09 มกราคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 9 ม.ค. 2558
09 มกราคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 9 ม.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 9-1-58
เเนวรับ 1209 1205 1200 เเนวต้าน 1215 1225 1230
หลังจากราคาแกว่งตัวอยู่ในกรอบวันนี้มองว่า ระดับราคา 1212-1215 จะทำหน้าที่เป็นแนวต้านหากผ่านไปได้จะทำให้ราคาน่าจะปรับตัวสูงขึ้นเกินกว่าระดับ 1220 ได้ ตลาดอื่นพบว่า เริ่มหันกลับมาเป็นบวกกับทองคำมากขึ้น ตลาดพันธบัตรที่ยังอยู่ใน Uptrend รวมถึงเงินยูโรที่เกิด Bullish divergent ในภาพระยะสั้น มองว่า โอกาสที่ Non-farm payroll จะออกมาน้อยลงในวันนี้มีสูงขึ้นตามที่คาดการณ์กัน ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ที่ซื้อ-ขายกันที่ระดับสูงสุดในรอบ 9 ปีนั้นมองว่าค่อนข้างเปราะบางหากจะขึ้นต่อควรจะพักลงมาด้านล่างเล็กน้อย ในวันนี้จะมีแนวรับสำคัญบริเวณ 1205 หากราคาปรับตัวลดลงมาถึงระดับใกล้ๆนี้มองว่าเป็นจุดซื้อที่ดีพอสมควร
ต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1217 ล้านบาท เป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการหลังจากขายออกมาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ Long สุทธิในฟิวเจอร์ 2327 สัญญา ซึ่งต่างชาติสะสมสถานะ Long ไว้ค่อนข้างมาก SET เมื่อวานนี้ยังคงปรับตัวสูงขึ้นอีก 20 จุด จากต้นปีมานี้ยืน 1500 ได้อย่างสวยงาม ในขณะที่มี GAP ที่เปิดไว้บริเวณต่ำกว่า 1500 คาดว่าเป็นจุดซื้อที่ดีหากราคาตกลงมา จากการคาดการณ์ถึงการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินของยุโรป ค่าเงินบาททิศทางเริ่มแข็งค่าในช่วงนี้แล้ว
ทางเลือกหลัก : มองว่าราคายังได้รับปัจจัยบวกอยู่พอสมควร ในระยะสั้นยังมองการปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีแนวต้านในวันนี้ที่ 1212-1215 เป้นแนวต้านสั้นๆ หากผ่านได้มองราคาน่าจะทำ New high ระยะสั้นเกินกว่า 1220 แต่หากราคาลงมาก่อนบริเวณ 1205 มองว่าเป็นจุดเข้าซื้อที่ดี
ทางเลือกรอง : ราคาหลุดเกินกว่าระดับ 1200 อาจจะทำให้ภาพรวมเริ่มกลายเป็น Sideways ได้
รายละเอียด
- ตลาดหุ้นในยุโรปปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นแรงเมื่อวานนี้ร่วม 3% หลังจากมี Comment จากประธาน ECB นาย ดรากี้ ที่บ่งบอกถึงการพร้อมที่จะทำ QE เต็มรูปแบบ และกำลังจับตาดูเสถียรภาพของราคาในระยะกลางอยู่ เป็นผลทำให้ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวขึ้นแรงเช่นเดียวกันเมื่อวานนี้ รวมทั้ง Comment จาก FED ที่ยังบ่งบอกถึงแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้นนี้ยังไม่ปรับตัวขึ้นไวหรือปรับตัวขึ้นมากเท่าไร ทั้งนี้มองว่า การทำ QE ของยุโรปรอบนี้ราคาได้สะท้อนไประดับหนึ่งแล้ว ตลาดได้รับรู้ไปมากแล้ว หากทำจริงให้ระวังการอ่อนค่าที่จำกัดของเงินยูโร และทองคำน่าจะไม่ปรับตัวลดลงมากเท่าไรแล้ว เมื่อมองเฉพาะมุมของ ECB ล่าสุดค่าเงินยูโรปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1.17 ยูโรต่อดอลลาร์จากนั้นก็มีแรงซื้อรีบาวน์ขึ้นมาและเกิด Bullish divergent ในภาพระยะต่ำกว่าวันมองว่า ค่าเงินยูโรน่าจะถึงเวลารีบาวน์แล้ว และอาจจะรับข่าวการทำ QE ไปแล้วระดับหนึ่งที่ 1.17 ทั้งนี้ในระยะยาวค่าเงินยูโรได้หลุดแนวรับ 1.20 มาเรียบร้อยหากไม่สามารถยืนได้จะทำให้เป้าหมายการอ่อนค่าของเงินยูโรไปยังระดับ 1.13 ยูโรต่อดอลลาร์
- น้ำมันดิบค่อนข้างทรงตัวระดับนี้แล้ว ล่าสุดปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นใกล้ $50 ต่อดอลลาร์ ท่ามกลางตัวเลขการจ้างงานของอเมริกาที่ออกมาดี ทั้งนี้กลุ่ม OPEC ยังไม่ได้แสดงถึงทิศทางการลดกำลังการผลิตแม้ราคาจะอยู่ที่ระดับต่ำกว่า $50 ต่อบาร์เรล ทั้งนี้ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานปรับตัวเพิ่มขึ้น 294K ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 298K แต่ก็ยังเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงสิ้นปีที่ลงมาแถวระดับ 285K
- ยอดสั่งซิ้อสินค้าของเยอรมันปรับตัวลดลง –2.4% จากที่คาดการณ์ –0.8% และเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 2.9% เป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ส่วนอัตราว่างงานของเยอรมันกลับลดลงสู่ระดับต่ำสุด ส่วนของอิตาลีปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดที่ 13.4% แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของพื้นฐานเศรษฐกิจระหว่างยูโรโซน
- ตลาดในวันนี้ให้ความสนใจไปยังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร Non farm payroll โดยตัวเลขคาดการณ์นั้นออกมาค่อนข้างน้อยลงกว่าเดือนก่อนหน้ามากที่ระดับ 241K จาก 321K ต้องมาดูว่าจะออกมาตามนี้หรือไม่หากออกมาจริงน่าจะได้เห็นทองคำปรับตัวสูงขึ้นได้อีก ตอนนี้ค่าเงินดอลลาร์อยู่ระดับสูงสุดในรอบ 9 ปีต้องใช้ความระมัดระวังให้มาก
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20.30 USD
Non-farm employment change 241K 321K
Unemployment rate 6.6% 6.6%
Average hourly earning 0.2% 0.4%
08 มกราคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 8 ม.ค. 2558
08 มกราคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 8 ม.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 8-1-58
เเนวรับ 1209 1205 1200 เเนวต้าน 1220 1225 1230
ราคาทองคำในภาพวันนั้นยังอยู่ในช่วงของ Uptrend ไม่ได้เสียรูปไปแต่อย่างใด ทั้งนีผลการประชุม FOMC เมื่อวานนี้ยังคงใช้คำว่า Patient อยู่คือ อดทน หลายฝ่ายจึงคาดว่าอย่างต่ำต้องมาดูผลการประชุมตอนเดือน มีนาคม และ เมษายน ว่าจะมีทีท่าอย่างไร และอัตราเงินเฟ้อในระดับที่ต่ำ FED กลับไม่ได้กังวลมากอย่างที่เรากังวลกันนัก โดยให้ความเห็นว่า น่ากังวลเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ ในวันนี้มองว่า ราคาจะย่อพักตัวลงมาต่ออีกเล็กน้อย บริเวณ 1205-1207 หลังจากหลุดแนวรับ 1213 มา แต่ยังมองเป็นการลงเพื่อขึ้น ตลาดหุ้นรีบาวน์ขึ้นมาเล็กน้อย ขณะที่เจอแรงขายในตลาดพันธบัตรมาส่วนหนึ่ง ก็มองเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับทองคำคือลงเพื่อพักตัวเท่านั้น
ตลาดหุ้นไทยรีบาวน์ขึ้นมาแรงเมื่อวานนี้ และแรงกว่าที่คาดการณ์ ราคาปิดไปยืนอยู่บนระดับ 1500 พอดี โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวขึ้นไปสู่ระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน สำหรับต่างชาตินั้น ขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยอีก 2658 ล้านบาท และ Long สุทธิเพิ่มอีก 4752 สัญญา จากการที่รีบาวน์ขึ้นมาแรงนั้นมองว่า อาจจะเจอการย่อตัวก่อน ทั้งนี้ยังไม่หลุด Downtrend ได้ ค่าเงินบาทยังคงแกว่งตัวอยู่ระดับ 32.80-33.00 ยังไม่มีทิศทางที่ออกมาชัดเจนมากนัก
ทางเลือกหลัก : มองราคาลงมาระดับ 1205-1207 จากนั้นหาสัญญาณการปรับตัวขึ้นต่อ
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1200 ลงมามองว่าอาจจะทำให้ภาพรวมของการขึ้นเสียไป
รายละเอียด
- ผลการประชุม FOMC เมื่อคืนที่ผ่านมาพบว่า ที่ประชุม FED ยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย ยังคงใช้คำว่า Patient ซึ่งประเมินได้ว่าเฟดจะยังคงอดทนต่อการขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อยไปจนถึงการประชุมครั้งหน้าอีก 2 ครั้ง และให้ความเห็นว่า อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงจากราคาน้ำมันดิบนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเป้าหมายการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ระดับนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ส่งผลกระทบอะไรมากนักแต่ก็ยังมีบางคนที่กังวลตรงนี้อยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้วคาดว่าน่าจะได้เห็นเงินเฟ้อของอเมริกาปรับตัวสูงขึ้นตามทิศทางการจ้างงานที่ดีขึ้น และ ราคาน้ำมันดิบที่สะท้อนระดับต่ำไปแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ที่ประชุมกังวลกันคือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ค่อนข้างเปราะบาง
- ตัวเลข ADP การจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 241K จากเดือนก่อนหน้า 227K และเป็นการเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่คาดการณ์ ปกติข่าวนี้จะทำให้ทองคำผันผวนในทางใดทางหนึ่งจากนั้นจึงจะวิ่งกลับมาที่เดิม เมื่อวานนี้เลยได้เห็นทองคำลงไปเล็กน้อยก่อนที่จะกลับมาเท่าเดิมก่อนประกาศข่าว ส่วนตัวเลข Trade balance ปรับตัวลดลงเป็นการขาดดุลน้อยลงจากส่งออกที่ถึงแม้ลดลง แต่การนำเข้าลดลงมากกว่า โดยมองไปที่การนำเข้าน้ำมันดิบที่ลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นหลัก ข่าวสองข่าวนี้เป็นปัจจัยลบกับราคาทองคำ
- ตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซนออกมาหดตัว –0.2% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงปี 2009 ถือว่ายูโรโซนเข้าสู่สภาวะเงินฝืด (Deflation) ไปแล้วในช่วงนี้ ซึ่งก่อนหน้ามีตัวเลข CPI ของเยอรมันพบว่าไม่ขยายตัว ยังไม่ถึงกับหดตัว แต่ของทั้งยูโรเข้าสู่การหดตัวแล้ว ตลาดคาดการณ์ต่อไปว่า ECB อาจจะต้องทำ Public QE ในการประชุมวันที่ 22 ม.ค.นี้ แต่ยังมีสิ่งที่น่ากังวลที่ ECB ต้องจับตาดูให้ดีคือ พันธบัตรอายุ 5 ปีของเยอรมันให้ Yield หรือดอกเบี้ยเป็นลบแล้ว หากทำ QE อีกไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร ส่วนอายุ 10ปีปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 0.24% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับอเมริกาที่ 1.9% ข่าวการทำ QE ของยูโรโซนรอบนี้ระยะสั้นอาจจะไม่ทำให้ทองคำลงแรงพรวดได้เนื่องจาก ตลาดได้สะท้อนไประดับหนึ่งแล้ว แต่ระยะยาวจะเป็นปัจจัยลบแทน แต่หากยังไม่มีการทำคงได้เห็นทองคำดีดขึ้นมาพร้อมกับเงินยูโรได้ระดับหนึ่งเช่นกัน
- กองทุน SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำ 0.42% สู่ระดับ 704.83 ตัน ทำระดับจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 6 ปี ซึ่งเป็นแรงขายออกมาเรื่อยๆ แรงขายจากพวกกองทุน ETP เหล่านี้ลดลงมากถึง 40% ในช่วงที่ผ่านมา
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20.30 USD
Unemployment claims 291K 298K
07 มกราคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 7 ม.ค. 2558
07 มกราคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 7 ม.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 7-1-57
เเนวรับ 1213 1210 1205 เเนวต้าน 1220 1225 1230
ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากพันธบัตรรัฐบาล 10 ปีของอเมริกาที่ปรับตัวสูงขึ้นผ่านแนวต้านไป ทำให้แรงซื้อมากระจุกตัวใน Safe-haven มากขึ้น และก็ที่คาดไว้ว่า 1260 ที่สะท้อนการเป็น Safe asset แนวต้านถัดไปของพันธบัตรรัฐบาลที่ขึ้นไปสูงสุดเมื่อกลางเดือน ธันวาคมปีที่แล้ว เทียบกับทองคำจะได้ระดับนั้นพอดี ในระยะสั้นถึงแม้ยังขึ้นต่อ แต่ยังมองว่า ราคาควรจะย่อตัวลงมาด้านล่างก่อนแนวรับแรกโดยประมาณที่1213 และ 1205 ที่เป็นแนวรับสำคัญตามลำดับ อาจจะกำหนดเป็นจุดซื้อก็ได้ เพราะ ตัวเลขข่าวในวันนี้เป็นลบกับทองคำ ไม่ว่าจะเป็นเงินเฟ้อทางฝั่งยุโรปที่คาดว่าจะไม่ขยายตัว และ ADP ที่คาดการณ์สูงขึ้น รวมทั้งผลการประชุม FOMC ที่ค่อนข้างผันผวน
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องอีก 3,956 ล้านบาท และเริ่มหันมา Short สุทธิในฟิวเจอร์ 1972 สัญญา เป็นวันแรกในรอบ 9 วันทำการ ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงมาช่วงเปิดตลาดเมื่อวานนี้ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับขึ้นไปโดยรวมแล้วปิด –5 ในวันนี้คาดว่า ดัชนีน่าจะรีบาวน์ขึ้นไปปิด GAP ที่เปิดลงมาได้ จากสัญญาณ Technical rebound ที่พบในกราฟรายชั่วโมงจึงมองว่า ตลาดหุ้นน่าจะฟื้นตัวได้ในช่วงนี้ แต่ยังมองการฟื้นตัวยังค่อนข้างจำกัดอยู่ ค่าเงินบาทแกว่งตัวในกรอบ 32.80-33.00 ทิศทางเริ่มแกว่ง
ทางเลือกหลัก : มองราคาเริ่มปรับตัวพักลงมาแถว 1205-1213 ทั้งโซนให้หาจังหวะเข้าซื้อ หากราคายังขึ้นต่อมองว่า ไม่คุ้มแล้วที่จะเสี่ยงซื้อตามขึ้นไป เพราะ ต้นทุนค่อนข้างสูงแล้ว มีที่น่าสังเกตุคือ ระดับราคา 1225 หากผ่านไปได้ จะเกิดการยืนยันการกลับตัวรูปแบบ Head and shoulder ซึ่งเป้าหมายอยู่เลย 1260 ไปหน่อย บริเวณใกล้ 1300
ทางเลือกรอง : หากราคายังขึ้นไม่หยุดจะมีแนวต้านสั้นๆบริเวณ 1225
รายละเอียด
- ภาพรวมตลาดต่างๆนั้นพบว่า เริ่มหันมาเป็นบวกกับทองคำมากขึ้น โดยประเด็นหลักตอนนี้เริ่มจาก ความกังวลของกรีซที่ออกจะออกจากยูโรโซน และ ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง (มีทั้งข้อดีและข้อเสีย) ทำให้เงินไหลไปกองอยู่พันธบัตรอายุ 10 ปีหมด ซึ่งจากที่ตลาดคาดการณ์กันว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้และพันธบัตรอายุ 10 ปีน่าจะมี Yield อยู่ที่ประมาณ 3% แต่ล่าสุด Yield กลับปรับตัวลดสวนทางลงมาล่าสุดแตะระดับ 1.8% เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ Yield curve ยังเป็นลักษณะที่เป็นโค้งขึ้นหรือค่อนไปทาง Flat บ่งบอกถึง เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอยู่ และคาดว่า FED จะยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ตามเดิม แต่สเกลการขึ้นอาจจะลดน้อยลงเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่คาดว่าจะอยู่ในระดับต่ำจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง
- สถานการณ์ในกรีซตอนนี้พบว่า เยอรมัน และ ฝรั่งเศส ยังคงกำลังประเมินความเสี่ยงหากกรีซต้องออกจากยูโรโซน ซึ่งสาเหตุที่กรีซอาจจะต้องออกจากยูโรโซน คือ พรรคฝ่ายค้านไซลีซ่า (Syriza) มีแนวโน้มจะได้รับเสียงส่วนใหญ่ และ ชูนโยบายไม่รับความช่วยเหลือจากทรอยก้า (Troika) นักวิเคราะห์ต่างประเทศประเมินว่า พรรค Syriza ใช้ข้อต่อรองในการผ่อนผันการชำระหนี้โดยการขู่ว่าจะออกจากยูโรโซนแต่ความเป็นไปได้ในการทำจริงอาจจะต้องมาประเมินกันอีกครั้ง เพราะว่า จะเกิดผลเสียกับทั้งกรีซเเละยูโรโซนเอง
- ราคาน้ำมันดิบที่ตกลงมาต่อเนื่องนั้นมีสาเหตุจาก ซาอุดิอาระเบียผู้ส่งออกน้ำมันดิบอันดับ 1 ของโลก ยังไม่ยอมลดกำลังการผลิต นาย Abdullah (Saudi’s king) ได้กล่าวว่า ประเทศพร้อมจะรับมือกับความท้าทายท่ามกลางราคาน้ำมันดิบราคาต่ำโดยเป็นความตั้งใจของบริษัทที่จะทำอย่างนี้ (with a Firm will)
- ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลดลงท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก VIX index ที่เป็นดัชนีวัดความผันผวนปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเมื่อวานนี้ และอยู่ในแนวโน้มในทางขึ้น บ่งบอกถึง ความกังวลที่มีมากในตลาดหุ้น ประเด็นหลักมาจากเรื่องน้ำมันดิบที่ลงแรง บ่งบอกถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และ แรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงาน เพราะ จะทำให้ Valuation ของกลุ่มนี้แย่ลงไปในทันที แต่จริงๆแล้วราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงนั้นเป็นผลดี ต่อทั้งการบริโถคของประชาชนต้นทุนการทำอะไรต่างๆที่ลดลง
- แรงขายออกมาจาก SPDR ค่อนข้างมาก 0.42% สู่ระดับ 707.82 ตันระดับต่ำสุดใหม่ในรอบ 6 ปี
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
17.00 EUR
CPI Flash Estimate 0.0% 0.3%
20.15 USD
ADP non-farm employment change 227K 208K
2.00 USD
FOMC Meeting minutes
06 มกราคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 6 ม.ค. 2558
06 มกราคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 6 ม.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 6-1-58
เเนวรับ 1200 1190 1180 เเนวต้าน 1210 1215 1220
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในวันที่ผ่านมา และเมื่อมาดูแล้วพบว่า การที่ทองคำขึ้นมานี้เป็นการโยกเงินไปสู่ Safe-asset โดยมีมุมมองดังนี้ ตอนนี้เงินยูโรปรับตัวลดลงต่ำมากจากการกังวลกรีซ พร้อมทั้งตลาดหุ้น ซึ่งโดยปกติแล้วเมื่อเงินยุโรลงมาทองคำจะต้องลงมาด้วยจากการที่ดอลลาร์แข็งตัวเลขเศรษฐกิจดี แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป สถานการณ์ไปเกิดที่กรีซ ตลาดหุ้นตกแรง และเงินดอลลาร์ก็ยังแข็งอยู่ เพียงแต่เกิดการโยกเงินไปพันธบัตรและทองคำเพื่อรองรับวิกฤติมากขึ้น จึงเป็นผลทำให้ทองคำจะยังได้รับปัจจัยบวกจากตรงนี้ ระยะสั้นยังมองช่องว่างให้ขึ้นต่อไปยัง 1210 ตามเป้าหมายวันก่อนหน้า และคาดว่าจะยังทรงตัวอยู่ระดับสูงไปสักพักก่อนที่จะลงต่อ แนวรับระยะสั้น 1200
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1847 ล้านบาท แต่ยัง Long สุทธิในฟิวเจอร์อีก 3989 สัญญาเป็นวันที่ 8 ติดต่อกัน จาก Sentiment ในทางลบที่อเมริกาและยุโรปส่งมาคาดว่าวันนี้ SET น่าจะซึมไปอีกวัน (เปิดตลาด –16 จุด) และยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวเท่าไรนัก มีแนวรับสำคัญอยู่บรืเวณ 1450 ระดับตอนนี้ใกล้กับที่ลงมา 100 จุดในช่วงปลายปีที่แล้ว ค่าเงินบาททิศทางยังคงอ่อนค่าแต่ต้องดูเงินดอลลาร์ประกอบด้วย ทั้งนี้ในปีที่แล้วเงินบาทถือว่าอ่อนค่าน้อยมากเมื่อเทียบกับภูมิภาคและสกุลอื่นคู่ค้าดอลลาร์
ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นต่อไปยัง 1210 โดยมีแนวรับระยะสั้นแถวบริเวณ 1200
ทางเลือกรอง : แนวรับ 1200 ทำหน้าที่เป็นเส้นแนวโน้มที่ราคา Breakout ออกมา จุดซื้อที่ดีจะอยู่บรืเวณ 1200 หากราคาปรับตัวลดลงเกินกว่า 1200 มองว่าแนวโน้มอาจจะไม่ผ่านขาขึ้นและจะปรับตัวลดลง แต่มองการปรับตัวลดลงเป็นจังหวะซื้อ เพราะ มองการลดลงไม่มาก
รายละเอียด
- ประเด็นหลักเมื่อวานนี้น้ำมันดิบปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องอีกร่วม 5% ระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขาย ไปซื้อกันที่ระดับต่ำถึง $49 ต่อบาร์เรล เป็ครั้งแรกในรอบ 5 ปีครึ่ง และ หลายคนไม่คิดว่าจะได้เห็นราคาที่ต่ำกว่า $50 แต่ก็ได้เห็นเรียบร้อยแล้ว โดยมีปัจจัยหลักมาจาก การกังวลของการเติบโตเศรษฐกิจโลก ไม่ว่าจะเป็น เงินฝืดในยุโรป การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และ ญี่ปุ่น รวมถึง กำลังการผลิตและการส่งออกที่ยังอยู่ในระดับสูง ไม่ว่าจะเป็น รัสเซีย ซาอุดิอาระเบีย และ อิรัก ต่างส่งออกน้ำมันในปริมาณที่สูงและราคาที่ต่ำ จนเป็นสาเหตุให้ราคาน้ำมันดิบขาดปัจจัยบวกไปเลย และการที่อเมริกาสามารถลดการพึ่งพาพลังงานได้มหาศาลเป็นตัวเร่งอีกทางฝั่งหนึ่งเช่นกัน กลุ่ม OPEC นั้นต้องการที่จะให้ราคาน้ำมันดิบต่ำลงเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดของตนเองไว้ ถึงแม้การทำเช่นนี้จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีปัญหาก็ตาม ซึ่งการที่น้ำมันดิบลงมาขนาดนี้หลายคนมองว่าเป็นเกมส์ทางการเงินและไม่ใช่การลงที่เป็นธรรมชาติเท่าไรนัก
- ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลดลงแรงระดับ 300 จุดหรือคิดเป็น - 1.68% เมื่อวานนี้ จากความกังวลถึงสถานการณ์ของกรีซที่ดูแล้วพรรคฝ่ายค้านมีแนวโน้มจะได้รับตำแหน่งมากกว่า และ ส่งผลให้กรีซน่าจะต้องออกจากยูโรโซน และเมื่อดูทีท่าของเยอรมันก็พร้อมให้กรีซออกเช่นกัน โดยนายกรัฐมนตรีของเยอรมันได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เยอรมันเตรียมการรับมือกับการที่กรีซออกจะออกจากยูโรโซนเรียบร้อยแล้ว ประเด็นนี้ทำให้ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากการเป็น Alternative asset เนื่องจากเป็นการโยกเงินจากสินทรัพย์เสี่ยงมายังสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างชัดเจนช่วงนี้ ซึ่งมาดูแล้ว ตลาดหุ้นตก ตลาดน้ำมันตก เงินจึงไหลเข้าพันธบัตร และ ทองคำเป็นส่วนใหญ่
- สัดส่วนการถือ Bullish ในฟิวเจอร์และออพชันในตลาดทองคำเพิ่มสูงขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ และ เป็นการเพิ่มเป็นสองเท่านับจากเดือน พฤศจิกายน เป็นมุมมองที่ดีในตลาดทองคำช่วงนี้ ซึ่งมองว่า เมื่อดูแล้วในตอนนี้คงต้องดูพันธบัตรควบคู่กับทองคำหากเห็นแรงขายในพันธบัตรเมื่อไหร่ก็เริ่มทยอยขายทองคำได้ เนื่องจากในช่วงนี้ทองคำถูดจัดไว้ในลักษณะของ Safe haven ในทิศทางเดียวกันกับพันธบัตร
- SPDR เพิ่มสถานะการถือครองทองคำอีก 0.25% สู่ระดับ 710.81 ตัน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
10.00 USD
ISM non manufacturing index 58.2 59.3
05 มกราคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 5 ม.ค. 2558
05 มกราคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 5 ม.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 5-1-58
เเนวรับ 1190 1185 1180 เเนวต้าน 1200 1205 1210
หลังจากเปิดมาต้นปีพบว่า ราคาทองคำยังคงอยู่ใกล้กับระดับก่อนปิดปีที่แล้ว ระหว่างทางได้มีการขึ้นลงอยู่ในกรอบประมาณ $40 ระหว่าง $1165-1210 จากข่าวบวกและลบสลับกันไป แต่ท้ายสุดแล้ว แนวโน้มทางฝั่งขึ้นเริ่มได้เปรียบขึ้นมาเล็กน้อย เพียงแต่ ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี ตัวนี้คาดว่าจะเป็นปัจจัยกดดันได้ จึงมองว่า การขึ้นนั้นเป็นไปเพียงระยะสั้นโดยมีแนวต้าน 1200 และ 1210 ที่เป็นจุดสูงสุดเดิมที่ทำไว้ในปีที่แล้ว ส่วนแนวโน้มคาดการณ์ในปี 2015 นี้หลายคนมองว่า ตลอดทั้งปีสินค้าคอมโมดิตีนั้นจะค่อนข้างทรงตัวถึงปรับตัวลดลง ทางฝั่งขึ้นแรงๆนั้นจะเสียความได้เปรียบไป ท่ามกลางตรีมการขึ้นดอกเบี้ยของอเมริกา
ตลาดปิดไปในช่วงสิ้นปีด้วยปริมาณการซื้อ-ขายที่ค่อนข้างเบาบาง ปิดไปที่ระดับ 1498 ซึ่งหย่อนจาก 1500 ลงมาเล็กน้อย สำหรับปีนี้ทิศทางระยะสั้นยังไม่ค่อยชัด แต่หลายคนคาดว่าน่าจะเป็นปีที่เหนื่อยสำหรับตลาดหุ้นไทย ท่ามกลางตรีมของการขึ้นดอกเบี้ยของอเมริกา รวมถึง GDP ต่างๆก็โดนปรับลดลงมาหมด ต้องมาดูว่า จะฟื้นตัวได้หรือไม่ แนวต้านจิตวิทยา 1500 แต่ยังมองว่า ยังดูไม่ค่อยดีเท่าไรสำหรับ SET index ค่าเงินบาทผ่าน 33.00 มาได้มองการอ่อนค่าขึ้นไปต่ออีก
ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นไปต่ออีกถึงระดับ 1200-1210 โดยจุดนั้นเป็นจุดที่น่าขายทำกำไรแล้ว จากปัจจัยต่างๆที่เป็นลบกับทองคำ เพียงแต่ระยะสั้นทองคำได้ส่งสัญญาณ Technical rebound ขึ้นมา
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ตัวเลขเศรษฐกิจของอเมริกาทยอยออกมาเรื่อยๆในช่วงหยุดวันปีใหม่ของบ้านเรา เพียงแต่ข่าวนั้นมีทั้งบวกและลบทำให้ราคาแกว่งตัวไปมาไม่ค่อยเคลื่อนไหวไปไหนมากนักโดยรวมยังอยู่ที่ระดับเดิมใกล้กับราคาปิดสิ้นปี แต่ระหว่างทางค่อนข้างผันผวนรุนแรงในกรอบ $40 บริเวณ $1160-1200 ในปีนี้บทวิเคราะห์จากหลายฝ่ายก็มองว่า ทิศทางของสินค้าคอมโมดิตีจะทรงตัวถึงปรับตัวลดลงไปอีก 1 ปี โดยมีปัจจัยหลักมาจาก การจะมาจากของการขึ้นดอกเบี้ยของอเมริกาที่มองว่า หลังกลางปีนี้เป็นต้นไป ต้องติดตามข่าวนี้ให้ดีในปีนี้ ทางฝั่งตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ในวันที่ 31 ธันวาคม 2557 พบว่าปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 298K จากสัปดาห์ก่อนหน้า 281K ตัวเลขยอดบ้านรอปิดการขายปรับตัวดีขึ้น 0.8% จากเดือนก่อนหน้า –1.2% และมีตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่ราคาน้ำมันดิบก็ยังปรับตัวลดลงสู่ระดับ 5 ปีครึ่งที่ $52/บาร์เรล และจากนั้นในวันที่ 2 มกราคมได้มีข่าวตัวเลข ISM-PMI ออกมาที่ระดับ 55.5 จากเดือนก่อนหน้า 58.7 ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงพอสมควร แต่ก็ยังอยู่ในระดับสูง และระดับที่สูงกว่า 50 ก็มองว่า เป็นสัญญาณที่ดี
- ตัวเลขต่างๆของอเมริกาที่ออกมานั้นค่อนข้างดี ถึงแม้จะมีชะลอตัวลงไปบ้าง แต่ผลลัพธ์ คือ ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่องในช่วงวันหยุดสู่ระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี จากการคาดการณ์ว่าตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีนั้นจะทำให้ FED ขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ ประกอบกับปัญหาของยูโรโซนที่ส่งมาจากปีก่อนหน้า ซึ่งปีนี้เป็นปีที่น่าติดตามมากสำหรับฝั่งยูโรโซน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องระหว่างยูเครนกับรัสเซีย การเลือกตั้งของกรีซที่จะมีในวันที่ 25 มกราคมนี้ (เยอรมันได้ออกมาให้สัมภาษณ์อย่างไม่เป็นทางการลงสื่อถึงเรื่องราวเกี่ยวกับกรีซว่า นับตั้งแต่วิกฤติกรีซรอบก่อนเมื่อ 2012 เยอรมันก็ได้หาทางรับมือกับการที่กรีซออกจากยูโรโซนได้ และ ผลกระทบในรอบนี้เยอรมันคาดว่าจะสามารถจัดการได้) นอกจากนี้ยังมีเรื่องการทำ QE ของยูโรโซนที่ค่าเงินยูโรเปิดต้นปีมาปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1.18 เมื่อเช้านี้เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 ปีนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2006
- ทางฝั่ง Physical market ของอเมริกา ยอดขายเหรียญทองคำ ลดลง 70% ในเดือนธันวาคม และเมื่อนับรวมทั้งปีแล้วยอดขายทั้งปีลดลง 39% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในปีนี้ก็คาดว่าแรงซื้อ Physical จะค่อนข้างชะลอตัวลงตามทิศทางของราคาที่มีแนวโน้มจะอ่อนตัวลง
30 ธันวาคม 2557
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 30 ธ.ค. 2557
30 ธันวาคม 2557 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 30 ธ.ค. 2557
แนวทางทองคำวันที่ 30-12-57
เเนวรับ 1178 1175 1170 เเนวต้าน 1190 1195 1201
ราคาทองคำปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้ไปถึงระดับ 1178 ท่ามกลางเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า มีแรงสนับสนุนบางส่วนเข้ามาจาก Physical ของจีนที่เปิดเผยว่า การนำเข้าของจีนจากฮ่องกงปรับตัวดีขึ้นมากสุดนับตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ ซึ่งคาดว่าหากราคาปรับตัวลดลงแรงๆมาอีกคงได้เห็นตัวนี้มาช่วยสนับสนุนราคาทองคำ ส่วนในวันนี้มองว่าราคาจะรีบาวน์ขึ้นเล็กน้อยไปที่ระดับ 1190 บวกลบนิดหน่อย จากนั้นจะลงต่อไปยังระดับ 1170 และช่วงสี่ทุ่มตามเวลาบ้านเราจะมีประกาศตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่คาดว่าจะออกมาดีขึ้นและเป็นลบกับทองคำ ในวันนี้จะเป็นวันทำการวันสุดท้ายของตลาดทองคำบ้านเรา ขณะที่ช่วงหลังปีใหม่ตลาดเมืองนอกเปิดปกติต้องใช้ความระมัดระวัง
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 925 ล้านบาท และ Long สุทธิเป็นวันที่ 6 อีก 6,090 สัญญา เมื่อวานนี้ SET ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 1500 และปิดตลาดไปแบบไม่สวย เพียงแต่การปรับตัวลดลงเป็นไปด้วยวอลุ่มที่เบาบางคาดว่าจะเป็นการขายทำกำไรออกมาช่วงสิ้นปี ขณะที่ข่าวตัวเลขเศรษฐกิจก็ออกมาไม่ดี ทั้งเป้าการขยายตัวปีหน้าและเป้าส่งออกต่างโดนปรับลดหมด ค่าเงินบาทอ่อนเข้าใกล้ระดับ 33.00 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงด้วย หากผ่านแนวต้าน 33.00 ขึ้นไปมองอ่อนอีก
ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นไปบริเวณ 1190 ก่อนที่จะปรับตัวลดลงมาสู่ 1170
ทางเลือกรอง : ราคาผ่าน 1195 ไปได้ มองว่า Breakout ขาขึ้นได้แนวโน้มจะวิ่งไปที่ 1200 อีกรอบหนึ่ง
รายละเอียด
- ผลการเลือกตั้งของกรีซยังไม่สามารถเลือกตั้งได้สำเร็จ และคาดว่าจะเกิดการเลือกตั้งครั้งต่อไปในวันที่ 25 มกราคม ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่า กรีซน่าจะเป็นปัญหาแรกๆในปีหน้าที่เราจะได้เจอกันว่าจะส่อเค้ามีวิกฤติหรือไม่ เนื่องจากกระแสตอนนี้คาดว่า พรรค Syriza จะได้เข้ามาดำรงตำแหน่งแทน ซึ่งการมาดำรงตำแหน่งของพรรค Syriza นั้นมีแนวโน้มที่จะเน้นประชานิยม ไม่ชอบรัดเข็มขัดแบบที่รัฐบาลปัจจุบันทำอยู่ ซึ่งจะทำให้ผิดเงื่อนไขการช่วยเหลือของทรอยก้าที่ให้วงเงินกู้แก่กรีซ ต้องมิตดตามกันว่า จะเป็นอย่างไร จะเกิดเป็นวิกฤติกรีซ2015 อีกครั้งเหมือนช่วงปี 2011 หรือไม่
- น้ำมันดิบปรับตัวลดลงเล็กน้อยมาซื้อ-ขายกันที่ระดับ 53 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี จากนั้นได้มีแรงซื้อรีบาวน์ขึ้นมาท่ามกลางการคาดการณ์ว่า สต๊อกน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้าคาดว่าจะออกมาน้อยลง เนื่องจากข้อมูลของ EIA และ API ได้เปิดเผยว่า สต๊อกน้ำมันดิบของอเมริกาในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงโดยเฉลี่ย 900000 บาร์เรล ระดับราคาน้ำมันดิบที่ระดับนี้ส่งผลกระทบในทางลบแก่ผู้ผลิตน้ำมันทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นซาอุดิอาระเบียผู้ที่ยืนกรานว่าจะไม่ลดกำลังการผลิตถึงแม้ราคาจะถึง 40 เหรียญต่อบาร์เรลก็ตาม และลิเบียที่ล่าสุดมีเหตุการณ์รุนแรงทำให้โรงกลั่นต้องปิดตัวลงก็ยังสามารถผลิตน้ำมันดิบได้ถึงวันละ 128,000 บาร์เรล และประเทศก็ได้พบกับปัญหาวิกฤติทางการเงินจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงเช่นเดียวกัน
- ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่ตลาดหุ้น S&P500 และ Russell 2000 กลับปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ซึ่งตัว S&P500 ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 53 ในปีนี้ นำโดยหุ้นกลุ่ม Utilities และเนื่องจากดาวโจน์มีกลุ่มพลังงานที่มากทำให้ดัชนีปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบ
- ค่าเงินยูโรปรับตัวลดลงเกินกว่าระดับ1.216 ที่เป็น Low เดิมและมุ่งหน้าสร้าง Low ใหม่อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันซื้อ-ขายกันที่ระดับต่ำสุดในรอบ 28 เดือนหรือเกือบสองปีครึ่ง จากการกังวลถึงการเลือกตั้งของกรีซและคาดว่าในปีหน้าหากมี QE เต็มรูปแบบค่าเงินคงลดได้กว่านี้อีก ซึ่งเมื่อมาดูงบดุลของ ECB พบว่า ยังมีที่ว่างให้ขยายได้อีกพอสมควรและคาดว่าจะเห็นเงินยูโรงลงไปซื้อ-ขายที่ระดับต่ำกว่า 1.20
- การนำเข้าทองคำของจีนจากฮ่องกงปรับตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
22.00 USD
CB Consumer confidence 94.6 88.7
29 ธันวาคม 2557
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 29 ธ.ค. 2557
29 ธันวาคม 2557 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 29 ธ.ค. 2557
แนวทางทองคำวันที่ 29-12-57
เเนวรับ 1186 1180 1175 เเนวต้าน 1201 1205 1215
ราคาทองคำได้รับปัจจัยบวกให้ปรับตัวขึ้นค่อนข้างแรงในวันศุกร์จากการคาดการณ์ถึงนโยบายทางการเงินของจีนที่ให้ธนาคารพาณิชย์สำรองเงินสดสำหรับการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น รวมถึง การปิดสถานะ Short หรือการทำ Short-covering ท่ามกลางปริมาณการซื้อ-ขายที่เบาบาง ที่ทำให้ราคาปรับตัวขึ้นมา มองว่า การขึ้นนั้นถึงแม้จะยังพอไปต่อได้แต่เริ่มจำกัดแล้ว จากปัจจัยต่างๆที่ไม่มีปัจจัยบวก และยังมีช่องว่างตอนที่ราคาเปิดกระโดดช่วงวันคริสมาต์มาที่บริเวณ 1175 จึงมองว่า หลังจากขึ้นแล้วราคาจะลงไปปิด GAP ต่อด้านล่าง ทางที่ดีในช่วงนี้คือหาจังหวะขายที่แนวต้าน แต่เนื่องจากใกล้วันหยุดยาวแล้ว สภาพคล่องและการติดตามตลาดอาจจะต้องนำปัจจัยเหล่านี้มาประกอบด้วย
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกอีกเล็กน้อย 51 ล้านบาท และยัง Long สุทธิในฟิวเจอร์ต่อเนื่องอีกเป็นวันที่ 5 จำนวน 2,400 สัญญา เมื่อมาดูแล้วต่างชาติยังไม่ได้มี Long สุทธิสะสม เพียงแต่เป็นการปิดสถานะ Short เท่านั้น ในปีนี้เหลืออีก 2 วันจะหมดปี ซึ่งอาจจะเห็นการทำ Window dressing ได้ ตัวนี้อาจจะเป็นตัวพยุงดัชนี แต่ข่าวตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาไม่ค่อยดีเท่าไร ปรับประมาณการณ์ GDP และส่งออกลงในปีหน้า ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวในกรอบ 32.70-33.00 มีแนวต้านสำคัญ 33.00
ทางเลือกหลัก : ยังมองว่า ราคามีช่องว่างให้ขึ้นได้อีกเล็กน้อย แต่ยังมี GAP ช่องว่างรอปิดอยู่บริเวณ 1175 และจากข่าวที่น้อยประกอบกับปัจจัยบวกที่เบาบางจึงมองว่า ทางขึ้นอาจจะไม่ยาวนัก
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงพอสมควรเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมารวมๆแล้วขึ้นไปเกือบ $21 โดยสื่อต่างประเทศพาดไว้ว่าเป็นการทำ Short-covering ท่ามกลางปริมาณการซื้อ-ขายที่ค่อนข้างเบาบางในวันหยุดเทศกาลวันคริสมาสต์ การทำ Short-covering เป็นการปิดสถานะ Short ที่เคยเปิดไว้ก่อนหน้าโดยจะทำการซื้อคืน ทำให้มีแรงซื้อเข้ามา และ ท่ามกลางสภาพคล่องที่น้อยการทำลักษณะนี้จึงทำให้ราคาขึ้นมาแรง ประกอบกับ การคาดการณ์ถึง ประเทศจีนที่อาจจะมีการดำเนินนโยบายการเงินเพื่อเพิ่มเงินในธนาคารสำหรับการปล่อยกู้และการลงทุนเพื่อประคองเศรษฐกิจจีน ข่าวนี้ทำให้มีการคาดการณ์เกี่ยวกับนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเหมือนช่วงที่จีนลดดอกเบี้ยและราคาขึ้นมาแรง เพียงแต่สิ่งที่น่ากังวลคือ แล้วที่ขึ้นมานั้นจะอยู่ได้นานไหม เพราะ เกิดจากการปิดสถานะท่ามกลางปริมาณการซื้อ-ขายที่เบาบางเท่านั้น
- กองทุน SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำลงอีก 0.08% ในวันศุกร์คงเหลือการถือครองที่ระดับ 712.30 ตัน ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีแสดงให้เห็นถึงมุมมองของคนในตลาดยังคงไม่ดีนัก
- ราคาน้ำมันดิบค่อนข้างทรงตัวอยู่แถวระดับ 55-57 เหรียญต่อบาร์เรล ไม่มีข่าวอะไรใหม่ในตลาดน้ำมันดิบ จึงทำให้ราคาค่อนข้างนิ่งไปอีกสักพักหนึ่ง ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ที่ยังอยู่ในระดับใกล้จุดสูงสุด ทำให้เป็นแรงกดดันราคาทองคำในช่วงนี้
- ประธาน Germany’s Bundesbank ได้ให้สัมภาษณ์ในหน้าหนังสือพิมพ์ว่า เศรษฐกิจยักษ์ใหญ่อันดับ 1 ในยุโรปอย่างเยอรมันจะเติบโตได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ในปีหน้า และสถานการณ์ในยุโรปจะไม่เลวร้ายตามที่คนอื่นคิดกัน และกล่าวว่า ท่ามกลางน้ำมันดิบที่ลดลงนั้นจะทำให้เงินเฟ้อในยูโรโซนต่ำลงแต่จะไปเพิ่มการเติบโตให้สูงขึ้นนอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ถึง QE ยุโรปในปีหน้า
- ธปท (ธนาคารแห่งประเทศไทย) ได้ออกมาปรับลดการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยลงทั้งปีนี้และปีหน้าจากการประมาณการณ์ครั้งก่อนในปี 2014 นี้คาดว่าจะขยายตัว 0.8% จาก 1.5% ส่วนในปีหน้าคาดว่าจะขยายตัว 4.0% จากเดิม 4.8% โดยมีสาเหตุหลักมาจากการส่งออกที่น้อยลง ซึ่งในปีนี้คาดว่าการส่งออกจะหดตัว 0.5% ในปีนี้และในปีหน้าคาดว่าจะขยายตัวเพียง 1% จากเดิมที่มองไว้ที่ 4%
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
ALL
EUR Greek Presidential Elections
26 ธันวาคม 2557
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 26 ธ.ค. 2557
26 ธันวาคม 2557 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 26 ธ.ค. 2557
แนวทางทองคำวันที่ 26-12-57
เเนวรับ 1170 1165 1150 เเนวต้าน 1185 1188 1192
ราคาทองคำเปิดกระโดดขึ้นมาหลังจากวันหยุดคริสมาสต์เมื่อวานนี้ ท่ามกลางข่าวสต๊อกน้ำมันในลิเบีย และ ข่าวการซื้อทองคำของรัสเซีย เป็นการเปิดกระโดดแบบมี GAP ไว้ที่ โซน 1175 มองว่า ราคาจะต้องลงไปปิดในเร็วๆนี้ แต่ระยะสั้นจากการกระโดดขึ้นมายังพอให้น้ำหนักทางฝั่งขึ้นมีอยู่บ้างซึ่งราคามาหยุดอยู่บริเวณแนวต้าน 1183-1185 หากผ่านไปได้จะมีช่องว่างขึ้นอีก $5 หรือมากกว่านั้นไประดับแถว 1290ทั้งนี้ข่าวบวกยังไม่มี การขึ้นแรงๆคงเป็นไปได้ค่อนข้างยาก ประกอบกับ ใกล้วันหยุดยาวแล้ว รวมถึงมมีช่องว่างที่บริเวณ 1175 จากการที่ราคาเปิดกระโดดขึ้นมา ต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควร ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย ท่ามกลางแนวโน้มแข็งค่า
ปริมาณการซื้อ-ขายในตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ค่อนข้างเบาบาง แต่ดัชนีปรับตัวลดลงถึง 20 จุด ระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขาย ปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1500 จุดจากนั้นมีแรงซื้อกลับเข้ามาได้ ยังคงมุมมองที่ว่า ตลาดน่าจะแกว่งตัวออกข้างไปสักพักหนึ่ง หลังจากช่วยวันหยุดยาว และนักลงทุนต่างรับรู้กำไรออกจากตลาดเพื่อเตรียมรับมือกับวันหยุดยาวที่จะมาถึง ในตลาดฟิวเจอร์ต่างชาติซื้อสุทธิเล็กน้อยหลัก 1000 ล้านบาท ทิศทางค่าเงินบาทมองว่า ราคายังคงแกว่งตัวในกรอบ 32.70-33.00
ทางเลือกหลัก : มองราคาน่าจะมีช่องว่างขึ้นไปอีกนิดหน่อยก่อนที่จะลงต่อไปปิด Gap ด้านล่าง
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- เมื่อวานนี้ตลาดปิดทำการเนื่องจากวันคริสมาสต์ ทำให้ข่าวต่างๆนั้นมีค่อนข้างน้อย ในวันก่อนมีตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์พบว่าปรับตัวลดลงอีกสู่ระดับ 280K จากเดิม 289K และคาดการณ์ 291K แสดงให้เห็นว่า การจ้างงานของอเมริกายังคงปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับต้นปีนั้นจำนวนคนขอรับสวัสดิการว่างงานอยู่ระดับเกินกว่า 300K เป็นส่วนใหญ่ จนมาถึงสิ้นปีระดับคนขอรับสวัสดิการปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับแถว 280-290K เกือบทุกสัปดาห์
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 56 เหรียญต่อบาร์เรล หลังสต๊อกน้ำมันของลิเบียได้รับความเสียหายจากจรวด แต่ข้อมูลล่าสุดในสัปดาห์ที่แล้ว สต๊อกน้ำมันดิบของอเมริกายังอยู่ในระดับสูงสุดในเดือนธันวาคมนี้ จากโรงกลั่นที่ยังคงกำลังการผลิตไว้คงเดิม ประกอบกับการนำเข้าน้ำมันดิบของอเมริกา ในระยะสั้นคาดว่า ราคาน้ำมันดิบกำลังสร้างฐานอยู่บริเวณนี้ และแนวโน้มไปในทางทรงตัวถึงปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยบวกกับทองคำเล็กน้อย
- สถานการณ์ในรัสเซียล่าสุด ค่าเงินรูเบิลแข็งค่ามายังระดับ 52 รูเบิลต่อดอลลาร์ จากการเข้าแทรกแซงของธนาคารกลาง และ มุมมองในทางบวกที่จีนจะเข้ามาช่วยเหลือ ประธานาธิบดีปูตินได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า วิกฤติค่าเงินรูเบิลนั้นจบแล้ว ? ก็เป็นคำถามตามสื่อต่างประเทศ ว่าจบแล้วจริงหรือ เพราะ เงินทุนสำรองของรัสเซียปรับตัวลดลงในช่วงนี้ร่วม 20% อัตราเงินเฟ้อที่สูงถึงระดับ 10.0% `และอัตราดอกเบี้ยที่ขึ้นไปถึง 17% พร้อมทั้ง S&P ที่จะเตรียมลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศรัสเซียลง แล้วให้มุมมองว่าพร้อมลดลงอีกในอนาคตเนื่องจาก เศรษฐกิจรัสเซียไม่มีเสถียรภาพ ทั้งนี้หากโดนลดเครดิตลงอีก รัสเซียอาจจะมีดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอีกจากความเสี่ยงเรื่องการผิดนัดชำระหนี้ที่มากขึ้น หลายฝ่ายจึงสงสัยว่า วิกฤติในรัสเซียจบแล้วจริงหรือ และล่าสุดมีข่าวว่าประธานาธิบดีปูตินได้สั่งให้สำรองทองคำเพิ่มขึ้น 19 ตัน รายละเอียดยังไม่เปิดเผย
- ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ในเดือน พฤศจิกายน ออกมา –0.6 จากเดิม 0.4 และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8 อัตราเงินเฟ้อก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำ จึงทำให้มุมมองของนักลงทุนมองว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่นขึ้นมานั้นยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก
24 ธันวาคม 2557
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 24 ธ.ค. 2557
24 ธันวาคม 2557 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 24 ธ.ค. 2557
แนวทางทองคำวันที่ 24-12-57
เเนวรับ 1170 1165 1150 เเนวต้าน 1185 1188 1192
ราคาทองคำค่อนข้างทรงตัวถึงปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้ หลังจากประกาศตัวเลข GDP รอบสุดท้ายออกมาดีขึ้นสู่ระดับ 5% ส่งผลให้ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวเกินกว่าระดับ 18000 เป็นครั้งแรก และค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าที่สุดในรอบ 9 ปี แต่ราคากลับทรงตัวอยู่ในกรอบ ในวันนี้จะมีกรอบแนวรับ 1170-1172 กรอบแนวต้าน 1180-1183 ราคาคาดว่าจะทรงตัวในกรอบก่อน แต่ฝั่งลงยังคงได้เปรียบกว่า กรณีผ่าน 1183 ขึ้นไปก่อน ก็ยังมองว่า ราคาจะสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้ แต่ไม่เยอะ และด้วยน้ำหนักของข่าวที่น้อยลงประกอบกับวันหยุดช่วงคริสมาสต์อาจจะทำให้ราคามีความผันผวนมากขึ้นหรือน้อยลงก็ได้ เพราะ สภาพคล่องที่หายไปสามารถทำราคาได้ง่ายขึ้น
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 613 ล้านบาท และยังคง Long สุทธิในฟิวเจอร์อีก 4,773 สัญญา สวนทางกับกองทุนในประเทศที่เริ่มสะสม Short เมื่อวานนี้ SET ปรับฐานลงมาจากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน วันนี้มองว่า อาจจะมีการดีดขึ้นในช่วงแรกจากการรับข่าวดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 18000 จุด และลุ้นให้ไปปิด GAP ที่ประมาณ 1550-1560 ก่อนที่จะหยุดช่วงปีใหม่ ต้องมาดูกันว่า แรงส่งจะมีมากพอหรือไม่ แต่ดัชนียังอยู่ในแนวโน้มของการรีบาวน์ ค่าเงินบาททิศทางทรงตัวถึงอ่อนค่า
ทางเลือกหลัก : มองราคาแกว่งตัวในกรอบแคบ กรอบแนวรับ แนวต้าน 1172-1183 ด้วยปัจจัยข่าวที่เริ่มเบาบาง จากนี้ไปคงได้เห็นราคาแกว่งตัวในกรอบแคบๆ แต่น้ำหนักในทางลงยังมีมากกว่า
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1183 ขึ้นไปอาจจะทำให้ขึ้นไปได้อีกนิดหน่อย
รายละเอียด
- ตัวเลข GDP ไตรมาส 3 รอบสุดท้ายของอเมริกาออกมาที่ระดับ 5% จากตรวจทานครั้งก่อน 3.9% และคาดการณ์ 4.3% ตัวเลข GDP ที่ออกมาระดับนี้ถือว่าขยายตัวมากสุดในรอบ 11 ปีแต่ละครั้งของการตรวจทานพบว่าปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆในแต่ละเดือนแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอเมริกาที่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าทำจุดสูงสุดในรอบ 9 ปีเช่นเดียวกัน ส่งผลให้น้ำมันดิบรีบาวน์ขึ้นมาสู่ระดับ 57 เหรียญต่อบาร์เรล และมองว่าราคาน้ำมันดิบน่าจะเริ่มสร้างฐานแถวนี้ได้ เพราะ สต๊อกน้ำมันดิบในช่วงที่เหลือคาดว่าจะปรับตัวลดน้อยลง ประกอบกับประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบคาดว่าจะมีการส่งออกที่น้อยลงอาจจะทำให้ Supply ลดลงบ้างก็ได้ ส่วนตลาดหุ้นอเมริกาหลังจากรับข่าว GDP ก็ได้ปรับตัวขึ้นผ่านจุดสูงสุดที่ 18000 จุดเป็นครั้งแรก (All-time high) ถึงแม้เมื่อเทียบเป็น % นั้นไม่ค่อยเยอะ แต่แนวต้านจิตวิทยาเลขกลมๆนั้นค่อนข้างมีผลกับตลาด และ ดาวโจนส์สามารถเคลียร์ไดเวอเจ๊นในภาพรายสัปดาห์ได้แล้วด้วย ส่งผลให้ตลาดหุ้นอเมริกายังมีน้ำหนักในทางบวกต่อไป ซึ่งเมื่อวานนี้ทองคำกลับปรับตัวลดลงไม่แรงนัก
- ตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนหดตัว –0.7% จากเดือนก่อนหน้า 0.3% และคาดการณ์ 3% ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนแบบไม่รวมหมวดยานพาหนะหดตัวเช่นเดียวกัน –0.4% จากเดือนก่อนหน้า –1.1% ดัชนีคาวเชื่อมั่นผู้บริโภคแบบตรวจทานออกมาลดลงเล็กน้อยเหลือ 93.6 จากเดิม 93.8 และคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคแบบตรวจทานลดลงเหลือ 2.8% จาก 2.9% นอกจากนี้ตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ปรับตัวลดลงเหลือ 438K จากเดิม 445K ส่วนอัตราเงินเฟ้อ PCE ที่เฟดใช้ตัวนี้ในการดำเนินนโยบายทางการเงินออกมาไม่ขยายตัว 0.0% จากเดือนก่อนหน้า 0.2% ข่าวที่ออกมากลุ่มนี้ค่อนข้างผสมกัน
- ปัญหาของกรีซเริ่มมีมากขึ้นหลังจาก นายกกรีซไม่ได้รับการสนับสนุนให้เป็นนายกรอบต่อไป แสดงถึงความกังวลถึงความวุ่นวายของกรีซหากรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้บริหารประเทศต่อ เพราะ อีกฝ่ายหนึ่งมีทีท่าที่จะไม่สนใจเงินช่วยเหลือจากกลุ่ม Troika และอาจทำให้ข้อตกลงเรื่องการกู้ยืมเงินกันมีปัญหาได้ ทั้งนี้หากวันที่ 29 ธค.นี้ไม่ได้รับการโหวตถึง 180 จาก 300 เสียงจะต้องทำการยุบสภาและเลือกตั้งในอีก 10 วัน
- S&P ปรับลดแนวโน้มเครดิตรัสเซียเป็นลบ จากความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤติทางการเงิน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20.30 USD
Unemployment claims 291K 289K
23 ธันวาคม 2557
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 23 ธ.ค. 2557
23 ธันวาคม 2557 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 23 ธ.ค. 2557
แนวทางทองคำวันที่ 23-12-57
เเนวรับ 1170 1165 1150 เเนวต้าน 1185 1188 1192
หลังจากเมื่อวานที่มองว่าให้ระมัดระวังการปรับตัวลดลง ราคาก็ได้ปรับตัวลดลงมาหลังจากค่อนข้างนิ่งตลอดทั้งวันท่ามกลางเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าและตลาดหุ้นดาวโจนส์ที่ปรับตัวสูงขึ้นใกล้ระดับสูงสุด ตลาดหุ้นช่วงนี้ได้เกิดสัญญาณกลับตัวแบบ V-shape หลายรอบ ในปีนี้มี 3-4 ครั้ง คือ ลงแรงอยู่ช่วงหนึ่งจากนั้นก็ขึ้นแรงกลับมา และแต่ละครั้งที่ขึ้นกลับมามักจะทำ New-high ซึ่งราคาทองคำได้รับปัจจัยลบจากตรงนี้พอสมควร ในวันนี้มองการปรับตัวรีบาวน์ขึ้นไป ถึงบริเวณ 1185 จากนั้นมองการปรับตัวลดลงต่อ โดยมีแนวรับ 1150 และ 1130 แต่ในขณะเดียวกันการลงก็ยังมองการลงยังไม่เยอะเท่าไรนัก และต้องดูปัจจัยเรื่องสภาพคล่องในช่วงนี้ประกอบด้วย
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,306 ล้านบาท ขณะที่หันไป Long สุทธิในฟิวเจอร์อีก 7,424 สัญญา และที่น่าจับตาคือ เริ่มขายสุทธิในตราสารหนี้ ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาระดับหนึ่ง เงินบาทยังมีทิศทางที่เริ่มแกว่งตัวออกข้างกรอบแนวรับและแนวต้านอยู่ระดับ 32.70-33.00 ทิศทางตลาดค่าเงินก็น่าจะเบาบางจากเทศกาลวันหยุดคริสมาสต์ที่จะถึง ตลาดหุ้นไทยยังมีแรงซื้อเข้ามาเรื่อยๆ ยังมี GAP ที่รอปิดอยู่บริเวณ 1550 อยู่ แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังมากแล้ว กองทุนเริ่มสะสม S เรียบร้อยเป็นสัญญาณเตือนที่ดี
ทางเลือกหลัก : มองราคารีบาวน์ขึ้นไปถึงระดับ 1185-1190 แต่รอบรีบาวน์นั้นจะไปหยุดตรงไหนก็ได้ จากนั้นมองการปรับตัวลดลงต่อ แต่การปรับตัวลดลงก็ยังมองเป็นไปอย่างจำกัดและยังไม่น่าหลุด Low เดิม
ทางเลือกรอง : ราคายืน 1190 ได้ จะทำให้เกิดแท่งเทียนแบบทิ่มแทงเป็นสัญญาณชะลอตัวลง
รายละเอียด
- กระแสเรื่องน้ำมันดิบยังคงมีต่อเนื่อง ล่าสุด UAE ได้ออกมากล่าวอีกครั้ง ถึงการที่อยากให้ประเทศนอกกลุ่ม OPEC ลดกำลังการผลิตน้ำมันส่วนเกินเพื่อลดอุปทานของน้ำมันลงเพราะ เมื่อมาดูแล้วประเทศในกลุ่ม OPEC นั้นมีกำลังการผลิตที่คงที่มาตลอด ส่วนซาอุดิอาระเบียก็ออกมากล่าวว่า ถึงแม้ประเทศนอกกลุ่ม OPEC จะลดดำลังการผลิตลง แต่กลุ่ม OPEC ก็จะไม่ทำตาม ความเห็นมุมมองเรื่องนี้ส่วนใหญ่มองไปในทางที่ว่า กลุ่มประเทศ OPEC ไม่ได้ต้องการส่วนแบ่งทางด้านราคาแต่ต้องการส่วนแบ่งตลาด หลังจากเทคโนโลยี Shale oil ของอเมริกาออกมาทำให้อำนาจการกำหนดราคาของกลุ่มโอเปคลดลง
- ประเด็นที่ต่อมาจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงคือ การคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจที่มากขึ้น ในปีหน้าคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง 0.7% อ้างอิงจาก IMF และราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงแรงจะสร้างความไร้เสถียรภาพให้แก่ระบบการเงินโลก ผ่านค่าเงินของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและประเทศผู้นำเข้าน้ำมัน รวมถึงส่งผลกระทบต่อกลุ่มหุ้นพลังงานทั่วโลก โดยคาดการณ์กันในปีหน้าว่า จีน และ อเมริกาซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมันในระดับสูงจะได้รับประโยชน์จากตรงนี้
- ยอดขายบ้านมือสองปรับตัวลดลง 4.93M จากเดือนก่อนหน้า 5.25M และคาดการณ์ 5.20M เป็นการปรับตัวลดลงทั้งเดือนก่อนหน้าและคาดการณ์
- จีนได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือรัสเซียแล้ว หลังจากกระแสคาดการณ์และจับตาดู ว่าจีนจะเข้ามามีบทบาทในวิกฤติรัสเซียครั้งนี้หรือไม่ ล่าสุดจีนได้ออกมาดำเนินมาตรการ Swap ค่าเงินหยวนเป็นไปในลักษณะของการปล่อยกู้วงเงิน 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากก่อนหน้านั้นจีนได้ช่วยเหลือแก่เวเนซูเอล่า และ อาร์เจนตินา ทำให้ล่าสุดค่าเงินรูเบิลกลับมาแข็งค่าในระยะสั้นมากขึ้น ไปซื้อ-ขายกันที่ระดับ 54 ส่วนตลาดหุ้นรัสเซียก็ได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเมื่อวานนี้
- เทรดเดอร์ทางฝั่งเมืองนอกอ้างอิงจาก CNBC กล่าวว่า ระดับราคาที่ปรับตัวลดลงมาเกินกว่า $1192 จะทำให้เกิดแรงขายตามมาในทาง Technical อีกระลอกหนึ่ง
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20.30 USD
Final GDP 4.3% 3.9%
Durable goods orders 3.0% 0.3%
21.55 USD
Revised Consumer sentiment 93.5 93.8
22.00 USD
New home sales 461K 458K
Core PCE price index 0.1% 0.2%