ประชาสัมพันธ์

แนวทางทองคำวันที่ 22-12-57

เเนวรับ 1190 1185 1180 เเนวต้าน 1200 1205 1215

ราคาทองคำปิดสัปดาห์ไปในทิศทางท้ายสัปดาห์ที่ค่อนข้างทรงตัว เพียงแต่การปิดนั้นเป็นรูปแบบแท่งเทียน Engulfing ฝั่งหมี ถึงแม้จะยังไม่ยืนยันแต่แนวโน้มเริ่มกลับมาเป็นลงได้เปรียบกว่า ทั้งนี้ในภาพสัปดาห์ยังคงเป็นการแกว่งไปแกว่งมาเช่นเดิม แต่น้ำหนักทางลงเริ่มมากขึ้น และเมื่อมาดูภาพวันก็เริ่มมีน้ำหนักทางฝั่งลงโผล่ออกมา จากการซื้อ-ขายกันที่ระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยและ MACD ที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ระยะสั้นมองว่าราคาจะรีบาวน์ขึ้นไปใกล้ 1205 อีกรอบหนึ่ง เพียงแต่ต้องใช้ความระมัดระวังการปรับตัวลดลงแล้ว กรณีปิดยืนเหนือ 1205 เท่านั้นจึงจะมองว่าทำให้ทิศทางฝั่งลงเริ่มชะลอตัวลง ตลาดอื่นก็ยังค่อนข้างทรงตัว และสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์คริสมาสต์

ต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบหลายวันทำการแต่ปริมาณค่อนข้างน้อยมากที่ระดับ 30 ล้านบาท และยังคง Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก 3000 ล้านบาท เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับกองทุนที่กลับมา Short สุทธิเป็นวันแรกหลังจากเปิด L มาอย่างต่อเนื่อง ทิศทาง SET ยังคงมองช่วงรีบาวน์ยังไปได้ต่อแต่เริ่มจำกัดแล้ว ทิศทางค่าเงินบาทนั้นยังคงแข็งค่าต่ออีก ถึงแม้ค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นก็ตาม เป็นไปเพราะ ทิศทางของเงินทุนต่างชาติเริ่มชะลอการออกจากไทยมากขึ้นหลังจากไหลออกช่วงที่ผ่านมา

ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นไปเล็กน้อยใกล้ระดับ 1200-1205 แต่ยังมองการขึ้นได้เสียความได้เปรียบไปและระมัดระวังการปรับตัวลดลงจากภาพสัปดาห์ที่ปิดคล้าย Engulfing รวมถึงภาพวันที่ส่งสัญญาณทางลงชัดเจนขึ้น

ทางเลือกรอง : ราคาที่ปิดเหนือ 1205 จะทำให้ล้างภาพลบออกไปได้พอสมควร

รายละเอียด

- รัสเซียได้เพิ่มสำรองทองคำเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน ซื้อเข้าจำนวน 0.6 ล้านออนซ์ จากเดิมที่ระดับ 37.6 ล้านออนซ์ไปสู่ 38.2 ล้านออนซ์ ส่วนเงินสำรองระหว่างประเทศปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากการแทรกแซงค่าเงินรูเบิลในช่วงที่ผ่านมา หลายฝ่ายก็จับตามองกันว่า ประธานธิบดีปูตินจะทำอย่างไร และจะมีทีท่าอย่างไร ทางเลือกที่มีก็มีไม่มากนัก ไม่ว่าจะเป็น การเจรจาหรือการออกจากชายแดนยูเครน การลดปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติไปยังยุโรป หรือก่อสงครามให้น้ำมันดิบปรับตัวขึ้น หรือทำสงครามผ่านระบบอินเตอร์เน็ตหรือ Cyber war ซึ่งรัสเซียมีความถนัดในเรื่องนี้พอสมควร ทั้งนี้ในปัจจุบันยังไม่มีแนวโน้มจะเกิดอย่างใดอย่างหนึ่ง สถานการณ์เริ่มดูดีขึ้นนับจากช่วงสัปดาห์ก่อน ค่าเงินรูเบิลแข็งค่าขึ้นไปสู่ระดับ 58 รูเบิล และราคาน้ำมันดิบที่เริ่มรีบาวน์กลับขึ้นมาสู่ระดับ $57 ต่อบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ซื้อ-ขายกันเพียงระดับ $53 ต่อบาร์เรล หรือคิดเป็นการปรับตัวขึ้นประมาณ 7% 

- ในสัปดาห์นี้คาดการณ์กันว่า ตลาดทองคำน่าจะเงียบลงเพราะ เข้าใกล้เทศกาลคริสมาต์แล้ว ทำให้ตลาดต่างประเทศเริ่มทยอยหยุดกัน จากสัปดาห์ก่อนหน้าราคาทองคำได้รับปัจจัยลบ จากตลาดหุ้นที่เริ่มรีบาวน์ในช่วงท้ายสัปดาห์ ถึงแม้ FED จะยังชะลอการขึ้นดอกเบี้ยไป แต่ตลาดเลือกที่จะตีความว่า ยังไงก็ขึ้นแน่ ค่าเงินดอลลาร์เลยแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง สัปดาห์ที่ผ่านมาจึงทำให้ทองคำปรับตัวลดลงเท่ากับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ขึ้นมา โดยปกติแล้วเป็นสัญญาณที่ไม่ดี เตือนให้ระมัดระวังการปรับตัวลดลง ในฝั่งของกองทุน Hedge fund ได้ปรับลดสถานะ Long ในฟิวเจอร์และออพชันลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา ข้อมูลจาก CFCT เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

- กองทุน SPDR เพิ่มสถานะการถือครองทองคำอีก 0.41% สู่ระดับ 724.55 ตัน

- ผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น BOJ เมื่อวันศุกร์ ยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนนโยบายเป้าหมายแต่อย่างใด ยังคงเป้าหมายการเพิ่มฐานเงินที่ระดับ 80 ล้านล้านเยนต่อปี และมุมมองของเศรษฐกิจของ BOJ นั้นค่อนข้างออกมาดี มองว่า การฟื้นตัวต่อจากนี้ไปจะดีขึ้นเรื่อยๆและ เศรษฐกิจได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปเรียบร้อยแล้ว

- กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันนอกโอเปคถูกเรียกร้องให้ลดกำลังการผลิต เพราะ กำลังการผลิตของโอเปคนั้นค่อนข้างคงที่มาตลอด หากเข้าสู่สมดุล จะทำให้ราคาน้ำมันกลับมาเป็นปกติได้

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

21.00 USD 

Existing home sales 5.21M 5.26M

แนวทางทองคำวันที่ 19-12-57

เเนวรับ 1190 1185 1180 เเนวต้าน 1200 1205 1215

ราคาปิดเมื่อวานนี้ปิดไม่ถึง 1205 ก็ยังคงมุมมองในทางลบเพิ่มขึ้น เพียงแต่การปิดของแท่งนั้นเป็นแท่งเขียวค่อนข้างมาก เลยยังคิดว่าพอยื้อได้ ระยะสั้นมองปรับตัวขึ้นไประดับ 1205 อีกรอบหนึ่ง หากรอบนี้ผ่านไม่ได้แนวโน้มจะลงมาที่กรอบล่าง 1190 ดังนั้นกลยุทธ์ในวันนี้จะเป็นการ ซื้อ-ขายในกรอบก่อน หรือจะรอ Breakout ออกมาในทางใดทางหนึ่งก็ได้ ภาพรวมยังส่งสัญญาณ Sideways ในวงกว้างทั้งภาพสัปดาห์และภาพวัน แต่ยังให้น้ำหนักทางฝั่งลงมากกว่าอยู่จากการปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย ราคาต้องกลับไปยืน 1205 ให้ได้ในวันนี้หลังจากขึ้นไปทดสอบเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าใกล้ระดับจุดสูงสุดเดิม ส่วนตลาดหุ้นรีบาวน์อย่างแข็งแกร่งเป็นปัจจัยลบต่อทองคำ

ต่างชาติชะลอการขายลงเหลือเพียงขายสุทธิระดับ 1198 ล้านบาท และ Long สุทธิเป็นวันแรก 5239 สัญญา เมื่อวานนี้พี่กองสามารถลากฝรั่งขึ้นมาได้อย่างสวยงาม ปีนี้เวลาสวนทางกัน กองทุนในประเทศมักจะเป็นฝ่าย Lead ตลาดเสมอทั้งฝั่งลงและขึ้น SET มองว่า รีบาวน์ขึ้นมาใกล้ GAP ที่เปิดไว้แล้วที่ 1520 หากยังขึ้นต่อซึ่งแนวโน้มยังขึ้นต่อ น่าจะมีช่องอีก 20 จุด แต่ต้องใช้ความระมัดระวังแล้ว กลุ่มพลังงานช่วงนี้ยังคงดึงดัชนีได้ ค่าเงินบาททิศทางเริ่มแข็งค่ายืนยันชัดเจนหลังจากไม่ผ่าน 33.00 แนวรับใหญ่ 32.70

ทางเลือกหลัก : กรอบแนวต้านแนวรับช่วงนี้เหมือนเดิมทุกวัน ราคายังคงแกว่งตัวในกรอบแคบๆ เมื่อวานนี้ปิดไม่สวย แต่ก็ไม่แย่ จึงมองให้โอกาสไป 1205 อีกครั้งหนึ่ง เป็นการซื้อ-ขายในกรอบ แต่ยังให้น้ำหนักในฝั่งลงมากกว่าจากปัจจัยภายนอก

ทางเลือกรอง : ราคายืน 1205 ได้นั้นจะทำให้มุมมองดีขึ้น

- สถานการณ์ในรัสเซียล่าสุด ประธานาธิบดี ปูติน ได้ออกมาแถลงเพื่อเรียกความมั่นใจให้กับคนในรัสเซีย โดยกล่าวว่า สถานการณ์ไม่ปกติของรัสเซียในตอนนี้มีสาเหตุมาจากปัจจัยภายนอกประเทศ และ คาดว่าต่อไปเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นหากฟื้นตัวจะปรับเปลี่ยนโครงสร้างของเศรษฐกิจบางส่วนที่พึ่งพาราคาน้ำมันมากจนเกินไป และช่วงนี้ต้องหาทางรับมือกับราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ พร้อมทั้งยังกล่าวว่ายังไม่มีมาตรการควบคุมการไหลเข้า-ออกของเงินทุน อีกฝั่งหนึ่ง ประธานาธิบดี โอบามา ลงนามคว่ำบาตรรัสเซีย ทั้งนี้การลงนามครั้งนี้ไม่ได้มีการคว่ำบาตรเพิ่มเติมแต่อย่างใด เพียงแต่มีสิทธิ์ในการควบคุมการเข้าไปลงทุนของบริษัทน้ำมันในรัสเซียและหากอยากจะเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรนั้น ต้องลงนามพร้อมกันกับ EU

- German Ifo climate เพิ่มขึ่นสู่ระดับ 105.5 จากเดิม 104.7 แสดงให้เห็นถึงทิศทางของเศรษฐกิจเยอรมันฟื้นตัวขึ้น ความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน

- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 289K จากสัปดาห์ก่อนหน้า 295K และคาดการณ์ 297K ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์นี้ยังอยู่ในแนวโน้มที่ดีปรับตัวลดลงเรื่อยๆนับจากต้นปี ช่วงสัปดาห์หลังจะเห็นว่า คนขอรับสวัสดิการอยู่ต่ำกว่าระดับ 300K มาตลอด

- Philly FED Manufacturing index ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 24.5 จากเดือนก่อน 40.8 และคาดการณ์ 26.3 ปรับตัวลดลงแรงจากเดือนก่อนหน้าจากคำสั่งซื้อใหม่ที่ลดลง ทั้งนี้ตัวเลขข่าวนี้ไม่ได้มีนัยสำคัญต่อราคาทองคำมากเท่าไรนัก เพราะ เป็นเพียงภาคการผลิตของรัฐหนึ่งเท่านั้น

- การซื้อ-ขายทองคำแท่งที่อินเดีย ล่าสุด Discount อยู่ที่ระดับ $2 แสดงให้เห็นถึง Supply ของทองคำที่เริ่มมากในอินเดีย มี Discount ครั้งแรกในรอบ 5 เดือน (หากคนต้องการซื้อเยอะจะเป็นค่า Premium) ข่าวนี้แสดงให้เห็นถึง แรงซื้อ Physical ในตลาดอินเดียเริ่มเบาบางลง และช่วงที่เหลือของปีนี้น่าติดตามเนื่องจากปีก่อนหน้าราคาทองคำก็เริ่มตกในเดือน ธันวาคมเช่นกัน

- ธนาคารกลางสวิส (RBS) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากติดลบ –0.25% หลังจากค่าเงินสวิสแข็งค่าไปใกล้จะสุดกรอบ 1.20 สวิสฟรังต่อยูโร ซึ่งเป็นเพดานของช่วงค่าเงินสวิสที่ธนาคารกลางกำหนดไว้

แนวทางทองคำวันที่ 18-12-57

เเนวรับ 1190 1185 1180 เเนวต้าน 1200 1205 1215

ราคาทองคำผันผวนตลาดทั้งเมื่อคืน ถึงแม้จะมีข่าวบวกออกมาอย่าง FED ยังไม่ส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยโดยเปลี่ยนทิศทางจาก Considerable time เป็น Patient เพื่อความยืดหยุ่นในการดำเนินนโยบายรายละเอียดในส่วนนี้มีค่อนข้างมากติดตามได้ในส่วนของรายละเอียด ทิศทางวันนี้หลังจากข่าวที่คาดว่าจะบวกเมื่อวาน กลับทำให้ทองคำมีแรงขึ้นได้แค่ 1200 ในวันนี้มองว่า อยากให้โอกาสรีบาวน์อีกรอบหากไม่สามารถยืน 1205 ได้จะสัญญาณในทางลบจะเริ่มชัดขึ้น และ จะมองทางฝั่งลงมีน้ำหนักขึ้นมาทันที จากภาพวันที่ราคาเริ่มหลุดเส้นค่าเฉลี่ยและเส้นค่าเฉลี่ยเริ่มตัดลงแล้ว ติดตามในวันนี้ สถิติปีที่แล้ว ทองคำปรับตัวลดลงในช่วงเดือน ธันวาคมเช่นกัน

ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยต่ออีกเป็นวันที่ 6 มูลค่า 5830 ล้านบาท และ Short สุทธิเพิ่มเล็กน้อย 1,003 สัญญา ช่วงนี้จะเห็นกองทุนกับต่างชาติแลกหมัดกันอย่างดุเดือดกองทุน L ไว้เยอะมากส่วนต่างชาติก็ S ไว้เยอะ เราคงต้องมาดูคู่นี้ว่าทำอะไรกัน แต่สถิติปีนี้ส่วนใหญ่พี่กองเรามักจะชนะมากกว่า SET ยังคงอยู่ในแนวโน้มรีบาวน์เป้าหมายปิด GAP ที่ 1520 คิดว่าน่าจะได้รับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปิดเขียว และ ราคาน้ำมันดิบที่เริ่มสร้างฐานได้ ทิศทางค่าเงินบาทยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบ 

ทางเลือกหลัก : มองว่าราคามีโอกาสทดสอบ 1200-1205 อีกครั้ง หากวันนี้ไม่สามารถยืนได้ จะเป็นสัญญาณเตือนให้ระมัดระวังการลงรอบที่ 2 ซึ่งโอกาสสูงที่ราคาจะเริ่มลงต่อ และเป้า 1240 อาจจะมาไม่ถึง

ทางเลือกรอง : หากขึ้นไปยืน 1205 ได้ จะทำให้ภาพรวมดูดีขึ้นและยังคงเป้า 1240 ไว้ที่เดิม

รายละเอียด

- ตัวเลข CPI ออกมาเมื่อวานนี้ปรับตัวลดลง –0.3% มากกว่าที่คาดการณ์ –0.1% และจากเดือนก่อนหน้า 0.0% แสดงให้เห็นถึงทิศทางเงินเฟ้อของอเมริกาที่ปรับตัวลดลงเนื่องจากราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวลดลงแรง ทั้งนี้ที่ประชุม FOMC เมื่อวานนี้มองอัตราเงินเฟ้อจะถึงเป้าหมายที่ 2% ในอีก 2 ปี (2016) 

- ผลการประชุม FOMC เมื่อวานนี้พบว่า FED ได้แสดงถึงความยืดหยุ่นของระยะเวลาในการขึ้นดอกเบี้ยมากขึ้น โดยเปลี่ยนคำที่ใช้จาก Considerable time เป็น Patient ตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์กัน ซึ่งตีความได้ว่า จากช่วงระยะเวลาหนึ่ง กลายเป็น อดทนกับช่วงเวลาดอกเบี้ยต่ำ ถึงแม้คำพูดจะไม่ต่างกันมากนัก แต่ตีความได้ประมาณว่า มีความยืดหยุ่นมากกว่าในการใช้คำว่าอดทน พร้อมทั้งกล่าวว่า ที่ประชุม FOMC จะยังไม่ตัดสินใจปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินในอีก 2 ครั้ง หมายความว่า ตลาดก็จะลดการคาดการณ์ผลการประชุม FOMC ใน 2 เดือนข้างหน้าได้ในระดับหนึ่ง เน้นว่า การปรับเปลี่ยนนโยบายจะขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ซึ่งมองไว้ว่า ตลาดการจ้างงานยังฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป และฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องดีกว่าการประชุมรอบที่แล้ว ส่วนประเด็นของรัสเซียพบว่า ที่ประชุมไม่ได้มองว่ามีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจอเมริกา จะกระทบก็เป็นเพียงการค้าเท่านั้น ระบบการเงินจะกระทบเพียงบางส่วน

- สถานการณ์รัสเซียเมื่อวานนี้ดูดีขึ้นหลังจาก ธนาคารกลางรัสเซียประกาศแทรกแซงการอ่อนค่าของเงินรูเบิล จะใช้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ และข่าวว่า อาจจะนำทองคำสำรองออกขาย (ตามความเห็นส่วนตัวมองว่า ทองคำที่สำรอง 10% นั้นน่าจะยังไม่ถูกขายรวดเดียว และตอนนี้ก็ยังไม่มีแผน แต่หากแทรกแซงจนเงินสำรองหมดไปเรื่อยๆ เริ่มจะน่ากลัวที่จะต้องขายทองคำออกมา ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบรีบาวน์ขึ้นมาแล้ว และค่าเงินรูเบิลก็ได้เริ่มแข็งค่ามาอีกครั้ง ตลาดจึงเริ่มคลายความกังวลระดับหนึ่ง) หลังจากข่าวประกาศตลาดหุ้นรัสเซียได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นระดับ 10% เมื่อคืนที่ผ่านมา

- ตัวเลขราคาบ้านในจีนปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน นำไปสู่การคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีนจะดำเนินนโยบายเพิ่มเติมหรือไม่

- ภาพกราฟรายวันของทองคำเริ่มส่งสัญญาณเตือนให้ระมัดระวังการปรับตัวลดลงหากปิดต่ำกว่า 1200

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

20.30 USD

Unemployment claims 297K 294K

22.00 USD 

Philly FED 26.3 40.8

แนวทางทองคำวันที่ 17-12-57

เเนวรับ 1190 1185 1180 เเนวต้าน 1200 1205 1215

เมื่อวานเกิด False break ที่แนวต้านขนาดใหญ่ ขึ้นผ่าน 1216 ไปแล้ว แต่ไม่มีแรง ราคาวกกลับมาหลุด 1200 และลงไปถึง 1187 ซึ่งระดับโซน 1187-1190 นั้นยังมองว่าเป็นโซนแนวรับและ ราคาที่ยังยืนอยู่บนนี้ได้ ก็ยังมองว่ามีโอกาสขึ้นต่อ เพราะ โดยปกติหากราคาเจอ False break และเกิดแท่งเทียนแบบนี้มักจะปรับตัวลดลงต่อไปเลย แต่รอบนี้กลับไม่ได้ลดลงมากนัก และยังมีแรงซื้อ จึงมองว่า ระดับราคานี้ราคาอาจจะกลับตัวได้ และไปทดสอบ 1240-1250 ในภาพรวม เพียงแต่หากหลุด 1185 ลงมานั้นจะทำให้แนวโน้มเริ่มกลายเป็นลบทันที ในวันนี้จะมีผลการประชุม FOMC ช่วงตี 2 ตามเวลาบ้านเรา ต้องมาดูว่ามีสัญญาณอะไรออกมาบ้างหรือเปล่า 

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงต่ออีก หลังจากเปิดตลาดมาปรับตัวลดลงไปร่วม 50 จุด ในช่วงวันนี้มองว่า อาจจะมีการรีบาวน์เล็กน้อย หรือ อาจจะปรับตัวลดลงต่ออีกแล้วรีบาวน์ในทางใดทางหนึ่ง ต่างชาติขายสุทธิ 8,375 ล้านบาท และ Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก 14,124 สัญญา นับว่าเป็นการล้าง Long มาในวันก่อนจนหมดและเปิด Short เพิ่มอีกด้วย ทิศทางค่าเงินบาทพบว่า ยังอยู่ในแนวโน้มของการอ่อนค่า ต่างชาติยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย เพียงแต่ขายสุทธิแล้วยังไม่ได้ไปเลย หากเงินออกค่าเงินจะอ่อนอีก

ทางเลือกหลัก : มองราคาที่เหนือแนวรับ 1185-1190 จะมีโอกาสขึ้นต่อได้ หากไม่หลุดลงมาราคายังอยู่ใน Uptrend ในภาพวันที่ยังพอจะมีช่องว่างให้ราคาปรับตัวขึ้นอยู่

ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1190 ลงมาจะทำให้แนวโน้มขึ้นเริ่มหมดความได้เปรียบ

รายละเอียด

- เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นรัสเซียปรับตัวลดลงต่อเนื่องอีก 12% หลังจากในคืนก่อนประกาศขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจากระดับ 10.5% ไปเป็น 17% ใน 1 คืน เพื่อเป็นการปกป้องเงินรูเบิลที่อ่อนค่าลงแตะระดับ 70 รูเบิลต่อดอลลาร์ หลังจากประกาศขึ้นดอกเบี้ยเงินรูเบิลได้ตกลงมาซื้อ-ขายกันอยู่ในโซน 60 แต่ช่วงกลางคืนตามเวลาบ้านเราเงินรูเบิลได้กลับไปอ่อนค่าแตะระดับ 80 อีกครั้ง ท่ามกลางความกังวลในเรื่องของ Capital control ที่จะจำกัดการนำเงินออกนอกประเทศจึงมีคนขายรูเบิลทิ้งอีกมากและหันไปถือเงินดอลลาร์ ตามข่าวที่เจอนั้น การขายเป็นลักษณะแบบ No bid หรือไม่มีคนอยากซื้อ ค่าเงินจึงกระโดดไปมาเมื่อวานค่อนข้างแรงก่อนที่ในช่วงดึก ธนาคารกลางรัสเซียจะมาประกาศว่า ยังคงไม่มีมาตรการนี้ ทำให้สถานการณ์เงินรูเบิลดูดีขึ้น แต่ตลาดหุ้นก็ยังคงตกลงต่อไป และราคาน้ำมันดิบที่รีบาวน์เมื่อวานนี้ก็กลับปรับตัวลดลงอีก น้ำมันดิบ brent ลดลงเกินกว่าระดับ $60 ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกนับจากปี 2009 หรือราคาน้ำมันอยู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีครึ่ง

- ตัวเลข ZEW ของยูโรโซนและเยอรมันปรับตัวดีขึ้นเมื่อวานนี้ ดีขึ้นจากคาดการณ์และเดือนก่อนหน้า ส่วนยอดขอสร้างบ้านใหม่ และ ยอดอนุญาติก่อสร้างปรับตัวลดลงเกือบทั้งหมด ส่วนตัวเลข PMI ภาคการผลิตของอเมริกาปรับตัวลดลงสู่ระดับ 53.7 จากเดือนก่อนหน้า 54.8 ข่าวกลุ่มนี้ค่อนข้างเป็นบวกกับทองคำ แต่เนื่องจากเมื่อวานมีปัญหาเกี่ยวกับรัสเซียค่อนข้างมาก จนหลายฝ่ายกังวลว่า ธนาคารกลางรัสเซียอาจจะขายทองคำที่สำรองไว้ก็เลยมีแรงขายออกมาในตลาด 

- ในวันนี้จะมีผลการประชุม FOMC ตลาดก็ยังจับตามองในเรื่องของการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงกลางปี 2015 นัน้ว่าจะมีสัญญาณอะไรเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ หากมีการส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยจริงอาจจะทำให้รัสเซียอาการหนักเข้าไปอีก และจากแนวโน้มเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงอยู่นั้น จึงมองโอกาสที่จะขึ้นดอกเบี้ยก่อนกำหนดค่อนข้างน้อย ทั้งนี้หากมีสัญญาณไปในโทน Hawkish ต้องระมัดระวังการปรับตัวลดลงของทองคำ

- SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำลงอีก 1.8 ตัน คงเหลือการถือครองทองคำที่ระดับ 721.56 ตัน

- การส่งออกของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 4.9% น้อยกว่าคาดการณ์ 7% และเดือนก่อนหน้า 9.6% ซึ่งถึงแม้ค่าเงินเยนจะอ่อนมาค่อนข้างมาก แต่การส่งออกของญี่ปุ่นกลับไม่ดีขึ้นเท่าไรนักในช่วงนี้

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

20.30 USD 

CPI -0.1% 0.0%
Core CPI 0.1% 0.2%

2.00 USD

FOMC Statement

แนวทางทองคำวันที่ 16-12-57

เเนวรับ 1190 1185 1800 เเนวต้าน 1200 1205 1215

ราคาทองคำปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้ ระหว่างทางค่อนข้างผันผวนพอสมควร เป็นสัญญาณเตือนแรกให้ระมัดระวังถึงแม้จะยังไม่ลงเลยก็ตาม โดยมีแนวรับอีกจุดหนึ่งที่ระดับ 1190 มุมมองตอนนี้ให้ใช้ความระมัดระวังมากขึ้นสำหรับฝั่ง L หรือฝั่งซื้อ เนื่องจากราคาระดับ 1197 นั้นหลุดเส้นแนวรับลงมาทั้งสองเส้นที่เคยผ่านออกไปได้ จึงมองว่าเริ่มไม่สวย ในระยะสั้นมองว่า ราคาอาจจะขึ้นไปทดสอบระดับ 1200 ใหม่อีกครั้งหนึ่ง หากยืนได้ก็สามารถ Follow buy ได้ แต่หากขึ้นไปทดสอบแล้วยืนไม่ได้นั้นคงได้เห็นการยืนยันการปรับตัวลดลงอีกครั้งหนึ่งไปยังระดับ 1180 ตามลำดับ ข่าวบวกช่วงนี้ยังไม่เห็นเท่าไร มีเพียงกองทุนต่างๆที่เพิ่มสถานะ Bullish สู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน

ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าจดจำเป็นหนึ่งในวันประวัติศาสตร์ ระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขาย ดัชนีปรับตัวลดลงร่วมระดับ 138 จุด (-9%) และอีกนิดเดียวจะเกิดเซอร์กิจเบรกเกอร์จากนั้นก็ได้มีแรงรีบาวน์ขึ้นมาแรงร่วม 100 จุดเช่นเดียวกัน โดยมีทั้งปัจจัยจากต่างประเทศ และ ข่าวลือต่างๆ วันนี้คาดว่า จะมีรีบาวน์ขึ้นบ้าง แต่โดยรวมแล้วยังอยู่ในแนวโน้มขาลง ค่าเงินบาทอ่อนค่ามาเล็กน้อยแตะระดับ 33.00 ยังไม่สามารถผ่านไปได้ ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยหลัก 4 พันล้าน แต่กลับมา Long ฟิวเจอร์

ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นไปทดสอบระดับใกล่ 1200 อีกรอบหนึ่ง หากยืนได้ก็มองว่าสามารถ Follow buy ได้ แต่หากกรณียืนไม่ได้นั้นจะทำให้ราคายืนยันการปรับตัวลดลงไปยังระดับ 1180 

ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1190 ลงมาเลยก็จะมองว่า ราคาจะเริ่มลงอีกครั้งทันที

รายละเอียด

- ประเด็นสำคัญเมื่อวานนี้ช่วงกลางดึกคือ ธนาคารกลางรัสเซียขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 17% จากเดิม 10.5% ถือว่าเป็นการขึ้นต่อครั้งที่ค่อนข้างมาก โดยมีสาเหตุหลักมาจาก การอ่อนค่าของเงินรูเบิลที่แตะระดับ 60 รูเบิลต่อดอลลาร์สหรัฐ เนื่องมาจาก การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงกว่า 50% ในช่วงที่ผ่านมา และมาตรการคว่ำบาตรจากยุโรปและอเมริกาในสถานการณ์ความไม่สงบระหว่างยูเครนและรัสเซีย ทำให้เงินรูเบิลอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ธนาคารกลางจึงต้องรีบขึ้นดอกเบี้ยเพื่อไม่ให้เงินอ่อนค่าลงไปมากกว่านี้ และได้มีนักวิเคราะห์ต่างๆในต่างประเทศวิเคราะห์กันว่า การขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้เศรษฐกิจที่เปราะบางอยู่แล้วเปราะบางไปอีก เพราะ ต้นทุนทางการเงินจะสูงขึ้นท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ตอนนี้ดูเหมือนรัสเซียจะมีปัญหาหนัก และคาดว่า GDP จะออกมาติดลบถึง -4% และล่าสุดตลาดหุ้นรัสเซียปิดตลาดไปที่ระดับ –9% เหมือนกับ SET 138 จุดบ้านเราเมื่อวาน เพียงแต่รัสเซียไม่มีรีบาวน์ สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความ Panic ของธนาคารกลางรัสเซียในการรับมือกับวิกฤติครั้งนี้

- ดัชนี Empire state manufacturing index ออกมาหดตัว –3.58 จุด จากเดือนก่อนหน้า 10.6 จุดและคาดการณ์ 12 จุด ส่วนผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิตออกมาปรับตัวดีขึ้นทั้งหมด ข่าวกลุ่มนี้ค่อนข้างเป็นกลางกับทองคำมีทั้งบวกและลบผสมกัน

- สหรัฐอาหรับเอมิเรตออกมายืนยันว่า จะยังไม่ลดกำลังการผลิตลง แม้ราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวลดลงแตะระดับ 40 เหรียญต่อบาร์เรล และพร้อมที่จะจับตาดูสถานการณ์และดูกลไกตลาดที่จะปรับตัวเข้าสู่จุดสมดุล

- ผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการเม่าอวันอาทติย์ที่ผ่านมาพบว่า นาย อาเบะ ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัยหนึ่ง และจะมีผลไปจนถึงปี 2018

- สถานการณ์การจับตัวประกันกลางเมือง ซิดนีย์ ล่าสุดตัวประกันทั้งหมดปลอดภัย ตำรวจสามารถบุกเข้าไปในคาเฟ่และสามารถช่วยตัวประกันได้

- PMI ภาคการผลิตของจีนปรับตัวลดลงสู่ระดับ 49.5 เป็นการปรับตัวลดลง 2 เดือนติดต่อกัน และเป็นระดับที่ต่ำกว่า 50 ส่งผลให้ตลาดกลับมากังวลสภาพเศรษฐกิจของจีนมากขึ้น

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

20.30 USD

Building permits 1.06M 1.08M
Housing stats 1.04M 1.01M

แนวทางทองคำวันที่ 15-12-57

เเนวรับ 1210 1200 1190 เเนวต้าน 1225 1230 1238

ราคาปิดสัปดาห์ในวันศุกร์ก็พบว่า ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อประมาณ 30 เหรียญ นับจากสัปดาห์ก่อนหน้า ในระยะสั้นมองการปรับตัวลดลงไปต่อ ตอนนี้แนวรับแรก (1216) ราคาได้มาหยุดอยู่ตรงนี้เรียบร้อย แต่คาดว่าจะลงมามากกว่านี้อีก จุดซื้อที่ดีจะอยู่บริเวณ 1190-1200 พร้อมทั้งวางจุดตัดขาดทุนใกล้บริเวณนั้น เนื่องจากข่าวบวกในตลาดทองคำยังค่อนข้างน้อย มีเพียง ตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงเท่านั้นเป็นปัจจัยบวก และตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงนั้นมีสาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อทองคำ นอกจากนี้ปัจจัยบวกที่มีเข้ามาคือ ค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนค่าลงในภาพรวมและการเร่งเปิดสถานะ Bullish ของกองทุนเฮดจ์ฟันด์มากสุดในรอบ 4 เดือน 

ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 2,928 ล้านบาท และยัง คง Short ฟิวเจอร์อีก 5,808 สัญญา เป็นวันที่ 8 ต่อกันตลาดหุ้นไทยจากที่มองว่า ไม่มีปัจจัยลบแรงๆ กลายเป็นว่าตกลงมาค่อนข้างมาก จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง และ ดึงกลุ่มพลังงานลงมาด้วย เกิดการปรับตัวลดลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเกือบ 100 จุด และคาดว่า จะยังคงเจอแรงขายต่อไปอีกสักพักหนึ่ง ในเบื้องต้นยังมองหา Technical rebound หลังจากที่ตกลงมาค่อนข้างแรงมาก ค่าเงินบาทมองว่า ยังคงแกว่งตัวอยู่ในบริเวณนี้ไปอีกสักพักหนึ่ง 

ทางเลือกหลัก : มองราคาลงไปด้านล่างอีก จุดซื้อที่ดีจะอยู่บริเวณ 1190-1200 หรือหาจังหวะขายบริเวณ 1224 เนื่องจากบริเวณนี้ 1216 ถือเป็นแนวรับหนึ่งจึงมองว่าอาจจะมีเด้งขึ้นได้บ้าง แต่โดยรวมแล้วยังลงต่อ

ทางเลือกรอง : ราคาที่หลุดเกินกว่า 1190 จะทำให้กลับมาลงอีกครั้ง

รายละเอียด

- ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคออกมาที่ระดับ 93.8 จุดสูงกว่าที่คาดการณ์ 89.5 และเดือนก่อนหน้า 88.8 จุด นับเป็นการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีนับจากเดือน มกราคม 2550 จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงแรงในช่วงที่ผ่านมา ในขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อคาดการณ์ของผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 2.9% จากเดือนก่อนหน้า 2.8% และ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) หดตัว –0.2% จากเดือนก่อน 0.2% และคาดการณ์ –0.1% ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิตหมวดไม่รวมอาหารและพลังงานไม่มีการขยายตัวออกมาที่ระดับ 0% จากเดือนก่อนหน้า 0.4% และคาดการณ์ 0.1% ข่าวกลุ่มนี้น้ำหนักไปอยู่ที่ตัวดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเป็นหลัก เราจึงได้เห็นการปรับตัวลดลงของราคาทองคำในวันศุกร์ที่ผ่านมา

- สภาสูง (Senate) ผ่านกฎหมายร่างงบประมาณ ด้วยคะแนนเสียง 56-40 วงเงิน 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ เมื่อไม่ให้เกิด Government shutdown ไปจนถึงเดือนกันยายน 2558

-ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องไปจนถึงระดับ 57 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งไม่เป็นผลดีกับทองคำ และน่าจะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้น เพียงแต่ในด้านดีก็มีด้านเสียด้วย เนื่องจาก หุ้นในกลุ่มพลังงานนั้นมี Market cap ที่ใหญ่เมื่อหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลงก็จะดึงดัชนีลงมาด้วย (ถึงแม้ตลาดหุ้นดาวโจนส์กลุ่มพลังงานจะไม่มีขนาดใหญ่เท่าตลาดหุ้นบ้านเราก็ตาม) และ การที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงแรงหมายความว่า ประเทศรัสเซียที่มีสัดส่วนการส่งออกพลังงานถึง 60% จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง และประเทศรัสเซียก็เป็นประเทศคู่ค้ากันกับยุโรป และ ยุโรปก็เป็นคู่ค้าที่สำคัญกับอเมริกาหมายความว่า ผลกระทบนั้นจะกระทบกันอย่างต่อเนื่อง หากราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวลดลง

- ประเทศออสเตรเลียกำลังมีปัญหากับความวุ่นวายภายในประเทศ หลังจากพบวัตถุต้องสงสัยอยู่บริเวณ Sydney Opera House พร้อมทั้งมีการจับตัวประกันในเมือง โดยสาเหตุหลักมาจากกลุ่ม ISIS ที่ออสเตรเลียได้เข้ามาสนับสนุนกับอเมริกาในสงครามของอิรักในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา

- กองทุน Hedge fund เพิ่มสถานะในฝั่ง Long สู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นการทยอยปิดสถานะ Short ข้อมูลจาก CFCT เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ปัจจัยที่ต้องติตตาม

20.30 USD 

Empire state manufacturing index 12.1 10.2

21.15 USD

Capacity Utilization rate 79.4% 78.9%
Industrial production 0.8% -0.1%

แนวทางทองคำวันที่ 11-12-57

เเนวรับ 1226 1220 1210 เเนวต้าน 1233 1238 1250

ราคาทองคำยังคงอยู่ในช่วงของ Uptrend ระยะกลาง จึงมองว่า ราคาที่ลงมานั้นให้หาจังหวะซื้อ เมื่อวานนี้ยังแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆระหว่าง 1226-1238 ยังมองว่าราคาน่าจะพักตัวลงมากว่านี้อีกหน่อย โดยมีแนวรับสั้นๆ 1226 แต่เนื่องจากราคายังไม่ยอมหลุดก็อาจจะพิจารณาซื้อตรงนี้ในสัดส่วนน้อยหน่อย เผื่อราคาดีดขึ้น ส่วนน้ำหนักทางฝั่งลงกว่านี้ก็ยังมีอยู่ จุดซื้อที่ดีที่สุดอยู่บริเวณใกล้ 1210 ซึ่งเป็นเส้น Downtrend line ที่เมื่อก่อนเป็นแนวต้านและตอนนี้กลายเป็นแนวรับ จุดนี้เป็นจุดซื้อที่ดีเนื่องจากหากผิดทางจะทำให้การตั้ง Stop loss ตรงจุดเปลี่ยนแนวโน้มได้ไม่เสีย หายมากนัก ค่าเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าลงมาได้อีกหน่อย จึงยังมีปัจจัยบวกอยู่สำหรับทองคำ

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการเมื่อวานนี้เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ เมื่อมาดูตลาดหุ้นทั่วโลกพบว่า ญี่ปุ่นปรับตัวลดลงแรงร่วม 2% ตามไปด้วยดาวโจนส์ของอเมริกาก็ปรับตัวลดลงแรงเช่นเดียวกัน –1.5% ทางฝั่ง DAX เยอรมัน ระหว่างวันปรับตัวลดลงแต่ก็สามารถกลับขึ้นมาปิดเขียวได้ และล่าสุดเปิดตลาดเอเชียเช้านี้ ฮั่งเส็ง และ นิเคอิ ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องอีก -0.7% ตลาดหุ้นไทยวันนี้คงรับปัจจัยลบจากเพื่อนรอบโลกเข้ามา แต่ก็ได้ปรับตัวลดลงมาก่อนหน้าแล้ว ค่าเงินบาททิศทางยังคงแข็งค่าต่อไปอีก 

ทางเลือกหลัก : มองราคาแกว่งตัวในกรอบไปอีกสักระยะ โดยเน้นฝั่งซื้อเป็นหลัก ในเบื้องต้นมองแนวรับ 1226 ยังพอทยอยซื้อได้ แต่หากจะให้ดี น่าจะรอแถว 1210 เพียงแต่จะมาถึงหรือไม่

ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวลดลงเกินกว่า 1210 จะทำให้กลับไปลงอีกครั้ง

รายละเอียด

- ตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงเนื่องจาก ราคาน้ำมันดิบเมื่อวานนี้ปรับตัวลดลงร่วม 5% ระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขายก่อนที่จะปิดตลาดไปแบบลดช่วงลบไปเล็กน้อย โดยมีสาเหตุหลักโยงมาจากการที่ OPEC ไม่ยอมลดกำลังการผลิตในการประชุมเมื่อเดือนที่แล้ว และได้มีการคาดการณ์ว่า Demand ในน้ำมันดิบปีหน้าจะลดลงอีก ย้อนกลับไปตอนที่น้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง เมื่อไปดูการเติบโตของจีนจะพบว่า ตอนนั้นจีนได้เติบโตขึ้นมาแบบก้าวกระโดดและการเติบโตแบบนั้นทำให้ความต้องการน้ำมันดิบสูงขึ้น เมื่อมาดูตอนนี้ จีนยังออกอาการไม่ดี ยังลุ้นอยู่ว่าจะขยายตัวที่ระดับ 7% ได้หรือไม่ และยุโรปก็ยังชะลอตัว จึงคาดว่าปีหน้านั้นความต้องการใช้น้ำมันจะน้อยลงกว่านี้อีก ประกอบกับการที่อเมริกาหันมาใช้เทคโนโลยีการผลิต Shale gas มากขึ้น จึงทำให้ราคาน้ำมันอยู่ในระดับที่ต่ำจนทำให้มีกระแสการดู Cost production ของน้ำมันดิบ โดยส่วนใหญ่ประเทศที่อยู่นอก OPEC จะมีต้นทุนการผลิตอยู่แถวระดับ $50-60 ต่อบาร์เรล ซึ่งก็ไปใกล้กับต้นทุนของการผลิต Shale gas ในอเมริกา ส่วนต้นทุนการผลิตของพวกซาอุดิอาระเบียพบว่า ถูกกว่านี้ค่อนข้างมากมีตั้งแต่ระดับ $20/บาร์เรลไปจนถึงประมาณ $40/บาร์เรล ซึ่งตัวนี้อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ OPEC ไม่ตัดสินใจลดกำลังการผลิตลง เพราะ ตนเองมีต้นทุนที่ถูกกว่าประเทศอื่น ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงนั้นส่งผลต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน และเมื่อวานนี้หุ้นกลุ่มพลังงานนี้เองที่เป็นตัวฉุดดัชนีทั่วโลกให้ปรับตัวลดลง และสิ่งที่ต้องระวังคือ SET ของไทยนั้นสัดส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานต่อดัชนีมีค่อนข้างมาก อาจจะเป็นผลให้หุ้นไทยปรับตัวลดลงได้อีก

- SPDR ซื้อทองคำเพิ่มอีก 3 ตันในวันพุธเป็นผลทำให้กองทุนเริ่มซื้อต่อเนื่องกัน 2 วันเป็นรอบแรกโดยเหลือการถือครองทองคำที่ระดับ 724.8 ตัน หลังจากสถานะของกองทุนได้ขายทองคำจนถือครองต่ำสุดในรอบ 6ปี ได้เริ่มเห็นแรงซื้อเข้ามาบ้างแล้ว

- ยอดสั่งซื้อสินค้าประเภทเครื่องจักรของญี่ปุ่นหดตัว –4.9% จากเดือนกันยายนที่ขยายตัว 7.3% แสดงให้เห็นถึงเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงฟื้นตัวได้ไม่ดีเท่าไรนัก

- ตัวเลขเงินเฟ้อของจีนออกมาปรับตัวลดลงเล็กน้อยเพิ่มขึ้น 1.4% ขณะเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 1.6% ตัวเลขนี้หลายคนคาดการณ์ว่าอาจจะทำให้ธนาคารกลางจีนออกมาตรอะไรเพิ่มเติมหรือไม่

ปัจจัยที่ต้องติตตาม

20.30 USD 

Unemployment claims 295K 297K
Retail sales 0.4% 0.3%
Core retail sales 0.1% 0.3%

แนวทางทองคำวันที่ 10-12-57

เเนวรับ 1215 1205 1200 เเนวต้าน 1235 1240 1250

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นสูงเมื่อวานนี้ ท่ามกลางตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงเกือบทั่วโลก นำโดยจีนที่ปรับตัวลดลงแรง จากข่าวความไม่มั่นใจในการเติบโตที่ระดับสูงกว่า 7% และตลาดหุ้นกรีซที่ปรับตัวลดลงแรงถึง 13% จากข่าวที่ว่า จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในสัปดาห์หน้าแทนที่จะเป็นช่วงต้นปีหน้า และตลาดก็ยังหาทางออกกับมาตรการรัดเข็มขัดไม่เจอ เป็นผลทำให้เงินไหลสู่ทองคำ เพราะ ตลาดหุ้นไม่มีข่าวดีมา ส่วนตลาดพันธบัตรก็ยังมีความเสี่ยงเรื่องขึ้นดอกเบี้ย เงินที่ไม่มีที่ไปก็เลยมาลงทองคำ ระดับที่เกินกว่า 1220 ในภาพวัน หมายความว่า Break downtrend มาได้แล้ว เป้าหมาย 1245-1250 โดยมีแนวรับบริเวณ 1210 และแนวรับใหญ่ 1200 หาจังหวะซื้อ

ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 3,543 ล้านบาท และยังคง Short สุทธิในฟิวเจอร์ 8,009 สัญญา จะเห็นช่วงที่ผ่านมา ต่างชาติทยอยเก็บสะสม Short มาเรื่อยๆในปริมาณที่ค่อนข้างมาก SET เมื่อวานนี้ยังคงปรับตัวลดลงต่ออีก มายังบริเวณแนวรับใหญ่ หากยังไม่หยุดลงโอกาสลงไปต่ำกว่าระดับ 1500 มีค่อนข้างมาก ทั้งนี้วันนีตลาดหุ้นปิดทำการเนื่องจากวันรัฐธรรมนูญ ค่าเงินบาทหลังจากแข็งค่ามาเมื่อวานยังไม่เห็นสัญญาณกลับตัวไปจึงมองการแข็งค่าลงมาด้านล่างได้อีก ตามค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง

ทางเลือกหลัก : ราคาหลุดกรอบ Downtrend มาได้ ทำให้มองภาพรวมว่าจะเข้าสู่การรีบาวน์รอบใหญ่ๆสักรอบหนึ่ง เป็นจังหวะที่ดีในการซื้อในขณะที่ราคาย่อตัวลงมา แนวรับ 1210 ยาวจนไปถึง 1200 แล้วแต่ว่าราคาจะลงมาขนาดไหน ให้หาจังหวะซื้อ 

ทางเลือกรอง : ราคาวกตัวกลับลงไปต่ำกว่าระดับ 1200 จะทำให้เกิดการ False breakout ทันที และ จะได้เห็นราคาปรับตัวลดลงต่อไปด้านล่างอีก

รายละเอียด

- เมื่อวานนี้มีข่าวลบในตลาดหุ้นค่อนข้างมาก ไล่เวลาจากช่วงเช้าก็ยังคงนิ่งๆ มาจนถึงช่วงเย็นตามเวลาบ้านเรา ตลาดหุ้นจีนก็เริ่มปรับตัวลดลงแรงร่วม 6% และลากตลาดหุ้นทั่วโลกลงไปด้วย สาเหตุที่ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงนั้นมาจากความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่ตอนนี้มีการประชุมทางด้านเศรษฐกิจกันอยู่จนถึงวันพฤหัสบดีนี้ โดยเนื้อหาที่ตลาดจับตาดูว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนจะเติบโตได้เกินกว่าระดับ 7% หรือไม่ ตลาดเมื่อวานนี้ได้แสดงความกังวลออกมาว่าอาจจะไม่ถึง 7% จึงเกิดการปรับตัวลดลง และ ท่ามกลางการ Take-profit (ณ ช่วงระดับดัชนี New-high) จากคนที่มีต้นทุนต่ำจึงทำให้ดัชนีหุ้นปรับตัวลดลงแรงไปอีก ตามความเห็นส่วนตัว ถึงแม้เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวต่ำกว่า 7% แต่การขยายตัวระดับนี้ก็ยังสูงกว่าอีกหลายประเทศ ถึงแม้จะไม่ดีเหมือนช่วง 2-3ปีที่แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้แย่จนเกินไป

- ตลาดหุ้นกรีซ (Greece’s Athex composite) ปรับตัวลดลงแรงมากๆ ร่วม 13% (ถ้าเทียบเป็นตลาดหุ้นไทยก็ตกร่วม 200 จุด เทียบดัชนีที่ระดับ 1560) นับเป็นการปรับตัวลงแรงเกินกว่าวิกฤติกรีซก่อนหน้าที่กังวลกันว่า กรีซอาจจะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือและต้องเกิดการผิดนัดชำระหนี้ ในวันที่ 24 ตุลาคม 2010 ซึ่งตอนนั้นตลาดหุ้นกรีซตกลงไปเพียง 9.7% โดยมีสาเหตุหลักคือ กำหนดการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในช่วงต้นปีมกราคมปีหน้า ถูกเลื่อนมาวันที่ 17 ธันวาคมนี้ และผลสำรวจเบื้องต้นพบว่า พรรคซ้ายจัด (Syriza) มีโอกาสที่จะชนะการเลือกตั้งครั้งนี้สูง ในปัจจุบันกรีซได้รับเงินช่วยเหลือจาก IMF โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องรัดเข็มขัด ลดการใช้จ่ายของรัฐบาลลง (Austerity) หากพรรคนี้เข้ามา แนวโน้มที่จะยกเลิกการรัดเข็มขัดมีสูง เพราะ พรรคนี้ไม่เห็นด้วยกับมาตรการรัดเข็มขัด และ คนในประเทศก็ต้องการที่จะให้รัฐบาลใช้จ่ายมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดพันธบัตรกรีซปรับตัวขึ้นแรง 75 basis point (0.75%) สู่ระดับ 7.9% และโอกาสที่กรีซจะเกิดการผิดนัดชำระหนี้มีสูงขึ้น

- SPDR เพิ่มสถานะการถือครองทองคำลงอีก 0.37% สู่ระดับ 721.81 ตัน ตัวนี้เป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำเมื่อวานด้วย นอกจากนี้แรงซื้อ Physical demand ในเหรียญทองคำของอเมริกาปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 2 ปี ทางฝั่งอินเดียก็กำลังหารือมาตรการการควบคุมการนำเข้าทองคำรูปแบบใหม่อยู่คาดว่าจะมีผลในช่วงสุดสัปดาห์นี้ว่าจะเป็นอย่างไร

แนวทางทองคำวันที่ 9-12-57

เเนวรับ 1195 1190 1180 เเนวต้าน 1205 1208 1215

เมื่อวานราคาได้แกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ ท้ายตลาดได้ขึ้นมาจนถึงระดับ 1208 ก่อนที่จะลงไปปิดแถวบริเวณ 1200 โดยสรุปแล้วขึ้นมาประมาณ 5 เหรียญ ระดับราคาปิดที่เกินกว่า 1200 นั้นเข้าเกณฑ์ว่า จะทำให้ราคาทรงตัวไปอีกสักพักและลบภาพทางลบออกไปพอสมควร สังเกตุจากราคากลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทั้งสองเส้นอีกครั้ง เป็นสัญญาณที่ดีที่ราคากลับขึ้นมาอยู่ใน Uptrend แต่ด้วยปัจจัยบวกที่จำกัดก็ยังมองว่า Uptrend จะยังไม่แรงนัก แนวต้านภายในวันอยู่ที่ระดับ 1208 ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1190 ราคายังคงแกว่งตัวในกรอบนี้จนกว่าจะผ่านออกมาในทางใดทางหนึ่ง หาจังหวะซื้อที่แนวรับ และ ขายที่แนวต้าน และตั้งจุดตัดขาดทุนไว้หากราคาเกิดการ False breakout

ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,748 ล้านบาท กลับมาซื้อหลังจากขายออกไปเมื่อวันก่อนหลักพันล้านบาทเช่นกัน และยังคง Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก 5,124 สัญญา ทิศทางต่างชาติยังคง Short สะสมมาเรื่อยๆ ส่วน SET เมื่อวานเกิดการปรับฐานลง 22 จุด ถึงแม้จะยังมองว่า ปัจจัยลบยังไม่มากแต่ด้วยน้ำหนักการปรับฐานจะทำให้มีช่องว่างลงได้อีก หากไม่สามารถกลับขึ้นมายืน 1590 ได้ ค่าเงินบาทยังอยู่ในแนวโน้มอ่อนค่าถึงแม้ระหว่างวันนี้จะมีสัญญาณแข็งค่าบ้างแต่ก็มองว่ายังไม่เยอะเท่าไรสำหรับการแข็งค่า

ทางเลือกหลัก : มองราคาแกว่งตัวในกรอบ 1190-1208 ก่อน แต่คาดว่า ราคาจะยังมีแนวโน้มขึ้นต่อ เพราะ ยังไม่เสียรูปแนวโน้มขาขึ้นในภาพรวมเท่าไร รวมถึง ปิดสัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มมีมุมมองในทางบวกขึ้นมาแล้ว

ทางเลือกรอง : ราคาที่ปรับตัวลดลงเกินกว่า 1190 จะทำให้มีแรงขายตามมาอีก

รายละเอียด

- ทองคำได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบในช่วงนี้เพิ่มเติมจากค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งข่าวช่วงนี้จะเห็นว่า ได้นำเอาเรื่องของน้ำมันดิบเข้ามามีผลต่อทิศทางมากขึ้นในลักษณะของการปรับตัวลดลงของสินค้าคอมโมดิตีทั้งกลุ่ม ล่าสุดเมื่อวันนี้ตลาดน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี ($63/บาร์เรล) 

- ฝั่ง Sentiment ของกองทุน SPDR ล่าสุดนั้นยังไม่ดีขึ้น กองทุนลดสถานะลงอีก 0.25% สู่ระดับ 719.12 ตัน ในวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่ไปขัดแย้งกับกองทุน Hedge fund ที่เริ่มเปิดสถานะ Long ค่อนข้างมาก จึงทำให้ภาพรวมนั้นยังคงขัดแย้งกัน แต่ที่ผ่านมาการเปิด Long นั้นมักจะมีน้ำหนักไม่มากเท่ากับการเปิด Short ของกองทุน อาจจะเพราะแนวโน้มใหญ่ยังเป็นขาลงด้วย ทั้งนี้นัยสำคัญยังค่อนข้างไม่ชัดเจนสำหรับการดูทิศทาง Sentiment ของตลาดแบบนี้

- ค่าเงินออสเตรเลียดอลลาร์ (ออสซี่) ปรับตัวลดลงมาสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีที่ระดับ 0.825 เนื่องจาก สัดส่วหลักของรายได้จากประเทศออสเตรเลียมาจากสินค้ากลุ่มคอมโมดิตีเป็นหลัก หากกลุ่มคอมโมดิตีไม่ดี แนวโน้มของเงินออสซี่ก็มักจะปรับตัวอ่อนค่าลงด้วย และล่าสุด GDP ของออสเตรเลียออกมาที่ระดับ 2.7% จากคาดการณ์ 3.1% ทำให้มีการคาดการณ์ถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมและคาดว่าค่าเงินออสซี่จะอ่อนลงอีก สำหรับกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ก็สามรถจับตาดูค่าเงินออสเตรเลียนี้ได้ด้วย

- ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเยอรมันขยายตัว 0.2% จากเดือนก่อนหน้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.1% 

- GDP ของญี่ปุ่นเมื่อตรวจทานแล้วพบว่าออกมาแย่กว่าครั้งแรกออกมาที่ระดับ –1.9% และมีข่าวที่ยังไม่ยืนยันออกมาว่า BOJ เตรียมลดเป้าหมายเงินเฟ้อในปีนี้ลงจากเดิม 2.0% แต่ยังไม่ได้รับการยืนยัน สาเหตุที่เงินเฟ้อจะถูกปรับลดลงเพราะ ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะมีมาตรการ QQE ออกมาก็ตาม

- นักลงทุนต่างติดตามการประชุมเศรษฐกิจของจีนเพื่อกำหนดนโยบายต่างๆ ในวันอังคาร-พฤหัสนี้ เพื่อติดตามว่า GDP จะขยายตัวมากกว่าระดับ 7% หรือไม่ และจะมีมาตรการใดๆออกมาเพิ่มเติมหรือไม่

แนวทางทองคำวันที่ 8-12-57

เเนวรับ 1190 1185 1180 เเนวต้าน 1200 1205 1215

ราคาทองคำในวันศุกร์ได้รับแรงกดดันจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm payroll ) ที่ปรับตัวสูงขึ้นเกินกว่าระดับ 300K พร้อมทั้งรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่ FED กังวลตัวนี้มาสักพักหนึ่ง ทำให้ทองคำปรับตัวลดลง และในภาพวันได้เริ่มเข้าสู่ช่วงใกล้เปลี่ยนแนวโน้มอีกครั้ง สัญญาณเตือนทางลงมาแต่ยังไม่แรงเท่าไรนัก ค่าเงินดอลลาร์ทำระดับสูงสุดใหม่เรื่อยๆ มองว่า ทองคำคงหาข่าวบวกมาสนับสนุนได้น้อยหน่อย วันนี้มองว่าทิศทางยังมองลงต่อเพียงแต่หากระยะสั้นมีรีบาวน์มองไว้ที่ระดับ 1198-1200 เป็นจังหวะขายก่อน หากปิดเกิน 1200 ได้ จึงจะทำให้มองว่า ราคาจะแกว่งตัวในกรอบไปอีกสักพักหนึ่ง แต่ภาพสัปดาห์เริ่มดูดีขึ้นแล้ว

ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,237 ล้านบาท และยังคง Short สุทธิในฟิวเจอร์เป็นวันที่ 4 ต่อเนื่องกันอีก 1,854 สัญญา ภาพรวม SET ยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบระหว่าง 1590-1600 ยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจนเท่าไร แต่ก็ยังไม่มีปัจจัยลบที่จะทำให้ SET ลงแรงๆในช่วงนี้ และต้องติดตามกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานลมว่า จะมีผลกระทบจากข่าว นาย นพพร หรือไม่ ทิศทางค่าเงินบาทหลังจากอ่อนค่าเกินกว่าระดับ 33.08 ก็มองอ่อนต่อเนื่อง หลังจากเงินดอลลาร์ยังทำจุดสูงสุดใหม่

ทางเลือกหลัก : มองว่าวันนี้ยังมีโอกาสลงต่ออีก แต่การลงยังมองไม่เยอะมาก เนื่องจาก ภาพรายสัปดาห์เริ่มส่งสัญญาณดูดีขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ราคาปรับตัวขึ้นมาเยอะ แต่ทางกลับกันฝั่งขึ้นก็ยังมีน้ำหนักไม่มากจากปัจจัยข่าวรอบด้านที่มีแต่ลบ จึงมองว่า ราคาน่าจะทรงตัวในกรอบไปอีกสักพักหนึ่ง

ทางเลือกรอง : ราคาที่ปิดเกินกว่าระดับ 12002 จะทำให้ภาพรวมที่เป็นลงเริ่มเป็นกลาง

รายละเอียด

- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm payroll : NFP) ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 321K จากเดือนก่อนหน้า 243K เป็นการปรับตัวดีขึ้นมากและดีกว่าคาดการณ์ การปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 321K นี้เป็นระดับที่สูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2010 (การจ้างงานดีสุดในรอบ 4 ปี) ที่ตอนนั้นอยู่ที่ระดับ 430K ในขณะที่ค่าเฉลี่ยทั้งปีนี้จะอยู่แถวบริเวณ 220-230K ส่วนตัวเลขอัตราว่างงานยังคงอยู่ที่ระดับ 5.8% เท่ากับเดือนก่อนหน้า แต่แนวโน้มของอัตราว่างงานนั้นลดลงอย่างต่อเนื่อง 

- ดุลการค้าประกาศออกมาพบว่า ขาดดุลมากกว่าที่คาดการณ์เล็กน้อย และ ตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงของคนทำงานเพิ่มขึ้น 0.4% จากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 0.1% ตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงนี้หลังๆมาเริ่มมีความสำคัญขึ้น เพราะ เป็นเกณฑ์ที่ FED จะใช้ประเมินการขึ้นดอกเบี้ย ดังจะเห็นได้จากผลการประชุม FOMC ในช่วง 2-3 เดือนก่อนหน้าที่ในถ้อยแถลงจะมีความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพของการจ้างงานอยู่เยอะ และอยากเห็นรายได้เฉลี่ยของคนปรับตัวสูงขึ้นก่อน (ในตอนนั้นยังไม่ได้ปรับตัวอย่างโดดเด่น) มาวันนี้รายได้เฉลี่ยก็เริ่มดีขึ้นจึงมองว่า ตัวนี้จะเป็นตัวสนับสนุนข่าวลบให้กับทองคำอีก

- ผลการประชุม ECB ในช่วงเย็นวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ไม่ได้ส่งสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม และก็ไม่ได้พูดถึงการทำ QE จึงเป็นผลทำให้ค่าเงินยูโรปรับตัวแข็งค่าขึ้นหลังจากข่าวออก แต่จากนั้นก็ได้มีข่าวตัวเลขการจ้างงานของอเมริกาในวันศุกร์ออกมาทับ และทำให้เงินยูโรลงไปที่เดิม พร้อมทั้งการคาดการณ์ว่าในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2015 จะมีการทำ QE ของทางยุโรป

- สถาบันจัดอันดับเครดิต S&P ทำการลดความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีลงสู่ระดับ BBB– จากเดิม BBB ซึ่งการลดลงเหลือระดับนี้เป็นระดับที่สูงกว่าพันธบัตร High-yield เพียง 1 ระดับเท่านั้น

- กองทุน Hedge fund เพิ่มสถานะ Bullish bet ในทองคำสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมข้อมูลจาก CFCT เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

- SPDR เพิ่มสถานะการถือครองทองคำอีก 0.12% สู่ระดับ 720.91 ตัน

- ตัวเลขการส่งออกของจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.7% น้อยกว่าเดือนก่อนหน้าค่อนข้างมากที่ขยายตัว 11.6%