13 มีนาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 13 มี.ค. 2558
13 มีนาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 13 มี.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 13-3-58
เเนวรับ 1155 1147 1140 เเนวต้าน 1164 1166 1175
ราคาทองคำแกว่งตัวอยู่ในกรอบเมื่อวานนี้จากตัวเลขข่าวที่ออกมาค่อนข้างผันผวน และ ไม่แน่ชัดในทางใดทางหนึ่ง แต่สุดท้ายได้มีแรงซื้อเข้ามา และมองว่า โอกาสไปทดสอบระดับ 1166 มีค่อนข้างสูง หากทดสอบแล้วผ่านไปได้จะเกิดเป็นรูปแบบ Double bottom และเป็นสัญญาณทางบวกในระยะสั้นที่จะส่งราคาไปทดสอบระดับประมาณ 1180-1190 อีกครั้ง ในทางกลับกันหากไม่สามารถผ่านไปได้มองราคาจะแกว่งลงมาซื้อ-ขายกันอยู่ในกรอบนี้อีกครั้งหนึ่ง ภาพรวมตลาดอื่นๆอย่างค่าเงินยังพบการแกว่งตัวรอเลือกทางไม่ชัดเจนเช่นกัน แต่ดูแล้วฝั่งบวกกับทองคำได้เปรียบกว่าเล็กน้อย คืนนี้จะมีประกาศตัวเลข PPI หรือดัชนีราคาผู้ผลิต จากตัวข่าวไม่น่าจะสร้างความผันผวนเท่าไร
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยเล็กน้อย -414 ล้านบาท และยังคง Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก เมื่อวานนี้ SET ปิดค่อนข้างทรงตัว รวมถึงเปิดตลาดมาเช้านี้ด้วย เพียงแต่การทรงตัวแบบนี้ยังได้รับปัจจัยลบจากแนวโน้มทางเทคนิคที่ยังดูไม่ดีเท่าไรนัก รวมถึงสถานะ Short สุทธิในปริมาณที่สูง ก็ยังมองการแกว่งตัวของตลาดหุ้นไทยไปอีกสักพักหนึ่ง ส่วนทิศทางค่าเงินบาทหลังจากได้รับปัจจัยบวกจากการลดดอกเบี้ย กนง และอ่อนค่าไปใกล้ 33.00 เมื่อวานนี้ย่อตัวลงมา แต่ยังมองอ่อนค่าต่อไปทดสอบ 33.10
ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นไปทดสอบ 1166 ที่มองว่าหากผ่านไปได้จะเปิดทางรูปแบบ Double bottom ไปยังระดับ 1180-1190 อีกครั้งหนึ่ง และทำให้ภาพรวมดูดีขึ้น
ทางเลือกรอง : หากราคาไม่สามารถผ่านไปได้หรือผ่านไปแล้วยืนไม่ได้ จะมองกลับลงมาเล่นในโซนนี้ใหม่
รายละเอียด
- ผลการทำ Stress test ของอเมริกาในช่วงที่ผ่านมาพบว่า ยังมีธนาคารพาณิชย์บางแหง่ยังไม่ผ่าน อย่างเช่น Bank of America ซึ่งการทดสอบที่ไม่ผ่านหมายถึง ธนาคารยังไม่มีความสามารถที่จะเอาตัวรอดจากภาวะวิกฤติตามแบบจำลองของที่ธนาคารกลางเป็นผู้กำหนด อย่างเช่น หากตลาดหุ้นตกเยอะๆ อัตราว่างงานปรับตัวสูงขึ้นเป็นระดับ 10% เป็นต้น ธนาคารที่ไมผ่าน Stress test จะไม่มีสิทธิ์ที่จะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น
- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาที่ระดับ2.89K จากคาดการณ์ 309K เท่ากับสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนยอดค้าปลีกออกมาที่ระดับ –0.6% จากเดือนก่อนหน้า –0.8% และคาดการณ์ 0.3% ส่วนตัวเลขค้าปลีกหมวดไม่รวมยานพาหนะ (Core retail sales) ออกมาที่ระดับ –0.1% จากเดือนก่อนหน้า –1.1% และคาดการณ์ 0.6% จากชุดข่าวนี้ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เป็นลบกับทองคำ ส่วนตัวเลขค้าปลีกถึงแม้จะเป็นบวกเนื่องจากออกมาน้อยกว่าที่คาดการณ์แต่ก็ยังเป็นลบอยู่ เนื่องจากออกมาดีกว่าเดือนก่อนหน้า จากตัวเลขข่าวเหล่านี้ทำให้ทองคำแกว่งตัวผันผวนอยู่ในกรอบแคบๆ เช่นเดียวกับค่าเงินต่างๆเมื่อคืนนี้ ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงเช้าของวันนี้
- ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าลงหลังจากแข็งค่าสู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง ส่งผลให้ทองคำได้รับปัจจัยบวกระยะสั้นจากตรงนี้ นอกจากนี้ตลาดหุ้นก็ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกันเมื่อคืนที่ผ่านมา นอกจากนี้ดัชนีหุ้นนิเคอิของญี่ปุ่นได้ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ท่ามกลางเงินเยนที่อ่อนค่าลงสู่ระดับ 121-122 เยนต่อดอลลาร์ นับเป็นการอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องของเงินเยน
- ECB พิจารณาวงเงินกู้ช่วยเหลือแก่กรีซอีก 600 ล้านยูโร หลังจากก่อนหน้าให้วงเงินกู้ทั้งหมด 500 ล้านยูโรและจะมีการประชุมในวันที่ 18 มีนาคมที่จะถึงนี้อีกรอบหนึ่ง
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงสู่ระดับ $47 ต่อบาร์เรลท่ามกลาง สต๊อกน้ำมันดิบที่ออกมาเพิ่มขึ้นเยอะ ขณะที่กลุ่ม OPEC ยังไม่มีแผนลดกำลังการผลิต เริ่มมีข่าวถึงการประชุม OPEC ในอนาคตว่าจะมีแผนการลดกำลังการผลิตหรือไม่ และ อำนาจการควบคุมราคาน้ำมันของ OPEC ในอนาคตเช่นเดียวกัน
- ยอดขอสินเชื่อของจีนปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น และฐานเงินอย่างกว้าง M2 ปรับตัวขึ้นเช่นเดียวกัน
12 มีนาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 12 มี.ค. 2558
12 มีนาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 12 มี.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 12-3-58
เเนวรับ 1147 1145 1140 เเนวต้าน 1155 1160 1170
ราคาทองคำยังคงซึมลงอย่างต่อเนื่อง เป็นลักษณะการลงที่ค่อยๆซึมลงมา ซึ่งการลงแบบนี้คาดว่าจะใช้เวลาอีกสักพักหนึ่งก่อนที่จะกลับมาได้ ในวันนี้อยากเห็นแรงรีบาวน์ให้ไปเกิน 1155 ให้ได้ ไม่อย่างนั้นอาจจะมีการซึมต่อลงไปอีกถึงบริเวณ 1145 ที่เป็นอีกแนวรับหนึ่ง ตลาดที่ค่อยๆซึมแบบนี้จะกินระยะเวลานานกว่าตลาดที่ขึ้นลงแรง แต่เมื่อดูจากจุดยอดมาถึงตรงนี้ก็ปรับตัวลดลงมาร่วม $150 ส่วนค่าเงินดอลลาร์ที่เป็นปัจจัยลบกับทองคำมาตลอดก็ยังเป็นปัจจัยลบอยู่ในช่วงนี้ ถึงแม้ช่วงนี้ยังไม่เห็นอาการใดๆที่จะกลับตัวได้ แต่คิดว่า ทุกอย่างที่เกินสมดุลจะกลับเข้าสู่สมดุลในที่สุด ระดับนี้ใกล้แนวรับสำคัญแล้วต้องใช้ความระมัดระวังในการเข้าซื้อ-ขาย
เมื่อวานนี้ กนง มีมติลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% สู่ระดับ 1.75% ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการเซอร์ไพร์สตลาดพอสมควร เนื่องจากก่อนหน้านั้นไม่ได้มีโทนไปในทางขึ้นดอกเบี้ยเลย ขณะที่ต่างชาติยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1799 ล้านบาท และขายสุทธิในฟิวเจอร์เล็กน้อยอีก 1846 สัญญา เปิดตลาดเช้ามายังคงปรับตัวลดลงต่อสำหรับ SET แต่จากแนวโน้มเมื่อวานทำให้ตลาดหุ้นดูดีขึ้นเล็กน้อย ค่าเงินบาทได้รับปัจจัยบวกจากการลดดอกเบี้ยอ่อนค่าผ่าน 32.70 มองแนวต้าน 33.10
ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นไปก่อนเล็กน้อย จะให้ดีต้องเกิน 1153-1155 หากไม่เกินกว่านั้นมองว่าราคาจะซึมกลับลงมาอีกรอบ
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- เมื่อวานนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจออกมา แต่ก็มีความเห็นจากนักวิเคราะห์ต่างๆของโบรกต่างประเทศทยอยออกมา หลังจากราคาปรับตัวลดลงสู่ระดับ $1150 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน และหลังจากทองคำขึ้นสู่ระดับ $1300 ในช่วงต้นเดือนมกราคม ก็ได้มีแรงขายและกดดันให้ราคาซึมมาตลอด 6 สัปดาห์ เมื่อถึงตรงนี้ก็ปรับตัวลดลงร่วม $150 แล้ว นักวิเคราะห์บางคนได้เริ่มมองว่า ระดับ $1145-1150 นั้นน่าจะเป็นแนวรับที่สำคัญที่สุดที่น่าติดตามแล้ว ส่วนอีกกลุ่มความเห็นหนึ่งมองว่า อาจจะลงลึกไปถึง $1130 ที่เป็นระดับต่ำสุดเดิมได้ โดยได้รับปัจจัยลบมาจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าแบบต่อเนื่อง (และสุดๆ)
- กองทุน SPDR ลดสถานะ ยังคงเดินหน้าลดสถานการถือครองทองคำลงเรื่อยๆในช่วงนี้ และปัจจุบันการถือทองคำของกองทุน ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเดือน
- Head of Russia’s Gold production Union ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า การผลิตทองคำของรัสเซียในปี 2015 นี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3% คิดเป็น 298 ตัน
- กระแสเงินความเสมอภาคระหว่างเงินยูโรและเงินดอลลาร์ (Euro-dollars parity) ที่เงินยูโรกับดอลลาร์จะกลับไปซื้อ-ขาย กันที่ 1:1 เริ่มกลับมามากขึ้น หลังจากเงินยูโรปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จากธนาคารกลางยุโรปที่กำลังอัดฉีดเงินส่วนธนาคารอเมริกากำลังดึงเงินกลับ ทำให้ 1 ยูโรต่อ 1 ดอลลาร์มีโอกาสมากขึ้น ทั้งนี้ความเสมอภาคนี้เกิดครั้งล่าสุดเมื่อย้อนกลับไป 13 ปีที่แล้ว หรือปี 2002 ช่วงเริ่มต้นของการก่อตั้งเงินยูโร หากเกิดขึ้นมาจริง คงได้เห็นการโยกเงิน ผลกำไรบริษัทของยุโรปและอเมริกาที่เปลี่ยนไป มีข้อดี-ข้อเสีย ในรายละเอียดที่ค่อนข้างมาก
- สมาชิกของซึ่งเป็นคณะกรรมการกำหนดนโยบายทางการเงินของจีนในธนาคารกลาง PBOC ได้ออกมาคอมเมนต์ว่า หากอัตราเงินเฟ้อของจีนหดตัวไปยังระดับต่ำกว่า 1% จีนมีแนวโน้มที่จะลด RRR หรือ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก เพื่อช่วยเหลือกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ยังซบเซา
- สถานการณ์ในกรีซยังคงมีผู้ไม่เห็นด้วยกับแผนปฎิรูปและจะมีการประเมินวงเงินในวันนี้อีกทีหนึ่ง
- IMF อนุมัติเงินกู้ช่วยเหลือให้แก่ยูเครนวงเงิน 5 พันล้านดอลลาร์ อายุเงินกู้ 4 ปี เพื่อช่วยเหลือยูเครน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20.30 USD
Unemployment claims 306K 320K
Core retails sales 0.6% -0.9%
Retails sales 0.3% -0.8%
11 มีนาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 11 มี.ค. 2558
11 มีนาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 11 มี.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 11-3-58
เเนวรับ 1160 1158 1155 เเนวต้าน 1168 1174 1177
เมื่อวานนี้ราคาปรับตัวลดลงสู่ระดับ $1155 ในระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขาย จากนั้นได้มีแรงซื้อทำให้ราคารีบาวน์ขึ้นมาปิดระดับใกล้ $1160 และจากแรงส่งที่เข้ามามองว่า ราคามีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นต่อไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1170-1174 ซึ่งบริเวณนั้น เป็นบริเวณที่น่าจับตาดูแล้วว่า ราคาจะขึ้นต่อไหวหรือไม่ หากไปทดสอบแล้วไม่ผ่านพอดี ก็มองราคาแกว่งตัวลงมาอยู่ในบริเวณนี้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งโอกาสไปทดสอบแล้วไม่ผ่านคาดว่าจะมีสูง และ มองการแกว่งตัวไปอีกสักพัก ปัจจัยนอกตลาดอย่างค่าเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยลบที่คอยกดดันราคาอยู่ในช่วงนี้ และในวันนี้จะมีการประชุมถึงสถานการณ์ของกรีซกับอียู ว่าจะผ่านแผนร่างปฎิรูปหรือไม่ในช่วงบ่ายตามเวลาบ้านเรา
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงเมื่อวานนี้ หลังจากข่าวลือเรื่อง นายกประยุทธ์กล่าวว่า ไทยยังไม่ควรรีบลดอัตราดอกเบี้ย ประกอบกับตลาดที่อ่อนแออยู่แล้วทำให้มีแรงขายออกค่อนข้างหนัก คาดว่าในวันนี้น่าจะมีการรีบาวน์เกิดขึ้นได้บ้าง แต่ภาพรวมยังไม่ดูดี และวันนี้จะมีการประชุม กนง. หลายคนยังคาดว่า จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม ซึ่งตลาดก็ได้รับข่าวนั้นไปเรียบร้อยแล้ว ประกอบกับ GAP ที่ 1520 กำลังจะถูกปิดไปแล้ว ค่าเงินบาททิศทางอ่อนค่าไปแตะระดับ 32.70 เรียบร้อย และยังทรงตัวอยู่
ทางเลือกหลัก : มองราคาปรับตัวต่อไปยังแนวต้าน 1170-1175
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1160 ลงมามองว่าจะลงไปทดสอบ 1155
รายละเอียด
- ทองคำปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวานนี้ หลังจากลงไปแตะระดับ $1155 ในระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขาย โดยได้รับปัจจัยลบจากค่าเงินดอลลาร์ที่ยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง แข็งค่าสุดนับตั้งแต่ปี 2003 เป็นผลที่ส่งต่อมาจากวันศุกร์จากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ออกมาดี รวมถึง นโยบายการเงินที่ขัดแย้งกัน (Diverging) ของอเมริกาและยุโรป อเมริกากำลังจะขึ้นดอกเบี้ย ส่วนยุโรป (รวมถึงญี่ปุ่นและจีนและอีกหลายประเทศ) ต่างกำลังลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นผลทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา
- ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จากความกังวลสถานการณ์ในกรีซ ซึ่งในช่วงบ่ายของวันนี้จะมีการหารือกันถึงเรื่องแผนปฎิรูปของกรีซอีกรอบหนึ่ง กำหนดเวลาน่าจะเป็นช่วง 14.00-15.00 ตามเวลาบ้านเรา ต้องมาติดตามว่ากรีซจะมีเงินหรือสภาพคล่องที่จะต่อเวลาออกไปหรือไม่ ส่วนอีกประเด็นหนึ่งที่ตลาดกังวลกันมากที่สุดคือ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ที่นักวิเคราะห์หลายคนประเมินกันว่า น่าจะขึ้นเร็วกว่ากำหนดแน่ จากตัวเลขที่ออกมาดี ทำให้ตลาดหุ้น ตลาดทองคำ ตลาดน้ำมัน ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง มีเพียงตลาดพันธบัตรเท่านั้นที่ปรับตัวสูงขึ้นมาเมื่อวานนี้
- Fitch คาดการณ์ว่า ยูเครนอาจจะได้รับการต่ออายุการชำระคืนหนี้ออกไป แทนที่จะเป็นการ Haircut หรือ ตัดเป็นหนี้สูญ ซึ่งในปัจจุบันก็อยู่ในช่วงของการทำแผนโครงสร้างการชำระหนี้ใหม่อยู่
- ตัวเลข JOLTS Job Openings ออกมาที่ระดับ 5M จากตัวเลขรอบก่อน 4.88 M และคาดการณ์ 5.04M แสดงให้เห็นถึง การเปิดรับสมัครงานในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นแต่ยังน้อยกว่าที่คาดการณ์
- ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง และค่าเงินในกลุ่มของประเทศเกิดใหม่ ก็อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ความกังวลเริ่มกลับมาอีกครั้งในเรื่องของสกุลเงินของประเทศเกิดใหม่ที่จะอ่อนค่าลงอย่างมากหากมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของอเมริกา
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงหลังจากไม่มีเหตุการณ์ใหม่ๆเข้ามากระทบ และไปซื้อ-ขายกันอยู่ที่ระดับประมาณ $48 ต่อบาร์เรล นักลงทุนติดตามการประชุม OPEC ในครั้งต่อไปว่าจะมีการลดกำลังการผลิตหรือไม่
- นายกประยุทธ์กล่าวว่า ไทยยังไม่ควรรีบลดอัตราดอกเบี้ยเร็วจนเกินไป ซึ่งวันนี้จะมีการประชุม กนง.
10 มีนาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 10 มี.ค. 2558
10 มีนาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 10 มี.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 10-3-58
เเนวรับ 1163 1160 1155 เเนวต้าน 1168 1172 1177
ทองคำรีบาวน์ขึ้นไปเล็กน้อยเมื่อวานนี้ขึ้นไปใกล้ระดับ 1177 แต่ไม่สามารถปรับตัวขึ้นไปยืนเหนือบนนั้นได้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเป็นสัญญาณที่ไม่ดี รวมถึงการปรับตัวลดลงกว่าระดับ 1168 ซึ่งเป็นการหลุดออกจากแนว 61.8% จึงมองว่า โอกาสที่ราคาจะลงมาทดสอบ Low เดิมบริเวณ 1163 หรืออาจจะต่ำกว่านั้น แต่ยังมองว่า จากค่าเงินยูโรที่เกิดอาการ Oversold ซ้ำๆมาสักพักหนึ่งแล้ว จึงอาจจะมีการดีดกลับขึ้นมาได้ แต่ก็ต้องให้น้ำหนักทางฝั่งลงก่อนและจึงค่อยขึ้นกลับขึ้นมา ส่วนปัจจัยพื้นฐานยังคงค่อนข้างเป็นลบกับราคาทองคำพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นดอกเบี้ย และค่าเงินดอลลาร์ที่ยังอยู่ในระดับแข็งค่าที่สุดนับจากปี 2003
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยเล็กน้อย 118 ล้านบาท และกลับมา Long สุทธิในฟิวเจอร์เป็นวันแรก 1,713 สัญญา เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงต่อจากตลาดหุ้นรอบโลกที่ปรับตัวลดลง ทั้งนี้ในวันนี้มองการรีบาวน์ขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากปรับตัวลดลงมานานและราคาเริ่มสร้างฐานได้แถวบริเวณนี้ส่วนแรงขายทางต่างชาติเริ่มเบาบางลง แต่ยังคิดว่า หลังจากรีบาวน์ขึ้นมาแล้ว ยังต้องระมัดระวังการปรับตัวลดลงต่ออีก ค่าเงินบาทยังคงอ่อนค่าและแนวโน้มไปทดสอบระดับ 32.70 อีกรอบหนึ่ง
ทางเลือกหลัก : มองราคาลงมาทดสอบระดับ 1163 อีกครั้งหรือต่ำกว่า เนื่องจากราคาไม่สามารถปิดเกินกว่า 1177 ได้ หากระยะสั้นราคายังยืน 1168 ได้เท่านั้นจึงมองว่า แนวโน้มจึงจะเริ่มกลับมาเป็นกลาง
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- เมื่อวานนี้เป็นวันแรกที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อัดฉีดเงินเข้าระบบเป็นวันแรก หลังจากเริ่มมีทิศทางนโยบายการอัดฉีดมาตั้งแต่ต้นปี โดยมีวงเงินในครั้งนี้ 60 พันล้านยูโร ส่วนพันธบัตรที่จะเข้าไปซื้อนั้นจะเป็นพันธบัตรรัฐบาลของประเทศเยอรมันเป็นอันดับแรก
- กรีซเสนอแผนต่ออียูในช่วงก่อนหน้า แต่กลับไม่ได้รับความเห็นชอบเมื่อวานนี้ ทำให้กรีซอาจจะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ และเงินสดของกรีซยังขาดอยู่ 7 พันล้านยูโร ซึ่งนายกกรีซก็ออกมากล่าวว่า หากมีแรงกดดันจากเจ้าหนี้ในเรื่องเงื่อนไขต่างๆที่ไม่สามารถปฎิบัติตามได้ จะมีการทำประชามติให้กลับไปมีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง นอกจากนี้ รมว.คลังของอียูจะเตรียมหารือกับกรีซอีกรอบหนึ่งวันที่ 11 มี.ค.นี้ (พรุ่งนี้)
- ตัวเลขเงินเฟ้อของจีนปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นแรงกว่าที่คาดการณ์ ตัวเลข CPI ออกมาที่ระดับ 1.4% มากกว่าที่คาดการณ์ที่ 1% ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อในฝั่งผู้ผลิตยังคงหดตัวต่อเนื่อง 36 เดือนติดต่อกัน โดยปรับตัวลดลง 4.8% จากเดือนก่อนหน้า มาจากการบริโภคภายในประเทศที่น้อยลง ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่ฟื้น และโดยเฉพาะ ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ตัวเลขราคาต่างๆอาจจะมีการผิดเพี้ยนได้เนื่องจากเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผู้บริโภคมีการใช้จ่ายมากกว่าปกติ อีกฝั่งหนึ่งก็แสดงให้เห็นว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจจาก PBOC หรือธนาคารกลางจีน ที่ทำการลดการสำรองของธนาคารพาณิชย์ ( RRR ) รวมถึงลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเริ่มส่งผลบ้าง และในเดือนหน้านักวิเคราะห์จากทั้ง Bloomberg ได้คาดการณ์ว่า จีนน่าจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก
- กองทุน SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำอีก 0.43% สู่ระดับ 753.04 ตัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเดือน แสดงให้เห็นถึงมุมมองทางฝั่งลงของนักลงทุนในตลาด
- Richard Fisher ประธาน FED สาขา Dallas ออกมาให้ความเห็นว่า FED น่าจะหยุดนโยบายผ่อนคลายทางการเงินแล้ว พร้อมกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆนี้ รวมถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับฟื้นตัวขึ้นมาหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบเริ่มทรงตัวอยู่ในระดับนี้
- เมื่อวานนี้รัฐบาล UK ได้ทำการจ่ายเงินชำระหนี้ค่าสงครามตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 จนหมด
09 มีนาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 9 มี.ค. 2558
09 มีนาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 9 มี.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 9-3-58
เเนวรับ 1168 1163 1155 เเนวต้าน 1177 1180 1192
ราคาทองคำปรับตัวลดลงแรงเมื่อวันศุกร์ร่วม $40 จากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ออกมาดี และ อัตราว่างงานที่ลดลง เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ทั้งนี้ Divergent ของค่าเงินยังอยู่ และคาดว่า การปรับตัวลดลงอาจจะยังไม่แรงมาก ในระยะสั้นมองการรีบาวน์ขึ้นไปที่ระดับใกล้ 1177 อีกรอบหนึ่ง หากยังผ่านไปไม่ได้ ยังมองว่า แนวโน้มขาลงยังคงมีอยู่ และคาดว่าจะลงมาทดสอบที่ระดับต่ำสุดเดิมใกล้ 1263 แต่หากผ่าน 1277 ขึ้นไปได้มองว่ามีโอกาสขึ้นไปทดสอบระดับ 1190-1198 ได้อีกรอบหนึ่ง ทั้งนี้ปัจจัยภายนอกตลาดยังคงเป็นน้ำหนักในทางลบ เพียงแต่การลบนั้นยังมี Divergent ของค่าเงินต่างๆไม่ให้ไหลลงเยอะจนเกินไปอยู่
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 510 ล้านบาท และยังคงการ Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก 2,604 สัญญา ซึ่งในวันศุกร์ตลาดหุ้นรีบาวน์ขึ้นมาค่อนข้างแรง ทั้งนี้ช่วงเช้าได้รับแรงกดดันจากตลาดต่างประเทศที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงทั้งโลก และทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงต่อในช่วงเปิดตลาดเช้านี้ ข่าวในประเทศยังไม่มีปัจจัยอะไรโดดเด่นนักจึงคาดว่าในช่วงนี้น่าจะได้รับแรงกดดันจากปัจจัยนอกประเทศเป็นหลัก ค่าเงินบาททิศทางเริ่มอ่อนค่ากลับลงไปหลังจากเงินดอลลาร์แข็งค่าอย่างรุนแรง แนวต้าน 32.70
ทางเลือกหลัก : มองราคาดีดกลับขึ้นไประดับใกล้ 1277 อีกครั้ง หากยังปรับตัวผ่านไม่ได้จะมองลงมาอีกครอบหนึ่ง
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1163 ลงไปจะมองการปรับตัวลดลงต่อ
รายละเอียด
- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร Non-farm payroll ออกมาที่ระดับ 295K จากเดือนก่อนหน้า 239K และคาดการณ์ 240K ส่วนอัตราว่างงานลดลงเหลือระดับ 5.5% จากเดือนก่อนหน้า 5.7% และคาดการณ์ 5.6% และ ตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงปรับตัวลดลงสู่ระดับ 0.1% จาก 0.5% ในเดือนก่อนหน้า ข่าวนี้เป็นปัจจัยลบกับราคาทองคำ และทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงแรงกว่า $40
- ตลาดหุ้นดาวโจนส์ก็ปรับตัวลดลงแรงเช่นเดียวกันในวันศุกร์ ลดลงร่วม 1% จากความกังวลเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีอาจจะทำให้การขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนด ในวันศุกร์เป็นวันที่หลายตลาดปรับตัวลดลงพร้อมๆกัน ไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน ทองคำ หุ้น พันธบัตร ล้วนแล้วแต่ปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก ทั้งนี้เมื่อดูฟิวเจอร์ใน FED Fund rate พบว่า การคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้นเป็น 25% จากครั้งก่อนหน้า 18% ส่วนอีกมุมหนึ่งยังมองว่า ตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงยังไม่แข็งแกร่งพอ และแสดงให้เห็นถึง ตลาดแรงงานถึงแม้จะฟื้นตัวแล้ว แต่ยังไม่แข็งแกร่งเท่าไรนัก ทั้งนี้กระแสการขึ้นดอกเบี้ยมาค่อนข้างมากกว่าจากตัวเลขที่ออกมาในวันศุกร์
- กองทุน Hedge fund ลดสถานะ Bullish bet ในทองคำลงในสัปดาห์ที่ผ่านมาข้อมูลจาก CFCT เปิดเผยในเว็บไซต์ CNBC สิ้นสุดสัปดาห์เมื่อ 3 มีนาคม 2558 ส่วนกองทุน SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำลงอีก 0.59% สู่ระดับ 756.32 ตันในวันศุกร์
- ตัวเลข GDP ของญี่ปุ่ไตรมาสสุดท้ายออกมาที่ระดับ 1.5% จากคาดการณ์และการประมาณการณ์ครั้งก่อน 2.2% ส่วนการเติบโตเมื่อเทียบจากไตรมาส 3 ก็หดตัวลงเล็กน้อย ทั้งนี้ถึงแม้ตัวเลขจะออกมาน้อยลง แต่โดยรวมก็ไม่ได้อยู่ในภาวะถดถอยแล้ว โดยการปรับตัวลดลงนั้นมาจากการบริโภคที่ปรับตัวลดลงเนื่องจากการขึ้นภาษีจาก 7% เป็น 10% ในช่วงเดือนเมษายนปีที่แล้ว
- กรีซส่งแผนปฏิรูปการคลังให้แก่อียู หลังจากมีความเสี่ยงด้านเงินสด ซึ่งการตัดลดค่าใช้จ่ายนั้นจะเกี่ยวกับเรื่องการตรวจสอบภาษีให้มีประสิทธิภาพ และลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ
- การส่งออกของจีนปรับตัวขึ้นแรงถึง 48.9% จากคาดการณ์ 14% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
06 มีนาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 6 มี.ค. 2558
06 มีนาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 6 มี.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 6-3-58
เเนวรับ 1195 1190 1180 เเนวต้าน 1208 1212 1220
วันนี้จะมีการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร Non-farm payroll ที่คาดการณ์ว่าจะออกมาเป็นบวกกับทองคำ ( ตัวเลขการจ้างงานออกมาน้อยลง ) ซึ่งทิศทางของค่าเงินก็ค่อนข้างมีน้ำหนักไปในทางบวกกับทองคำ จากเงินยูโรที่ถึงแม้จะลงไปทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 12 ปี แต่การลงรอบนี้เกิด Bullish Divergent ลูกใหญ่พอสมควร แต่ยังขาดการยืนยันจากการปรับตัวขึ้นแรง ซึ่งในวันนี้คาดว่า น่าจะเห็นอะไรชัดเจนขึ้น แต่หากไม่เกิด Divergent นั้นจะมองการปรับตัวลดลงต่อและทองคำได้รับปัจจัยลบตรงนี้เข้าไปอีก สำหรับระยะสั้นมองการผันผวนในกรอบไปก่อน บริเวณ 1190-1210 หากราคาหลุดทางไหนก็จะมีแนวโน้มทางนั้นชัดเจนขึ้นในระยะถัดไป
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,018 ล้านบาท เป็นวันที 2 แต่ยังคงการ Short สุทธิในฟิวเจอร์ไว้มากถึง 12,839 สัญญา ทั้งนี้กระแสเงินยังคงไหลเข้าตลาดพันธบัตรเป็นหลัก เมื้อวานนี้ SET ปรับตัวลดลงต่อเนื่องกัน และจากช่วง 1600 ลงมาจนถึงตอนนี้พบว่าการปรับตัวที่ลงมานั้นแทบไม่มีวันขึ้นสลับกันเลย ค่อนข้างแรงในระยะสั้น ขณะที่ถึงแม้จะลงต่อแต่มองว่าน่าจะเริ่มรีบาวน์ขึ้นมาได้บ้างแล้ว ถึงแม้จะมีการปรับตัวลดลงต่อก็ตาม ส่วนค่าเงินบาทเริ่มแข็งค่าอีกครั้ง แต่ยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบ
ทางเลือกหลัก : ยังคงมองราคาผันผวนในกรอบ แต่เมื่อข่าวออกให้น้ำหนักทางบวกมากกว่าเล็กน้อย
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ผลการประชุม ECB เมื่อวานนี้ ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม รวมถึงนโยบายต่างๆที่ยังเหมือนเดิม แต่ได้มีการปรับเพิ่มการเติบโตในปี 2015 ขึ้นจากกิจกรรมทางธุรกิจที่เร่งตัวสูงขึ้น และตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาขยับขึ้นในหลายส่วน มองการเติบโตไว้ที่ระดับ 1.5% จากการคาดการณ์ในเดือนธันวาคมที่ 1.0% และคาดการณ์ว่าในปี 2016 จะมีการขยายตัวของ GDP ที่ 1.9% และ 2.1% ในปี 2017 ทั้งนี้ยังคงปรับลดอัตราเงินเฟ้อลงสู่ระดับ 0% จากครั้งก่อนหน้า 0.7% แต่กลับไปเพิ่มเงินเฟ้อคาดการณ์ในปี 2016 สู่ระดับ 1.5% จากครั้งก่อนประมาณการณ์ไว้ที่ 1.3% ส่วนทิศทางของ QE ในยุโรปจะเริ่มในวันที่ 9 มีนาคม (วันจันทร์) ที่จะถึงนี้โดยวงเงินที่จะทำเป็นจำนวนเงิน 6 พันล้านยูโรต่อเดือน ($66.3 พันล้านดอลลาร์)
- จากผลการประชุม ECB ข้างต้นส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงมาด้านล่าง และได้ปรับตัวหลุดระดับ 1.10 ยูโรต่อดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2003 หรือ เงินยูโรอ่อนค่าลงมาแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 12 ปี และในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาค่าเงินยูโรปรับตัวลดลงไปแล้วกว่า 15% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐส่งผลให้ทองคำได้รับปัจจัยลบจากตัวนี้เข้ามาด้วยเมื่อคืนที่ผ่านมา นอกจากนี้ ECB อาจจะประเมินการเข้าซื้อพันธบัตรของกรีซได้ในช่วงเดือน กรกฎาคม หรือ สิงหาคม หากกรีซได้ปฏิบัติตามเงื่อนไข
- มุมมองของนักลงทุนในตลาดทองคำล่าสุดพบว่ายังค่อนข้าง Bearish จากกองทุน SPDR ที่ลดสถานะถือครองทองคำลงอีก และต่ำลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเดือนนี้ แรงขายที่ออกมามากนั้นมาในช่วงวันจันทร์ที่กองทุนขายออกถึง 8 ตัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของการขายต่อ 1 วันในรอบปีนี้ ปัจจุบันกองทุน SPDR มีสถานะการถือครองทองคำทั้งหมด 760.80 ตัน
- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาที่ระดับ320K จากสัปดาห์ก่อนหน้า 313K และคาดการณ์ 300K ตัวเลขในช่วงหลังปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 300K อีกรอบหนึ่งหลังจากช่วงสิ้นปีที่แล้วตัวเลขปรับลดมาเหลือระดับบริเวณ 290K เป็นส่วนใหญ่
- ผลการทดสอบ Stress test ของธนาคารพาณิชย์ในอเมริกาทั้งหมด 31 แห่ง พบว่า มีความแข็งแกร่งผ่านเกณฑ์ที่ FED ประเมินสำหรับความแข็งแกร่งในการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำยาวนาน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20.30 USD
Non-farm employment change 240K 257K
Unemployment rate 5.6% 5.7%
Average hourly earning 0.2% 0.5
05 มีนาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 5 มี.ค. 2558
05 มีนาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 5 มี.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 5-3-58
เเนวรับ 1202 1195 1190 เเนวต้าน 1211 1215 1220
ราคาทองคำค่อนข้างผันผวนเมื่อวานแต่ผันผวนอยู่ในกรอบ ซึ่งเป็นตามปกติของข่าว ADP นี้ ในระยะสั้นยังมองว่า ทองคำได้รับปัจจัยบวกจากทางด้าน Technical แต่ปัจจัยพื้นฐานยังไม่ค่อยมีสนับสนุนเท่าไรนัก ค่าเงินยูโรยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง และในวันนี้จะเป็นวันที่มีผลการประชุม ECB เนื้อหาเกี่ยวกับ รายละเอียดของการอัดฉีดเงินเข้าระบบ 1 ล้านล้านยูโรที่โดยปกติแล้วจะทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงมา และกดดันทองคำ เพียงแต่เมื่อมาดูค่าเงินยูโรในภาพระยะวันเริ่มเห็นสัญญาณ Bullish divergent แต่ยังขาดการยืนยัน ในระยะสั้นมองขึ้นไปทดสอบระดับบริเวณ 1210 อีกครั้งหนึ่ง ขณะที่แนวรับอยู่บริเวณ 1190 และมองราคายังคงผันผวนอยู่ในโซนนี้ไปก่อน
ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดเมื่อวานนี้ แต่ทิศทางของตลาดหุ้นรอบโลกกลับไม่ได้สดใสเท่าไรนักเมื่อวานที่ผ่านมา โดยเฉพาะตลาดหุ้นในโซนเอเชียที่ล่าสุดมีการปรับลดเป้าการเติบโตของจีนลงเหลือ 7% ที่เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี แต่ข่าวนี้เป็นบวกในระยะยาวเนื่องจาก เน้นการปฏิรูปโครงสร้างของประเทศเป็นหลักมากกว่าตัวเลขการเติบโตที่อาจจะไม่มีคุณภาพ ทิศทางค่าเงินบาทยังอยู่ในโซนของการพักตัวอ่อนค่าท่ามกลางแนวโน้มแข็งค่า โดยมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 32.50 ส่วนแนวรับ 32.20
ทางเลือกหลัก : ยังคงมองราคาผันผวนในกรอบเพียงแต่ระยะสั้นมองการปรับตัวขึ้นไปเล็กน้อย
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ทองคำปรับตัวผันผวนอยู่ในกรอบ ระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขายมีการปรับตัวลดลงไปยังระดับต่ำกว่า $1200 เล็กน้อยก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามา ปัจจัยที่เข้ามากระทบต่างๆยังคงค่อนข้างผันผวน เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นตก แต่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐยังออกมาสดใสและค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าสูงสุดในรอบ 11 ปี จึงได้เห็นราคายังคงผันผวนอยู่ในบริเวณนี้ไปอีกจนกว่าจถึงวันพรุ่งนี้ที่มีประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร
- วันนี้จะมีผลการประชุม ECB ที่ยังคาดว่าไม่มีอะไรใหม่ แต่คงเป็นการให้รายละเอียดเกี่ยวกับการเข้าซื้อสินทรัพย์วงเงิน 1 ล้านล้านยูโร (QE) ที่ประกาศไว้ในเดือนก่อนหน้าถึงมาตรการนี้ ซึ่งเดือนนี้ถือเป็นเดือนแรกที่จะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ ต้องติดตามว่า รายละเอียดจะเป็นลักษณะไหน ปกติแล้วข่าวนี้เป็นปัจจัยลบกับราคาทองคำผ่านเงินยูโรที่มักจะอ่อนค่าลงจากมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน เพียงแต่ข่าวนี้สินทรัพย์ต่างๆได้รับข่าวเข้าไปเรียบร้อยแล้วในช่วงต้นปีที่มีการประกาศจึงทำให้แนวโน้มเป็นไปอย่างจำกัดในระยะสั้นนี้
- ตัวเลข ADP Non farm payroll หรือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สำรวจโดยบริษัทเอกชน (ADP) ออกมาที่ระดับ 212K จากเดือนก่อนหน้า 250K และคาดการณ์ 219K ซึ่งโดยเนื้อข่าวแล้วเป็นบวกกับทองคำ แต่โดยปกติข่าวนี้แล้วจะเป็นตัวสร้างความผันผวนแต่เป็นความผันผวนที่ค่อนข้างจะเหวี่ยงไปมาในกรอบ ส่วนอีกตัวหนึ่งคือตัว PMI ภาคบริการ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.9 มากกว่าเดือนก่อนหน้าและคาดการณ์
- สต๊อกน้ำมันดิบของอเมริกาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 10.3M จากสัปดาห์ก่อนหน้า 8.4M เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของสต๊อกน้ำมันดิบ ทั้งนี้ Saudi’s oil minister ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า ราคาน้ำมันน่าจะทรงตัวระดับแถวนี้แล้วหลังจากราคาได้ลงไปในจุดต่ำสุดในรอบ 6 ปี ข่าวนี้ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ขึ้นไปซื้อ-ขายกันที่ระดับ $51 ต่อบาร์เรล
- ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อวานนี้ท่ามกลางข่าวที่ยังออกมาคลุมเครือ กลางๆ อย่างตัวเลข ADP ที่ออกมาน้อยลงแต่ PMI ภาคบริการกลับปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ดาวโจนส์ปิดลบเล็กน้อย –0.58% - ตลาดหุ้นในโซนเอเชียปรับตัวลดลงเนื่องจาก จีนปรับลดเป้าหมายการเติบโตของ GDP ลดลงสู่ระดับ 7% ต่ำสุดในรอบ 11 ปีและต้องการสร้างการเติบโตในด้านคุณภาพมากกว่าปริมาณ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20.30 USD
Unemployment claims 293K 313K
EUR
ECB Press conference
04 มีนาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 4 มี.ค. 2558
04 มีนาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 4 มี.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 4-3-58
เเนวรับ 1202 1195 1190 เเนวต้าน 1211 1215 1220
วันจันทร์ราคาทองคำได้ปรับตัวลดลงเกินกว่า 1215 ทำให้ ภาพรวมเริ่มเสียความได้เปรียบรูปแบบ Invert head and shoulder ไป และมองราคาแกว่งตัวผันผวนอยู่ในโซนนี้สักพักหนึ่ง ปัจจัยรอบด้านยังคงเป็นลบกับตลาดทองคำ ไม่ว่าจะเป็น เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี และ มุมมองของ Safe-haven ที่มีความน่าสนใจลดลงพร้อมกับทิศทางของตลาดพันธบัตรที่มีแรงขายออกมาค่อนข้างเยอะ ทำให้ภาพรวมทองคำยังไม่ได้รับปัจจัยบวกอย่างโดดเด่น แต่เมื่อมาดูตัวทองคำในภาพวัน พบว่า มีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อยๆ โมเมนตัมในทางบวกเริ่มมี ในวันนี้จะมีการประกาศตัวเลข ADP คาดการณ์เป็นลบ แต่ปกติตัวนี้เมื่อเหวี่ยงไปทางไหนมักจะกลับไปทางเดิม
เมื่อวานนี้ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,856 ล้านบาท แต่ยัง Short สุทธิอีกวันหนักๆ ถึง 8,183 สัญญา SET ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องหลังจากผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนออกมา และปรับตัวลดลงนำโดยกลุ่ม ปตท ทำให้ PE ขยับไปสูงขึ้นและส่งผลให้เกิดแรงขายเข้ามาอย่างมาก โดยรวมแล้วปรับตัวลดลงมาจากจุดสูงสุดประมาณ 50 จุดแล้ว ในวันนี้เป็นมาฆะบูชาตลาดหุ้นไทยจึงปิด ส่วนตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงต่อเช้านี้ ค่าเงินบาททิศทางยังอยู่ในแนวโน้มแข็งค่าเพียงแต่ระยะสั้นมีการอ่อนค่าลงเล็กน้อย
ทางเลือกหลัก : มองราคาแกว่งตัวในกรอบถึงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่คาดว่ายังไม่มีนัยสำคัญเท่าไรนัก
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ตัวเลขเศรษฐกิจในวันจันทร์ออกมาคือ ดัชนี PMI ภาคการผลิตของอเมริกาออกมาเท่ากับ 55.1 จุด จากเดือนก่อนหน้า 53.9 และคาดการณ์ 54 จุด รายได้ส่วนบุคคลปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ส่วนรายจ่ายกลับปรับตัวลดลง แสดงให้เห็นถึง ผู้บริโภคได้รับรายได้มากขึ้น แต่กลับชะลอการใช้จ่ายลง ข่าวชุดนี้ค่อนไปทางลบกับราคาทองคำ และได้เห็นราคาทองคำปรับตัวลดลงมาแต่โดยรวมแล้ว ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบ
- ประธาน FED นาง เจเนต เยลเลน ออกมาพูดเมื่อวานนี้ แต่ไม่ได้เป็นเรื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจ เป็นเพียงการพูดเกี่ยวกับการควบคุมและกฎระเบียบที่ธนาคารต้องปฏิบัติตาม ซึ่งนาง เจเนต เยนเลน ให้ความเห็นว่า ธนาคารใหญ่หลายแห่งยังไม่ปฏิบัติตามกฎ
- Andy Hall เทรดเดอร์ที่เทรดน้ำมันได้ปิดสถานะ Short ในน้ำมัน และเริ่มมีมุมมองในทางบวก โดยมองว่า จากจุดนี้ต้องใช้ระยะเวลานิดหน่อยที่จะแสดงให้เห็นว่า ราคาน้ำมันได้เจอจุดต่ำสุดไปแล้ว และคาดว่าราคาน้ำมันจะดีดตัวกลับได้ในช่วงต่อจากนี้ และคาดว่าจะเร็วกว่าที่นักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์กัน และในตอนนี้ยังมีปัจจัยลบอยู่ค่อนข้างมาก หากอีกสักพักปัจจัยลบเหล่านี้จางหายไปคาดว่าจะได้เห็นการฟื้นตัว การปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันถึงแม้จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้างโดยตรงกับทองคำ เพราะ เป็นได้ทั้งปัจจัยบวก (สินค้ากลุ่มคอมโมดิตี ) และปัจจัยลบ (การขึ้นดอกเบี้ยของ FED ) ซึ่งหากราคาน้ำมันมีการฟื้นตัวจริงคาดว่าจะได้เห็นความผันผวนที่ตามมาบ้างในตลาดทองคำ
- EU คาดการณ์ว่ากรีซอาจจะต้องมีแผนการช่วยเหลืออีกรอบหนึ่งเป็นรอบที่ 3 เนื่องจากแผนการช่วยเหลือในปัจจุบันจะหมดอายุลงในเดือน มิถุนายนนี้ ทำให้กรีซจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือเนื่องจากไม่สามารถกู้เงินในตลาดเงินโดยตรงแบบปกติได้ ส่วนนายกกรีซนั้นกลับออกมาบอกว่า กรีซไม่มีความจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติม
- อัตราเงินเฟ้อในไทยปรับตัวลดลง 0.52% จากปีก่อนหน้า นับเป็นการหดตัวแรงสุดในรอบ 5 ปี 5 เดือน พร้อมทั้งปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อลงอีก
- กองทุน SPDR ลดสถานะลง 0.35% สู่ระดับ 760.80 ตัน และค่าเงินดอลลาร์อยู่ระดับสูงสุดรอบ 11 ปี
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20.15 USD
ADP non-farm employment change 219K 213K
02 มีนาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 2 มี.ค. 2558
02 มีนาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 2 มี.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 2-3-58
เเนวรับ 1220 1215 1210 เเนวต้าน 1228 1235 1245
ราคาทองคำในวันศุกร์ได้ทำรูปแบบ Invert head and shoulder ในระยะ H4 หรือ รูปหัวและไหล่แบบกลับหัว ซึ่งปกติการเกิดรูปแบบนี้เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการกลับแนวโน้ม หรือกลับตัวจากลงเป็นขึ้น เป็นสัญญาณที่ดีในการปรับตัวขึ้นไปยังระดับ 1240-1250 ในขณะที่ระยะสั้นหลังจากราคาหลุดมานั้นมีโอกาสที่จะกลับลงมาทดสอบใหม่ ระดับแนวรับที่ประเมินไว้สำหรับความเสี่ยงที่คุ้มคือระดับ 1217-1220 และตั้งจุดตัดขาดทุนไว้ใกล้บริเวณนั้น มุมมองทางฝั่งขึ้นเริ่มมีมากกว่า ทั้งนี้ตลาดอื่นๆอย่างค่าเงินดอลลาร์และตลาดพันธบัตรกลับไม่ได้สนับสนุนการขึ้นของทองคำรอบนี้เท่าไรนัก จึงทำให้การขึ้นรอบนี้ยังขาดปัจจัยพื้นฐานมาสนับสนุน
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 767 ล้านบาทเป็นวันที่ 11 ติดต่อกัน และ Short สุทธิในฟิวเจอร์เป็นจำนวนมากถึง 9,755 สัญญา เงินส่วนหนึ่งคาดว่าเข้าไปในตลาดตราสารหนี้หลังจาก Yield ของพันธบัตรไทยปรับตัวลดลงต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา SET ยังคงปรับฐานอยู่ต่อเนื่องยังขาดปัจจัยอะไรใหม่ๆเข้ามากระทบรวมถึงตลาดทางฝั่งตะวันตกที่ยังส่งมาไม่ดีทำให้เงินยังไม่ไหลเข้า SET ประกอบกับการปิด Long ที่สะสมมานานของต่างชาติ ค่าเงินบาบททิศทางยังอยู่ในช่วงแข็งค่าไประดับ 32.20
ทางเลือกหลัก : มองราคาปรับตัวขึ้นต่อไปยังระดับแถว 1250 ระยะสั้นหากมีการย่อตัวไม่ควรหลุด 1215
ทางเลือกรอง : ราคาที่หลุด 1215 จะทำให้รูปแบบการกลับตัวกลายเป็น False ไป
รายละเอียด
- ตัวเลข GDP ของอเมริกาออกมาที่ระดับ 2.2% จากรอบก่อนหน้าที่ประมาณไว้ที่ 2.6% ในขณะที่คาดการณ์ 2.1% ทำให้ถึงแม้ตัวเลข GDP จะออกมามากกว่าที่คาดการณ์แต่ก็ยังหดตัวจากการประมาณการณ์ครั้งก่อน และ GDP price index ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเป็นระดับ 0.1% จากครั้งก่อนหน้าไม่ขยายตัว
- ยอดบ้านรอปิดการขาย (Pending home sales) ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 1.7% จากเดือนก่อนหน้า –1.5% และคาดการณ์ 2.5% ออกมามากกว่าเดือนที่แล้วแต่น้อยกว่าที่คาดการณ์
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 95.4 จากเดือนก่อนหน้า 93.6 และคาดการณ์ 94.2 ในขณะที่เงินเฟ้อคาดการณ์ของผู้บริโภคยังเท่าเดิมที่ระดับ 2.8%
- จากกลุ่มข่าวหลายกลุ่มที่ออกมานั้น ตัวเลขข่าวค่อนข้างสับสนและขัดแย้งในตัวเองยากต่อการตีความ ทำให้การเคลื่อนไหวของทองคำและค่าเงินดอลลาร์ในวันศุกร์ (ต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้) เป็นไปในทางทิศทางเดียวกัน คือ เงินดอลลาร์แข็งพร้อมกับการปรับตัวเพิ่มขึ้นของทองคำ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่ปกติเนื่องจากความลังเลในตลาดที่ยังคงคลุมเครืออยู่รวมถึงสถานการณ์ของกรีซที่ถึงแม้จะได้รับการผ่อนผันไปอีก 4 เดือน แต่ประเด็นเรื่องเงินสดที่ไหลออกจากกรีซมากกว่าไหลเข้าจำนวนมากนั้นสร้างความกังวลให้กับตลาด
- ราคาน้ำมันดิบปิดบวกในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเป็นเดือนแรกนับตั้งแต่เดือน มิถุนายนปีที่แล้ว ทั้งนี้ราคายังคงทรงตัวอยู่แถวระดับบริเวณ $48-49 ต่อบาร์เรล สถานการณ์ในขณะนี้คือ จำนวนหลุมขุดเจาะ (Oil rig) ปรับตัวลดลงเรื่อยๆ แต่ปริมาณของน้ำมันดิบที่ผลิตออกมากลับเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การขึ้นในระยะนี้ยังดูไม่ไกลนักหลังจากคาดว่าหลุมขุดเจาะที่ปิดลงอาจจะทำให้สต๊อกน้อยลง
- การนำเข้าทองคำจากฮ่องกงของจีนปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในเดือนมกราคมที่ผ่านมาหลังจากปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนในช่วงเดือนธันวาคม แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อ Physical ที่เข้ามาในช่วงเทศกาลตรุษจีนระดับหนึ่ง ส่งผลให้ค่าพรีเมียมยังคงซื้อ-ขายกันที่ระดับ $4
- ธนาคารจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งหนึ่งในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.25% สู่ระดับ 2.50% นับเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ในรอบ 2 เดือน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
17.00 EUR
CPI flash estimate -0.5% -0.6%
22.00 USD
ISM Manufacturing PMI 53.4 53.5
27 กุมภาพันธ์ 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 27 ก.พ. 2558
27 กุมภาพันธ์ 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 27 ก.พ. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 27-2-58
เเนวรับ 1205 1203 1190 เเนวต้าน 1215 1219 1225
ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ระหว่างการปรับตัวขึ้นระหว่างวันค่อนข้างมากและเวลาปิดกลับเจอแรงขายลงมา ทำให้การขึ้นนั้นยังไม่แข็งแรงเท่าไรนัก แท่งเทียนที่เกิดเป็นแบบไส้เทียนด้านบนยาว ซึ่งปกติไม่ค่อยดีเท่าไร แต่ด้วยมุมมองในทางบวก ทำให้มองว่า อาจจะมีการปรับตัวสูงขึ้นต่อได้ ในวันนี้มองการขึ้นไปทดสอบใกล่ 1219 อีกครั้ง หากยืนไม่ได้มีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงแล้ว การปรับตัวลดลงหากหลุด 1205 จะทำให้แนวโน้มทางฝั่งขึ้นรีบาวน์นั้นเสียไป ในวันนี้ช่วง 20.30 ตามเวลาบ้านเราจะมีการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาสสุดท้ายปีที่แล้วของอเมริกาคาดว่าจะออกมาขยายตัวน้อยลงเป็นบวกกับทองคำ แต่หากตรงกันข้ามอาจจะทำให้เป็นปัจจัยลบไปได้
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 2861 สัญญา เป็นวันที่ 10 ต่อเนื่องกัน ในขณะที่ในตลาดฟิวเจอร์ยังคง Long สุทธิ 2325 สัญญา เมื่อวานนี้ SET ช่วงเช้าเปิดตลาดปรับตัวลดลงแรงร่วม 20 จุดลงไปปิดช่องว่างด้านล่างก่อนที่จะมีแรงปิดรีบาวน์ขึ้นมาจากกลุ่มพลังงาน ในวันนี้ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงต้องใช้ความระมัดระวังเช่นกัน สำหรับทิศทางมองว่า เริ่มเป็นบวกมากขึ้นในระยะสั้นๆ ค่าเงินบาททิศทางแข็งค่าและหลุดแนวรับ 32.50 แล้ว มองว่าจะยังคงแข็งค่าต่อไปอีกสักพักหนึ่ง
ทางเลือกหลัก : มองราคากลับขึ้นไปใกล้ 1219 อีกครั้งหนึ่ง เพียงแต่ต้องใช้ความระมัดระวังมากหน่อย เพราะ แท่งราย H4 ปรับตัวลดลงในลักษณะของแท่ง Bearish กลืนแท่งก่อนหน้าไปจนหมด ต้องขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ให้ได้
ทางเลือกรอง : ราคหลุด 1205 มองว่า อาจจะทำให้ราคาไหลลงอีกครั้งหนึ่งได้
รายละเอียด
- ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวานนี้ออกมาค่อนข้างมากเริ่มจากตัวเลขเงินเฟ้อ CPI หดตัวต่อเนื่องสู่ระดับ –0.7% จากเดือนก่อนหน้า –0.4% และคาดการณ์ –0.6% ส่วน Core CPI ที่เป็นตัววัดเงินเฟ้อไม่รวมหมวดอาหารสดและพลังงานออกมาที่ระดับ 0.2% จากเดือนก่อนหน้า 0.0% และคาดการณ์ 0.1% แสดงให้เห็นถึงสินค้าต่างๆในอเมริกามีราคาแพงขึ้นหากไม่คิดถึงราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงเนื่องจาก Core CPI ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ CPI ปกติยังคงปรับตัวลดลง
- อีกกลุ่มตัวเลขเศรษฐกิจหนึ่งคือ ยอดสั่งซื้อสินค้างคงทน (Durable goods orders) ออกมาที่ระดับ2.8% จากเดือนก่อนหน้า –3.3% และคาดการณ์ 1.7% ส่วน ส่วนตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมีที่ระดับ 313K จากสัปดาห์ก่อนหน้า 282K และคาดการณ์ 288K ซึ่งข่าวนี้มีทั้งบวกและลบกับราคาทองคำ แต่ตลาดเลือกที่จะตีความเข้าข้างฝั่ง Durable goods orders และทำให้เงินดอลลาร์ปรับตัวพุ่งสูงขึ้นแรงเมื่อวานนี้
- ประธาน FED สาขา เซ็นหลุยส์ นาย Bullard ได้ออกมาให้ความเห็นว่า การประชุมครั้งหน้าน่าจะยังมีคำว่า Patient อยู่ สำหรับเป็นทางเลือกในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงฤดูร้อน ซึ่งตรงกับประมาณช่วงเดือน มิถุนายน และกล่าวเพิ่มเติมว่า การขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกนั้นจะได้รับการ Focus อย่างมากจากนักลงทุน และคาดว่าอัตราว่างงานจะลดต่ำกว่าระดับ 5% ในช่วงครึ่งหลังของปี และเศรษฐกิจในปีนี้น่าจะเติบโตที่ระดับ 5% สิ่งนี้ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมาอย่างแรง
- Alan Greenspan ได้ออกมาให้ความเห็นว่า นักลงทุนต่างกำลังคาดการณ์ว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ย แต่ Yield ของพันธบัตรอายุ 10 ปีและ 30 ปี กลับปรับตัวลดลง บ่งบอกถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลกอย่างมาก ส่วนหลักฐานการจ้างงานที่ออกมานั้นยังมองว่า ไม่แข็งแรงเท่าไรนัก
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงสู่ระดับ $48.7 ต่อบาร์เรลท่ามกลางการคาดการณ์ถึง Supply ที่ออกมาเพิ่มขึ้น และยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไป ในขณะที่ความผันผวนของราคาได้เริ่มพักตัวลงมาด้านล่าง
- การนำเข้าทองคำของจีนจากฮ่องกงปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในเดือนที่ผ่านมา บ่งบอกถึงแรงซื้อ Physical ที่เข้ามาในตลาด และในสัปดาห์นี้มีแรงซื้อมาหนุนพอสมควรผิดจากสัปดาห์ที่แล้วที่เป็นวันหยุดช่วงตรุษจีน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20.30 USD
Prelim GDP 2.1% 2.6%
All EUR
German prelim CPI 0.6% -1.1%