16 เมษายน 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 16 เมษายน 2558
16 เมษายน 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 16 เมษายน 2558
แนวทางทองคำวันที่ 16-4-58
เเนวรับ 1201 1196 1185 เเนวต้าน 1210 1215 1221
ราคาทองคำในช่วงวันหยุดแกว่งตัวไปมาค่อนข้างจำกัดอยู่ในกรอบ ยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน แต่เมื่อวานนี้ราคาปิดเริ่มดูดีขึ้น เป็นการปรับตัวออกจากเส้นค่าเฉลี่ย ยืนยันแนวโน้มขาขึ้นในช่วงนี้ต่อไป แนวต้านที่มองในวันนึ้คือ 1210 และ 1220 ส่วนแนวรับที่ไม่ควรจะหลุดคือบริเวณ 1195 ซึ่งหากหลุด 1195 ลงมาอีกรอบนั้นอาจจะทำให้ภาพรวมของขาขึ้นเริ่มเสียไป ทั้งนี้โอกาสเกิดในทางนี้มองว่าค่อนข้างน้อย และยังมองขาขึ้นได้เปรียบกว่า โดยมีปัจจัยบวกจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงมา และ ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทำให้กลุ่มสินค้าของคอมโมดิตี้มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวตามกันมา
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 251 ล้านบาท แต่ยัง Long สุทธิในฟิวเจอร์ต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 อีก 2,120 สัญญา ถึงแม้ภาพรวมยังมองการรีบาวน์แต่ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านของเราในกลุ่ม TIPs ไม่ว่าจะเป็น อินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์ต่างปรับตัวลดลงติดต่อกัน 3 วันรวด ซึ่งเป็นแรงส่งที่อาจจะมาถึงตลาดหุ้นบ้านเราได้ ต้องมาติดตามกันว่า จะพอรับอยู่ไหม ส่วน ธปท ได้ออกมาส่งสัญญาณถึงความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจไตรมาส 2 ว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนอะไรหรือไม่ ค่าเงินบาทแนวโน้มแข็งค่าเล็กน้อย
ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นต่อไปอีก ภาพรวมดูดีขึ้น มองแนวต้าน 1210 เป็นแนวต้านแรก ถึงแม้ระหว่างวันอาจจะมีการย่อตัวเล็กน้อยก็ตาม
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1196 จะทำให้แนวโน้มนั้นเริ่มกลับไปลงอีกครั้ง
รายละเอียด
-ช่วงหยุดสงกรานต์ที่ผ่านมาข่าวตัวเลขข่าวเศรษฐกิจค่อนข้างน้อย เริ่มจากตัวเลขค้าปลีกในวันอังคารออกมาขยายตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.9% จากเดือนก่อนหน้า –0.5% และคาดการณ์ 1.1% ตัวเลขค้าปลีกถึงแม้จะออกมาเยอะกว่าเดือนก่อนหน้า แต่ยังไม่ถึงคาดการณื ด้วยข่าวเรื่องของสภาวะอากาศที่หนาวเย็นทำให้เศรษฐกิจอเมริกาในไตรมาสแรกชะลอตัวลง ส่วนเมื่อวานนี้มีอัตราการใช้กำลังกรผลิตและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมออกมาล้วนแล้วแต่ปรับตัวแย่ลงจากเดือนก่อนหน้าเกือบทั้งหมด ข่าวนี้เป็นปัจจัยบวกกับราคาทองคำ
- ผลการประชุม ECB เมื่อวานนี้ก็ยังคงเป็นทิศทางเดิมคือ จะทำ QE ต่อไปจนถึงอย่างน้อยเดือนกันยายนปีหน้า และหากอัตราเงินเฟ้อยังไม่เข้าเป้าที่ 2% ก็อาจจะมีการยืดเวลาของมาตรการ QE ออกไปอีก ซึ่งปัจจัยข่าวนั้นมองว่ายังค่อนข้างเหมือนเดิมไม่มีอะไรใหม่ แต่ที่เป็นประเด็นคือ มีผู้ผญิงคนหนึ่งเข้ามาประท้วงในระหว่างการแถลงการณ์ของนาย ดรากี้ ในเรื่องเกี่ยวกับ การไม่พอใจในการใช้อำนาจ (Dictator) ของ ECB ทั้งนี้ไม่ได้มีความรุนแรงอะไรเกิดขึ้น
- ภาพรวมตลาดต่างๆนั้นที่น่าสนใจคือ ตลาดน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นเกินกว่าระดับ $55/บาร์เรลแล้ว หลังจากแกว่งตัวอยู่ในกรอบค่อนข้างนาน ส่วนปัจจัยบวกก็ยังไม่มีเข้ามาเท่าไร สต๊อกน้ำมันดิบยังคงอยู่ในระดับสูง คาดว่าการปรับตัวขึ้นมาส่วนหนึ่งนั้นเป็นเพราะ ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงในช่วงนี้ และทำให้ภาพรวมของกลุ่มคอมโมดิตี้ดูดีขึ้น ส่วนค่าเงินดอลลาร์ได้เริ่มอ่อนค่ามาในช่วงนี้ และมีความเห็นว่า เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเกินไปเริ่มส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจอเมริกาในทางลบมากขึ้น ส่วนราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับต่ำนั้นโดยรวมแล้วเป็นผลบวกต่อประเทศที่บริโภคน้ำมันอย่าง เอเชีย ยูโรโซรน และ อเมริกา ที่จะเพิ่ม GDP จากราคาน้ำมันในระดับต่ำได้ ส่วนประเทศที่จะได้รับปัจจัยลบคือ กลุ่มตะวันออกกลาง แอฟริกาใต้ แคนาดา เป็นต้น ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบที่ลดลงยังไม่ทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายเพิ่มขึ่นเท่าไร
- ตัวเลข GDP ของจีนออกมาที่ระดับ 7% ในไตรมาสแรกเป็นการชะลอตัวมากที่สุดในรอบ 6 ปี ซึ่งคาดว่าจะทำให้แรงซื้อของประเทศที่บริโภคทองคำขนาดใหญ่อย่างจีนหายไปในช่วงปีนี้ ส่วนพรีเมียมของ Gold exchange ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ $3-4
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Unemployment claims 284K 281K
21.00 USD
Philly FED manufacturing index 6.5 5.0
10 เมษายน 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 10 เมษายน 2558
10 เมษายน 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 10 เมษายน 2558
แนวทางทองคำวันที่ 10-4-58
เเนวรับ 1194 1190 1185 เเนวต้าน 1200 1205 1215
ราคาทองคำค่อนข้างทรงตัวเมื่อวานนี้ถึงแม้จะมีตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมา ก็ยังคงแกว่งตัวต่อไป สำหรับภาพทางเทคนิค ยังคงค่อนข้างส่งสัญญาณออกข้างเช่นกัน ในระยะสั้นมองการปรับตัวขึ้นไปก่อนโดยมีแนวต้านบริเวณ 1200 ที่เป็นแนวต้านสำคัญ มองกลับขึ้นไปทดสอบอีกครั้ง หลังจากราคาพยายามสร้างฐานบริเวณเหนือกว่า 1190 –1193 ซึ่งเอาจุดตรงนี้เป็นจุดเปลี่ยน ภาพทางพื้นฐานยังออกมาค่อนข้างผสมกัน ยังไม่มีแนวโน้มชัดเจนเช่นเดียวกัน จึงมองการแกว่งตัวในกรอบไปอีกสักพักหนึ่งรวมถึงปัจจัยข่าวที่น้อย สำหรับคนที่จะเปิดสถานะในวันที่ 13-15 เม.ย. นี้ต้องระวังความเสี่ยงเรื่องวันหยุดยาวเช่นกัน (ทาง TDC เปิดราคาซื้อ-ขายปกติ)
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 287 ล้านบาท และยังไป Long สุทธิในฟิวเจอร์ต่อเนื่องกันอีกเป็นวันที่ 7 จำนวน 3,673 สัญญา ภาพรวม SET ยังคงค่อนไปทางรีบาวน์และกำลังสร้างฐานอยู่บริเวณนี้ โดยมีกรอบแนวรับบริเวณ 1530 ที่เป็นจุดเปลี่ยนหรือแนวรับสำคัญ ยังขาดปัจจัยในประเทศใหม่ๆเข้ามา ซึ่งล่าสุด ธปท ยังออกมาให้ความเห็นว่า เศรษฐกิจอาจจะเข้าสู่ภาวะชะงักงันได้ ซึ่งเป็นข่าวที่ไม่ดี ส่วนทิศทางค่าเงินบาทยังมีจุดเปลี่ยนแนวโน้มอยู่บริเวณ 32.50 ภาพรวมยังคงแกว่งตัว Sideways
ทางเลือกหลัก : มองราคาปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับประมาณ 1200
ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวลดลงเกินกว่า 1193 มองการลงไปอีกรอบหนึ่ง
รายละเอียด
- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาที่ระดับ 281K จากสัปดาห์ก่อนหน้า 267K และคาดการณ์ 283K เมื่อมาดูแนวโน้มแล้วถึงแม้จะมีคนขอรับสวัสดิการที่มากขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่เป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม และภาพรวมก็ยังค่อยๆปรับตัวลดลงเรื่อยๆ ตลาดแรงงานของอเมริกาฟื้นตัวค่อนข้างมากจากปีที่ผ่านมา และข่าวนี้ไม่ได้ทำให้ทองคำได้รับปัจจัยบวกเท่าไรนัก เพราะ เป็นการเพิ่มขึ้นเพียงแค่เล็กน้อย และยังน้อยกว่าที่คาดการณ์ด้วย
- นักวิเคราะห์ของ Thomson Reuters ได้ออกมาให้ความเห็นกับสื่ออย่าง CNBC ว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มจะปรับตัวทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 5 ปี หลังจากนั้นมองการรีบาวน์ในปี 2016 จากดีมานด์ที่ฟื้นตัวจากประเทศในโซนเอเชีย ทั้งนี้ในปัจจุบันดีมานด์ในอินเดียปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง 2 ปีติดต่อกัน เนื่องจาก ชาวนาในอินเดียจะได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่แปรปรวน และ การปรับตัวลดลงของสินค้าคอมโมดิตีทำให้คนชะลอการลงทุน และอยากให้รอราคาตกลงมามากกว่านี้จึงจะเข้าลงทุน
- ราคาน้ำมันค่อนข้างทรงตัว หลังจากช่วง 2 วันที่ผ่านมาผันผวนอยู่บริเวณแถวนี้ โดยได้รับข่าวจากความแข็งแกร่งของตัวเลขเศรษฐกิจของเยอรมัน สถานการณ์ในกรีซ และ การเจรจาเรื่องการคว่ำบาตรอิหร่านที่ดูท่าทีแล้วยังไม่ได้ข้อสรุป รวมถึงข่าวลบเรื่องกำลังการผลิตของซาอุดิอาระเบียที่ปรับตัวมากสุดในรอบ 13 ปี
- ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมันฟิ้นตัว 0.2% จากเดือนมกราคมที่ –0.4% และคาดการณ์ 0.1% ส่วนอัตราว่างงานของกรีซปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีที่ 25.7% (เดือนก่อนหน้า 25.9%)
- ECB ให้เงินช่วยเหลือกรีซผ่าน ELA จำนวนอีก 1.2 พันล้านยูโร โดยกรีซยืนยันว่าจะยังอยู่ในยูโรโซนต่อไปและกล่าวอีกว่า แผนปฏิรูปของกรีซจะสามารถผ่านได้ภายในวันที่ 24 เม.ย. นี้ นอกจากนี้เมื่อวานกรีซได้จ่ายเงินกู้คืน IMF 450 ล้านยูโร ซึ่งทำให้กรีซสามารถยิดเวลาการผิดนัดชำระหนี้ออกไปได้ ในฝั่ง IMF ก็กล่าวว่าอยากให้กรีซและอียูหันมาเจรจากันเรื่องแนวทางการแก้ไขปัญหามากขึ้น
- เงินเฟ้อของจีนปรับตัวขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 1.4% เท่ากับเดือนก่อนหน้า จากคาดการณ์ 1.3% ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิตขยายตัวขึ้นเล็กน้อยสู่ –4.6% จากเดือนก่อนหน้า –4.8%
09 เมษายน 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 9 เมษายน 2558
09 เมษายน 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 9 เมษายน 2558
แนวทางทองคำวันที่ 9-4-58
เเนวรับ 1194 1190 1185 เเนวต้าน 1200 1205 1215
ราคาทองคำปรับตัวลดลงเกินกว่าระดับ 1207 ทำให้ภาพรวมรูปแบบ Invert head and shoulder เริ่มเสียไป และขาขึ้นที่เคยได้เปรียบเสียความได้เปรียบไปแล้ว ขณะที่ประเมินการคเลื่อนไหวเป็นลักษณะ Sideways ถึงปรับตัวลดลง สำหรับกรณีถ้าลงราคาจะปรับตัวลดลงเกินกว่าระดับ 1190 ลงมา ซึ่งนั่นจะบ่งบอกว่า ทิศทางเริ่มลงต่อในระยะสั้นยังคาดว่าจะลงไปทดสอบระดับต่ำกว่านี้ได้บริเวณ 1190 ทั้งนี้ กรณีปัจจุบันราคายังไม่เสียรูป Uptrend ไปมากนัก แต่อยากให้ใช้คว่ามระมัดระวังในการซื้อ-ขายมากขึ้นหากราคาลงเกินกว่าระดับ 1190ข่าวที่เข้ามาทางลบเมื่อวานนี้จะเป็นเรื่องของการแถลงการณ์เรื่องการขึ้นดอกเบี้ยเมื่อวานนี้ซึ่งตลาดมองว่าอาจจะขึ้นในเดือน มิ.ย
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยอีก 2015 ล้านบาท และยังคง Long สุทธิในฟิวเจอร์อีก 1313 สัญญา เป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน เมื่อวานนี้ SET เริ่มปิดลบเล็กน้อยเป็นวันแรก ขณะที่ทิศทางโดยรวมของตลาดเริ่มดูดีขึ้น และ มองว่าระดับที่คุ้มเสี่ยงคือ ลงกว่านี้ประมาณ 10 จุด ถึงจะเข้าซื้อ ถึงแม้ข่าวบวกยังไม่มี แต่ก็ยังอยู่ในช่วงเทคนิคัลรีบาวน์ รวมถึงเงินทุนต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาในตลาดหุ้นมากขึ้น ทิศทางค่าเงินบาทยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบโดยมีแกนกลางบริเวณ 32.50 ทิศทางเป็น Sideways
ทางเลือกหลัก : มองราคาเริ่มลง หรือ Sideways โดยมีแนวรับระยะสั้น 1190-1193
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1190 ลงมาอีกครั้งมองว่า การขึ้นนั้นอาจจะต้องใช้เวลาเพิ่มเติมค่อนข้างมาก
รายละเอียด
- Meeting minutes ของ FOMC เมื่อวานนี้พบว่า FED ยังกล่าวว่า การขึ้นดอกเบี้ยในช่วงเดือน มิถุนายนนี้เป็นไปได้ ถึงแม้ข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาจะพบว่าเศรษฐกิจบางส่วนยังคงอ่อนแออยู่ หลังจากมีการแลถงข่าวออกมาก็ทำให้หลายคนมองว่า ตัวเลขเศรษฐกิจในอนาคตที่กำลังจะออกมา จะช่วยให้การตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในเดือน มิถุนายนมีความเป็นไปได้มากขึ้น ทั้งนี้ต้องติดตามผลการประชุม FOMC อย่างเป็นทางการในวันที่ 17-18 เมษายนนี้ถึงทิศทางดอกเบี้ยเพิ่มเติม เนื่องจากตอนนี้กระแสยังแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย จากมุมมองเชิงลบนี้ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงตลอดทั้งวันประมาณ $10
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง 6% หลังสต๊อกน้ำมันดิบของอเมริกาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอีก และเป็นการปรับตัวสูงขึ้นมากสุดในรอบ 14 ปี นอกจากนี้ยังได้รับแรงกดดันจากซาอุดิอาระเบียที่ออกมากล่าวว่า กำลังการผลิตของซาอุดิอาระเบียอยู่ในระดับสูงที่สุด (10.3ล้านบาร์เรลต่อวัน) ทั้งนี้ราคายังสามารถยืนเหนือระดับ $50 ต่อบาร์เรลได้ซึ่งเป็นระดับแนวรับสำคัญในระยะสั้นของน้ำมันดิบ
- ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้นแรงสองวันติดต่อกัน จากข่าวเรื่องการเชื่อมต่อกันระหว่างตลาดหุ้นจีนและฮ่องกง ทำให้เม็เดเงินไหลเข้าระหว่างสองตลาดนี้ค่อนข้างมาก และเมื่อวานมีเม็ดเงินไหลเข้ามาจนชนระดับเพดานที่กำหนดไว้ในตลาดหุ้นจีน เมื่อวานนี้ตลาดหุ้น H-share ปรับตัวสูงขึ้น 5.8%และในช่วงเปิดตลาดมานี้ตลาดหุ้นได้เปิดกระโดดอีกถึงประมาณ 6% ก่อนที่จะมีการย่อตัวลงเหลือเพียงแค่ +2% นับเป็นการปรับตัวขึ้นสองวันติดต่อกันร่วม 10% และเป็นการปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี
- ความกังวลเรื่องการ Roll-over ของ FED ในปีหน้าเริ่มกลับมา หลังจากพันธบัตรที่เฟดลงทุนใน QE จะครบกำหนดช่วงปี 2016 ซึ่งตลาดติดตามกันว่า FED จะปล่อยให้ครบกำหนดหรือ Roll-over ออกไป หากปล่อยให้ครบ
กำหนดจะทำให้อัตราผลตอบแทนจะยังอยู่ในระดับต่ำต่อไป
- ผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) พบว่ายังคงดำเนินนโยบายเหมือนเดิม สอดคล้องกับที่ Bloomberg คาดการณ์ทั้งนี้ยังคงระดับเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อไว้ที่ 2% เช่นเดิม ขณะที่ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 0% ส่วนกกระแสคาดการณ์การผ่อนคลายเพิ่มเติมจะอยู่ที่เดือน ตุลาคม
ปัจจัยที่ต้องติตดาม
19.30 USD
Unemployment claims 283K 268K
08 เมษายน 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 8 เมษายน 2558
08 เมษายน 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 8 เมษายน 2558
แนวทางทองคำวันที่ 8-4-58
เเนวรับ 1207 1205 1200 เเนวต้าน 1218 1225 1230
เมื่อวานนี้ทองคำก็ยังคงปรับตัวลดลงอีกเล็กน้อย มาอยู่ ณ ระดับแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1207 ซึ่งจุดนี้มองว่า เป็นจุดซื้อที่ดี คุ้มกับความเสี่ยง ถึงแม้ตัวเลขเศรษฐกิจช่วงนี้จะค่อนข้างเบาบาง การเคลื่อนไหวมักจะเป็นทางเทคนิคัลเป็นหลัก ภาพโดยรวมในภาพวันยังส่งสัญญาณขาขึ้นระยะสั้นชัดเจน แต่ยังขาดการยืนยันว่ามีแรงซื้อออกจากระดับ 1207 นี้ ถึงแม้ระหว่างวันอาจจะมีการปรับตัวลงไป แต่หากปิดต่ำกว่า 1207 ไม่ได้ยังมองว่า ทองคำจะยังคงปรับตัวขึ้นต่อ ราคาน้พมันดิบที่รีบาวน์ในรอบใหญ่ได้ส่งให้พื้นฐานของทองคำได้กลายเป็นบวกไป เนื่องจากเงินเฟ้อคาดการณ์ในอนาคตจะสูงขึ้น หากอัตราดอกเบี้ยคงระดับเดิม จะทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงปรับตัวลดลง
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 673 ล้านบาท และไป Long สุทธิในฟิวเจอร์ค่อนข้างมากเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน โดย Long ไป 7630 สัญญาเมื่อวานนี้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ตลาดหุ้นกำลังอยู่ในช่วงรีบาวน์ ทั้งนี้ยังคงต้องใช้ความระมัดระวังเล็กน้อยในการย่อตัว แต่มองว่าหากปิดสัปดาห์ในระดับนี้ได้ คาดว่าจะได้เห็นทรง SET กลับขึ้นไปด้านบน ทั้งนี้สัญญาฟิวเจอร์ยังเรียงตัวกันเป็นแบบสัญญาไกลยังคงลบอยู่ มุมมองของคนในตลาดยังไม่ดีเท่าไร เงินบาทมีจุดเปลี่ยนระยะสั้นที่ 32.50
ทางเลือกหลัก : มองระดับราคานี้โอกาสรับอยู่สูง และ หาจังหวะเข้าซื้อ
ทางเลือกรอง : ราคาปิดต่ำกว่า 1207 มองว่า จะทำให้แนวโน้มไม่สวยเท่าไร
รายละเอียด
- ช่วงนี้เป็นช่วงหลังจากตัวเลข Non-farm payroll ที่จะไม่ค่อยมีข่าวตัวเลขเศรษฐกิจออกมาเท่าไรนักก็จะมีความเห็นของประธาน FED หรือ นักวิเคราะห์ต่างๆออกมาให้ความเห็น รวมถึง มุมมองไปที่ตลาดอื่นๆเป็นหลัก และตลาดจะยังคงทรงตัวไปจนถึงช่วงกลางเดือน (17-18 เม.ย.) ที่จะมีผลการประชุม FOMC นักวิเคราะห์หลายคนยังคาดการณ์ถึงโทน Dovish เป็นหลัก และเมื่อวานนี้มีตัวเลข Job openings ออกมาที่พบว่าปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี ทั้งนี้ตัวเลขยังบ่งบอกว่า นายจ้างยังคงหาลูกจ้างที่เหมาะสมกับตำแหน่งงานได้ไม่เท่าไร และอาจจะทำให้อเมริกาอาจจะยังไม่เข้าสู่ภาวะการจ้างงานเต็มที่ทีส่งผลต่อราคาค่าจ้าง
- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวลดลงเล็กน้อย ท่ามกลาง Earning season ที่บริษัทจดทะเบียนจะทยอยประกาศตัวเลขกำไรของไตรมาสแรก นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทหลายแห่งอาจจะมีผลการดำเนินงานที่น้อยลง จากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องไปกระทบกับกำไรของบริษัทข้ามชาติ นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นแรงเมื่อวานนี้กลับไม่ได้ส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงานในอเมริกาเท่าไรนัก
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเกินกว่า $2/บาร์เรล เมื่อวานนี้ และเกิดเป็นรูปแบบที่สวยงามในทางเทคนิค พร้อมที่จะส่งราคาให้ไปต่อ เป้าหมายเกือบ $60/ บาร์เรล ถึงแม้ในช่วงเช้าซาอุดิอาระเบียจะออกมากล่าวว่า กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 10.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน นับเป็นระดับสูงสุด (จากก่อนหน้า 10.2ล้านบาร์เรลต่อวัน) ทั้งนี้ไม่ได้กล่าวว่า สาเหตุที่กำลังการผลิตยังเพิ่มขึ้นนั้นมาจากสาเหตุใด แต่ราคาน้ำมันกลับไม่สะท้อนข่าวตรงนี้เข้าไปแล้ว คาดว่า ข่าวร้ายในตลาดน้ำมันได้สะท้อนไปส่วนหนึ่งแล้ว
- ตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่นยังอยู่ห่างเป้าหมายที่ 2% ซึ่งนักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า นโยบาย QQE ของญี่ปุ่นส่งผลกระทบโดยตรงกับเงินเฟ้อน้อยมาก เนื่องจาก หนี้ต่อ GDP ที่ยังอยู่ในระดับที่สูงอาจจะทำให้การใช้นโยบายได้ไม่เต็มที่ ทั้งนี้ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจีนที่ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 7 ปี จากการคาดการณ์ผลการประชุมของ BOJ ที่ยังไม่คาดหวังถึงการผ่อนคลายมากขึ้นก็ตาม (ยังผ่อนคลายเท่าเดิม)
- IMF เตือนว่าเศรษฐกิจโลกอาจจะชะลอตัวไปอีกหลายปี จากโครงสร้างผู้สูงอายุ
- ECB เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล 4.74 หมื่นล้านยูโรอีก 1.26 หมื่นล้านยูโรเข้าซื้อ Covered bond, ABS
07 เมษายน 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 7 เมษายน 2558
07 เมษายน 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 7 เมษายน 2558
แนวทางทองคำวันที่ 7-4-58
เเนวรับ 1213 1207 1200 เเนวต้าน 1220 1225 1230
ทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังจากได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ทั้งนี้หลังจากขึ้นไปทำ High เกินกว่า 1220 ได้ (ประมาณ 1224) ก็ปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมองว่าระดับนี้ใกล้จะถึงแนวรับแล้วโดยมีแนวรับสำคัญ 1207 มองราคาย่อไม่เกินจุดนี้ และหากย่อเกินก็อย่าให้ปิดได้ต่ำกว่านั้น หากปิดต่ำกว่านั้นจะทำให้ภาพรวมกลายเป็นลบไป ซึ่งหากยังไม่หลุดลงมามองว่า ทองคำจะขึ้นไปทดสอบระดับ 1250-1270 ได้ในระยะกลาง โดยได้รับแรงบวกจากการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยซึ่งช่วงหลังมานี้ ตัวเลขอเมริกาโดนกดดัน ทั้งนี้การรีบาวน์ยังเป็นเพียงแค่ เทคนิคัลรีบาวน์เท่านั้น ภาพใหญ่ยังโดนกดดันจากการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 10 ปีอยู่
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการเมื่อวานนี้เนื่องจากวันจักรี ทำให้ไม่มีการซื้อ-ขายกัน ยอดซื้อ-ขายสุทธิของต่างชาติจะยังคงเป็นยอดเดิมของวันศุกร์ ทั้งนี้สถานะ Short สุทธิของต่างชาติที่สะสมไว้ช่วงก่อนหน้าปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ทิศทางของฟิวเจอร์ในแต่ละ Series ยังเกิดภาวะกลับด้านกัน คือ ยิ่งฟิวเจอร์อายุไกลราคากลับยิ่งถูกกว่าฝั่งใกล้ ทำให้มุมมองของตลาดหุ้นยังไม่ฟื้นตัวแรงเท่าไรในช่วงนี้ ค่าเงินบาทแกว่งตัวรอบบริเวณ 32.50 มองว่าระดับนี้จะใช้เป็นจุดเปลี่ยนแนวโน้มระยะสั้นได้
ทางเลือกหลัก : มองราคาพักตัวลงเล็กน้อยก่อนจะขึ้นต่อ โดยมีแนวต้านระยะสั้น 1220-1224 และการพักตัวไม่เกิน 1207 หากเกินจะเข้าเงื่อนไขทางเลือกรอง
ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวลดลงปิดต่ำกว่า 1207 จะทำให้รูปแบบหัวไกล่กลับหัวเสียไป
รายละเอียด
-ในช่วงนี้ทองคำได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ออกมาน้อยที่นำไปสู่การคาดการณ์ของการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ที่น่าจะเลื่อนออกไปช่วงท้ายปีจากเดิมคาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยกลางปี ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้คนหนีเข้ามาในตลาดทองคำในฐานะ Safe-haven มากขึ้น เมื่อวานนี้มีความเห็นจากประธาน FED วิลเลียม ได้กล่าวว่า ระยะเวลาการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษของเฟดครั้งนี้ยังไม่แน่ชัด และอยากดูความมั่นใจจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงว่าจะไม่ได้ส่งผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจมากนัก
- ดัชนี PMI ภาคบริการของอเมริกาปรับตัวออกมาที่ระดับ 56.5 จากเดือนก่อนหน้า 56.9 และคาดการณ์ 56.6 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในสามเดือน แต่ในทางกลับกันตัวเลขยอดสั่งสินค้าส่งออกปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบมากกว่า 2 ปี
- กองทุน SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำลงเล็กน้อย 1.79 ตัน จากเดิมระดับ 737.24 ตัน สู่ระดับ 735.45 ตัน มุมมองของนักลงทุนยังไม่เห็นแนวโน้มเชิงบวกเท่าไรนัก สังเกตุกองทุนยังคงลดสถานะอย่างต่อเนื่อง ยังไม่เห็นแรงซื้อที่มีนัยสำคัญเข้ามา
- หัวหน้าฝ่ายวิจัยฝ่าย Global commodity และ ตราสารอนุพันธ์ , Francisco Blanch , Bank of America ได้ออกมาให้ความเห็นว่าการยกเลิกสถานะคว่ำบาตรอิหร่านนั้นจะทำให้ราคาน้ำมันดิบถูกกดดันในช่วง 18 เดือนข้างหน้า ทางฝั่งราคาน้ำมันดิบในปัจจุบันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นร่วม 5% จากข่าวเรื่อง ซาอุดิอาระเบีย ส่งออกน้ำมันไปยังโซนเอเชียมีราคาแพงขึ้นจากความต้องการหน้าโรงกลั่นที่มีมากขึ้น ภาพทางเทคนิคของราคาน้ำมันก็เริ่มส่งสัญญาณเชิงบวกมากขึ้นในช่วงระดับเหนือ $44-45 บาร์เรล
- สถานการณ์ในกรีซล่าสุด รมว.คลังกรีซได้เรียกร้องให้ รมว.คลังอียู สรุปเรื่องแผนการปฎิรูปเบื้องต้นก่อนวันที่ 24 เม.ย. ซึ่งกรีซได้ส่งแผนเสนอไปแล้วในช่วงสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาแต่กลับยังไม่ได้ข้อสรุปหรือการตอบรับจาก รมว. คลัง และกรีซได้ออกมายืนยันว่าจะจ่ายเงินคืนให้แก่เจ้าหนี้ IMF ตามกำหนดชำระหนี้ที่จะถึงวันที่ 9 เม.ย.นี้จำนวน 450 ล้านยูโร
- ในวันพรุ่งนี้จะมีผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะส่งผลต่อความผันผวนให้แก่ตลาดเงิน
06 เมษายน 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 6 เมษายน 2558
06 เมษายน 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 6 เมษายน 2558
แนวทางทองคำวันที่ 6-4-58
เเนวรับ 1213 1207 1200 เเนวต้าน 1220 1225 1230
ราคาทองคำได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ออกมาน้อยลงมาก ส่งผลให้ราคาเปิดกระโดดในวันนี้เละเป็นการเปิด Gap พร้อมรูปแบบ Invert head and shoulder ซึ่งช่องว่างที่เปิดนั้นจะลงมาปิดหรือไม่ปิดก็ได้ เนื่องจากเป็นผลจากตัวเลขข่าว เป้าหมายการขึ้นภาพรวมจะอยู่บริเวณใกล้กับระดับ 1300 ตามเป้าหมายช่วงหัวของรูปแบบนี้ ระยะกลางเริ่มส่งสัญญาณเชิงบวกทั้งด้านเทคนิคและพื้นฐาน ในวันนี้มองการพักตัวลงมาเล็กน้อย และขึ้นต่อ ซึ่งจะมีจุดเปลี่ยนแนวโน้มอยู่บริเวณ 1205-1207 หากราคาปิดต่ำกว่าระดับนี้มองว่า จะเกิดเป็นรูปแบบ False ขึ้นมา และจะทำให้ราคาปรับตัวลดลงต่อ แต่ทางเลือกทางนี้พบว่า โอกาสเกิดน้อยกว่ามาก
ต่างชาติขายสุทธิเล็กน้อย แต่หันไป Long สุทธิในฟิวเจอร์อีก 5,967 สัญญา ภาพรวมได้เกิดสัญญาณฟื้นตัวขึ้นใน SET index และยังมีมุมมองของการรีบาวน์ต่อเนื่องถึงแม้จะไม่ค่อยมีปัจจัยบวกในประเทศเท่าไรนัก ในวันนี้ตลาดหุ้นไทยปิดทำการเนื่องจากวันจักรี ส่วนตลาดหุ้นต่างประเทศเช่น จีน และ ยุโรป อาจจะมีสภาพคล่องน้อยจากวันอีสเตอร์ที่เป็นวันหยุดต่อเนื่อง จากสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนค่าเงินบาทคาดว่าจะทรงตัวแต่ให้น้ำหนักแนวโน้มของการแข็งค่ามากกว่า โดยมีแนวรับบริเวณ 32.20
ทางเลือกหลัก : มองราคาพักตัวลงมาเล็กน้อยก่อนที่จะปรับตัวขึ้นต่อ ทั้งนี้เนวรับสำคัญจะอยู่บริเวณ 1207
ทางเลือกรอง : ราคาหลุดแนวรับ 1207 ลงมามองว่าจะทำให้รูปแบบของ หัวไหล่ กลับหัวเสียไป
รายละเอียด
- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm payroll) ออกมาระดับ 126K จากเดือนก่อนหน้า 264K และคาดการณ์ 246K ตัวเลขออกมาระดับที่ค่อนข้างต่ำ ตัวเลขอยู่ต่ำสุดนับตั้งแต่ เดือน มกราคม ปี 2014 หรือ ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีกว่า ส่วนอัตราว่างงานคงตัวที่ระดับ 5.5% เท่ากับเดือนก่อนหน้า ข่าวนี้เป็นปัจจัยบวกกับราคาทองคำค่อนข้างมาก เพราะ ตัวเลขจ้างงานออกมาน้อยลงเยอะ
- จากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ออกมาน้อย ทำให้ความกังวลเรื่องเศราฐกิจอเมริกากลับมาอีกครั้ง สาเหตุที่ออกมาน้อยลงส่วนหนึ่งนั้นมาจากภาวะอากาศที่หนาวเย็นช่วงต้นปี และ การปรับตัวลดน้อยลงทำให้การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยขึ้นช้ากว่ากำหนด
- อิหร่านและประเทศมหาอำนาจยังอยู่ในระหว่างการหารือเรื่องการยกเลิกการคว่ำบาตร หลังจากก่อนหน้านั้นมีการคว่ำบาตรเกี่ยวกับการใช้พลังงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน และ หากว่าได้ข้อตกลงอาจจะส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบ ซึ่งอิหร่านนั้นมีอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ต่ำกว่าในอดีต หากยกเลิกคว่ำบาตรคาดว่าจะทำให้ Supplyของน้ำมันดิบออกมาเพิ่ม ทั้งนี้ในตลาดน้ำมันดิบกลับไม่ได้ปรับตัวลดลงรับข่าวนี้เท่าไรนัก นอกจากนี้สต๊อกของโรงกลี่นน้ำมันดิบของอเมริกาปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 80 ปี
- ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลดลงเล็กน้อยหลังจากมีตัวเลขการจ้างงานออกมา ประกอบกับในวันพฤหัสที่ผ่านมา นักวิจัยเศรษฐกิจของ JP’s Morgan ได้ออกมาปรับลดการคาดการณ์การเติบโต GDP ของอเมริกาลงประมาณ 0.6% จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่อ่อนแอ นอกจากนี้ดัชนี ISM ภาคการผลิตได้ออกมาระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2013 ส่วนหนึ่งคาดว่ามาจากภาวะอากาศที่หนาวเย็นเช่นเดียวกันทั้งนี้ Yield ของพันธบัตรปรับตัวลดลงทุกช่วงเวลา จากคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยช้ากว่ากำหนด
- อีกมุมหนึ่งของตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาน้อยในไตรมาสแรก ไม่น่าแปลกใจ เนื่องจาก ภาคการผลิต ตัวเลขค้าปลีก การสั่งสินค้าใหม่ ล้วนแล้วแต่ชะลอตัวลง เนื่องจากภาวะอากาศหนาว แต่คิดว่าในไตรมาสหน้านั้นคงจะได้เห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอเมริกาทั้งหมด ในปีที่แล้วก็เป็นลักษณะนี้เช่นกันที่เกิดภาวะภัยหนาวในช่วงต้นปีหลังจากนั้นก็เกิดการฟื้นตัวขึ้น
02 เมษายน 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 2 เมษายน 2558
02 เมษายน 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 2 เมษายน 2558
แนวทางทองคำวันที่ 2-4-58
เเนวรับ 1195 1190 1180 เเนวต้าน 1205 1215 1220
ทองคำได้เกิดแรงซื้อเข้ามาเมื่อวานนี้และเกิดเป็นแท่งเทียน Bullish ที่สวยงาม และยังเป็นการปรับตัวออกจากกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ย และ ระดับแนวรับฟิโบที่ 50%ด้วย แนวโน้มในภาพวันดูดี และมีโอกาสที่จะทำระดับสูงสุดใหม่เกินกว่า 1220 ในระยะถัดไปต่อจากนี้ โดยได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลข ADP ที่ออกมาน้อยมาก ทัง้นี้ต้องระวังตัวเลข Non-farm ในวันศุกร์นี้ สำหรับในระยะสั้นมองการย่อตัวลงมาเล็กน้อยแต่ไม่เยอะ ให้หาเป็นจังหวะเข้าซื้อ กรณีที่ราคาปรับตัวลดลงเกินกว่า 1190 จะทำให้ขาขึ้นรอบนี้เสียเปรียบไป เนื่องจากลงมาเกินครึ่งแท่งของวันที่ขึ้นแรงก่อนหน้า จะทำให้ราคาออกเป็นแนวโน้มแกว่งตัวออกข้าง ถึงปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่โอกาสเกิดทางนี้มองว่าน้อย
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 2,204 สัญญา แต่หันไป Long สุทธิมากถึง 11,379 สัญญา ภาพรวมของ SET จากเมื่อวานนี้พบว่า เริ่มฟื้นตัวแล้ว และจากนี้ไปคาดว่าจะเป็นช่วงเวลาของการรีบาวน์ ถึงแม้ปัจจัยลบยังเยอะ แต่ภาพทาคเทคนิคได้ดูดีขึ้น และจากการขึ้นมามากในวันก่อน ยังมองการปรับตัวลดลงเล็กน้อยก่อนที่จะขึ้นอีกครั้ง ค่าเงินบาทแข็งค่าผ่านระดับ32.50 ลงมา ซึ่งเป็นระดับก่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย มองว่า หากผ่านจุดนี้ลงมาจะทำให้เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าอีกครั้งโดยมีแนวรับสำคัญ 32.2
ทางเลือกหลัก : มองราคาย่อตัวเล็กน้อยก่อนที่จะขึ้นไปทดสอบบริเวณ 1220 หรือลุ้น New-high ที่เกินกว่า 1220 ในระยะถัดไป ภาพวันปิดมาดูดีขึ้นเมื่อวานนี้
ทางเลือกรอง : ราคาปิดต่ำกว่า 1190 จึงจะมองว่าเริ่มแกว่งตัวออกข้างแทน และขาขึ้นจะเสียความได้เปรียบ
รายละเอียด
- ตัวเลขดัชนี PMI ของยูโรโซนเมื่อวานนี้ออกมาดีทั้งหมด ทั้งในระดับแต่ละประเทศ หรือ วัดรวมกลุ่มยูโรโซน ดัชนี PMI ของกลุ่มยูโรโซนออกมาที่ระดับ 52.2 จากเดือนก่อนหน้า 51.9 เท่ากับคาดการณ์ในเดือนนี้ ส่วน ISM manufacturing PMI ของอเมริกาปรับตัวลดลงเล็กน้อย เหลือระดับ 51.5 จากเดือนก่อนหน้า 52.9 และคาดการณ์ 52.5 จะเห็นว่าในช่วงนี้ตัวเลขเศรษฐกิจของอเมริกาออกมาแย่ลงเมื่อเทียบกับฝั่งยูโรโซน ทำให้นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า ตลาดหุ้นยุโรปจะได้รับประโยชน์จากการเติบโตที่เริ่มแตกต่างกันระหว่างอเมริกาและยุโรปในช่วงหลังจากนี้
- ตัวเลข ADP non-farm employment change ที่จะสำรวจโดยบริษัทเอกชนก่อนที่จะมีการประกาศ Non-farm payroll ออกมาที่ระดับ 189K จากเดือนก่อนหน้า 214K และคาดการณ์ 227K ซึ่งถือว่าออกมาน้อยกว่าเดิมค่อนข้างมาก เป็นปัจจัยบวกกับราคาทองคำ ซึ่งต้องมาดูกันว่าตัวเลข Non-farm ของจริงในวันศุกร์จะเป็นเช่นไร ในขณะที่คาดการณ์นั้นยังเป็นบวกกับราคาทองคำ
- ECB ได้เพิ่มเพดานวงเงินสำรอง Emergency Liquidity Assistance (ELA) สำหรับให้กรีซสามารถถอนฉุกเฉินผ่านธนาคารกลางของกรีซได้ วงเงิน 700 ล้านยูโร แหล่งข่าวจากรอยเตอร์เมื่อวานนี้ ซึ่งการเพิ่มเพดานรอบนี้ทำให้ไปอยู่ที่ระดับ 71.8 พันล้านยูโร ส่วนสถานการณ์ในกรีซก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้
- ความคืบหน้าของกรีซกับเจ้าหนี้ยังคงเจรจากันต่อไป หลังจากกรีซออกมายืนยันว่า กรีซและเจ้าหน้าที่ของอียูมีความคืบหน้าในการประชุม และอาจได้ข้อสรุปแผนช่วยเหลือใน 2-3 วันข้างหน้า นอกจากนี้กรีซยังออกมาปฎิเสธข่าวลือถึงแผนการที่จะไม่ยอมจ่ายเงินกู้คืน IMF ที่จะถึงในวันที่ 9 เมษายนนี้ หากเจ้าหนี้ไม่ยอมส่งเงินช่วยเหลือมาให้ต่อ ในปัจจุบันกรีซเหลือเงินสดไม่มาก ท่ามกลางการแช่แข็งเงินช่วยเหลือจากทาง IMF เนื่องจากไม่มีแผนปฎิรูปที่ชัดเจนเพียงพอ ต้องมาติดตามกันว่าเรื่องนี้จะจบได้อย่างไร
- นายกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ออกมายกเลิกกฎอัยการศึก ที่ประกาศในช่วงที่มีเหตุการณ์ทางการเมือง ซึ่งกินระยะเวลาถึง 10 เดือน เนื่องจากปัจจุบันไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องใช้ ส่วนอัตราเงินเฟ้อของไทย หากไม่รวมสินค้าหมวดพลังงานและอาหารปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยหากรวมยังคงหดตัวต่ำสุดในรอบ 5 ปีครึ่ง
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Unemployment claims 286K 282K
01 เมษายน 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 1 เมษายน 2558
01 เมษายน 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 1 เมษายน 2558
แนวทางทองคำวันที่ 1-4-58
เเนวรับ 1183 1180 1175 เเนวต้าน 1190 1195 1210
ในวันนี้จะมีการประกาศตัวเลข ADP non-farm ที่คาดว่าจะเป็นปัจจัยลบกับราคาทองคำ แต่ต้องให้ระมัดระวังข่าวตัวเลขนี้เพราะโดยปกติของ ADP ราคามักจะผันผวนอยู่ในกรอบ แต่ขึ้นลงค่อนข้างแรง ในระยะสั้นมองแนวต้านบริเวณ 1190 หากผ่านไปได้จะมองโอกาสไปทดสอบใกล่ 1200 แต่หากผ่านไม่ได้ยังมองการแกว่งตัวอยู่ในกรอบระหว่างบริเวณแนวรับ-แนวต้าน บริเวณ 1175-1190 ไปก่อน ปัจจัยอื่นๆยังไม่มีเข้ามาในตลาดมากนัก และหากให้สวยวันนี้ควรจะปิดเหนือกว่า 1200 จึงจะยืนยันการปรับตัวขึ้นต่อในภาพวัน เมื่อมาดูภาพในเดือนที่แล้วทั้งหมดก็พบว่า ทองคำปรับตัวลดลงมาจากเดือนกุมภาพันธ์ และมาอยู่ระดับใกล่ช่วงแรกของปีก่อนที่จะขึ้นไปบริเวณ 1300
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1032 ล้านบาท และเช่นเดิมมีตัวเลข Big lot จึงทำให้ไม่สามารถบ่งบอกได้ชัดเจน ส่วนทางฟิวเจอร์ไป Long สุทธิ 4444 สัญญา ด้าน SET ยังคงพยายามยืนอยู่ 1500 ถึงแม้จะมีแรงซื้อเมื่อวานปิดบวกได้ แต่ยังมองว่าไม่แรงพอ และ ยังต้องอาศัยวันนี้ในการยืนยัน หากวันนี้ปิดบวกแรงๆ เทรนระยะสั้นจะเปลี่ยนเป็นรีบาวน์ได้ ตลาดต่างประเทศก็เริ่มออกอาการดีขึ้นโดยเฉพาะเอเชีย และ หุ้นจีนที่กำลังจะผ่านแนวต้านสำคัญ ค่าเงินบาทแข็งค่าลงมา 32.50 หากผ่านลงไปแข็งต่อ
ทางเลือกหลัก : มองราคาปรับตัวขึ้นต่อไปยังระดับใกล้ 1200 โดยมีแนวต้านระยะสั้นที่ 1190
ทางเลือกรอง : ราคาไม่สามารถผ่าน 1190 มาได้ จะมองการปรับตัวลดลงต่ออีก
รายละเอียด
- เมื่อวานมีข่าวตัวเลขเศรษฐกิจของยุโรปออกมาพอสมควร ตัวเลข CPI หรืออัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนออกมาขยายตัวเล็กน้อยแต่ยังหดตัว –0.1% จากเดือนก่อนหน้า –0.3% ที่เท่ากับคาดการณ์ บ่งบอกว่า เงินเฟ้อที่อยู่ระดับต่ำในยูโรโซนมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นแล้วเล็กน้อย ส่วน GDP ของอังกฤษ (UK) ขยายตัว 0.6% จากรอบก่อน 0.5% เท่ากับคาดการณ์ ส่วนอัตราว่างงานของเยอรมันปรับตัวดีขึ้น
- ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอเมริกาปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 101.3 จากเดือนก่อนหน้า 98.8 และคาดการณ์ 96.6 บ่งบอกให้เห็นถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้เมื่อมาดูแนวโน้มของความเชื่อมั่นนับตั้งแต่ต้นปี 2013 จะเห็นการเรียงตัวในขาขึ้นมาตลอด บ่งบอกถึงแนวโน้มที่ดีของผู้บริโภค ข่าวนี้เป็นปัจจัยลบกับราคาทองคำ
- ข้อมูลจาก CNBC เปิดเผยว่า เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมากองทุน SPDR ได้ลดสถานะมากที่สุดใน 1 เดือน นับตั้งแต่เดือน ธันวาคม 2013 แสดงให้เห็นถึง ทิศทางของนักลงทุนที่ยังไม่กลับมาลงทุนในทอง
- ตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนออกมาที่ระดับ 50.1 จากรอบก่อนหน้า 49.9 หลังจากภาคการผลิตออกมาดีขึ้น ซึ่งช่วงก่อนหน้านั้นจีนได้ถูกกดดันจากภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวลง และ เมื่อเศรษฐกิจมีเสถียรภาพขึ้น ความเชื่อมั่นมากขึ้น ภาคการผลิตก็กลับมาดีขึ้น ถึงแม้ตัวเลขจะไม่ได้ออกมาเกินระดับ 50 ที่เป็นเส้นแบ่งระหว่างการหดตัวและขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม มากนัก แต่การยืนเหนือ 50 ได้ก็เป็นสัญญาณที่ดี ทางฝั่งญี่ปุ่นมีประกาศดัชนี Tankan ที่สำรวจบริษัทใหญ่ๆในภาคอุตสาหกรรมพบว่า ออกมาเท่ากับเดือนก่อนหน้า ขณะที่คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่มองไตรมาสหน้าดัชนี Tankan จะลดลงเล็กน้อย
- แผนปฎิรูปของกรีซที่ส่งไป EU และ IMF เมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมาล่าสุดยังไม่สามารถตกลงกันได้ เนื่องจากทางเจ้าหนี้มองว่าแผนปฎิรูปที่กรีซส่งมานั้นเป็นแค่ไอเดียมากกว่าที่จะนำไปปฎิบัติได้จริง
-วันนี้จะมีการประกาศตัวเลข ADP ซึ่งคาดว่าจะออกมาดีขึ้น แต่นักวิเคราะห์ให้จับตาดูเรื่องสภาวะอากาศที่หนาวเย็นอาจจะทำให้ตัวเลขปรับตัวลดลงได้
- ธปท รายงานตัวเลขเศรษฐกิจของไทย ยังฟื้นตัวช้าๆ นำโดยภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัวชัดเจนขึ้น
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.15 USD
ADP non farm employment change 227K 212K
21.00 USD
ISM manufacturing PMI 52.5 52.9
31 มีนาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 31 มีนาคม 2558
31 มีนาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 31 มีนาคม 2558
แนวทางทองคำวันที่ 30-3-58
เเนวรับ 1180 1178 1170 เเนวต้าน 1187 1190 1200
ทองคำได้รับปัจจัยลบจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดี และยังคงปรับตัวลดลงต่อ ในระยะสั้นยังมองว่าได้รับแรงกดดันจากปัจจัยด้านกราฟที่ยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ระดับแนวรับที่สำคัญจะอยู่ที่บริเวณ 1178-1180 ซึ่งค่อนข้างหนาแน่น และเป้นระดับแนวรับฟิโบที่ 50% จึงมองว่า ระดับนี้จะสามารถพยุงราคาได้ แต่หากไม่ได้ แนวโน้มราคาจะลงไปอีก $10 และไปเจอแนวรับสุดท้ายที่ประมาณ 1170 แนวรับนี้เป็นระดับฟิโบที่ 61.8% ซึ่งไม่ควรจะหลุดแล้ว (ไม่ควรหลุดตั้งแต่ 1178) หากหลุดแล้ว แนวโน้มขาขึ้นจะเสียความได้เปรียบ และจะต้องใช้เวลาอีกสักพักในการขึ้น ปัจจัยบวกระยะสั้นยังไม่ค่อยมี แต่ระยะกลางยังมีเรื่องของ ดอกเบี้ย และ สงครามที่รอปะทุ
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 72 ล้านบาท ทั้งนี้ตัวเลขในวันนี้คาดว่ามีการคลากเคลื่อนจากการทำ Big lot และยัง Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก 1805 สัญญา มุมมองของ SET ยังมองว่า ดัชนีแกว่งตัวออกข้างพยายามยืน 1500 แต่คิดว่าหากยังไม่มีแรงซื้อคงจะได้เห็นการปรับตัวลดลงต่อตามแนวโน้มเดิม ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่เห็น เพียงแต่ต้องมาดูปัจจัยบวกจากต่างประเทศที่ส่งมา โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนที่ปรับตัวสองวันขึ้นร่วมกว่า 5% แล้ว เงินบาทกลับลงมาแข็งค่าใหม่อีกครั้ง แนวรับบริเวณ 32.50 ยังไม่หลุดลงไป
ทางเลือกหลัก : มองราคาไหลลงต่อไปยังแนวรับ1178-1180 และหากยังไม่หยุดคาดว่าจะลงได้อีก $10 แต่ถ้าไม่หยุดระดับนี้การขึ้นกลับไปอาจจะต้องใช้เวลาสักเล็กน้อย
ทางเลือกรอง : ราคาหยุดที่ระดับแนวรับ 1178 และรีบาวน์ ถ้ามองจากตรงนี้โอกาสเกิดยังน้อยกว่า
รายละเอียด
- ตัวเลขเงินเฟ้อ Core PCE ที่เฟดใช้เป็นตัววัดเงินเฟ้อ (มากกว่าที่จะใช้ CPI) ออกมาที่ระดับเดิมที่ 0.1% และเท่ากับคาดการณ์ แสดงให้เห็นถึงเงินเฟ้อที่ยังไม่เพิ่มขึ้น ส่วนตัวเลขรายได้ส่วนบุคคลออกมาเท่าเดิมที่ 0.4% ซึ่งมากกว่าคาดการณ์เล็กน้อยที่ 0.3% ขณะที่รายจ่ายส่วนบุคคลดีขึ้นเล็กน้อยออกมาที่ระดับ 0.1% ขณะที่เดือนก่อนหน้าหดตัว –0.2% และคาดการณ์ 0.3% นอกจากนี้ยอดบ้านราปิดการขาย Pending home sales ออกมาดีขึ้นที่ระดับ 3.1% จากเดือนก่อนหน้า 1.2% และคาดการณ์ 0.5% จากกลุ่มตัวเลขข่าวนี้ ถ้ามองโดยรวมแล้วค่อนข้างเป็นปัจจัยลบกับราคาทองคำ ทั้งนี้ราคาได้สะท้อนข่าวดีจากการปรับตัวลดลงมาตลอดทั้งวัน
- ข่าวใน CNBC หน้าหนึ่งกล่าวไว้ว่า นอกจากตลาดแรงงานแล้ว ภาคอื่นของระบบเศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวอย่างไม่แข็งแกร่ง ราคาน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลดลงกลับไม่ได้กระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภคเท่าไรนัก ผู้บริโภคใช้ประโยชน์จากการที่ราคาพลังงานลดลงนำไปออมเงินเพิ่มขึ้น แทนที่จะใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากตัวเลขการออมที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในรอบ 2 ปี
- Goldman Sachs ออกมาให้ความเห็นว่า เงินเยนที่อ่อนค่าลงในช่วงปีที่ผ่านมา อาจจะไม่ทำให้อัตราเงินเฟ้อในญี่ปุ่นเพิ่มสูงขึ้นนัก เพราะ ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงเกินกว่า 50% เช่นเดียวกัน และมองว่า เงินเยนที่อ่อนค่าลงจะทำให้เงินเฟ้อเกิดขึ้นเพียง 0.4% เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินจะมีผลเล็กน้อยกับเงินเฟ้อ นอกจากนี้ประเทศในกลุ่มยูโรโซนก็ยังมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเงินฝืดเช่นเดียวกัน และดูเหมือนจะเป็นปัญหากับยูโรโซนที่สุดในตอนนี้ ล่าสุดตัวเลข CPI ของยูโรโซนอยู่ที่ระดับ –0.3% ดีขึ้นเล็กน้อยกว่าที่ –0.6%
- จอร์จ โซรอสได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า พร้อมจะลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ในยูเครน หากประเทศในกลุ่มตะวันตก เข้าไปลงทุนด้วย และคาดการณ์โอกาสที่กรีซจะออกจากยูโรโซนมีโอกาสเพิ่มเป็น 75% จากรอบก่อนหน้าที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 50:50
- Bloomberg คาดการณ์ว่ายูเครนมีโอกาสที่จะผิดนัดชำระหนี้ที่ 30% นอกจากนี้แผนปฎิรูปของกรีซที่ส่งไปเมื่อวานนี้ (30 มี.ค.) มีจำนวนทั้งหมด 15 หน้า ซึ่งต้องการรายละเอียดที่มากกว่านี้รวมถึงยังห่างไกลจากข้อตกลงพื้นฐานที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้า
30 มีนาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 30 มีนาคม 2558
30 มีนาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 30 มีนาคม 2558
แนวทางทองคำวันที่ 30-3-58
เเนวรับ 1193 1190 1180 เเนวต้าน 1202 1208 1219
ตัวเลข GDP รอบสุดท้าย ของไตรมาสที่ 4 ปี 2014 ออกมาเท่ากับรอบก่อนหน้า ซึ่งน้อยกว่าคาดการณ์เล็กน้อย แต่ข่าวอื่นอย่างเช่น ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ออกมาดี และ การแถลงการณ์ของนาง เจเนต เยลเลนประธาน FED เกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ย (ข่าวเก่า) เป็นตัวกดดันราคาทองคำในระยะนี้ ประกอบกับภาพทางเทคนิคที่ยังออกอาการย่อตัวลงมาด้านล่าง แนวรับระยะสั้นบริเวณ 1190-1193 ยังมองว่ามีโอกาสที่จะรับไม่อยู่และคาดว่าจะลงไปทดสอบระดับ 1180 +- กรณีที่รับอยู่ที่ 1190 จะทำให้เกิดการชะลอตัวของการลงได้ (ตอนนี้ยังไม่เห็น) ซึ่งโอกาสเกิดในทางนี้น้อยกว่า ข่าวในวันนี้จะมีประกาศตัวเลข PCE ที่เป็นตัววัดอัตราเงินเฟ้อของ FED ปกติไม่ก่อให้เกิดการเหวี่ยงมากนัก
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,047 ล้านบาท และหันกลับมา Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก 1,994 สัญญา ช่วงนี้มีประเด็นเรื่องของ Trigger fund จำนวน 4-5 กองที่กำลังเปิดขาย และคาดว่าจะเข้ามาพยุงตลาดไปในทิศทางเดียวกันกับ window dressing หรือ ปรับพอร์ตของสถาบันรับไตรมาสแรก ต้องมาดูว่าผลของสิ่งเหล่านี้จะพยุงตลาดได้ขนาดไหน เนื่องจากทิศทางของ SET ยังโดนกดดันอยู่ทั้งพื้นฐานและเทคนิค ค่าเงินบาทยังมองการอ่อนค่าลงไปอีกแนวต้าน 32.70 และยังอ่อนค่าต่อเนื่องที่เหนือระดับ 32.50
ทางเลือกหลัก : มองราคายังคงไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะมีแนวรับ 1190-1193 อาจจะรับไม่อยู่และไหลไปยังระดับ 1180 จากทิศทางของราคาที่ยังไม่หยุดการพักตัว
ทางเลือกรอง : ราคาหยุดบริเวณ 1190-1193 และรีบาวน์จะมองว่า เริ่มขะลอการลง
รายละเอียด
- ตัวเลข GDP ตรวจทานครั้งสุดท้าย (Final GDP) ออกมาที่ระดับ 2.2% เท่ากับเดือนก่อนหน้าเท่ากับรอบก่อน ขณะที่คาดการณ์ในรอบนี้จะขยายตัว 2.4% จึงทำให้เกิดความผันผวนในตลาดทองคำเนื่องจาก ข่าวที่ออกมาตีความได้ทั้งสองรูปแบบแต่โดยรวมแล้วค่อนไปทางลบมากกว่า เนื่องจาก คาดว่า GDP จะออกมาดีขึ้นแต่กลับออกมาเท่าเดิมซึ่งเท่าเดิมก็ยังอยู่ในระดับที่สูงและไม่ได้ลดลงจากเดิม เราจึงได้เห็นความผันผวนหลังจากข่าวออก แต่เป็นความผันผวนในกรอบแคบๆ ไม่ใช่ผันผวนแบบมีแนวโน้มเหมือนตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ในขณะที่ Consumer sentiment นั้นปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 93 จากเดือนก่อนหน้า 91.2 และคาดการณ์ 92.5 ข่าวนี้ก็เป็นลบกับราคาทองคำเช่นเดียวกัน
- ในวันศุกร์มีการแถลงการณ์ของนาง เจเน็ต เยลเลนเล็กน้อย เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งกล่าวไว้ประมาณว่า การขึ้นดอกเบี้ยนั้นจะเกิดขึ้นภายในส้นปีนี้ หากตัวเลขเศรษฐกิจดี ซึ่งข่าวนี้ไม่ได้เป็นข่าวใหม่แต่ก็มีคนนำมาเล่น และ ก็เป็นปัจจัยลบกับราคาทองคำ
- กองทุน Hedge fund ลดสถานะ Bullish bet ในทองคำลง แตกลับไปเพิ่มสถานะ Long สุทธิในซิลเวอร์แทน หลังจากราคาได้ผ่านระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน และเป็นการเพิ่มสถานะ Long ในซิลเวอร์เป็นครั้งแรกในรอบ 8 สัปดาหืส่วนมุมมองของกองทุนSPDR ยังคงถือทองคำต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี ยังไม่เห็นแรงซื้อเข้ามาในตลาดทองคำช่วงนี้เท่าไรนัก
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงร่วม 5% ในวันศุกร์จากที่เคยซื้อ-ขายกันที่ระดับประมาณ $50 –$51 ต่อบาร์เรล ลงมาที่ระดับ $48 จากเรื่องของอิหร่าน และ มหาอำนาจของโลกทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ อเมริกา จีน รัสเซีย เยอรมนี ฝรั่งเศส และอังกฤษ (Britain) ได้หารือกันเรื่องปัญหาอาวุธนิวเคลียร์ในอิหร่าน และ อาจจะมีการยกเลิกการคว่ำบาตรที่จะทำให้กำลังการผลิตน้ำมันดิบของอิหร่านกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง และกดดัน Supply อีก
- ประธานธนาคารกลางจีนเตือนว่า การเติบโตของจีนมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเงินฝืด เจ้าหนี้ที่ ที่เกี่ยวข้อง ต้องมีการรับมือภาวะเงินเฟ้อที่ลดลงจนอาจจะกลายเป็นเงินฝืดพร้อมทั้งกล่าวว่า จีนยังมีช่องว่างให้กระตุ้นเศรษฐกิจทั้งมาตรการทางปริมาณและดอกเบี้ย
19.30 USD
Core PCE price index 0.1% 0.1%
Personal spending 0.3% -0.2%
Personal income 0.3% 0.3%