ประชาสัมพันธ์

แนวทางทองคำวันที่ 18-5-58

เเนวรับ 1220 1218 1215 เเนวต้าน 1225 1230 1240

จากเมื่อวันศุกร์ราคาได้ปรับตัวขึ้นมาและพบว่า การขึ้นมานี้ยังขาดแรงส่ง (momentum) พอสมควร ในวันนี้มองว่า ราคาอาจจะพักตัว ถึงปรับตัวลดลงอยู่บริเวณนี้ก่อน ประเมินแนวรับระดับ 1218-1220 เป็นแนวรับแรก ยังมองทิศทางว่าอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้นอยู่ จากปัจจัยบวกทั้งภาพรายวันและสัปดาห์ ซึ่งหากวันนี้ราคาไม่ยอมลง และ ยังปรับตัวสูงขึ้นเกินกว่าระดับ 1225 จะทำให้เกิดแรงซื้อตามไปอีกระลอกหนึ่ง เพียงแต่หากเลือกทางขึ้นก่อน อยากให้ใช้ความระมัดระวังค่อนข้างมาก เนื่องจากอาจจะเกิดการ Divergent ซ้าสอง และหากเกินจริง อยากให้ขายทำกำไรในขณะที่ขึ้นไป ซึ่งโอกาสเกิดเป็นไปได้ทั้งสองทางในวันนี้ แต่ให้น้ำหนักทางลงก่อนได้เปรียบ

ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 721 ล้านบาท และ Short สุทธิในฟิวเจอร์ 671 สัญญา ภาพรวมของดัชนีมองว่าเริ่มฟื้นตัวแล้ว หลังจากแรงซื้อเข้ามาในวันศุกร์และปิดตลาดไปหลุดออกจากแนวโน้มขาลงระยะสั้น มองว่าดัชนีจะเริ่มรีบาวน?ขึ้นได้ ถึงแม้ GDP ในไตรมาสแรกคาดการณ์ออกมาว่าจะปรับตัวไม่ดี แต่ก็เมื่อมองในอนาคตยังมีมุมมองในทางบวกมากขึ้น ประกอบกับการรับรู้ข่าวร้ายไปแล้ว ค่าเงินบาทมองทิศทางเริ่มแข็งค่าลงมาอีกครั้งหนึ่งโดยมีแนวรับประมาณ 33.20-33.30

ทางเลือกหลัก : มองราคาย่อตัวลงมาเล็กน้อยโดยมีแนวรับแรกบริเวณ 1218-1220

ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวเกินกว่า 1225 ขึ้นไปเลย จะเป็นการหลุดแนวต้าน ทั้งนี้การหลุดแนวต้านไปก่อนนันต้องใช้ความระมัดระวัง

รายละเอียด

- ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค Prelim consumer sentiment ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 88.6 จากเดือนก่อหน้า 95.9 และคาดการณ์ 95.8 เป็นการปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 6 เดือน ทางฝั่ง Empire state manufacturing index ออกมาที่ระดับ 3.1 จากเดือนก่อนหน้า –1.2 และคาดการณ์ 5.1 กลุ่มนี้ค่อนข้างเป็นบวกกับราคาทองคำ

- อีกกลุ่มตัวเลขหนึ่ง คือ อัตราการใช้กำลังการผลิตพบว่า ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 78.2% จากเดือนก่อนหน้า 78.6% และคาดการณ์ 78.4% ฝั่งผลผลิตภาคอุตสาหกรรมยังหดตัว –0.3% เท่ากับเดือนก่อนหน้าขณะที่คาดการณ์จะเพิ่มขึ้น 0.1% นับตั้งแต่ต้นปีมา อัตรากำลังการใช้การผลิตปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องทุกเดือน

- กลุ่มตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมานั้นบ่งบอกถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจอเมริกาในระยะนี้ มุมมองในทางบวกกลับไปเพิ่มขึ้นทางฝั่งยูโรโซนที่ถึงแม้จะมีปัญหาเรื่องหนี้กรีซ แต่ประเทศใหญ่ๆอย่างเยอรมันฝรั่งเศส กลับมีอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจที่สูงกว่าอเมริกา ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน จากการคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอจะทำให้ FED ชะลอการขึ้นดอกเบี้ย

- ผลสำรวจรายไตรมาสของ Philadelphia FED พบว่า มีการปรับประมาณการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจอเมริกาในไตรมาสที่สองและทั้งปีลง นอกจากนี้ยังปรับลดลงการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน

- กองทุน Hedge funds เพิ่มสถานะ Long สุทธิในฟิวเจอร์ ในช่วงถึงวันที่ 12 พฤษภาคม ข้อมูลจาก CFCT เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่วนกองทุน Paulson แทบจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงสถานะการถือครองทองคำ ข้อมูลเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

- ราคาบ้านในจีนปรับตัวลดลงแรง 6.1% ในเดือนเมษายนเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่วัดจากเดือน มีนาคมไม่ได้เปลี่ยนแปลงเท่าไรนัก ซึ่งภาคอสังหาริมทรัพย์คิดเป็น GDP ของจีนทั้งหมด 15% ได้ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องจากภาวะ Supply ล้นตลาด แต่ช่วงที่ผ่านมาได้มีการปรับประมาณการณ์ราคาบ้านในอนาคตจากทางฝั่งของ JP Morgan chase และ Barclays 

- ในวันนี้จะมีการประกาศตัวเลข GDP ของไทยในไตรมาสแรกคาดว่าจะขยายตัว 3.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าแต่จะลดลง 0.7% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส

แนวทางทองคำวันที่ 15-5-58

เเนวรับ 1216 1212 1206 เเนวต้าน 1225 1230 1240

ราคาทองคำเมื่อวานนี้ ย่อตัวลงมาเล็กน้อยจากนั้นปรับตัวขึ้นต่อเลย มองว่า อยากให้ย่อลงมาก่อนในวันนี้เนื่องจากการขึ้นแบบเมื่อวานนี้ทำให้เกิด Bearish divergent ขึ้นมาคอยกดดัน ในระยะสั้นมองว่า จะย่อตัวลงมาเล็กน้อยโดยมีแนวรับ 1212 และ 1206 การย่อนั้นหากไม่แรง หรือค่อนข้างทรงตัวในระดับนี้ จะมองว่า อาจจะได้เห็นราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อพร้อมทั้งกับเคลียร์ Divergent ได้ แต่หากการย่อตัวระหว่างวันแรงถ้าไม่หลุด 1206 ก็ยังเป็นจุดซื้อที่ดี กรณีหลุด 1206 บริเวณนั้นลงมาจึงจะเริ่มทำให้ภาพรวมเริ่มเสียไป ทิศทางของเงินดอลลาร์ยังอยู่ในแนวโน้มอ่อนค่าลงต่อเนื่องซึ่งยังเป็นปัจจัยบวกกับราคาทองคำในระยะสั้นนี้

ตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวนอยู่ในช่วงแนวรับตรงนี้ แรงขายเริ่มชะลอตัวลง ยังให้น้ำหนักการรีบาวน์ได้อยู่ ต่างชาติยังคงมียอดสะสม Long สุทธิในฟิวเจอร์ค่อนข้างมากถึงแม้ช่วงหลังมานี้จะเปิด Short มาสักพักหนึ่งแล้ว แนวต้าน 1500 คาดว่าจะเป็นแนวต้านจิตวิทยาที่มีความสำคัญพอสมควร ค่าเงินบาทหลังจากเกิดทิศกลับตัวแข็งค่าลงมามองว่า ระยะสั้นจะอ่อนเล็กน้อย แต่ยังคงเป็นการอ่อนแล้วแข็งค่าต่อตามภาพรวม กรอบแนวรับ 33.20 แนวต้าน 33.70

ทางเลือกหลัก : มองราคาย่อตัวเล็กน้อยก่อนที่จะปรับตัวขึ้นต่อ ทั้งนี้การย่อต้องมาประเมินว่าลึกไหม หากย่อลึกเกินกว่า 1206 นั้นมองว่าไม่ดี แต่คาดว่า จะย่อไม่เกิน

ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1206 ลงมา ไม่ควรมีสถานะซื้ออยู่

รายละเอียด

- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาที่ระดับ 264K จากสัปดาห์ก่อนหน้า 265K และคาดการณ์ 272K เป็นการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องสำหรับคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สู่ระดับใกล้จุดต่ำสุดในรอบ 15 ปี ที่เกิดเมื่อเดือนที่แล้ว ข่าวนี้เป็นปัจจัยลบกับราคาทองคำ แต่เราได้เห็นทองคำดีดขึ้นอาจจะเพราะมาจากข่าวตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ที่หดตัวลงค่อนข้างมากสู่ระดับ –0.2% จากเดือนก่อนหน้า 0.2% และคาดการณ์ 0.1% เนื่องจากเงินดอลลาร์ที่แข็งขึ้นและราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงทำให้เงินเฟ้อในฝั่งผู้ผลิตหดตัวลง ส่งผลให้ทองคำปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์

- ตามเมื่อวานได้มีเทรดเดอร์ออกมาให้ความเห็นว่าการผ่านระดับ $1215 ไปได้นั้นทำให้อาจจะเกิดแรงซื้อเข้ามาไปยังระดับ $1225 และตอนนี้มีนักวิเคราะห์จาก MKS ได้ออกมาให้ความเห็นว่า จะได้เห็นแรงซื้อเพิ่มเติมอีกหากปรับตัวขึ้นเกินกว่าระดับ $1225 นอกจากนี้นักกลยุทธ์ของ Citigroup ได้ออกมาให้ความเห็นเพิ่มเติมอีก ว่า ในไตรมาสนี้น่าจะเห็นราคาทองคำอยู่ระดับบริเวณ $1200 โดยได้รับปัจจัยบวกมาจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง

- ฝั่งตลาด Physical พบว่า ความต้องการทองคำในไตรมาสแรกของปีนี้ปรับตัวลดลง 1% เนื่องมาจากความต้องการทองคำหมวดจิลเวอรีของจีนที่ลดลงทั้งนี้ถึงแม้แรงซื้อจากจีนจะปรับตัวลดลง จีนก็ยังคงเป็นผู้บริโภคทองคำอันดับ 1 ในโลก ยังคงรักษาอันดับกลับมาจากอินเดียได้อยู่

- Greg Davis , global head of fixed income ของกองทุน Vanguard ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ที่กลายมาเป็นกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก (Bond king) ที่ก่อนหน้านั้นเป็นของกองทุน PIMCO ออกมาให้ความเห็นว่า 1 ใน 9 ของคนอเมริกายังคงไม่มีงานทำ ตลาดแรงงานยังไม่เห็นถึงความแข็งแกร่งเท่าไรตัวเลขค้าปลีกยังออกมาไม่ดี เงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิตปรับตัวลดลง หากเป้าหมายคือการทำให้เศรษฐกิจเติบโตที่ 2.5% FED อาจจะต้องไม่รีบขึ้นดอกเบี้ยไปจนกว่าสิ้นปี โดยประเมินไว้ช่วงเวลาประมาณ กันยายน หรือไม่ก็ ธันวาคม

- กรีซมีแผนแผรรูปรัฐวิสาหกิจอย่างท่าเรือ และสนามบินเพื่อให้ตรงกับเงื่อนไขข้อกำหนดเจ้าหนี้

- รมว.คลังไทยกล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเติบโตที่ 2.5% ถือว่าขยายตัวได้เพิ่มจากปีก่อน 0.7%

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

21.00 USD 

Prelim consumer sentiment 95.8 95.9

แนวทางทองคำวันที่ 14-5-58

เเนวรับ 1210 1206 1200 เเนวต้าน 1216 1220 1225

ราคาทองคำเมื่อวานนี้ได้รับแรงกระตุ้นจากตัวเลขค้าปลีกที่ออกมาน้อยลง ถึงแม้ปกติจะไม่ใช่ข่าวแรงแต่เนื่องจากความผันผวนที่มากขึ้นของตลาดการเงินอย่างพันธบัตร และ การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ทำให้ ทองคำมีแรงซื้อเข้ามามาก และสามารถหลุด Downtrend ในภาพวันออกมาได้ ประเมินว่าหากหลุด 1225 ที่เป็นแนวต้านสำคัญออกไปได้จะเปิด Upside ขึ้นไปใกล้ระดับ 1300 ได้ในภาพรวม โดยมีเงื่อนไขในระยะสั้นว่า วันนี้ไม่หลุด 1206 เนื่องจากในวันนี้จะมองการย่อตัวลงไปก่อนเล็กน้อยโดยมีแนวรับแรก 1210 และแนวรับสำคัญที่ไม่ควรหลุดลงไปก็คือ 1206 นี่เอง ปัจจัยอย่างค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าสุดในรอบ 3 เดือน เพียงแต่ให้ระมัดระวังความผันผวนในตลาดพันธบัตร

ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย พร้อมทั้ง Long สุทธิเป็นวันแรก แต่จำนวนนั้นยังไม่ค่อยมากนัก เมื่อวานนี้มีการรีบาวน์ขึ้นมา และระยะสั้นอย่าง H1 เกิดสัญญาณ Bullish divergent ขึ้นทำให้มองว่า แนวรับตรงนี้มีลุ้นว่าอาจจะรับอยู่ และราคามีแนวโน้มจะเริ่มดีดตัว เพียงแต่อยากเห็นการยืนยันจากแท่งเทียนในการปรับตัวสูงขึ้น เป็นไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าและเกิดแท่งเทียน Evening star ที่เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการกลับตัวแข็งค่า โดยมีแนวรับระยะสั้น 33.20 แนวโน้มแข็งค่า

ทางเลือกหลัก : มองราคาปรับตัวลดลงมาเล็กน้อย หากจะขึ้นต่อให้เต็มที่ 1206 ไม่ควรหลุด

ทางเลือกรอง : ราคหลุดลงมาต่ำกว่า 1206 และปิดต่ำกว่านั้น จะมองว่า การขึ้นเสียความได้เปรียบ

รายละเอียด

- ตัวเลขค้าปลีก (Retail sales) ออกมาที่ระดับ 0.0% หรือไม่ขยายตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าขยายตัว 1.1% และคาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.3% ตัวเลขค้าปลีกแบบไม่รวมสินค้าหมวดยานพาหนะ (Core retail sales) ขยายตัว 0.1% จากที่ขยายตัวในเดือนก่อนหน้า 0.7% และคาดการณ์ 0.4% ซึ่งโดยรวมแล้วตัวเลขค้าปลีกยังส่งสัญญาณในทางที่ไม่ดีออกมา เพราะ แทบจะไม่ขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า เนื่องมาจาก ภาคครัวเรือนทำการซื้อรถยนต์ หรือ สินค้าคงทนที่มีราคาสูง บ่งบอกถึงเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณฟื้นตัวกำลังติดขัดท่ามกลาง GDP ที่ไม่ขยายตัวในไตรมาสแรก ข่าวนี้เป็นปัจจัยบวกกับทองคำ และส่งผลให้ทองคำปรับตัวขึ้น 1.8% เป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เปิดเดือน เมษายน 2558 

- หลังจากข่าวต่างๆประกาศมาตั้งแต่ตัวเลขจากการจ้างงานนอกภาคเกษตร ค่าเงินดอลลาร์ก็อ่อนค่าลงมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดลงมาสู่ระดับอ่อนค่าที่สุดในรอบ 3 เดือน นอกจากนี้ความผันผวนในตลาดพันธบัตรทั่วโลก ต่างทำให้เกิดความปั่นป่วนทางด้านการเงินขึ้นมา และคาดว่ากำลังหาสินทรัพย์ที่จะเป็นที่ลงของเงิน

- เทรดเดอร์ทางฝั่งเมืองนอกให้ความเห็นว่า อยากให้ราคาปรับตัวเกินกว่าระดับ $1215 จะทำให้ราคาทองคำออกจากกรอบ (Trading range) บริเวณ $1175-1225 ที่แกว่งตัวมาเป็นระยะ 10 สัปดาห์ได้ ทางฝั่ง HSBC ก็กลับมาตั้งคำถามว่า ทองคำจะได้รับประโยชน์จากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าในรอบนี้แค่ไหน และ ความผันผวนในตลาดพันธบัตรจะมาช่วยกดดัน หรือแม้แต่ทำให้ทองลงในอนาคตหรือไม่ ถึงแม้มายืนเหนือระดับ $1200 ได้ แต่ก็ยังไม่ชัดเจนถึงปัจจัยที่เข้ามาสองตัวพร้อมกันเช่นนี้

- GDP ของยูโรโซนในไตรมาสแรกปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 0.4% และ 1% เมื่อเทียบกันปีต่อปี ซึ่งเป็นการขยายตัวน้อยกว่าคาดการณ์เล็กน้อยจากการชะลอตัวของเยอรมัน ทั้งนี้ถึงแม้จะน้อยกว่าคาดการณ์แต่ GDP ของยูโรโซนในไตรมาสแรกขยายตัวดีเกินกว่าการขยายตัวของอเมริกาไปเรียบร้อยแล้ว และเป็นการขยายตัวที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2013 ทางนักวิเคราะห์ประเมินว่า การขยายตัวของยูโรโซนจะดีกว่าทั้งอเมริกาและญี่ปุ่น

- สถานการณ์ของกรีซยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับอียูได้ ในบางเรื่อง อย่างเช่น ช่วงอายุการเกษียณ ส่วน รมว.คลังก็ออกมากดดันให้กรีซทำประชามติว่ายังอยากอยู่ในยูโรโซนหรือไม่

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD

Unemployment claims 272K 265K
PPI / Core PPI 0.1% 0.2%

แนวทางทองคำวันที่ 13-5-58

เเนวรับ 1190 1185 1180 เเนวต้าน 1197 1200 1205

พฤติกรรมราคาในช่วงนี้ยังเป็นการเคลื่อนไหวในกรอบที่ค่อนข้างชัดเจน ไม่มีแนวโน้มมาสักระยะหนึ่งถึงแม้จะมีข่าวแรงๆก็ไม่สามารถทำให้ทองคำหลุดออกจากกรอบได้ ยังคงมองเป็นการซื้อ-ขายเก็งกำไรระยะสั้น แต่ในตอนนี้ฝั่งขึ้นกลับมาได้เปรียบกว่าเล็กน้อยในด้านเทคนิค ส่วนด้านพื้นฐานยังพบว่าเป็นในแนวทางเดียวกันคือ ความผันผวนที่จะเพิ่มมากขึ้น ตลาดพันธบัตรได้เกิดแรงขายออกมาอย่างรุนแรงต่อเนื่องกันหลายวัน ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงมาแต่ไม่สามารถพาทองคำขึ้นไปได้ กระแสเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ด้วยปัจจัยที่สับสนเหล่านี้ทำให้ตลาดทองคำยังคงไม่สามารถเลือกทางได้ชัดเจนทั้งแง่พื้นฐานและเทคนิคในระยะนี้

ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1198 ล้านบาท และ Short สุทธิในฟิวเจอร์ 9174 สัญญา เมื่อวานนี้ดัชนีปรับตัวลดลงต่อค่อนข้างแรง แนวรับสำคัญระยะสั้นอยู่บริเวณนี้ทั้งโซนหากหลุดไปอีกมองว่าโอกาสลงต่อ 40-50 จุดยังมี ตลาดยังหวังให้แนวรับนี้รับอยู่ ในเบื้องต้นวันนี้มองรีบาวน์ขึ้นไปด้านบนก่อนเล็กน้อย แต่การรีบาวน์ถ้าไม่แรงจะปรับตัวลดลงต่ออีก ค่าเงินบาทหลังจากสัญญาณเตือนเมื่อวาน วันนี้ได้แข็งค่าลงมาแล้ว และมองการแข็งค่าลงมาต่ออีกถึงระดับประมาณ 33.50 ที่เป็นแนวรับย่อย

ทางเลือกหลัก : มองราคาแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1187 และแนวต้าน 1197 ทิศทางยังไม่ชัดเจน

ทางเลือกรอง : -

รายละเอียด

- ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเมื่อวานนี้ท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงมา ล่าสุดเงินดอลลาร์ลงมาใกล้แตะบริเวณเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ดำเนินมาตั้งแต่ เดือน พฤษภาคมในปีที่แล้ว มองว่าตรงจุดนี้ถือว่าเป็นแนวรับสำคัญหนึ่งของเงินดอลลาร์หากอ่อนค่าลงมากว่านี้อาจจะทำให้เงินไหลเข้ามาในตลาดคอมโมดิตีได้บ้าง ประกอบกับเมื่อวานนี้มีข่าวเรื่องกรีซชำระหนี้ IMF ได้เร็วกว่ากำหนด 1 วัน แต่คนในตลาดมองว่า ถึงแม้จะชำระงวดหนี้ได้ แต่กรีซก็ยังพบกับปัญหาเรื่องสภาพคล่อง และก่อให้เกิดความผันผวนในตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงเช่นกันเมื่อวานนี้ ทองคำปรับตัวสูงขึ้นใกล้ระดับ $1200 นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า ถึงแม้จะมีการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ แต่ตัว Real interest rate ยังคงเป็นบวกมากขึ้นทำให้ทองคำยังไม่ได้รับปัจจัยบวกจากตรงนี้

- อีกตลาดหนึ่งที่ตอนนี้คนติดตามกันมากคือ ตลาดพันธบัตรของฝั่งยุโรป อย่าง German Bund ที่ Yield ปรับตัวขึ้นแรงในช่วงที่ผ่านมา เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับทิศทางของพันธบัตรทั่วโลกที่เกิดแรงขายออกมาค่อนข้างมาก เหตุผลส่วนหนึ่งเชื่อว่ามาจาก นักลงทุนมองว่าเงินเฟ้อของยูโรโซนมาถึงจุดต่ำสุดแล้ว และกำลังจะปรับตัวขึ้น อีกฝั่งหนึ่งก็มองว่า ECB จะยกเลิกการทำ QE เร็วกว่ากำหนด

- ความเห็นจาก FED สาขา Dudley มีความเห็นว่า เค้าไม่รู้ว่าอัตราดอกเบี้ยของ FED มีแนวโน้มจะขึ้นเมื่อไร และยังเห็นสัญญาณที่ยังขัดแย้งกันอยู่ คาดว่าจะรู้ผลภายในสิ้นปีนี้

- แรงขายจากกองทุน SPDR เมื่อวันศุกร์ทำให้สื่อต่างประเทศนำข่าวนี้มาเล่นกันมาก เนื่องจากเป็นการขายมากถึง 11 ตันในวันเดียว ทำให้ Sentiment หรือมุมมองของคนต่อตลาดมองไปในแง่ลบ และ ก็ยังออกมาให้ความเห็นเหมือนเดิมว่า หากมีเงินไหลออกอีกจะยิ่งทำให้ทองคำขึ้นยาก และอาจจะปรับตัวลดลงต่อได้เลย

- ECB ได้ออกมาขยายวงเงินเพดานหนี้ของกรีซอีก 1.1 พันล้านยูโร สู่ระดับ 
8 หมื่นล้านยูโร โดยให้เหตุผลว่า กรีซได้แสดงเจตนาในการร่วมมือการบรรลุข้อตกลงกับอียู แต่ ECB ยังไม่มีแผนที่จะทำการ Hair-cut หนี้กรีซให้ ทางฝั่งอียู ก็ออกมาวางแผนรับมือเกี่ยวกับ กรณีที่กรีซจะต้องออกจากยูโรโซนว่าจะมีการรับมือเช่นไร ในขณะที่กรีซก็กล่าวว่า กรีซไม่มีแผนที่จะออกจากอียูไปและกำลังหารือเกี่ยวกับแผนที่จะทำให้กรีซไม่เกิดการผิดนัดชำระหนี้ สถานการณ์ในกรีซยังคงมองว่า ยังไม่ชัดเจนในอนาคต

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD

Retail sales 0.3% 0.9%
Core retail sales 0.4% 0.4%

แนวทางทองคำวันที่ 12-5-58

เเนวรับ 1182 1178 1175 เเนวต้าน 1185 1190 1194

เมื่อวานราคายืนยันการปรับตัวลดลงต่อ และยังวิ่งอยู่ในกรอบแนวโน้มขาลง ยังไม่เห็นสัญญาณการปรับตัวขึ้นที่มีนัยสำคัญ ในวันนี้มองว่าจะมีการรีบาวน์เล็กน้อยไปยังบริเวณ 1185-1188 ซึ่งบริเวณตรงจุดนั้นมองว่าราคาจะไม่ผ่านและจะปรับตัวลดลงต่อโดยมีแนวรับสำคัญบริเวณ 1175 กรณีหากราคาขึ้นไปยืนระดับ 1190-1195 ได้เท่านั้นจึงจะทำให้ภาพรวมกลายเป็นกลาง ซึ่งโอกาสเกิดทางนี้มองว่าน้อยกว่าการปรับตัวลดลง ภาพรวมยังส่งสัญญาณค่อนข้างสับสน ยังไม่แน่ชัดในทางใดทางหนึ่ง และติดตามค่าเงินบาทในระยะนี้ให้ดี เกิดสัญญาณเตือนถึงการแข็งค่ามาแล้ว ระยะสั้นคาดว่าเงินบาทจะมีแนวโน้มผันผวนกว่าตัวราคาทองคำพอสมควร

ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1673 ล้านบาท และ Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก 5499 สัญญา ส่วนตลาดตราสารหนี้ยังเป็นเป้าหมายของการขายของต่างชาติอยู่ เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องถึมแจ้มะมีการรีบาวน์ขึ้นมาในช่วงเช้า ยังคงน้ำหนักของการปรับตัวลดลงอยู่ในช่วงนี้ เนื่องจาก ยังขาดปัจจัยใหม่ๆอีกทั้ง มุมมองของนักลงทุนยังไม่ปรับตัวดีขึ้นเลย ค่าเงินบาทผันผวนรุนแรงทางฝั่งอ่อนค่า แต่มองว่า การอ่อนค่าเริ่มเป็นไปอย่างจำกัดแล้ว ให้ระวังการแข็งค่า

ทางเลือกหลัก : มองราคาปรับตัวขึ้นไปเล็กน้อยบริเวณ 1185-1188 ก่อนที่จะปรับตัวลดลงต่อ

ทางเลือกรอง : -

รายละเอียด

- ข่าวตัวเลขเศรษฐกิจยังไม่มี และในสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร Non-farm payroll ซึ่งข่าวต่างๆนั้นจะออกมาค่อนข้างน้อย ทั้งนี้เงินดอลลาร์เมื่อวานนี้ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่น และส่งผลให้ทองคำปรับตัวลดลง ทองคำยังไม่สามารถขึ้นไปแตะระดับใกล้ $1200 ได้ในช่วงนี้ถึงแม้จะมีข่าวบวกเข้ามาบ้าง คาดว่าเป็นกระแสของการขึ้นดอกเบี้ยที่ยังสับสน

- สถานการณ์ในกรีซล่าสุดมีความคืบหน้ามากขึ้น หลังกรีซสามรถจ่ายชำระหนี้เงินกู้ IMF ที่จะครบกำหนดในวันนี้วงเงิน 750 ล้านยูโร ซึ่งกรีซจ่ายไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ จ่ายก่อนครบกำหนด 1 วัน ส่วนความคืบหน้าเรื่องแผนปฎิรูปยังไม่ได้รับข้อสรุป แต่ก็มีความคืบหน้าไปมากกว่าเดิมมาก ล่าสุดกรีซได้มีการปฎิรูปภาษี VAT , กองทุนบำเหน็จบำนาญ เมื่อมองไปข้างหน้าอีก จะพบว่า ปัญหาของกรีซเรื่องการขาดสภาพคล่องยังอยู่ในแนวโน้มของการรีบเร่งหาเงินทุน ซึ่ง Finance minister ของกรีซออกมาแสดงความกังวลเรื่อง เงินสดที่กำลังจะหมดไปในงวดหน้าหากไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ

- SPDR ยังคงไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม แต่สื่ออย่าง CNBC ก็ออกมาแสดงความเห็นว่า การลดลงของสถานะกองทุนในวันศุกร์เป็นการปรับตัวลดลงรุนแรงที่สุดในรอบปี ย้ำถึงมุมมองของคนในตลาดที่ยังมองในแง่ลบเกี่ยวกับราคาทองคำ ทั้งนี้นักวิเคราะห์หรือเทรดเดอร์หลายคนใช้สถานะของกองทุน ETF เหล่านี้มาใช้หาแนวโน้มของทอง หากแนวโน้มสูงขึ้น ทองคำมักจะปรับตัวขึ้นตาม ซึ่งหากยังคงย่อตัวลงอย่างนี้มองว่า โอกาสที่ทองคำจะขึ้นไปแรงๆนั้นเป็นไปค่อนข้างยาก

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเล็กน้อย มาซื้อ-ขายกันที่ระดับ $58-59 ต่อบาร์เรล โดยมีสาเหตุหนึ่งมาจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และ Supply ที่ยังออกมาล้นตลาดเช่นเดิม มีความเห็นจาก OPEC ว่า น้ำมันจะอยู่ต่ำกว่า $100/บาร์เรลไปอีกหลายทศวรรษ และ นักวิเคราะห์มองว่า น้ำมันดิบที่รีบาวน์ขึ้นมากว่า 40% จากระดับต่ำสุดน่าจะมาถึงจุดสิ้นสุดของรอบแล้ว

- ช่วงนี้กระแสกองทุน ETP หรือ กองทุนที่อ้างอิงสินทรัพย์ทางการเงินประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ทองคำ หุ้น พันธบัตร ล้วนแล้วแต่มีเงินไหลเข้าเป็นจำนวนที่น้อยลง

แนวทางทองคำวันที่ 11-5-58

เเนวรับ 1187 1185 1180 เเนวต้าน 1190 1194 1200

ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมามากกว่าเดือนก่อนหน้าถึงแม้จะน้อยกว่าคาดการณ์เล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วค่อนข้างเป็นปัจจัยลบ นอกจากนี้อัตราว่างงานยังปรับตัวลดลงต่อเนื่องเหลือระดับ 5.4% จากข่าวที่ออกมาผสมกันเหล่านี้ทำให้เกิดความผันผวนของทิศทางในกรอบแคบๆ ซึ่งเมื่อดูทิศทางโดยรวมแล้ว ยังให้น้ำหนักทางฝั่งลงก่อนมากกว่า โดยมีแนวรับ 1185 เป็นแนวรับแรก กรณีถ้าหลุด 1185 ลงไปจะทำให้เกิดการหลุดแนวรับลงไปอีก $5-10 มีแนวรับสำคัญที่ 1175 กรณีลงมา 1185 แล้วรับอยู่มองการรีบาวน์ขึ้นไป 1190 อีกครั้งหนึ่ง ภาพรวมยังคงเป็นการเน้นเก็งกำไรในกรอบแคบๆบริเวณนี้ โดยมีความได้เปรียบในฝั่งขาลงที่มากกว่าเล็กน้อย

ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 472 ล้านบาท และยัง Short สุทธิในตลาดหุ้นต่อ 2097 สัญญา เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ตลาดหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์ปิดบวกแรงขึ้นมาเหนือระดับ 1500 จุด ซึ่งมองว่าทิศทางยังมีความผันผวนค่อนข้างมาก ปัจจัยที่ทั้งบวกและลบผสมกันไปหมด จึงยังอยากให้แนวโน้มชัดเจนมากกว่านี้ ทิศทางเริ่มชะลอการลง จากแท่งเทียนเมื่อวันศุกร์ ซึ่งน่าจะรอวันนี้ยืนยันอีกครั้ง ว่าทางฝั่งไหนจะมีอิทธิพลกับตลาดมากกว่ากัน ค่าเงินบาทมองการแข็งค่าลงมาเล็กน้อย โดยมีแนวรับสำคัญ 33.20

ทางเลือกหลัก : มองราคาเริ่มไหลลงอีกครั้งหนึ่ง โดยมีแนวรับ 1185 ส่วนแนวต้านบริเวณ 1190 น้ำหนักยังมองในกรอบ แต่ค่อนไปทางปรับตัวลดลงก่อน

ทางเลือกรอง : -

รายละเอียด

- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาที่ระดับ 223K จากเดือนก่อนหน้า 106K และคาดการณ์ 228K ส่วนระดับอัตราว่างงานออกมาที่ระดับ 5.4% จากเดือนก่อนหน้า 5.5% กลุ่มตัวเลขชุดนี้ค่อนข้างเป็นลบกับราคาทองคำ เนื่องจาก ตัวเลขออกมาดีกว่าเดือนที่แล้วถึงแม้จะไม่มากเท่าคาดการณ์ก็ตาม และเดือนที่แล้วเป็นเดือนที่การจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงเนื่องจากภาวะภัยหนาว ในเดือนนี้จึงก่อให้เกิดความผันผวนและยากแก่การตีความ ส่งผลให้ทองคำผันผวนรุนแรงอยู่ในกรอบ ทั้งนี้รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงปรับตัวลดลงเหลือระดับ 0.1% จากเดือนก่อนหน้า 0.2% 

- จากตัวเลขการจ้างงานที่ออกมานั้น ทำให้กระแสเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยเร็วหรือช้ากว่ากำหนดเริ่มกลับมา อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้กระแสก็ยังคงเหมือนเดิมแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายเช่นเดิม ข่าวนี้ก็ทำให้ความผันผวนของราคาทองคำยังคงแกว่งตัววนไปวนมาในกรอบ ทั้งนี้ตลาดหุ้นดาวโจนส์และทางฝั่งตลาดหุ้นของทางฝั่งยุโรปปรับตัวขึ้นแรงในวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่วนในเช้าวันนี้ตลาดหุ้นเอเชียได้รับประโยชน์จากการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินของจีน (ลดดอกเบี้ยลงอีก 25 Basis points) เป็นการลดดอกเบี้ยเป็นรอบที่ 3 ในรอบ 6 เดือน

- ข้อมูลจาก CME Fedwatch เปิดเผยว่า เทรดเดอร์มองว่า FED มีโอกาส 51% ที่จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยประเมินไว้ในเดือน ธันวาคม โดยอาศัยการประเมินจาก Fed Fund Rate futures 

- สถานะของกองทุน SPDR ยังคงเป็นมุมมองของ Bearish ในวันศุกร์ขายเพิ่มอีก 1.45% สู่ระดับ 728.33 ตัน ส่วนทางฝั่ง Hedge funds และกองทุนต่างๆ ปรับลดการถือครองสถานะ Bullish ในช่วงปิดสัปดาห์ถึงวันที่ 5 พฤษภาคม ข้อมูลจาก CFCT เปิดเผยกับ CNBC เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

- รมว.คลังของเยอมัน ออกมาประเมินสถานการณ์ของกรีซว่า ให้ระวังเพราะอาจเกิดสถานะการผิดนัดชำระหนี้แบบไม่ตั้งใจ เนื่องจาก กรีซกำลังมีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง หรือเงินสดในมือน้อยลงค่อนข้างมาก ตลาดกำลังติตตามการประชุมในวันนี้อีกครั้งหนึ่ง หลังจากประชุมรอบก่อนหน้าไม่ได้มีความคืบหน้าอะไรมารายงานเท่าไรนัก

- ธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 6 เดือนสู่ระดับ 5.1%

แนวทางทองคำวันที่ 8-5-58

เเนวรับ 1183 1180 1175 เเนวต้าน 1185 1188 1195

ในวันนี้ช่วงเวลา 19.30 ตามเวลาบ้านเราจะมีการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร หรือ Non-farm payroll (NFP) คาดการณ์ว่าตัวเลขจะออกมาดีขึ้น และเป็นปัจจัยลบกับราคาทองคำ และเมื่อมาดูตลาดอื่นๆอย่างค่าเงินดอลลาร์ ค่าเงินเยน ค่าเงินยุโร ต่างพบว่า แนวโน้มของราคาหลังจากประกาศข่าวมีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงไปอีก โดยมีแนวรับสำคัญบริเวณ $1175 ในวันนี้ระยะสั้นมองว่าอาจจะมีการรีบาวน์ขึ้นมาก่อนเล็กน้อยถึงบริเวณ 1186-1188 กรณีถ้าตัวเลขข่าวออกมาผิดคาดการณ์ เราต้องเห็นราคากลับขึ้นไปยืน 1195 ให้ได้จึงจะทำให้ภาพของขาลงที่ได้เปรียบมานี้กลายเป็นกลางไป และหากผ่านขึ้นไปได้เท่าไรยิ่งยืนยันมุมบวก แต่เบื้องต้นมองว่าทางลงได้เปรียบ

ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยเล็กน้อย 32 ล้านบาท และยังคง Short สุทธิในฟิวเจอร์เป็นวันที่ 6566 สัญญา จากที่เมื่อวานมองว่า ตลาดหุ้นจะเริ่มรีบาวน์ปรากฏว่า ตลาดเฉลยมาว่า ลงต่อ และปรับตัวลดลงค่อนข้างแรง ตามตลาดต่างประเทศที่ปรับตัวลดลงกันค่อนข้างมาก วันนี้ติดตามระดับ 1500 ว่าจะมีนัยสำคัญอะไรออกมาหรือไม่ ค่าเงินบาทได้รับแรงกดดันจากการขายพันธบัตรและตลาดตราสารหนี้ของต่างชาติ ทำให้ค่าเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลง ล่าสุดแนวต้าน 33.60 แนวรับ 33.20

ทางเลือกหลัก : มองราคารีบาวน์ขึ้นไปก่อนเล็กน้อยถึงบริเวณ 1186-1188 ก่อนที่จะมีตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมา

ทางเลือกรอง : -

รายละเอียด

- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 265K จากเดือนก่อนหน้า 262K และคาดการณ์ 277K จากตัวเลขกลุ่มนี้ในสัปดาห์ก่อนหน้าพบว่า ระดับการขอรับสวัสดิการออกมาต่ำสุดในรอบ 15 ปี การปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้ตลาดจึงให้น้ำหนักที่ว่า เศรษฐกิจอเมริกากำลังดีขึ้นอยู่ถึงแม้จะมีความคลาดเคลื่อนบ้าง ทำให้ทองคำปรับตัวลดลงต่อพร้อมกับเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า

- พฤติกรรมค่าเงินยูโร เงินเยน และ เงินดอลลาร์ เมื่อดูก่อนประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร หรือ Non-farm payroll (NFP) พบว่าเป็นปัจจัยลบกับทองคำ จากภาวะ Bearish divergent ของค่าเงินยูโร ช่วงเวลา 4 ชั่วโมง (H4) และพฤติกรรมเงินเยนที่เริ่มอ่อนค่าลงอีกครั้งหนึ่งหลังจากพยายามแข็งค่าในช่วงก่อนหน้า ทำให้น้ำหนักในวันนี้หลังการประกาศตัวเลข NFP จะค่อนข้างเป็นลบ ตรงตามคาดการณ์ที่พบว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้จะออกมามากขึ้นตามคาดการณ์ และเนื่องจากเดือนก่อนหน้ายังมีปัญหาของภาวะภัยหนาวที่เกิดในช่วงต้นปี

- กองทุน SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำลงอีก 0.36% สู่ระดับ 739.07 ตัน ในวันพฤหัสบดี แสดงให้เห็นถึงมุมมองของนักลงทุนที่มีในตลาดทองคำ ยังมองลง และเมื่อมาดูตัว ETF ที่อ้างอิงในทองคำยังพบว่า ภาพรวมทองคำยังดูไม่ดีนัก ขาดแรงซื้อใน ETF ซึ่งมองว่า หากแรงซื้อยังไม่กลับเข้ามาใน ETF ก็อาจจะทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นแรงๆเป็นไปอย่างลำบาก

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงแรงร่วม 3% เมื่อคืนนี้กลับลงมาซื้อ-ขายกันอยู่ที่ระดับประมาณ $58-59 ต่อบาร์เรล จากแรงขายทาคเทคนิคเป็นหลัก และมุมมองให้น้ำหนักของการพักฐานในระยะกลาง โยมีปัจจัยกระตุ้นจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อวานนี้

- การส่งออกของจีนหดตัวลงแรง –6.4% ในเดือนเมษายน ในขณะที่รอยเตอร์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 2.4% ดีขึ้นกว่าเดือนก่อนหน้าที่หดตัว –15% ส่วนการนำเข้าก็ปรับตัวลดลงแรงเช่นเดียวกันส่งผลให้ดุลบัญชีการค้าของจีนเกินดุล แต่เกินดุลน้อยกว่าเดือนก่อนหน้าเล็กน้อย

- การเจรจาระหว่างกรีซและอียูยังคงสรุปไม่ได้ แต่คาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD 

Non-farm employment change 228K 126K
Unemployment rate 5.4% 5.5%
Average hourly earning 0.2% 0.3%

แนวทางทองคำวันที่ 7-5-58

เเนวรับ 1185 1180 1175 เเนวต้าน 1189 1192 1197

จากการเคลื่อนไหวเมื่อวานหลังจากตัวเลข ADP ออกมา พบว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 1197 และยังขาดอีกนิดหน่อยจาก 1200 และก็ได้เห็นการปรับตัวลดลงมาหลุด 1190 ภาพรวมมองว่า ราคามีแนวโน้มอ่อนตัวไปยังแนวรับ 1185 หรือต่ำกว่า ถึงแม้ตลาดอย่างเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลง และตัวเลข ADP เป็นบวก แต่ตัว Real interest rate กำลังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ของอเมริกาที่ขึ้นไปอยู่บนระดับกว่า 2.2% ซึ่งทองคำกับตัว Real interest rate นั้นเป็นตัวที่ผกผันกันอย่างมีนัยสำคัญที่สุด จึงมองว่า ภาพระยะกลางของทองคำยังไม่สวย แต่ยังคงต้องรอสัญญาณจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันพรุ่งนี้

การเคลื่อนไหวของกระแสเงินทุนต่างชาติหลังจากวันหยุดยาวนี้ค่อนข้างเบาบาง แต่ตลาดหุ้นยังปรับตัวลดลงต่อเนื่อง แต่มุมมองว่า แรงขายเริ่มชะลอตัวจากตัวฟิวเจอร์ S50m15 ที่เกิดอาการกดไม่ลง และส่งสัญญาณรีบาวน์ขึ้นมาช่วงท้ายตลาด ทำให้เกิดเป็นมุมมองในทางบวกในตลาดหุ้นระยะสั้นนี้ ค่าเงินบาทหลังจากเปิดทำการมา ต่างชาติก็ขายสุทธิในตราสารหนี้ต่อเนื่อง ทำให้เงินบาทที่แข็งเล็กน้อยกลับมาอ่อนอีกรอบหนึ่ง โดยมีแนวต้านอยู่บริเวณ 33.40 ที่เป็นจุดสูงสุดเมื่อวันหยุดที่ผ่านมา

ทางเลือกหลัก : มองราคาลงไปที่แนวรับ 1185 หรือต่ำกว่า

ทางเลือกรอง : ราคาจกแนวรับ 1185 แล้วเกิดการรีบาวน์ มองแนวต้าน 1190

รายละเอียด

- ตัวเลข ADP Non-farm employment change หรือตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สำรวจโดย ADP ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 169K จากรอบก่อนหน้า 175K และคาดการณ์ 199K พบว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สำรวจโดยเอกชนเดือนนี้ปรับตัวลดลงเป็นปัจจัยบวกกับราคาทองคำ เพียงแต่โดยปกติตัวเลขข่าวชิ้นนี้มักจะสร้างความผันผวนในกรอบอย่างรุนแรงมากกว่าการสร้างแนวโน้มใหม่ขึ้นมา และตลาดยังคงติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของจริงในวันพรุ่งนี้เพื่อยืนยันทิศทางราคา

- ทองคำปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้ถึงแม้ค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงและอยู่ในแนวโน้มของอ่อนค่ามาตลอด แต่อีกหนึ่งตลาดที่ส่งผลคือ ตลาดพันธบัตร แรงขายออกจากตลาดพันธบัตรเป็นไปอย่างต่อเนื่องและรุนแรง ล่าสุด Yield อายุ 10 ปียังคงยืนอยู่ระดับ 2.25% และส่งผลให้ Real interest rate หรือ อัตราผลตอบแทนที่แท้จริงที่เกิดจาก อัตราผลตอบแทนปกติ-อัตราเงินเฟ้อ หากอัตราผลตอบแทนเพิ่มสูงขึ้นทำให้ Real interest rate ปรับตัวสูงขึ้น และเป็นปัจจัยลบกับราคาทองคำอย่างรุนแรง นี่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ทองคำตกลงท่ามกลางการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ และนำไปสู่การคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มิถุนายน

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบปี เมื่อวานนี้ไปแตะระดับ $62/บาร์เรล จากสต๊อกน้ำมันดิบของอเมริกาที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ปรับตัวลดลงกว่า 2 เท่า แต่ก็ยังมีนักวิเคราะห์หลายคนให้ความเห็นว่า ราคาน้ำมันดิบขึ้นมาต่อเนื่องจากระดับต่ำสุดที่ $42 นับเป็นการปรับตัวขึ้นกว่า 44% ทำให้มองว่าระยะสั้นขึ้นมาเร็วเกินไปและให้ใช้ความระมัดระวังการขึ้นในช่วงต่อไปนี้

- ประธาน FED นาง เจเนต เยลเลน มีการกล่าวว่า Valuation ของตลาดหุ้นอเมริกาค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับตลาดพันธบัตร แต่ก็ยังไม่แพงจนเกินไป และความเสี่ยงของระบบการเงินสหรัฐยังพอรับได้ และได้เตือนไว้ว่า จากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำมานานหาก FED มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะทำให้ตลาดการเงินของอเมริกาเกิดอาการปั่นป่วนได้

- กรีซได้จ่ายเงินกู้ให้แก่ IMF งวดแรก 200 ล้านยูโรตามกำหนดชำระหนี้ทั้งนี้จะกรีซจะมีกำหนดชำระหนี้ในงวดต่อไปวันที่ 12 พค. จำนวน 750 ล้านยูโร

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD

Unemployment claims 277K 262K

แนวทางทองคำวันที่ 6-5-58

เเนวรับ 1190 1187 1180 เเนวต้าน 1199 1202 1207

ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับใกล่ 1200 ไปหยุดที่ 1199 จากตัวเลขข่าวที่ยังออกมาผสม แต่เงินดอลลาร์กลับเข้าสู่แนวโน้มอ่อนค่าลงต่อ วันนี้มองการปรับตัวขึ้นไปทดสอบใกล้ระดับ 1200 หรือเกินกว่าอีกครั้ง ภาพรวมกลางๆยังคงเป็นการแกว่งตัวระหว่างในกรอบ 1175-1215 ยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจนนัก เน้นการเก็งกำไรในระยะสั้นเป็นหลัก ภาพรวมของตลาดต่างๆ ก็ยังพบว่า ปรับตัวไม่สัมพันธ์กันเท่าไร และมีกราฟของตัว ETF ที่ยังพบว่า ราคาของกองทุนเหล่านี้ยังไม่ฟื้น หากราคากองทุนยังไม่ฟื้นหมายความว่า นักลงทันยังไม่เข้ามาลงทุนในทองคำก็จะทำให้ราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้นนี้เป็นลักษณะของ Short-lived หรือระยะสั้นตามที่เทรดเดอร์จากอเมริกากล่าว

วันนี้ตลาดหุ้นไทยจะเปิดทำการเป็นวันแรกหลังจากหยุดยาว 5 วัน ซึ่งตลาดอื่นๆนั้นยังค่อนข้างขึ้นๆลงๆ สลับกันไป มีข่าวใน Bloomberg เกี่ยวกับค่าเงินบาทของประเทศไทยว่า ในช่วงที่ผ่านมา ธปท กังวลเรื่องค่าเงินบาทแข็งค่าเกินไปเมื่อเทียบกับคู่แข่ง เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้ในช่วงที่ผ่านมา ธปท ไม่ได้เข้าแทรกแซงเงินบาทเลยปล่อยให้อ่อนค่าลงมากสุดในรอบ หลายปีที่ระดับ 33.30-33.40 เมื่อวานนี้ วันนี้มองการแข็งค่าเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วยังคงอยู่ในแนวโน้มของการอ่อนค่าที่ชัดเจน

ทางเลือกหลัก : มองราคาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อไปยังระดับแนวต้านใกล้ 1200 หรือสูงกว่าอีกรอบหนึ่ง

ทางเลือกรอง :ราคาปรับตัวลดลงเกินกว่า 1185 จึงจะมองว่าขาขึ้นที่ส่งมาเสียไป

รายละเอียด

- ตัวเลขดุลการค้าของอเมริกา (Trade balance) ออกมาที่ระดับ –51.4B จากเดือนก่อนหน้า –35.9B และคาดการณ์ –41.2B ดุลการค้าของอเมริกาหดตัวเพิ่มสูงขึ้น เป็นบวกกับทองคำ ส่วนตัวเลข Final Service PMI ออกมาที่ระดับ 57.4 ลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า ในขณะที่ ISM-PMI ภาคบริการปรับตัวขึ้นแรงสู่ระดับ 57.8 จากเดือนก่อนหน้า 56.5 และคาดการณ์ 56.2 หลายคนให้ความเห็นว่า ส่วนต่างระหว่าง ISMภาคผลิตและภาคบริการห่างออกจากกันเรื่อยๆ หมายความว่า อุปสงค์ของภาคบริการในอเมริกาฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแรงและโดดเด่นกว่าภาคอุตสาหกรรมโดยส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง ซึ่งราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงนั้นทำให้ประชาชนมีเม็ดเงินเหลือไปบริโภคมากขึ้นในขณะที่ภาคการผลิตกลับไม่ได้มีอะไรที่โดดเด่น

- ในช่วงนี้มีข่าวเรื่องปริมาณการซื้อ-ขายที่เบาบางลงในตลาด Spot ของทองคำ ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงของปริมาณการซื้อ-ขายที่ต่ำสุดในรอบปี จากสภาพคล่องที่หายและธุรกรรมระหว่างธนาคารที่หดตัวลง ทำให้หลายคนไม่กล้าที่จะเปิดสถานะ Lot ใหญ่ๆในตลาดทองคำ เราจึงได้เห็นการปรับตัวอยู่ในกรอบของราคา

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ $60/บาร์เรล ท่ามกลางข่าวเรื่อง Supply ของลิเบียที่ยังมีปัญหาความรุนแรง ในฝั่งของ OPEC ซาอุดิอาระเบียก็ยังคงกำลังการผลิตไว้ในระดับที่สูงเช่นเดิม ในฝั่งของอเมริกาที่ประกาศสต๊อกน้ำมันดิบออกมาพบว่าปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์แรกในรอบ 1 ปี ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบรีบาวน์ขึ้นมาท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอน โดยนักวิเคราะห์มองเป้าไว้ว่าจะมีแนวต้านประมาณ $66-70

- IMF ได้ออกมาให้ความเห็กับกรีซว่า กรีซจำเป็นที่จะต้องพึ่งการบรรเทาหนี้จากเจ้าหนี้อีกหลังจากยังไม่มีความคืบหน้าชัดเจนในเรื่องของการเจรจา ทำให้ตลาดหุ้นกรีซปรับตัวลดลงแรง 4% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 11% ซึ่งเป็นระดับช่วงวิกฤติใน 3 ปีที่แล้ว

- ราคาทองคำปรับตัวเข้าใกล้ระดับ $1200 แต่มีเทรดเดอร์ในเมืองนอกบางส่วนมองว่า การขึ้นมาครั้งนี้จะยังคงเป็นการขึ้นไม่ยาว (Short-lived) สังเกตุจากตัวกองทุน GLD ที่เป็น ETF ที่ลงทุนในทองคำพบว่า ยังมีแนวโน้มอ่อนตัวและอาจจะทำให้เกิดชุดของ Lower low ตามมา

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.15 USD 

ADP Non-farm employment change 192K 189K

20.15 USD 

FED chair Yellen speaks

แนวทางทองคำวันที่ 5-5-58

เเนวรับ 1185 1180 1175 เเนวต้าน 1193 1196 1200

ราคาทองคำรีบาวน์ขึ้นไปถึงระดับ 1193 ก่อนที่จะปรับตัวลดลงมาเล็กน้อยถึงบริเวณ 1187-1188 ทำให้ภาพรวมกลับมาเป็นการแกว่งตัวในกรอบ แต่น้ำหนักในภาพวันหลังจากปิดเกิน 1195 ไม่ได้ทำให้มองว่า เทรนลงยังมากดดันในระยะสั้นมองการปรับตัวลดลงไปยังระดับ 1180-1185 ก่อน และตรงจุดนั้นคาดว่าน่าจะเป็นจุดที่น่าติดตามว่า จะรับอยู่ หรือ จะหลุดลงไป แนวโน้มตามภาพใหญ่โอกาสหลุดลงไปมีสูงกว่านอกจากราคาจะกลับไปยืน 1195 ให้ได้ จึงจะลบล้างภาพทางลบไป ตลาดอื่นๆภาพรวมยังเป็นปัจจัยที่ค่อนข้างผสม เงินดอลลาร์ถึงแม้จะอยู่ในแนวโน้มอ่อนค่า แต่ทองคำไม่ได้รับข่าวเท่าไร รวมถึง ตลาดพันธบัตรที่ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการเนื่องในวันหยุดยาว และจะเปิดทำการปกติในวันพรุ่งนี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ปริมาณการซื้อ-ขายแต่ละตลาดยังคงค่อนข้างเบาบาง คาดว่าจะเป็นอย่างงี้ไปจนถึงตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะประกาศออกมาในวันศุกร์ สำหรับค่าเงินบาทยังทรงตัวอยู่เหนือแนวต้าน ยังมองการชะลอตัวแข็งค่ามาเล็กน้อยก่อนที่จะปรับตัวขึ้นต่อ ปัจจัยเรื่องลดดอกเบี้ยมองว่าสะท้อนไประดับหนึ่งแล้ว

ทางเลือกหลัก : มองราคากลับลงไปทดสอบบริเวณ1180-1185 อีกครั้งหนึ่ง

ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1180 ลงไปด้านล่าง มองว่าเริ่มลงไป 1175

รายละเอียด

- ทองคำค่อนข้างทรงตัวเมื่อวานนี้ แต่โดยรวมแล้วก็ปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับ $1193 ได้ และยังไม่สามารถผ่านไปได้ ทั้งนี้เมื่อวานนี้หลายตลาดได้ปิดทำการ ตลาดที่มีการซื้อ-ขายอยู่ก็มีปริมาณที่เบาบาง และค่าเงินดอลลาร์ค่อนข้างทรงตัวถึงแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อวานนี้ หลายคนให้ความเห็นว่า ภาพรวมเศรษฐกิจของอเมริกายังออกมาผสมกันไม่ชัดเจน และ นักลงทุนต่างก็จับตารอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเษตรที่จะออกมาในวันศุกร์นี้มายืนยันความชัดเจนของทิศทางเศรษฐกิจ

- เมื่อคืน นาย Charles Evans ประธาน FED สาขา Chicago ออกมาให้ความเห็นว่า เฟดอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ ถึงแม้อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ระดับค่อนข้างต่ำ อัตราว่างงานที่อยู่ระดับสูงเกินไป ที่เค้ามองว่า อยากให้ เฟด ชะลอการขึ้นดอกเบี้ยไปยังต้นปีหน้า โดยจะเน้นไปที่การอยากเห็นการเติบโตของค่าจ้างเป็นหลัก

- ในตลาดพันธบัตรเกิดแรงขายออกมาค่อนข้างมาก ล่าสุด Yield ของพันธบัตรอายุ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 2.14% ท่ามกลางปริมาณการซื้อ-ขายที่เบาบาง ถึงแม้ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐจะออกมาค่อนข้างผสมกัน แต่ตลาดตีความว่า ค่อยๆดีขึ้น ทำให้เกิดแรงขายในพันธบัตรเยอะ ล่าสุดมีตัวเลข Factory order พบว่าปรับตัวดีขึ้นเช่นกันสู่ระดับ 2.1% จากคาดการณืว่าจะเพิ่ม 2% ในทางเทคนิคแล้วบ่งบอกว่า อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรมีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นต่ออีก และก็ไปติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์เช่นเดียวกัน Yield ของพันธบัตรที่ปรับตัวสูงขึ้นบ่งบอกถึง นักลงทุนไม่ต้องการพันธบัตรเนื่องจากคาดการณ์เรื่อง การขึ้นดอกเบี้ยของเฟด

- ราคาน้ำมันค่อนข้างทรงตัวเมื่อวานนี้ หลังจากตัวเลขหลุมขุดเจาะออกมาน้อยลง แต่ยังมี Supply จากซาอุดิอาระเบียที่ยืนยันการใช้กำลังการผลิตเท่าเดิมและ ล่าสุดข่าวได้ออกมาว่า อิรักได้ทำการส่งออกน้ำมันดิบมากที่สุดในรอบกว่า 3 ทศวรรษ ข้อมูลเมื่อเดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงสนับสนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนค่าลงเล็กน้อยในเดือนนี้

- รองนายกกรีซ นาย Yannis Dragasakis มีกำหนดการเข้าพบนาย มาริโอ ดรากี้ ประธาน ECB ในวันอังคารนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นการหารือกันเรื่องเงื่อนไขและการขอเงินช่วยเหลือเป็นหลัก

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD 

Trade balance -41.2 -35.4

21.00 USD
ISM Non-manufacturing PMI 56.2 56.5