27 มีนาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 27 มีนาคม 2558
27 มีนาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 27 มีนาคม 2558
แนวทางทองคำวันที่ 27-3-58
เเนวรับ 1199 1195 1190 เเนวต้าน 1205 1210 1215
เมื่อวานราคาปรับตัวขึ้นแรงไปยัง 1219 จากสถานการณ์ในเยเมน หลังจากนั้นได้รับแรงกดดันจากตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานทีออกมาดีขึ้น และในช่วงเช้ามาหยุดที่แนวรับแถว 1199 ซึ่งจากจุดนี้มองว่า หากราคาไม่หลุดลงไป ราคามีโอกาสขึ้นไปทดสอบระดับบน-ปรับตัวทำ New-high โอกาสในทางนี้ยังมีอยู่ค่อนข้างมาก ส่วนทางเลือกรองหากราคาปรับตัวลดลงเกินกว่า 1199 จะมองว่า ขาขึ้นที่ได้เปรียบจะเริ่มกลายเป็น Sideways ถึงปรับตัวลดลง และต้องชะลอการลงทุนออกไปก่อนเพื่อดูแนวโน้ม ในช่วง 19.30 ตามเวลาบ้านเรานั้นจะมีประกาศตัวเลข GDP รอบสุดท้ายของอเมริกาคาดว่าจะออกมาดีขึ้นซึ่งหากออกมาตามคาดการณ์จะเป็นปัจจัยลบกับราคาทองคำ
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย แต่ยังคง Long สุทธิในฟิวเจอร์เล็กน้อย ภาพรวมดัชนียังคงได้รับแรงกดดันอยู่ และข่าวตัวเลขการส่งออกเมื่อวานออกมาหดตัวแรงกว่าคาดการณ์ที่ –6.14% นับเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน ต่ำกว่าเดือนมีนาคม จากการส่งออกทองคำและน้ำมันที่ลดลงรวมถึงเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้น ทั้งนี้วันนี้ถึงแม้จะมีเทคนิคัลรีบาวน์แต่ยังคิดว่าการรีบาวน์จะไม่สามารถล้างแนวโน้มได้หากไม่แรงพอ ค่าเงินบาทออกจากแนวรับ 32.50 และยังมองการอ่อนค่าลงต่ออีกในระยะกลาง
ทางเลือกหลัก : มองราคาพักตัวลงมาเล็กน้อย และตอนนี้มาอยู่บริเวณแนวรับสำคัญบน $1,199 หากราคาไม่หลุดลงมา มองว่า โอกาสที่จะขึ้นต่อยังมี และการขึ้นอาจจะทำ New-high ถ้าไม่หลุดระดับนี้
ทางเลือกรอง : หากราคาหลุด $1199 ลงมามองว่า ราคาจะเริ่มแกว่งตัวออกข้าง หรือ ลดลงเล็กน้อย
รายละเอียด
- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ ที่ระดับ 282K จากสัปดาห์ก่อนหน้า 291K ซึ่งเท่ากับคาดการณ์ บ่งบอกถึงการฟื้นตัวของตลาดแรงงานอย่างแข็งแกร่งหลังจากช่วงสัปดาห์ก่อนๆ ปรับตัวขึ้นระดับ 300K ข่าวนี้เป็นปัจจัยลบกับราคาทองคำ ซึ่งจะเห็นได้จากการปรับตัวลดลงของทองคำจากระดับสูงสุดเมื่อวานนี้ที่ $1219 ไปยังระดับ $1205
- ในวันนี้เวลา 19.30 ตามเวลาบ้านเราจะมีการประกาศตัวเลข Final GDP ของอเมริกา ซึ่งเป็นการตรวจทาน GDP รอบสุดท้ายของไตรมาสที่ 4 ปีที่แล้ว คาดว่าจะออกมาที่ระดับ 2.4% จากรอบก่อนหน้า 2.2% ซึ่งหากออกมาตามคาดการณ์จะเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำจากการขยายตัวของเศรษฐกิจอเมริกาที่ดีขึ้น
- ช่วงบ่ายตามเวลาบ้านเราได้มีเหตุการณ์ซาอุดิอาระเบียใช้เครื่องบินรบทิ้งระเบิดกลุ่มกบฎในเยเมน ส่งผลให้ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นไปจนถึงระดับ $1219 เหตุที่ตลาดกังวลกันนั้น ไม่ได้มาจากตัวเยเมนโดยตรง เพราะ เยเมนมีกำลังการผลิตน้ำมันค่อนข้างน้อย แต่ตัวที่เป็นปัญหาคือ หากลามไปยังซาอุดิอาระเบียที่เป็นที่อยู่ของบ่อน้ำมันจำนวนมาก และ กำลังการผลิตระดับต้นๆของกลุ่ม OPEC จะทำให้ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบ นอกจากนี้เยเมนยังเป็นเส้นทางทางขนส่งน้ำมันดิบที่ค่อนข้างสำคัญ
- ตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่น (CPI) ผ่อนคลายลงเล็กน้อยออกมาที่ระดับ 2% ลดลงเล็กน้อยจากระดับ 2.2% ในขณะที่คาดการณ์ 2.1% ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลให้กับธนาคารกลางญี่ปุ่น แต่ในทางกลับกันนักวิเคราะห์มองว่า BOJ จะยังไม่ผ่อนคลายเพิ่มเติม เพราะ ระดับนี้ค่อนข้างส่งผลกระทบพอแล้ว และหากอัดฉีดเงินเข้าไปอีกจะทำให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าจนเกินไป
- สถานการณ์ในกรีซยังไม่ดีขึ้น แผนปฎิรูปก็ยังไม่ได้ยื่นให้เจ้าหนี้พิจารณา ล่าสุดข้อมูลเปิดเผยว่า ครัวเรือนและบริษัทต่างๆในประเทศกรีซต่างพากันทยอยถอนเงินออกจากธนาคารรวมกันแล้วเป็นจำนวนถึง 7.6 พันล้านยูโรระหว่างที่รัฐบาลกรีซยังคงเจรจากับเจ้าหนี้Troika ทำให้ยอดเงินคงเหลือมีเพียง 140.5 พันล้านยูโร ระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี
- ยอดส่งออกของไทยหดตัวแรงสุดในรอบ 6 เดือนออกมาที่ระดับ –6.14% จากเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Final GDP 2.4% 2.2%
26 มีนาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 26 มีนาคม 2558
26 มีนาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 26 มีนาคม 2558
แนวทางทองคำวันที่ 26-3-58
เเนวรับ 1196 1193 1185 เเนวต้าน 1202 1206 1210
ราคาทองคำเริ่มกลับตัว ออกจากแนวรับ 1195 ซึ่งก่อนหน้าได้ทำหน้าที่เป็นแนวต้าน มองการขึ้นไปทดสอบ 1200-1210 ทั้งโซนนั้น แต่ต้องใช้ความระมัดระวังสำหรับฝั่งซื้อแล้ว เนื่องจากราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องถึง 7 วันโดยไม่มีวันใดที่ปิดลบเลย ซึ่งโดยปกติแล้วน่าจะมีวันที่ติดลบลงมา รวมถึงระดับแนวต้าน 1200 ขึ้นไปนั้นมองว่า แรงขายน่าจะออกมาบางส่วน จึงต้องใช้ความระมัดระวัง และสามรถรอเปิด S ได้ แต่การเปิด S นั้นยังคงเป็นการเล่นสวนแนวโน้มที่ยังรีบาวน์อยู่ และปัจจัยข่าวรอบข้างที่ยังเป็นบวก ราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น สงครามในเยเมนที่เริ่มปะทุ ทำให้ฝั่ง L เริ่มได้เปรียบ แต่การ L นั้นควรจะทำการ L หลังจากราคาได้พักตัวลงมาแล้วเพื่อลดความเสี่ยง
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1312 ล้านบาท แต่หันไป Long สุทธิในฟิวเจอร์ 1,442 สัญญา ภาพรวม SET หลังจากมีการรีบาวน์ขึ้นมาแต่ก็พบว่าการรีบาวน์นั้นไม่แรงพอที่จะเปลี่ยนแนวโน้ม รวมถึงปัจจัยต่างๆที่ยังเป็นลบ และตลาดหุ้นดาวโจนส์ที่ส่งมาแบบลบ ทำให้ดัชนีน่าจะโดนกดดันไปอีกสักระยะหึ่ง สำหรับค่าเงินบาทสามารถดีดตัวอ่อนค่าได้ออกมาจากแนวรับ32.50 ได้ และยืนยันการอ่อนค่าลงต่อ ตราบใดที่ยังไม่หลุด 32.50 ได้นั้นก็ยังมองว่า เงินบาทจะยังอยู่ในแนวโน้มของการอ่อนค่า
ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นต่อ แต่ระดับ 1200-1210 ต้องใช้ความระมัดระวังและน่าจะทยอยขายทำกำไรแล้ว
ทางเลือกรอง :
รายละเอียด
- ตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable goods orders) ออกมาหดตัว –1.4% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า 2% และคาดการณ์ 0.3% ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนแบบไม่รวมหมวดยานพาหนะหดตัวเช่นเดียวกันที่ระดับ –0.4% จากขยายตัว 0.0% ในเดือนก่อนหน้าและคาดการณ์ที่ 0.3% แสดงให้เห็นถึงการหดตัวของการสั่งซื้อสินค้าคงทน ซึ่งเป็นข่าวบวกกับราคาทองคำ
- มีสถานการณ์ในเยเมนปะทุขึ้นหลังจากประธานาธิบดี โอบามา ส่งสัญญาณนำทหารอเมริกากลับ และอำนาจของประธานาธิบดีอาเบด-รับโบมานซูร์ ฮาดี ได้ถูกคุมคามโดยกลุ่มกบฎฮูซี ซึ่งแหล่วข่าวใกล้ชิดกับประธานธิบดีฮาดีได้กล่าวว่า ประธานาธิบดียังคงอยู่ในเยเมนขณะที่ฝ่ายกบฏได้เข้ายึดสนามบินไว้เรียบร้อย ทางซาอุดิอาระเบียและพันธมิตรได้เริ่มเปิดฉากโจมตี
- กระแสน้ำมันดิบที่ราคา $10-20 เริ่มกลับมาอีกครั้ง หลังจากทาง Bloomberg ได้ออกมาให้ความเห็นว่า ในตอนนี้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวต่อเนื่องแต่กำลังการผลิตกลับไม่ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และ คนคาดการณ์ถึงการดีดตัวในอนาคตจึงทำให้มีการซื้อตุนน้ำมันเก็บไว้ หากจะเป็นเช่นนี้ต่อไป สต๊อกก็จะเริ่มล้นไม่มีที่เก็บ และจะเกิดการเทขายแบบดั้มพ์ราคาซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันดิบตกลงต่อเนื่อง ทั้งนี้สต๊อกน้ำมันดิบเมื่อวานนี้ปรับตัวลดลง และส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทางเทคนิคัลก็เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวเช่นเดียวกัน
- สถานการณ์ในกรีซยังคงไม่สดใสเช่นกัน กรีซยังไม่ได้รับการอนุมัติในแผนปฎิรูปที่กรีซได้เสนอ และหากไม่ได้รับอนุมัติก่อนวันที่ 30 มีนาคมนี้จะทำให้กรีซจะมีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง ซึ่งกรีซจะขาดสภาพคล่องในวันที่ 20 เมษายน หากไม่มีความช่วยเหลือเข้ามาใหม่
- Ifo index หรือดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมันปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน เป็สัญญาณว่าค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าลงประกอบกับนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของ ECB เริ่มได้ผล
- นักวิเคราะห์ใน Wall Street ปรับคาดการณ์ตัวเลข GDP ของอเมริกาลง 0.2% หลังจากตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนประกาศออกมาซึ่งปรับตัวลดลง
- ทองคำปรับตัวสูงขึ้นช่วงนี้ส่วนหนึ่งมาจากการทำ Short-covering ที่กองทุนต่างๆเปิดไว้ค่อนข้างมาก
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Unemployment claims 291K 291K
25 มีนาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 25 มีนาคม 2558
25 มีนาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 25 มีนาคม 2558
แนวทางทองคำวันที่ 25-3-58
เเนวรับ 1185 1182 1175 เเนวต้าน 1192 1197 1202
ทองคำได้รับปัจจัยลบจากตัวเลขเศรษฐกิจอย่างอัตราเงินเฟ้อที่ออกมาดีขึ้น ทำให้การคาดการณ์ขึ้นดอกเบี้ยเริ่มกลับมาอีกครั้ง แต่ข่าวนี้ไม่ค่อยมีนัยสำคัญมาก ทั้งนี้พื้นฐานโดยรวมยังค่อนข้างเป็นไปในทางบวก แต่ในทางเทคนิคัลพบว่า ปัจจุบันเริ่มส่งสัญญาณพักตัวลงมาเล็กน้อย ซึ่งยังมองเป็นการพักตัวในแนวโน้มขาขึ้น เป้าหมาย 1200 โดยเป้าหมายของการพักตัวอยู่บริเวณไม่เกิน 1180-1185 หากการพักตัวต่ำกว่าระดับนี้จะมองว่าขาขึ้นเริ่มเสียความได้เปรียบไป และอาจจต้องรอการแกว่งตัวของราคาเพิ่มเติม ในทางกลับกันหากผ่านระดับ 1195 ไปได้เลยในวันนี้จะมีโอกาสไปทดสอบ 1200 ข่าววันนี้มีคาดการณ์ทั้งบวกและลบสลับกัน
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 390 ล้านบาท แต่หันกลับไป Long สุทธิในฟิวเจอร์ 4,536 สัญญา เมื่อวานนี้ดัชนีปรับตัวลงไปต่ำกว่าระดับ 1500 และได้มีแรงซื้อกลับเข้ามาดันดัชนีปิดลบเพียงเล็กน้อย แต่ยังมองว่า แรงซื้อเข้ามานั้นยังไม่มากพอ และดัชนียังเข้าสู่แนวโน้มการปรับฐานต่อเนื่องขณะที่ปัจจัยในประเทศยังไม่เห็นปัจจัยบวกเท่าไรนัก สำหรับค่าเงินบาทแข็งค่าลงมาทดสอบระดับ 32.50 และแนวนี้เป็นแนวรับสำคัญ หากหลุดลงมาจะมองแข็งไปยัง 32.20 แต่ยังลุ้นฝั่งไม่หลุดและอ่อนค่ากลับไป
ทางเลือกหลัก : มองราคาพักตัวเล็กน้อยถึงแกว่งตัวออกข้าง และหลังจากนั้นมองปรับตัวขึ้นต่อไปใกล้ระดับ 1200
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1185 จะทำให้ขาขึ้นหมดความได้เปรียบ
รายละเอียด
- กลุ่มตัวเลข Flash PMI ของกลุ่มยูโรโซน ออกมาโดยรวมแล้วปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้า และส่วนใหญ่อยู่ในระดับที่สูงกว่า 50 ซึ่งเป็นโซนที่แบ่งแยกระหว่างการหดตัวกับการขยายตัว มีเพียงประเทศเดียวคือ ฝรั่งเศสที่ยังอยู่ในโซนต่ำกว่า 50 (ออกมาที่ 48.7) จากข่าวนี้มองว่า ภาคการผลิตของประเทศกลุ่มยูโรโซนเริ่มเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่วนของทางอเมริกาก็ปรับตัวดีขึ้นเช่นเดียวกันออกมาที่ระดับ 55.3 จากเดือนก่อนหน้า 55.1 และคาดการณ์ 54.9 นอกจากนี้ตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ของอเมริกาออกมาสูงถึงระดับ 539K จากเดือนก่อนหน้า 500K และคาดการณ์ 466K โดยรวมแล้วข่าวตัวเลขเศรษฐกิจเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยลบกับทองคำเนื่องจากข่าวส่วนใหญ่ออกมาดีกับเศรษฐกิจซึ่งไม่ดีกับทองคำ
- ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ (CPI) ของอเมริกากลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนที่ระดับ 0.2% ตามคาดการณ์เทียบกับเดือนก่อนหน้าหดตัว –0.7% ในฝั่งของ Core CPI หรืออัตราเงินเฟ้อพื้นฐานออกมาขยายตัว 0.2% เท่ากับเดือนก่อนหน้าขณะที่คาดการณ์ 0.1% บ่งบอกว่าถึงแม้ราคาน้ำมันดิบจะตกลงมาต่อเนื่อง แต่การขยายตัวของเงินเฟ้อนั้นปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่รวมหมวดพลังงานเข้าไปยังปรับตัวสูงขึ้นอีก ข่าวนี้ตลาดเลือกจะตีความทางลบ จากเงินเฟ้อที่มากขึ้นแนวโน้ม FED จะขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น ทั้งนี้ไม่ได้มีนัยสำคัญกับทิศทางเท่าไรนัก เพราะ ต้องรอผลการประชุม FOMC เท่านั้น
-ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลดลงต่อจากความกังวลเรื่องผลประกอบการที่จะถูกกระทบจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า เพราะ กำไรของบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ในอเมริกาล้วนแล้วแต่เป็น Multi-national firm หรือ บริษัทข้ามชาติ จากเงินดอลลาร์ที่แข็งทำให้มีแนวโน้มของกำไรที่ลดลง นอกจากนี้ความกังวลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการระยะเวลาของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็มาช่วยสร้างความกดดันเช่นเดียวกัน
- ตลาดหุ้นทางฝั่งยุโรปปรับตัวลดลงสวนทางกับ Yield ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากความกังวลเรื่องสเปนกลับมาในตลาดอีกครั้ง โดยพรรครัฐบาลของสเปนได้คะแนนน้อยลงมากส่งผลต่อความกังวลต่อสเปนในอนาคตทั้งเรื่องการเมืองและเศรษฐกิจ
- Moody’s ลดความน่าเชื่อถือของยูเครนลงอีกหลังจากภาคเอกชนต้องแบกรับต้นทุนของรัฐบาล
ปัจจัยที่ต้องติตตาม
19.30 USD
Core durable goods orders 0.3% 0.0%
Durable goods orders 0.3% 2.8%
24 มีนาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 24 มีนาคม 2558
24 มีนาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 24 มีนาคม 2558
แนวทางทองคำวันที่ 24-3-58
เเนวรับ 1185 1182 1175 เเนวต้าน 1192 1197 1202
ทองคำขยับขึ้นเล็กน้อยจากข่าวเรื่องเดิม เรื่องการขึ้นดอกเบี้ยช้ากว่ากำหนด ในวันนี้จะมีการประกาศตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ CPI ที่คาดว่าจะออกมาดีขึ้นและออกจากเงินฝืด ข่าวนี้เป็นได้ทั้งปัจจัยบวกและลบกับทองคำ กรณีแรก เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นจะทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงหดตัวลง และทองคำจะขึ้น ประเด็นที่สองคือ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นจะเข้าเงื่อนไขของ FED ที่จะขึ้นดอกเบี้ย ทั้งนี้โดยปกติแล้วข่าวนี้ไม่มีความผันผวนเท่าไรนัก แนวโน้มในวันนี้มองการปรับตัวลดลงลงมาเล็กน้อยท่ามกลางแนวโน้มขาขึ้น โดยมีจุดพักตัวบริเวณ 1185 และอาจลงมาได้มากสุดที่ 1182 จากนั้นจะมองการขึ้นต่อไปยังระดับ 1200 หากราคาหลุด 1182 ลงมาจะทำให้แนวโน้มขาขึ้นเสียเปรียบไป
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 442 ล้านบาท และหันกลับมา Short สุทธิในฟิวเจอร์ 1,187 สัญญา สถานะ Short สุทธิสะสมของต่างชาติยังคงไม่ลดลงเท่าไร คาดว่าตัวนี้จะเป็นปัจจัยลบกับตลาดหุ้นไทย มุมมอง SET ยังคงมองการปรับตัวลดลง โดยมีปัจจัยในประเทศที่ยังดูไม่ดีเท่าไรนักในส่วนประกอบของ GDP ที่ล้วนแล้วแต่หดตัวเ ค่าเงินบาทแข็งค่าลงมาทดสอบ 32.50 หลังจากการอ่อนค่าของเงินบาทจากข่าวลดดอกเบี้ยไม่ส่งผลกระทบในระยะยาว และได้รับแรงกดดันจากเงินดอลลาร์ที่อ่อน แนวรับ 32.50
ทางเลือกหลัก : มองราคาลงมาเล็กน้อยก่อนที่จะขึ้นต่อ โดยมีแนวรับแรก 1185 และ 1182 แนวรับสำคัญ
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1182 ลงมาจะทำให้มองว่า ทองคำเสียความได้เปรียบในแนวโน้มขาขึ้นไป
รายละเอียด
- ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอีกเล็กน้อยเมื่อวานนี้ ยังคงได้รับปัจจัยบวกจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเหมือนเดิม ซึ่งเป็นผลจากข่าวผลการประชุม FOMC ในวันพุธที่แล้ว นอกจากนี้ผลสำรวจของธนาคารระดับ ท๊อปใน Wall Street ต่างมองกันว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยต่ำไปอย่างน้อยจนถึงช่วงเดือนกันยายนในขณะที่รอบก่อนหน้านักวิเคราะห์ของธนาคารส่วนใหญ่ยังมองการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือน มิถุนายน
- ตัวเลขยอดขายบ้านมือสอง Existing home sales ออกมาที่ระดับ 4.88M จากเดือนก่อนหน้า 4.82M และคาดการณ์ 4.91 M ถึงแม้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่ก็เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์
- รองประธาน FED นาย Fisher ซึ่งพื้นฐานแล้วเป็นสายเหยี่ยว หรือ สายเน้นขึ้นดอกเบี้ย ไม่ชอบนโยบายผ่อนคลายทางการเงินได้ออกมาให้ความเห็นว่า อัตราดอกเบี้ยจะเริ่มขึ้นก่อนสิ้นปีนี้และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรอบต่อๆไปอาจจะไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ และ ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นนั้นส่วนตัวเค้าไม่ได้กังวลเท่าไร เพราะ การแข็งค่ามาจากการเติบโตของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ธนาคารกลางสหรัฐจะได้ประโยชน์จากการเข้าไปซื้อพันธบัตรของประเทศยุโรป
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่ก็ยังซื้อ-ขายกันอยู่ที่ระดับสูง (สูงกว่าแนวรับ ประมาณ $45 ต่อบาร์เรล) ท่ามกลางกระแสการคาดการณ์ของสต๊อกน้ำมันดิบที่คาดว่าจะออกมามากขึ้น
- ในวันนี้จะมีการประกาศตัวเลข CPI หรือ ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อในเดือนนี้คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น แต่เป็นการคาดการณ์การปรับตัวที่สูงขึ้นก็คาดว่าจะสูงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย และคาดว่าจะเป็นเดือนแรกที่ขยายตัวจากราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวและสูงขึ้นเล็กน้อย ข่าวนี้เป็นได้ทั้งบวกและลบกับทองคำ โดยปกติแล้วเงินเฟ้อที่มากขึ้นจะทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงติดลบ แต่ในรอบนี้ความกังวลของ FED ชี้ไปยังเงินเฟ้อเป็นหลักหากเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้นอาจจะทำให้กระแสการขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนด
- Ivory Coast ได้ดำเนินการปิดเหมืองทองกว่า 100 แห่ง ซึ่งเหมืองเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นเหมืองที่ดำเนินงานอย่างผิดกฎหมายในทางใดทางหนึ่ง เช่น มีการใช้ความรุนแรง การทำลายสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
- ดัชนี PMI ของจีนปรับตัวลดลงสู่ระดับ 49.2 จากเดือนก่อนหน้า 50.7 เป็นการปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
CPI 0.2% -0.7%
Core CPI 0.1% 0.2%
21.00 USD
New home sales 466K 481K
23 มีนาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 23 มีนาคม 2558
23 มีนาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 23 มีนาคม 2558
แนวทางทองคำวันที่ 23-3-58
เเนวรับ 1182 1178 1170 เเนวต้าน 1186 1192 1200
ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในวันศุกร์ ถึงแม้จะไม่มีข่าวตัวเลขเศรษฐกิจก็ตาม ซึ่งปัจจุบันยังได้รับปัจจัยบวกจากนโยบายที่ค่อนไปทางผ่อนคลายทางการเงินของ FED และผลกระทบนี้คาดว่าจะสนับสนุนในระยะกลางอีก วันนีมองการย่อพักตัวลงมาเล็กน้อย โดยมีแนวรับ 1182 (ตอนนี้แกว่งตัวไปมา) แต่คิดว่า จะยังคงรับไม่อยู่และลองไปหาจุดซื้อที่ดีบริเวณ 1175-1177 จนถึง 1180 บริเวณนั้น ซึ่งหากราคาไม่หลุดแถวนี้ มองว่าราคาจะยังคงทำ Uptrend อยู่ และเมื่อขึ้นก็จะมีแนวต้าน 1186 เป็นแนวต้านแรก โอกาสผ่านไปยัง 1190-1200 มีสูง ในทางกลับกันหากราคาปรับตัวลดลงหลุด 1175 จะมองว่าขาขึ้นเริ่มเสียความได้เปรียบ ราคาจะยังคงแกว่งตัวออกข้างถึงลดลงเล็กน้อย
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 390 ล้านบาท และกลับมา Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก 2,085 สัญญา หลังจาก Long สุทธิต่อเนื่องมา 6 วันทำการติดต่อกัน SET มองว่ายังคงแกว่งตัวอยู่แถวบริเวณนี้ไปอีกสักพักหนึ่งท่ามกลางแรงขายที่ชะลอตัวลงจากในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งได้รับปัจจัยบวกจากปัจจัยนอกประเทศอย่างการชะลอการลดดอกเบี้ย แต่ปัจจัยในประเทศนั้นยังพบว่า มีปัจจัยลบอยู่ค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นการส่งออก การย้ายฐานการผลิต ค่าเงินบาททิศทางแข็งค่าในวันนี้โดยมีแนวรับ 32.50
ทางเลือกหลัก : มองราคาพักตัวเล็กน้อยอยู่บริเวณ 1175-1182 ซึ่งแนวรับแรกคือ 1182 แต่คิดว่าราคาคงจะแกว่งลงมาเกินกว่านั้น โดยมีจุดทีน่าสนใจบริเวณ 1175 ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1186 และมองว่า หลังจากพักตัวราคาจะขึ้นต่อไปใกล้ๆ 1200
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1175 ลงมามองว่าขาขึ้นเริ่มเสียความได้เปรียบและมาดูทิศทางกันใหม่
รายละเอียด
- ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในสัปดาห์ก่อนหน้า จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงนับตั้งแต่วันพุธที่มีผลการประชุม FOMC โดยแนวโน้มออกมายังโทน Dovish หรือผ่อนคลายทางการเงิน ซึ่งปกติข่าวผลการประชุมนี้จะเป็นข่าวที่มีผลกระทบในระยะกลาง ในช่วงนี้หากไม่มีข่าวที่มีส่งผลกระทบอย่างรุนแรงก็ยังคาดว่าทองคำจะได้รับปัจจัยบวกจากตรงนี้ต่อไป ในขณะที่ทองคำฟื้นตัวขึ้นมา Sebtiment ของกองทุนอย่าง SPDR กลับลดสถานะลงอีก 0.72% สู่ระดับ 744.40 ตัน ในวันศุกร์ ส่วนกองทุน Hedge fund ปรับลดการถือครองสถานะ Bullish bet ในทองคำและซิลเวอร์ลงอีก ข้อมูลจาก CFCT เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
- ในวันศุกร์ที่ผ่านมาเป็นวันแรกที่ใช้ระบบใหม่ในการ Fix ราคาทองคำแทน London fixing ซึ่งจะเป็นการประมูลออนไลน์โดยจะเป็นการใส่ราคาเป็นแบบ Real-time ได้มี Goldman Sachs และ UBS เข้าร่วมการกำหนดราคาทองคำสิ้นวันด้วย
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเล็กน้อยในช่วงเช้าของวันนี้สวนทางกับการขึ้นของทองคำ มีประเด็นมาจาก นาย Ali al-Naimi ซึ่งเป็น Oil minister ของซาอุดิอาระเบีย ได้กล่าวไว้ว่า ทั่วโลกให้น้ำหนักกับ OPEC ในการกำหนดทิศทางราคาน้ำมันมากจนเกินไป ซึ่งการประชุมหลายครั้งก็ไม่ได้ผลสำเร็จเท่าไร เพราะ ประเทศนอกกลุ่ม OPEC (Non-OPEC) กล่าวหาว่า OPEC เป็นส่วนที่ทำให้ราคาน้ำมันลง แต่เมื่อมาดูกำลังการผลิตแล้วพบว่า OPEC มีสัดส่วนเพียง 30% อีก 70% เป็นกลุ่มประเทศนอก OPEC ส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า OPEC ก็จะยังคงไม่ลดกำลังการผลิตลง ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบกำลังสร้างฐานอยู่บริเวณนี้และแนวโน้มเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาเล็กน้อย
- ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเช่นเดียวกับพันธบัตรของอเมริกาก็ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน (Yield ลด) เนื่องจากนักลงทุนหันกลับมาซื้อพันธบัตรหลังจากแนวโน้มนโยบายทางการเงินของ FED เป็นไปในทิศทางผ่อนคลาย ส่วนตลาดหุ้นทางเอเชียปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป้นวันที่ 6 ติดต่อกัน และดัชนี Nikkei ยังคงทำระดับ New-high ในรอบ 15 ปี
- บิดาแห่งสิงคโปร์ผ ลี กวน ยู เสียชีวิตแล้วในวัย 91 ปี ในวันนี้ 23 มี.ค.58
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
21.00 EUR
ECB President speaks
USD
Existing home sales 4.91M 4.82M
20 มีนาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 20 มี.ค. 2558
20 มีนาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 20 มี.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 20-3-58
เเนวรับ 1166 1160 1157 เเนวต้าน 1177 1180 1192
ราคาทองคำในช่วงแรกปรับตัวลดลงเล็กน้อยและเกินกว่าระดับ 1166 ไปนิดหน่อย แต่ก็ยังมองว่าเป็นการพักตัวเท่านั้น จากนั้นได้มีแรงซื้อกลับเข้ามา ในวันนี้โอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบระดับแนวต้าน 1180-1190 หลังจากพักตัวลงมา โดยจะมีแนวต้านระยะสั้นอยู่บริเวณ 1177 ต้องให้ผ่านให้ได้ โอกาสผ่านได้มีสูง สำหรับฝั่งลง หากยังไม่หลุด 1153-1155 ลงมาก็ยังองว่ายังไม่ลง ต้องรอหลุดบริเวณนั้นลงมาเท่านั้น เมื่อมาดูปัจจัยพื้นฐานพบว่า พันธบัตร TIPs หรือพันธบัตรป้องกันเงินเฟ้ออายุ 10 ปีของอเมริกามีแรงซื้อเข้ามามาก ตัวนี้เป็นตัวบ่งบอกถึงทิศทาง Real interest rate ( ที่คิดจาก อัตราดอกเบี้ยปกติ- อัตราเงินเฟ้อ ) ที่มีแนวโน้มจะแคบลงจากเงินเฟ้อที่คาดการณ์ว่าจะเร่งตัวขึ้น
ตลาดหุ้นรีบาวน์ขึ้นไปในช่วงเปิดตลาดก่อนที่จะเจอแรงขายกดดันมาจนเหลือบวกเพียงเล็กน้อย ภาพรวมยังคงเป็นทิศทางในทางลบ หลังจากข่าวปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุนและปัจจัยในประเทศที่ค่อนข้างไปในทางลบพอสมควร มีเพียงปัจจัยบวกตัวเดียวคือ ต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในไทยปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นแล้วแค่นั้น ทางฝั่งกระแสเงินทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิและ Long สุทธิในฟิวเจอร์อยู่ ทิศทางค่าเงินบาทเริ่มแข็งค่าเล็กน้อยแต่ยังมองการแกว่งระดับอยู่แถวนี้ก่อน ซึ่งยังไม่มีทิศทางที่มีนัยสำคัญ
ทางเลือกหลัก : มองราคากลับขึ้นไปทดสอบระดับ 1180-1190 โดยมีแนวต้านระยะสั้นที่ 1177
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1153 ลงมามองว่าจะเริ่มลงอีกครั้ง ยังมองโอกาสเกิดทางฝั่งนี้น้อย
รายละเอียด
- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาที่ระดับ291K จากสัปดาห์ก่อนหน้า 290K และดาดการณ์ 295K ออกมาแย่ลงเล็กน้อยแต่แย่น้อยกว่าที่คาดการณ์ เป็นปัจจัยที่บวกกับทองคำเล็กน้อย ส่วนตัวเลข Current account หรือ ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลเพิ่มมากขึ้นจากเดือนก่อนหน้า แสดงให้เห็นถึงการนำเข้าที่มากกว่าการส่งออก ก็เป็นไปตามคาดการณ์เนื่องจาก ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทำให้สินค้าส่งออกของอเมริกาดูแพงขึ้นในตลาดโลก ส่งผลให้การส่งออกมักจะไม่ดีในภาวะที่ค่าเงินแข็งค่ามากๆ
- ดัชนี Philly FED ออกมาที่ระดับ 5 จุด จากเดือนก่อนหน้า 5.2 จุดและคาดการณ์ที่ 7 จุด เป็นปัจจัยบวกกับราคาทองคำ ทั้งนี้ดัชนี Philly FED ไม่ค่อยมีผลกระทบโดยตรงกับราคาทองคำเท่าไรนัก จึงไม่ได้เป้นข่าวที่มีนัยสำคัญเท่าไร เช่นเดียวกับ ดุลบัญชีเดินสะพัดที่ออกมาก่อนหน้า
- SPDR ยังคงถือครองสถานะทองคำเท่าเดิมหลังจากวันพุธมีการซื้อเข้าเป็นวันแรกนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนสถานะของกองทุน ETF นั้นค่อนข้างทรงตัวคือเริ่มเห็นแรงขายลดลงมาสักพักหนึ่งแล้ว
- วันนี้จะเป้นวันแรกที่จะยกเลิกระบบ London gold fixing ที่เป็นการตกลงกันทางโทรศัพท์ระหว่างธนาคารยักษ์ใหญ่ 4 แห่ง โดยมีจุดประสงค์เพื่อความโปร่งใสในการตัดราคา ระบบที่จะเปลี่ยนไปจะเป็นระบบประมูลที่เปิดโอกาสให้ธนาคารอื่นๆร่วมกำหนดราคาได้ รวมถึงจีนที่ต้องติดตามว่าจะเข้ามาร่วมกำหนดด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ระบบใหม่จะยังคงเป็นการตัดราคาคล้ายเดิม เพียงแต่จะมีส่วนร่วมของคนอื่นมากขึ้น
- พันธบัตรป้องกันเงินเฟ้อ (TIPs) อายุ 10 ปีของอเมริกาได้มีแรงซื้อเข้ามาในช่วงนี้ค่อนข้างเยอะ ล่าสุด Yield อยู่ที่ระดับ 0.2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2013 จากกระแสที่ว่า เฟดจะยังไม่รีบขึ้นดอกเบี้ยโดยจะเน้นไปที่อัตราเงินเฟ้อก่อน หมายความว่า การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดรอบนี้ชะลอไปเพราะเงินเฟ้อไม่ถึงเป้า ในอนาคตยังมีช่องว่างสำหรับเงินเฟ้อมากขึ้น นักลงทุนจึงหันเข้ามาซื้อ พันธบัตรป้องกันเงินเฟ้อหรือ TIPs มากขึ้น ข่าวนี้เป็นปัจจัยบวกกับทองคำค่อนข้างมาก เพราะ ปกติทองคำจะได้รับปัจจัยบวกเต็มๆจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (อัตราดอกเบี้ย-อัตราเงินเฟ้อ) ยิ่งห่างน้อยยิ่งดี
- สถานการณ์ในกรีซยังคงรอรับความช่วยเหลืออยู่ ยังไม่มีความคืบหน้าหลังการประชุมรอบที่ผ่านมา
19 มีนาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 19 มีนาคม 2558
19 มีนาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 19 มีนาคม 2558
เเนวรับ 1166 1160 1157 เเนวต้าน 1177 1180 1192
ผลการประชุม FOMC เมื่อวานนี้พบว่าเป็นบวกกับราคาทองคำ และทำให้ทองคำเกิดรูปแบบล้มเหลวของแพทเทริน์สามเหลี่ยม ที่ก่อนหน้านั้นลงไปและวกกลับขึ้นมา รวมถึงผ่านแนวต้าน 1160 ทำให้ภาพรวมกลับเป็นขาขึ้นในระยะสั้น โดยได้รับปัจจัยบวกจากทางด้านพื้นฐานส่งมาด้วยในเรื่องของการขึ้นดอกเบี้ยช้ากว่ากำหนด และ กองทุน SPDR ที่เริ่มเห็นแรงซื้อเข้ามาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ สำหรับระยะสั้นในวันนี้ มองการพักตัวลงมาก่อนเล็กน้อยถึงบริเวณ 1166 ซึ่งอาจจะพักน้อยกว่านั้น และมองว่า จะไปทดสอบ 1180 ได้อีกในระยะถัดไป ข่าวเรื่องการประชุม FOMC ค่อนข้างเป็นบวกกับทองคำเพียงแต่อาจจะไม่โดดเด่นเหมือนตลาดหุ้น
ต่างชาติกลับมาขายสุทธิหลักพันล้านบาท แต่ยัง Long สุทธิในฟิวเจอร์อยู่ ต่อเนื่อง ตลาดหุ้นเมื่อวานนี้หลังจากมองว่าไม่มีแรงก็ได้มีแรงเข้ามา และต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ ยังมองเป็นการรีบาวน์อยู่ และยังมีช่องว่างให้ขึ้น แต่ด้วยในภาพรวมที่ยังไม่เปลี่ยนแนวโน้มจึงยังมองว่าต้องใช้ความระมัดระวัง วันนี้ได้รับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นรอบโลกและ FED แน่นอนสำหรับตลาดหุ้นไทย ค่าเงินบาทแข็งค่ากลับลงมาเนื่องจากเงินดอลลารือ่อนค่าลง มีแนวรับบริเวณ 32.60-32.70 ภาพรวมยังอยู่ในแนวโน้มอ่อนค่า
ทางเลือกหลัก : มองราคาพักตัวเล็กน้อยก่อนที่จะขึ้นต่อไปยังระดับ 1180
ทางเลือกรอง : ราคาไม่ควรหลุดระดับ 1157 ลงมา ไม่งั้นจะมองเป็นรูปแบบที่ล้มเหลวอีกครั้ง แต่โอกาสเกิดในทางนี้มองว่าน้อย
รายละเอียด
- ผลการประชุม FOMC พบว่า คุณ เจเนต เยลเลน ได้ออกมาในโทนของการผ่อนคลายทางการเงินต่อ (Dovish tone) ให้เหตุผลที่ว่า ถึงแม้ตลาดแรงงานจะฟื้นตัวแล้ว แต่ยังกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่ไม่เข้าเป้าของเฟดที่ 2% จากราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวในระดับต่ำอยู่ และ Dot plot ที่บ่งบอกถึงความเห็นของคณะกรรมการเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยพบว่า ความน่าจะเป็นที่จะขึ้นดอกเบี้ยจะอยู่ในช่วงของเดือน ธันวาคม นอกจากนี้ได้ตัดคำว่า “Patience” หรือ อดทน ออก เป็นคำว่า “Conserdirable time” และได้ปรับเป้าการเติบโตของเศรษฐกิจอเมริกาลง รวมถึง คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ 0.625% จาก 1.125% ณ สิ้นปี 2558
- หลังจากผลการประชุม FOMC สินทรัพย์ทั่วโลกต่างได้รับประโยชน์ ตลาดพันธบัตรมีแรงซื้อเข้ามา ตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน ทุกตลาดล้วนปรับตัวขึ้นเกือบหมด สวนทางกับเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และ หลังจากช่วงนี้คาดว่า แต่ละตัวจะมีการเคลื่อนไหวที่แตกต่างกันไปแล้ว ตามข่าวแต่ละตลาดที่แตกต่างกันไป สินทรัพย์ที่ได้ประโยชน์ที่สุดน่าจะเป็นในกลุ่มของตลาดหุ้น โดยเฉพาะยุโรปที่เงินไหลเข้าไปค่อนข้างมาก และทองคำก็น่าจะได้รับประโยชน์จากตรงนี้เช่นเดียวกัน
- สต๊อกน้ำมันดิบของอเมริกาปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 80 ปี เพียงแต่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ระดับของแทงค์ที่ใช้เก็บสต๊อกอาจจะเต็มภายใน 3-4 เดือนข้างหน้า ท่ามกลางราคาน้ำมันดิบที่ลดลง และแท่นขุดเจาะที่เริ่มน้อยลง แต่กำลังการผลิตยังออกมาเพิ่มขึ้นจากการโยกไปขุดหลุมที่ให้ประสิทธิภาพสูงกว่า นอกจากนี้ประเด็นในเรื่องของการยกเลิกคว่ำบาตรอิหร่านจะทำให้อิหร่านกลับมามีกำลังการผลิตเต็มที่อีกครั้งหนึ่ง ข้อมูลจาก Bloomberg รายงานไว้ว่า ในช่วงปี 2011 อิหร่านผลิตได้ 3.6 ล้านบาร์เรล ขณะที่เดือนที่แล้วผลิตเพียง 2.8 ล้านบาร์เรล ทำให้มองว่า Supply ของน้ำมันดิบจะออกมามากขึ้นเรื่อยๆ แต่ความต้องการกลับลดลง รวมถึงจ
- IMF และ EU ได้ออกมากล่าวหากรีซว่าเป็นลูกหนี้ที่นิสัยไม่ดีตั้งแต่เคยเจอมาในรอบ 80 ปี เหตุการณ์นี้เกิดหลังจากกรีซไม่ยอมเปิดเผยแผนปฎิรูปให้แก่กลุ่มเจ้าหนี้ในยุโรปดูในวันก่อน ทั้งนี้ในช่วง 2 วันนี้จะมีผลการประชุม EU summit ต้องติดตามความคืบหน้าของกรีซด้วย
- SPDR เพิ่มสถานะการถือครองทองคำ 0.24% สู่ระดับ 749.77 ตัน นับเป็นการซื้อเข้าครั้งแรก
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
17.15 EUR
Targeted LTRO
ALL EUR
EU Summit day 1
19.30 USD
Unemployment claims 295K 289K
21.00 USD
Philly FED manufacturing index 7.2 5.2
18 มีนาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 18 มี.ค. 2558
18 มีนาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 18 มี.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 18-3-58
เเนวรับ 1145 1140 1130 เเนวต้าน 1152 1155 1160
ในวันนี้จะมีผลการประชุม FOMC เวลา ตี 1 ตามเวลาบ้านเรา ทิศทางเป็นไปในโทนของ Hawkish หรือลำเอียงทางขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนด ต้องไปติดตามกันช่วงนั้น ทั้งนี้ รูปแบบของกราฟเมื่อวานนี้หลุดกรอบสามเหลี่ยมลงมาด้านล่าง จากนั้นวันนี้พยายามกลับขึ้นไปยืนในกรอบใหม่ หากยืนได้และปรับตัวเกินกว่า 1160 ซึ่งเป็นกรอบบนขึ้นไป จะเปิดโอกาสทิศทางฝั่งขึ้นที่ค่อนข้างมีนัยสำคัญ จากรูปแบบล้มเหลวของแพทเทรินสามเหลี่ยมที่หลุดไปแล้วกลับลงมา ทั้งนี้โอกาสเกิดรูปแบบนี้มีสูงเท่านั้นแต่ไม่ได้เกิด 100% หากเห็นก็อุ่นใจเท่านั้น ต้องมาดูว่า ราคจะยืน 1152-1153 ซึ่งเป็นกรอบล่างได้หรือไม่หากยืนไม่ได้รูปแบบนี้ก็จะไม่เกิด และหากยืนได้ต้องหลุด 1160 ขึ้นไป
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1977 ล้านบาท และยังเปิดสถานะ Long สุทธิในฟิวเจอร์เป็นวันที่ 3 อีก 5147 สัญญา ทางฝั่งตลาดหุ้นนั้นได้เกิดสัญญาณการรีบาวน์ขึ้นแต่ยังดูว่าออกอาการอ่อนแออยู ยังขาดแท่งเทียนเขียวๆมายืนยัน หากยังไม่มีแรงก็มองการไหลลงไปเรื่อยๆของตลาดหุ้นไทย และในวันนี้จะมีผลการประชุม FOMC เกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยมองว่า ต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควร ค่าเงินบาทยังมองอ่อนค่าไปยังระดับ 33.10 แต่หากมีอะไรเปลี่ยนแปลงตี 1 ต้องมาดูแนวโน้มกันใหม่อีกรอบหนึ่ง
ทางเลือกหลัก : มองราคาพยายามกลับไปอยู่บนกรอบบนบริเวณ 1153 ฝั่งขึ้นต้องลุ้นให้ยืนได้ และต้องหลุด 1160 ไปให้ได้ หากยืนไม่ได้จะมองการปรับตัวลดลงต่ออีก
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ทองคำค่อนข้างผันผวนเมื่อวานนี้ท่ามกลางข่าวเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของอเมริกาที่จะมีผลการประชุมออกมาเวลา ตี 1 ตามเวลาบ้านเราวันนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า FED จะออกมาในโทนของ Hawkish หรือ นโยบายการเงินแบบตึงตัวมากขึ้น ถึงแม้ตัวเลขเศรษฐกิจกลุ่มต่างๆจะออกมาผสมกัน ไม่ว่าจะเป็น ตลาดแรงงานที่ฟื้นตัวขึ้น แต่ตลาดอสังหาริมทรัพย์กลับชะลอตัวลงไป จากตัวเลขข่าวเมื่อวานนี้อย่างยอดก่อสร้างบ้านใหม่ที่หดตัวลง นอกจากนี้ตลาดยังให้มุมมองการลดคำว่า อดทน ออกจากประโยค และเปิดทางให้กับการขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มิถุนายนนี้ โดยมีการสำรวจพบว่า 69% มองว่าเฟดอาจจะใช้คำใหม่เข้ามา ซึ่งก็ต้องไปติดตามกันให้ดีสำหรับการประชุม
- ต่อจากข่าวอันที่แล้ว มีนักวิเคราะห์ออกรายงานมาว่า ควรระมัดระวังเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าอย่างแรงและเร็วจนเกินไป จากช่วงปีที่แล้ว เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมา 25% มาซื้อ-ขายกันแตะระดับ 100 เมื่อวานนี้ ในสถิติค่าเงินที่ระดับ 100 นี้ยังอยู่ในช่วงของความผันผวน (SD) ที่ยังรับได้ซึ่งอยู่ในกรอบระหว่าง 90-100 ถือว่าเงินดอลลาร์ยังไม่ได้เกินมูลค่าจนเกินไป และถึงแม้โดยรวมแล้วเงินดอลลาร์จะยังแข็.ค่าต่อในอนาคต แต่ในระดับนี้ต้องใช้ความระมัดระวังจากการแข็งค่าจนเกินไป คาดว่าเงินดอลลาร์หลังจากแตะ 100 แล้ว จะพักแกว่งตัว (Consodilated) อยู่บริเวณนี้ ซึ่งสมมติฐานนี้ค่อนข้างขัดแย้งกับข่าวก่อนหน้าที่มองโทนขึ้นดอกเบี้ยเป็นหลัก
- สถานการณ์ในกรีซล่าสุดดูเหมือนจะเกิดความไม่พอใจขึ้นระหว่างกรีซและเจ้าหนี้ยูโร หลังจากกรีซไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลในเรื่องของการปฎิรูปให้แก่การประชุมทางไกลระหว่างเจ้าหนี้ในกลุ่มยูโร โดยชี้แจงว่า จะเปิดเผยในการประชุม EU summit ที่จะถึงในวันพฤหัสบดี ทำให้เจ้าหนี้ในกลุ่มยูโรมองว่ารกรีซไม่มีความจริงจังและจริงใจในการปฎิรูปเพื่อจะใช้เงินที่กู้ยืมมา
- น้ำมันปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ Low เดิมที่ประมาณ $43 ต่อบาร์เรล ไปซื้อ-ขายกันที่ระดับประมาณ $42 ต่อบาร์เรล จากการคาดการณ์ถึง Supply ที่ล้นตลาด และข่าวเรื่องการยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่านที่จะทำให้อิหร่านมีการส่งออกน้ำมันเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
- SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำลงอีก 0.4% สู่ระดับ 747.98 ตัน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
1.00 USD
FOMC statement
17 มีนาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 17 มี.ค. 2558
17 มีนาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 17 มี.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 17-3-58
เเนวรับ 1153 1150 1145 เเนวต้าน 1160 1166 1175
หลังจากเมื่อวานราคาผ่าน 1160 ไปได้ แต่ไปไม่ถึง 1166 และเกิดแรงขายลงมา ทำให้การขึ้นนั้นก็เสียความได้เปรียบไป และมองราคากลับลงมาเล่นในกรอบใหม่บริเวณ 1150-1160 บวกลบบริเวณเนวรับ แนวต้าน ปรระมาณ 3-5 เหรียญ ตลาดกำลังทำรูปแบบสามเหลี่ยมเลือกทางอยู่ ซึ่งมองว่า การอยู่ในกรอบนั้นจะไม่ได้มีทิศทางที่มีนัยสำคัญนัก ถ้าอยากเห็นแนวโน้มชัดควรจะรอให้ราคาหลุดออกมาในทางใดทางหนึ่งก่อน หรืออีกรูปแบบหนึ่งคือ ซื้อ-ขายตามกรอบแนวรับแนวต้านของสามเหลี่ยม ภาพรวมยังโดนกดดันจากทั้งปัจจัยพื้นฐานและทางกราฟเทคนิคที่ขาดแรงส่งเข้ามา คาดว่าตลาดกำลังติดตามผลการประชุม FOMC ที่จะถึงในวันพรุ่งนี้เวลาตี 1
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยเล็กน้อย 712 ล้านบาท และกลับมา Long สุทธิในฟิวเจอร์มากถึง 5301 สัญญา ตลาดปรับตัวลดลงค่อนข้างหนักเมื่อวานนี้ เมื่อเช้านี้เปิดตลาดมาได้รับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งหากตรงนี้ราคาไม่หลุดลงมาอีกมองว่าอาจจะเกิดรูปแบบ Double bottom ในระยะสั้นได้ เพียงแต่ยังขาดการยืนยัน และ เป็นการรีบาวน์เล็กๆอยู่เท่านั้นเอง ฝั่งของค่าเงินบาทหลังจากลงมาทดสอบแนวรับ 32.80 มองการอ่อนค่าไปยังระดับ 33.10 อีกรอบหนึ่ง
ทางเลือกหลัก : มองราคาแกว่งตัวในกรอบ 1150-1160 ซึ่งมองว่า แนวโน้มจะยังไม่ชัดจนกว่าจะหลุดตรงนี้ไป เนื่องจากราคากำลังทำรูปแบบเป็นสามเหลี่ยมเลือกทาง
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ทองคำได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ตลาดกำลังติดตามผลการประชุม FOMC ในวันพุธที่จะถึงนี้โดยคาดการณ์ว่าอาจจะมีลดคำว่า Patience ลงและเปิดทางให้ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายได้ในช่วงเดือน มิถุนายน ทั้งนี้ยังต้องติดตามการแถลงการณ์ของ นาง เจเน็ต เยลเลน ประธาน FED ว่าจะมีมุมมองต่อเศรษฐกิจอย่างไร ประเด็นที่ต้องติดตามคือ การจ้างงาน และ เงินเฟ้อ ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เช่นอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง อาจจะทำให้เกิดการชะลอการขึ้นดอกเบี้ย นอกจากนี้ตลาดทางฝั่ง Physical พบว่า มีการซื้อที่น้อยลงจากความต้องการ Safe haven หรือ สินทรัพย์ปลอดภัยที่น้อยลงในช่วงนี้
- กระแส Debt ceiling ของอเมริกากำลังจะกลับมาอีกครั้ง ทั้งที่เดิมหำหนดนั้นจะอยู่ช่วงหลังกลางปี ช่วงเดือน กันยายน-ตุลาคม แต่ช่วงนี้กลับได้เห็นคนนำข่าวนี้มาเล่นว่า จะถึงเพดานหนี้แล้ว อเมริกาจะทำยังไงต่อไป จะขยายเพดานขึ้นอีกหรือไม่ (สามารถทำได้อยู่แล้ว เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา)
- ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องร่วม 50% นับจากช่วงครึ่งหลังของปี 2014 จนถึงปัจจุบัน ทำให้ประเทศกลุ่มที่ส่งออกน้ำมันเป็นหลัก (Gulf oil exporting) อย่างเช่น ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรต คูเวต เป็นต้น ได้เกิดการขาดดุลบัญชีเป็นครั้งแรกคาดว่ากลุ่มประเทศส่งออกน้ำมันจะขาดดุลบัญชีทั้งหมด 7.7% เมื่อเทียบกับ GDP และหลายประเทศที่เคยเกินดุลระดับ 10% ก็กลับมาขาดดุลระดับ 10% เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ทั้งนี้เงินสำรองระหว่างประเทศที่มีปริมาณมาก ประกอบกับการตรึงค่าเงินไว้กับเงินดอลลาร์ ทำให้สถานการณ์ความกังวลในเรื่องนี้น้อยลง และคาดว่ากลุ่มประเทศเหล่านี้จะสามารถรอดพ้นจากช่วงน้ำมันดิบราคาที่ต่ำนี้ไปได้ มองอีกมุมหนึ่งคือ ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงนั้นกระทบกับประเทศที่ส่งออกน้ำมันดิบในปริมาณที่สูงอย่าง ซาอุดิอาระเบียค่อนข้างน้อย และเราอาจจะได้เห็นราคาน้ำมันดิบในระดับต่ำไปอีกสักพัก นอกจากนี้รายงานของ OPEC ยังปรับประมาณการณ์ความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคตจากราคาน้ำมันระดับต่ำจะกระตุ้นการบริโภค นำโดยจีนและประเทศกลุ่มตะวันออกกลาง
- ECB เปิดเผยการเข้าซื้อพันธบัตร 9.75 พันล้านยูโรเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยมีพันธบัตรเยอรมันเป็นหลัก ระยะเวลาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 9 ปี ขณะที่กรีซและ IMF เตรียมหารือร่วมกันอีกครั้งหนึ่งเกี่ยวกับการจ่ายเงินกู้
16 มีนาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 16 มี.ค. 2558
16 มีนาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 16 มี.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 16-3-58
เเนวรับ 1157 1150 1145 เเนวต้าน 1160 1166 1175
ราคาในวันศุกร์ไม่ได้ทำรูปแบบ Double bottom แต่ก็เป็นการแกว่งในกรอบแทน และได้ค่อยๆปรับตัวขึ้นมา ตอนนี้ราคาได้มาทดสอบแนวต้าน 1160 เรียบร้อยแล้ว หากสามารถผ่านไปได้ จะเกิดการ Break downtrend ในระยะสั้นออกมาได้ และโอกาสผ่านได้มีสูง ภาพวันปิดบวกเป็นวันแรกในรอบ 9 วันทำการ บ่งบอกให้เห็นถึงมีแรงซื้อเข้ามาบ้างแล้วถึงแม้จะไม่มาก ในวันนี้ก็ลุ้นการปรับตัวเกินกว่า 1160 หากปรับตัวเกินไปแล้ว ราคกลับลงมาต่ำกว่าระดับนี้ใหม่ หรือ ไม่สามารถปรับตัวเกินกว่า 1160 ได้ให้ระมัดระวังการลงอีกรอบหนึ่งที่จะมีแนวรับสำคัญอยู่บริเวณ 1147-1150 ที่หากหลุดแล้ว จะได้การเห็นลงอีกระลอก โอกาสทางฝัง่ขึ้นในวันนนี้ค่อนข้างมากกว่า
ต่างชาติซื้อสุทธิในคลาดหุ้นไทย 638 ล้านบาท และยัง Long สุทธิเป็นวันแรกเล็กน้อย 94 สัญญา ถึงแม้ไทยจะมีการลดดอกเบี้ยนโยบายแต่ด้วยตลาดหุ้นทั่วโลกที่ยังคงปรับฐานกันอยู่ ทำให้ SET ได้รับแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวรับที่สำคัญแถวบริเวณ 1520 จุดและในตอนนี้ยังไม่เห็นสัญญาณกลับตัวที่มีนัยสำคัญจึงมองว่า จะค่อยๆซึมไปเรื่อยๆไปอีกสักพักหนึ่ง และคงต้องติตดามทิศทางดอกเบี้ยของอเมริกาด้วย เงินบาทมองการแข็งค่าเล็กน้อยแนวรับ 32.80 ก่อนที่จะอ่อนค่าต่ออีก
ทางเลือกหลัก : มองว่า ราคาต้องหลุดแนวต้าน 1160 ให้ได้ถึงจะขึ้นต่อ หากยังไม่หลุดจะกลับลงมาด้านล่างใหม่อีกครั้งในช่วงนี้
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นตัววัดเงินเฟ้อในฝั่งของผู้ผลิตออกมาระดับ –0.5% ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า –0.8% ในขณะที่คาดการณ์ 0.2% ทางฝั่ง Core PPI หรือดัชนีราคาผู้ผลิตที่ไม่รวมหมวดอาหารและพลังงานหดตัวจากเดือนก่อนหน้าออกมาที่ระดับ –0.5% จากเดือนก่อนหน้า –0.1% แสดงให้เห็นถึงทิศทางเงินเฟ้อที่ยังคงปรับตัวลดต่ำลงถึงแม้จะฟื้นตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมาก็ตาม ข่าวนี้ไม่ได้มีน้ำหนักกับทองคำเท่าไรนัก แต่เป็นตัวบ่งบอกถึงสภาวะทางเศรษฐกิจทั่วๆไป และพบว่า อเมริกายังคงมีปัญหาเรื่องเงินเฟ้อต่ำอยู่
- ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Prelim consumer sentiment) ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 91.2 จากเดือนก่อนหน้า 95.4 และคาดการณ์ 95.6 ซึ่งเป็นปัจจัยบวกกับราคาทองคำจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่หดตัวลงค่อนข้างเยอะจากเดือนก่อนหน้า ส่วนการคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคพบว่าปรับตัวขึ้นเล็กน้อย
- SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำลง 0.04% สู่ระดับ 750.67 ตันในวันศุกร์ นับเป็นการถือสถานะที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม ส่วนกองทุน Hedge fund ปรับลดสถานะ Bullish ลงในทองคำและซิลเวอร์เป็นสัปดาห์ที่หกต่อเนื่องกัน ข้อมูลจาก CFCT เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
- CEO ของ Russia’s sovereign wealth fund ได้เปิดเผยถึงเรื่อง บริษัทจีนมีการเข้ามาลงทุนในรัสเซียมากขึ้น แสดงให้เห็นถึง จีนได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือรัสเซียหลังจากโดนตะวันตกคว่ำบาตร ข้อความนี้เปิดเผยในการประชุมที่อียิปต์ (EEDC) กับทางสำนักข่าว CNBC
- ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลดลงแรง ท่ามกลางข่าวตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาผสมกัน และ ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าจนเกินไปอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจรวมถึง ความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ที่จะมีการประชุมกันในวันอังคารและวันพุธนี้ (รู้ผลวันพุธ) หลายฝ่ายเริ่มมีการคาดการณ์เรื่องการขึ้นดอกเบี้ยมากขึ้นหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาค่อนข้างดี ทั้งนี้ ประธาน FED กล่าวไว้ระหว่างการประชุมครั้งก่อนว่า จะยังไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ครั้งของการประชุมนับจากเดือนกุมภาพันธ์
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงแรงไปสู่ระดับต่ำสุดอีกครั้งนับตั้งแต่ปี 2009 ไปซื้อ-ขายกันอยู่ที่ระดับ $43-44 ต่อบาร์เรลท่ามกลางเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นอย่างมาก