09 กุมภาพันธ์ 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 9 ก.พ. 2558
09 กุมภาพันธ์ 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 9 ก.พ. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 9-2-58
เเนวรับ 1229 1220 1214 เเนวต้าน 1242 1248 1255
ราคาทองคำปรับตัวลดลงแรงในวันศุกร์หลังจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาดีขึ้น และปัจจัยลบต่างๆที่เริ่มออกมา มองว่า ในวันนี้จะมีรีบาวน์ไปยังระดับ 1240-1245 จากนั้นยังให้น้ำหนักทางฝั่งปรับตัวลดลงต่อ ซึ่งการปรับตัวลดลงไปจนถึงระดับ 1220 นั้นต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควร เนื่องจากเป็นที่อยู่ของแนวรับหลายแนว และ ทิศทางภาพใหญ่ที่ยังบ่งบอกว่าอยู่ในช่วงขึ้นสั้นๆ โดยมีจุดเปลี่ยนระยะสั้นที่1214 หากราคายังยืนอยู่อยู่บนนี้ก็ยังมีน้ำหนักทางฝั่งขึ้นได้อยู่ในอนาคต เพียงแต่หากการปรับตัวลงลึกมานั้นจะทำให้ภาพรวมต้องชะลอการขึ้นและแกว่งตัว Sideways แถวบริเวณนี้ไปอีกสักพักหนึ่ง สำหรับค่าความผันผวนในตลาดทองยังค่อนข้างสูง
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,758 ล้านบาท และหันกลับมา Long สุทธิในฟิวเจอร์ 1,499 ล้านบาท มุมมองของ SET ยังปรับตัวขึ้นต่ออีก ท่ามกลางปัจจัยลบที่มีค่อนข้างมากอย่างตัวเลขส่งออกของจีนที่ลดลงและกรีซที่ยังเจรจาไม่สำเร็จ แต่ก็ยังมีปัจจัยบวกอย่างราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเมื่อวานที่ผ่านมา ค่าเงินบาททิศทางยังมองว่าแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 32.50-32.65 ซึ่งทิศทางแข็งค่าในวันนี้มองว่าได้เปรียบกว่าเล็กน้อย แต่การแข็งค่ายังมองเป็นไปอย่างจำกัดที่ระดับ 32.50 ก่อน
ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นไป 1240-1245 ก่อนจะปรับตัวลดลงต่ออีกครั้งหนึ่ง แต่การปรับตัวลดลงรอบนี้อยากให้ใช้ความระมัดระวังมากขึ้นแล้ว เพราะเป็นโซนของแนวรับแล้ว
ทางเลือกรอง : ราคาลงต่อเลย จะเจอแนวรับที่ 1229
รายละเอียด
- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาเมื่อวันศุกร์พบว่า ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ แต่ยังน้อยกว่าเดือนก่อนหน้า เป็นผลทำให้ตลาดทองคำปรับตัวลดลงมาค่อนข้างแรง ส่วนตัวเลขอัตราว่างงานปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 5.7% จาก 5.6% ในเดือนก่อนหน้าโดยเหตุผลของอัตราว่างงานที่เพิ่มขึ้นเป็นเรื่องของการที่แรงงานกลับเข้ามา Labor force มากขึ้น นอกจากนี้รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.5% จากเดือนก่อนหน้าหดตัว –0.2% และคาดการณ์ 0.3% กลุ่มชุดข่าวตัวเลข NFP ในเดือนนี้พบว่าออกมาเป็นลบกับทองคำพอสมควร
- ราคาน้ำมันดิบรีบาวน์ขึ้นแรงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 9% ในช่วงระยะ 1 สัปดาห์นับเป็นสัปดาห์ที่ดีที่สุด (ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง) นับตั้งแต่ปี 2011 จากข่าวเรื่องการปิดหลุมเล็กๆขุดเจาะลงเนื่องจากไม่คุ้มต้นทุน นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องความขัดแย้งของประเทศลิเบียและตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ออกมาดีสนับสนุนทองคำให้ขึ้นมาในช่วงนี้
- การส่งออกของจีนปรับตัวลดลง –3.3% ในเดือนมกราคมเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่วนตัวเลขนำเข้าหดตัวแรง 19.9% ส่งผลให้ดุลการค้าของจีนเกินดุลค่อนข้างมากในเดือนที่ผ่านมา การนำเข้าที่หดตัวลงเป็นผลมาจากสินค้าประเภทคอมโมดิตีอย่างน้ำมันดิบและถ่านหินทองคำได้รับปัจจัยบวกจากข่าวนี้เพียงบางส่วน
- กองทุน Hedge funds ลดสถานะ Long ในทองคำลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ ข้อมูลจาก CFCT เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงทิศทางของกองทุนที่เริ่มชะลอตัวฝั่งขึ้นบางส่วน แต่ทางฝั่งกองทุน SPDR พบว่า ยังคงเก็บทองคำเพิ่มเรื่อยๆในช่วงนี้
- ธนาคารกลางของอิตาลีปรับประมาณการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจอิตาลีในเดือน มค.ขึ้นเป็น 0.5% จากรอบก่อนที่ประมาณไว้ที่ 0.4% ได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง และมาตรการ QE ของ ECB และในปีหน้าคาดว่าอิตาลีจะเติบโตที่ระดับ 1.5% จากการประมาณการณ์ครั้งก่อน1.2%
- S&P ปรับลดเครดิตของกรีซลงสู่ระดับ ขยะ (B-) หลังจากการเจรจายังยืดเยื้อ และนาย Tsipras ก็ยังยืนยันไม่ปฎิบัติตามแผนช่วยเหลือ ส่วน Greenspan ให้ความเห็นว่า ยังไงกรีซก็จะต้องออกจากยูโรโซน
06 กุมภาพันธ์ 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 6 ก.พ. 2558
06 กุมภาพันธ์ 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 6 ก.พ. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 6-2-58
เเนวรับ 1265 1260 1255 เเนวต้าน 1280 1285 1305
เมื่อวานนี้ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อยแต่โดยรวมแล้วยังอยู่ในกรอบของการแกว่งตัวบริเวณ 1260+ - ซึ่งระยะสั้นก็ยังมองมุมเดิมและคิดว่าจนกว่าตัวเลข NFP (Non-farm payroll) จะออกมาในคืนนี้เวลา 20.30 ตัวเลขคาดการณ์เบื้องต้นนั้นเป็นบวกกับทองคำ ไปในทิศทางเดียวกันกับแนวโน้มของค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนค่าลงมา เพียงแต่ ปัจจัยอื่นอย่าง ตลาดหุ้นที่ผ่านแนวต้านมา และยังมีช่องว่างให้ขึ้นต่ออีก และในตลาดทองคำเองที่ยังดูเหมือนจะยังลงไม่สุด (เป้าหมาย 124X) ก็ทำให้ภาพรวมยังคงไม่ชัดเจนเท่าไรนัก สำหรับระยะสั้นมองว่า จะยังลงไปทดสอบบริเวณแนวรับอีกรอบหนึ่ง กรณีราคาที่ผ่าน 1280-1285 ไปได้นั้นจะเริ่มมองขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 107 ล้านบาท และยัง Short สุทธิในตลาดฟิวเจอร์อีก 5,232 สัญญา ส่วนต่างระหว่างตัว SET50 และฟิวเจอร์เริ่มปรับตัวลู่เข้าหากันมากขึ้น ระดับ SET ที่ 1600 ตเองให้ระมัดระวัง นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า ระดับนี้ยังไม่เหมาะกับพื้นฐานในตอนนี้ Trialing PE ปัจจุบันอยู่ที่ระดับประมาณ 19 เท่า ต้องมาดูกันว่า ตลาดจะรับข่าวเหล่านี้หรือไม่ ส่วนทิศทางค่าเงินบาทยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบระหว่าง 32.50-32.65 ยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน ในเบื้องต้นมองแข็งค่าลงเล็กน้อย
ทางเลือกหลัก : มองราคาแกว่งตัวในกรอบ แต่ฝั่งลงได้เปรียบกว่าเล็กน้อย และอย่าลืมความผันผวนที่จะตามมาในคืนนี้ด้วย
ทางเลือกรอง : ราคาที่หลุด1280-1285 ขึ้นไป มองว่าราคาจะเริ่มอีกครั้ง
รายละเอียด
- ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องอีกกว่า 1% หลังจากราคาน้ำมันดิบค่อนข้างทรงตัวแต่ในการทรงตัวแถวระดับนี้นั้นมีความผันผวนเกิดขึ้นค่อนข้างมาก รวมถึงสถานการณ์ในกรีซที่เริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อย ทำให้ตลาดหุ้นได้รับข่าวบวกจากตรงนี้ ในตลาดน้ำมันคนส่วนใหญ่ยังมีมุมมองในทางลบและยังคงปรับประมาณการณ์เป้าหมายราคาน้ำมันที่ระดับประมาณ 30 เหรียญต่อบาร์เรลในช่วงสิ้นปีนี้ ระดับ 30 เหรียญต่อบาร์เรลนั้นเป็นระดับที่อยู่ในสมัยช่วงที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจปี 2008 สถานการณ์ในปัจจุบันพบว่า ตลาดค่าเงิน (Forex) มีความผันผวนที่มากที่สุดในรอบ 20 ปี จากธนาคารกลางต่างๆที่เหมือนจะทำ Currency war โดยการลดอัตราดอกเบี้ย และต้องติดตามจีนให้ดี เพราะ หากจีนเข้าร่วมสงครามค่าเงินครั้งนี้นั้นจะทำให้การบริโภคคอมโมดิตีของจีนที่ปัจจุบันมีสัดส่วนถึง 40% หดตัวลง และจะไม่เป็นผลดีกับสินค้าคอมโมดิตีเท่าไร
- จากสถานการณ์น้ำมันดิบที่ผันผวนนั้น บริษัทน้ำมันหลายบริษัทกำลังประสบปัญหา และมุมมองของคนในตลาดก็เริ่มแตกแยกกัน ล่าสุดสต๊อกน้ำมันดิบที่ออกมาเมื่อวานเป็นระดับที่มากที่สุดในรอบ 80ปี ย้อนกลับไปนับตั้งแต่ปี 1930 และดูเหมือนกำลังการผลิตของอเมริกาจะยังคงไม่ลดลงจนกว่าจะถึงช่วงปลายปี 2015 นี้ และ OPEC ก็ยังยืนยันที่จะไม่ลดกำลังการผลิต
- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ออกมาที่ระดับ 278K จากสัปดาห์ก่อนหน้า 267K และ คาดการณ์ 287K ส่วนตัวเลขดุลการค้าขาดดุลเพิ่มขึ้นหลังจากการส่งออกน้อยลงแต่การนำเข้ากลับเพิ่มสูงขึ้น ข่าวเหล่านี้เป็นปัจจัยบวกกับทองคำเล็กน้อยเมื่อคืนที่ผ่านมา
- อัตราเงินเฟ้อของรัสเซียพุ่งไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 15% เพิ่มขึ้นจาก 11.4% ในเดือนก่อนหน้าจากค่าเงินรูเบิลที่อ่อนค่าและการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง
- กรีซยังคงยืนยันจะไม่ร่วมมือกับ Troika ในการร่วมมือแก้ปัญหาส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ของกรีซจะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจาก ECB และล่าสุด ECB ก็ออกมากล่าวว่าไม่สามารถใช้พันธบัตรของกรีซเป็นสินทรัพย์ค้ำประกันได้แล้ว สถานการณ์ก็ดูเหมือนจะยังไม่โอเคเท่าไรนักสำหรับกรีซ
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยลดลงจากปีก่อนหน้าทั้งหมดออกมาที่ระดับ 80.4
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20.30 USD
Non farm employment change 236K 252K
Unemployment claims 5.6% 5.6%
Ave. Hourly earning 0.3% -0.2%
05 กุมภาพันธ์ 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 5 ก.พ. 2558
05 กุมภาพันธ์ 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 5 ก.พ. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 5-2-58
เเนวรับ 1265 1260 1255 เเนวต้าน 1280 1285 1305
ราคาทองคำปรับตัวลดลงมาแต่ยังไม่สามรถหลุดแนวรับ 1250-1260 ลงมาได้ และเกิดแรงรีบาวน์ขึ้น ในภาพวันยังมองราคาถูกกดดันจากแนวโน้มขาลงอยู่ และการขึ้นในช่วงนี้ดูเหมือนจะยังไม่มาก และระยะสั้นนี้มองการแกว่งตัวของราคาในกรอบ 1260-1280 ซึ่งกว่าจะมีทิศทางที่ชัดเจนคงต้องรอหลุดไปในทางใดทางหนึ่ง ซึ่งมองจากตรงนี้โอกาสเกิดพอๆกัน หากผ่านระดับ 1280-1285 มองไปทดสอบ 1305 อีกรอบหนึ่ง ค่าเงินดอลลาร์และยูโรเมื่อแล้วกลับกลายเป็นปัจจัยลบกับทองคำ เพราะค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่หากราคาปรับตัวลดลงเกินกว่า 1250-1260 มองว่าราคาจะเริ่มปรับตัวลดลงไปต่อไปยังแนวรับสำคัญบริเวณ 1240
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 2,436 ล้านบาท และ Long สุทธิ 2,866 สัญญา เป็นการปิดสถานะ Short ก่อนหน้าเกือบทั้งหมด ส่วนกองทุนยังคงเก็บสะสมสถานะ Short ไปเรื่อยๆ SET เมื่อวานเกิดแรงขายลงมาหลังจากปรับตัวขึ้นไปแรงในช่วงเช้าของการซื้อ-ขาย และมาปิดที่ระดับต่ำกว่า 1600 จุด ยังมี GAP ทางข้างล่างที่รอปิดอยู่ค่อนข้างมาก และราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงแรงคาดว่าอาจจะมีผลต่อดัชนีได้ ค่าเงินบาทยังคงแกว่งตัวในกรอบ 32.55-32.65 มองทิศทางอ่อนค่าได้เปรียบกว่า
ทางเลือกหลัก : มองราคาแกว่งตัวใต้แนวต้าน 1280 และยังมองในมุมลงได้เปรียบกว่าเล็กน้อยในช่วงนี้
ทางเลือกรอง : ราคาที่ผ่าน 1280-1285 ขึ้นไปจะทำให้เปิดแนวโน้มขาขึ้นขึ้นมาใหม่ในระยะสั้นนี้
รายละเอียด
- ตัวเลข ADP non-farm employment change ปรับตัวลดลงสู่ 213 K ขณะที่เดือนก่อนหน้า 253K และคาดการณ์ 224K หลังจากข่าวนี้ออกทำให้ทองคำปรับตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะเจอแรงขายลงมาในช่วงของการซื้อ-ขายเมื่อวานนี้ แต่โดยรวมแล้วราคายังคงผันผวนอยู่ในกรอบ 1260-1270 จากนั้นมีตัวเลข ISM ภาคบริการที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 56.7 จากเดิม 56.2 และคาดการณ์ 56.6 ข่าวตัวเลขเศรษฐกิจเหล่านี้ยังไม่มีนัยสำคัญกับราคาทองคำเท่าไรนัก นักลงทุนต่างติดตามตัวเลข Non-farm ในวันพรุ่งนี้แทน
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงแรงเมื่อวานนี้เกือบ 9% สู่ระดับการซื้อ-ขายที่ $48.50 ต่อบาร์เรล จากข่าว สต๊อกน้ำมันดิบที่เปิดเผยว่ายังมีการสต๊อกมาที่สุดเป็นสัปดาห์ที่ 4 ต่อเนื่องกันทั้งนี้ราคายังคงขึ้นจากระดับเดิมมาอยู่ที่ประมาณ 8% เมื่อเทียบกับจุดต่ำสุดก่อนหน้า ซึ่งราคาน้ำมันดิบที่ระดับต่ำนั้นได้ส่งผลต่อประเทศที่ส่งออกน้ำมันดิบสุทธิให้มีเศรษฐกิจแย่ลงไปอีก
- นักลงทุนหันไปจับตามองสถานการณ์ในกรีซหลังจาก ECB ไม่ยอมรับพันธบัตรกรีซเป็น Collateral หรือ สินทรัพย์ค้ำประกันในการเป็นสินทรัพย์สำรองสภาพคล่อง และในปัจจุบันกรีซอาจจะมีปัญหาการขาดสภาพคล่องในอนาคตหลังจากปฏิเสธการรับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมจาก Troika และอาจจะเริ่มขาดสภาพคล่องตั้งแต่ 25 กพ นี้ เป็นผลทำให้อาจจะต้องนำเงินภาษี เงินสะสมจากธนาคาร กองทุนประกันสังคมมาใช้ต่ออายุไปจนถึงต้นเดือนมีนาคม
- SPDR เพิ่มสถานะขึ้นอีกสู่ระดับ 24.69 ล้านออนซ์ และยังเป็นระดับที่สูงที่สุดนับจากเดือนตุลาคม
- ปัญหาเรื่องการผ่อนคลายทางการเงินยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง นับจากสวิสเซอร์แลนด์ ไปจนถึงสิงคโปร์ ระหว่างช่วงสิ้นปีจนถึงต้นปีนี้ธนาคารกลางแต่ละประเทศไม่ว่าจะเป็น อินเดีย สวิสเซอร์แลนด์ อียิปต์ เปรู เดนมาร์ค แคนาดา รัสเซีย และสิงคโปร์ต่างออกมาปรับลดอัตราดอกเบี้ยกันหมดเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเงินฝืดจากราคาน้ำมันดิบระดับต่ำ ล่าสุดเมื่อวานนี้ธนาคารกลางจีนประกาศลด RRR (Reserve require ratio) 0.50% สู่ระดับ 19.5% เป็นการตัดอัตราส่วนการสำรองสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์แรงที่สุดนับตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2012 และข่าวนี้เป็นบวกกับราคาทองคำ
ปัจจัยที่ต้องติตตาม
20.30 USD
Unemployment claims 287K 265K
04 กุมภาพันธ์ 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 4 ก.พ. 2558
04 กุมภาพันธ์ 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 4 ก.พ. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 4-2-58
เเนวรับ 1255 1250 1240 เเนวต้าน 1265 1270 1280
ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องอีก ไปหยุดที่ระดับแนวรับ 1250 และยังไม่หลุดลงไป ในระดับนี้มองการรีบาวน์ขึ้นไปเล็กน้อยถึงบริเวณ 1270 ที่เป็นแนวต้านเดิม แต่ยังมีมุมมองทางฝั่งลงต่อไปยังระดับ 1240-1250 ซึ่งจุดนั้นมองว่า เป็นจุดที่น่าเฝ้าระวังว่าจะมีแรงซื้อเข้ามาหรือไม่ ภาพรวมยังอยู่ในช่วงของการพักฐานในแนวโน้มขาขึ้นในภาพวัน สำหรับภาพรวมตลาดต่างๆ ยังมีปัจจัยไม่แน่ชัดไม่ว่าจะเป็น ค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่า และราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ปัจจัยลบคือ พันธบัตรที่ปรับตัวลดลง และ หุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้น ทิศทางจึงยังไม่ชัดเจนสำหรับด้านปัจจัยพื้นฐาน ในวันนี้จะมีประกาศตัวเลข ADP คาดการณ์เป็นบวกกับทองคำ
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 2,274 ล้านบาท และยังคงการ Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก 2,130 สัญญา เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นและในวันนี้ก็ได้รับปัจจัยบวกตัวนั้นอีก ส่งผลให้ SET ปรับตัวเกินกว่าระดับ 1600 และสามารถยืนอยู่ได้ ระหว่างทางได้เปิด GAP มาตลอดทาง ให้ระมัดระวังแรงขายทำกำไรที่จะตามมาจากคนที่ต้นทุนต่ำ ค่าเงินบาททิศทางเริ่มแข็งค่าลงมาที่ระดับ 32.50 อีกครั้ง หากไม่สามารถรับอยู่มองลงไปที่ระดับ 32.20
ทางเลือกหลัก :มองราคารีบาวน์ขึ้นไปเล็กน้อยถึงระดับ 1270 +- บริเวณนั้นจากนั้นมองลงต่อมายังระดับ 1240-1250
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นแรงเมื่อวานนี้บวกร่วม 300 จุด หลังจากราคาน้ำมันดิบรีบาวน์ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง นับจากช่วงสัปดาห์ก่อนหน้าราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นแรงกว่า 10% แล้ว จากการประท้วงของสหภาพแรงงานที่ใหญ่ที่สุดในรอบหลายปีหลังบริษัทน้ำมันต่างๆทยอยปรับลดต้นทุนจากน้ำมันดิบที่ทรงตัวระดับต่ำ รวมถึง Trader ที่มองว่าราคาได้เจอจุดต่ำสุดไปเรียบร้อยแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมาประกอบกับสถานะ Short ที่ค่อนข้างมากรอปิดอยู่เมื่อราคาดีดขึ้นจึงเป็นปัจจัยบวกตามมาด้วย
- ยอดคำสั่งซื้อสินค้าโรงงานของอเมริกาปรับตัวลดลง -3.4% จากเดือนก่อนหน้า –1.7% และคาดการณ์ –1.8% เป็นการปรับตัวลดลงน้อยกว่าเดือนก่อนหน้าและคาดการณ์เป็นปัจจัยบวกกับทองคำ แต่ข่าวนี้น้ำหนักของข่าวค่อนข้างน้อย และการปรับตัวลดลงเป็นผลมาจากกลุ่มของอาวุธ และเครื่องบิน
- กรีซเตรียมเจรจากับเจ้าหนี้ในกลุ่มยูโรโซนทั้งนี้การเจรจายังไม่มีแนวโน้มว่าจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ทางเยอรมันก็ยังยืนยันว่าจะไม่ยอมให้ขอผ่อนผันหนี้ ทางกรีซก็พยายามปรับตัวโดยหามาตรการต่างๆมาช่วย ทำให้สถานการณ์ในช่วงนี้เริ่มดูดีขึ้นมาสำหรับปัญหาของกรีซ
- S&P ปรับลดอันดับเครดิต 6 ธนาคารในยุโรปมีทั้งระยะสั้นและระยะกลางจากความช่วยเหลือในกรีณีที่เกิดวิกฤตินั้นยังเป็นไปอย่างจำกัด
- Sentiment ในตลาดทองคำนั้นพบว่าดีขึ้นหลังจาก SPDR ยังคงมีสถานะถือทองคำสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว ทั้งนี้เมื่อวานนี้กองทุนได้ขายทองคำออกเล็กน้อย
- ตอนนี้ทางฝั่งตลาดพันธบัตรมีข่าวถึงเรื่อง Negative bond yield หรืออัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรที่ติดลบ ในช่วงปีที่ผ่านมาพันธบัตรระยะสั้นของหลายประเทศไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น เยอรมัน ได้ให้ผลตอบแทนเป็นลบ (negative yield) จากมาตรการการผ่อนคลายทางการเงินของประเทศต่างๆ โดยเฉพาะ QE ของยุโรป และตัวนี้เองที่ทำให้ความกังวลในเรื่องของ Currency war เกิดขึ้นมา และเนื่องจากในปัจจุบันปัญหาเงินฝืดได้เกิดขึ้นในหลายประเทศจึงทำให้แนวโน้มของการลดดอกเบี้ยแรงขึ้นอีก จุดนี้ต้องติดตามเฝ้าระวังเนื่องจากการเกิด Currency war นั้นจะเป็นปัจจัยบวกกับราคาทองคำได้ในอนาคต
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20.15 USD
ADP non-farm employment change 224K 241K
22.00 USD
ISM Non-manufacturing PMI 56.6 56.2
03 กุมภาพันธ์ 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 3 ก.พ. 2558
03 กุมภาพันธ์ 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 3 ก.พ. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 3-2-58
เเนวรับ 1270 1265 1255 เเนวต้าน 1285 1295 1305
ทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยรวมแล้วก็ยังอยู่ในแนวโน้มของการพักฐานลงมาด้านล่าง ในวันนี้มองปรับตัวลดลงต่อไปยังระดับ 1260-1265 หากแรงขายยังแรงกว่านั้นมองไปยังแนวรับ 1250 ที่เป็นจุดต่ำสุดในรอบที่แล้ว อีกฝั่งหนึ่งกรณีที่ผ่าน 1285 ไปจะเป็นจุดเปลี่ยนแนวโน้มในระยะสั้นนี้และมองว่าราคาน่าจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นทดสอบระดับ 1305 อีกครั้งได้หากผ่าน 1285 ออกมา ทางฝั่งปัจจัยที่น่าติดตามอีกปัจจัยหนึ่งในช่วงนี้คือ ราคาน้ำมันดิบที่รีบาวน์ขึ้นมาร่วม 10% แล้ว ปกติราคาน้ำมันดิบจะมีผลกระทบกับทองคำในทิศทางเดียวกันในฐานะที่เป็นกลุ่มของ คอมโมดิตี้เหมือนกัน หากราคาน้ำมันดิบยังรีบาวน์ต่อมองว่าทองคำอาจได้รับปัจจัยบวก
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยเล็กน้อย 350 ล้านบาท แต่ไป Short สุทธิในฟิวเจอร์ค่อนข้างหนาแน่นถึง 9,733 สัญญา ทิศทาง SET มีรีบาวน์ช่วงก่อนปิดเมื่อวานนี้ต้องมาดูว่าแนวโน้มจะแข็งแรงไหมสำหรับรีบาวน์รอบนี้ เมื่อวานนี้ ธปท มีรายงานตัวเลขเงินเฟ้อพบว่าออกมาติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีกว่าที่ระดับ –0.4% จากราคาค่าไฟฟ้าที่ปรับตัวลดลง น้ำมันดิบที่ทรงตัวในระดับต่ำ และราคาอาหารบางส่วนที่ลดลงหากแนวโน้มยังเป็นเช่นนี้หลายเดือนให้ระวังเงินฝืด ค่าเงินบาทแข็งค่ามาถึง 32.50 แล้ว
ทางเลือกหลัก :มองราคาลงไปบริเวณ 1260-1265 อีกครั้ง
ทางเลือกรอง : ราคาหลุดกรอบแนวต้าน 1285 ขึ้นไปก็มองว่าเริ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
รายละเอียด
- ตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิต ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 53.5 จากเดือนก่อนหน้า 55.5 และคาดการณ์ 54.9 เป็นการปรับตัวลดลงน้อยกว่าที่คาดการณ์อีกเป็นผลมาจากคำสั่งซื้อที่ชะลอตัวลงแรง ส่วนตัวเลขเงินเฟ้อ PCE ไม่ขยายตัวจากเดือนก่อนหน้าตรงตามที่คาดการณ์แสดงให้เห็นถึงทิศทางอัตราเงินเฟ้อที่ยังหดตัว และ รายได้ส่วนบุคคลปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% เท่ากับเดือนก่อนหน้า ส่วนตัวเลขการใช้จ่ายกลับปรับตัวลดลง –0.3% จากเดือนก่อนหน้า 0.5% และคาดการณ์ –0.1% จากชุดข่าวเหล่านี้มองว่าเป็นปัจจัยบวกกับทองคำมากกว่า เพราะ ภาคการผลิตส่งสัญญาณชะลอตัวเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการใช้จ่ายส่วนบุคคลที่เป็นตัวผลักดันหลักของ GDP อเมริกา ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน
- รัฐสภาโอบามาเสนอร่างงบประมาณ 4 ล้านล้านดอลลาร์ต่อสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ มีแผนที่จะขึ้นภาษีนิติบุคคล และ เพิ่มภาษีให้แก่ผู้ที่มีรายได้สูง
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 50 เหรียญต่อบาร์เรล จากมุมมองของคนในตลาดที่มองว่า ราคาได้เจอจุดต่ำสุดแล้วหลังจากตกลงมาต่อเนื่อง 6 เดือนติดกัน ประกอบกับสัญญา Short ที่ค่อนข้างมากก่อนหน้าได้ถูกบังคับให้ปิดสถานะบางส่วนจากการปรับตัวขึ้นแรงและตามมาด้วย Short-covering ของคนที่มีต้นทุนที่สูง ถึงแม้ข่าวสต๊อกน้ำมันดิบของอเมริกาจะยังมีจำนวนมากอยู่ก็ตาม การฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบนั้นน่าจะมีผลกระทบในทางบวกต่อทองคำเนื่องจากเป็นสินค้าในกลุ่มของคอมโมดิตีเหมือนกัน และราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวในระดับสูงขึ้นนั้นทำให้ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นกว่า 1% ในช่วงท้ายของชั่วโมงกาซื้อ-ขาย ประกอบกับความกังวลเรื่องของสถานการณ์ในกรีซที่เบาบางลง
- ความกังวลในกรีซเริ่มเบาบางลงหลังมีข่าวออกมาว่า รัฐบาลกรีซจะยกเลิกแผนการลดหนี้จากอียูแล้ว โดยจะเปลี่ยนหนี้ให้เป็นพันธบัตร New growth—linked bonds และวางแผนที่จะดำเนินงบประมาณแบบเกินดุลรวมถึงางแผนภาษีใหม่
- SPDR เพิ่มสถานะการถือครองทองคำอีก และเป็นการเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม
- ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนปรับตัวลดลงสู่ระดับ 49.7 จากคาดการณ์ 49.8 และยังต่ำกว่าระดับ 50
02 กุมภาพันธ์ 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 2 ก.พ. 2558
02 กุมภาพันธ์ 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 2 ก.พ. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 2-2-58
เเนวรับ 1275 1270 1265 เเนวต้าน 1285 1295 1305
ราคาทองคำได้รับปัจจัยบวกเข้ามาหลังจากปรับตัวลดลงแรงระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขายในวันศุกร์ ปัจจัยบวกที่ได้คือ GDP ของไตรมาสที่ 4 ของอเมริกาออกมาน้อยกว่าไตรมาสก่อนหน้าและน้อยกว่าที่คาดการณ์ 2.6% VS 5.0% VS 3.0% แต่ภาพรวมยังอยู่ในแนวโน้มของการพักฐานอยู่ในภาพวัน แต่ภาพสัปดาห์สามารถปิดแบบสวยได้ คือ แนวโน้มในสัปดาห์นี้-สัปดาห์หน้ายังมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นต่อได้หลังจากการพักตัวเล็กน้อยก่อน ในระยะสั้นมองว่าราคายังอยู่ในกรอบของขาลงระยะสั้น โดยมีแนวต้านหรือจุดเปลี่ยนแนวโน้มที่ระดับ 1285 หากผ่านไปได้มองการขึ้นต่อไปทดสอบ 1305 ในทางกลับกันหากราคาไม่สามารถผ่านได้และลงผ่าน 1275 จะมองลงอีกครั้งหนึ่ง
ต่างชาติหันกลับมาขายสุทธิเป็นวันแรก 746 ล้านบาท และ Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก 2,037 สัญญา น้ำหนักของ SET ยังคงเป็นการปรับฐานแต่ภาพรายชั่วโมงยังเกิดเป็น Bull flag ต้องมาดูหากราคายังวนเวียนอยู่แถวนี้มีโอกาสรีบาวน์ต่อ แต่หากหลุดแรงๆก็จะทำให้รูปแบบ Bull flag ไม่มีนัยสำคัญ กลุ่มพลังงานคงสามารถพยุงดัชนีในวันนี้ระดับหนึ่งจากราคาน้ำมันดิบที่รีบาวน์ขึ้นมาแรงร่วม 8% ในวันศุกร์ก่อนที่จะย่อตัวลงเล็กน้อยช่วงเช้านี้ ค่าเงินบาททิศทางยังมีทิศทางแข็งค่าเล็กน้อยท่ามกลางแนวโน้มอ่อนค่า
ทางเลือกหลัก : มองราคาแกว่งใต้กรอบแนวต้าน 1285 ก็ยังให้น้ำหนักทางลง แต่ยังขาดสัญญาณยืนยันจากแท่งเทียน
ทางเลือกรอง : ราคาทะลุ 1285 ขึ้นไปมองไปทดสอบ 1305 อีกรอบหนึ่ง ซึ่งโอกาสเกิดในทางนี้ก็มีมากพอกับทางเลือกหลักในวันนี้
รายละเอียด
- ตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 4 รอบแรกของอเมริกาออกมาที่ระดับ 2.6% จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 5% และคาดการณ์ 3% ทำให้โดยรวมเศรษฐกิจของอเมริกาขยายตัวทั้งปีที่ระดับ 2.4% เทียบกับในปีก่อน (2556) ที่ 2.2% และที่โดดเด่นคือการบริโภคที่ขยายตัวถึง 4.3% นับเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ของปี 2549 แต่ GDP Deflator ซึ่งหักผลกระทบจากเงินเฟ้อแล้วก็ยังคงปรับตัวลดลงเช่นเดียวกันในไตรมาสนี้ ซึ่งหากมองเป็นไตรมาสนั้นจะพบว่าเป็นบวกกับทองคำค่อนข้างมาก แต่หากมองแนวโน้มภาพรวมการขยายตัวของอเมริกาทั้งปีพบว่า เป็นลบกับทองคำ แต่เนื่องจากมุมมองในระยะสั้นในตลาดจึงเลือกที่จะมองข่าวบวกในวันศุกร์มากกว่า
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer sentiment) ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2547 ออกมาที่ 98.1 จากระดับเดิม 93.6 จากปัจจัยเชิงบวกในฝั่งค่าจ้างและตลาดแรงงานที่ฟื้นตัวรวมถึงน้ำมันดิบที่ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำช่วงนี้
- รัสเซียลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือระดับ 15% จากเดิม 17% ซึ่งเป็นระดับสูงกว่าก่อนการขึ้นดอกเบี้ยในวันเดียวช่วงสิ้นปีที่ผ่านมาเล็กน้อย ส่งผลให้เงินรูเบิลอ่อนค่าลงแตะระดับ 70 รูเบิลต่อดอลลาร์อีกครั้งหนึ่ง เศรษฐกิจรัสเซียในตอนนี้ก็ยังมีปัญหา และมีข่าวมาว่ากระทบกับคอนโดแถบพัทยาที่ลูกค้ารัสเซียทิ้งใบจองค่อนข้างมากเพราะเงินรูเบิลที่อ่อนค่าลงครึ่งหนึ่งหมายความว่า คนรัสเซียจะต้องซื้อของแพงขึ้นอีกเท่าตัวหนึ่ง
- นายกกรีซ นาย Tsipras ได้ตกลงยอมเจรจาจ่ายเงินหนี้ให้แก่ Troika แล้วคาดว่ารายละเอียดคงจะเปิดเผยในภายหลังได้ในเร็วๆนี้หลังจากการหารือกับเจ้าหนี้ใหม่ทั้งหมด คาดว่าจะเรียบร้อยก่อนเดือนพฤษภาคม และ ECB จะต้องให้การช่วยเหลือสถาบันการเงินของกรีซด้วย
- อัตราเงินเฟ้อของทั้งยูโรโซนปรับตัวลดลง –0.6% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ที่ระดับ -0.5% และเดือนก่อนหน้า –0.2% ส่งผลให้ความกังวลเรื่องภาวะเงินฝืดในยูโรโซนยังคงมีมากขึ้น
- ราคาน้ำมันดิบรีบาวน์ขึ้นมา 8 % สู่ระดับประมาณ $47 ต่อบาร์เรลจากข่าวว่า บริษัทขุดเจาะในอเมริกาเริ่มยกเลิกการขุดเจาะหลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องประกอบกับเป็นวันซื้อ-ขายสุดท้ายของสัญญาฟิวเจอร์ในวันศุกร์จึงบทำให้มีการปิดสถานะบางส่วน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20.30 USD
ISM Manufacturing PMI 54.9 55.5
30 มกราคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 30 ม.ค. 2558
30 มกราคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 30 ม.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 30-1-58
เเนวรับ 1255 1245 1240 เเนวต้าน 1266 1273 1275
ราคาทองคำได้รับปัจจัยลบจากตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวดีขึ้น และ การกังวลการขึ้นดอกเบี้ยของอเมริกา ทำให้ปรับตัวลดลงมาถึงระดับ 1250 ในระยะสั้นนี้มองการรีบาวน์ขึ้นไปถึงบริเวณ 1270-1275 และยังให้มุมมองในการปรับตัวขึ้นเพื่อลงต่อ กรณีราคปิดวันนี้ยืนเหนือ 1275 ได้เท่านั้นจึงจะเริ่มมองว่าฝั่งลงหมดความได้เปรียบไป สำหรับเป้าหมายในการลงนั้นมองบริเวณ 1240-1250 ซึ่งตรงนั้นมองว่า ไม่น่ามีสถานะ Short แล้ว ภาพรวมยังเข้าสู่การพักฐานในแนวโน้มขาขึ้นภาพใหญ่ระยะวัน ในวันนี้จะมีการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 4 เป็นรอบแรกของอเมริกาแต่ตัวเลขคาดการณ์นั้นค่อนข้างเป็นบวกกับทองคำให้ใช้ความระมัดระวัง
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยอีก 755 ล้านบาท และกลับมา Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ แต่ยังเป็นจำนวนน้อยที่ 2892 สัญญา ยังมีมุมมองต่อการปรับฐานของ SET ลงมาที่ระดับ 1550 กระแสเงินทุนต่างชาติเริ่มเบาบางลง และในวันนี้จะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆของธนาคารแห่งประเทศไทย ค่าเงินบาททิศทางยังคงแกว่งตัวในกรอบแต่จากการที่อ่อนค่ามาเมื่อวานนั้นมองว่ามีน้ำหนักพอสมควร ในวันนี้มองเงินบาทแข็งค่าลงมาเล็กน้อยก่อนที่จะอ่อนค่าอีกในระยะกลาง
ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นไปทดสอบด้านบนบริเวณไม่เกิน 1275 จากนั้นมองปรับตัวลดลงต่อลงไประดับ 1240-1250
ทางเลือกรอง : ราคาขึ้นไปปิดเหนือ 1275 มองว่าแนวโน้มจะเริ่มเป็นกลางและแกว่งตัวออกข้าง
รายละเอียด
- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาปรับตัวลดลงค่อนข้างมากสู่ระดับ 265K (ต่ำสุดในรอบ 15 ปี) จากสัปดาห์ก่อนหน้า 308K และคาดการณ์ 301K สัปดาห์นี้คนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลดลงแรงค่อนข้างมากจากที่เคยบวกลบอยู่ประมาณ 10-20K แต่สัปดาห์นี้กลับปรับตัวลดลงถึง 36K ซึ่งเป็นปัจจับลบกับราคาทองคำค่อนข้างมาก ทางฝั่งเงินยูโรและดอลลาร์กลับไม่ได้ปรับตัวขึ้นลงรุนแรงเท่าไรนักเมื่อวานนี้ ส่วนตัวเลขยอดบ้านรอปิดการขาย (Pending home sales) หดตัว-3.7% จากเดือนก่อนหน้า 0.6% ตรงตามคาดการณ์ ข่าวนี้เป็นปัจจัยบวกับทองคำแต่น้ำหนักของข่าวที่น้อยกว่าตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ทำให้ราคาทองคำไหลลงมาตามข่าวตัวเลขจ้างงาน
- ทองคำปรับตัวลดลงค่อนข้างแรง 2% เมื่อคืนนี้หลังจากมีรีบาวน์เข้ามาในช่วงเช้า เป็นการปรับตัวลดลงรุนแรงที่สุดในรอบปีนี้หลังจากเปิดเดือนมกราคมมาราคาก็ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยจังหวะพักตัวนั้นค่อนข้างน้อย โดยมีสาเหตุจากความกังวลเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของอเมริกาที่จะถึงในช่วงกลางปี และนักวิเคราะห์จากต่างประเทศหลายคนก็ออกมาปรับเป้าทองคำลงต่ำกว่า $1200/Oz. ในปีนี้
- ตลาดติดตามตัวเลข GDP ที่จะออกมาในวันนี้ ซึ่งหลายคนมองว่าน่าจะดีขึ้นตามข้อมูลของ FED ที่บ่งบอกถึงเศรษฐกิจที่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งมากขึ้น แต่ตัวเลขคาดการณ์กลับออกมาลดลงจากเดิม 5% แต่คาดการณ์เหลือเพียง 3%
- การนำเข้าทองคำของอินเดียแซงประเทศจีนไปเรียบร้อยแล้วในปี 2014 ที่ผ่านมาจากข้อมูลการนำเข้าทองคำของจีนที่น้อยลง ซึ่งหลายฝ่ายประเมินว่า ราคาทองคำได้เป็นลักษณะแบบ Bottom out หรือ เจอจุดต่ำสุดไปแล้ว หลังจากราคาตกลงมาในช่วง 2 ปีนี้
- อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นชะลอตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ตัวเลข CPI ออกมาขยายตัว 2.5% ต่ำกว่าเดือน พย ที่ 2.7% นักวิเคราะห์ประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อในญี่ปุ่นน่าจะเข้าโซนติดลบอีกครั้งในปีนี้หลังจากราคาน้ำมันดิบยังปรับตัวลดลงต่อเนื่อง นอกจากนี้ตัวเลขเงินเฟ้อของเยอรมันหดตัว –1% จากคาดการณ์ -0.8% ตอนนี้ธนาคารกลางประเทศต่างๆทยอยลดดอกเบี้ยเรื่อยๆ ท่ามกลางความกลัวภาวะเงินฝืด
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20.30 USD
Advance GDP 3.0% 5.0%
Advance GDP Price index 0.9% 1.4%
22.00 USD
Revised consumer sentiment 98.5 98.2
29 มกราคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 29 ม.ค. 2558
29 มกราคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 29 ม.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 29-1-58
เเนวรับ 1277 1272 1266 เเนวต้าน 1290 1293 1305
ทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่อง และเมื่อวานนี้ไม่สามารถปรับตัวเกินกว่า 1293 ได้ และไหลลงต่อยังมองเป็นรูปแบบ Dead-cat อยู่ จะยืนยันเมื่อปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1272 ในวันนี้ ซึ่งระดับ 1272 นั้นมองว่าเป็นแนวรับสำคัญ ที่เป็นแนวที่สมควรจะทยอยปิด Short ยาวไปจนถึงระดับ 1260-1266 ภาพรวมยังคงอยู่ในช่วงปรับฐานจากการขึ้นมามาก และยังมองเป็นการพักตัวในช่วงของขาขึ้นเท่านั้น ยังไม่ลงไปเลย สำหรับจุดซื้อที่น่าสนใจจะอยู่บริเวณ 1240-1260 ต้องมาติดตามกันว่า จะไปถึงระดับนั้นได้เมื่อไหร่ ในระยะสั้นหากราคาขึ้นไปยืนเหนือ 1290 ได้ในวันนี้ คาดว่าแนวโน้มจะเปลี่ยนไป อาจจะหมดช่วงการพักฐานและปรับตัวขึ้นต่อไปยังระดับ 1305 ได้
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยอีกต่อเนื่องจำนวน 3,760 ล้านบาท ช่วงนี้หลังจากออก QE จะเห็นว่า ต่างชาติซื้อสุทธิต่อวันจำนวนมาก เป็นหลักพันล้านบาท 2-3 วันติดต่อกัน จริงๆแล้วเป็นผลดีกับ SET ซึ่งมีมุมมองแกว่งตัวอยู่แถวนี้สักพักหนึ่ง แต่ระยะสั้นก็ยังกังวลเรื่องการปรับฐานลงมาด้านล่างที่ 1550 ทิศทางค่าเงินบาทถึงแม้จะแกว่งตัวผันผวนอยู่ในกรอบแต่ก็ยังมองทิศทางแข็งค่าเริ่มได้เปรียบขึ้นมาในระยะสั้นนี้ ยังมองแนวรับไว้ระดับเดิมที่บริเวณ 32.50 เมื่อวานนี้ กนง คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม
ทางเลือกหลัก : มองราคาลงไปต่อเนื่องด้านล่างไปยังระดับ 1270 และอาจมีต่ำกว่าไปจนถึง 1260-1265 ระดับราคาแถวนั้นมองว่าคนที่มี Short น่าจะทยอยปิดได้แล้ว
ทางเลือกรอง : ราคาขึ้นไปเกินกว่า 1290 จะทำให้มุมมองเปลี่ยนไปและมีโอกาสสูงที่ราคาจะเริ่มขึ้นต่อ
รายละเอียด
- ผลการประชุม FOMC เมื่อวานนี้ FED ยังคงใช้คำจำกัดความเดิมคือ ยังคง Patient หรืออดทนในการขึ้นดอกเบี้ยต่อไป เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง อัตราว่างงานลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อระยะสั้นคาดว่าจะยังอยู่ในระดับต่ำไปอีกสักพักหนึ่งจากราคาน้ำมันดิบที่ไหลลงสู่ระดับ $45 ต่อบาร์เรล แต่ในระยะยาวนั้นคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับไปที่ระดับ 2% ตามเป้าหมายของ FED ได้ สำหรับความเสี่ยงที่เจอในตอนนี้คือ ความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกที่การเติบโตยังคงเปราะบาง FED จึงยังคงไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้ และกลายเป็นเงื่อนไขใหม่นับจากเดือน ธค. ที่คำนึงถึงเฉพาะเป้าหมายเงินเฟ้อ
- ราคาน้ำมันดิบไหลลงต่ำกว่า $45 ในช่วงเช้าของวันนี้ และยังเป็นจุดต่ำสุดในรอบ 6 ปีอยู่ จากข่าวสต๊อกน้ำมันดิบของอเมริกาที่เปิดเผยออกมาเมื่อวานพบว่าเพิ่มขึ้น 8.9 ล้านบาร์เรลซึ่งเป็นระดับสูงสุด Sentiment ในตลาดก็ยังไม่ดีนักทั้ง Barclay และ Goldman Sachs ต่างปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันลง และคาดว่าในช่วงต้นปี 2015 ราคาน่าจะยังทรงตัวยังไม่น่าฟื้นตัวได้อย่างโดดเด่น
- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากรายงานกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาไม่ดีเท่าที่คาดการณ์ รวมถึง การปรับตัวลดลงของหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากรายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบที่ออกมามากกว่าที่คาดเมื่อวานที่ส่งผลให้น้ำมันดิบปรับตัวลดลง
- รมว. คลังเยอรมันและกรีซยังคงหารือกันไม่ได้เกี่ยวกับการชำระหนี้ของกรีซ โดยกรีซมีกำหนดชำระหนี้ที่ปี 2563 แต่การเจรจาในตอนนี้ยังคงไม่มีอะไรคืบหน้า
- การนำเข้าทองคำของจีนจากฮ่องกงปีที่แล้วตัวเลขอยู่ที่ 750 ตัน ลดลงจากปีก่อนหน้าที่นำเข้า 1,108.8 ตัน หรือลดลงเกือบกว่า 30%
- ตัวเลขค้าปลีกของญี่ปุ่นออกมาที่ระดับ -0.3% จากที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเติบโต 0.3% และตัวเลขค้าปลีกของทั้งปี 2014 เติบโตที่ระดับ 1.7% ตัวเลขที่ออกมายังไม่ดีนั้นเป้นความท้าทายต่อนโยบายของ นาย ชินโซ อาเบะ ที่มุ่งการกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่นให้หลุดจากเงินเฟ้อ ปัจจัยที่กระทบคือ การขึ้นภาษีบริโภคในปีที่ผ่านมาซึ่งในปีหน้านี้ต้องติดตามแนวโน้มของการบริโภคนี้ให้ดีว่าจะฟื้นตัวได้หรือไม่
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20.30 USD
Unemployment claims 301K 307K
ALL EUR
German prelim CPI -0.8% 0.0%
28 มกราคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 28 ม.ค. 2558
28 มกราคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 28 ม.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 28-1-58
เเนวรับ 1285 1275 1266 เเนวต้าน 1293 1295 1305
ราคาทองคำมีแรงรีบาวน์ขึ้นมาเกินกว่า 1285 แต่ยังมองว่าหากไม่สามารถทำ New-high เกินกว่า 1305 ได้ยังมองลงอยู่ และคาดว่ารอบนี้หากราคาทำ New-high จะสามารถเคลียร์ Divergent ได้แล้วหลังจากราคาย่อตัวมาเมื่อวานนี้ โดยจุดที่น่าสนใจคือ ราคาจะต้องอยู่เหนือกว่า 1293-1295 ในวันนี้หากจะขึ้นไปทดสอบ 1305 หากราคายืนไม่ได้และปรับตัวลดลงเกินกว่า 1275 ซึ่งเป็นทิศทางที่มองว่าได้เปรียบกว่าในวันนี้ จะทำให้เกิดรูปแบบ Dead-cat bounce หรือ เป็นการเด้งเพื่อลงต่อเหมือนแมวที่โดดจากที่สูงจะมีการเด้งหนึ่งครั้งจากนั้นก็จะลงยาว ไปยังแนวรับ 1266 ตามที่ได้มองไว้ก่อนหน้า ซึ่งติดตามกรอบให้ดีในวันนี้เนื่องจากเป็นช่วงรอยต่อพร้อมผลการประชุม FOMC
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันเป็นจำนวนถึง 3361 ล้านบาท แต่ไป Short สุทธิในฟิวเจอร์ 3,462 สัญญา ทิศทาง SET เมื่อวานนี้ยังคงปรับฐานลงต่อท่ามกลางหุ้น BAY ที่ปรับตัวลดลง จะเห็นว่าการเคลื่อนไหวของหุ้น BAY ในช่วงนี้มีผลต่อดัชนีพอสมควร SET ยังไม่ควรหลุดแนวรับนี้ ไม่อย่างนั้นมองลงไปที่ระดับ 1550 อีกรอบหนึ่ง มีข่าวบวกมาเล็กน้อยคือ ยอดส่งออกในเดือนธันวาคมปรับตัวดีกว่าที่คาดเล็กน้อยค่าเงินบาทยังมองทิศทางแข็งค่าลงมา 32.50 ซึ่งเป็นแนวรับแรก
ทางเลือกหลัก : มองราคาปรับตัวลดลงต่อ แต่ต้องเกินระดับ 1275 ลงมาจะทำให้ราคาลงอีกรอบหนึ่ง
ทางเลือกรอง : ราคาที่ยืนเหนือ 1293-1295 มองว่าโอกาสขึ้นไปทดสอบ 1305 ที่เป็นจุดสูงสุดเดิมมีสูง
รายละเอียด
- ตัวเลขเศรษฐกิจออกมากลุ่มแรกเป็นบวกกับทองคำ คือ ตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนหดตัวลงแรง –3.4% จาก -0.9% และคาดการณ์ 0.6% ทางฝั่งยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนหมวดไม่รวมหมวดยานพาหนะหดตัว –0.8% จาก –0.7% ในเดือนก่อนหน้าและคาดการณ์ที่ 0.6% กลุ่มหดตัวลงเกือบทั้งหมด ส่วนกลุ่มที่สอง คือ ราคาบ้าน S&P case chiller เพิ่มขึ้น 4.3% จากเดือนก่อนหน้า 4.5% และ Flash service PMI ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 54 จากเดือนก่อนหน้า 53.3 และอีกชุดหนึ่งที่มองว่ามีน้ำหนักกับทองคำมากกว่าชุดที่ 2 คือ ตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 481K จากเดือนก่อนหน้า 431K และคาดการณ์ 452K ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเกินกว่าระดับ 100 สู่ระดับ 102.9 จากเดือนก่อนหน้า 93.1 และคาดการณ์ 95.3 ข่าวตัวเลขชุดนี้มองว่าเป็นลบกับทองคำ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างมากนั้นเป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำทำให้ผู้บริโภคกล้าใช้จ่ายมากขึ้น
- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวลดลงแรงระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขาย จากการผิดหวังผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน อย่างเช่น Microsoft สามตลาดหลักของอเมริกาไม่ว่าจะเป็น SP500 Dow และ Nasdaq ตกลงทั้งหมด แต่สัดส่วนการตกนั้น Nasdaq ค่อนข้างมากกว่าตลาดอื่นเล็กน้อย ทางฝั่งราคาน้ำมันดิบยังทรงตัวเมื่อขึ้นเหนือระดับ $45 ต่อบาร์เรลก็โดนแรงขายลงมาตลอดจากปัจจัยลบอย่างสต๊อกน้ำมันดิบในอเมริกาที่อยู่ในระดับสูง ในระดับราคาแถวนี้ผู้ผลิตเริ่มทำการหยุดขุดในหลุดเล็กๆ และคาดว่า Supply จะเริ่มหายไปเล็กน้อยสอดคล้องกับเลขาธิการ OPEC ที่มาเตือนว่า หากยังอยู่แบบนี้ Supply จะหายและราคาน้ำมันดิบจะขึ้น
- William Rhind : CEO ของ World gold trust services ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า ในสภาวะที่เกิดเงินฝืดนั้น (Deflation) ก็สามารถทำให้ทองคำได้รับปัจจัยบวกได้จากแนวโน้มที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางแต่ละประเทศมากขึ้นและอาจจะเกิด Currency war เป็นไปในทางเดียวกันกับกองทุน Hedge fund ที่เพิ่มสถานะ Bullish bet ในทองคำมากสุดในรอบ 2 ปี แต่มุมมองของแต่ละคนยังเป็นไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามกันเหมือนกรณีของราคาน้ำมันดิบที่ฝ่ายนึงมองลงฝ่ายนึงมองขึ้น
- EU และ US กำลังหามาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมจากการเข้าไปแทรกแซงกลุ่มแบ่งแยกดินแดน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
2.00 USD
FOMC Statement
27 มกราคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 27 ม.ค. 2558
27 มกราคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 27 ม.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 27-1-58
เเนวรับ 1274 1266 1255 เเนวต้าน 1283 1290 1305
ทองคำปรับตัวลดลงพักลงมาเมื่อวานนี้มองว่าการลงในช่วงนี้ยังเป็นลักษณะของการลงเพื่อขึ้นต่อ โดยมีสมมติฐานว่าราคาพักตัวลงมาไม่หลุด 1200 ซึ่งเป็นที่อยู่ของฟิโบที่ 61.8% หากราคาลงมาจุดนี้มองว่า แนวโน้มยังพอลุ้นได้แต่ฝั่งขึ้นค่อนข้างอ่อนแอ หากราคาพักตัวระดับไม่ถึง 61.8% อย่างแถว 1266 (23.6%) และ 1242 (32.8%) จะมองว่า ราคายังอยู่ในขาขึ้นที่แข็งแกร่งและยังให้น้ำหนักหลังจากลงน่าจะมีนิวไฮอีกรอบหนึ่งภายใต้เงื่อนไขเดิมคือลงไม่เกิน 1200 สำหรับในวันนี้ยังว่าราคายังจะลงต่อไปอีกไปยังระดับ 1260-1266 แต่ในระยะสั้นมองการรีบาวน์ขึ้นไปก่อนเล็กน้อย ข่าวตัวเลขเศรษฐกิจในวันนี้มีค่อนข้างมาก และคาดการณ์เป็นลบเกือบทั้งหมด
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 2,324 ล้านบาท ในขณะที่ปิด Long ไปบางส่วนโดยการเปิด Short เป็นวันแรกจำนวน 4,858 สัญญา หลังจาก Long สุทธิมาค่อนข้างเยอะในช่วงก่อนหน้า ทิศทาง SET เริ่มปรับฐานลงมาหลังจากขึ้นไปทดสอบ 1600 หลังจากมีข่าวว่า BAY ไม่ได้มีข่าวดีตามที่ลือกันและธนาคารไม่ได้รับรู้ข่าวนั้นหุ้น BAY ที่ขึ้นมาก็ปรับตัวลดลงกลับลงมาเมื่อวานนี้และลากดัชนีลงมาด้วย คาดว่า BAY จะยังเป็นตัวชี้วัดดัชนีในระยะสั้นนี้ค่าเงินบาทยังมองทิศทางค่อนไปในทางแข็งค่าเล็กน้อย
ทางเลือกหลัก : มองราคาพักตัวลงมาด้านล่างต่อเนื่องโดยมีแนวรับแรก 1274 จากนั้นคิดว่าจะลงต่อไปยังระดับ 1260 โดยประมาณ และยังอยู่ในช่วงของการพักตัวในช่วงนี้
ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวขึ้นเกินกว่า 1285 ได้แรงมองว่าจะเริ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
รายละเอียด
- S&P ปรับลดเครดิตเรตติ้งของรัสเซียลงสู่ระดับต่ำกว่า Investment grade หรือกลายเป็น Junk bond ในขณะที่สถาบันจัดอันดับอื่นยังไม่ออกมาปรับกัน ส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของรัสเซียปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 7% ในขณะที่ Emerging market bond ของ Bank of America ให้ผลตอบแทนที่ระดับประมาณ 4% เท่านั้น อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกถึง นักลงทุนต้องการผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากเครดิตเรตติ้งที่แย่ลง และส่งผลให้การเข้าถึงแหล่งเงินกู้ของรัสเซียเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น รวมถึง การลงทุนของเฮดจ์ฟัน หรือกองทุนบางกองมีนโยบายไม่ลงทุนในหุ้นกู้ที่อยู่ในระดับต่ำกว่า Investment grade และ ปัจจัยนี้น่าจะส่งผลให้กองทุนต่างๆต้องขายพันธบัตรของรัสเซียออกมา และ Yield ของพันธบัตรจะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อไปอีก ดูเหมือนรัสเซียจะกำลังเจอกับความยากลำบากอีกรอบหนึ่ง แต่ในมุมมองของคนในรัสเซียมองว่า ระดับราคานี้และตลาดหุ้นที่อยู่ในระดับนี้ได้สะท้อนถึงการปรับลดเครดิตลงสู่ระดับนี้ไปเรียบร้อยแล้ว ต้องมิตดตามกันอย่างใกล้ชิดถึงสถานการณ์ในรัสเซีย
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ $45 ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วัน ซึ่งการซื้อ-ขายกันนั้นอยู่ในระดับใกล้จุดต่ำสุดในรอบ 6 ปี ล่าสุดมุมมองของคนในตลาดน้ำมันยังไม่เหมือนกัน มีเจ้าหน้าที่ของ OPEC นาย Abdullah al-Badri : Secretary-general ได้กล่าวว่า ราคาน้ำมันอาจจะเจอพื้นไปเรียบร้อยแล้ว และอาจจะดีดไปถึง $200/บาร์เรลได้หาก Supply ลดลงอย่างมาก ส่วนแรงซื้อจากเอเชียมีเข้ามาเพิ่มมากขึ้นในช่วงนี้ท่ามกลางราคาที่ระดับต่ำ แต่เมื่อวานนนี้ Goldman Sachs ได้ปรับเป้าราคาน้ำมันดิบลงสู่ระดับ $30 ต่อบาร์เรล และสัดส่วนการเพิ่มสถานะ Short ของกองทุนก็ยังอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่งนับจากกันยายน 2010 ในขณะทีปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำเช่นเดียวกันในปีหน้าสู่ระดับ $1089/Oz.
- สถานการณ์ในกรีซคาดว่า นาย Tsipras จากพรรคฝ่ายซ้าย Syriza จะเข้ารับตำแหน่งนายกแล้ว ขณะที่ทางฝั่งอียูก็เตรียมเปิดการเจรจาในเรื่องของแนวโน้มที่ นาย Tsipras จะขอลดหนี้ลงและอียูจะขอทำงานร่วมกับนายกในลักษณะช่วยเหลือกัน หากนายกยอมลดเงื่อนไขการลดหย่อนหนี้
- SPDR เพิ่มสถานะการถือครองทองคำอีก 0.24% สู่ระดับ 743.44 ตัน เช่นเดียวกับธนาคารกลางรัสเซีย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20.30 USD
Core durable goods orders 0.6% -0.7%
Durable goods orders 0.6% -0.9%
22.00 USD
CB Consumer Confidence 95.3 92.6
New home sales 452K 438K