ประชาสัมพันธ์

แนวทางทองคำวันที่ 5-9-57

เเนวรับ 1260 1255 1250 เเนวต้าน 1268 1272 1277

ทองคำปรับตัวลดลงต่อเมื่อวานนี้ หลังจากขึ้นไปและโดนแรงขายกดลงมาท่ามกลางเงินยูโรที่อ่อนค่าลงอย่างหนัก ในวันนี้มองว่า หลังจากลงมาจะมีการรีบาวน์กลับขึ้นไปบริเวณเดิมแถว 1268-1270 ก่อนเป็นอันดับแรก จากภาวะ Bullish divergent ในภาพ H1 ซึ่งการขึ้นนั้นแต่ละรอบยังดูไม่ค่อยแข็งแรงและพร้อมที่จะลงต่ออีก ภาพ DAY ที่ปิดไปเมื่อวานก็ไม่สวยเท่าไร แสดงถึงราคาที่พร้อมจะลงต่อไปอีก ก็น่าจะเป็นการหาจังหวะขายในขณะที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า เมื่อเช้านี้ราคาได้ตกมาในแนวรับ 1255 ไปเรียบร้อย และ โซนนี้ต้องมาดูกันให้ดี เพราะ เป็นที่อยู่ของดีมานด์ที่ค่อนข้างเยอะจากรอบที่แล้ว จึงมองระยะสั้นยังไม่หลุด แต่ถ้าหลุดแล้วก็ลงยาวอีกรอบหนึ่ง

ต่างชาติยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่องอีก 1,011 ล้านบาท เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน แต่ Short สุทธิในฟิวเจอร์ 2,869 สัญญา มองว่า กระแสเงินทุนต่างชาติยังค่อนข้างดี แต่ก็ยังไม่ขาด ทำให้มุมมอง SET ยังผันผวนอยู่แถวนี้ แต่มีสัญญาณเตือนให้ระวังการปรับฐานเท่านั้น และการปรับฐานคาดว่าจะไม่ลึกเท่าไรนัก ส่วนค่าเงินบาททิศทางมีแนวโน้มอ่อนค่าไปทดสอบ 32.10 ซึ่งถึงแล้วตอนนี้ หากผ่านไปได้เงินบาทจะกลับไปยังระดับ 32.30

ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นไปทดสอบ 1268-1270 อีกรอบหนึ่งจากภาวะ Bullish divergent เพียงแต่ต้องให้ความระมัดระวังสำหรับฝั่งซื้อ เพราะ แนวโน้มหลักพร้อมที่จะลงต่อ

ทางเลือกรอง : กลับไปยืน 1270 ได้ จึงจะหยุดการลง

รายละเอียด

- ประเด็นหลักเมื่อวานนี้อยู่ที่การประชุม ECB ที่มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือระดับ 0.05% จากเดิม 0.15% ทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากติดลบมากขึ้นไปอีก และยังมีมาตรการเพิ่มเติมที่ใช้คำว่า ABS หรือ Assets Back Securities ซึ่งประเภทสินทรัพย์ที่เข้าซื้อนั้นยังไม่ชัดเจนจนกว่าจะถึงเดือนตุลาคม แต่คาดการณ์กันว่า อาจจะซื้อที่เป็นเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่จะทำให้ดอกเบี้ยต่ำลงและกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งการออก ABS นี้จะยังไม่ใช่การทำ QE แต่เป็นหนทางเริ่มต้นสู่การทำ QE นาย ดรากี้ ได้กล่าวไว้อีกว่า การนำเทคนิคต่างๆมาใช้คาดว่าจะใกล้หมดแล้ว จากการที่ออกกองทุนช่วยเหลือต่างๆ ลดดอกเบี้ยเงินฝากจนติดลบ และล่าสุดลดดอกเบี้ยลงอีกผสมกับการซื้อ ABS ครั้งต่อไปถ้าเงินเฟ้อยังไม่ดีขึ้น น่าจะมีการทำ QE ขนาดใหญ่ออกมาแทนแล้ว ซึ่งยังต้องติดตามกันต่อไปสำหรับประเด็นนี้ แต่การประชุมครั้งนี้ตลาดหุ้นดูไม่รับข่าวบวกเท่าไรนักสาเหตุหนึ่งเนื่องจาก การประชุมรอบนี้ ส่วนใหญ่มองว่าจะลดดอกเบี้ยอยู่แล้ว และคาดว่าจะมีการทำ QE เพิ่ม เพียงแต่ ขณะนี้ยังไม่ได้มี QE โดยตรงเป็นการเข้าซื้อสินทรัพย์ของ ECB และมีความเสี่ยงตามมาคือ สินทรัพย์ที่ ECB เข้าไปซื้อนั้นจะมีปัญหาเรื่องความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ตามมาหรือไม่ นอกจากนี้ นาย ดรากี้ ยังกังวลเรื่องการเติบโต และ เงินเฟ้อในยูโรโซนอีก

- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ADP non-farm ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าออกมาที่ระดับ 204K จาก 212K ส่วนคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย 4000 ตำแหน่ง และดัชนี ISM และ PMI ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าทั้งหมด

- หลังจากผลการประชุม ECB ค่าเงินยูโรตกลงมาร่วม 200 จุด และยังมีท่าทางยังลงไม่สุด โดยคาดว่า การลงมานั้นทำให้ภาพรวมยังคงเข้าสู่ขาลงต่อไปของเงินยูโรและทองคำน่าจะได้รับปัจจัยลบจากตรงนี้มาด้วยเพียงแต่การลงของเงินยูโรเมื่อวานนี้หนักมากจนคาดว่าน่าจะมีพักรีบาวน์ขึ้นมาได้บ้าง

- SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำลงเมื่อวานนี้อีก 4.78 ตันคงเหลือการถือครองที่ระดับ 785.73 ตัน

- ในวันนี้นักลงทุนต่างจับตาดูตัวเลข Non-farm payroll (NFP) ซึ่งปกติแล้วควรจะดูค่าเงินดอลลาร์ประกอบด้วย แต่เนื่องจากเมื่อวานดอลลาร์มีข่าวพิเศษจึงต้องติดตามกันให้ดี ตัวเลขที่คาดการณ์ออกมาดีขึ้น

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD 

Non-farm employment change 226K 209K
Unemployment Rate 6.1% 6.2%
Ave. hourly earning 0.2% 0.0%

แนวทางทองคำวันที่ 4-9-57

เเนวรับ 1267 1260 1250 เเนวต้าน 1275 1280 1285

ทองคำปิดบวกเล็กน้อยเมื่อวานนี้ และคาดว่ายังมีแรงส่งขึ้นต่อเนื่องจนถึงวันนี้ เพียงแต่การขึ้นยังมองว่าเป็นการขึ้นเพื่อลงต่อตราบใดที่ยังไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือ 1275-1280 ได้ มองว่าราคาจะค่อยๆขึ้นไปก่อนข่าวจะประกาศในช่วง 19.15-19.30 ตามเวลาบ้านเรา โดยข่าวที่มีผลหนักๆจะเป็นผลการประชุม ECB ว่าจะมีนโยบายอะไรใหม่ๆมาหรือไม่ ถ้ากรณีไม่มีจะทำให้เงินยูโรแข็งค่าขึ้นและจะลากทองขึ้นไปด้วย แต่การขึ้นของทองในวันนี้มองว่าจะเป็นไปอย่างจำกัดเนื่องจาก นักลงทุนต่างจับตาดูตัวเลข NFP ในวันพรุ่งนี้ กรณีวันนี้ราคาหลุด 1265 จะเปิดทางให้ราคาไหลลงสู่ระดับ 1255-1260 ที่เคยเป็นแนวรับเดิม

ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,895 ล้านบาทเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน และหันมา Long สุทธิในฟิวเจอร์อีก 7,087 สัญญา มุมมองเริ่มกลายเป็นบวกและมองว่าออกจากการพักฐานโดยมีการขึ้นของ SET ที่บริเวณ 1590-1600 ตามที่วิเคราะห์กัน จากข่าวการยกเลิก พรก.ฉุกเฉินในบางจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ค่าเงินบาทยังมีทิศทางแกว่งตัวอยู่ในกรอบค่อนไปทางอ่อนค่าเล็กน้อย แต่โดยรวมทิศทางค่าเงินบาทนั้นยังค่อนข้างทรงตัวอยู่ในระดับนี้

ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นไปทดสอบ 1275-1280 ก่อนช่วงที่จะมีการประกาศข่าวต่างๆ ด้วยเนื้อหาข่าวที่มากและค่อนข้างแรง อาจจะมีความผันผวนของราคาได้ โดยรวมแล้วข่าวที่มากระทบยังเป็นกลางต้องติดตามตัวข่าว

ทางเลือกรอง : ราคาขึ้นไม่ถึง 1275 และปรับตัวลดลงเกินกว่า 1265 จึงจะมองว่าเข้าสู่การลงอีกรอบหนึ่ง 

รายละเอียด

- ในวันนี้จะมีการประกาศข่าวค่อนข้างมากและคาดว่าจะทำให้ทองเหวี่ยงขึ้นเหวี่ยงลงพอสมควร โดยข่าวส่วนใหญ่คาดการณ์เท่ากับตัวเลขครั้งก่อนหน้าทั้งหมด ซึ่งจากการคาดการณ์พบว่า เป็นกลาง ต้องรอดูตัวเลขจริงเท่านั้นประกอบกับข่าวการประชุม ECB ก็จะมีในวันนี้เช่นกัน ประเด็นหลักที่จับตามองกันคือ จะมีนโยบาย QE ของทางยุโรปออกมาหรือไม่ หลังจากส่งสัญญาณมาตั้งแต่การประชุมที่แจ็คสันโฮลล์เมื่อ 2 ศุกร์ที่แล้ว ข่าวชิ้นนี้ต้องติดตามให้ดี เพราะ ตลาดได้คาดการณ์ไปแล้วส่วนหนึ่งว่าจะมีมาตรการออกมา ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นทั่วโลก ถ้าเกิดทำจริงอาจจะเห็นการ Sell on fact ได้ และทองก็จะปรับตัวลดลงอีกรอบหนึ่ง แต่ถ้าเกิดยังไม่มีนโยบายอะไรใหม่จะทำให้เงินยูโรแข็งค่าและดึงทองขึ้นไปด้วย ซึ่งการขึ้นของทองก็มองว่าเป็นไปอย่างจำกัดเช่นกัน เพราะ นักลงทุนต่างจับตาดูตัวเลข Non-farm ในวันพรุ่งนี้

- ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงานเพิ่มขึ้น 10.5% จากเดือนก่อนหน้าในระดับต่ำที่ 1.5% จาก คาดการณ์ 10.9%

- รายงาน Beige book เมื่อวานนี้พบว่า เศรษฐกิจยังคงขยายตัวแบบ Moderate to modest growth ก็เหมือนเดิม คือ ค่อยๆขยายตัว แต่มีข้อสังเกตุนิดหนึ่งคือ ลักษณะการเติบโตไม่ได้เติบโตเท่ากับที่คาดหวังไว้ เพราะ ส่วนใหญ่ยังเติบโตแบบชะลอตัวค่อยเป็นค่อยไป ไม่ค่อยมีเขตไหนที่เติบโตแบบแข็งแรง โดยมีการเติบโตจากการบริโภคส่วนบุคคล ส่วนการจ้างงานยังคงอยู่ในระดับที่ขยายตัวปานกลาง การก่อสร้างยังคงแข็งแกร่ง แต่ภาคการผลิตกลับชะลอตัวลงเล็กน้อยจากช่วงก่อนหน้า

- รัสเซียและยูเครนตกลงข้อสัญญาการหยุดยิงแบบถาวรร่วมกัน เพียงแต่ มีการสัมภาษณ์ประธานาธิบดีปูตินว่า ไม่ได้ทำข้อตกลงนี้ และ กล่าวว่า รัสเซียไม่ได้มีส่วนร่วมกับการสู้ในเขตนี้ ต้องมาติดตามกันว่าเป็นยังไงกันแน่ แต่อเมริกานั้นยังหาทางคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมอีกโดยจะเน้นไปทางฝั่งพลังงานเป็นหลัก

- BOJ หรือธนาคารกลางญี่ปุ่นมีนโยบายเช่นเดิมในการกระตุ้นเศรษฐกิจถึงแม้การขึ้นภาษีจะกระทบกับภาคบริโภคค่อนข้างมากแต่มั่นใจว่าจะเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว ส่วนตลาดก็กังวลกันว่า กว่าจะถึงเป้าหมายเงินเฟ้อของ BOJ นั้นระหว่างทางจะค่อนข้างลำบาก

- SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำลงอีก 2.69 ตัน สู่ระดับ 790.51 ตัน

ปัจจัยที่ต้องติตตาม

19.15 USD

ADP non-farm employment change 218K 218K

19.30 USD 

Trade balance 1.1B 1.9B
Unemployment claims 298K 298K

EUR 

ECB Press conference 

21.00 USD

ISM Non-manufacturing PMI 57.3 58.7

แนวทางทองคำวันที่ 3-9-57

เเนวรับ 1265 1260 1250 เเนวต้าน 1270 1275 1280

ราคาทองคำปรับตัวลดลงแรงหลังจากผ่าน 1282 ลงมาเมื่อวาน และ เป็นการปรับตัวลดลงร่วม $20 ในวันเดียว ไม่ได้เจออย่างนี้มานาน หลังจากลงมาแรงนั้นก็มาหยุดที่แนวรับ 1260-1265 พอดี ในเบื้องต้นคาดว่าจะมีการรีบาวน์ขึ้นไปเล็กน้อยถึงบริเวณใกล้ 1270-1275 อีกรอบหนึ่ง และคาดว่าจะยังไม่สามารถผ่านไปได้ จากนั้นมองจะปรับตัวลดลงต่อมาอีกยังแนวรับ 1260 อีกทีหนึ่ง ต้องมาดูว่าจะเป็นอย่างไรเพราะ แนวรับ 1260 นั้นยังถือว่าเป็นระดับแนวรับที่แข็งแรงพอสมควร ทางเลือกที่ดีคือ ขึ้นไปและรอขาย กรณีปิดเกินกว่า 1275 ที่เป็นจุดครึ่งแท่งเทียนของวันก่อนหน้าได้เท่านั้นจึงจะมองว่าเป็นกลาง

ต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 ต่ออีกเล็กน้อย 846 ล้านบาท และกลับมา Long สุทธิในฟิวเจอร์ 44 สัญญา ทิศทางยังคงไม่ชัดเจน ส่วนSET ก็ยังแกว่งตัวไปมายังไม่มีทิศทางที่ชัดเจนเท่าไรนัก ยังพอมีแรงบวกเข้ามาบ้าง ส่วนค่าเงินบาททิศทางอ่อนค่า ในเบื้องต้นมองว่า มาอยู่ที่ระดับ 32.10 แล้ว ถ้ายังต้านไม่อยู่อาจจะเห็นเงินบาทกลับไปที่เดิมที่ระดับ 32.30 อีกทีหนึ่ง โดยมีปัจจัยหลักมาจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่ามาตลอดทาง ส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าโดยอัตโนมัติ

ทางเลือกหลัก : มองราคาปรับตัวขึ้นไปเล็กน้อยในลักษณะของการรีบาวน์ในวันนี้ แต่มองการรีบาวน์เป็นไปอย่างจำกัดถึงบริเวณ 1275 และมองการปรับตัวลดลงต่อมายังแนวรับด้านล่าง 1265 และ 1260

ทางเลือกรอง : กรณีปิดเกินกว่า 1275 ในวันนี้ได้ซึ่งเป็นระดับครึ่งเท่งเทียนที่ลงมาของวันก่อนหน้า จึงจะมองเป็นกลาง 

รายละเอียด

- ตัวเลขดัชนี ISM ภาคการผลิตของอเมริกาปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับ 59 จากเดิมที่แถวระดับ 57 (เป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง)ส่วนยอดค่าใช้จ่ายการก่อสร้างก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน เป็นผลทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 83 ซึ่งเป็นการแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง และ ส่งผลทให้ทองคำซึ่งก่อนหน้านั้นปรับตัวลดลงอยู่แล้วได้ปรับตัวลดลงต่อไปอีก สาเหตุที่ทองปรับตัวลดลงเบื้องต้นมาจากข่าวที่ว่า Hedge fund สะสมสถานะ Short ต่อเนื่องมาเป็นเวลา 6 สัปดาห์ต่อกัน ถึงแม้จะมีข่าวว่ารัสเซียได้ไล่สะสมทองคำเป็นเงินสำรองจนมีปริมาณมากกว่าจีนนั้น แต่กลับไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไรนัก ตลาดทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากการเก็งกำไร ซึ่งเมื่อคืนนี้ ทองคำตกพร้อมกับหุ้นอเมริกาที่ตกมาด้วย โดยให้เหตุผลว่า การปรับตัวลดลงนั้นเป็นผลมาจากกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมัน ทั้งนี้ตลาดหุ้นปรับตัวลงแต่ก็ยังอยู่ในระดับสูง S&P500 ยังคงอยู่เหนือกว่าระดับ 2000 จุด

- ดัชนี ISM ของจีนภาคบริการของจีนปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.1 ซึ่งข่าวนี้ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่กลับมาบวกหลังจากเมื่อคืนตลาดหุ้นค่อนไปทางปรับตัวลดลง นำโดย Nikkei ที่ขึ้นไปทำระดับ New-high จากเงินเยนที่อ่อนค่า และ ตัวเลข GDP ของออสเตรเลียที่ออกมาขยายตัว 0.5% จากไตรมาสก่อนหน้า0.4%

- สถานการณ์ความรุนแรงในยูเครนและประเทศอื่นๆรวมถึง การซื้อทองคำของรัสเซียไม่สามารถมาชดเชยแรงขายที่มากจากตัวเลขเศรษฐกิจและค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าที่ส่งผลลบอย่างรุนแรงต่อตลาดทองคำได้

- ในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่า ดีมานด์ ในทองคำแท่งจะมีมากขึ้นจากทางอินเดีย ซึ่งการนำเข้าทองคำและค่าพรีเมียมน่าจะเพิ่มสูงขึ้นจากเทศกาลและงานแต่งงานในช่วงสิ้นปี

- นักลงทุนต่างจับตามองผลการประชุม ECB ในวันพรุ่งนี้ว่าจะมีมาตรการที่จะผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมหรือไม่ โดยตลาดนั้นคาดการณ์กันไว้ส่วนหนึ่งแล้วว่า จะมีการทำนโยบายคล้าย QE ของอเมริกา

- ทางฝั่งอียูนั้นมีแผนเพิ่มเติมที่จะคว่ำบาตรรัสเซียหากสถานการ์ในยูเครนยังไม่มีความเรียบร้อยกว่านี้ และ จะประชุมกันอีกทีในวันศุกร์ที่จะถึง

- SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำอีก 1.8 ตัน สู่ระดับ 793.2 ตัน 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

1.00 USD 

Beige book

แนวทางทองคำวันที่ 2-9-57

เเนวรับ 1282 1270 1265 เเนวต้าน 1285 1288 1292

ราคาปรับตัวหลุดเส้นแนวรับลงมาเมื่อเช้า มองว่า รอบขึ้นที่ผ่านมาสัปดาห์ที่แล้วมีโอกาสสูงที่จะจบลงและราคามีแนวโน้มที่จะวิ่งกลับไปยังระดับแนวรับ 1270 อาจจะถึง 1265 ในรอบนี้ โดยในเบื้องต้นอาจจะมีการรีบาวน์ขึ้นไปแถวระดับใกล้ 1285 บ้าง จากการที่ตอนนี้ราคาตกแนวรับฟิโบ 61.8% ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนแนวโน้ม การหลุดตรงแถวๆ 1282 นี้จะทำให้ราคาตกลงอีกรอบอย่างรวดเร็วโดยจะมีกรณีเดียวในตอนนี้ที่จะชะลอการลงได้ คือ ราคาต้องขึ้นไปปิดเหนือ 1285-1288 ให้ได้ ซึ่งมองว่า โอกาสมีน้อยลงแล้ว มองทางลงมากกว่า ค่าเงินยูโร ยังอยู่ใน Downtrend ที่ค่อนข้างแข็งแรง

ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,505 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นของมูลค่าการซื้อ-ขาย ที่เริ่มหนาแน่นขึ้น แต่ยังคงไป Short สุทธิอีก 1,321 สัญญา SET ยังคงแกว่งตัวใต้แนวต้าน และ ยังมีทิศทางที่ยัง Sidewaysพอสมควร ส่วนค่าเงินบาทนั้นอ่อนค่าอัตโนมัติมาเมื่อเช้านี้หลังจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมา โดยมีแนวต้านอยู่บริเวณ 32.10 และ 32.30ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของรอบที่ผ่านมาก่อนที่จะแข็งค่า

ทางเลือกหลัก : มองราคาปรับตัวลดลงไปยังระดับ 1270 และ 1265 เพียงแต่ในเบื้องต้นอาจจะมีรีบาวน์ขึ้นไปใกล้ 1285 อีกทีหนึ่ง หรือไม่มีก็ได้ แต่มองว่า ระดับ 1282 ถ้าหลุดลงมานั้นจะเปิดทางให้ราคาไหลงต่อ

ทางเลือกรอง : ราคาปิดเหนือ 1285-1288 ได้ จึงจะมองว่า น่าจะชะลอการลงไปก่อน ณ ตอนนี้ยังมองว่า โอกาสเกิดทางเลือกนี้มีน้อยกว่าทางเลือกแรกพอสมควร

รายละเอียด

- เมื่อวานเป็นวันหยุดวันแรงงานของอเมริกาทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจนั้นไม่ค่อยดี แต่ทางฝั่งยูโรโซนนั้นมีตัวเลขและข่าวออกมาค่อนข้างมาก เริ่มจาก Final GDP ของเยอรมันยังคงอยู่ในโซนหดตัว –0.2% เท่ากับครั้งที่แล้ว โดยสาเหตุหลักของการลดลงมาจากภาคการลงทุนของเอกชนที่ลดลง 2.3% จากไตรมาสที่แล้ว พร้อมกับการก่อสร้างที่หดตัว แต่การใช้จ่ายของคนในประเทศ และ ภาครัฐบาล รวมถึงภาคการส่งออก ขยายตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ส่วนตัวเลข ISM ภาคการผลิตปรับตัวลดลงสู่ระดับ 50.1 ลดลงกว่าเดือนที่แล้ว ถึงแม้จะยังอยู่เหนือ 50 ซึ่งเป็นเขตคั่นของการขยายตัวและหดตัว

- ค่าเงินยูโร EUR/USD ยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ช่วงต้นปีนั้นซื้อ-ขายกันอยู่ระดับแถว 1.38-1.40 จากการที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว จากนั้นหลังจากกลางปีมา ได้เกิดแรงขายลงมาเรื่อยๆ สาเหตุจากการที่ ECB ทำการกระตุ้นเศรษฐกิจคล้ายๆ QE ของอเมริกา และหลังๆตัวเลขเศรษฐกิจทางฝั่งยูโรโซนออกมาไม่ค่อยดีโดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อ ในวันพฤหัสนี้จะมีผลการประชุม ECB ออกมา ซึ่งมุมมองในตลาดมองว่า น่าจะมีมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมแน่นอน เพียงแต่จะเกิดขึ้นตอนไหน บางคนก็ยังมองว่า ไม่น่าจะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ เมื่อมาดูกราฟระยะสัปดาห์พบว่า ยังอยู่ใน Downtrend ที่แข็งแรงมีแนวรับระยะสั้นที่ 1.31 และ แนวรับใหญ่แถว 1.28 มองแล้วน่าจะมีมาตรการเพิ่มเติมในอนาคตในการทำให้ค่าเงินอ่อนลง เพราะ ค่าเงินที่อ่อนค่าลงจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจด้วยเพราะจะทำให้การส่งออกดีขึ้น โดยนโยบายที่คาดว่า นาย ดรากิ จะทำนั้นจะเหมือนกันญี่ปุ่น คือ นโยบายธนู 3 ดอกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องมาดูว่า ธนู 3 ดอกของ นาย ดรากินั้นจะมีผลต่อตลาดสินทรัพย์การเงินทั่วโลกขนาดไหน

- สถานการณ์ในยูเครนยังคงเหมือนเดิม ยังคงกล่าวหากันไปมาระหว่างยูเครนและรัสเซีย เพียงแต่ทองคำไมได้สะท้อนข่าวไปเท่าไรนัก สาเหตุจาก ตลาดหุ้นที่ยังปรับตัวสูงขึ้น และ ค่างินดอลลาร์แข็งค่า

- SPDR ถึงแม้จะยังไม่มีอะไรเพิ่มเติม แต่ตลอดช่วงที่ผ่านมาก็ลดสถานะลงเรื่อยๆ ถึงแม้แรงขายจะเบาลงเยอะก็ตาม รวมถึง Physical demand ที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้มองว่า ทองคำยังคงไม่มีปัจจัยมาสนับสนุนในการขึ้นเลย ตราบใดที่ยังไม่มีแรงซื้อเข้ามาในทั้งสองตลาดนี้ก็จะขึ้นยาก

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

21.00 USD

ISM Manufacturing PMI 57.0 57.1

แนวทางทองคำวันที่ 1-9-57

เเนวรับ 1285 1283 1275 เเนวต้าน 1292 1297 1300

ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวแคบๆ มองว่า แรงส่งในทางบวกใกล้จะหมดลงแล้ว ถ้าในระยะสั้นนี้ยังไม่สามารถขึ้นไปยืนเกินกว่าระดับ 1292 ได้ เพราะ จากที่มีแรงส่งเชิงบวกในวันศุกร์ราคาได้ขึ้นไปจากนั้นก็ได้เจอแรงขายลงมาเช่นเดิม จึงกลายมาเป็นแกว่งตัวในรูปแบบ Sideways เมื่อมาดูภาพวันนั้นพบว่า ระดับแนวต้าน 1300-1305 จะทำหน้าที่เป็นแนวต้านสำคัญที่จะกลับตัวลงมาเพราะเป็นเส้น Downtrend line ในระยะสั้นนี้มองการปรับตัวขึ้นไปเล็กน้อยใกล้ระดับ 1290 เช่นเดิม และต้องไปติดตามกันในระดับนั้นว่าจะมีแรงซื้อเข้ามาหรือไม่ ถ้าเกิดยังยืนไม่ได้โอกาสปรับตัวลงต่อในแนวโน้มเดิมจะมีโอกาสสูง

ทิศทางของกระแสเงินทุนต่างชาติยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน รวมถึงตลาดหุ้นไทยที่ยังคงแกว่งตัวอยู่บนระดับสูง แกว่งไปแกว่งมา และค่าเงินบาทที่ยังอยู่ในกรอบระหว่าง 31.80-32.00 ประกอบกับข่าวที่แทบไม่มีช่วงนี้จึงมองว่า ค่าเงินบาทน่าจะยังอยู่ในโซนนี้ไปอีกสักพักหนึ่ง ทั้งนี้ ธปท. ได้ออกมากล่าวว่า ในครึ่งปีหลังน่าจะได้เห็นเศรษฐกิจเติบโตมากกว่านี้ และน่าจะเป็นลักษณะ V-shape คือ ฟื้นกลับไปหลังจากที่หดตัวมาสักพักหนึ่ง โดยมีความเชื่อมั่นจากการเมืองที่คาดว่าจะสงบขึ้น

ทางเลือกหลัก : ราคาขึ้นไปบนระดับใกล้ 1290 อีกทีหนึ่ง แต่โดยรวมแล้วยังให้น้ำหนักไปในทางขึ้นไม่ผ่าน และ ค่อนไปทางลบ ประกอบกับ ข่าวตัวเลขเศรษฐกิจทีไม่มีในวันนี้จึงคาดว่า ราคาจะยังคงทรงตัวแถวนี้

ทางเลือกรอง : -

รายละเอียด

- ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวันศุกร์ออกมาค่อนข้างมาก เริ่มจาก Core PCE price index ออกมาเท่าเดิมที่ระดับ0.1% ตัวนี้จะเป็นตัววัดเงินเฟ้อที่ FED ใช้ดูเป็นหลักที่สุด (แทนที่จะเป็น CPI) ก็ยังไม่มีอะไรมากสำหรับตัวนี้ ส่วนรายรับของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 0.2% น้อยกว่าเดือนก่อนหน้า ส่วนรายจ่ายนั้นปรับตัวลดลง 0.1% น้อยกว่าเดือนก่อนหน้าเช่นกัน เมื่อดูเฉพาะสองตัวนี้พบว่า รายได้และการใช้จ่ายน้อยลงจริงๆแล้วไม่เป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจเท่าไรนัก เพราะ เศรษฐกิจอเมริกาเติบโตจากการใช้จ่ายของผู้บริโถรถ้าการใช้จ่ายน้อยลงอาจจะกระทบค่อนข้างมาก ทั้งนี้ตัวเลขออกมาลบ แต่โดยรวมก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี จากนั้นได้มี Chicago PMI ก็ออกมาดีเช่นเดียวกัน รวมถึง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคก็ปรับตัวสูงขึ้น โดยรวมแล้วตัวเลขเศรษฐกิจอเมริกาที่ออกมาในวันศุกร์ยังค่อนข้างดี

- อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนออกมาขยายตัว 0.3% เป็นการขยายตัวอยู่ในระดับต่ำกว่าคาดการณ์ แต่อัตราเงินเฟ้อที่แท้จริงปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งทิศทางยังไม่ชัดเจนว่า ECB จะใช้นโยบายอะไรเข้ามาแก้ไข และคาดว่าในสัปดาห์นี้ที่จะมีผลการประชุม ECB น่าจะยังไม่มีนโยบายอะไรใหม่ๆเข้ามา

- อเมริกายังคงใช้การดำเนินการโจมตีทางอากาศกับ IS ในอิรักอย่างต่อเนื่องโดยมีเหตุผลว่า ทำไปเพื่อป้องกันประชากร และ ทรัพย์สินของอเมริกา

- IMF อนุมัติวงเงินช่วยเหลือให้แก่ยูเครนจำนวน $17 Billion เนื่องจากในปัจจุบันยูเครนประสบปัญหาหนักในเรื่องของสงครามและการเมืองทำให้เศรษฐกิจมีปัญหา ในขณะเดียวกัน อียูก็เตรียมคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มอีกโดยจะเน้นในด้านของพลังงานและการเงินหากสถานการณ์ในยูเครนยังไม่ดีขึ้น

- ดัชนี PMI ของจีนทั้งสองตัวออกมาปรับตัวลดลง และ พาดหัวข่าวว่า ภาคการผลิตของจีนได้อยู่ใน Downturn เพียงแต่ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่า 50 ซึ่งระดับที่เกิน 50 นั้นหมายความว่า ภาคการผลิตยังคงขยายตัว

- Hedge fund and money manager ลดสถานะ Bullish bet ลงในทองคำเป้นสัปดาหี่สองติดต่อกันเนื่องมาจากตลาดหุ้นที่ทำ New-high ทำให้ความน่าดึงดูดของทองคำลดน้อยลง ส่วน SPDR ลดการถือครองทองคำเล็กน้อย 0.08% คงเหลือที่ระดับ 795 ตัน

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

ีUSD 

Bank holiday

แนวทางทองคำวันที่ 29-8-57

เเนวรับ 1285 1283 1275 เเนวต้าน 1292 1297 1300

ทองคำผ่านขึ้นจาก 1292 ไปยังระดับ 1297 และเกิดแรงขายให้ปรับตัวลดลงมา มองว่า ในระยะสั้นนี้ยังพอมีแรงส่งขึ้นต่อ เพียงแต่หลังจากการพักตัวเล็กน้อย เริ่มแรกอาจจะมีการย่อตัวไปยังระดับใกล้ 1285จากนั้นยังมองขึ้นต่อ หรือไม่ก็ขึ้นต่อเลย เพราะ ภาพ H4 ซึ่งเป็นภาพใหญ่ ถึงแม้จะเกิด Pin bar ที่แนวต้าน แต่มองว่า ราคายังมีแรงเหลือที่จะขึ้นไปใกล้ๆเดิมได้อีกครั้งหนึ่ง ประกอบกับ Pin bar ในวันก่อนหน้าได้ถูกเคลียร์ไปเรียบร้อย ก็ยังมีแรงเหลือในทางบวกพอสมควรจากการขึ้นมาสามวันติด ถึงแม้การขึ้นในแต่ละวันนั้นจะเจอแรงขายใส่ลงมาตลอด ค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่า และ ตลาดพันธบัตรเริ่มกลับตัวขึ้นไปได้อีกครั้ง จึงน่าจะมีลุ้นระยะสั้นสำหรับทองคำ

ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยเล็กน้อย 127 ล้านบาท และหันมาเปิด Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก 4,642 สัญญา ซึ่งวันก่อนเปิด Long ไว้จึงมองว่า น่าจะเป็นการปิดสถานะ Long บางส่วนออกไป SET ส่งสัญญาณเริ่มปรับฐานระยะสั้น แต่ยังไม่ยืนยันยังอยู่ระหว่างช่วงวัดใจระหว่างหมีกับกระทิง ค่าเงินบาททิศทางอยู่ในกรอบเช่นเดิมอยู่ระหว่าง 31.80-32.00 ยังไม่มีปัจจัยอะไรใหม่เข้ามากระทบจึงมองการเคลื่อนไหวของเงินบาทอยู่ในระหว่างช่วง 20 สตางค์ไปอีกสักพักหนึ่ง

ทางเลือกหลัก : มองว่าในวันนี้มีแรงส่งให้พยายามขึ้นต่อ โดยจะเป็นลักษณะลงแล้วขึ้น หรือ ขึ้นเลยก็ได้ ไปทดสอบระดับ 1292-1296 โดยมีจุดเปลี่ยนบริเวณ 1280-1285 ที่ไม่ควรจะหลุด

ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1280 ลงมามองว่า จะทำให้การขึ้นนั้นเสียรูปไปทันที

รายละเอียด

- ทองคำได้รับปัจจัยบวกจากสถานการณ์ในยูเครนและรัสเซีย ล่าสุดรัสเซียได้ส่งกองกำลังเข้าไปในเขตยูเครนแล้ว เป็นทหารเท้าเดินเข้าไปพร้อมอาวุธหนักเข้าไปยังชายแดนตอนใต้ของยูเครน และทำให้นายกยูเครนออกมาประนามว่า รัสเซียกำลังเริ่มต้นก่อสงครามในยุโรปแล้ว ส่วนสถานการณ์ในอิรักก็ยังไม่ดีขึ้นล่าสุดกบฎ ISIS ก็ได้ทำการปล่อยคลิปที่สังหารทหารฝ่ายตรงข้ามร่วม 200 นาย ซึ่งต้องมาดูว่าจะมีความรุนแรงเพิ่มเติมหรือไม่ เพราะหลังจากข่าวนี้ออกมาทำให้เพียงตลาดหุ้นตก และทองขึ้นเล็กน้อย ภายหลังได้มีแรงเข้าซื้อมาในตลาดหุ้นและพบแรงขายในตลาดทองคำจึงมองว่า ถ้าระดับนี้ตลาดยังไม่รับข่าวเท่าไรนัก ต้องติดตามใกล้ชิด

- ตัวเลข GDP ของอเมริกาเมื่อวานนี้พบว่าขยายตัว 4.2% จากไตรมาสก่อนหน้า 4.0% และคาดการณ์ 3.9% เป็นผลมาจากการเพิ่มการลงทุนในหมวดที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย ส่วนการสต๊อกสินค้านั้นยังลดลง และสาเหตุที่ปรับตัวขึ้นเนื่องจากในไตรมาสแรกของปีได้โดนผลกระทบจากภัยหนาวซึ่งเป็นเพียงเหตุการณ์ที่มากระทบในระยะสั้น และตอนนี้ก็เริ่มกลับมาขยายตัวตามปกติ ส่วนยอดคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาทรงตัวใกล้ระดับเดิมที่ 298K และ ยอดรอปิดบ้านขยายตัว 3.3% มากกว่าที่คาดการณ์และเดือนก่อนหน้า จะเห็นตัวเลขเศรษฐกิจยังคงออกมาเป็นบวกหมดเช่นเดิม เพียงแต่มีปัจจัยเรื่องสงครามในยูเครนเข้ามา

- ในวันนี้จะมีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อหรือ CPI ทางฝั่งยุโรปซึ่งคาดการณ์มาว่าน่าจะออกมาทางลบและถ้าเกิดออกมาน้อยการคาดการณ์ว่า ECB จะดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินคล้าย QE ของอเมริกา จากการประชุมที่แจ๊คสันโฮลล์ที่นายดรากิกล่าวไว้ประมาณว่า ถ้าเกิดเงินเฟ้อยังไม่ฟื้นตัวนั้นอาจจะทำให้ต้องใช้มาตรการผ่อนคลานทางการเงินมาช่วยเพิ่มเติม

- ธนาคารใหญ่ 4 แห่งในอิตาลีเตรียมกู้เงิน ECB ผ่าน TLTRO เพื่อนำไปกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อของธนาคาร เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบ

- ตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเป้าหมายของ BOJ แต่การใช้จ่ายของครัวเรือนกลับปรับตัวลดลง สาเหตุเพราะ การขึ้นภาษีตั้งแต่เดือนเมษายน ส่วนยอดค้าปลีกก็ดีขึ้นเล็กน้อย โดยสรุปแล้วเงินเฟ้อดีขึ้นแต่การบริโภคน้อยลง เพราะ เงินเฟ้อเพิ่มนั้นมาจากการขึ้นภาษี

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD 

Core PCE price index 0.1% 0.1%
Personal spending 0.2% 0.4%
Personal income 0.3% 0.4%

20.55 USD

Revised consumer sentiment 80.2 79.2

แนวทางทองคำวันที่ 28-8-57

เเนวรับ 1285 1280 1275 เเนวต้าน 1290 1292 1295

ในระยะสั้นนี้ทองคำได้แกว่งตัวในกรอบสามเหลี่ยมมาตั้งแต่เมื่อวานและเมื่อเช้านี้ได้เกิดการ Break out ทางด้านบนออกมา เลยมองว่าวันนี้หากราคาลงมาทดสอบ 1285 แล้วไม่สามรถผ่านลงไปได้หรือผ่านไปได้แล้ววกกลับมานั่นคือ เกิดสัญญาณยืนยันการไปต่อ และมองเป้าไปจนถีงระดับ 1290 ถึงเกินกว่าเล็กน้อย แต่เช่นเดิมยังคงมองว่า Pin bar ในวันก่อนหน้าที่ราคาขึ้นไปทดสอบระดับด้านบนและเกิดแรงขายลงมานั้นจะยังคงเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำอยู่หากไม่สามารถผ่าน 1290 ไปได้ ก็จะปรับตัวลดลงต่อลงมาอีก จึงทำให้มองการขึ้นเป็นการขึ้นที่ยังไม่แข็งแรงและโอกาสขึ้นเพื่อลงต่อนั้นยังมีอยู่ค่อนข้างมาก 

ต่างชาติหันกลับมาซื้อสุทธิเล็กน้อย แต่ที่น่าสนใจคือ Long ฟิวเจอร์ไว้ค่อนข้างมากถึง 6,822 สัญญา จึงเป็นมุมมองที่ค่อนข้างดี ส่วนคาดการณ์ว่า Trigger fund ของ UOB ที่จะปิดการขายในวันนี้และจะเริ่มส่งเม็ดเงินเข้ามาในวันพรุ่งนี้นั้นจะสามรถพาตลาดไปได้ไกลขนาดไหน และระดับ 1580 จุดน่าติดตามแรงขายจากทริกเกอร์ฟันด์กองอื่นๆที่จะถึงเป้าหมายและปิดกองออกมา ส่วนค่าเงินบาททิศ?ทางยังคงผันผวนอยู่ในกรอบ 31.80-32.00

ทางเลือกหลัก : ในวันนี้มองการขึ้นต่อเพราะ ราคาได้หลุดกรอบสามเหลี่ยมออกมาได้แล้ว เพียงแต่ในระยะสั้นถ้าราคากลับลงไปทดสอบแล้วไม่เกินกว่าระดับ 1285 หรือถ้าเกิดปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1285 ไปแล้วมีแรงซื้อกลับขึ้นมา จะมองการปรับตัวขึ้นต่าอไปอีกใกล้ระดับ 1290 หรือเกินกว่าเล็กน้อย เพียงแต่ Pin bar ที่กดดันอยู่ในวันก่อนหน้าจะเป็นตัวกดดัน Upside ของราคาทองคำ ถ้าเกิดขึ้นไปแล้วเกิดแรงขายหนักๆ จะแสดงให้เห็นถึงการอ่อนแอของการขึ้นและมองว่า จะเป็นการขึ้นเพื่อลงต่อ

ทางเลือกรอง : ขึ้นไปปิดเหนือกว่า 1290 ให้ได้จะเป็นการเคลียร์สัญญาณลบ

รายละเอียด

- ตลาดหุ้นอเมริกายังคงเป็นที่น่าจับตามอง เพราะ ยังคงปรับตัวขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง หลังจากช่วงก่อนหน้าปรับตัวลดลงแรงจากจุดสูงสุด ถัดมาได้เกิดการกลับตัวเป็น V-shape และได้ขึ้นทำ New-high ในรอบนี้ ซึ่งระยะหลังมานี้ การเกิด V-shape ในตลาดหุ้นอเมริกามีร่วม 10 ครั้ง หลังจากที่ราคาตกแรง ก็มีแรงซื้อซื้อกลับขึ้นไปแรงและทำจุดสูงสุดใหม่ทุกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน โดยรอบนี้มีนักวิเคราะห์ต่างประเทศให้ความเห็นว่า ราคาหุ้นนั้นขึ้นพร้อมกับการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนโดยมาจาก ยอดขาย ไม่ได้เติบโตจากการลดต้นทุนทำให้การขึ้นมารอบนี้มีปัจจัยมาสนับสนุน แต่ก็มีบางส่วนให้ความเห็นว่า S&P ที่ระดับ New-high 2000จุดนั้น หลายคนกังวลว่า จะไปต่อได้หรือไม่ถึงแม้จะมีพื้นฐานของกำไรบริษัทที่ดีและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่อยู่ระดับที่สูง

- อัตราการว่างงานของฝรั่งเศสปรับตัวสูงขึ้น 0.8% ในเดือนกรกฎาคม นอกจากนี้มีแผนจะช่วยเพิ่มการจ้างงานโดยการตัดภาษี และตัวเลขการผลิตของฝรั่งเศสปรับตัวลดลงอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือน

- จากการประชุมหาข้อสรุประหว่างยูเครนกับรัสเซียนั้นพบว่า ยังไม่ได้ข้อสรุป และ ต่างฝ่ายก็ดูมีทีท่าจะไม่สามารถคุยกันรู้เรื่อง และสิ่งที่รัสเซียพูดกับทำยังคงเป็นไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามกัน โดยปูตินกล่าวว่า จะพยายามทำให้เกิดความสงบ แต่ก็ยังส่งทหาร และ ขบวนรถถังไปยังบริเวณยูเครน ต้องมาจับตาประเด็นนี้กันว่าต่อไปจะมีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ แต่ตอนนี้ตลาดยังไม่ให้ความสนใจเท่าไรนัก

- พันธบัตรทุกช่วงอายุของอเมริกาและเยอรมัน Yield ปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้ท่ามกลางกระแสการคาดการณ์ว่าธนาคารยุโรป (ECB) จะดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมในอนาคตอีก หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่มีการประชุมกันที่แจ๊คสันโฮลล์นั้น นาย ดรากิ ได้กล่าวประมาณว่า พร้อมจะดำเนินนโยบายผ่อนคลายหากจำเป็นเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ มีการวิเคราะห์กันต่อว่า ECB จะยังไม่ทำอะไรมากในช่วงนี้จนกว่าจะได้เห็นตัวเลขเงินเฟ้อในเดือนสิงหาคมก่อน

- ทองคำได้รับปัจจัยหนุนจากเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้นในช่วงนี้ (ดอลลาร์อ่อน) หลังจากเงินยูโรได้ปรับตัวลดลงเมื่อวันจันทร์ในลักษณะกระโดดลงมาและมองว่าจะมีแรงซื้อกลับขึ้นไปทำให้เป็นแรงบวกให้ทองคำ

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD 

Prelim GDP 3.9% 4.0%
Unemployment claims 299K 298K

21.00 USD 

Pending home sales 0.6% -1.1%

แนวทางทองคำวันที่ 27-8-57

เเนวรับ 1280 1273 1270 เเนวต้าน 1285 1290 1292

ภาพรวมทองคำในระยะสั้นหลังจากหลุดกรอบ 1282 ออกมาได้มองว่า ยังเป็นมุมมองในทางบวกพอสมควร เมื่อวานนี้หลุดมาจากรูปแบบ Double bottom ซึ่งมีระยะ $8 ซึ่งก็ไปตรงกับแถว ประมาณ 1290 พอดี และหยุดพอดี ซึ่งก็ถือว่าเป็นการจบไปรอบหนึ่ง เพียงแต่การลงมานั้นยังไม่หลุดแนวรับ จึงมองการปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับใกล้ 1290 อีกครั้งหนึ่ง แต่ยังมีมุมมองที่ว่า ภาพรายวันนั้นเกิดแรงขายจนแท่งเทียนเป็นไส้ขึ้นไปยาวจนเกินไปและเป็นแนวโน้มมุมมองที่ไม่ดี อาจจะทำให้การขึ้นไปยังไม่แข็งแรง และยังมองทางฝั่งไม่ผ่าน และย่อลงมาเล็กน้อย กรณีผ่านไปได้นั้นจะเปิดทางไปสู่ 1300 ได้อีกครั้งหนึ่งซึ่งการผ่านนั้นเป็นทางเลือกรองที่มีโอกาสเกิดพอสมควร

ต่างชาตืหันกลับไปซื้อและ Long สุทธิในฟิวเจอร์เล็กน้อยหลักร้อยล้านบาทและร้อยสัญญาเท่านั้นจึงมองว่า ไม่ได้มีทิศทางที่มีนัยสำคัญเท่าไร โดยกลุ่มที่มีการเคลื่อนไหวมาสุดจะเป็นกลุ่มของสถาบันที่มีการสะสม Short สุทธิไว้ค่อนข้างมาก เพียงแต่ระยะสั้นยังมีปัจจัยบวกเข้ามาสำหรับตลาดหุ้น และ กองทุนทริกเกอร์ฟันที่จะถึงเป้าหมายนั้นคาดว่าจะถึงบริเวณ SET มากกว่า 1580 จุด ถึงจะมีแรงขายลงมา ทั้งนี้ภาพรวมยังคงไม่ชัดเจน ส่วนค่าเงินบาทก็เช่นกัน แกว่งไปแกว่งมาในกรอบ 20 สตางค์ 31.8-32.0

ทางเลือกหลัก : เมื่อวานนี้ราคาหลุดแนวต้าน 1282 มาได้ และยินยันรูปแบบ Double bottom ในระยะสั้นโดยมีเป้าหมายแถว 1290 ซึ่งก็ไปหยุดใกล้ระดับนั้นพอดี และก็โดนแรงขายลงมาทดสอบแนวรับอีกรอบ เพียงแต่ไม่หลุด ในระยะสั้นคาดว่า ราคาจะกลับไปเข้าใกล้ระดับ 1290 อีกครั้ง เพียงแต่ภาพรวมระยะวันที่เจอแรงขายมากและดูไม่ดี อาจจะให้น้ำหนักในการผ่านน้อยอยู่

ทางเลือกรอง : ถ้าราคาผ่าน 1290-1292 ไปได้ จะเปิดทางไปสู่ระดับ 1300 อีกรอบหนึ่ง 

รายละเอียด

- ดัชนีหุ้น S&P500 เมื่อวานนี้ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่เกินกว่า 2000 จุดอีกรอบหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถปิดบนนั้นได้ ในขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ได้ทำ All-time high เช่นเดียวกัน และก็ปิดอยู่ระดับสูงไม่ได้เช่นกัน วอลุ่มเริ่มลดลงเรื่อยๆจนหลายคนเริ่มวิเคราะห์กันว่า ตลาดจะทรงตัวอยู่ในระดับสูงแบบนี้ได้นานไหม โดยการขึ้นมานั้นก็มีข่าวสนับสนุนพอสมควรเมื่อวานนี้ที่ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีบางตัว (วันนึงดีวันนึงแย่) เริ่มจากตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนแบบไม่รวมหมวดยานหาหนะ (Core durable goods) ตัวนี้ออกมาแย่ลง –0.8% จากเดือนก่อน 1.9% ในขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนแบบรวมหมวดยานพาหนะนั้นปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง 22.6% โดยสัดส่วนหลักมาจากการสั่งซื้อสินค้าประเภทเครื่องบิน ขณะที่ดัชนีราคาบ้านก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ในขณะที่ CB Consumer confidence ออกมาที่ระดับ 92.4 ซึ่งสูงกว่าทั้งเดือนก่อนหน้าและคาดการณ์ จะเห็นว่า ตัวเลขเศรษฐกิจนั้นออกมาค่อนข้างดีจนทำให้ดัชนีทะลุจุดสูงสุดได้สบายๆ เพียงแต่เจอแรงขายสวนลงมาเท่านั้น

- เมื่อวานมีข่าวดี (อาจไม่ดีสำหรับทองคำ) คือ ปาเลสไตน์ และ อิสราเอลได้ทำข้อตกลงหยุดยิงร่วมกันอีกครั้งเมื่อวานนี้โดยมีเป้าหมายเพื่อที่จะหยุดสงครามที่กินเวลายาวนานกว่า 7 สัปดาห์ 

- ประธานาธิบดี บารัก โอบามา ได้กล่าวว่า “ justice will be done” หลังจากเกิดความไม่พอใจที่นักข่าว James Foley ได้ถูกฆ่าในสัปดาห์ก่อนหน้า และวางแผนที่จะทำการโจมีทางอากาศ

- ตอนนี้มีแรงเก็งกำไรในเรื่องของการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม เพื่อกดค่าเงินยูโรให้อ่อนค่าลงและเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแออยู่ของยูโรโซนโดยคาดว่าจะมีนโยบายการซื้อสินทรัพย์ระยะยาว (LFTOs) ซึ่งคล้ายกับการทำ QE ของอเมริกา

- เมื่อวานนี้ทองคำปรับตัวขึ้นแรงโดยมีคนให้เหตุผลว่า เกิดจากการรีบาวน์ทางกราฟเทคนิคซึ่งเกิดสัญญาณซื้อและมีข่าวสงครามเข้ามากระทบเล็กน้อย จากนั้นได้ถูกแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีจนทำให้ราคาปิดต่ำลงและดูไม่สวยเท่าไรนัก

- ประเทศรัสเซียปรับลดเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจคาดไว้ที่ระดับ 0.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เศรษฐกิจหดตัวในปี 2008 จึงคาดว่าน่าจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลัง

แนวทางทองคำวันที่ 26-8-57

เเนวรับ 1273 1270 1265 เเนวต้าน 1282 1285 1290

ทองคำยังคงทรงตัวหลังจากเมื่อวานแกว่งขึ้นแกว่งลงไปทดสอบแนวรับแนวต้านครบหมด แต่ก็ยังไม่สามรถผ่านไปได้ในวันนี้คาดว่าจะมีแรงขึ้นไปทดสอบ 1280-1282 อีกรอบหนึ่ง กรณีผ่านไปได้และไปยืนเกินกว่าระดับ 1285 จึงจะมองว่า ทองคำจะชะลอการลงไประยะสั้น เพียงแต่ภาพรวมนั้นยังค่อนไปทางลงชัดเจนอยู่ และ การขึ้นไปมองว่าอาจจะได้ไม่ไกลเท่าไรนักในตอนนี้ ค่าเงินดอลลาร์เมื่อวานนี้เปิดกระโดดแข็งค่าจึงมองว่า การกระโดดแบบนี้ถ้าเกิดยังไม่ผ่านแนวต้านได้ ประกอบกับภาวะอิ่มตัว Overbought น่าจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวอ่อนลงมาในระยะนี้ จึงคาดว่าน่าจะเป็นบวกกับทองคำสั้นๆเพียงแต่จะมากจนทำให้เกิดสัญญาณกลับตัวได้หรือไม่เท่านั้นเอง

ต่างชาติเมื่อวานนี้ไม่ได้มีทิศทางอะไรชัดเจน การซื้อ-ขายเป็นไปอย่างเบาบาง ขายและ Short สุทธิไว้อย่างละน้อย เพียงแต่ SET สามารถผ่านแนวต้านออกมาได้ ซึ่งมองว่ายังมีมุมในทางบวกอยู่และพร้อมจะปรับตัวขึ้นต่อแต่จะไกลแค่ไหนนั้นต้องลองมาดูกัน ค่าเงินบาททิศทางยังคงแกว่งตัวไปมาสักพักหนึ่งหลังจากแข็งค่าก็มีแรงขายมา ส่วนเมื่ออ่อนค่าก็มีแรงซื้อเข้ามาจึงทำให้ภาพรวมยังคงแกว่งตัวไปมาอยู่ในกรอบ

ทางเลือกหลัก : มองราคาไปทดสอบกรอบบนอีกรอบหนึ่ง เมื่อวานนี้ราคาได้ขึ้นไปทดสอบกรอบบนแล้วไม่ผ่าน จากนั้นลงมาด้านล่างก็ไม่ผ่าน และวันนี้ทิศทางในทางบวกยังมีอยู่จึงมองว่าไปทดสอบกรอบบนอีกรอบหนึ่ง วอลุ่มค่อนข้างเบาบางในช่วงนี้ รวมถึงค่าเงินดอลลาร์เปิดกระโดดขึ้นไปและยังไม่มีการปิด Gap จึงคาดว่าจะต้องมีการอ่อนค่าลงมาบ้าง

ทางเลือกรอง : ราคาขึ้นไปยืนเหนือ 1285 ได้จึงจะดี

รายละเอียด

- ประเด็นเรื่องยูเครนตลาดกำลังให้การติดตามมากขึ้น ล่าสุด ขบวนรถถังและยานเกราะจากรัสเซียได้วิ่งเข้าไปยังประเทศยูเครน ทำให้ยูเครนต้องมีการโจมตีขบวนยานเกราะเหล่านั้น โดยโฆษกของยูเครนได้กล่าวว่า กลุ่มกบฎนิยมรัสเซียต้องการจะขยายแนวรบใหม่ แต่ยูเครนก็ยังมีกองกำลังมากพอที่จะรับมือได้ ทั้งนี้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้นยังอยู่ในวงจำกัดไม่มากเท่าไร ตลาดจึงแค่คอยติดตามว่าสถานการณ์จะเป็นยังไงต่อเท่านั้น

- ตลาดหุ้นอเมริกาเมื่อวานนี้ขึ้นทำ New-high ดัชนี S&P500 ในระหว่างวันได้ขึ้นไปเทรดสูงสุดระดับ 2000 จุดเป็นครั้งแรกไปหยุดอยู่ที่ประมาณ 2001 จุดก่อนที่จะปรับตัวลดลงมาและปิดที่ระดับ 1998จุด โดยเมื่อวานนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจอย่าง ยอดขายบ้านใหม่ (New home sales ) ออกมาที่ระดับ 412K จากคาดการณ์ 426K และเดือนก่อนหน้า 422K ถือเป็นการปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 2-3 เดือนมานี้ ส่วนดัชนี Flash service PMI ปรับตัวลดลง สู่ระดับ 58.5 น้อยกว่าคาดการณ์และเดือนก่อนหน้า จะเห็นว่าตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมานั้นเริ่มเป็นลบจนเกือบหมดเมื่อคืน แต่ดัชนีหุ้นยังทำ New-high โดยมีเหตุผลที่ว่า ECB มีแนวโน้มจะกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเพิ่มอีก ซึ่งมองว่าตัวนี้เป็น Sentiment ในตลาดหุ้นที่อยู่ในภาวะขาขึ้นที่แม้มีข่าวลบมาแต่ตลาดก็เลือกจะไม่สนใจ ในขณะที่ถ้าอยู่ในแนวโน้มขาลงถึงแม้จะมีข่าวดีตลาดก็จะไม่ตอบรับเช่นเดียวกัน ซึ่งกว่าจะเปลี่ยน Sentiment ได้นั้นต้องใช้เวลาหลังจากขึ้นไปก็ได้มีข่าวสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซียมากดดันตลาดทำให้ตลาดหุ้นลดช่วงบวกไปจากระดับ New-high

- ดัชนี German Ifo business climate ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 106.3 จากเดิม 108 แสดงให้เห็นถึง ภาวะเศรษฐกิจของเยอรมันนั้นแย่ลงเป็นเดือนที่ 4 จากสถานการณ์ความไม่สงบในยูเครน

- การนำเข้าทองคำสุทธิของจีนจากฮ่องกงลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2011 เนื่องจาก Supply ในประเทศที่นำเข้ามาก่อนหน้านั้นยังทรงตัวอยู่ระดับสูงในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมจิลเวอรีนั้นรอราคาตกมากกว่านี้อยู่

- ข้อมูลจาก IMF ชี้ว่า รัสเซียเพิ่มการถือครองทองคำสำรองอีก 10.6 ตัน ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ตุรกีกลับขายออก 4.3 ตัน ในขณะที่กองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลงเหลือระดับ 797.09 ตัน (2.99 ตัน)

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD 

Durable goods orders 7.4% 1.7%
Core durable goods orders 0.5% 1.9%

21.00 USD 

CB Consumer confidence 89.1 90.9