ประชาสัมพันธ์

แนวทางทองคำวันที่ 22-9-57

เเนวรับ 1213 1200 1180 เเนวต้าน 1220 1225 1227

ทองคำปรับตัวมาปิดตลาดที่แนวรับ 1216 และล่าสุดตอนเช้าเปิดตลาดมาและลงมาทำ New-low เพียงแต่เกิด Bullish divergent ซ้ำอีกรอบหนึ่งมองว่า จะยังคงมีรีบาวน์ต่อแต่ยังไม่แรง และการรีบาวน์จะเป็นไปอย่างจำกัด เป็นการรีบาวน์เพื่อจะลงต่อเช่นเดิม โดยได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากเงินยูโรที่พยายามสร้างฐานตรงแถวนี้ การรีบาวน์นั้นจะมีแนวต้านระยสั้น 1220 ซึ่งเป็นบริเวณ Low ก่อนหน้าที่ตอนนี้กลายเป็นแนวต้านไป เช่นเดิม มองขึ้นแล้วลง กรณียืน 1220 เท่านั้นจึงจะทำให้ภาพรวมชะลอการลง ล่าสุดซิลเวอร์หลุดแนวรับในรอบ 4 ปีไปเรียบร้อย และโดยปกติสินทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์ในทางเดียวกันมักจะตามกัน ติดตามระดับ 1180 ปัจจัยพื้นฐานยังไม่มีข่าวบวกเลย

ต่างชาตืหันกลับมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยค่อนข้างหนาแน่น 1789 ล้านบาทและเพิ่มสถานะ Long สุทธิในฟิวเจอร์อีก 6,436 สัญญา ทิศทางยังคงแกว่งตัวอยู่บริเวณ 1285 ล่าสุด Maybank KImeng ได้ออกไปให้ความเห็นใน Bloomberg ไว้ว่า หุ้นเล็กในตลาด MAI เข้าสู่ภาวะฟองสบู่จากการปรับตัวขึ้นมาแรงมาก แรงกว่า SET ค่อนข้างเยอะ ต้องติดตามว่าจะเป็นอย่างไร ค่าเงินบาทหลังจากไม่สามารถผ่าน 32.30 ได้ส่งสัญญาณแข็งค่าเล็กน้อย

ทางเลือกหลัก : มองราคาลง แต่ระยะสั้นมีโอกาสดีดทดสอบใกล้ 1220

ทางเลือกรอง : ราคายืนเหนือ 1220 ได้จะทำให้แนวโน้มเป็นกลางในระยะสั้น

รายละเอียด

- เมื่อวันศุกร์ไม่ค่อยมีข่าวสำคัญออกมาเท่าไรนัก มีเพียงดัชนีชี้นำ (Leading index) ที่คำนวณตัวเลขของเศรษฐกิจต่างๆหลายประเภทและนำมารวมกันจากนั้นแปรผลเป็นตัวเลขว่าออกมาที่ระดับเท่าไร ระดับที่ขยายตัวมากขึ้นบ่งบอกถึง การคาดการณ์ในอนาคตว่าเศรษฐกิจแนวโน้มจะสดใสขึ้น ล่าสุดออกมาที่ระดับ 0.2% จากเดือนก่อนหน้า 1.1% และคาดการณ์ 0.4% โดยมีผลมาจากยอดตัวเลขก่อสร้างที่ปรับตัวลดลง

- ตลาดหุ้นอเมริกาวันศุกร์ระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขายปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น จากการต้อนรับหุ้น Alibaba ที่ IPO เข้ามาในวันศุกร์ กระแส Alibaba ในช่วงนี้มาแรงมากเพราะเป็นการ IPO ที่เรียกว่า ใหญ่ที่สุดตั้งแต่เคยมีมาในอเมริกา และเป็นบริษัทจากจีนด้วย โดยบริษัทจะมีลักษณะการประกอบธุรกิจที่เกี่ยวกับ E-commerce ในรูปแบบ B2B หรือ Business to business คือจะเป็นแหล่งรวบรวมสินค้าต่างๆจากทั่วโลกคล้ายๆกับพวกอีเบย์ เมื่อ IPO เข้าตลาดราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นร่วม 30% ในวันศุกร์และมูลค่าตลาดของ Alibaba ได้แซงหน้า Facebook ไปเรียบร้อย ทั้งนี้ตลาดหุ้นได้รับข่าวหนุนจากประเทศสก๊อตแลนด์ได้ผลโหวตประชามติออกมาที่ระดับ 55 ต่อ 45 เสียงว่าสก๊อตแลนด์จะยังอยู่กับสหราชอาณาจักรต่อไป ทั้งนี้ตลาดหุ้นได้ลดช่วงบวกลงตอนท้ายตลาดส่งผลให้ดัชนีแทบจะไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า

- Sentiment ในตลาดทองคำค่อนข้างแย่มากๆ ล่าสุด Hedge funds ลดสถานะฝั่ง Longเรื่อยๆ เป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน ในขณะที่นักเก็งกำไรได้เพิ่มสถานะ Short สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ส่วนกองทุน SPDR ลดสถานะการถือครองจำนวนมากในวันศุกร์ 7.78 ตันคงเหลือการถือครองที่ระดับ 776.44 ตัน เป็นระดับที่ต่ำสุดนับตั้งแต่ธันวาคมปี 2008 สาเหตุที่นักลงทุนไม่ถือทองคำก็เพราะ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องถือท่ามกลางอเมริกาที่ฟื้นตัว เงินดอลลาร์ที่แข็งค่า ล่าสุดเมื่อเทียบกับเงินเยนแล้ว ดอลลาร์แข็งค่าสุดๆในรอบ 6 ปี ส่งผลให้ดอลลาร์เยนพุ่งแตะระดับ 109 เรียบร้อยแล้ว เป็นระดับการแข็งค่าที่โหดกว่าเมื่อตอนทองคำลงไประดับ $1180 รอบที่แล้วด้วย

- ประธาน FEDสาขา Richmond ให้ความเห็นไว้ว่า ยังไม่อยากให้ FED ลด QE เพราะ การจ้างงานยังเกิดไม่เต็มที่ ส่วนเครดิตเรตติ้ง Fitch ยังคงมายืนยันเครดิตของอเมริกาที่ระดับ AAA 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

21.00 USD

Existing home sales 5.21M 5.15M

21.05 USD 

FOMC Dudley speaks

แนวทางทองคำวันที่ 19-9-57

เเนวรับ 1220 1216 1200 เเนวต้าน 1225 1227 1233

ราคาทองคำปรับตัวลดลงไปทดสอบระดับ 1216 เกิดเป็น Double bottom ในช่วงกลางคืนเมื่อวาน เพียงแต่การเกิดนั้นไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1225 ออกไปได้อย่างสวยงามจนทำให้ราคากลับลงมาด้านล่าง และ ล่าสุดมีแรงซื้อขึ้นไป ยังมองว่า ราคาจะขึ้นไปทดสอบระดับใกล่ 1225 อีกรอบหนึ่ง และ อาจจะมีหลุดไป 1233 แถวนั้นได้หากมีแรงซื้อเข้ามาแรงพอ เพียงแต่ฝั่งซื้อนั้นยังคงต้องใช้ความระมัดระวังและควรตั้งจุดตัดขาดทุนไว้ที่ 1216 ที่เป็น Low ของรอบนี้ถึง 2 ครั้ง ถ้าราคาไปทดสอบ 1233 แล้วยังไม่ผ่านก็มีแนวโน้มจะปรับตัวลดลงมาด้านล่างอีก แต่กรณีผ่านไปได้จะเปิดช่องว่างให้ขึ้นไปได้อีกหน่อย เพียงแต่ว่า ในภาพรวมแล้วยังเป็นแนวโน้มขาลง

ต่างชาติกลับมาขายสุทธิเล็กน้อยในตลาดหุ้นไทยในรอบ 5 วัน จำนวน 94 ล้านบาท และหันกลับไป Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก 1,013 สัญญา เมื่อวานนี้ราคฟิวเจอร์ปรับตัวสูงขึ้นเกินกว่าสินค้าอ้างอิง วันนี้ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มในทางบวกอยู่ติดตามที่ระดับ 1485 ว่าจะสามารถยืนอยู่หรือไม่ ส่วนทิศทางค่าเงินบาทยังดูอ่อนค่าอยู่ในระยะกลาง เพียงแต่ยังติดแนวต้านบริเวณ 32.30 ซึ่งทดสอบมาหลายวันแล้วยังไม่สามรถผ่านไปได้

ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นไปทดสอบด้านบนก่อนบริเวณ 1255 ซึ่งอาจมีไปทดสอบ 1233 ได้หากมีแรงซื้อมากพอ แต่ยังมองว่า เป็นการขึ้นเพื่อที่จะลงต่อ

ทางเลือกรอง : หากราคาปิดเหนือ 1233 ได้ โอกาสไปต่อยังมีอยู่ แต่ก็เช่นเดิมเป็นการรีบาวน์ในแนวโน้มขาลงเท่านั้น

รายละเอียด

- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวขึ้นแบบ Triple-digit หรือเลขสามหลักเมื่อคืนนี้ และขึ้นไปทำระดับ All-time high โดยมีปัจจัยหลักมาจาก ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาน้อยลงอยู่ที่ระดับ 280K จากเดือนก่อนหน้า 316K ถึงแม้ตัวเลขสร้างบ้านใหม่จะออกมาแย่กว่าเดิมเล็กน้อย ประกอบกับตลาดเลือกที่จะตีความว่า FED จะยังคงอัตราดอกเบี้ยต่ำไปอีกระยะหนึ่ง “Considerable time” ซึ่งตรงข้ามกับตลาดทองคำที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง แสดงว่าตลาดตีความคนละแบบ แต่โดยปกติข่าวคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ออกมาน้อยแบบนี้ทองคำก็สมควร

- ตอนนี้กระแสบริษัท E-commerce ในจีนที่ปัจจุบันมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกรองจากกลุ่ม อีเบย์ อเมซอน กำลังจะ IPO เข้าตลาดหุ้นอเมริกาในเช้าวันศุกร์ (คืนนี้) บริษัทมีชื่อว่า Alibaba ซึ่งมี Jack Ma เป็นเจ้าของบริษัท ซึ่งราคา IPO จะอยู่ที่ระดับ $68 ต่อหุ้น ทำให้จะกล่ายเป็นการ IPO ของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งชื่อของบริษัทนี้อีกหน่อยคงจะได้ยินมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะ บริษัทจากจีนนี้ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า ไม่เพียงแต่สุดยอดอยู่ในประเทศตัวเองเท่านั้นแต่ยังก้าวไปไกลถึงระดับโลก

- เมื่อวานนี้มีเงินก้อนแรกจาก ECB ผ่านกองทุน TLTRO ได้ถูกปล่อยเข้ามาในระบบซึ่งเป็นเงินที่จะให้ธนาคารพาณิชย์ที่สนใจสามรถกู้ได้ซึ่งมียอดทั้งสิน 8.26 หมื่นล้านยูโร ต่ำกว่าที่คาดการณ์ที่ระเบแสนล้านทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า อาจจะต้องดำเนินนโยบาย ABS หรือเข้าซื้อสินทรัพย์คล้ายๆ กันกับ QE เพิ่มเติมอีก

- กระแสอีกอันหนึ่งคือ การโหวตแยกประเทศของสก๊อตแลนด์ที่น่าจะรู้ผลในช่วงวันนี้หลังจากปิดโหวตไปเมื่อคืน ซึ่งต้องมาลุ้นกันว่าจะมีคนโหวตแยกประเทศเยอะหรือไม่ ถ้ามีจริงคงได้เห็นเงินยูโรอ่อนค่าไปอีกและกดดันทองคำแต่ถ้าไม่มีคาดว่า ทองคำจะได้รับปัจจัยบวกเล็กน้อยจากการแข็งค่าของเงินยูโรเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่จะอ่อนค่าลง

- มีความคืบหน้าทางด้านตลาด Physical บ้าง คือ จีนจะกำเนินการเปิด Gold exchange ที่จะซื้อขายทองคำแท่งเป็นสกุลเงินหยวนและคาดว่าจะเป็นต้นแบบในการกำหนดราคาในเอเชียได้ ส่วน London fixing ก็มีนโยบายกันว่า อาจจะมีระบบใหม่เข้ามาแทนที่ในการกำหนดราคาของแต่ละวัน

แนวทางทองคำวันที่ 18-9-57

เเนวรับ 1220 1216 1200 เเนวต้าน 1230 1233 1238

จากราคาที่หล่นมาแรงเมื่อวานนี้ ในวันนี้ทำให้ทองคำก็ยังอยู่ในแนวโน้มขาลงต่อ แต่เบื้องต้นเริ่มเห้นสัญญาณ Bullish divergent ในช่วงเวลา H4 เพียงแต่ยังไม่มีอะไรมายืนยันเลย จึงมองว่า ราคาน่าจะสร้างฐานบริเวณนี้ก่อน และการสร้างฐานนั้นมักจะเป็นแบบ Sideways ออกข้างถึงขึ้นได้เล็กน้อย ซึ่งช่วงนี้มองการขึ้นเป็นไปอย่างจำกัด และ จะเป็นการขึ้นเพื่อลงต่อ ตราบใดที่วันนี้ราคาไม่สามารถยืนเหนือ 1333 ได้ ในขณะเดียวกันการยืนเหนือ 1333 ก็ไม่ได้หมายความว่า ราคาจะขึ้น แต่จะเป็นเพียงชะลอการลงเท่านั้น เป้าหมายหลังจากหลุด 1240 มามองไปยังระดับ 1180-1200 ระหว่างทางในบริเวณนี้ไม่มีแนวรับสำคัญๆให้เห็นเท่าไรนัก

ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ค่อนข้างมาก 2,237 ล้านบาท และหันหน้ากลับมา Long สุทธิในฟิวเจอร์ 5,404 สัญญา นับเป็นจำนวนที่มากเมื่อดูกระแสเงินทุนต่างชาติแล้วพบว่า เป็นบวกกับตลาดหุ้นไทย รวมถึง การที่ไม่ได้ขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนดทั้งนี้ต้องมาดูกันว่ จะออกมาหน้าไหน เพราะ ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดตลาดปิดลบ ส่วนเงินบาทแนวโน้มอ่อนค่าไปแนวต้านระยะสั้น 32.30 ซึ่งทดสอบแล้ว ถ้าผ่านไปได้อีกจะมีการอ่อนค่าลงไปอีกพอสมควร

ทางเลือกหลัก : มองว่า ราคาหลังจากตกลงมาแล้วตอนนี้เจอ Bullish divergent มองว่า ราคาน่าจะสร้างฐานอยู่ในระดับนี้ ถึงปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยมีแนวต้านสำคัญ 1333

ทางเลือกรอง : ราคายืน 1333 ได้จึงจะมองว่า น่าจะชะลอการลง

รายละเอียด

- ประเด็นหลักเมื่อวานนี้อยู่ที่ผลการประชุม FOMC ที่ออกมากล่าวว่า จะลดวงเงิน QE จนหมดในเดือนหน้าแล้วตามที่ได้กล่าวไว้ในการประชุมครั้งก่อนซึ่งก็ตรงตามที่บอกไว้ ในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยก็กล่าวทำนองว่า จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์กันโดยจะขึ้นดอกเบี้ยโดยมีเงื่อนไข Considerable time เช่นเดิม ก็มีคนถามอีกว่า ช่วงเวลานั้นนานแค่ไหน FED ก็ได้ตอบประมาณว่า ยังไม่แน่ใจ ขอดูตัวเลขเศรษฐกิจเพิ่มเติมกว่านี้อีก ทั้งนี้มีสิ่งหนึ่งคือ เมื่อขึ้นนั้นดูแล้วน่าจะขึ้นในสเกลที่มากกว่าเดิม ประมาณการณ์ดอกเบี้ย FED Fund rate ณ สิ้นปี 2558 เท่ากับ 1.375% จากที่เคยคาดวไว้ว่า 1.125% ในเดือนมิถุนายนและในสิ้นปี 2560 น่าจะขึ้นไปแตะระดับ 3.75% ส่วนเป้าหมายการเติบโตนั้นก็ใกล้เคียงเดิม จากผลการประชุมครั้งนี้ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าสุดๆในรอบ 6 เดือนเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน และส่งผลให้ทองคำปรับตัวลดลงแรงเมื่อคืนนี้ ส่วนตลาดหุ้นยังค่อนข้างทรงตัว เพราะ ตลาดเลือกที่จะรับข่าวว่า จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในระยะสั้นนี้ ถึงแม้จะยังไม่ขึ้น แต่ถ้าขึ้นทีจะขึ้นในสัดส่วนที่มากก็ต้องมาดูกันว่า ตลาดจะรับข่าวแบบไหนต่อไป

- ตัวเลข CPI หรือ ดัชนีราคาผู้บริโภค ของอเมริกาเมื่อวานปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบหลายเดือนออกมาที่ระดับ –0.2% จากเดือนก่อนหน้า 0.1% เท่ากับคาดการณ์ และ Core CPI ก็ปรับตัวลดลงเล็กน้อย แสดงให้เห็นถึงทิศทางเงินเฟ้อของอเมริกานั้นกลับมาชะลอตัวลงในเดือนนี้ ข่าวชิ้นนี้ไปตรงกับ PPI หรือเงินเฟ้อภาคการผลิตที่ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน

- มีการคาดการณ์กันว่า ระดับราคาที่ทองลงไปจนถึงระดับ $1200 จะทำให้แรงซื้อ Physical เข้ามาและจะสามารถช่วยพยุงราคาได้รวมถึงจะมีคนที่คอยกินส่วนต่างราคาจากการที่ราคาลงแรง (Bargain Hunter) เข้ามาในตลาดและช่วยสนับสนุนทองคำได้

- อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 0.4% ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าเดือนก่อนๆหน้าเล็กน้อยแต่ก็ยังอยู่ในระดับต่ำ ส่วนอัตราว่างงานลดลงต่ำสุดในรอบ 6 เดือน

- กนง.มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยไว้ที่ระดับ 2% ด้วยคะแนนเสียง 5-1 ให้ความเห็นว่าถึงแม้ในประเทศจะมีความเชื่อมั่นฟื้นขึ้น แต่เศรษฐกิจโลกยังไม่สดใสเท่าไรนัก

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD 

Unemployment claims 312K 315K
Building permits 1.04M 1.06M
Housing starts 1.04M 1.09M

19.45 USD 

FED Chair Yellen speaks 

21.00 USD

Philly FED Manufacturing index 22.8 28.0

แนวทางทองคำวันที่ 17-9-57

เเนวรับ 1230 1225 1220 เเนวต้าน 1242 1245 1252

เมื่อวานนี้ราคาขึ้นมาหยุด 1242 จากนั้นมีแรงขายลงไปถึงบริเวณ 1230 และขึ้นมาปิดที่ 1235 ปิดเป็นแท่งเทียนที่มีแรงขายเยอะกว่า ทำให้มองว่า ภาพรวมยังไม่ดูดียังไม่มีสัญญาณซื้อเกิดขึ้นแนวโน้มในทางลงยังแข็งแรงอยู่ แต่ในวันนี้มองการขึ้นไปทดสอบ 1242 บริเวณนั้นอีกทีหนึ่ง แต่ยังมองว่า ฝั่งลงได้เปรียบกว่า ทั้งนี้ในวันนี้จะมีผลการประชุม FOMC ที่มีความผันผวนพอสมควร จึงต้องติดตามกันให้ดี เพราะ ข่าว High impact พวกนี้มักจะเป็นตัวสร้างกราฟขึ้นมามากกว่า สำหรับการคาดการณ์ของตลาดในตอนนี้เป็นไปในทางที่ว่าจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนด ถ้ามีอะไรผิดคาดอาจจะทำให้เด้งกลับขึ้นไปได้

ต่างชาติยังคงซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 872 ล้านบาท แต่ยังคงการ Short สุทธิในฟิวเจอร์ไว้อีกถึง 4,564 สัญญา ทิศทาง SET ถึงแม้เมื่อวานจะลงมาค่อนข้างมาก แต่วันนี้จากตลาดหุ้นทั่วโลกที่ขึ้นมาเยอะพอสมควรอาจจะทำให้ช่วงเปิดช่วงแรกมีแรงซื้อเข้ามาและต้องมาติดตามกันว่า แรงซื้อจะมีมากพอไหม ภาพรวมยังคงพักฐานอยู่ยังไม่เสียทรงมากนัก ค่าเงินบาทยังอยู่ในแนวโน้มอ่อนค่าแกว่งตัวใต้แนวต้าน 32.30

ทางเลือกหลัก : ราคามีแนวโน้มกลับขึ้นไปทดสอบด้านบนอีกรอบหนึ่ง แต่ยังมองว่า โอกาสผ่านน้อยในวันนี้ ต้องไปติดตามผลการประชุม FOMC ในตี 1 ตามเวลาบ้านเรา

ทางเลือกรอง : ราคากลับขึ้นไปยืนเหนือกว่าระดับ 1242 ได้จะทำให้แนวโน้มดูดีขึ้นกว่าเดิม

รายละเอียด

- ในวันนี้จะมีผลการประชุม FOMC ที่ตลาดคาดการณ์และจับตามองกันว่าจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนดหรือไม่เสียงก่อนการประชุมก็ยังแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งเช่นเดิม ทั้งขึ้นไวกว่ากำหนดและน่าจะยังไม่ขึ้น ก็เป็นเหมือนทุกครั้งที่มีการประชุม ในคราวนี้ตลาดได้สะท้อนข่าวเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยไวไปพอสมควร ซึ่งถ้า FED ไม่มีมาตรการหรือทิศทางที่แสดงให้เห็นถึงมุมนี้ ตลาดอาจจะรีบาวน์กลับขึ้นมาได้บ้าง ต้องติดตาม และก่อนหน้าผลการประชุมจะมีข่าวประกาศเล็กน้อยอย่าง CPI หรือ ดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งตัวนี้ไม่ได้มีผลกับทองโดยตรงมากนัก แต่จะไปมีผลโดยตรงต่อการตัดสินใจของ FED

- ตัวเลข PPI หรือดัชนีราคาฝั่งผู้ผลิตออกมาเมื่อวานนี้พบว่า หดตัวลงเล็กน้อย แสดงถึงทิศทางเงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิตที่ชะลอตัวลง ซึ่งข่าวชิ้นนี้ไม่ได้มีผลโดยตรงต่อทองเช่นกันเพียงแต่จะไปเข้าการตัดสินใจของ FED ได้

- ธนาคารกลางจีนประกาศอัดฉีดสภาพคล่องเข้า 5 ธนาคารยักษ์ใหญ่วงเงิน 5 แสนล้านหยวน โดยจะแบ่งให้ธนาคารละ 1 แสนล้านหยวนผ่านช่องทางการให้สินเชื่อระหว่างธนาคารกลางกับธนาคาร ซึ่งข่าวนี้ถึงแม้จะไม่ส่งผลโดยตรงกับทองแต่คาดว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นจะทำให้มีความต้องการซื้อทองคำแท่งจากประเทศที่มีการบริโภคทองคำรายใหญ่ของโลก

- Physical demand ในประเทศจีนได้เพิ่มมากขึ้นในวันจันทร์ที่ผ่านมาหลังจากราคาตกลงมาค่อนข้างมาก ทำให้ค่าพรีเมียมของทองคำปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์นี้ เป็นสัญญาณที่เริ่มดีขึ้นบ้าง แต่ดีมานด์ที่เข้ามานั้นหลายคนมองว่า ยังไม่มากพอที่จะพยุงราคาในช่วงนี้ได้

- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวขึ้นเมื่อวานนี้ถึงแม้จะไม่มีข่าวสำคัญ แต่มีเพียง Jounalist คนหนึ่งที่ให้ความเห็นไว้ใน Wall Street’s Journal website ว่า FED น่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำไว้ วิเคราะห์กันว่า ถึงแม้จะเป็นแค่ความเห็น แต่ความเห็นนี้มาถูกเวลาที่ตลาดกังวลอยู่พอดีจึงนำข่าวนี้มาเล่นประกอบกับกลุ่มพลังงานที่ได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ขึ้นมาแรงเมื่อวานนี้จึงทำให้มีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงานเข้ามา ทั้งนี้ทิศทางโดยรวมและตลาดอื่นๆก็ยังรอดูทิศทางของ FED คืนนี้

- SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำลงอีกเมื่อวานนี้ 4.18 ตัน คงเหลือการถือครองที่ระดับ 784.22 ตัน

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD

CPI 0.1% 0.1%
Core CPI 0.2% 0.1%

1.00 USD

FOMC Statement

แนวทางทองคำวันที่ 16-9-57

เเนวรับ 1230 1225 1220 เเนวต้าน 1242 1245 1252

ทองคำเริ่มปรับตัวหลุด Downtrend ออกมาเมื่อเช้า มองว่า การหลุดออกมานั้นจะทำให้ราคาเกิดได้ 2 แบบ คือ ชะลอการลง และแกว่งตัวเป็น Sideways ออกข้าง อีกแบบหนึ่งก็คือการปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งกรณีการปรับตัวสูงขึ้นนั้นจะมองเป็นไปอย่างจำกัดในช่วงนี้จากที่ใกล้ผลการประชุม FOMC ทำให้ราคามีแนวโน้มค่อนข้างนิ่งๆ ค่าเงินก็เช่นเดียวกันยังค่อนข้างแกว่งตัวอยู่ในกรอบไม่มีทิศทางที่ชัดเจน แต่เมื่อมองที่ตัวทองคำแล้วพบว่า ยังอยู่ในแนวโน้มขาลงในภาพรวมอย่างชัดเจน การปรับตัวขึ้นถึงออกข้างในวันนี้จะมีแนวต้านอยู่บริเวณ 1242 และขึ้นไปจนถึงบริเวณ 1252 แนวต้านนั้นค่อนข้างหนาแน่นในทุกโซน การขึ้นยังมองว่า ยังขาดข่าวมาสนับสนุนอยู่

ต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีกเล็กน้อย 642 ล้านบาท แต่กลับลำไป Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก 3,580 สัญญา เมื่อวานนี้มีการประกาศจ่ายเงินปันผลของ PTT ทำให้โดยรวมตลาดถูกฉุดลงมาด้วยมูลค่าตลาดของหุ้นตัวใหญ่ แต่ทิศทางก็ยังคงแกว่งตัวถึงพักลงมาด้านล่าง แนวโน้มน่าจะรอผลการประชุม FOMC เช่นเดียวกันกับทองคำ พบว่า ตลอดทางที่ลงมีแรงซื้อเข้ามาตลอด ค่าเงินบาทแนวโน้มยังคงอยู่ในโซนของการอ่อนค่าต่อไปแนวต้านระยะสั้นอยู่บริเวณเดิมที่ 32.30

ทางเลือกหลัก : ราคาแกว่งตัวออกข้าง หรือปรับตัวเพิมขึ้นไปก่อน จากการหลุด Downtrend มาเมื่อเช้านี้ โดยมีแนวต้าน 1242 เป็นแนวต้านแรกยาวขึ้นไปถึง 1252 แต่มองการปรับตัวขึ้นจะเป็นไปอย่างจำกัดจากข่าวที่ยังไม่มีและรอผลการประชุม FOMC 

ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวกลับลงมาใน Downtrend อีกครั้ง ซึ่ง ณ จุดนี้คือการปรับตัวลงมาเกินกว่าระดับ 1230 จะเป็นการเปิดให้ราคาลงต่อไปอีก

รายละเอียด

- ตัวเลข Empire state manufacturing index ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 27.5 จากเดือนก่อนหน้า 14.7และคาดการณ์ที่ระดับ 16.4 แต่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิตกลับปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าทั้งหมด จึงทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวานนี้ออกมาในทิศทางที่ไม่ชัดเจน ประกอบกับการเป็นข่าวที่ไม่ค่อยแรงเท่าไรจึงทำให้ทองคำไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวจากก่อนการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจเท่าไร

- ทองคำเริ่มมีแรงซื้อเข้ามาบ้างเล็กน้อย เพียงแต่นักวิเคราะห์จากต่างประเทศมองว่า ยังไม่ค่อยมีคนกล้าเข้าสถานะซื้อ Lot ใหญ่ๆในทองคำจึงทำให้การปรับตัวขึ้นยังไม่มากสาเหตุมาจากที่ FED จะประชุม FOMC ในคืนนี้และวันพรุ่งนี้เกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งถ้าอัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นนั้นจะทำให้ทองคำที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีดอกเบี้ยจ่ายระหว่างถือครองจะมีความน่าสนใจลดลง และ เมื่อขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและไปกดดันทองคำอีกต่อหนึ่ง

- เหมืองทองในแอฟริกา AngloGold ได้มีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นจากราคาทองคำที่ปรับตัวลดลงซึ่งมีข่าวว่าพร้อมจะขายหุ้นหรือสินทรัพย์ของบริษัททิ้งเพื่อนำเงินมาใช้ในการชำระหนี้ ข่าวนี้ต้องติดตามว่าจะส่งผลต่อทองคำอย่างไร การปิดเหมืองจะทำให้ Supply เพิ่มขึ้นจากการขายทองคำหรือไม่ หรือ จะเป็นกรณีที่ปิดเหมืองวแล้วจะทำให้ Supply ลดลงจากการผลิตที่น้อยลง

- ตลาดหุ้นอเมริกาปิดผสมกันมีทั้งเพิ่มขึ้นและลดลง ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ NASDAQ ที่เป็นตลาดหุ้นที่เป็นที่อยู่ของบริษัทจดทะเบียนที่ทำอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิคส์ปรับตัวลดลงก่อนหน้าที่จะมีการ IPO หุ้น Alibaba ซึ่งการ IPO หุ้นตัวนี้เป็นที่น่าจับตามองกันมากโดยบริษัทจะเป็นเกี่ยวกับธุรกิจ E-commerce ในประเทศจีน

- มีความเห็นจาก Mark Mobius ที่ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ไว้ว่า จีนจะยังไม่เกิดการถดถอยอย่างรุนแรงและรวดเร็ว (Hard landing) เพราะ การเติบโตที่ระดับ 6-7% นั้นยังอยู่ในระดับที่สูง ในวันนี้ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดเนื่องจากพายุไต้ฝุ่น

- OECD ปรับลดประมาณการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้วเกือบทั้งหมดทั้ง US EU JP

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

17.00 EUR 

ZEW economic sentiment 21.3 23.7
German ZEW 5.2 8.6

19.30 USD

PPI 0.1% 0.1%
Core PPI 0.1% 0.2%

แนวทางทองคำวันที่ 12-9-57

เเนวรับ 1234 1225 1220 เเนวต้าน 1245 1250 1257

เมื่อวานนี้ราคาหลุดลงไปต่ำกว่าระดับ 1240 แต่ตตลาดโดยรวมไม่ได้เกิดอาการ Panic เท่าไรนัก ในวันนี้มีโอกาสให้ราคาขึ้นไปยืนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งถ้าราคากลับขึ้นไปทดสอบแล้วไม่สามารถยืนได้ ทองคำจะได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมอีกไปจนถึงระดับ 1180-1200 เนื่องจากตลาดยังไม่ได้เป็นลักษณะของตกใจจึงมองว่า อาจจะมีแรงซื้อเข้ามาได้บ้างในระดับนี้หลังจากราคาทองคำลงมาอย่างต่อเนื่องกว่า $50 เหรียญแล้วในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องลุ้นแรง Physical ที่เคย Support ระดับนี้เมื่อกลางปี แต่เมื่อดูปัจจัยอื่นๆแล้วพบว่า การขึ้นของทองนั้นค่อนข้างยากมาก เพราะ ไม่มีข่าวใดมาสนับสนุนเลย ต้องรอให้เกิดสงครามเท่านั้น

ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยอีกเล็กน้อย 174 ล้านบาท แต่ยัง Short สุทธิในฟิวเจอร์เพิ่มอีก 3,507 สัญญา เมื่อวานนี้ SET มีแรงซื้อไล่ขึ้นมาในช่วงเช้าก่อนที่จะโดนทุบกลับไปในช่วงบ่ายทั้งนี้ PTT ยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่ออีก แต่โดยรวมแล้วมองว่า น่าจะเริ่มมีการพักฐานเกิดขึ้น สำหรับค่าเงินบาทแนวโน้มยังคงแกว่งตัวบนแนวรับ 32.10 ระยะสั้นเข้าสู่แนวโน้มอ่อนค่าลงโดยมีแนวต้าน 32.30 เป็นแนวต้านแรก ปัจจัยในประเทศยังไม่ค่อยมีมากนัก ส่วนนอกประเทศก็ยังนิ่งๆต้องติดตามให้ดี

ทางเลือกหลัก : ในวันนี้ให้โอกาสทองคำขึ้นอีกครั้งหนึ่งถายังไปยืนเหนือ 1250 ไม่ได้เตรียมตัวเห็นทองคำปรับตัวลดลงอีกระลอกไปยัง 1180-1200

ทางเลือกรอง : ราคาปิดเหนือ 1250 ได้ ยิ่งสูงกว่ายิ่งดี ยิ่งมีลุ้นรีบาวน์กลับ

รายละเอียด

- ทองคำยังคงได้รับปัจจัยลบเต็มๆจาก การคาดการณ์ว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนด ซึ่งจะมีการประชุม FOMC ในวันพุธ และ พฤหัสหน้า นักวิเคราะห์จากต่างประเทศให้ความเห็นว่า จนกว่าจะมีผลการประชุมออกมา ทองคำน่าจะโดนกดดันต่อไปอย่างนี้เรื่อยๆ เงินดอลลาร์ยังคงมุ่งหน้าแข็งค่าขึ้นต่อ พันธบัตรที่โดนแรงเทขายและปรับตัวลดลงมาเรื่อยๆ นับตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนตลาดพันธบัตรปรับตัวลดลงทุกวัน (Yield เพิ่ม) แสดงให้เห็นถึงตลาดได้สะท้อนการคาดการณ์ว่าจะลดดอกเบี้ยเข้าไปมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนตลาดหุ้นยังค่อนข้างทรงตัว เพราะยังขาดปัจจัยใหม่ๆ แต่เริ่มพักฐานออกข้างและเริ่มตกมาบ้างโดยให้เหตุผลว่า หุ้นกลุ่มพลังงานโดนเทขายหลังจากน้ำมันดิบปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบปีนี้ แต่เมื่อตลาดหุ้นตกก็ยังมีแรงซื้อเข้ามารับอย่างแข็งแกร่งและไม่ได้ทำให้ภาพรวมเสียไปมากนัก

- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาปรับตัวสูงขึ้น 315K จากเดิมที่ระดับ 304K ซึ่งโดยเนื้อข่าวแล้วควรจะทำให้ทองคำขึ้นมาได้บ้าง เพราะ คนขอรับสวัสดิการว่างงานมากขึ้นก็ตีความได้ว่า ไม่ดี แต่การรีบาวน์เป็นไปอย่างจำกัดและถูกแรงเทขายตามลงมาตามแนวโน้มเดิมและ Sentiment ของตลาดที่ยังไม่ดี ทั้งนี้เมื่อคืนที่ผ่านมาหลุดระดับ 1240 มาแต่ยังไม่เป็นลักษณะของการ Panic เท่าไรนัก ยังมองว่า ถึงแม้ในแนวโน้มรวมไม่สวย แต่ก็ยังพอมีหวังในระยะสั้นได้บ้าง

- นักวิเคราะห์จาก HSBC ได้ออกมาให้ความเห็นว่า ถึงแม้ทองคำถ้ามองกันในภาพ Macro แล้วจะขึ้นยาก แต่เมื่อราคาตกลงมาแล้วก็อาจจะมีดีมานด์ใน Physical กลับขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งและอาจจะช่วยพยุงตลาดได้ แต่ความต้องการใน Physical ในช่วงที่ผ่านมานั้นค่อนข้างเบาบางถึงแม้ราคาจะลงมา คาดว่าอาจจะยังลงไม่มากพอที่จะกระตุ้นแรงซื้อเข้ามาได้ และก็มี Trader ในฮ่องกงระบุว่า ดีมานด์เข้ามาบ้างใน 2-3 วันนี้จากราคาที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้เข้ามาแบบแข็งแกร่งเท่าไรนัก

- ความต้องการทองคำแท่งในอินเดียก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากใกล้จะถึงเทศกาล Diwali festival แต่ขณะเดียวกันภาษีการนำเข้าทองคำยัคงอยู่ในระดับที่สูงอยู่

- แผนคว่ำบาตรของอียูต่อรัสเซียคาดว่าจะได้เห็นในวันพรุ่งนี้ประกอบกับ โอบามาได้เข้ามาร่วมสนับสนุนการคว่ำบาตรรอบนี้ด้วย แต่ก็ยังไม่มีผลกับทองคำมากนักสำหรับข่าวนี้

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD 

Retail sales 0.3% 0.0%
Core retail sales 0.2% 0.1%

20.55 USD 

Prelim consumer sentiment 83.2 82.5

แนวทางทองคำวันที่ 11-9-57

เเนวรับ 1243 1240 1230 เเนวต้าน 1251 1257 1262

ทองคำยังคงอ่อนตัวลงต่อยังไม่มีสัญญาณกลับตัวที่มีนัยสำคัญ เมื่อวานนี้ยังไม่สามารถผ่าน 1257 ไปได้ และก็ลงมาต่อ เพียงแต่เกิด Bullish divergent ซ้อนอีกลูกหนึ่ง จึงมองว่า ถึงแม้จะลงต่อแต่ก็ต้องเผื่อที่จะดีดไว้ด้วย เพราะ ถึงจุดนี้น่าจะได้เห็นการพักตัวขึ้นแล้ว (ถึงแม้จะยังไม่เห็นสัญญาณกลับตัวมาเลยก็ตาม) มองว่า ถ้าต้องทำอะไรสักอย่าง ควรเริ่มรอซื้อมากกว่าที่จะขายสวนลงมา กรณีทิ่อยากขายให้รอจังหวะรีบาวน์เมื่อราคาต่ำกว่า 1240 ปัจจัยบวกก็ยังหาไม่เจอในตลาดทองคำในตอนนี้ จึงมองว่า การขึ้นแต่ละรอบจะยังคงไม่แข็งแรงเท่าไรนัก เงินยูโรก็เริ่มสร้างฐานอยู่บริเวณนี้หลังจากปรับตัวลดลงมาแรงในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า 

ต่างชาติกลับมาขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 8 วันทำการเล็กน้อย 224 ล้านบาท แต่ยังคงสะสม Short สุทธิเรื่อยๆเพิ่มอีก 2,995 สัญญา ช่วงนี้มีแรงซื้อเข้ามากลุ่ม PTT และ SCC ซึ่งสองตัวนี้มีผลกับดัชนีค่อนข้างเยอะ แต่กลุ่มที่กดตลาดก็คือกลุ่ม Bank ที่ประกาศ XD ทำให้ดัชนี SET ลงแล้วกลับมาฟื้นตัวได้ แต่ยังคงมองว่า ยังน่าจะพักฐานอยู่ ต้องลุ้นๆกันสำหรับดัชนีช่วงนี้ แต่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเกินกว่าระดับ 31.10 แล้วในระยะสั้นมองการอ่อนค่าลงไปอีก

ทางเลือกหลัก : ถึงแม้ราคาจะส่งสัญญาณลงต่อ และ ยังไม่เห็นสัญญาณกลับตัวก็ตาม แต่มองว่าระดับนี้ อาจจะได้เห็นแรงซื้อเข้ามาและเริ่มรีบาวน์ ยังไม่แนะนำให้ Short สวนลงมาบริเวณแนวรับนี้ รอดูว่าการกลับตัวจะเกิดได้หรือไม่

ทางเลือกรอง : -

รายละเอียด

- ทองคำในตอนนี้กำลังซื้อขายกันที่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา และเข้าใกล้จุดต่ำสุดเมื่อกลางปีที่ระดับ $1240 จากปัจจัยหลักดังนี้ คือ การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐที่ไปทำจุดสูงสุดในรอบ 13 เดือน แตะระดับ 84 จากการคาดการณ์ถึงการขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนดของ FED ซึ่งจริงๆแล้วข่าวนี้มีมานานแล้วแต่พึ่งจะนำมารับข่าวกัน ประกอบกับ สถานการณ์ในยูเครนที่สงบลง ทำให้ทองคำไม่เป็นที่น่าสนใจอีกต่อไป ในขณะที่ทองคำลงมานั้นได้มีกลุ่มที่เรียกว่า Bargain hunters หรือคนที่ล่าส่วนต่างราคาเข้ามาดูจาก SPDR ที่มียอดซื้อสุทธิ 3 ตันในวันพุธ ทำให้กองทุนถือครองทองคำเพิ่มเป็น 788.72 ตัน

- ตลาดหุ้นอเมริกาเริ่มปรับตัวลดลงแต่หลายคนก็ยังรอดูทีท่าก่อน เพราะ บางส่วนนั้นมองว่า วอลุ่มที่เบาบางขณะที่ขึ้นและหมดข่าวที่จะเล่นอาจจะทำให้ตลาดมีการพักฐานลงมาได้ อีกฝั่งหนึ่งก็ปรับเพิ่มประมาณการณ์เป้าดัชนีปลายปีขึ้นมา ทำให้มีการพาดหัวที่เรียกว่า Bears become bulls เกิดขึ้น ต้องมาติดตามกันว่า จะเป็นอย่างไร แต่ความเห็นส่วนตัวมองว่า ตลาดหุ้นน่าจะมีการพักฐานลงบ้างแล้วในช่วงนี้ก่อนที่จะไปต่อในช่วงสิ้นปี เนื่องจาก การฟื้นตัวของอเมริกาจะยังคงเป็นไปตามแนวโน้มที่ดีขึ้น

- นายกรัฐมนตรีของจีน นาย Li Kiqiang ได้ให้ความเห็นว่า การปฎิรูปเชิงโครงสร้างของจีนจะพัฒนาคุณภาพการเติบโตของประเทศและช่วยลดความเสี่ยงที่เรียกกันว่า Hard landing (เศรษฐกิจถดถอยแบบรวดเร็ว) และกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จะไม่เน้นที่มาตรการผ่อนคลายทางการเงินแต่จะเน้นไปทางการปฎิรูปแทน ซึ่งทำไปเพื่อลดความผันผวนระหว่างการเติบโตลง เนื่องจาก GDP ของจีนออกมาขยายตัว 7.5% ในไตรมาสนี้ เทียบกับ 7.4% ในไตรมาสก่อนหน้าซึ่งเป็นไตรมาสที่ขยายตัวน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับ 6 ไตรมาสที่ผ่านมา หรือประมาณ 1 ปีครึ่ง จึงทำให้จีนจำเป็นที่จะต้องมีการปฎิรูปเชิงโครงสร้าง

- BOJ หรือธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ปรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงต่ำกว่าระดับ 0 ผ่านการซื้อพันธบัตรเพื่อกระตุ้นเงินเฟ้อและเป็นแนวทางในการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมอีก

- ตัวเลขเงินเฟ้อของจีนขยายตัว 2% ซึ่งเป็นการปรับน้อยลงจากเดือนที่แล้วที่ระดับ 2.3% ในขณะที่คาดการณ์ไว้ที่ 2% อยากได้ Physical demand ในทองแท่งเยอะๆนั้นต้องลุ้นให้จีนฟื้นตัวแรงๆ 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD 

Unemployment claims 306K 302K

แนวทางทองคำวันที่ 10-9-57

เเนวรับ 1250 1245 1240 เเนวต้าน 1257 1262 1265

เมื่อคืนหลังจากราคาปรับตัวลงมาระดับ 1250 และลึกไปจนถึงระดับ 1245 แต่ก็มีแรงซื้อเข้ามาค่อนข้างแรง ในช่วงนี้จะเห็นว่าเป็นเทรนลงชัดเจน ในระดับ 1240-1250 นั้นมองว่า เป็นที่อยู่ของ Low เดิม และ เป็นโซนที่มี Demand จากรอบที่แล้วค่อนข้างหนาแน่น จึงไม่ควรที่จะ ขาย ก่อน และรอลุ้นจังหวะรีบาวน์ขึ้นมาจะดีกว่า ซึ่งแนวต้านของรอบรีบาวน์จะอยู่ที่เส้นแนวต้าน Downtrend line เดิมบริเวณ 1262 (มีแนวต้านย่อย 1257) ที่ไปทดสอบ 3-4 ครั้งและไม่มีครั้งไหนผ่านไปได้ ในวันนี้มองการขึ้นไปทดสอบอีกรอบหนึ่งจากแรงส่งที่เข้ามาบริเวณแนวรับ และ Heiken ashi สีขาว ที่เริ่มแสดงให้เห็นถึงแรงขายได้ชะลอตัวลงแล้ว

ต่างชาติยังคงเดินหน้าซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยอีกหลักพันล้านบาท และยังคง Short สุทธิในฟิวเจอร์อีกหลักพันสัญญาเช่นเดียวกัน สำหรับตลาดหุ้นก็ยังส่งสัญญาชะลอตัวลง และต้องมาดูว่า ท่ามกลางตลาดหุ้นทั่วโลกที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงตลาดหุ้นไทยจะมีแรงซื้อเข้ามาสู้ขนาดไหน ส่วนค่าเงินบาทยังคงแกว่งตัวอ่อนค่าเพียงแต่ยังไม่ผ่าน 32.10 ออกมาอย่างขาด ถ้าผ่านได้มองอ่อนค่าลงไปอีกถึงระดับ 32.30

ทางเลือกหลัก : มองราคากลับขึ้นไปทดสอบ 1260-1262 ซึ่งน่าติดตามระดับนั้นว่าจะผ่านหรือไม่ มองว่าฝั่ง Short นั้นเริ่มไม่ได้เปรียบแล้ว เพราะ ค่อนข้างเป็นแนวรับใหญ่บริเวณนี้ โดยมีแนวต้านระยะสั้น 1257

ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1262 ขึ้นไปจะได้การรีบาวน์ในรอบใหญ่หน่อย หรือ หลุด 1240 ลงมา จะปรับตัวลดลงอีกเยอะเช่นเดียวกัน

รายละเอียด

- เมื่อวานนี้ประเด็นหลักจะอยู่ที่การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นอเมริกาที่ S&P 500 ปรับตัวลดลงมาหลังจากขึ้นไปยืนอยู่บนระดับ 2000 จุด ในขณะที่ ดาวโจนส์ปรับตัวลดลงแบบ Triple-digit หรือตัวเลขสามหลัก โดยเหตุผลที่ให้คือ การที่ FED อาจจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนด แต่อีกทางหนึ่งก็มีการพาดหัวไว้ว่า สาเหตุที่หุ้นตกนั้นเนื่องมาจากการที่ไม่มีเหตุผลอะไรอีกแล้วที่หุ้นจะขึ้น ซึ่งก็สะท้อนให้เห็นว่า เมื่อหมดแรงซื้อก็จะเข้าสู่ช่วงขายออกมา แต่ต้องมาดูว่าแรงขายจะรุนแรงขนาดไหน VIX index ปรับตัวสูงขึ้น 13.5 จุด (6.6%) เป็นวันที่สองติดต่อกัน โดยปกติยิ่ง VIX index ปรับตัวสูงขึ้นจะหมายถึง ความผันผวนที่มากขึ้นผู้เล่นในตลาดกลัวมากขึ้น และ ตลาดหุ้นมักจะปรับตัวลดลง

- กระแสเงินดอลลาร์แข็งค่าช่วงนี้มาแรง ล่าสุดดอลลาร์สามารถผ่านระดับ 84 ไปได้ ส่งผลให้เงินสกุลคู่ตรงข้ามกับดอลลาร์อย่าง เยน ปรับตัวอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายปี โดยประเด็นหลักที่ทำให้เงินดอลลาร์แข็งนั้น คือ การขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้า รวมถึง ยูโรโซนที่ออกอาการจะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ทำให้ประเทศญี่ปุ่นได้รับปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของเงินเยน เพราะ เศรษฐกิจญี่ปุ่นเป็นเศรษฐกิจที่เน้นการส่งออก

- ทองคำปรับตัวลดลงเนื่องมาจากการที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากการคาดการณ์ถึงการขึ้นดอกเบี้ยเป็นหลัก โดยมีปัจจัยรองที่สนับสนุนคือ การนำเข้าของจีนที่ลดลง และสถานการณ์ในยูเครนที่สงบลงหลังจากมีข้อตกลงในการหยุดยิง ซึ่งเป็นการสงบครั้งแรกในรอบ 5 เดือน และมีผู้เสียชีวิตมากถึง 3000 คน

- มีการสัมภาษณ์ว่า การที่ EU จะทำการคว่ำบาตรเพิ่มเติมนั้นไม่ส่งผลดีกับเศรษฐกิจโลก เพราะ รัสเซียก็ถือเป็นผู้บริโภครายใหญ่รายหนึ่ง หากมีการคว่ำบาตรจะทำให้สินค้าล้นตลาด และในวันนี้จะมีการประชุมเพิ่มเติมของอียูถึงมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียว่าจะทำหรือไม่ และ ทำแบบไหน

- รัฐบาลเยอรมันและฝรั่งเศสมีทีท่าจะไม่สนใจแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของ ECB ในการเข้าซื้อสินทรัพย์ผ่านมาตรการ ABS

- Moody ลดเครดิตความน่าเชื่อถือของบราซิลลงเป็นลบ ซึ่งระดับปัจจุบันนั้นบราซิลอยู่ระดับสุดท้ายของเครดิตที่อยู่ในหมวด Investment grade เนื่องจากเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยในรอบ 5 ปี

แนวทางทองคำวันที่ 9-9-57

เเนวรับ 1250 1245 1240 เเนวต้าน 1260 1265 1270

ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อมายังโซน 1255 ซึ่งระดับ 1250 นี้มองว่า จะเป็นระดับที่มีดีมานด์เข้ามาค่อนข้างมากแล้ว เพียงแต่ ยังไม่เห้นสัญญาณกลับตัวขึ้นไปที่มีนัยสำคัญประกอบกับข่าวบวกที่น้อยจึงมองว่า อาจจะลงต่อได้อีก และก็จะมีแนวรับสำคัญอีกแนวหนึ่งที่ 1240 หลุดจากตรงนี้ไป ค่อนข้างเสียทรงมากและจพไปยัง 1180 ทันที ที่เป็นแนวรับสำคัญของสองรอบที่ผ่านมา ในวันนี้มองการปรับตัวขึ้นไปด้านบนเล้กน้อยในลักษณะของการรีบาวน์ไปยัง 1260-1260 ซึ่งเป็นการมองว่ารีบาวน์เพื่อลงต่อ กรณียืนระดับ 1265 ได้ที่เป็นเส้นเทรนไลน์ที่หลุดลงมาเท่านั้น จึงจะทำให้กลายเป็นกลางไป ข่าวดียังไม่เห็นเช่นเดิมในตลาดทองคำ

ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 อีก 1,442 ล้านบาท แต่ไป Long สุทธิเป็นวันแรกเล็กน้อยในรอบ 3 วันทำการ 198 สัญญา ทิศทาง SET ยังคงแกว่งตัวไปมาเมื่อวานนี้ปิดลบเล็กน้อย ไม่ได้มีทิศทางที่มีนัยสำคัญเท่าไรนัก ส่วนค่าเงินบาทนั้นอ่อนสวนทางกับดอลลาร์ขึ้นมาและสามารถผ่านแนวต้าน 32.12 ไปได้ มองว่า ถ้าเกิดยืนอยู่ในระดับนี้ได้จริงแนวโน้มจะไปต่อที่ระดับ 32.30 นั้นค่อนข้างสูง

ทางเลือกหลัก : มองการปรับตัวขึ้นไปด้านบนอีกแต่มุมมองยังเป็นปรับตัวขึ้นเพื่อลง หลังจากเมื่อวานราคาออกอาการอ่อนแอไม่สามารถยืนอยู่ในระดับบนได้ โดยมีแนวต้าน 1260-1265

ทางเลือกรอง : ราคาขึ้นไปยืน 1265 จะทำให้เป็นกลางขึ้น

รายละเอียด

- ข่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมามีการทำประชามติของ สก๊อตแลนด์ว่าจะออกจากการปกครองของอังกฤษหรือไม่ ผลปรากฏว่า ฝ่ายที่ต้องการจะแยกตัวออกเป็น independence ชนะด้วยเสียง 51% ต่อ 49% ซึ่งมีเวลาอีกประมาณ 10 วันที่จะเปิดให้มีการโหวตอย่างเป็นทางการ ข่าวนี้มีมาสักพักหนึ่งแล้วเพียงแต่ยังไม่มีน้ำหนักมากพอให้ต้องกังวลแต่เมื่อมาถึงจุดนี้ดูเหมือนสก๊อตแลนด์จะไปเจรจากับรัฐบาลอังกฤษเรียบร้อยและคาดว่าถ้าผลโหวตออกมาที่ระดับนี้จริงจะทำให้สก๊อตแลนด์จะกลายเป็น Independence ซึ่งผลเสียที่ตามมาคือ การแยกตัวออกจากอังกฤษนั้นจะมีปัญหาตามมาอย่างเช่น ธนาคาร RBS ที่เป็นของสก๊อตแลนด์แต่อังกฤษได้เข้ามาให้เงินช่วยเหลือ หรือ บริษัทอย่าง Chevron ที่มี Field อยู่ที่สก๊อตแลนด์ และจะแบ่งภาษีกันอย่างไร หรือแม้แต่หนี้สาธารณะจะแบ่งกันยังไง และปัญหาที่ตามมาที่จะกระทบกับเงินดอลลาร์และยูโรคือ การที่สก๊อตแลนด์โหวตจะออกจากอังกฤษนั้นจะทำให้เงินปอนด์อ่อนค่าลงอย่างแรงซึ่งจะเห็นแล้วจากเมื่อวานและเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง ทำให้เงินยูโรอ่อนค่าลง และดอลลาร์แข็งค่าขึ้นตามที่เห็นเมื่อวานเช่นกัน ซึ่งสิ่งที่มากระทบต่อคือ ECB มีแผนจะทำ QE และ FED กำลังจะลดวงเงินดูดกลับเข้าไป ซึ่งตามปกติสิ่งนี้จะทำให้เกิดการอ่อนค่าของยูโรและแข็งค่าของดอลลาร์อยู่แล้ว ตลาดจึงกังวลว่า และจะเอายังไงต่อไป ?? ส่วนเงินเยนญี่ปุ่นก็ยังคงอ่อนค่าต่อไปมากเช่นเดียวกัน ถึงแม้ GDP จะน่าออกมาผิดหวัง และการที่หลายฝ่ายมองว่าการแข็งค่าของเงินดอลลาร์นั้นไม่ได้มาจากเศรษฐกิจอเมริกาที่ดี แต่มาจากเงินยูโรและเงินเยนที่อ่อนเกินไป แล้วต่อไปจะยังไงกันต่อ ?? ซึ่งข่าวนี้ถึงจะไม่กระทบกับทองโดยตรงแต่ก็น่าติดตามเพราะ มันจะไปกระทบกับตัวค่าเงินต่างๆ

- Morgan Stanley ได้ออกมาปรับลดการเติบโตของ EU ลงถึงแม้จะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้วก็ตามเนื่องจากยังเห็นว่า การฟื้นตัวสะดุดและยังไม่เห็นสัญญาณที่แข็งแกร่งของการเติบโตเลย

- ผลการศึกษาของประธาน FED สาขาซานฟรานพบว่า นักลงทุนประเมินโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ต่ำเกินไปเพราะ ความผันผวนยังอยู่ในระดับที่ต่ำ

- การคว่ำบาตรจากอียูไปยังรัสเซียยังคงถูกชะลอไปก่อนในช่วงนี้เนื่องจากต้องการรอดูทิศทางก่อนถ้าหากมีการหยุดยิงกันจริงในยูเครน