ประชาสัมพันธ์
แนวทางทองคำวันที่ 4-12-57
เเนวรับ 1200 1195 1190 เเนวต้าน 1215 1220 1222
ราคาได้ปรับตัวขึ้นไปทดสอบแ
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้
ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นไปอีกเล็กน้อย ถึงไม่ขึ้นเลย และคาดว่าจะปรับตัวลดลง จุดซื้อที่ดีจะอยู่บริเวณ 1200 พร้อมทั้งเป็นจุดตัดขาดทุนด
ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวลดลงหลุด 1200 จะทำให้ดูไม่ดี และหากหลุด 1190 จะทำให้เกิดการลงอีกครั้ง
รายละเอียด
- ค่าเงินยูโรปรับตัวลดลงทะลุ
- ตัวเลข ADP non-farm employment change ที่เป็นตัวเลขของภาคเอกชนที
- Beige book ของ FED ที่ออกมาเมื่อคืนยังพบว่า เศรษฐกิจอเมริกายังคงขยายตั
- ทั่วโลกจับตาไปที่รัสเซีย (ช่วงเวลาเลวร้าย) และพบว่าปีหน้ารัสเซียจะเข้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
8.30
EUR
ECB Press conference
USD
Unemployment claims 296K 313K
แนวทางทองคำวันที่ 3-12-57
เเนวรับ 1195 1190 1180 เเนวต้าน 1208 1215 1222
เมื่อวานทองคำพักตัวลงมาด้า
ต่างชาติยังคงซื้อสุทธิในตล
ทางเลือกหลัก : มองราคาเริ่มกลับขึ้นไปในระ
ทางเลือกรอง : ราคาที่หลุด 1190 จะทำให้การขึ้นมาเสียรูป และ ต้องใช้ความระมัดระวังทางฝั
รายละเอียด
- ทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อยหล
- ปัญหาราคาน้ำมันและก๊าซธรรม
- นาย Fischer รองประธาน FED ที่ค่อนข้างเป็นสายเหยี่ยว (Hawkish) ซึ่งจะเน้นไปทางดำเนินนโยบา
- นักเศรษฐศาสตร์จาก Morgan Stanley ผู้เคยทำนายไว้ว่า จะเกิดวิกฤติในเอเชียในปี 1997 และ วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ในปี 2008 นาย Andy Xie ได้ออกมาวิเคราะห์ว่า ฮ่องกงเริ่มได้รับผลกระทบจา
- EU มีแผนจะลงทุนในโครงสร้างพื้
- SPDR เพิ่มสถานะการถือครองทองคำ 0.33% สู่ระดับ 720.02 ตันในวันอังคารที่ผ่านมา
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20.15 USD
ADP Non-farm employment change 223K 230K
22.00 USD
ISM Non-manufacturing PMI 57.5 57.1
2.00 USD
Beige book
แนวทางทองคำวันที่ 2-12-57
เเนวรับ 1195 1190 1180 เเนวต้าน 1208 1215 1222
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นค่อนข้างแรงเมื่อวานนี้ เมื่อนับจากช่วงการซื้อ-ขาย ระหว่างวัน นับเป็นการปรับตัวสูงขึ้นถึง $80 โดยมีข่าวที่นำมาประกอบคือ มูดี้ส์ปรับลดเครดิตเรตติ้งของญี่ปุ่นลงทำให้นักลงทุนหันเข้าหาสินทรัพย์ทางเลือก และ ราคาน้ำมันดิบที่รีบาวน์ขึ้นมาและตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ค่าเงินดอลลาร์ไม่ได้อ่อนค่าเท่าไรนักเมื่อเทียบกับการขึ้นของทองรอบนี้ และระดับ 1220 เป็นแนวต้านแนวโน้มขาลงในภาพวันด้วย วันนี้มองว่าราคามีแนวโน้มย่อลงมา 1190 ก็เป็นจุดที่น่าสนใจ เพราะ ระดับ 1220 นั้นไม่สามารถบ่งชี้ได้ชัดว่า จบรอบหรือยัง หรือราคาจะผ่านกรอบ Trendline ขาลงได้ แต่ระยะสั้นมองย่อลงไปโดยมีจุดเปลี่ยนแนวโน้มระยะสั้นที่ 1190
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 32 ล้านบาทเป็นวันที่ 7 ต่อเนื่องกัน ขณะที่หันกลับมา Short สุทธิในฟิวเจอร์ 7,134 สัญญา เป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ มุมมอง SET ยังคาดว่าให้ระมัดระวังการปรับฐาน ตลาดหุ้นทั่วโลกก็เริ่มลงเล็กน้อยในวันนี้ โดยมีข่าวมาจากการปรับลดเครดิตของญี่ปุ่นเช่นเดียวกันกับทองคำ ส่วนทิศทางค่าเงินบาทยังไม่มีปัจจัยสำคัญในประเทศ ก็ยังคงแกว่งตัวผกผันกับเงินดอลลาร์ ซึ่งเงินดอลลาร์ยังชะลอตัวใต้แนวต้านอยู่ หาดเงินดอลลาร์ผ่านแนวต้านไปได้แนวโน้มเงินบาทจะอ่อนค่าอีก
ทางเลือกหลัก : จากราคาที่ขึ้นมาแรงเมื่อวานนี้ และขึ้นไปทดสอบแนวต้านใหญ่ที่ 1220 มองว่า ถึงเส้นแนวโน้มขาลง (downtrend) เรียบร้อย และแนวโน้มมองว่า โอกาสผ่านยังน้อย และระยะสั้นมองการย่อตัวลงไปบริเวณ 1190
ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวเกินกว่า 1220 ขึ้นไปจะทำให้ราคา Breakout ขาลงได้ และจะทำให้ภาพวันเกิดแรงรีบาวน์ตามมาอีก
รายละเอียด
- ทองคำปรับตัวลดลงช่วงแรกของวันจันทร์เนื่องจากผลโหวต NO ของประชาชนในสวิสเซอร์แลนด์ทำให้ธนาคารกลางไม่จำเป็นต้องสำรองทองคำเพิ่ม ส่งผลให้ราคาเปิดตลาดปรับตัวลดลง เปิดช่องว่างไว้ที่ $1160-1165 จากนั้นราคาได้ขึ้นมาปิดช่องว่างดังกล่าว และได้มีข่าวบวกเพิ่มจากอินเดียที่ยกเลิกกฎ 80:20 ที่บังคับให้ผู้นำเข้าทองคำต้องส่งออกทองคำออกไปด้วยที่สัดส่วน 80:20 ภายหลังจากที่ Physical demand ในอินเดียได้ชะลอตัวลงเล็กน้อย ซึ่งมาตรการนี้นำมาใช้เพื่อลดการขาดดุลของรัฐบาลอินเดีย รวมถึงแรง Short-covering และ Bargain hunter ที่เข้ามาหลังจากราคาปรับตัวลดลงแรง ทำให้ราคาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นแรงเมื่อวานนี้ และราคาน้ำมันดิบที่รีบาวน์ขึ้นมา ทำให้นักวิเคราะห์ต่างประเทศหลายคนมองว่า ราคาที่ปรับตัวขึ้นมานี้ ไม่สามารถสร้างดีมานด์ที่มากกว่านี้ได้ มีเป้าหมายของการรีบาวน์ที่ประมาณ 1220-1225 ซึ่งก็ถึงไปแล้วเมื่อวานนี้ โดยมีแนวโน้มหลักที่คอยกดดันคือ ภาวะเงินฝืดทั่วโลก และค่าเงินดอลลาร์ที่อยู่ในแนวโน้มแข็งค่า
- ตัวเลข PMI ภาคการผลิตของอเมริกาเมื่อวานนี้สู่ระดับ 58.7 จากเดือนก่อนหน้า 59 ถึงแม้จะปรับตัวลดลงแต่ก็เป็นการปรับตัวลดลงในระดับที่ไม่มาก และยังคงเกินกว่าระดับ 50 ที่บ่งบอกถึงแนวโน้มของการขยายตัวภาคการผลิตอยู่ และระดับนี้ก็เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน
- ตัวเลข PMI ภาคการผลิตของยูโรโซนออกมาที่ระดับ 50.1 จากเดือนก่อนหน้า 50.4 เป็นระดับที่ใกล้กับระดับ 50 แล้ววำหรับยูโรโซน และ PMI ของเยอรมันปรับตัวลดลงสู่ระดับ 49.5 จุด ซึ่งลงไปต่ำกว่าระดับ 50 จุดเรียบร้อยแล้ว เป็นผลมาจากการยอดการส่งออกที่น้อยลงและการแข่งขันด้านราคาท่ามกลางการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลกในช่วงนี้
- Moody’s ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่นลงจาก A1 เป็น AA3 จากปัญหาหนี้สาธารณะ ความไม่แน่นอนทางการเมืองและระยะเวลาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
- กองทุน Hedgefund ได้เพิ่มสถานะ Bullish bet ในทองคำอีกในสัปดาห์ที่ผ่านมาข้อมูลจาก CFCT เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
- อัตราเงินเฟ้อของไทยปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีออกมาที่ 1.26% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
24.00 USD
FOMC Brainard speaks
แนวทางทองคำวันที่ 1-12-57
เเนวรับ 1148 1143 1130 เเนวต้าน 1157 1160 1165
ราคาทองคำในวันศุกร์ปรับตัวลดลงแรงก่อนหน้าที่จะมีการ Vote ประชามติในสวิสเซอร์แลนด์ซึ่งราคาก็ได้รับข่าวทาง Vote NO ไประดับหนึ่งแล้ว และผลออกมาก็เป็นดังตามคาดการณ์คือ NO ส่งผลให้เช้านี้ราคาเปิดกระโดดลงไปถึงเกือบ 20$ และได้เปิดช่องว่าง (Gap) ไว้ที่บริเวณ 1160-1165 โดยปกติ Gap ที่เปิดไว้ของทองคำมักจะถูกปิดได้ และจากการที่รับข่าวไปแล้ว ในวันนี้มองว่า โอกาสสูงที่ราคาจะขึ้นไปปิด Gap โดยมีจุดตัดขาดทุนที่บริเวณ 1143 จุด Low ของวันนี้ แนวโน้มหลักหลังจากหลุด 1160 จะทำให้เสียทรงและมองการลงต่อไปใกล้ Low เดิม เพียงแต่อาจจะมีการขึ้นรีบาวน์ในระยะสั้นก่อน ยังคงแนะนำให้เล่นฝั่งขายก่อนเป็นหลัก (Short)
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,131 ล้านบาท และ Long สุทธิในฟิวเจอร์อีก 757 สัญญา ทิศทาง SET มองว่าระดับใกล้แนวต้าน 1600 ถึงแม้จะยังไม่ส่งสัญญาณชัดเจนนัก แต่ก็ให้ระมัดระวังการปรับตัวลงระยะสั้น และ ราคาน้ำมันดิบที่ยังคงปรับตัวลดลงยังต้องระมัดระวังแรงกดดันในหุ้นกลุ่ม ปตท ที่มี Market cap ที่สูงใน SET ค่าเงินบาททิศทางยังผกผันกับดอลลาร์สหรัฐคือ อ่อนค่าต่อเนื่อง ระยะสั้นเงินดอลลารืที่ติดแนวต้านอาจจะทำให้เงินบาทกลับมาแข็งค่าได้อีกเล็กน้อย
ทางเลือกหลัก : มองราคากำลังสร้างฐานอยู่บริเวณนี้ก่อน และมองว่าโอกาสที่ราคาจะขึ้นไปปิด Gap บริเวณ 1160-1165 ยังมีสูง แต่เมื่อปิด Gap แล้ว ไม่ควรมีสถานะซื้ออยู่ในมือแล้ว เพราะ แนวโน้มหลักยังเป็นขาลง
ทางเลือกรอง : หากราคาหลุด 1143 ลงไปด้านล่าง จะไปพบกับ 1130 ที่เป็น Low เดิม
รายละเอียด
- ผลการลงประชามติในสวิสเซอร์แลนด์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พบว่า ผลโหวตออกมา NO (77%) ธนาคารสวิสไม่จำเป็นต้องสำรองทองคำเพิ่มเป็น 20% จากเดิมที่เคยมีอยู่ระดับ 8% คนในประเทศที่โหวต NO ส่วนใหญ่เห็นว่า ธนาคารกลางน่าจะเอาเงินไปทำอย่างอื่นมากกว่า อย่างพัฒนาประเทศ สวัสดิการรัฐให้ดีกว่าการนำเงินไปซื้อทองคำ ข่าวนี้ถึงแม้จะคาดการณ์กันสูงว่าจะออกมาหน้านี้ แต่ตลาดที่เปราะบางก็ได้ซับแรงขายเพิ่มเข้าไปอีก จนทำให้ราคาเปิดกระโดดลงมาทั้งทองคำและซิลเวอร์ส่งผลให้ราคาซิลเวอร์ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี นับจากสิงหาคมปี 2009
- ราคาน้ำมันดิบเดินหน้าทำจุดต่ำสุดใหม่ ล่าสุดราคา WTI ปรับตัวลดลงต่ออีกไปซื้อ-ขายกันที่ระดับเฉลี่ย $65 ต่อบาร์เรล จากการที่ OPEC ไม่ลดกำลังการผลิตลง ตัวนี้ก็ส่งผลให้คอมโมดิตีโดยรวมปรับตัวลดลงไปด้วย ทำให้ทองคำได้รับแต่ปัจจัยลบมาสนับสนุนช่วงนี้ นอกจากนี้นักวิเคราะห์ต่างประเทศก็มองว่า ราคาที่ลงมาอาจจะได้รับแรงหนุนจากระดับนี้บ้าง และการทำ Short-covering อาจจะเกิดขึ้นอีก เพียงแต่การเกิดนั้นจะค่อนข้างสั้น และจะปรับตัวลดลงต่อ โดยมีแนวรับ $1130 เป็นหลักในระยะสั้นนี้
- กองทุน SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำลงอีก 0.17% สู่ระดับ 717.63 ตัน เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี นอกจากนี้แรงขายในกลุ่ม ETF ยังค่อนข้างเยอะ ผู้คนต่างหันเข้าไปในหุ้นกันมากขึ้น และเงินไม่ไหลกลับเข้ามาในตลาดทองคำเท่าไร ทำให้แรงซื้อยังคงเบาบางอยู่
- ในวันศุกร์ที่เป็นวัน Black Friday หลังเทศกาลขอบคุณพระเจ้าที่จะมีสินค้าลดราคาให้ช็อปปิ้ง ในปีนี้พบว่ายอดขายหดตัวลง 0.5% จากปีที่แล้ว เป็นปีที่ 2 ที่มียอดขายลดลง
- อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) ของยูโรโซนเพิ่มขึ้น 0.3%นับเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี นำโดยการลดลงของราคาพลังงานที่ปรับตัวลดลงถึง 2.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นอกจากนี้อัตราการว่างงานของอิตาลีปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึงระดับ 13.2% จากเดิม 12.9% นับเป็นการว่างงานสูงสุดนั้บตั้งแต่ปี 2520
- ดัชนี PMI ของจีนออกมาที่ระดับ 50.3 ระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน สะท้อนให้เห็นว่า กิจกรรมทางภาคการผลิตและอุตสาหกรรมของจีนยังไม่ฟื้นตัวดีเท่าไรนัก
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
22.00 USD
ISM Manufacturing PMI 57.9 59
แนวทางทองคำวันที่ 28-11-57
เเนวรับ 1184 1180 1170 เเนวต้าน 1190 1195 1202
ราคาปิดของทองคำเมื่อวานดูไม่ค่อยดี และต่ำกว่า 1190 ซึ่งเป็นเกณฑ์ของการเปลี่ยนแนวโน้ม ตามมาด้วยราคาเปิดวันนี้ที่เปิดต่ำกว่าและปรับตัวลดลงมา เป็นสัญญาณเตือนว่าการรีบาวน์ในภาพวันใกล้จะเปลี่ยนแนวโน้มแล้ว หากราคาปิดวันนี้ไม่เกิน 1190 โอกาสสูงที่ราคาจะปรับตัวลดลงต่อในสัปดาห์หน้า ราคาปิดที่เกิน 1190 เท่านั้นจึงจะมองว่ายังไม่ลง ซึ่งในระยะสั้นราคาอาจจะมีรีบาวน์ขึ้นไปก่อนให้หาจังหวะขายลงมาด้านล่างและตั้งจุดตัดขาดทุนที่ 1192-1195 สำหรับในวันอาทิตย์จะมีการทำประชามติของสวิสเซอร์แลนด์ในการจำกัดการขายทองของธนาคารกลางสวิส ซึ่งผลโหวตคาดว่าโอกาสเกิด YES น้อยกว่า แต่หากเกิด YES จริงอาจจะทำให้มีแรงซื้อทาง Physical เข้ามา
ต่างชาติยังคงซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่5 ติดต่อกัน เหลือเพียง 211ล้านบาท และยัง Long สุทธิในฟิวเจอร์อีก 355 สัญญา กระแสเงินทุนต่างชาติเริ่มชะลอตัวลง SET แกว่งตัวใต้แนวต้าน 1600 มองว่า น่าจะพักตัวลงมาด้านล่างก่อน น้ำมันดิบเมื่อวานนี้ปรับตัวลดลงแรง ซึ่งคาดว่าจะมีผลกับหุ้นกลุ่ม ปตท และกลุ่ม ปตท มีผลต่อดัชนีค่อนข้างมาก ต้องมาดูว่าผลกระทบจะออกมาในลักษณะไหน ค่าเงินดอลลาร์เริ่มแข็งค่าอีกครั้งหนึ่ง ทิศทางค่าเงินบาทก็จะเริ่มอ่อนอีกครั้งหนึ่ง ราคายังวนในกรอบแคบๆ
ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นไปก่อนเล็กน้อยถึงบริเวณโซน 1190 เนื่องจากภาพวันเริ่มส่งสัญญาณให้ระมัดระวังในทางลงแล้ว จึงคาดว่า รอเปิดสถานะขายก่อนที่แนวต้านจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ทั้งนี้ไม่ควรถือสถานะข้ามสัปดาห์เนื่องจากในวันอาทิตย์จะมีการทำประชามติของสวิส ถึงแม้โหวต NO จะค่อนข้างมากกว่า แต่ก็เป็นการลดความเสี่ยง
ทางเลือกรอง : ราคาขึ้นไปยืน 1190 ได้ในวันนี้ทำให้แนวโน้มเป็นกลาง
รายละเอียด
- ในวันที่ 30 พฤศจิกายน จะเป็นวันที่มีแคมเปญ “Save our Swiss gold” ที่จะมีการทำประชามติของคนสวิสเซอร์แลนด์เกี่ยวกับ ความต้องการที่จะให้ธนาคารกลางสวิสถือครองทองคำเพิ่มขึ้นเป็น 20% จากเดิม 8% เพื่อลดความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และ เพื่อเป็นการรักษาความมั่งคั่งของคนในประเทศไว้ หลังจากเงินสวิสฟรังที่ตรึงไว้ที่ 1.20 ต่อยูโร และเงินยูโรก็ได้อ่อนค่าลงเรื่อยๆ จึงทำให้ธนาคารกลางต้องเข้าแทรกแซงอยู่ตลอด นอกจากนี้ยังมีความต้องการที่จะให้ธนาคารกลางห้ามนำทองคำสำรองออกขายในอนาคต หากผลประชามติออกมา YES จะทำให้มีแรงซื้อเข้ามาใน Physical จำนวน 1,500 ตัน ถือว่าเป็นปริมาณมหาศาลเพียงแต่น้ำหนักในทาง YES นั้นยังค่อนข้างน้อย (ผลสำรวจจากทาง CNBC พบว่ามีเพียง 38%) และหากผลออกมา Say YES จริงก็อาจจะมีวิธีการเข้าซื้อที่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดมากนัก ข่าวนี้ต่างประเทศมองว่า ไม่มีผลกระทบอะไรเท่าไร เพราะ ส่วนใหญ่คาดว่าจะออกมา NO มากกว่า ทั้งนี้ต้องติดตามข่าววันอาทิตย์ครับว่าจะมีอะไรมากระทบหรือไม่
- ผลการประชุม OPEC เมื่อวานนี้พบว่า OPEC ไม่ลดกำลังการผลิตลง คงกำลังการผลิตที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวันเหมือนเดิม ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเกินกว่าระดับ $70 ต่อบาร์เรล และปิดตลาดไป –6% กว่า แต่ยังมองว่า ราคาที่ระดับนี้ได้เกิดภาวะ Oversold ไปค่อนข้างมาก จึงคาดว่าการปรับตัวลดลงคาดว่าถึงแม้จะมี แต่ก็จะเริ่มจำกัดแล้ว แต่ภาพรวมก็ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลงต่อไป ราคาน้ำมันดิบที่ลงถึงแม้จะทำให้เงินเฟ้อชะลอตัวลงบ้าง แต่ก็เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจในระยะยาวจะทำให้การบริโภคกลับมาขยายตัวมากขึ้น
- เยอรมันยังคงออกมาเตรียมออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียในระยะยาว หากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ และเป็นการขัดแย้งกฎหมายระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ECB ก็ออกมาประเมินว่า ค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าเกินไปจะส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจด้วย
- อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นออกมาที่ระดับ 2.9% เป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบปีนี้ ส่วนผลผลิตภาคอุสาหกรรมออกมาปรับตัวดีขึ้น 0.2% นับว่าตัวเลขที่ออกมาค่อนข้าง MIX เพียงแต่ตามที่เห็นเงินเฟ้อในญี่ปุ่นยังคงชะลอตัวอยู่ถึงแม้จะมีการอัด QQE ปริมาณมหาศาลเข้าไปในระบบแล้ว
แนวทางทองคำวันที่ 27-11-57
เเนวรับ 1192 1190 1180 เเนวต้าน 1202 1207 1215
เนื่องมาจากข่าวเมื่อวานที่รวมวันหยุดสองวัน คือ วันนี้และวันพรุ่งนี้ที่เป็นวันขอบคุณพระเจ้า และข่าวออกมาก็ค่อนเป็นไปในทางบวกและลบสลับกันจึงทำให้ราคาแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆระหว่าง 1190-1200 ซึ่งหากราคายิ่งแกว่งนานการหาแนวโน้มจะชัดเจนน้อยลงเรื่อยๆ และแนวโน้มก็ยัง Sideway ต่อไป แต่วันนี้หลังจากขึ้นไปทดสอบแล้วยังไม่ผ่านก็คาดว่าจะย่อลงมาเล็กน้อยถึงระดับใกล้ 1190 ที่เป็นจุดที่ยังเหมาะกับการเก็งกำไรระยะสั้น และตั้งจุดตัดขาดทุนบริเวณ 1185-1188 ตามแต่ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพราะ ภาพวันยังได้ปัจจัยบวกจากการตัดขึ้นของเส้นค่าเฉลี่ย เลยนำจุดที่ตัดกันมาตั้งเป็น Stop loss สรุป เสี่ยงซื้อบริเวณ 1190 และตั้งจุดตัดขาดทุน เล่นสั้นๆ
ต่างชาติลดการซื้อตลาดหุ้นไทยลงเหลือเพียง 109 ล้านบาท แต่ยัง Long สุทธิอย่างหนาแน่น 4,438 สัญญา เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน เป็นการสะสมสถานะ Long อย่างต่อเนื่อง SET เมื่อวานปรับฐานเล็กน้อย แต่หุ้นตัวเล็กกลับปรับตัวลงอย่างหนักจากมาตรการสกัดหุ้นร้อน แต่คาดว่า SET จะยังพอมีมุมมองในทางบวกอยู่ แต่เริ่มเป็นไปอย่างจำกัดแล้วที่ระดับใกล้ 1600 ทิศทางค่าเงินบาทมองว่าจะเริ่มแข็งค่าอีกครั้งหลังจากเงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าอีกครั้ง โดยมีแนวรับ 32.60
ทางเลือกหลัก : มองราคาแกว่งตัวอยู่ในกรอบ ระยะสั้นบริเวณ 1190 ซึ่งเป็นจุดที่น่าสนใจในการพิจารณาเดสถานะ ซื้อ สาเหตุเพราะ ในระยะสั้นมองลงไปก่อน แต่ค่าเงินดอลลาร์ในแนวโน้มที่เริ่มอ่อนค่าจึงคาดว่า หลังจากลงจะขึ้นต่อได้ ประกอบกับภาพวันในทางบวกจากเส้น EMA ทั้งนี้การหลุด 1190 จะทำให้ภาพรวมเริ่มไม่ดี
ทางเลือกรอง : ราคาหลุดเกินกว่า 1190 เริ่มทยอยปิดสถานะ Long และรอดูแนวโน้มให้ชัดเจนอีกรอบหนึ่ง
รายละเอียด
- ตัวเลขข่าวเศรษฐกิจเมื่อวานค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นการรวมข่าวของสองวันที่จะเข้าวันหยุดของอเมริกา วันขอบคุณพระเจ้า เริ่มจากตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนแบบปกติ ออกมาขยายตัว 0.4% VS –1.1% ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนไม่รวมยานพาหนะหดตัว –0.9% จากหดตัว –0.1% แสดงว่า ยอดขายหมวดยานพาหนะเป็นตัวช่วยให้ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนดีขึ้น ส่วนตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 313K VS 292K ตัวเลขเงินเฟ้อ PCE ปรับตัวสูงขึ้น 0.2% VS 0.1% และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้น 0.2% VS 0.0% และรายได้ของคนปรับตัวสูงขึ้น 0.2% VS 0.2% ข่าวชุดแรกตัวเลขออกมา ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเป็นบวกกับทองในทางเดียวกับคนขอรับสวัสดิการว่างงาน ส่วนตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงขึ้นเป็นลบกับทองในช่วงนี้ เพราะ จะไปเข้าเกณฑ์ FED ในการประเมินการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ตัวเลขชุดแรกนี้จึงมีความ Mix ระหว่างกันค่อนข้างมาก
- ตัวเลขเศรษฐกิจอีกชุดหนึ่ง คือ Chicago PMI ออกมา 60.8 VS 66.2 ส่วนตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคออกมาที่ระดับ 88.8 VS 89.4 และคาดการณ์เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 2.8% VS 2.6% ซึ่งตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อนั้นเป็นลบกับทองคำเต็มๆ เหตุผลเดียวกันกับ PCE คือ จะเข้าเกณฑ์การขึ้นดอกเบี้ย ส่วนตัวเลข New-home sales ปรับตัวออกมาสูงขึ้นสู่ระดับ 458K VS 455K และยอดบ้านรอปิดการขายลดลง –1.1% จาก 0.6% ข่าวชุดนี้ทางฝั่งลบมีน้ำหนักมากกว่า และเมื่อมารวมกันแล้ว พบว่าทางฝั่งลบกับทองคำจะมีน้ำหนักมากกว่าฝั่งบวก
- นายกรัฐมนตรีเยอรมันยืนยันว่าจะดำเนินการคว่ำบาตรรัสเซียต่อไป จนกว่ารัสเซียจะสามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศได้
- ตัวเลข GDP ของอังกฤษไตรมาสที่ 3 ออกมาที่ระดับ 0.7% จากไตรมาสก่อนที่ 0.9% ทั้งนี้เป็นการชะลอตัวลงเล็กน้อยถึงแม้การบริโภคจะปรับตัวดีขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2553 แต่การลงทุนภาคเอกชนและการส่งออกที่หดตัวลงเป็นปัจจัยถ่วงต่อเศรษฐกิจในไตรมาสนี้
- ยอดส่งออกของไทยปรับตัวดีขึ้นในรอบ 21 เดือนขยายตัว 3.97% ถึงแม้สินแร่และทองคำจะยังคงหดตัวแต่ได้กลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมมาหนุนทั้งนี้เมื่อคิดรวม 10 เดือนส่งออกอยู่ที่ระดับ 0.36%
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
ALL
USD Bank holidays
แนวทางทองคำวันที่ 26-11-57
เเนวรับ 1192 1190 1180 เเนวต้าน 1202 1207 1215
ตลอดเมื่อวานนี้ราคาแกว่งตัวอยู่ในกรอบ $10 ระหว่าง $1190-1200 ด้วยปัจจัยข่าวที่ลบและบวกจึงทำให้ราคาผันผวนอยู่บริเวณที่เดิม ในวันนี้มองว่า ราคามีแนวโน้มจะทำ new-high ที่ระดับสูงกว่า 1207 เนื่องจากทุกครั้งที่เข้าใกล้ระดับ 1200 ถึงแม้จะเจอแรงขายลงมา แต่แรงขายค่อนข้างน้อย และ มีแรงซื้อเข้ามาเติมตลอดจึงคาดว่า ราคาน่าจะรอการ Breakout ออกทางด้านบนอยู่ ภาพวันก็ยังคงส่งสัญญาณรีบาวน์อย่างต่อเนื่องเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับค่าเงินยูโรที่มีประกาศตัวเลขเศรษฐกิจดีขึ้น ทั้งนี้ขาขึ้นไปก็ยังคงต้องใช้ความระมัดระวังเช่นเดิม เน้นเก็งกำไรระยะสั้น และหากระยะสั้นนี้ราคาหลุด 1190 ลงไป แนวโน้มที่รีบาวน์จะเริ่มเปลี่ยนไปทันที
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,260 ล้านบาทเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน และยังคง Long สุทธิในฟิวเจอร์มากถึง 10,752 สัญญา ช่วงนี้จะเห็นต่างชาติสะสม Long ในฟิวเจอร์อย่างหนาแน่นร่วม 20,000 สัญญา SET ยังคงเดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ล่าสุดใกล้ระดับ 1600 แต่ SET50 ปรับตัวเกินกว่าจุดสูงสุดเดิมที่เคยทำไว้แถวระดับ 1070 จุด จึงมองว่า Upside ในตลาดหุ้นยังมีอยู่ ค่าเงินบาทยทิศทางเริ่มแข็งค่าไปยังระดับ 32.60 จากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนค่าลงมาในระยะนี้
ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นไปเกินกว่าระดับ 1207 จากแรงขายที่เริ่มชะลอตัวลงบริเวณแนวต้าน ทั้งนี้จุดซื้อที่ดี ต้องแล้วแต่ต้นทุนของแต่ละคนในวันนี้ยาวไปจนถึง 1190
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1190 ลงมา นำแถวนั้นเป็นจุดตัดขาดทุนสำหรับฝั่งซื้อ
รายละเอียด
- ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของอเมริกาค่อนข้างเยอะเมื่อวานนี้ เริ่มจากตัวเลข GDP ตรวจทานของไตรมาสที่ 3 ออกมาที่ระดับ 3.9% มากกว่าเดิมที่ 3.5% และมากกว่าที่คาดการณ์ 3.3% โดยเป็นผลมาจากสต๊อกสินค้าที่ดีขึ้น และ การใช้จ่ายของผู้บริโภคที่มากขึ้น หลังจากข่าวนี้ออกมาทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมาและการขายในทองคำ จากนั้นมีตัวเลขราคาบ้าน S&P พบว่าออกมาราคาลงจากเดือนที่แล้วแต่ก็ยังมากกว่าที่คาดการณ์กัน และจบด้วยข่าวดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค CB ที่ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 88.7 จากเดือนก่อนหน้า 94.1 หลังจากข่าวนี้ออกก็มีการเข้าซื้อทองคำกลับจากความเชื่อมั่นที่น้อยลงนี้ และข่าวเรื่องการจลาจลในมิสซูรีที่ตำรวจได้ยิงชายวัยรุ่นสีดำที่ไม่พกอาวุธเสียชีวิต และ ศาลไม่ได้ตัดสินให้มีความผิด จึงเกิดการจลาจลในบริเวณนั้น โดยเฉพาะบริเวณ สถานีตำรวจ แต่ข่าวนี้คาดว่าจะยังไม่สามรถมาสนับสนุนการขึ้นของทองคำได้
- เนื่องจากข่าวในวันนี้มีค่อนข้างหนาแน่นเนื่องจากพรุ่งนี้เป็นวันหยุดของทางอเมริกา ประกอบด้วย ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน (-) ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (-) รายได้และการใช้จ่ายของผู้บริโภค (-) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและการคาดการณ์เงินเฟ้อ (-) จากนั้นตามมาด้วย ยอดขายบ้านใหม่ และ ยอดบ้านรอปิดการขาย (-) จะเห็นว่าข่าวในวันนี้เป็นลบหมด แต่ด้วยข่าวบางอันที่นัยสำคัญน้อยต้องมาดูกันว่า หลังจากข่าวหมดจะออกมาหน้าไหน แต่แนวโน้มวันนี้น่าจะเหวี่ยงขึ้น-ลงพอสมควร
- การนำเข้าของทองคำในจีนจากฮ่องกงปรับตัวสูงขึ้นในเดือน ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมี Demand หลักๆมาจากภาคจิลเวอรีและทองแท่ง นอกจากนี้มีข่าวบริษัทค้าปลีกจิลเวอรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก Chow Tai Fook Jewelry group ได้รับผลกระทบอย่างแรงจากการชุมนุมในฮ่องกงส่งผลให้กำไรครึ่งปีของบริษัทหายไป 23% ในช่วงครึ่งปีแรก ข่าวนี้คาดว่าจะมีผลกับทองคำเล็กน้อยไม่ได้มีนัยสำคัญเท่าไรนัก
- ธนาคารเยอรมันออกมาประเมินว่า หากอัตราดอกเบี้ยคงอยู่ที่ระดับต่ำจะเริ่มมีความเสี่ยงในสินทรัพย์ประเภทต่างๆโดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ ทาง OECD ก็ออกมาเสนอว่า ธนาคารพาณิชย์ควรออกตราสารหนี้ที่เชื่อมโยงกับพันธบัตรรัฐบาลเพื่อเป็นการสะดวกต่อการเข้าซื้อของ ECB นอกจากนี้ BOE (Bank of Japan) ก็ได้ออกมาแสดงความกังวลเกีย่วกับการขยายตัวของอังกฤษจากผลกระทบเศรษฐกิจโลก
แนวทางทองคำวันที่ 25-11-57
เเนวรับ 1195 1190 1180 เเนวต้าน 1205 1207 1215
ราคาทองคำยังแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ ระหว่าง 1190-1200 ตลอดทั้งวันเมื่อวานนี้ ทั้งนี้ด้วยปัจจัยข่าวที่น้อย จึงคาดว่าทองคำจะยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบไปอีกสักพักหนึ่ง โดยมีแนวต้านสำคัญบริเวณ 1202-1207 ทั้งโซน ภาพวันเริ่มมีมุมมองในทางบวกมากขึ้นหลังจากล่าสุด EMA 8 ตัดผ่าน EMA 21 ขึ้นมา ทำให้มองว่า ทองคำเริ่มมีสัญญาณทางบวกขึ้นมาอยู่พอสมควรในระยะสั้นนี้ โดยมีจุดเปลี่ยนแนวโน้มบริเวณ 1190 ที่หากหลุดจะทำให้ราคากลับไปอยู่ใต้เส้นค่าเฉลี่ยทั้งสองเส้นอีกครั้ง รวมถึง หลุดแนวรับใหญ่ในระยะสั้นยังมองราคาลงมาทดสอบด้านล่างอีกรอบหนึ่งบริเวณโซน 1190 และมาหาสัญญาณว่า จะมีการกลับตัวเกิดขึ้นหรือไม่ หากราคาปิดหลุด 1190 จะเริ่มมองลบแล้ว
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,470 ล้านบาท เป็นการซื้อวันที่ 2 ต่อเนื่องกัน ขณะที่กลับมา Long สุทธิในฟิวเจอร์อย่างหนักร่วม 8,200 สัญญา พร้อมกับกองทุนที่ซื้อและเปิดสถานะ Long ในฟิวเจอร์เช่นเดียวกัน มุมมองของ SET หลังจากเมื่อวานรับข่าวจีนลดดอกเบี้ยและปรับขึ้นแรง ยังมีมุมมองในทางบวกอยู่ เพียงแต่ให้ระมัดระวังแรงขายระยะสั้น ค่าเงินบาทแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยแต่ยังมองการแข็งค่าเป็นไปอย่างจำกัดและอาจจะกลับไปอ่อนค่าได้ ยังดูในกรอบสั้นๆระหว่าง 32.60-33.00
ทางเลือกหลัก : มองราคายังอยู่ในกรอบสั้นๆ โดยมีจุดที่น่าสนใจซื้อบริเวณ 1190 พร้อมทั้งตั้งจุดตัดขาดทุน เพราะ มุมมองเริ่มเป็นบวกมากขึ้น ในขณะที่หากหลุด 1190 อาจจะมีการเปลี่ยนแนวโน้มได้
ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวขึ้นไปเลยเกินกว่า 1200 มองว่าจะไปทดสอบ 1207 ทันที
รายละเอียด
- ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2557 นี้จะมีการประชุม OPEC ในเรื่องของการตัดสินใจว่าจะลดกำลังการผลิตน้ำมันลงหรือไม่ หลังจากราคาปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ความต้องการที่ลดน้อยลง ขณะที่กำลังการผลิตเท่าเดิม สาเหตุที่ความต้องการน้อยลงมาจากเทคโนโลยี Shale gas ของอเมริกาที่เข้ามาแทนที่น้ำมันดิบ และ เกมการเมืองของประเทศ OPEC ที่ไม่ต้องการให้ราคาน้ำมันสูงเกินไป เพราะ จุดนี้เป็นจุดที่คุ้มทุนอยู่แล้ว หากต่ำกว่านี้ก็ยังคุ้มทุน และหากเมื่อราคาสูงขึ้นไปก็จะมีเทคโนโลยีใหม่ๆมาทำให้การขายน้ำมันดิบจะยากขึ้น ทำให้ตลาดติดตามว่า OPEC จะลดกำลังการผลิตลงหรือไม่ ตามคาดการณ์กันว่า หากไม่ลดเลย ราคาน้ำมันก็จะลงต่อไป หากลดเล็กน้อย ราคาจะพอทรงตัวได้ระดับนี้ถึงปรับตัวขึ้นเล็กน้อย และหากลดมากหน่อย คาดว่าราคาน้ำมันดิบจะกลับขึ้นไปสู่บริเวณ $90-95 ต่อบาร์เรลได้ กระแสในตอนนี้คาดว่าจะลดกำลังการผลิตลงเล็กน้อย
- ราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำจะเป็นประโยชน์ต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เนื่องจาก น้ำมันดิบเป็นต้นทุนของการดำเนินงานหลายอย่าง รวมถึง การใช้จ่ายของผู้บริโถคที่จะเพิ่มขึ้นจากการเติมน้ำมันถูกลง อีกมุมหนึ่งคือ ราคาน้ำมันดิบที่ลงจะทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อออกมาน้อยนั่นเอง แต่เมื่อมาชั่งน้ำหนักกันหลายคนอยากให้ราคาน้ำมันดิบลงมากกว่า
- มีความเห็นต่างๆจากนักวิเคราะห์ที่ให้สัมภาษณ์กับ CNBC เกี่ยวกับการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของ FED ซึ่งต่างคนก็ต่างความคิด มีมุมมองที่น่าสนใจคือ FED จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยท่ามกลางเศรษฐกิจที่ยังไม่แข็งแรงนัก สาเหตุที่รีบขึ้น เพราะไม่อยากให้ดอกเบี้ยคงอยู่ระดับต่ำ และต้องการดูทีท่าตลาดว่าจะเป็นอย่างไร ส่วนอีกความเห็นหนึ่งก็มองว่า ประเทศที่จะกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยคือ เอเชีย อย่างเช่น จีน ฮ่องกง มาเลเซีย เนื่องจาก การเกินดุลบัญชีลดลงเรื่อยๆ
- ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมัน (Ifo) ปรับตัวเพิ่มขึ้น สู่ระดับ 104.7 หลังจากหดตัวมาน้อยลงตลอดในช่วง 6 เดือน เป็นสัญญาณที่ดีขึ้น
- Hedge fund เพิ่มสถานะ Bullish bet ในทองคำเพิ่มอีก 50% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา และ สถานะ Short สุทธิไปอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20.30 USD
Prelim GDP 3.3% 3.5%
22.00 USD
CB Consumer confidence 95.9 94.5
แนวทางทองคำวันที่ 24-11-57
เเนวรับ 1195 1190 1180 เเนวต้าน 1205 1207 1215
ราคาทองคำรับข่าวทั้งลบจาก ECB กระตุ้นเศรษฐกิจและ จีนที่ลดดอกเบี้ย หากไม่มีข่าวจีนลดัตราดอกเบี้ยในวันศุกร์เราก็จะเห็นการปรับตัวลดลงไป การลดดอกเบี้ยทำให้ทองคำดรับปัจจัยบวก และในระยะสั้น ยังมองว่า ปัจจัยบวกยังมีอยู่ต่อเนื่องเล็กน้อย ทำให้คาดว่าจะได้เห็นราคาผันผวนอยู่ในกรอบ โดยมีแนวโน้มขึ้นก่อน แต่การขึ้นยังมองว่าไม่ค่อยแข็งแรงแนวต้านระยะสั้นอยู่บริเวณ 1207-1210 ภาพรวมเริ่มส่งสัญญาณดูดีขึ้นสำหรับการรีบาวน์ แต่เมื่อมองดูปัจจัยพื้นฐานที่รออยู่แล้ว ก็เน้นเก็งกำไรระยะสั้นน่าจะดีกว่า ค่าเงินยูโรตกลงมาแนวรับสำคํญ และคาดว่าจะมีรีบาวน์ขึ้นไปเล็กน้อยก่อนที่จะลงต่อตามทิศทางเดียวกันกับทองคำ แนวรับระยะสั้นวันนี้อยู่บริเวณ 1190
ต่างชาติซื้อสุทธิเล็กน้อยในตลาดหุ้นไทย 45 ล้านบาท แต่ยัง Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก 2,519 สัญญา ตลาดหุ้นรอบโลกในวันศุกร์ปรับตัวขึ้นแรง จากการผ่อนคลายทางการเงินของยูโรโซนและการลดอัตราดอกเบี้ยของจีน สงผลมาจนถึงเช้าวันนี้ตลาดหุ้นฮั่งเส็งเปิดบวกแรงร่วม 2% คาดว่าจะส่งผลเชิงบวกกับ SET ในวันนี้ คาดว่าอาจจะไปทดสอบระดับใกล้ 1600 อีกรอบหนึ่ง ค่าเงินบาททิศทางเริ่มแข็งค่าเล็กน้อย แต่มองว่า หากเงินดอลลาร์ยังแข็งแนวโน้มค่าเงินบาทจะเริ่มอ่อนอีกครั้งหนึ่ง
ทางเลือกหลัก : มองราคาแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1190-1207 แต่ยังมองฝั่งขึ้นได้เปรียบกว่าเล็กน้อย ทั้งนี้แนวต้าน 1207 ยังทำหน้าที่เป็นแนวต้านสำรัญระยะสั้นหากผ่านไปได้ จะยังมองช่องว่างให้พอขึ้นได้อยู่อีก
ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวลดลงเกินกว่าระดับ 1190 โอกาสเกิดทั้งทางเลือกหลังและรองมีสูงในวันนี้ ถ้าจะให้ดีรอให้ชัดเจนก่อนน่าจะดีที่สุด เพราะ ภาพรวมมีทั้งข่าวบวกและลบอยู่ในตัวเดียวกัน ต้องอาศํยเวลาและการรับรู้ของคนในตลาดเลือกทางใดทางหนึ่งก่อน
รายละเอียด
- นาย ดรากี้ ประธาน ECB ได้ส่งสัญญาณพร้อมจะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากประเมินตัวเลขออกมาแล้วพบว่า การเติบโตในช่วงนี้อาจจะไม่ขยายตัวไปสักพักหนึ่งจากตัวเลข PMI ภารการผลิตที่ออกมาน้อย และ จากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้นายดรากี้ส่งสัญญาณพร้อมที่จะดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพื่อแก้ไขปัญหาเงินฝืด นอกจากนี้วันศุกร์ธนาคารกลาง ECB ได้เริ่มเข้าซื้อตราสาร ABS เป็นวันแรก วงเงินจะเปิดเผยในวันนี้ประมาณบ่าย 2 โมงตามเวลาบ้านเรา ทั้งนี้การเข้าซื้อทั้ง Covered-bond และ ABS จะทยอยเข้าซื้อตามวงเงินที่กำหนดแต่ละสัปดาห์เป็นระยะเวลารวม 2 ปี จึงคาดว่าจะได้เห็นเม็ดเงินค่อยๆทยอยออกมา ข่าวนี้ส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงมาทดสอบแนวรับสำคัญบริเวณ 1.238 ถึงแม้จะเกิดสัญญาณชะลอตัว แต่จากแนวโน้มที่ยังอ่อนแอ และ ปัจจัยที่จะส่งผลให้เงินยูโรแข็งค่าแทบไม่มี จึงมองว่า เงินยูโรจะยังปรับตัวลดลงต่อไปอีก แนวรับสำคัญในระยะยาวค่อนข้างกว้างจะอยู่ที่ 1.190-1.230 ทั้งโซนนี้
- เนื่องจากจะมี IPO ค่อนข้างมากในจีน ทำให้ธนาคารกลางจีนต้องอัดฉีดสภาพคล่องเข้าไปในระบบ 5 หมื่นล้านหยวนผ่านช่องทาง Short –term liquidity operation เตรียมพร้อมการ IPO มากกว่า 24 บริษัทที่จะถึงในช่วงสัปดาห์นี้ โดยจะเริ่มวันนี้ 7 บริษัท
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยช่วงเย็นวันศุกร์มากถึง 40 basispoint คงเหลือที่ระดับ 5.6% และดอกเบี้ยเงินฝากปรับตัวลดลง 25 basispoint คงเหลือที่ระดับ 2.75% นับเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 2 ปีหลังจาก นายกรัฐมนตรี ลี กี่เชียง ได้เคยออกมาให้ความเห็นว่า ไม่อยากกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายทางการเงิน แต่อยากปฎิรูปโครงสร้างของประเทศเพื่อให้มีความแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพแทน แต่รอบนี้สาเหตุที่ต้องลดหลักๆมาจากเพื่อช่วยบริษัทที่กู้ยืมไปสร้างพวก โครงสร้างพื้นฐาน และ เมื่อเศรษฐกิจชะลอตัวลง จึงต้องการให้บริษัทที่กู้ยืมไปมีต้นทุนการเงินที่ถูกลงเพื่อลดปัญหาการ Default
- กองทุน Hedge fund เพิ่มสถานะ Bullish bet ในทองคำ โดยเฉพาะในซิลเวอร์มากกว่าทองคำ ข้อมูลจาก CFCT เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
- ธนาคารกลางสวิสคัดค้านการลงประชามติที่จะมีในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้
แนวทางทองคำวันที่ 21-11-57
เเนวรับ 1185 1180 1175 เเนวต้าน 1195 1202 1205
ราคาทองคำเมื่อวานนี้ขึ้นมาปิดเหนือ 1290 และไม่สามารถปิดลงไปต่ำกว่านั้นได้ ส่งผลให้เกิดแท่งเทียนเกินกว่าครึ่งแท่ง Engulfing ก่อนหน้า ทำให้มองปัจจัยลบที่เคยเกิดในวันก่อนเริ่มเป็นกลางไป และคาดว่าราคาจะแกว่งตัวออกด้านข้างไปอีกสักพักหนึ่ง ตัวทองคำปัจจัยลบยังมาก แต่เมื่อไปดูค่าเงินพบว่าเริ่มมีปัจจัยบวกกับทองคำ ค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าลง ทำให้ภาพรวมยังอยู่ในช่วงที่ไม่ชัดเจนค่อนข้างขัดแย้งระหว่างกัน แต่ทางฝั่งลงยังได้เปรียบกว่าเล็กน้อย เนื่องจากวันนี้เป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์ราคาปิดในวันนี้ จึงสำคัญว่าจะเกินกว่า 1180 ไหม หากปิดได้สูงกว่า 1180 แนวโน้มในสัปดาห์หน้าจะยังคงยื้อได้ หากต่ำกว่าสัปดาห์หน้าคงได้เห็นการปรับตัวลงต่อ
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยเล็กน้อย 346 ล้านบาทและยังคง Short สุทธิในฟิวเจอร์ต่ออีกแต่เป็นปริมาณที่น้อย 760 สัญญาเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน เมื่อวานนี้ SET ปรับตัวลดลง 8 จุด ด้วยปริมาณการซื้อ-ขายที่ค่อนข้างเบาบาง ค่าเงินบาททิศทางยังแปรผกผันกับดอลลาร์เมื่อวานนี้ดอลลาร์อ่อนค่ามาเงินบาทก็แข็งค่าโดยรวมแล้วก็ยังอยู่ในแนวโน้มแข็งค่าแต่ยังเป็นเพียงเล็กน้อย สำหรับในวันนี้ นาย อาเบะ ประกาศยุบสภา คาดว่าจะมีผลกับค่าเงินเพียงเล็กน้อยแต่ก็น่าจะทำให้ผันผวนพอสมควร
ทางเลือกหลัก : มองราคาปรับตัวลดลงไปก่อน เพียงแต่การปรับตัวลดลงขาดปัจจัยสนับสนุนไปเรียบร้อย จากราคาที่ปิดขึ้นมาสูงเมื่อวาน จึงมองว่า ราคาน่าจะแกว่งตัวไปอีกสักพัก มองลงก่อนเป็นหลัก ซึ่งมองลงอย่างจำกัดในช่วงนี้
ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวเกินกว่า 1195 จะทำให้ผ่าน Downtrend ลงมาได้ และคาดว่าจะยังมีช่องว่างให้ขึ้นถึงระดับ 1205
รายละเอียด
- ตัวเลข PMI ของยูโรโซนออกมาปรับตัวลดลงเกือบทั้งหมด ทั้งฝรั่งเศส เยอรมัน และ ยูโรโซนโดยรวม ของฝรั่งเศสออกมาที่ระดับ 47.6 ของเยอรมันออกมาที่ระดับ 50 พอดี และยูโรโซนโดยรวมออกมาที่ 50.4 ทั้งหมดออกมาน้อยกว่าเดือนก่อนหน้าและคาดการณ์ทั้งหมด นอกจากนี้ระดับ 50 ยังเป็นเส้นกั้นเขตระหว่างการหดตัวและการขยายตัวของภาคการผลิตในที่นี้จะเห็นฝรั่งเศสเข้าสู่เขตภาคการผลิตหดตัวเรียบร้อยแล้ว ส่วนเยอรมันคาบเส้นพอดี และเมื่อมาดูทั้งยูโรโซนก็ยังขยายตัวอยู่เล็กน้อย ทั้งนี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมากลุ่มประเทศอย่างเยอรมัน และ ฝรั่งเศสมี GDP ที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย และรอดจากภาวะถดถอยทางเทคนิค แต่โดยรวมแล้วยังอยู่ในเขตของน่าจับตามอง นอกจากนี้ความคืบหน้าของประเทศกรีซยังเริ่มส่ออาการความวุ่นวายออกมา หลังจาก Yield พันธบัตรของกรีซปรับตัวขึ้นจากความกังวลในเรื่องของเงิน Bail-out ที่อยู่ในเงื่อนไขของ Troika เพราะ กรีซกำลังจะมีการเลือกตั้งใหม่ในช่วง กุมภาพันธ์ปีหน้า ประกอบกับ ข้อตกลงเรื่องการรัดเข็มขัดที่กังวลกันว่า อาจจะยังไม่ผ่านข้อกำหนดในเดือน ธันวาคมนี้ ทำให้ Yield พันธบัตรของกรีซปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้การปรับตัวนั้นยังไม่สูงจนถึงระดับช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ตลาดรับข่าวกรีซและตลาดหุ้นตกหนัก
- ทองคำได้รับปัจจัยบวกจากการพักตัวของเงินดอลลาร์หลังจากแข็งค่ามาอย่างต่อเนื่อง และการปิดสถานะ Short รวมถึง แรงซื้อ Physical ที่เริ่มเข้ามาหลังจากราคาเริ่มสร้างฐานบริเวณนี้ เรื่องของ Physical ช่วงนี้มีมากขึ้นจากธนาคารกลางรัสเซียที่เพิ่มการถือครองทองคำอย่างมากในทางกลับกับธนาคารกลางยูเครนกลับลดการถือครองทองคำ ข้อมูลจาก IMF ที่เปิดเผยเมื่อวาน นอกจากนี้กรมศุลกากรของสวิสได้เปิดเผยว่า ยอดการส่งออกทองคำเพิ่มขึ้น 12% ในเดือนตุลาคมโดยมีเป้าหมายการส่งออกไปยัง จีน และอินเดีย
- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาที่ระดับ 291K จากสัปดาห์ก่อนหน้า 293K ส่วนตัวเลขเงินเฟ้อออกมาแทบจะไม่ขยายตัวหมายความว่า เงินเฟ้อในอเมริกายังไม่เกิดเท่าไรนัก จากข่าวเหล่านี้ไม่ได้มีนัยสำคัญที่โดดเด่น ยังคงทรงตัวระดับใกล้เคียงเดิม
- การซื้อ-ขายทองคำในช่วงเวลาของ Asia ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมเป็นต้นมา พบว่ามีความผันผวนมากขึ้นผิดปกติโดยคาดว่าเป็นผลมาจาก Algorithmic trading ที่เพิ่มมากขึ้น