อไรที่เริ่มดูดกลับเข้าไปผ่านการขึ้นดอกเบี้ยจึงจะเป็นสัญญาณให้ระมัดระวังมากกว่านี้ ในเรื่องของการขึ้นดอกเบี้ยนั้น ธนาคารกลางยังส่งสัญญาณไปในทางที่ว่า จะยังอยู่ใกล้ระดับ 0% ไปอีกสักระยะหนึ่ง (Considerable time) ทั้งนี้ FED อยากจะขอดูข้อมูลต่างๆเพิ่มอีกก่อดนจะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย
- มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ทองคำลงเมื่อวานนี้ คือ ตลาดแรงงานจากเดิมที่ FED ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัว ค่าจ้างที่ต่ำ และ กำลังแรงงานที่ออกจาก Labor force ทำให้ Participation rate อยู่ในระดับที่ต่ำ ในรอบนี้ FED กลับมองในมุมที่ดีขึ้นในตลาดแรงงาน ส่วนอัตราเงินเฟ้อยังคงชะลอตัวเล็กน้อยไม่ได้มีนัยสำคัญมากนักท่ามกลางราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงแรง
- ถึงแม้จะมีการยกเลิก QE ไปจนหมดแล้ว แต่ FED กล่าวไว้ว่า จะนำเงินกำไร หรือ ที่ได้ดอกเบี้ยจากการลงทุนในตราสารหนี้ไปลงทุนต่อในตลาดตราสารหนี้ (Reinvestment)ทำให้งบดุลของ FED จะขยายไปอีกสู่ระดับ 4.48 ล้านล้านดอลลาร์ และจะตัดสินใจสิ้นสุดการนำเงินไปลงทุนต่อเมื่อเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำลงอีก 0.16% คงเหลือการถือครองที่ระดับ 742.4 ตันเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี สะท้อนถึง Sentiment ในทางลบของนักลงทุน
- ค่าเงินดอลลาร์แนวโน้มเหมือนจะเป็น Invert head and shoulder เช่นเดียวกับยูโรที่เป็น Head and shoulder หมายความว่า หากหลุดลงมาจะทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นไปอีก และจะเป็นปัจจัยกดดันทองคำในระยะถัดไปได้ ซึ่งหากวันนี้ค่าเงินดอลลาร์ไม่อ่อนลงแนวโน้มจะยืนยันรูปแบบนี้มีสูง ส่วนตลาดพันธบัตรค่อนข้างทรงตัว ซึ่งคาดว่าตลาดพันธบัตรจะมี Yield ที่สูงขึ้นอย่างจำกัด
- Brazil ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแบบ Surprise ตลาดไปสู่ระดับ 11.25% ปรับเพิ่มขึ้น 25 Basispoint เพื่อแก้ไขปัญหาภาวะเงินเฟ้อ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Advance GDP 3.1% 4.6%
Unemployment claims 284K 283K
21.00 USD
FED Yellen speaks
แนวทางทองคำวันที่ 29-10-57
เเนวรับ 1226 1220 1205 เเนวต้าน 1235 1245 1255
ในวันนี้จะมีผลการประชุม FOMC ในช่วงตี 1 มุมมองคาดว่า FED จะลดวงเงิน QE $15 Billions ที่เหลือจนหมดตามที่กล่าวไว้ ซึ่งตอนนี้ตลาดก็ไม่ได้ให้ความสนใจวงเงินตรงนี้แล้ว ตลาดหันไปสนใจการขึ้นดอกเบี้ยว่าจะมีการขึ้นเร็วกว่ากำหนดหรือไม่ จากการคาดการณ์จากสื่อต่างๆคาดว่า จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยออกไปและแนวโน้มจะเป็นบวกกับทองคำ โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือ เศรษฐกิจฝั่งยูโรโซนที่ยังไม่ฟื้นตัว จะมีความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลก หาก FED รีบขั้นดอกเบี้ยไวไป ในระยะสั้นยังมองแกว่งตัวในกรอบ 1226-1235 ฝั่งขึ้นมองว่าได้เปรียบเล็กน้อย ทั้งนี้ต้องติดตามข่าวให้ดี ว่าจะตรงตามคาดการณ์หรือไม่ หากผิดทางราคาปรับตัวเกินกว่า 1220 มองลงต่อทันที
ต่างชาติยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยอีกเป้นวันที่ 3 ติดต่อกัน 2321 ล้านบาท เป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามกับกองทุนที่ทยอยสะสมหุ้นมาอย่างต่อเนื่องในขณะที่ต่างชาติหันกลับมา Long สุทธิในฟิวเจอร์มากถึง 7582 สัญญา ทำให้สถานะ Short ที่สะสมไว้เริ่มหายไปเยอะ จึงเป็นมุมมองในทางบวกกับตลาดหุ้นไทย ซึ่งวันนี้ SET index ก็ได้ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ในระยะสั้นเริ่มมองว่า อาจจะมีการปรับฐานเล็กๆก่อนขึ้นต่อค่าเงินบาทแนวโน้มทรงตัวรอผลการประชุม FOMC
ทางเลือกหลัก : ยังมองราคาแกว่งตัวในกรอบ 1226-1235 ไปก่อนในช่วงนี้ ยังให้น้ำหนักกกับมุมมองในทางบวก เพียงแต่หากหลุด 1227 ลงมาจะทำให้มุมมองเริ่มกลายเป็นลบและหลุด 1220 ลงมาแนวโน้มปรับตัวลดลงต่ออีกครั้ง
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคออกมาปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 94.5 จากเดิมที่ระดับ 89 และคาดการณ์ว่าในเดือนนี้จะปรับลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ 87.4 ตัวเลขที่ออกมาจริงระดับ 94.5 นี้เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ เดือน ตุลาคมปี 2007 หรือเป็นความเชื่อมั่นในระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี โดยมีสาเหตุมาจาก ราคาที่ลดลงนำโดยการปรับตัวลดลงของน้ำมันดิบต่ำสุดในรอบ 4 ปี และ ตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาดี นอกจากนี้ก่อนหน้ายังมีตัวเลขเศรษฐกิจอีก 2 กลุ่มประกาศ กลุ่มแรกคือ ตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ออกมาหดตัวมากกว่าที่คาดการณ์และหดตัวจากเดือนก่อนหน้า จากความต้องการสินค้าประเภทคอมพิวเตอร์และเครื่องจักรที่น้อยลง อีกกลุ่มหนึ่งคือ ราคาบ้าน S&P Composite ออกมาปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าและกว่าที่คาดการณ์เล็กน้อย
- จากข่าวข้างต้นถึงแม้ตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและราคาบ้านจะปรับตัวลดลง แต่ตลาดหุ้นของอเมริกายังคงปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดี มีข้อมูลจาก Bloomberg วิเคราะห์ไว้ว่า กว่า 80% ของบริษัทที่จดทะเบียนใน SP 500 ได้รายได้ตามที่คาดการณ์และคาดว่า กำไรรวมของบริษัทจดทะเบียนจะเพิ่มขึ้น 6.3% ในขณะที่ยอดขายจะเพิ่มขึ้น 4.1% ในไตรมาสนี้ ประกอบกับ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ออกมาดีมาก ทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที 4
- ราคาทองคำค่อนข้างทรงตัวท่ามกลางปัจจัยข่าวตัวเลขเศรษฐกิจที่มีทั้งบวกและลบ เมื่อมาเช็คความสัมพันธ์กับตลาดอื่นพบว่า ตลาดหุ้นขึ้น พร้อมกับทองคำที่ทรงตัวไม่ปรับตัวลดลง และค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ทำให้มีมุมมองที่ว่า ผลการประชุม FOMC ในวันพรุ่งนี้มีแนวโน้มที่จะออกมาไปในโทนของ Dovish หรือ ยังคงกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ผลสำรวจของหน้าเว็บต่างประเทศอย่าง CNBC survey ก็คาดว่า FED น่าจะยังชะลอการขึ้นดอกเบี้ยไปก่อนจากเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัวโดยเฉพาะยุโรป นอกจากนี้ความห่างระหว่าง Bond yield ของเยอรมันและอเมริกาที่อยู่ในระดับที่สูง อาจจะทำให้ FED มีทางเลือกน้อยลงที่จะขึ้นดอกเบี้ยไวกว่ากำหนด สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงสมมติฐานต้องติดตามผลการประชุมกันครับ
- ข่าวจากฝั่งยูโรโซนคาดการณ์กันว่า หลังจากผลการทำ Stress test ของธนาคารพาณิชย์แล้ว อาจจะต้องมีการเข้าซื้อสินทรัพย์หรือการทำ QE เหมือนอเมริกานั่นเอง ข่าวนี้เป็นอีกข่าวหนึ่งที่ต้องติดตามขณะที่ตอนนี้ยังไม่มีความแน่ชัดเท่าไรนัก
ปัจจัยที่ต้องติตดาม
1.00 USD
FOMC Minutes
แนวทางทองคำวันที่ 28-10-57
เเนวรับ 1226 1221 1210 เเนวต้าน 1235 1240 1250
ราคาทองคำตลอดเมื่อวานนี้ค่อนข้างทรงตัว เมื่อเช้านี้ได้ปรับตัวลดลงไปทดสอบ 1220 จากนั้นเกิดสัญญาณกลับตัวแบบ Bullish engulfing ที่บริเวณแนวรับ จึงคาดว่ามุมมองในวันนี้เป็นบวกพอสมควร และ จะไปทดสอบ 1235 มีลุ้นผ่านขึ้นไปสูงกว่านี้อีก ในขณะที่มุมมองจะเปลี่ยนด่านแรกเมื่อปรับจตัวลดลงเกินกว่า 1227 ที่เป็นครึ่งแท่งก่อนหน้า และ จะเริ่มลงไปเลยเมื่อหลุด 1220 โอกาสลงยังมองว่ามีน้อยในวันนี้ และคาดว่าจะต้องติดตามผลการประชุมในวันพรุ่งนี้เป็นหลัก โดยข่าวในวันนี้อย่าง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ที่คาดการณ์เป็นลบ และ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่คาดว่าจะเป็นบวก ต้องติดตามข่าว ข่าวมีความสำคัญพอสมควร
ต่างชาติยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1344 ล้านบาท ซึ่งเมื่อมาดูการสะสมก็ยังพบว่า ต่างชาติยังไม่น่าจะกลับมาซื้อสุทธิเท่าไรนัก ตรงข้ามกับสถาบันที่เก็บหุ้นมาตลอด แต่ต่างชาติยังคง Long สุทธิในฟิวเจอร์เป็นวันที่ 2 อีก 1123 สัญญา ทิศทาง SET ยังคงมองการรีบาวน์ขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะยังไม่มีปัจจัยบวกเท่าไรนัก แต่ตลาดหุ้นทางฝั่งอเมริกาก็ปรับตัวสูงขึ้น ค่าเงินบาทยังคงมองแกว่งในกรอบไปในทิศทางที่ค่อนไปทางอ่อนค่าเล็กน้อยและต้องติดตามผลการประชุม FOMC เช่นเดียวกัน
ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นไปชนแนวต้าน 1235 อีกรอบหนึ่ง จากสัญญาณกลับตัว Bullish engulfing ในภาพ H4
ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวลดลงเกินกว่า 1227 และหลุด 1220 ลงไปจึงจะมองเริ่มลงอีกรอบหนึ่ง
รายละเอียด
- Goldman sachs ปรับลดราคาน้ำมันในปี 2015 ลงคาดว่าในปีหน้าราคาน้ำมันดิบ WTI จะลงไปอยู่ที่ระดับประมาณ 75-85 เหรียญต่อบาร์เรลในไตรมาสแรกของปี และในไตรมาสที่สองคาดการณ์ว่าจะไปแตะรดับ 70 เหรียญต่อบาร์เรล ท่ามกลางดีมานด์ที่ยังคงทรงตัว และการค้นพบการใช้ Shale gas หรือหินน้ำมัน ของอเมริกา ส่งผลให้ Supply การผลิตนอกกลุ่ม OPEC ออกมามาก และคาดการณ์กันว่า OPEC ที่เคยเป็นกลุ่มที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมัน เนื่องจากสมัยก่อนกำลังการผลิตส่วนใหญ่นั้นอยู่ในกลุ่มประเทศ OPEC เมื่อ OPEC ลดหรือเพิ่มกำลังการผลิตจะส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบ ในขณะที่ปัจจุบันการผลิตน้ำมันนอกจากกลุ่มประเทศ OPEC มีค่อนข้างมาก เช่น บราซิล และคาดว่ากำลังการผลิตกลุ่มประเทศนอก OPEC จะเพิ่มสูงขึ้นอีก จึงเป็นผลทำให้ Goldman sachs ออกมาปรับลดเป้าหมายราคาน้ำมันในปีหน้าลง แต่ก็ยังมีบางคนที่แสดงความไม่เห็นด้วย เพราะ มองว่า ระดับนี้ได้สะท้อนราคาไปบางส่วนแล้วหลังจากลงมากว่า 20% ในช่วง 5 เดือนหลัง
- ราคาทองคำปรับตัวลดลงโดยมีความกังวลมาจากผลการประชุมที่จะมีในวันนี้และวันพรุ่งนี้ ว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ ในเรื่องของวงเงิน QE นั้นน่าจะเป็นไปตามคาด คือ ลดวงเงิน QE ที่เหลืออีก $15 billions จนหมด ซึ่งข่าวนี้ตลาดน่าจะรับรู้ไปแล้ว จึงต้องติดตามว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ และช่วงที่ผ่านมาที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลง ทองคำกลับไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้อย่างโดดเด่น แสดงให้เห็นถึง สภาวะตลาดที่ค่อนข้างอ่อนแอ และเมื่อวานนี้ก็มีข่าว PMI ภาคบริการก็ออกมาน้อยลง ส่วน Pending home sales ออกมาดีกว่าเดือนที่แล้ว แต่น้อยกว่าคาดการณ์ จึงทำให้ทองคำค่อนข้างทรงตัวเมื่อวานนี้
- มีข้อมูลการนำเข้าทองคำของจีนจากฮ่องกงที่เปิดเผยเมื่อวานพบว่า การนำเข้าทองคำของจีนจากฮ่องกงปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 6 เดือน ในเดือน กันยายน ก่อนที่จะมีวันหยุดยาวในเดือนที่ผ่านมาในขณะที่การนำเข้าเริ่มมาชะลอลงในช่วงวันหยุด
- การกำหนดราคาแบบใหม่ (Electronic gold price mechanism) ที่จะมาแทน London gold fixing แบบเดิมคาดว่าจะสามารถนำมาใช้ได้ในไตรมาสแรกของปี 2015
- ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมันยังคงชะลอตัว ส่วนยอดค้าปลีกของญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นมาก
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Durable goods orders 0.4% -18.4%
Core durable goods orders 0.5% 0.4%
20.00 USD
SP CS composite 5.7% 6.7%
21.00 USD
CB Consumer confidence 87.4 86
แนวทางทองคำวันที่ 27-10-57
เเนวรับ 1226 1221 1210 เเนวต้าน 1235 1240 1250
ราคาเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆมาสักพักหนึ่ง การปิดไปในวันศุกร์ไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงในภาพสัปดาห์แต่อย่างไร ยังคงมองในทิศทางบวกพอสมควร เพียงแต่ให้ติดตามช่วงนี้ถ้ายังไม่มีอาการทางฝั่งขึ้นอาจจะเริ่มเห็นราคาปรับตัวลดลงอีกรอบหนึ่ง โดยมีจุดที่น่าติดตาม คือ 1226 และ 1235 ราคาแกว่งตัวในกรอบนี้อยู่ ล่าสุดลงมาทดสอบ 1226 เรียบร้อย (มาถึง 1227 และกลับตัว) จึงมองระยะสั้นจะเห็นการปรับตัวขึ้นก่อนไปยัง 1235 อีกรอบหนึ่ง โอกาสผ่านยังมีสูง แต่เนื่องด้วย Sentiment ตลาดที่ยังคงรอผลการประชุม FOMC จึงคาดว่าอาจจะทำให้การเคลื่อนไหวยังคงเป็นไปอย่างจำกัด และ อย่างน้อยต้องวันพุธถึงจะเห็นอะไรชัดเจนขึ้น
ต่างชาติกลับมาขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 2,763 ล้านบาท โดยมี Big lot ในหุ้นส่วนหนึ่งที่ทำให้ปริมาณการขายเยอะกว่าปกติ และ Long สุทธิในฟิวเจอร์ 403 สัญญา ซึ่งเป็นจำนวนเล็กน้อย สถานะของต่างชาติยังคงเป็น Short สุทธิจำนวนมาก สวนทางกับ สถาบันในประเทศที่มี Long สุทธิตรงข้ามกับต่างชาติจำนวนมากเช่นกัน SET ยังคงมองว่า จะยังรีบาวนร์อยู่ในช่วงนี้ ค่าเงินบาทมองเริ่มอ่อนค่าลงไป หลังจากระดับแนวรับ 32.30 ยังคงทำงานได้ดี
ทางเลือกหลัก : ราคาปรับตัวสูงขึ้นไปยังระดับ 1235 และสามารถผ่านไปได้ จะเปิดทางขึ้นอีกพอสมควร แต่หากยังผ่านไม่ได้นั้น มองการแกว่งตัวลงมาในกรอบใหม่อีกรอบ
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1226 ลงไปด้านล่าง จะเปิดช่องว่างในการลง
รายละเอียด
- มีการทำ Stress test ของธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา การทำ Stress test นั้นมีจุดประสงค์เพื่อการทดสอบว่า ธนาคารพาณิชย์จะมีเงินเพียงพอที่จะรอดตัวได้หรือไม่ หากเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ผลพบว่า กลุ่มของธนาคารทั้งหมด 25 แห่งนั้นไม่ผ่านและคาดว่าจะต้องเพิ่มทุนประมาณ 2.5 หมื่นล้านยูโร ถึงแม้จะเป็นจำนวนที่เยอะ แต่ก็เป็นความต้องการเพิ่มทุนน้อยกว่าที่คาดการณ์
- เยอรมันส่งสัญญาณพร้อมที่จะต่อรองกับฝรั่งเศลและอิตาลี โดยการให้เวลาแก่ทั้ง 2 ประเทศในการปรับรัดับการขาดดุลงบประมาณแลกกับการที่เยอรมันจะเข้าไปลงทุนเพื่อความสามารถทางการแข่งขันที่ดีขึ้น พร้อมกับแลกเปลี่ยนความเห็นทัศนคติระหว่างนโยบายการเงินและคลังระหว่าง ECB และ เยอรมัน
- ตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ (New-home sales) ออกมาระดับใกล้เคียงกับเดือนที่แล้ว 467K VS 466K แต่น้อยกว่าคาดการณ์เล็กน้อยที่ระดับ 473K และถึงแม้จะน้อยกว่าคาดการณ์แต่ก็เป็นระดับที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551 หรือระดับสูงสุดในรอบ 6 ปีโดยเป็นผลมาจากราคาขายโดยเฉลี่ยนั้นปรับตัวลดลง ข่าวนี้ก็เป็นบวกกับตลาดหุ้นประกอบกับผลประกอบการที่ออกมาดีจึงส่งผลให้หุ้นอเมริกาปรับตัวเพิ่มขึ้น
- ในสัปดาห์นี้ (วันพุธ) จะมีผลการประชุม FOMC ในเดือนตุลาคมที่หลายคนเริ่มจับตามองว่า FED จะมีการส่งสัญญาณอะไรออกมาหรือไม่ พร้อมทั้งคาดการณ์ไว้ว่า เงิน QE จะสิ้นสุดในเดือนนี้และลุ้นให้ FED ชะลอการขึ้นดอกเบี้ยจากทางฝั่งยุโรปที่ออกมาค่อนข้างหดตัว
- ข้อเสนอที่ต้องการให้ธนาคารกลางสวิส (Swiss national bank)ห้ามขายทองคำสำรองออกมา มีผู้สนับสนุน 44% ซึ่งระดับนี้ยังไม่เข้าเกณฑ์ที่จะบังคับใช้ได้
- Hedge fund และ Money manager เพิ่มสถานะ Bullish bet ในทองคำอีกเป็นสัปดห์ที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากราคาทองคำในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมามีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ข้อมูลอ้างอิงจาก CFCT เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
- Physical market ในอินเดียมีการซื้ออย่างหนาแน่นท่ามกลางเทศกาล Diwali และ Dhanteras
- กองทุน SPDR ยังลดสถานะการถือครองทองคำอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดลด 0.6% สู่ระดับ 745.39 ตัน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
21.00 USD
Pending home sales 1.1% -1.0%
แนวทางทองคำวันที่ 24-10-57
เเนวรับ 1226 1221 1210 เเนวต้าน 1233 1240 1250
ทองคำเริ่มปรับตัวลดลง 2 วันติดต่อกัน ในระยะสั้นราคาได้สร้างฐานบริเวณ 1226-1234 ซึ่งยังมองการแกว่งตัวในกรอบนี้ เพียงแต่ระยะสั้นมองลงมาทดสอบแนวรับด้านล่างก่อน ซึ่งมีได้ 2 กรณี คือ หลุดลงไปเลยไปยัง 1221 อีกกรณีคือ ราคาไม่หลุดและสามารถรีบาวน์กลับมาเกินกว่า 1234 ได้ จะมองการปรับตัวขึ้นต่อไป 1240-1250 ขาขึ้นเริ่มเสียเปรียบไปแล้ว เงินเริ่มไหลออกไปยังตลาดหุ้น เพียงแต่ระยะสั้นนี้เกิดสัญญาณกลับตัวในสองสัปดาห์ก่อน หากปรับตัวลงไม่เกินกว่า 1220 ก็ยังมองโอกาสที่จะขึ้นมีอยู่ หากหลุด 1220 และลงไปปิดต่ำกว่า 1205 จะยืนยันขาลงเต็มตัวอีกรอบหนึ่ง และรอบนี้น่าจะมี New low ที่ต่ำกว่า 1180 ค่าเงินยูโรอยู่ในโซนที่ต้องติดตามเช่นเดียวกัน
ต่างชาติซื้อสุทธิเล็กน้อย มากๆ 109 ล้านบาท และหันกลับมา Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก 1,076 สัญญา จะเห็นว่า ต่างชาติเปิดสถานะสลับวันไปมา ยังไม่ได้บ่งบอกอะไรมากนัก เพียงแต่สถานะ Short สะสมนั้นยังคงอยู่ในปริมาณที่มาก SET ก็ยังมองมุมมองของการสร้างฐานเพื่อรีบาวน์เช่นเดิม ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ค่าเงินบาทหลังจากทดสอบ 32.30 และไม่หลุดก็มองว่าเริ่มจะอ่อนค่าลงอีกรอบหนึ่ง ไปในทิศทางเดียวกันกับเงินดอลลาร์ที่เริ่มปรับตัวแข็งค่าขึ้น
ทางเลือกหลัก : มองราคาลงไประดับ 1226 อีกรอบหนึ่ง ยังให้น้ำหนักในฝั่งไม่หลุด เพียงแต่โอกาสหลุดไปต่ำกว่านี้ก็มีโอกาสสูงเหมือนกัน ต้องติดตามระดับ 1226 ให้ดี
ทางเลือกรอง : ราคาไม่หลุดและปรับตัวเกินกว่า 1234 มองการปรับตัวขึ้นไปต่ออีก
รายละเอียด
- ทองคำเริ่มปรับตัวลดลงอีกรอบ เป็นการปรับตัวลดลงต่อกัน 2 วัน และ เป็นสัปดาห์แรกหลังจากสองสัปดาห์ก่อนหน้าที่ปรับตัวขึ้นมา สาเหตุหลักมาจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดี เริ่มจากในวันพุธมีประกาศตัวเลข CPI ที่บ่งบอกถึงทิศทางเงินเฟ้อ เงินเฟ้อที่มากขึ้นหมายถึง เศรษฐกิจมีการขยายตัวดีขึ้น และเงินเฟ้อที่มากขึ้นจะหมายถึง การขยับเข้าใกล้เป้าหมายของ FED มากขึ้น ตัวเลขดัชนีราคาพื้นฐานออกมาที่ระดับ 0.1% จากเดือนก่อนหน้า –0.2% ขณะที่ Core CPI หรือดัชนีราคาที่ไม่รวมหมวดสินค้าอาหารและพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% จากเดือนที่แล้วที่ไม่ลดไม่เพิ่ม และในวันพฤหัสมีตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์พบว่า ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ลงไปต่ำสุดถึง 266K โดยตัวเลขออกมาที่ระดับ 283K ซึ่งจริงๆแล้วเป็นข่าวลบ แต่ด้วยทิศทางและมุมมองในทางบวก ในตลาดหุ้นทำให้ตลาดทองคำเผชิญกับแรงขายท่ามกลางเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น (มองว่าระดับคนขอรับสวัสดิการที่ต่ำกว่า 300K ยังบ่งบอกถึงสุขภาพที่ดีของตลาดแรงงาน )
- ข่าวตัวเลขเศรษฐกิจของยูโรโซนล่าสุด ตัวเลข PMI ฝั่งยูโรโซนออกมาดีขึ้นเกือบทั้งหมด เยอรมันปรับขึ้นไปถึง 51.8 ส่วนของจีนก็ปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับ 50.4 จึงทำให้ตลาดหุ้นทางฝั่งอเมริกาและยุโรปปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ จากการคลายกังวลในเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
- การประชุมธนาคารกลางของอังกฤษพบว่า คณะกรรมการมีทีท่าลังเลที่จะขึ้นดอกเบี้ยต่ออีก (UK เป็นประเทศแรกที่เริ่มขึ้นดอกเบี้ย) บางส่วนต้องการจะขึ้น แต่บางส่วนก็ยังไม่อยากให้ขึ้น เสียงเลยไม่เป็นมติเอกฉันฑ์ ฝั่งที่ไม่อยากให้ขึ้นมองว่า ตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวลดลง ประกอบ เศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นดี และ การชะลอตัวลงของประเทศกลุ่มยูโรโซน
- ECB ยังคงเดินหน้าซื้อ Covered bond ในประเทศ เยอรมัน ฝรั่งเศส และ อิตาลี เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยจะพิจารณาซื้อเพิ่มอีกและจะรายงานยอดให้ทราบในวันที่ 27 ตุลาคมนี้
- S&P ได้ออกมาเตือนว่า เศรษฐกิจยูโรโซนยังหนีไม่พ้นวิกฤติ นำโดยฝรั่งเศสที่ดัชนีภาคการผลิตออกมาระดับ 48 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าเดิม และต่ำกว่าระดับ 50
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
21.00 USD
New home sales 473K 504K
แนวทางทองคำวันที่ 22-10-57
เเนวรับ 1240 1230 1225 เเนวต้าน 1250 1255 1260
ราคายังอยู่ในช่วงของการพักฐานและแนวโน้มยังดูลงไปก่อนมากกว่า ถึงแม้ระยะสั้นจะมีดีดขึ้น แต่หากดีดขึ้นไม่เกิน 1250-1255 จึงจะเปลี่ยนมุมมองเพียงแต่ปัจจัยบวกในช่วงนี้เริ่มหายไปแล้ว ดูเหมือนเงินดอลลาร์จะเริ่มมีอาการแข็งค่าอีกครั้งหนึ่ง พันธบัตรปรับตัวลดลงอยางต่อเนื่อง ถึงแม้จะไม่รุนแรง และตลาดหุ้นที่เริ่มรีบาวน์กลับขึ้นมา จึงทำให้มองว่า ปัจจัยบวกในระยะสั้นนั้นเริ่มส่งสัญญาณให้ระมัดระวังการปรับตัวลดลงแล้ว ซึ่งยังมองทางฝั่งลงยังคงได้เปรียบอยู่ เพียงแต่ราคายังแกว่งตัวแบบ Sideways ไม่ได้มีทิศทางเท่าไรนัก
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 867 ล้านบาท กลับไปกลับมา และไป Long ฟิวเจอร์อีก 3,516 สัญญา SET ยังคงมองมุมเดิม คือ น่าจะสร้างฐานแถวนี้และจะเริ่มรอบรีบาวน์ Basis ระหว่างตัว SET50 สปอตและฟิวเจอร์เริ่มปรับตัวชิดกัน ซึ่งเป็นมุมมองตลาดที่ว่า คนในตลาดเริ่มมองขึ้น ทำให้ฟิวเจอร์มาซื้อ-ขาย ใกล้กับระดับสปอตจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ฟิวเจอร์ต่ำกว่าสปอต และโดยทั่วไปฟิวเจอร์มักจะราคาสูงกว่าสปอตค่าเงินบาททิศทางแข็งค่า แต่เริ่มชะลอตัวลงบริเวณแนวรับ 32.30
ทางเลือกหลัก : มองราคาลงไปทดสอบ 1240 เช่นเดิม
ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวสูงขึ้นเกินกว่า 1250-1255
รายละเอียด
- ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเมื่อวานนี้และเป็นการพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน กันยายน จากเรื่องของตัวเลข GDP จีนที่ออกมา ตัวเลขการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนนั้นออกมาที่ระดับ 7.3% จากคาดการณ์ 7.2% แต่การขยายตัวระดับนี้นั้นเป็นการขยายตัวที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009
- ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าออกมาที่ระดับ 5.17M ขณะที่คาดการณ์ 5.10M ขณะที่เดือนก่อนหน้า 5.05M
- ECB กำลังพิจารณาที่จะเข้าซื้อ Corporate bonds ในตลาดรอง และ จะตัดสินใจเข้าซื้อจนถึงช่วงเดือนธันวาคมและจะทำการเริ่มซื้อซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นช่วงปีหน้า ซึ่งการดำเนินการนี้ค่อนข้างเป็นไปอย่างลำบากหลังจากเศรษฐกิจทางฝั่งยูโรโซนแทบไม่มีการเติบโตเลย ซึ่งการดำเนินนโยบายนี้ก็คล้ายๆกับการทำ QE เพียงแต่ข่าวชิ้นนี้ต้องมาดูกันว่าเป็นข่าวลือหรือไม่
- Gold exchange ในจีนกำลังจะมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินอย่าง Option และ Forward ในทองคำ ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อเป็นการ Fix ราคาในโซนเอเชียที่มีลักษณะคล้าย London fixing
- SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำลงอีก 1.18% คงเหลือการถือครองคำที่ระดับ 751.97 ตัน (6.37ตัน) นับเป็นการลดสถานะต่อวันมากที่สุดในรอบปีนี้
- ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเมื่อวานนี้ท่ามกลางการเก็งกำไรผลประกอบการ โดยเฉพาะ Apple และเนื่องจาก Apple เป็นบริษัทขนาดใหญ่เมื่อมีแรงเก็งกำไรจะสามารถผลักดันดัชนีให้สูงขึ้นได้
- ตัวเลขการส่งออกของญี่ปุ่นออกมาที่ระดับ 6.9% ในขณะที่คาดการณ์ 6.8% และเดือนสิงหาคมที่หดตัว –1.3% ซึ่งการส่งออกของญี่ปุ่นนั้นถือเป็นหัวใจหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจญี่ปุ่นและตัวเลขที่ออกมาระดับนี้เป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 7 เดือน และทำให้ตลาดเริ่มผ่อนคลายความกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นลง ส่วนการนำเข้าก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน จึงทำให้ดุลการค้าขาดดุลมากกว่าที่คาดการณ์กัน
- Yield ของพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีลดลงต่ำสุดในรอบ 2 เดือน หลังจากในช่วงก่อนที่ ECB จะทำการซื้อ Covered bond ที่ Yield ปรับตัวสูงขึ้นแรง
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
CPI 0.0% -0.2%
Core CPI 0.2% 0.0%