ประชาสัมพันธ์

แนวทางทองคำวันที่ 2-6-58

เเนวรับ 1184 1180 1175 เเนวต้าน 1192 1197 1204

ราคาทองคำค่อนข้างผันผวนเมื่อวานนี้ปรับตัวลดลงสู่ระดับ $1184 จากนั้นปรับตัวสูงขึ้นเเรงถึงระดับ $1204 ท่ามกลางข่าวที่ผันผวนเช่นเดียวกัน มีทั้งบวกเเละลบ จากคอมเมนต์ของประธาน FED สาขาต่างๆเเละตัวเลขเศรษฐกิจ จากนั้นก็เริ่มปรับตัวลดลงมาสู่ระดับบริเวณ $1190 นับเป็นการเกิด Pin bar ที่มีหางยาวในภาพวัน มุมมองจึงมองทางลงได้เปรียบกว่า เพราะ ราคาไม่สามารถปรับตัวขึ้นไปยืนบริเวณค่าเฉลี่ยที่สูงได้ เเละคาดว่าสัญญาณเตือนของทางฝั่งลงเริ่มมีมากขึ้นในช่วงนี้ติดตามเเนวรับสำคัญ 1180

ตลาดหุ้นไทยค่อนข้างทรงตัวยังอยู่บริเวณ 1500 จุด ทั้งนี้ภาพรวมยังดูไม่ดีเท่าไรนัก เเต่ก็ยังมีลุ้นรีบาวน์ขึ้นไป ตลาดต่างประเทศช่วงที่ไทยปิดทำการยังไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนมากนัก ต่างชาติเริ่มหันกลับมาขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยเเต่เล็กน้อย 260 ล้านบาท เเละเริ่มกลับมา Long สุทธิร่วม 5000 สัญญา จากวันก่อนที่ Short สุทธิไว้เกือบ 20000 สัญญา ทิศทางค่าเงินบาทยังอ่อนค่า เเนวต้าน 33.85 หลุดได้จะไปถึง 34.00

ทางเลือกหลัก : สถานะขายก่อนมองว่าได่้เปรียบกว่า เเนวรับ 1180 หรือต่ำกว่า

ทางเลือกรอง : ราคาเริ่มขึ้นไปยืนเหนือ 1197มองว่าเป็นจุดเปลี่ยนเเนวโน้มระยะสั้น

รายละเอียด

- GDP ไตรมาสเเรกของอเมริกาหดตัว -0.7% น้อยกว่าที่คาดการณ์ -0.8% ในขณะที่เดือนก่อนหน้า 0.2% เนื่องจากการส่งออกที่ชะลอตัว เเละเงินดอลลาร์ที่เเข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้งสถานการณ์ความไม่สงบในท่าเรือฝั่งตะวันตกที่มีการประท้วง เเละ ภาวะอากาศที่ไม่ปกติในช่วงไตรมาสเเรก

-ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคออกมาดีกว่าคาดการณ์ที่ 90.7 จุด เเละเดือนที่เเล้ว เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ทางฝั่งดัชนี PMI ภาคการผลิตก็ปรีบตัวเพิ่มสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้า

-FED Philladephia ออกมาให้ความเห็นว่า อย่าคิดว่าเศรษฐกิจจะหลุดออกจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจเเล้ว ยังมีความเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังอยู่ ส่วน Comment ของ FED Boston ได้เเสดงมุมมองว่า อยากขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้เร็วเหมือนกัน เพียงเเต่เมื่อมาดูเศรษฐกิจของจีนที่ชะลอตัวลง เเละเศรษฐกิจยุโรปที่ยังไม่เเข็งเเกร่งเพียงพอ อาจจะต้องชะลอการขึ้นดอกเบี้ยไปก่อน

-สถานการณ์ในกรีซนั้นทั้งฝั่งกรีซเเละเจ้าหนี้ยังคงรีบเร่งการเจรจาเรื่องหนี้ของกรีซ เเต่ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนออกมา

-SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำลง 0.25% สู่ระดับ 714.07 ตันในวันจันทรที่ผ่านมา 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD Factory order 0.0% 2.1%

แนวทางทองคำวันที่ 29-5-58

เเนวรับ 1185 1180 1175 เเนวต้าน 1191 1193 1195

ราคาทองคำยังคงผันผวนอยู่ในกรอบ การเหวี่ยงระหว่างวันเมื่อวานนั้นค่อนข้างเป็นไปอย่างหนัก ถึงแม้สเกลจะไม่มาก แต่การลงและขึ้นเลยแบบนี้นั้นก่อให้เกิดความผันผวนพอสมควร และยากต่อการเล่น เก็งกำไร ในระยะสั้นมองกาปรับตัวขึ้นไปก่อนบริเวณ 1190-1193 หรือสูงกว่า จากแนวโน้มทางฝั่งขึ้นที่เริ่มกลับมา ระยะสั้น นอกจากนี้ในวันนี้จะมีประกาศตัวเลข GDP ของอเมริกาออกมาคาดว่าจะหดตัวจากรอบก่อนหน้า ซึ่งหากออกมาตามคาดการณ์จริงจะเป็นปัจจัยบวกกับราคาทองคำ แต่อาจจะไม่มากนัก เนื่องจากบทวิเคราะห์ต่างๆมองว่า ไตรมาสแรกของอเมริกาโดยปกติแล้วมักจะไม่ดี กรณีกลับกันหากออกมาดีและราคาหลุด 1185 ลงไป จะมองว่าเริ่มลง

เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงต่อ และมาอยู่ใกล้ระดับแนวรับสำคัฐตรงบริเวณ 1480 นี้มองว่าระยะสั้นรีบาวน์ขึ้นมาก่อน เพียงแต่อยากให้ใช้ความระมัดระวังค่อนข้างมากๆวันนี้จะมีการลดน้ำหนักการลงทุนใน MSCI ที่กลุ่มหุ้นใหญ่ รวมถึง ต่างชาติ Short สุทธิระดับ 20000 สัญญา ดูยอดแล้วต้องใช้ความระมัดระวังค่อนข้างมากถ้าไม่มีอะไรก็ดีไป ค่าเงินบาทเริ่มกลับมาแกว่งตัวในกรอบอยู่แกนกลางบริเวณ 33.70-33.80 ซึ่งยังมองแกว่งตัวเช่นเดิม รอดูผลตัวเลข GDP ของอเมริกา

ทางเลือกหลัก : ราคายังมีพฤติกรรมแกว่งในกรอบ แต่เมื่อวานนี้ผันผวนค่อนข้างหนัก ลงและขึ้นเลย ระยะสั้นมองการปรับตัวขึ้นต่อไปยังระดับ 1190-1193 อีกครั้งหรือสูงกว่า

ทางเลือกรอง : ราคาที่เริ่มหลุด 1185 ลงมามองว่าจะเริ่มลงอีกครั้ง 

รายละเอียด

- ในวันนี้จะมีประกาศตัวเลข GDP (Prelim GDP) คาดว่าจะออกมาหดตัว –0.8% จากครั้งก่อนหน้า 0.2% ทั้งนี้ตัวเลขขยายตัวของ GDP รอบนี้คาดการณ์ออกมาค่อนข้างเหวี่ยงแรงลงไปถึงระดับติดลบ เนื่องจากภาวะอากาศที่ไม่ปกติทำให้ผลผลิตทางเศรษฐกิจแย่ลง หากออกมาตามที่คาดการณ์นั้นจะทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าและทองคำปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ต้องติดตามตัวเลขข่าวจริงว่าจะออกมาตรงตามคาดการณ์หรือไม่ ทั้งนี้โดยสถิติแล้ว GDP ของอเมริกาไตรมาสแรกมักจะออกมาหดตัวกว่าไตรมาสอื่นอยู่แล้ว

- เมื่อวานนี้ นาง คริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุน IMF ออกมาให้ความเห็นว่า กรีซมีความเป็นไปได้ที่จะออกมาจากยูโรโซนแต่นั้นไม่ได้หมายความว่า สกุลเงินยูโรจะต้องได้รับผลกระทบหนัก และเปรียบเทียบให้เห็นว่า การออกของกรีซจะไม่ได้สบายเหมือนการเดินเล่นในสวนสาธารณะ แต่ก็จะไม่ได้เป็นจุดจบของยูโรโซน ทั้งนี้สถานการณ์ในกรีซยังพบว่า ไม่ค่อยมีความคืบหน้าเท่าไรนัก ถึงแม้เมื่อวานนี้ นายกกรีซ จะออกมากล่าวว่า ใกล้จะได้ข้อสรุป แต่ทางฝั่งเจ้าหนี้ยังไม่ส่งสัญญาณออกมาเช่นนั้น

- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาที่ระดับ 282K เพิ่มจากเดือนก่อนหน้าเล็กน้อยที่ระดับ 275K และคาดการณ์ 271K ทิศทางโดยรวมของคนขอรับสวัสดิการว่างงานยังค่อนข้างต่ำ ส่วนตัวเลข ยอดบ้านรอปิดการขาย (Pending home sales) ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 3.4% จากเดือนก่อนหน้า 1.2% และคาดการณ์ 0.8% เป็นระดับที่มากสุดในรอบ 9 เดือน ตัวเลขเศรษฐกิจของอเมริกาในช่วงนี้ออกมาค่อนข้างดีขึ้น แต่ก็ยังมีบางส่วนที่แย่ลง สวนทางกับตัวเลขคาดการณ์ GDP ที่จะออกมาในวันนี้

- ตลาดหุ้นจีน A-share ปรับตัวลดลงแรงเมื่อวานนี้ร่วม 6.5%ส่วน H-Share ปรับตัวลดลงประมาณ 4% จากการเพิ่มวงเงินการวางมาร์จิ้นเพิ่มขึ้นเป็น 80% จากเดิม 60% ทั้งนี้เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาบัญชีมาร์จิ้นคิดเป็นสัดส่วนที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับปริมาณเงินในตลาด ตลาดหลักทรัพย์จีนจึงกังวลเรื่องความเสี่ยงหากมีการปรับตัวลดลงแรงจะโดน Force sell และ จะทำไปตลาดถล่มในที่สุด 

- การนำเข้าทองคำของจีนจากฮ่องกงปรับตัวลดลงเดือนที่ผ่านมาสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน ทั้งนี้จีนมีแผนจะจัดตั้งกองทุนทองคำ (Silk road)ที่จะเป็นการสะสมทองคำและลงทุนเพิ่มในกำลังการผลิตของเหมือง

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD 

Prelim GDP -0.8% 0.2%

แนวทางทองคำวันที่ 28-5-58

เเนวรับ 1180 1175 1170 เเนวต้าน 1189 1191 1195

กรอบแนวรับ-แนวต้านในวันนี้จะอยู่บริเวณเดิม เนื่องจากการเคลื่อนไหวนั้นยังเป็นไปอย่างจำกัด รีบาวน์ขึ้นแล้วและก็ปรับตัวลดลง เมื่อวานนี้เป็นแท่งเทียนรูปแบบ Star หรือตัวเล็กๆ ซึ่งบ่งบอกถึง ทิศทางที่ยังลังเลของคนในตลาด ซึ่งการเกิดรูปแบบ Star ที่ใต้แนวรับแบบนี้ โดยปกติแล้วมักจะมีการลงต่อไปด้านล่าง (โอกาสสูงกว่า) ซึ่งมองทางเลือกนี้มากกว่า แต่มีกรณีที่ราคาสามารถกลับไปปิดบนเส้นแนวโน้มได้ (เกินกว่า 1190 ขึ้นไป) จะทำให้พฤติกรรมราคาดูดีขึ้น จึงมองว่าในวันนี้มีโอกาสที่จะรีบาวน์ก่อนไปยังระดับ 1190-1195 รวมถึงเงินยูโรที่เริ่มฟื้นตัว แต่การรีบาวน์รอบนี้อยากให้เป็นการเก็งกำไรระยะสั้นตั้ง Stop ใกล้ๆ เพราะ การรีบาวน์ยังมองจำกัด

ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 789 ล้านบาท และ Short สุทธิในฟิวเจอร์ค่อนข้างหนัก 5783 ล้านบาท ส่วนกองทุนที่วันก่อนหน้าเปิด Long ไว้เยอะ เริ่มปิดสถานะ Long บางส่วน ตลาดฟื้นตัวมาปิดที่ระดับ 1500 จุดพอดี ทิศทางยังคงก้ำกึ่งและมองว่า จะผันผวนอยู่บริเวณนี้ +-10-20 จุดไปอีกสักพักหนึ่ง ทิศทางตลาดหุ้นรอบโลกรีบาวน์ขึ้นมาแรงเมื่อวานนี้เป็นปัจจัยบวกกับตลาดหุ้นไทย ทิศทางตลาดหุ้นโลกก็ค่อนข้างผันผวน ค่าเงินบาทมองแนวรับบริเวณ 33.70 แนวต้าน 34 แข็งค่าเล็กน้อยก่อนอ่อนต่อ

ทางเลือกหลัก : มองราคารีบาวน์ขึ้นไปเล็กน้อยถึงบริเวณ 1190-1195 และให้ออกมารอดูตลาดน่าจะดีกว่า โดยปกติแล้วรูปแบบที่เกิดมีโอกาสลงสูงหลังจากรีบาวน์แบบนี้

ทางเลือกรอง : หากราคากลับไปยืน 1190 หรือเหนือกว่ายิ่งมากจะยิ่งดีสำหรับแนวโน้มขาขึ้น

รายละเอียด

- ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวานนี้ปิดบวกค่อนข้างแรง หลังจาก นายกรัฐมนตรีของกรีซ นาย Alexis Tspiras ได้กล่าวว่า กรีซใกล้จะได้ข้อตกลงเรื่องเงินช่วยเหลือ ( Close to an agreement ) และนั่นจะทำให้เป็นความหวังเชิงบวกต่อสถานการณ์ในกรีซที่ก่อนหน้านั้นหลายฝ่ายกังวลว่าจะมีการผิดนัดชำระหนี้ IMF ที่จะมีกำหนดชำระหนี้ในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ แต่ทางฝั่งเจ้าหนี้และ รมว คลัง เยอรมัน ยังออกมากล่าวว่า ยังไม่มีความคืบหน้าและยังไม่มีข้อสรุปใดๆที่ออกมา ทั้งนี้สถานการณ์ตอนนี้ต้องฟังหูไว้หู ต่างฝ่ายต่างพูด กรีซไม่ได้มีความคืบหน้าแต่อย่างใดในฝั่งของเจ้าหนี้มอง แต่หากกรีซมองตัวเองก็เป็นสัญญาณเชิงบวก ทั้งนี้ยังคงต้องรอดูผลลัพธ์เช่นเดิม

- เงินดอลลาร์หลังจากอ่อนค่ามาแตะเส้นแนวรับเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ในสัปดาห์ที่ผ่านมากลับมาแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วกว่า 2% ท่ามกลางกระแสการขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนดรวมถึงธนาคารกลางยุโรปที่อัดฉีดเงินและสถานการณ์ในกรีซ ส่งผลให้เงินดอลลาร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ยังต้องติดตามว่าเงินดอลลาร์ที่ขึ้นมารอบนี้จะสามารถยืนได้ในระยะยาวหรือไม่ จากความกังวลสองอย่าง อย่างแรกคือ ประธาน FED นาง เจเน็ต เยลเลนได้แสดงความกังวลถึงค่าเงินดอลลาร์ว่าแข็งไปอาจจะทำให้ กำไรของบริษัทจดทะเบียนลดลง และ ตัวบริษัททข้ามชาติเองก็มีความกังวลเรื่องนี้อยู่ด้วย จึงตีความได้ว่า FED และนักลงทุนอาจไม่ได้อยากให้ดอลลาร์แข็งจนเกินไปเพราะอาจจะกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมได้

- ตัวเลขค้าปลีกของญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 5% นับเป็นการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน บ่งบอกถึงการฟื้นตัวของการใช้จ่ายในประเทศของญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกและแสดงให้เห็นถึงมุมมองเชิงบวกของนโยบายธนู 3 ดอกของนายอาเบะที่เริ่มซึมซํบเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ทั้งนี้ตัวเลขคาดการณ์นั้นจะสูงกว่านี้ที่ 5.4% ในขณะที่ตัวเลขเดือนมีนาคมนั้นค่อนข้างแย่ที่ระดับ –9.7% ทำให้นักลงทุนมองว่า เป็นการบรรเทาการคาดหวังต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ที่จะมีอีกในระยะสั้น

- ในวันศุกร์จะมีประกาศตัวเลข GDP ของอินเดีย ซึ่งหลายปีที่ผ่านมาหลังจากนาย Modi เข้ามาดำรงตำแหน่ง อินเดียได้มีการขยายตัวเศรษฐกิจค่อนข้างสูง และตัวเลขการขยายตัวของ GDP ในรอบนี้นักวิเคราะห์มองว่าจะดีกว่าจีน เพียงแต่บางคนมองว่า ตัวเลขที่ดีอาจจะเป็นแค่ตัวเลข ของจริงอาจไม่ดีเท่า

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD 

Unemployment claims 272K 274K

แนวทางทองคำวันที่ 26-5-58

เเนวรับ 1202 1200 1195 เเนวต้าน 1208 1212 1215

เมื่อวานนี้ทองคำปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับ 1208 ก่อนช่วงปิดที่มีแรงขายไม้เดียวทำให้มาปิดที่ 1204 ซึ่งยังมองว่าถึงแม้จะแกว่งในกรอบแต่ค่อนข้างไม่สวย ราคายังไม่สามารถเคลียร์แนวโน้มลงระยะสั้นได้ ในวันนี้มองว่าโอกาสอาจจะไปทดสอบยังมีอีกครั้งหนึ่ง แต่ความเสี่ยงเมือ่เทียบกับผลตอบแทนในวันนี้มองว่าอาจจะไม่คุ้ม เพราะ โอกาสไปไม่ถึงก็มี สำหรับ นักลงทุนที่Aggressive ก็สามรถซื้อได้โดยมีจุด Stop 1200 เป้าหมาย 1208-1212 คิดเป็น Reward:Risk ที่ 1:1 ในขณะที่หากวันนี้ลงผ่าน 1200 นั้นมองว่าจะปรับตัวไปยัง 1190-1195 แต่มีข้อควรระวังคือ การเปิด Short นั้นยิ่งไม่คุ้มเสี่ยงหากเป็นทองคำแท่งเพราะจะโดนเงินบาทที่อ่อนค่าดันราคา 

ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 966 ล้านบาท แต่ยัง Short สุทธิในฟิวเจอร์4847 ล้านบาท ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้ และลดลงค่อนข้างแรง มุมมองค่อนไปทางลบหนักขึ้นจากการลงวันเดียวที่มากขนาดนั้นและ สเปรดที่ลงระหว่างตัว Spot และ Future ที่ห่างกันถึง 6 จุด อยู่ในสภาวะที่เรียกว่า Backwardation ค่อนข้างแรง และทำให้การเล่นฝั่ง Short ได้เปรียบขึ้น ค่าเงินบาทกำลังจะผ่านแนวต้าน 33.60 ถ้าผ่านได้มองการยืนยันรูปแบบอ่อนค่ายาวๆไปใกล้ 34.00-34.30 

ทางเลือกหลัก : ยังมองราคามีโอกาสทดสอบที่เดิมที่ 1208 และ 1212 แต่น้ำหนักเริ่มเป็นกลางมากขึ้นจากการแกว่งตัวขึ้นไปทดสอบแล้วกลับมาอยู่ที่ระดับเดิม ภาพรวมยังเป็นการแกว่งตัวออกข้างๆ

ทางเลือกรอง : ราคาที่หลุด 1202 ลงมาอาจจะทำให้ราคาไหลลงไปต่อ

รายละเอียด

- ราคาทองคำยังค่อนข้างทรงตัวเนื่องจากเป็นวันหยุดำการของอเมริกา แต่ก็ยังมีความเคลื่อนไหวพอสมควร เมื่อวานขึ้นไปทดสอบ 1208 แต่ลงมาปิดไม้เดียวถึงบริเวณ 1204 ซึ่งมองว่า ถึงแม้จะยังคงเป็นแนวโน้มที่แกว่งตัวออกข้างแต่ภาพเป็นลบก็ยังอยู่ ค่าเงินดอลลาร์สัปดาห์ที่ผ่านมารีบาวน์แข็งค่าขึ้นมาเล็กน้อย ตามรูปแบบ Three drive pattern ของเงินยูโรที่เป็นการส่งสัญญาณอ่อนค่าลงมา ทั้งนี้เมื่อเทียบสัดส่วนของเงินยูโรที่อ่อนค่าและทองคำที่ลงนั้นถือว่าทองคำในรอบนี้ปรับตัวลงน้อยกว่าเงินยูโร เนื่องจาก ทองคำยังได้รับปัจจัยบวกจากในฝั่งของมาตรการขึ้นดอกเบี้ยที่ยังดูเหมือนไม่ได้ข้อสรุปและคาดว่าจะเลื่อนไปจนถึงช่วงสิ้นปี

- ความผันผวนในตลาดน้ำมันยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง หลังจากราคารีบาวน์ขึ้นมาแรงนับจากช่วงต้นปี ทำให้หลายคนมองว่า ราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นไปกว่านี้อีก และมองเป้าหมายที่ระดับ $65-70 ต่อบาร์เรล จากความต้องการใช้น้ำมันที่มากขึ้น และ Supply ที่ลดลงจากแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ทยอยลดการขุดเจาะ ทั้งนี้ OPEC ยังคงกำลังการผลิตปริมาณที่มากเช่นเดิม และ การเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในช่วงนี้เป็นลักษณะของการแกว่งตัวในกรอบสามเหลี่ยมเลือกทางซึ่งต้องใช้เวลาสักพักหนึ่งกว่าจะรู้ผลลัพธ์

- สถานการณ์ในกรีซยังอาการหนัก หลังจากมีแนวโน้มจะขาดเงินสดและไม่มีเงินพอที่จะสามรถชำระหนี้ ไม่ว่าจะเป็น ค่าใช้จ่าย กองทุนบำเหน็จบำนาญ ค่าจ้างแรงงาน รวมไปถึงหนี้ IMF หากยังไม่ได้เงินสด และผู้นำกรีซได้ออกมาขอประนีประนอมเนื่องจากกรีซได้ปฎิบัติตามเงื่อนไขของเจ้าหนี้โดยใช้มาตรการรัดเข็มขัดมาจำนวน 3 ไตรมาสที่ผ่านมา และ กล่าวว่า กรีซไม่สามารถทนกับแรงกดดันเรื่องมาตรการรัดเข็มขัดมากไปกว่านี้แล้ว ทั้งนี้สภากรีซก็จะมีการเปิดสภาประชุมกันอีกเป็นระยะๆในช่วงนี้

- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นแรงในช่วงที่ผ่านมา ล่าสุดดัชนีตลาดหุ้นจีนกลับไปทดสอบระดับ High เดิม ในขณะที่ Nikkei ของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นทำระดับ New-high อย่างต่อเนื่อง จากตัวเลข GDP ของญี่ปุ่นและรวมถึงตัวเลขการส่งออกที่ออกมาดี ทั้งนี้ตลาดหุ้นจีนยังได้รับประโยชน์จากการเชื่อมต่อ Global และ Valuation ท่ถูกเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่น เพียงแต่ต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควรสำหรับหุ้นจีนเนื่องจาก การปรับตัวขึ้นมา
เยอะ สัดส่วนบัญช Margin ที่สูง และการชะลอตัวของตัวเลขเศรษฐกิจ

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD 

Core durable goods 0.5% 0.3%
Durable goods -0.4% 0.7%

21.00 USD 

CB Consumer confidence 95.2 95.2

แนวทางทองคำวันที่ 25-5-58

เเนวรับ 1202 1200 1195 เเนวต้าน 1208 1212 1215

วันศุกร์ราคาเริ่มไหลลงจากตัวเลข CPI ทั้งนี้น้ำหนักข่าวคาดว่ายังไม่ได้เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ทองคำลงมา ทั้งนี้ทองคำลงมาทดสอบระดับ 1202 มุมมองในวันนี้มองว่า เหนือระดับนี้ยังมองขึ้นกลับไปที่เดิม กรณีที่ผิดทางคือราคาหลุด 1202 ลงไปนั้นมองว่า จะทำให้เกิดการลงไปอีกช่วงหนึ่งถึงบริเวณ 1190-1195 มุมมองในวันนี้จึงมองว่า ทางเลือกแรก เปิดสถานะซื้อโดยมีจุดตัดขาดทุน 1200-1202 และ เป้าหมายที่ 1208 และ 1212 (ปัจจุบัน 1204) ซึ่งอัตราส่วน RISK:REWARD อยู่ที่ 1:1 หรืออาจจะไปถึง 2:1 กรณีที่ไปถึง 1212 ทางเลือกหลังคือ เปิดสถานะขายเมื่อราคาหลุด 1200 ก็จะมีเป้าหมาย 1190 จุดตัดขาดทุน 1205 (2:1) ทั้งนี้วันนี้เป็นวันหยุดทำการของอเมริกา

ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 2303 ล้านบาทเป็นวันที่ 3 ต่อเนื่องกัน ในขณะที่หันมา Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก 6145 สัญญา มุมมองของตลาดหุ้นไทยมองว่าระมัดระวังการปรับฐานหลังจากหลุดแนวเส้น Uptrend ระยะสั้นมา แต่ก็ยังเจอแนวรับเมื่อวันศุกร์ที่ราคาลงไป ทั้งนี้ภาพรวมมองว่า ให้ระวังฝั่งลงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ในวันพรุ่งนี้จะมีประกาศตัวเลขการส่งออกซึ่งคาดว่า ถึงแม้จะออกมาดีแต่ก็ยังไม่สดใสเท่าไรนักเมื่อเทียบ yoy หรือ qoq ค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่า แนวต้าน 33.60 หลุดแล้วอ่อนอีก

ทางเลือกหลัก : ภาพรวมเมื่อวันศุกร์ราคาปรับตัวลดลงมาค่อนข้างเร็ว จนทำให้เสียทรงพอสมควร ลงมาที่แนวรับ 1202 แต่มองว่า ระดับนี้จะยังสามรถพยุงราคาได้ และวันนี้มองการปรับตัวขึ้น

ทางเลือกรอง : ราคาที่หลุด 1200-1202 ลงมาจะทำให้เกิดการลงอีกรอบหนึ่ง

รายละเอียด

- ตัวเลขเงินเฟ้อหรือ CPI ออกมาที่ระดับ 0.1% เท่ากับคาดการณ์ ในขณะที่เดือนก่อนหน้าออกมาที่ 0.2% ทางฝั่ง Core CPI หรือเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่รวมหมวดพลังงานและอาหารสดปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.3% จากคาดการณ์ 0.2% ที่เท่ากับเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ในวันศุกร์หลังจากตัวเลขประกาศออกมาส่งผลให้ทองคำปรับตัวลดลง ซึ่งน้ำหนักข่าวตัวนี้คาดว่าการลงรอบนี้ไม่ได้เกิดจากข่าว เนื่องจากเมื่อมาดูเนื้อข่าวจะพบว่า เงินเฟ้อทั่วไปลดลง แต่เงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้น ซึ่งภาพรวมยังไม่มีนัยสำคัญอะไรในทิศทางทองคำ

- ประธาน FED พูดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กล่าวในทำนองที่ว่า ถึงแม้เศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้อ่อนแอในไตรมาสแรก รวมถึงตลาดแรงงานก็ยังไม่กลับไปยังระดับที่ควรจะเป็น FED ก็ยังให้น้ำหนักของการขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้อยู่หากตัวเลขเศรษฐกิจส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งและอัตราเงินเฟ้อเข้าใกล้ระดับเป้าหมายที่ 2% นอกจากนี้มองว่าช่วงครึ่งหลังของปีเศรษฐกิจอเมริกาจะกลับฟื้นขึ้นมาได้ นอกจากนี้ยังแสดงความกังวลถึงความผันผวนของสินทรัพย์ทางการเงินขณะที่ทำการขึ้นดอกเบี้ย

- ECB เตรียมแผนฉุกเฉินให้กับธนาคารพาณิชย์ของกรีซหลังไม่มีทีท่าว่าจะเจรจาได้ ทั้งนี้นายกกรีซในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา กล่าวว่า กรีซไม่สามารถรองรับการรัดเข็มขัดที่มากกว่านี้แล้ว และหากไม่ได้รับเงินช่วยเหลืออาจจะทำให้มีปัญหาเรื่องขาดสภาพคล่อง ซึ่ง IMF ได้ออกมากล่าวว่า กรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ IMF รวมถึง ไม่มีเงินจ่ายค่าใช้จ่ายอย่างค่าจ้างแรงงานและกองทุนบำเหน็จบำนาญ

- ราคาน้ำมันดิบในช่วงนี้ค่อนข้างทรงตัว หลังจากเมื่อช่วงก่อนหน้าปรับตัวสูงขึ้นจากสต๊อกน้ำมันดิบที่ออกมาลดลงเล็กน้อย และในช่วงนี้เป็นช่วง Driving demand ของอเมริกาที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้การบริโภคน้ำมันในประเทศมีการใช้มากขึ้น และ ความไม่สงบเล็กน้อยในประเทศตะวันออกกลางที่ยังมีปัญหากันอยู่ ล่าสุด ปากีสถานปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 7% จากเดิม 8% เนื่องจากภาวะเงินฝืดที่ก่อตัวเช่นเดียวกับประเทศฮื่นๆหลังจากราคาน้ำมันตกลงมาอยู่ระดับต่ำ

- กองทุน Hedge fund เพิ่มสถานะ Long ในซิลเวอร์มากเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือนทองคำก็เช่นกัน ทั้งนี้ข้อมูลเมื่อสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 16 พฤษภาคม ข้อมูลจาก CFCT เปิดเผยไว้ที่ CNBC

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 

USD Bank holidays

แนวทางทองคำวันที่ 22-5-58

เเนวรับ 1202 1200 1195 เเนวต้าน 1212 1215 1225

ราคาปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อวานนี้ ถึงแม้จะมีข่าวบวกเข้ามาในตลาดก็ตาม เรื่องความกังวลการขึ้นดอกเบี้ยกระแสยังคงผสมกัน เลยทำให้ทองคำยังไม่สามารถเลือกทางได้ชัด ส่วนมุมมองระยะสั้นยังให้น้ำหนักของการรีบาวน์ไปยังแนวต้าน 1212 หรือใกล้เคียง จากเงินยูโรที่สามารถสร้างฐานได้บริเวณนี้และน่าจะดีดขึ้นในระยะสั้น ทิศทางยังเป็นการเก็งกำไรในกรอบสั้นๆ เนื่องจากในวันจันทร์เป็นวันหยุดทำการของอเมริกาอาจทำให้วันนี้มีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติได้ อาจจะผันผวนมากกว่าปกติหรือน้อยกว่าปกติก็ได้ 

SET ยังคงปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ใกล้ถึงระดับแนวต้านบริเวณ 1540-1550 ทั้งโซนนั้น ภาพรวมยังถูกกดดันจากแนวโน้มขาลงอยู่ เพียงแต่ช่วงนี้มองเป็นรอบรีบาวน์ที่ไม่สามารถบ่งบอกแน่ชัดได้ว่าจะกลับตัววันไหน แต่ช่วงนี้ถ้ายังไม่เห็นแรงขายหนักๆลงมาก็ยังมองว่าจะอยู่ในแนวโน้มรีบาวน์ขึ้นไปต่อเนื่อง ต่างชาติยังคงซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 943 ล้านบาท และ Long สุทธิในฟิวเจอร์อีก 2288 สัญญา ทิศทางค่าเงินบาทยังอยู่ในแนวโน้มแข็งค่าระยะสั้นแนวรับบริเวณ 33.30

ทางเลือกหลัก : เมื่อวานนี้ราคากลับลงมาทดสอบก่อน วันนี้ยังมองมุมมองเดิมคือ ขึ้นไปใกล้ 1212- สูงกว่า จากการคาดการณ์เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงระยะสั้น

ทางเลือกรอง : -

รายละเอียด

- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาที่ระดับ 274K จากเดือนก่อหน้า 264K และคาดการณ์ 271K ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการถึงแม้จะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นแต่แนวโน้มโดยรวมยังคงปรับตัวลดลงอยู่ ส่วน Flash manufacturing PMI ออกมาที่ระดับ 53.8 จากเดือนก่อนหน้า 54.1 และคาดการณ์ 54.6 และ ยอดขายบ้านมือสอง (Existing home sales) ปรับตัวลดลงเหลือระดับ 5.04M จากเดือนก่อนหน้า 5.21M และคาดการณ์ 5.23M กลุ่มตัวเลขเศรษฐกิจส่วนใหญ่ค่อนไปทางบวกกับราคาทองคำ ทั้งนี้เมื่อวานนี้ราคาทองคำกลับปรับตัวลดลงมาทดสอบระดับ $1202 และยังสามารถมีแรงรีบาวน์กลับขึ้นไปได้

- Flash PMI ของยูโรโซนโดยรวมออกมาดีขึ้น ของเยอรมันปรับตัวลดลงเล็กน้อยและอยู่เหนือระดับ 50 ส่วนฝรั่งเศสปรับตัวดีขึ้นแต่ยังอยู่ระดับต่ำกว่า 50 ทั้งนี้ Flash PMI ของกลุ่มยูโรโซนปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 52.3 ตัวเลขเศรษฐกิจของยูโรโซน ช่วงหลังนี้บ่งบอกว่า เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

- ราคาทองคำยังปรับตัวอยู่ในกรอบการซื้อ-ขาย (Trading range) ระหว่าง $1170-1230 ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม จากความไม่แน่นอนของช่วงเวลาการขึ้นดอกเบี้ย ส่วนมุมมองของนักลงทุนเริ่มหันกลับมาเป็นฝั่งลบอีกครั้งหลังจากราคาขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนและไม่สามารถผ่านไปได้ ส่วนแรงขายของกองทุน SPDR ยังออกมาต่อเนื่องเมื่อวันพุธลดสถานะลงอีก 0.41% สู่ระดับ 715.26 ตัน

- Yield ของตลาดพันธบัตรเริ่มปรับตัวลดลงเล็กน้อย นำโดยอเมริกาและเยอรมัน หลังจากช่วงก่อนหน้าเห็นแรงขายออกจากพันธบัตรเยอรมันอย่างหนัก เนื่องจากความกังวลว่า ECB อาจจะทำ QE น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ล่าสุดนักวิเคราะห์อย่าง Citi group มองว่า แรงขายที่เริ่มทรงตัวคาดว่าจะทำให้ Yield กลับสู่ภาวะปกติ แต่ได้เพิ่มคาดการณ์ว่า Yield ของเยอรมันมีแนวโน้มจะไม่ลงไปสู่ระดับติดลบอีกรอบหนึ่งแล้ว คาดว่าจะจบไตรมาส 3 ที่ Yield ประมาณ 0.2% จากเดิมคาดการณ์ –0.05%

- ดัชนี HSBC PMI ภาคการผลิตของจีนปรับตัวลดลงสู่ระดับ 49.1 เป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 2 เดือนจาก 48.9 จุด ซึ่งระดับที่ต่ำกว่า 50 บ่งบอกถึงแนวโน้มภารการผลิตที่ยังค่อนข้างหดตัว เศรษฐกิจจีนช่วงหลังมานี้เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลงเล็กน้อยในช่วงครึ่งปีแรก

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD 

CPI 0.1% 0.2%
Core CPI 0.2% 0.2%

20.30 EUR 

ECB Draghi speaks

แนวทางทองคำวันที่ 20-5-58

เเนวรับ 1206 1200 1195 เเนวต้าน 1212 1216 1220

เมื่อวานนี้ราคาปรับตัวลดลงมาจริง แต่เป็นการปรับตัวลดลงใน 1 วันที่ค่อนข้างมากจนเกินไป มากจนกลัวว่าจะเสียรูปขาขึ้นไป สัญญาณเตือนระยะสั้นออกมาแล้ว มุมมองทางบวกที่มองไว้ไม่ควรหลุดลงมาเกิน 1206 จากที่มองไว้ว่าระดับนี้น่าจะเป็นจุดซื้อที่ดี ต้องออกมาดูตลาดใหม่ และระวังมากขึ้น เพราะ การลงพักมานั้น แรงไปเล็กน้อย ในวันนี้มองรีบาวน์ขึ้นไป 1212-1215 ก่อน จากนั้นไปรอดูผลการประชุม FOMC ในช่วงตี 1 ตามเวลาบ้านเรา ภาพรวมเนือ้หาข่าวค่อนไปทางบวกมากกว่าจากแนวโน้ม FED ชะลอการขึ้นดอกเบี้ยจากตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอ แต่เมื่อมาดูพฤติกรรมค่าเงินยูโรดอลลาร์พบว่า โอกาสทางฝั่งลงนั้นมีสูง จึงขัดแย้งกัน

ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 610 ล้านบาท และหันกลับมา Long สุทธิในฟิวเจอร์ 1546 สัญญา เป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ ทิศทางของ SET ยังมองว่าอยู่ในช่วงของการรีบาวน์ และการปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากในระยะนี้ ถึงแม้จะขึ้นต่อแต่ต้องเพิ่มความระมัดระวังเล็กน้อย สำหรับค่าเงินบาทกลับมาอยู่ที่แกนกลางทำให้ไม่ได้มีสัญญาณอะไรชัดเจนนักในช่วงนี้กรอบแนวรับ 32.30 และแนวต้าน 33.70 ยังคงต้องรอผลการประชุม FOMC ในคืนนี้ว่าจะส่งผลยังไง

ทางเลือกหลัก : มองราคารีบาวน์กลับขึ้นไปถึงบริเวณ 1212-1215 จากนั้นคาดว่าต้องออกมารอดูตลาดอีกรอบหนึ่ง

ทางเลือกรอง : -

รายละเอียด

- ตัวเลข ZEW economics sentiment ซึ่งเป็นตัวชี้วัดมุมมองของเศรษฐกิจโดยรวม ผ่านมุมมองของนักวิเคราะห์ และนักลงทุนสถาบัน เนื่องจากถือว่าเป็นผู้ที่มีข้อมูลอยู่ในมือสำหรับวิเคราะห์มากกว่าปกติ ตัวเลขออกมาที่ระดับ 41.9 จากเดือนก่อนหน้า 53.3 และคาดการณ์ 48.8 ส่วน ZEW ของยูโรโซนโดยรวมออกมาที่ระดับ 61.2 จากเดือนก่อนหน้า 64.8 และคาดการณ์ 62.4 เป็นการปรับตัวหดตัวลดลงเล็กน้อย ส่วนตัวเลข CPI ออกมาไม่ขยายตัว (0%) เทียบกับเดือนก่อนหน้า

- ข่าวเรื่อง ECB จะยังคงดำเนินนโยบาย QE ต่อไปนั้นเริ่มถูกนำมาใช้ หลังจากนาย Benoit Coeure สมาชิกของ ECB’s Exclusive board ได้กล่าวว่า ECB ยังพร้อมที่จะซื้อสินทรัพย์อีกในอนาคต (คาดว่าจะเป็นเดือน พ.ค.-มิ.ย.) ส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์กันว่า ECB จะเข้าซื้อสินทรัพย์ระยะเวลานานเช่นเดิมและคาดว่าจะมีการเข้าซื้อเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นสู่เป้าหมายที่ 2% หลังจากมีคอมเมนต์จาก ECB เงินยูโรปรับตัวลดลงแรงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ และ ตลาดพันธบัตรได้มีแรงซื้อกลับเข้ามาและ Yield ผลตอบแทนของพันธบัตรลดลงทันที ทุกอย่างเริ่มกลับมาเหมือนเดิม นักลงทุนเข้าหาพันธบัตร เงินยูโรอ่อนค่าลง และส่งผลให้ทองคำปรับตัวลดลง

- ตัวเลขยอดขออนุญาติสร้างบ้านและก่อสร้างออกมาดีขึ้นทั้งหมดเมื่อวานนี้ และเป็นตัวทิ่ช่วยเสริมให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และทองคำก็ได้รับแรงกดดันจากตัวนี้ทำให้ปรับตัวลดลงเป็นวันแรกในรอบ 5 วัน และมีความเห็นจากเทรดเดอร์ไว้ว่า อีกครั้งหนึ่งที่เราเห็นทองคำปรับตัวขึ้นเกินกว่าระดับ 1225 และปรับตัวลดลง ไม่สามารถไปยืนเหนือระดับนี้ได้ จึงคาดว่าจะได้เห็นการอ่อนตัวลงมาด้านล่างอีกครั้งหนึ่ง และให้ความเห็นว่าระดับแนวรับ 1200 และ 1208 จะเป็นแนวรับที่น่าติตดาม

- กองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนที่ระดับ 718.24 ตัน เราได้เห็นการซื้อทองคำเพิ่มของกองทุนในสัปดาห์ก่อน ในขณะที่ปัจจุบันเริ่มเห็นแรงขายอีกรอบหนึ่งแล้ว แสดงให้เห็นว่า ทิศทางของกองทุนยังค่อนข้างไม่มีทิศทางที่ชัดเจน

- สถานการณ์ในกรีซดูดีขึ้น และเยอรมันมีความยินดีที่จะให้นายกกรีซเข้าประชุมในสุดสัปดาห์นี้

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

1.00 USD

FOMC Meeting minutes

แนวทางทองคำวันที่ 15-5-58

เเนวรับ 1218 1216 1212 เเนวต้าน 1225 1232 1240

จากการที่ราคาพยายามฝืนขึ้นไปต่อด้านบนก่อนเมื่อวาน เวลาลงมักจะลงแรงกว่าการที่ราคาลงมาเลย เนื่องจากเกิดภาวะ Divergent ค้ำอยู่ ในวันนี้มองว่า ราคาจะยังคงซึมลงมาต่อเนื่อง โดยมีแนวรับบริเวณ 1218 และ 1216 อาจจะยาวไปถึง 1212 ได้หากขาลงมีน้ำหนักสูง เพียงแต่การลงในช่วงนี้ยังประเมินว่า เป็นการลงเพื่อขึ้นต่อในภาพใหญ่มากกว่าการลงไปเลย เนื่องจากราคาได้ทำการพักหลังจากขึ้นมา 4-5 วันติดต่อกันเท่านั้น ไม่ได้ส่งสัญญาณทางลงหนักแต่อย่างใด แนวต้านจะอยู่บริเวณ 1225 เช่นเดิม และเมื่อวานนี้ได้แนวต้านใหม่ที่บริเวณ 1232 อีกจุดหนึ่ง ภาพรวมยังติดตามการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในวันพรุ่งนี้ตอนตี 1 ว่าจะมีทิศทางอย่างไร คาดการณ์ค่อนข้างทรงตัว

ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยอีก 398 ล้านบาท และยังคง Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก 2335 สัญญา แต่มุมมองของ SET ยังมองว่า ยังอยู่ในช่วงของ Technical rebound อย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ ถึงแม้จะยังไม่มีข่าวบวกเข้ามาเท่าไรนัก แต่การรีบาวน์ก็ยังมองเป็นไปอย่างจำกัดในระยะนี้อีกประมาณ 10-15 จุด เพราะ แนวโน้มขาลงยังกดดันไว้ทั้งเทคนิคัลและพื้นฐาน ค่าเงินบาทยังอยู่ในแนวโน้มของการแข็งค่ายังไม่เห็นสัญญาณที่จะเริ่มกลับตัวอ่อนค่า โดยมีแนวรับ 33.20-33.30

ทางเลือกหลัก : มองราคาปรับตัวลดลงต่อไปยัง 1218 1216 และ 1212 จากนั้นมองว่าจะขึ้นต่อ

ทางเลือกรอง : -

รายละเอียด

-ทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อวานนี้ แต่ยังซื้อ-ขายกันอยู่ระดับเฉลี่ยที่สูงสุดในรอบ 3 เดือน จากปัจจัยบวกเรื่องของตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาช่วงสัปดาห์ก่อน ไม่ว่าจะเป็น ตัวเลขค้าปลีก อัตราการใช้กำลังการผลิต ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และอื่นๆ ที่ยังออกมาค่อนข้างผสมกันค่อนไปทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้ามากกว่า จึงนำไปสู่การคาดการณ์เรื่องการขึ้นดอกเบี้ยช้ากว่ากำหนดจากเดิมที่คาดไว้ในเดือน มิถุนายน หลายคนเริ่มเลื่อนไปยัง กันยายน ธันวาคม หรือแม้แต่ต้นปีหน้า

- ดัชนีตลาดบ้านของอเมริกาปรับตัวลดลงเล็กน้อยเหลือระดับ 54 จุด จากเดือนก่อนหน้า 56 จุด

- FED สาขา Chicago , Charles Evans กล่าวว่า FED อาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน หากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแข็งแกร่งพอ เป็นไปในทิศทางเดียวกับ FED สาขาซานฟรานซิสโกที่ออกรายงานว่า เศรษฐกิจอาจจะไม่ได้อ่อนแอตามที่ได้ประเมินกันในปัจจุบัน นำไปสู่การคาดการณ์ขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วขึ้น

- กองทุน SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำลง 0.78% สู่ระดับ 718.24 ตัน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

- ผู้นำกรีซกล่าวว่า กำลังจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการหารือเรื่องแผนการปฎิรูปกับเจ้าหนี้เละกลุ่มอียูแล้ว คาดว่าจะเป็นภายในสัปดาห์หน้า อีกฝั่งหนึ่ง Sri-kumar global strategies ได้ออกมากล่าวว่า ปัญหาเรื่องกรีซยังดูไม่ดี และ คำถามที่เหลืออยู่คือ เมื่อไรจะออกจากยูโรโซน ไม่ใช่จะผิดนัดชำระหนี้หรือไม่ ทั้งนี้เป็นเพียงแค่ความเห็นเท่านั้น ต้องรอติดตามสถานการณ์ของจริงที่จะมีในสัปดาห์หน้า

- ในวันพรุ่งนี้จะมีการประกาศตัวเลข GDP ของญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะออกมาเท่าเดิม ขยายตัว 0.4% โดยได้รับปัจจับลบจากการขึ้นภาษี ค่าจ้างที่แท้จริงที่หดตัว และ รคาสินค้าที่แพงขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่ายออกไปช่วงนี้ ทั้งนี้ตลาดหุ้น Nikkei ในปัจจุบันอยู่ระดับประมาณ 20000 จุดบวกลบ ใกล้กับ All time high

- เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรก ขยายตัว 3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า น้อยกว่า Bloomberg คาดการณ์ที่ 3.4% เมื่อเทียบเป็นไตรมาสขยายตัว 0.3% โดยเป็นผลหลักมาจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้น การบริโภค การท่องเที่ยว ภาครัฐบาลที่ฟื้นตัวเล็กน้อย ทั้งนี้การส่งออกยังหดตัวค่อนข้างแรง และได้ปรับเป้าการเติบโตของภาคการส่งออออกค่อนข้างแรง ทั้งนี้หลายคนยังคาดว่าใช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นได้

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

16.00 EUR

German ZEW 48.8 53.3
ZEW 62.4 62.8

19.30 USD 

Building permits 1.06M 1.04M
Housing starts 1.02M 0.93M