ประชาสัมพันธ์

แนวทางทองคำวันที่ 4-5-58

เเนวรับ 1180 1175 1165 เเนวต้าน 1185 1193 1200

ราคาทองคำปรับตัวลดลงแรงสองวันติดต่อกันนับตั้งแต่วันพฤหัส และไปทดสอบแนวรับ 1175 จากนั้นรีบาวน์กลับขึ้นมาได้ มองการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องไปถึงแนวต้าน 1185 และ 1193 หากยังยืนเหนือ 1193 ไม่ได้ ยังมองว่า จะได้รับอิทธิพลจากการปรับฐานลงมาในภาพวัน ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์กลับไม่ได้แข็งค่าขึ้นไปมาก และยังอยู่ในแนวโน้มของการอ่อนค่า ปัจจัยพื้นฐานค่อนข้างผสมกัน ตลาดค่าเงินส่งสัญญาณบวก แต่ตลาดพันธบัตรกลับพบแรงขายในพันธบัตรค่อนข้างมาก ส่งให้ Yield ของพันธบัตรอายุ 10 ปีของอเมริกาอัตราดอกเบี้ยปรับตัวเข้าใกล้ระดับ 2% แนวรับ 1175นี้หากหลุดลงไปจะทำให้ราคาไหลลงแรงอีกรอบหนึ่ง

ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยอีก 1861 ล้านบาท แต่หันไป Long สุทธิในฟิวเจอร์ค่อนข้างมาก 5944 สัญญา ภาพรวมของ SET ยังอยู่ในอิทธิพลของการปรับฐาน แต่สองวันที่ผ่านมาดูดีขึ้น จึงยังมีลุ้นให้รีบาวน์กลับขึ้นไปทั้งนี้ตลาดหุ้นไทยจะปิดไปจนถึงวันพรุ่งนี้ หยุดยาว 5 วัน และจะเปิดทำการในวันพุธ ส่วนตลาดหุ้นโลกเมื่อคืนวันศุกร์ก็ปรับตัวขึ้นมา ค่าเงินบาทเริ่มเข้าสู่แนวโน้มอ่อนค่าจากการลดอัตราดอกเบี้ยประกอบกับ ปัจจัยในประเทศที่ดูไม่ดี แนวต้านบริเวณ 33.30 นี้ มองแข็งเล็กน้อยก่อน 

ทางเลือกหลัก : มองราคารีบาวน์ขึ้นไปแนวต้าน 1185 และ 1193

ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1175 ลงมามองว่า จะปรับตัวลดลงต่อ

รายละเอียด

- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ออกมาที่ระดับ 262K จากสัปดาห์ก่อนหน้า 296K และคาดการณ์ 290K ตัวเลขที่ออกมาระดับนี้เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 15 ปี และหลังจากข่าวออกได้เกิดแรงขายในตลาดทองคำค่อนข้างมากในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลดลงมาเพียงเล็กน้อย และแนวโน้มยังอยู่ในช่วงของการอ่อนค่า เพียงแต่ราคาทองคำที่ลงมานั้นคาดว่าเป็นข่าวเฉพาะตัวจาก Volatility ที่สูงขึ้นหลังจากทรงตัวอยู่ในกรอบค่อนข้างนาน ฝั่งตัวเลข Core PCE หรือตัววัดอัตราเงินเฟ้อที่ใช้ FED ใช้ในการประเมินออกมาที่ระดับ 0.1% เท่ากับเดือนก่อนหน้า ขณะที่คาดการณ์จะขยายตัว 0.2% นอกจากนี้ในวันศุกร์มีตัวเลข ISM ภาคการผลิต ออกมาที่ระดับ 51.5 เท่ากับเดือนก่อนหน้าขณะที่คาดการณ์ 52.1

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวมาซื้อ-ขายอยู่ที่ระดับ $59 เกือบจะขึ้นไปทดสอบระดับ $60 ได้แต่ยังไม่ถึงเป้าหมายและโดนแรงขายกดดันให้ปรับตัวลดลงมาเล็กน้อยท่ามกลางตัวเลขหลุมขุดเจาะน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ข้อมูลจาก Baker Hughs ที่เป็นบริษัทที่ทำข้อมูลเรื่อง Oilfield ที่เปิดเผยว่า หลุมขุดเจาะปิดตัวลงอีก 24 หลุม เหลือระดับ 679 หลุม ลดลงจากช่วงเดียวกันในปีที่แล้วจำนวน 1,527 หลุม ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงขอมหลุมขุดเจาะต่อเนื่องกันถึง 21 สัปดาห์ ทั้งนี้ภาพรวมของตลาดน้ำมันดิบยังถูกกดดันจาก Supply ที่ล้นตลาดในขณะที่ Demand ยังมีค่อนข้างน้อย และ การเปิดสถานะประกันความเสี่ยงของผู้ผลิตน้ำมันที่มากขึ้น อาจจะทำให้การรีบาวน์นั้นเป็นรูปแบบของ Short-lived

- นักวิเคราะห์ที่ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ต่างๆพบว่า ทองคำในช่วงนี้ซื้อ-ขายกันด้วยปัจจัยทางเทคนิคเป็นหลัก และปัจจุบันราคาได้ก่อตัวรูปแบบของขาลงได้เปรียบกว่า (Downward momentum) และอาจจะได้รับแรงกดดันหากราคายังไม่สามารถปิดสูงกว่านี้ได้

- IMF กำลังพิจารณาการประเมินมูลค่าที่แท้จริงของเงินหยวน ในขณะที่ช่วงก่อนปฎิเสธและไม่ให้การยอมรับสกุลเงินของจีนเนื่องจากความไม่โปร่งใส รายงานคาดว่าจะออกมาในเดือนหน้า

- ดัชนี HSBC ภาคการผลิตของจีนออกมาที่ระดับ 48.9 ปรับตัวลดลงแรงที่สุดในรอบปี ขณะที่เดือนก่อนหน้าที่ระดับ 49.6 และคาดการณ์ 49.2 เป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องและอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ที่ยังคงหดตัว

แนวทางทองคำวันที่ 30-4-58

เเนวรับ 1200 1195 1190 เเนวต้าน 1206 1215 1225

ผลการประชุม FOMC เมื่อวานนี้พบว่า FED ยังชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ตลาดคาดว่าจะเริ่มขึ้นในเดือน กันยายน ส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงมาด้านล่างต่อเนื่อง และเข้าสู่การพักฐานอ่อนค่าในระยะกลาง ซึ่งเป็นปัจจัยบวกกับราคาทองคำ ทั้งนี้ ทองคำกลับไม่ได้รับข่าวนี้เหมือนกับตลาดอื่นเท่าไรนัก แต่ก็คาดว่า จะช่วยสนับสนุนราคาทองคำในระยะกลางได้จากมุมมองและสมมติฐานการขึ้นดอกเบี้ยที่ กันยายนเช่นนี้ ระยะสั้นมองการย่อตัวลงมาเล็กน้อยถึงบริเวณ 1195-1200 แต่ยังให้น้ำหนักของการลงเพื่อที่จะขึ้นต่อในภาพกลาง โดยมีแนวต้านบริเวณ 1215 ที่เป็นแนวต้านสำคัญหากราคาผ่านตรงนี้ไปได้จะยืนยันการปรับตัวขึ้นต่อ เพียงแต่ระยะนี้ยังเห็นทองคำแกว่งตัวในกรอบอยู่

ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ปรับตัวลดลงระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขาย ก่อนที่จะมีรีบาวน์ขึ้นมา และเกิดเป็นแท่งเทียนรูปแบบคล้าย Hammer ที่เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน มองวันนี้น่าจะมีรีบาวน์ แต่หากรีบาวน์ไม่แรงจะปรับตัวลดลงต่อ วันนี้ต้องรีบาวน์แรงๆให้ได้ จึงจะเป็นจุดกลับตัวที่บริเวณนี้ จากแท่งเทียนปิดบวกหลังจากแท่ง Hammer ต่างชาตืยังคงขายสุทธิ และ Short สุทธิในฟิวเจอร์ต่อเนื่อง แต่ Shot ในจำนวนที่ไม่เยอะมาก ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงจากการลดดอกเบี้ย มองระดับนี้สะท้อนข่าวไประดับหนึ่งแล้ว

ทางเลือกหลัก : มองราคาปรับตัวลดลงมาด้านล่างเล็กน้อย โดยมีแนวรับ 1195-1200 ก่อนที่จะให้น้ำหนักทางปรับตัวขึ้นต่อ

ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1195 ลงมาด้านล่าง มองว่าขาขึ้นจะเสียความได้เปรียบไป

รายละเอียด

- ตัวเลข GDP ล่วงหน้า (Advance GDP ) ของอเมริกาไตรมาสแรกออกมาที่ระดับ 0.2% ปรับตัวลดลงค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับครั้งก่อนหน้าที่ 2.2% และคาดการณ์ 1% จากภาวะภัยหนาวที่คอยกดดัน บริษัทจดทะเบียนในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานที่มีผลกำไรลดลง การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ที่กระทบกับบริษัทข้ามชาติ (ประเด็นนี้เริ่มน้อยลง เพราะ กำไรของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาสแรกไม่ได้แย่อย่างที่นักวิเคราะห์คาดการณ์) และ การบริโภคของครัวเรือนภายในประเทศที่ขยายตัวน้อยลง ข่าวนี้เป็นปัจจัยบวกกับราคาทองคำ เนื่องจาก การขยายตัวของเศรษฐกิจเป็นไปได้น้อยลง

- ผลการประชุม FOMC เมื่อคืนยังพบว่า FED ยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับใกล้ 0% เหมือนเดิม และยังไม่มีมุมมองของการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงนี้ แต่จะมีการขึ้นภายในปีนี้แน่นอน ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า FED จะเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ยไปยังเดือนกันยายน ข่าวนี้เป็นปัจจัยบวกกับทองคำในระยะสั้นนี้

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นแรงไปทดสอบระดับ $59/บาร์เรล โดยได้รับปัจจัยบวกจาก สต๊อกน้ำมันดิบของอเมริกาที่ออกมาน้อยลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน รวมถึง สถานการณ์ความไม่สงบในลิเบียที่มีกลุ่มผู้ประท้วงได้ปิด Gas field และ เรื่องของการเปลี่ยนผู้นำของซาอุดิอาระเบีย ทั้งนี้หลังจากเปิดตลาดมาราคาย่อตัวลงมาเล็กน้อยเหลือระดับ $58.5/บาร์เรล มุมมองมองว่า น้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อไปยังระดับ $60-65/บาร์เรล ด้วยปัจจัยบวกระยะสั้นกับภาพทาคเทคนิคที่ทำรูปแบบ Double bottom

- ภาพรวมของตลาดต่างๆหลังการประชุม FED พบว่า ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างมาก นับเป็นการอ่อนค่าลงหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 96 และยืนยันการอ่อนค่าต่อ ค่าเงินสกุลที่คู่กับดอลลาร์อย่างยูโรและเยนก็แข็งค่ากลับขึ้นมา ตลาดพันธบัตรค่อนข้างทรงตัวถึงปรับตัวลดลงเล็กน้อยเช่นเดียวกับตลาดทองคำที่ทรงตัวซึ่งสองตัวนี้เป็นตัวที่ไม่รับข่าวเมื่อวานนี้ ฝั่งน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นหลุดแนวต้านบริเวณ $58 ออกมาได้ และตลาดหุ้นฝั่งยุโรปและอเมริกาปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก โดยเฉพาะยุโรปที่รับข่าวลบเรื่องการแข็งค่าของยูโร

- สถานการณ์ในกรีซยังไม่คืบหน้า ล่าสุดโดน Moody ปรับลดความน่าเชื่อถือเครดิตเรตติ้งสู่ระดับขยะ

- กนง. ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 1.50% มองเศรษฐกิจยังไม่ฟื้น

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD 

Unemployment claims 290K 295K
Core PCE 0.2% 0.1%

แนวทางทองคำวันที่ 29-4-58

เเนวรับ 1204 1200 1195 เเนวต้าน 1215 1220 1225

ราคาทองคำได้รับปัจจัยจากข่าวบวกเรื่องของความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวแย่ลงมากกว่าเดิมและมากกว่าคาดการณ์ ซึ่งมุมมองภาพรวมนั้นยังคงเป็นบวกมากขึ้น หลังจากค่าเงินดอลลาร์ลงมาทดสอบแนวรับพอดี คาดว่าด้วยเนื้อข่าวของวันนี้จะทำให้ตลาดทองคำและค่าเงินค่อนข้างผันผวน นำมาด้วยตัวเลข GDP ล่วงหน้าคาดว่าจะเป็นบวกกับราคาทองคำ ส่วนผลการประชุม FOMC ยังคาดว่าเป็นไปในทางบวกกับทองคำเช่นกัน มองว่า เฟดจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยไปจนถึงเดือน กันยายน ซึ่งหากออกมาผิดคาดก็จะเห็นทองคำปรับตัวลดลง ข่าวเช่นนี้แนะนำว่ารอดูข่าวจะดีที่สุด ในระยะสั้นภายในวัน มองว่าจาก Bearish divergent ใน TF เล็ก จะทำให้ราคาปรับตัวลดลงมาก่อนบริเวณ 1204

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงแรงเมื่อวานนี้ จากตัวเลขการส่งออกที่ออกมาค่อนข้างน้อย ต่างชาติยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 2654 ล้านบาท และยัง Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก 5154 สัญญา แต่ยังมีเงินไหลเข้าในตลาดตราสารหนี้ ซึ่งในวันนี้ช่วงเวลาบ่ายประมาณบ่ายสองโมงจะมีผลการประชุม กนง แนวโน้มเป็นไปในทางลดดอกเบี้ย ซึ่งตรงกับราคาพันธบัตรที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากลดดอกเบี้ยจริงจะทำให้ตลาดหุ้นรีบาวน์พร้อมกับทั้งเงินบาทอ่อนค่าไปทดสอบระดับใกล้ 33.00

ทางเลือกหลัก : มองราคาปรับตัวลดลงมาบริเวณ1204 ภาพรวมยังคงเป็นไปในทิศทางบวก มองว่าหลังจากพักจะสามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อ

ทางเลือกรอง : ราคหลุด 1195 มองว่า จะเริ่มกลับลงมาแกว่งในกรอบอีกรอบ

 รายละเอียด

- ตัวเลขดัชนีราคาบ้าน S&P Composite ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 5% จากเดือนก่อนหน้า 4.5% และคาดการณ์ 4.7% ข่าวนี้ออกมาทำให้ทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่เมื่อไปเจอข่าวดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CB consumer confidence) ที่ออกมาระดับ 95.2 นั้นเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว ขณะที่เดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 101.4 และคาดการณ์ 102.6 จากข่าวนี้ทำให้ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นไปทดสอบระดับ $1215 /Oz. ก่อนที่จะมีแรงขายให้ทองคำปรับตัวลดลงมาด้านล่าง

- ในวันนี้จะมีผลประชุม FOMC ในช่วงเวลาตี 1 ตามเวลาบ้านเรา ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่า FED จะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้นนี้ อย่างน้อยคาดว่าจะขึ้นในเดือนกันยายน เนื่องจากเงินเฟ้อยังไม่ขยับขึ้นประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาชะลอตัวลง ทั้งนี้อีกฝั่งหนึ่งก็มองว่า ตัวเลขเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงนั้นเป็นปัจจัยชั่วคราวจากภาวะภัยหนาวในช่วงต้นปี และ ในช่วงที่เหลือของปีคาดว่าจะฟื้นตัวกลับมาได้ปกติ ก็ยังเป็นมุมมองของสองฝั่งเช่นเดิม แต่ฝั่งชะลอขึ้นดอกเบี้ยมีน้ำหนักมากกว่า และ ก่อนที่จะมีการประชุมได้มีตัวเลข GDP ล่วงหน้า (Advance GDP) ออกมาซึ่งคาดการณ์ว่าจะน้อยลง และเป็นปัจจัยบวกกับทองคำ

- ในฝั่งของตลาด Physical market มีข่าวเรื่องสัปดาห์ที่แล้วที่ว่าแรงซื้อ Physical เข้ามามากหลังจากราคาตกลงไป วันนี้มีข่าวเพิ่มเติมว่า ถึงแม้สัปดาห์ที่ผ่านมาจะมีแรงซื้อแต่เมื่อดูภาพรวมนั้นกลับพบว่า ปริมาณความต้องการทองคำในจีนปรับตัวลดลงอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นสินค้าในหมวด จิลเวอรี เหรียญทองคำ ทองคำแท่ง ต่างได้รับความสนใจน้อยลง ในไตรมาสแรกปรับตัวลดลง 9% ส่วนการนำเข้าทองคำของจีนจากฮ่องกงก็ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ข้อมูลเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

- นายกกรีซคาดว่าจะสามารถได้รับเงินช่วยเหลือก่อนที่จะครบกำหนดวันจ่ายชำระหนี้ IMF ในเดือนหน้าแต่หากรัฐบาลเผชิญกับแรงกดดันจากทางเจ้าหนี้นายกก็พร้อมที่จะทำประชามติขอความเห็นจากประชาชนต่อข้อเสนอของเจ้าหนี้อียู

- ตัวเลขการส่งออกของไทยหดตัว –4% ส่วนยอดนำเข้าหดตัว –6.1% ยังส่งผลให้ดุลบัญชีเกินดุล ในวันนี้จะมีการประชุม กนง ในช่วงบ่ายตามเวลาบ้านเรา ตลาดคาดการณ์ว่าจะลดดอกเบี้ย 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD

Advance GDP 1.0% 2.2%

1.00 USD 

FOMC Statement

แนวทางทองคำวันที่ 28-4-58

เเนวรับ 1195 1190 1185 เเนวต้าน 1204 1207 1215

ราคาทองคำเมื่อวานนี้ได้รับปัจจัยบวกจากการทำ Short –covering การเข้าซื้อสัญญาออพชันที่จะหมดอายุเดือนที่จะถึง ข่าวเรื่องกรีซ และ การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ ซึ่งข่าวส่วนใหญ่เป็นบวก แต่ยังบวกไม่แรงพอ เพราะ ส่วนหนึ่งเกิดจากการเก็งกำไรมากกว่าที่พื้นฐานจะสนับสนุน ในวันนี้จะมองการปรับตัวลดลงมาเล็กน้อยถึงระดับไม่เกิน 1195 ขณะที่แนวต้านอยู่บรืเวณ 1207 ราคายังมีพฤติกรรมแกว่งตัวอยู่ในกรอเพียงแต่ความผันผวนระหว่างวันจะเริ่มสูงขึ้น หากจะให้หลุดกรอบได้อย่างน้อยต้องผ่านระดับ 1207 ขึ้นไป คาดว่าข่าวเรื่องการประชุม FOMC จะเข้ามามีน้ำหนักที่จะช่วยให้ทองคำหลุดกรอบไปได้ โดยมีสมมติฐานและคาดการณ์ว่า ชะลอการขึ้นดอกเบี้ย

ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ทิศทางของการปรับฐาน ต่างชาติเริ่มหันมาขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องอีก 1,635 ล้านบาท และ Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก 3902 สัญญา แต่ยังคงซื้อสุท่ธิในตราสารหนี้ ซึ่งมองว่า โอกาสที่ กนง จะลดดอกเบี้ยในวันพรุ่งนี้มีสูงขึ้นจากตราสารหนี้ที่มีแรงซื้อเข้ามาตลอด ( เก็งกำไรการลดดอกเบี้ย ) ซึ่งปัจจุบันเศรษฐกิจยังไม่ค่อยดี จึงเป็นความกังวลในอนาคต ค่าเงินบาทหลุดแนวต้าน 32.50 ออกมาได้ ยังมองการอ่อนค่าต่อเนื่อง และหากลดดอกเบี้ยในวันพรุ่งนี้คงได้เห็นการอ่อนค่าลงไปอีก 

ทางเลือกหลัก : มองราคาพักตัวลงมาเล็กน้อยถึงระดับประมาณ 1195 ก่อนที่จะขึ้นต่อ

ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1195 ลงมามองว่าจะทำให้เกิดการแกว่งตัวอีกรอบหนึ่ง

รายละเอียด

- ดัชนี Flash PMI ภาคบริการของอเมริกาออกมาที่ระดับ 57.8 จุด ขณะที่ Bloomberg คาดว่าจะออกมาที่ระดับ 59.5 และเดือนก่อนหน้า 58.6 จุด ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากเรื่องของเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นแรงในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมากดดันผลการดำเนินงานของบริษัท

- สถานการณ์ในกรีซยังไม่คืบหน้า หลังจากวันศุกรีที่ผ่านมา กรีซยังไม่สามารถผ่านแผนปฎิรูปที่ส่งให้อียูพิจารณาได้ และสถานการณ์ยังคงค่อนข้างมืดมน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของกรีซปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และล่าสุดผลสำรวจของประชาชนมีความเห็นไปในทางที่ว่า อยากให้รัฐบาลกรีซลดความท้าทายและกลับไปประนีประนอมกับเจ้าหนี้ บ่งบอกว่า ประชาชนกรีซไม่อยากให้ประเทศออกจากยูโรโซนเท่าไรนัก ทั้งนี้เยอรมันก็เรียกร้องให้กรีซเจรจากันดีดีต่อไป หนี้ก้อนหน้าที่จะถึงกำหนดชำระนั้นจำนวน 200 ล้านยูโร ให้กับเจ้าหนี้ IMF ในวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ ทั้งนี้ตลาดหุ้นกรีซเมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้นแรงจากสถานการณ์ที่ยังคลุมเคลือ

- ทองคำปรับตัวขึ้นแรงที่สุดใน 1 วันนับตั้งแต่เดือน มกราคม เมื่อคืนนี้ ท่ามกลางความกังวลในเรื่องของกรีซ ประกอบกับ การทำ Swap ระหว่างเวเนซูเอล่า และ Citigroup ที่ทำให้มุมมองของนักลงทุนมองว่า แรงขายได้ออกจากตลาดไปส่วนหนึ่ง และ คงมุมมองในอนาคตที่จะมีดีมานด์เข้ามาซื้อทองคืน และข่าวที่สำคัญที่สุดคือ การทำ Short-covering หรือปิดสถานะ Short และการเข้าไปเก็งกำไรในตลาดออพชันสัญญาหมดอายุ เดือน พฤษภาคม ที่เกิดแรงซื้อเข้ามามากตั้งแต่ช่วงเปิดตลาด ทำให้ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

- นักวิเคราะห์ของ GoldCore ให้ความเห็นว่า ทองคำปรับตัวอยู่ในกรอบมานานระหว่าง 1180-1200 และการผ่านระดับ 1200 อกมาได้จะทำให้เกิดแรงซื้อใน Technical ตามมามากขึ้น

- แรงซื้อ Physical ในเอเชียปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากราคาทองคำปรับตัวลดลงแรงในช่วงปิดสัปดาห์ ล่าสุดพรีเมียมทองคำที่ซื้อ-ขายในจีนปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ $4

- น้ำมันดิบปรับตัวลดลง แต่ยังเป็นแนวโน้มของการซื้อ-ขายอยู่ในกรอบ Sideways โดยได้รับแรงกดดันจากซาอุดิอาระเบียที่ออกมาเปิดเผยว่า ซาอุมี Supply น้ำมันพร้อมที่จะส่งให้จีนหากจีนต้องการ ในฝั่งกลับกันจำนวนหลุดขุดเจาะ Oil rig ในอเมริกาปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2010 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

21.00 USD

CB consumer confidence 102.6 101.3

แนวทางทองคำวันที่ 23-4-58

เเนวรับ 1185 1180 1170 เเนวต้าน 1191 1193 1200

ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลุดกรอบสามเหลี่ยมเลือกทางลงมา และมาเจอแนวรับระยะสั้นด้านล่างบริเวณ 1185 ในวันนี้มองการรีบาวน์ขึ้นไปเล็กน้อยขึ้นไปทดสอบระดับใกล้ 1193 หากระหว่างวันราคายังแกว่งตัวนิ่งๆไม่ยอมขึ้นหรือขึ้นไปแล้วไม่สามารถยืนได้ ให้ระมัดระวังการปรับตัวลดลงต่อ และการปรับตัวลดลงรอบนี้จะไม่มีแนวรับสำคัญๆมาคอยรับแล้ว และอาจจะเจอการปรับตัวลดลงแรงในระยะถัดมา จากรูปแบบการยืนยันของสามเหลี่ยมเลือกทาง ทั้งนี้ข่าวที่มากระตุ้นยังค่อนข้างน้อย การเก็งกำไรอาจจะต้องเข้าไวออกไว เพราะ ปัจจัยพื้นฐานในช่วงนี้ยังค่อนข้างผันผวนมาก ประเด็นเรื่องกรีซและการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ยังไม่แน่นอนในช่วงนี้

ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 900 ล้านบาท และ Short สุทธิ เป็นครั้งแรกในรอบ 12 วันทำการที่ 4,490 สัญญา เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงแรง และเกิดเป็นสัญญาณการพักฐานวันแรก จากนี้ไปมองว่า อาจจะมีการปรับฐานลงมาบ้าง สำหรับตลาดหุ้น แต่ยังมองในทิศทางของการรีบาวน์ได้อยู่หลังจากการปรับฐาน ค่าเงินบาทยังมีทิศทางแกว่งตัวทิศทางยังไม่ชัดเจนตามทิศทางของค่าเงินทั่วโลกที่ต่างแกว่งตัวออกไปในทาง Sideways โดยมีกรอบแนวรับ-แนวต้านอยู่บริเวณ 32.20-32.50 

ทางเลือกหลัก : ราคาเริ่มหลุดกรอบลงมาแล้ว เบื้องต้นมองการกลับไปทดสอบที่ 1191-1193 อีกรอบหนึ่ง หากยังยืนไม่ได้มองการปรับตัวลดลงต่อมายังแนวรับ 1185 อีกครั้ง

ทางเลือกรอง : ราคหลุดลงมาเลยโดยไม่ขึ้นไปทดสอบ 1193 และหลุดแนวรับ 1185 ลงมามองการปรับตัวลดลงต่อเลย

รายละเอียด

- ตัวเลขยอดขายบ้านมือสอง (Existing home sales) ออกมาที่ระดับ 5.19M เทียบกับเดือนก่อนหน้า จากเดือนก่อนหน้า 4.89M และคาดการณ์ 5.04M ซึ่งเป็นระดับที่มากที่สุดในรอบ 18 เดือน ข่าวนี้เป็นปัจจัยลบกับราคาทองคำที่ทำให้ราคาหลุดกรอบลงมาด้านล่างประกอบกับการหลุดสามเหลี่ยมเลือกทางออกมา ทำให้เกิดแรงขายตามมาในทางเทคนิคัล เนื่องจาก มุมมองของคนในตลาดจะคล้ายกัน พฤติกรรมการวาง Order ที่เปิดสถานะ Short มักจะวางอยู่ใต้กรอบแนวรับ หากราคาหลุดลงมา จะทำให้ราคาไหลลงมาค่อนข้างแรงเวลาหลุดกรอบ ซึ่งการหลุดลงมาเมื่อวานนี้เป็นการปรับตัวลดลง 1.3% แรงที่สุดใน 1 วันนับตั้งแต่วันที 6 มีนาคม หรือรอบเดือนกว่า

- นักลงทุนกำลังจับตามองตัวเลขเศรษฐกิจชุดอื่นๆในการประเมินถึงทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ว่าจะขึ้นเร็วกว่ากำหนดหรือไม่ ตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ที่ออกมาดีนั้นกระตุ้นให้นักลงทุนหันมาคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนดอีกครั้ง ส่วนเรื่องของกรีซก็ยังมีการจับตาดูเรื่องของการปฎิรูปที่ส่งแผนภายในวันพรุ่งนี้ ซึ่งปัจจุบันเงินสดที่มีของกรีซหากแผนปฎิรูปยังไม่ผ่านยังพอมีเหลืออยู่ที่ชะชำระหนี้ IMF ที่จะถึงในเดือนหน้า และคาดว่าจะพอมีไปจนถึงเดือน มิถุนายน ทั้งนี้ตลาดก็ต่างกำลังลุ้นให้แผนปฎิรูปผ่านในวันพรุ่งนี้ หากผ่านจริงทิศทางของทองคำจะแบ่งออกเป็น 2 ทางเช่นกัน ซึ่งการประเมินสถานการณ์นั้นค่อนข้างยาก ทางที่ 1 คือ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยทองคำจะโดนขาย ทางที่ 2. ค่าเงินยูโรจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์และทองคำจะปรับตัวขึ้นตามเงินยูโรไปซึ่งโอกาสเกิดมีได้ทั้งสองทางสำหรับข่าวเช่นนี้

- การซื้อทองคำของอินเดียปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก เนื่องจากอยู่ในช่วงเทศกาล Akshay Tritiya 

- Flash HSBC PMI ของจีนปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี ที่ระดับ 49.2 ขณะที่เดือนก่อนหน้าและคาดการณ์อยู่ที่ 49.6 ระดับที่ต่ำกว่า 50 มองว่าภาคผลิตยังคงหดตัวอยู่

- สมาชิกกำหนดนโยบายทางการเงินของจีนส่งสัญญาณว่าจีนยังสามารถปรับลด เงินสำรองของธนาคารพาณิชย์ RRR หากอัตราเงินเฟ้อยังไม่ฟื้นตัวขึ้นมา

- สต๊อกน้ำมันดิบเมื่อวานนี้ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับที่สูงและมากกว่าเดือนก่อนหน้า 

ปัจจัยที่ต้องติตดาม

19.30 USD

Unemployment claims 288K 294K

แนวทางทองคำวันที่ 22-4-58

เเนวรับ 1195 1193 1185 เเนวต้าน 1203 1207 1215

ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1195-1205 เมื่อวานขึ้นไปทดสอบแล้วยังไม่สามารถผ่านไปได้ และลงมาแกว่งตัวที่กรอบตรงกลางอีกรอบ ทิศทางจึงยังเป็น Sideways และโดยปกติแล้วหลังจากการแกว่งตัวแบบนี้มักจะตามมาด้วยแนวโน้มการ Break out ที่รุนแรงในทางใดทางหนึ่ง และระยะเวลาก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จากความผันผวนหรือ Volatility ที่ลดลงนับตั้งแต่ต้นเดือน โดยรอปัจจัยข่าวเข้ามากระตุ้นในช่วงนี้ สำหรับการคาดการณ์ว่าจะออกมาทางไหนนั้นเป็นไปค่อนข้างยากเนื่องจาก ภาพรวมปัจจัยพื้นฐานยังไม่ชัดเจนเช่นเดียวกัน แต่ยังมองในน้ำหนักทางบวกได้เปรียบกว่าเล็กน้อย

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเมื่อวานนี้ ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 2,346 ล้านบาท และยัง Long สุทธิในฟิวเจอร์อีก 1700 สัญญา ต่างชาติเก็บสถานะ Long สุทธิในฟิวเจอร์ค่อนข้างมากและสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ค่าเงินบาทยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆบริเวณ 32.20-32.50 แนวโน้มยังไม่ชัดเจน แต่โดยรวมแล้ว ธปท. และ ภาคเอกชนเริ่มออกมาแสดงความกังวลของการแข็งค่าของเงินที่ถึงแม้จะไม่ได้แข็งค่าอย่างรุนแรง แต่ก็อ่อนค่าน้อยกว่าภูมิภาคและจะกระทบกับภาคการส่งออก

ทางเลือกหลัก : ราคายังคงแกวง่ตัวในกรอบเดิม เมื่อวานนี้ขึ้นไปทดสอบ 1203-1205 แล้วยังไม่สามารถผ่านไปได้ คาดว่าจะยังคงต้องใช้เวลาอีกสักพักหนึ่ง

ทางเลือกรอง : -

รายละเอียด

- ราคาทองคำยังคงทำรูปแบบของสามเหลี่ยมสมมาตร หรือสามเหลี่ยมเลือกทาง ยังไม่มีแนวโน้มชัดเจนเท่าไรนัก ซึ่งราคาแถวบริเวณ $1200 บวกลบประมาณ 10 เหรียญตรงนี้ เป็นที่อยู่ของการแกว่งตัวของราคาเกือบตลอดทั้งเดือนนับตั้งแต่เปิดเดือนเมษายนมา ซึ่งโดยปกติแล้วหลังจากการพักตัวของราคาแบบนี้มักจะตามมาด้วยการ Breakout ที่รุนแรงและเกิดเป็นแนวโน้มใหม่ขึ้น ต้องระมัดระวังว่าจะออกใสทางฝั่งไหน ปัจจัยพื้นฐานยังค่อนข้างสับสนเช่นกันจึงเกิดเป็นรูปแบบ Sideways ในกราฟขึ้น ซึ่งมองทางบวกได้เปรียบกว่าเล็กน้อย จากสงครามเยเมน และ สมมติฐานการขึ้นดอกเบี้ย (ช้ากว่ากำหนดในเดือนมิถุนายน)ในเดือน กันยายนปีนี้ ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อคาดหวังของนักลงทุนที่จะทำให้ Real interest rate แคบลง

- ตัวเลข ZEW ของเยอรมันปรับตัวลดลงเล็กน้อยออกมาที่ระดับ 53.3 จากเดือนก่อนหน้า 54.8 และคาดการณ์ 55.6 ส่วนตัวเลข ZEW ของทั้งยูโรโซนปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับ 64.8 จากเดือนก่อนหน้า 62.4 และคาดการณ์ 63.7 ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขที่สำรวจนักลงทุนและนักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ ถึงมุมมองที่มีต่อเศรษฐกิจในอนาคตโดยใช้ข้อมูลที่ตัวเองมีอยู่มาประเมิน

- กองทุน SPDR เพิ่มสถานะการถือครองทองคำอีก 0.45% สู่ระดับ 742.35 ตัน สะท้อนถึงมุมมองในทางบวกของนักลงทุนที่ลงทุนในตลาดทองคำ เนื่องจากนักลงทุนต่างกังวลในเรื่องสถานการณ์ในกรีซที่ดูเหมือนจะไม่ได้ข้อสรุปเรื่องแผนปฏิรูปในวันศุกร์นี้ ซึ่งหากกรีซยังมีปัญหาคาดว่าจะทำให้ทองคำปรับตัวสูงขึ้นได้จากฐานะ Safe-haven ทั้งนี้ในมุมมองส่วนตัวมองว่า เหตุการณ์กรีซสามารถออกมาได้ทั้งสองหน้า หน้าที่หนึ่งคือ ทองคำในฐานะ Safe-haven อีกหน้าหนึ่ง ทองคำจะปรับตัวลดลงตามค่าเงินยูโรที่อ่อนค่า ส่วนการอ่อนค่าของเงินยูโรนั้นดูเหมือนจะถูกจำกัดใน Sentiment ของนาย ดรากี้ ประธา น ECB ที่ประกาศว่า อย่า Short ยูโร เพราะ ECB จะทำทุกอย่างที่ทำได้ ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ประเมินค่อนข้างยาก

- การส่งออกของญี่ปุ่นในเดือนมีนาคมออกมาที่ระดับ 8.5% ในขณะที่เดือนก่อนหน้า 2.5% เป็นการเกินดุลครั้งแรกในรอบ 3 ปีที่ญี่ปุ่นเกินดุลการค้า โดยได้รับปัจจัยบวกจากสินค้ากลุ่มรถยนต์และกลุ่มอิเล็กทรอนิคส์ ส่วนฝั่งานำเข้าได้หดตัวลงแรงจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

21.00 USD 

Existing home sales 5.04M 4.88M

แนวทางทองคำวันที่ 20-4-58

เเนวรับ 1202 1196 1190 เเนวต้าน 1207 1215 1221

ทองคำปรับตัวขึ้นยังคงทำสถานะ Uptrend ในระยะสั้นอยู่ ในวันนี้จะมีแนวต้านระยะสั้นที่บริเวณ 1208 หากผ่านไปได้ราคามีแนวโน้มที่จะทำ New-high เกินกว่า 1220 เพราะ เป็นการผ่านแนวต้านสำคัญไปได้ ในทางกลับกันหากราคาลงมาต่ำกว่า 1200 ก็มองว่า อาจจะทำให้แนวโน้มแกว่งตัวออกข้างต่อ ซึ่งโอกาสในทางลงนั้นมีน้อยกว่าขึ้นในช่วงนี้ สำหรับปัจจัยพื้นฐานด้รับปัจจัยบวกจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า ตลาดหุ้นอเมริกาที่ปรับตัวลดลงแรง ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น และอัตราเงินเฟ้อที่ยังขยายตัว (หากเงินเฟ้อขยายตัวและ FED ยังไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะทำให้ช่องว่างอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงเป็นลบมากขึ้นซึ่งเป็นปัจจัยบวกกับราคาทองคำ

ตลาดหุ้นไทยหลังจากเปิดทำการวันแรกหลังจากช่วงสงกรานต์ก็ได้ปรับตัวขึ้นแรงต่อเนื่อง และยังแสดงให้เห็นถึงภาพรวมที่เป็นบวกประกอบกับ สถานะ Long สุทธิที่ฝรั่งสะสม 10 วันต่อเนื่องนั้น ทะลุระดับ 50,000 สัญญามาเรียบร้อย ถึงแม้ตลาดหุ้นทั่วโลกจะส่งภาพมาไม่ดีนัก ไม่ว่าจะเป็นยุโรปหรือเมริกา แต่คาดว่าด้วยแรงส่งมาแบบนี้จะทำให้การปรับตัวลดลงในระยะสั้นเป็นไปอย่างจำกัดและมองการรีบาวน์ต่อเนื่องในระยะนี้ค่าเงินบาทแข็งค่าลงมาโดยมีแนวรับบริเวณ 32.20 ที่เป็นแนวรับสำคัญ

ทางเลือกหลัก : ยังมองราคาอยู่ในช่วงของ Uptrend และลุ้นให้ผ่าน แนวต้านระยะสั้นที่ 1207-1208 ไปให้ได้ จะเปิดทางไปทำ New-high ที่ระดับเกินกว่า 1220

ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1200 ลงมาอีกครั้งทำใหภาพรวมเริ่มแกว่งข้าง

รายละเอียด

- ตัวเลขดัชนีชี้นำ (Leading index) ที่นำตัวแปรต่างๆไม่ว่าจะเป็น ตัวเลขทางเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อ อัตราแลกเปลี่ยน การจ้างงาน และตัวเลขอื่นๆมาประมวลผลให้เป็นตัวเลขตัวเลขหนึ่ง เป็นตัวชี้วัดที่จัดอยู่ในหมวดตัวเลขในกลุ่ม Leading indicator หรือ ตัวชี้วัดที่ชี้นำก่อนภาวะเศรษฐกิจจริง พบว่า ตัวเลขออกมาน้อยกว่าเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 0.1% จาก 0.2% และคาดการณ์ 0.3% ทั้งนี้ตัวเลขนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำเท่าไรนัก เพียงแต่เป็นตัวที่ใช้ดูภาพรวมเศรษฐกิจ

- อัตราเงินเฟ้อ CPI ของอเมริกาออกมาที่ระดับ 0.2% ตามคาดการณ์ และเท่ากับเดือนก่อนหน้า เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ที่ไม่รวมสินค้าหมวดพลังงานและอาหาร ก็อยู่ที่ระดับ 0.2% เช่นเดียวกัน บ่งบอกถึงทิศทางเงินเฟ้อที่ถึงแม้จะดูดีขึ้นแต่กลับไม่ได้ขยายตัวเท่าไรนัก ทางฝั่งตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 95.9 จากเดือนก่อนหน้า 93 และคาดการณ์ 93.8เป็นปัจจัยลบกับราคาทองคำ

- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวลดลงจากกระแสความไม่แน่นอน ทั้งเรื่องกรีซที่ในสัปดาห์นี้อาจจะมีปัญฆาเรื่องแผนปฎิรูป ,ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาผสม , กระแสการขึ้นดอกเบี้ยที่ยังไม่ชัดเจน โดยเฉลี่ยแล้วทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาปิดลบไป 1.3% และในวันศุกร์ระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขายได้ปรับตัวลดลงไปร่วม 350 จุด

- กองทุน SPDR เพิ่มสถานะการถือครองทองคำ 0.4% สู่ระดับ 739.07 ตัน ส่วนทางฝั่งกองทุน Hedge fund ยังตัดลดสถานะ Bullish ลงในทองคำอีกข้อมูลจาก CFCT เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดซื้อ-ขายกันอยู่ที่ระดับ $58 ต่อบาร์เรลจากความไม่สงบระหว่างเยเมนที่ปะทุขึ้นอีกรอบ รวมถึงตัวเลขแสดงถึงจำนวนหลุมขุดเจาะน้ำมันดิบ (Oil rigs) ในอเมริกาที่ทยอยปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง สร้างความกดดันให้แก่ Supply ของน้ำมันดิบซึ่งข่าวเหล่านี้นำมาเล่นกันมาก

- IMF กล่าวว่าจะไม่มีการยืดระยะเวลาการชำระหนี้ให้แก่กรีซ ในเดือนพ.ค. จำนวน 1 พันล้านดอลลาร์ ส่วน ECB ยังคงเรียกร้องให้กรีซทำแผนปฎิรูปให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้เกิดเป็นความวุ่นวายในอนาคตอีก

- จีนประกาศลดอัตราเงินสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีก 1% เหลือที่ระดับ 18.5% เป็นการลดลงครั้งที่ 2 ในรอบปีและต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2551 จีนยังคงดำเนินทิศทางผ่อนคลายและเป็นบวกกับทองคำ