ประชาสัมพันธ์

แนวทางทองคำวันที่ 7-8-57

เเนวรับ 1303 1300 1285 เเนวต้าน 1310 1315 1320

ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเกินกว่าระดับ แนวต้าน 1293 ออกมาได้นอกจากนั้นยังผ่าน 1297-1300 มาด้วยเช่นกัน ทำให้มองว่าสามารถเปิด Uptrend ในระยะขึ้นมาได้สั้นเป้าหมาย 1320 เพียงแต่การขึ้นมานี้ ปัจจัยสนับสนุนยังน้อย และ สัญญาณอื่นๆยังไม่ยืนยัน จึงให้ใช้ความระมัดระวังเช่นเดิม คาดว่าในระยะสั้นราคาจะสร้างกรอบการเคลื่อนไหวขึ้นมาระหว่าง 1300-1310 ซึ่งในลำดับแรก มองการลงไปทดสอบด้านล่างก่อน ดูว่าสามารถยืนได้หรือไม่ แต่มองว่า โดยรวมแล้วเริ่มเกิดสัญญาณเชิงบวก ควรที่จะไปรอซื้อด้านล่าง และตั้งจุดตัดขาดทุนไว้ที่ระดับ 1300 กรณีผ่านระดับ 1300 ลงมานั้นจะทำให้การขึ้นเสียพอสมควร ซึ่งมองว่ายังไม่น่าเกิด

ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,048 ล้านบาท และยังไป Long สุทธิในฟิวเจอร์เพิ่มอีก 3,805 สัญญา เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน แสดงถึงทิศทางที่ค่อนไปทางลังเลยังไม่มีทิศทางที่แน่นอน ส่วนทิศทางค่าเงินบาทมองว่ายังแกว่งตัวอยู่ในกรอบ แต่เริ่มแสดงอาการอ่อนค่าลงเล็กน้อย แต่มองว่าไม่ได้มีผลอะไรมากนัก ส่วนทิศทาง SET มองดัชนีปรับตัวลดลงไปต่ำกว่าระดับปัจจุบันและมองกลับไปทดสอบ 1480-1500 อีกรอบหนึ่ง

ทางเลือกหลัก : มองราคาพักตัวลงมาด้านล่างเล็กน้อยถึงระดับไม่เกิน 1300 จากนั้นมองการปรับตัวขึ้นต่อไปยังระดับด้านบนที่ 1310 และ 1320 ตามแนวโน้มขึ้นที่เริ่มมีแรงมากขึ้น เพียงแต่ยังมองการขึ้นในรอบนี้ยังไม่แข็งแรงเท่าไรนัก อาจต้องอาศัยข่าวและแรงซื้อเข้ามาช่วยเพิ่มเติม

ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวลดลงเกินกว่าระดับ 1300 มีแนวโน้มจะทำให้การขึ้นเสียไป และมองการปรับตัวลดลงไปทดสอบ 1285 อีกรอบหนึ่ง ถ้าเกิดหลุด 1285 ไป จะปรับตัวสู่ 1250

รายละเอียด

- เมื่อวานมีเหตุการณ์เกิดขึ้นค่อนข้างเยอะ และ เป็นเหตุการณ์ที่มีความสำคัญ นอกเหนือจากตัวเลขเศรษฐกิจของอเมริกา เริ่มจากข่าวทางฝั่งประเทศรัสเซียที่ได้นำกองกำลังทหาร 20,000 นาย ไปไว้ที่ชายแดนระหว่างยูเครนและรัสเซีย และอาจจะมีข้ออ้างในเรื่องของสิทธิมนุษย์ หรือ ต้องการเพื่อความสงบ ในการรุกล้ำเข้าไป ก่อให้เกิดความกังวลว่า สถานการณ์ความรุนแรงอาจจะเลวร้ายมากกว่านี้ไปอีก และประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ปูตินได้ออกมา Ban การนำเข้าสินค้าเกษตร และ อาหารจากประเทศที่ทำการคว่ำบาตรรัสเซีย ข่าวตัวนี้ส่งผลให้ทองคำปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลาง Sentiment ของตลาดที่ยังออกมาไม่ค่อยดีจากการฟื้นตัวของอเมริกาและอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในระยะสั้นนี้

- นักวิเคราะห์จาก Standard bank ได้ออกมาให้ความเห็นว่า ควรที่จะ Short ในขณะที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น และต้องติดตามระดับ 1285 ที่เป็นเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันให้ดี ถ้าราคาหลุดผ่านระดับนั้นลงไปได้นั้นมองว่าจะเปิดทางให้กับ Downside มากไปกว่านี้ และทำให้อัตราส่วนความเสี่ยง และ ผลตอบแทน (Risk-Reward ratio) น่าสนใจมากขึ้นสำหรับฝั่งขา Short

- GDP ไตรมาสสองของอิตาลีออกมาที่ระดับ –0.2% จากเดิม –0.1% และคำสั่งซื้อสินค้าของเยอรมันได้ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน ในทางเทคนิคแล้ว การที่อิตาลีมี GDP สองไตรมาสติดลบต่อกัน จะถือว่าเป็นการเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค (Technical Recession) และนำไปสู่ความกังวลที่ว่า ยูโรโซนฟื้นจริงหรือไม่ หลังจาก ธนาคารในโปรตุเกสก็ผิดนัดชำระหนี้ไปเร็วๆนี้เช่นกัน และ สภาพหนี้ในยูโรโซน รวมถึงการเติบโตก็ไม่ได้ออกมาโดดเด่น และ มาเจอปัญหาอิตาลีตามด้วยนั้นทำให้ความกังวลเริ่มกลับมา ถึงแม้บางส่วนจะมองว่า อิตาลีไม่ได้ฟื้นตัวตามประเทศอื่นอยู่แล้วก็ตาม

- จากปัญหาต่างๆข้างต้นส่งผลให้นักลงทุนออกจากโหมด Risk-on ไปเป็น Risk-off ซึ่งคือ ต้องการหลีกเลี่ยงจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ที่ค่อนข้างปลอดภัยหรือความเสี่ยงน้อย สังเกตุจากตลาดพันธบัตรอายุ 10 ปีของอเมริกาและเยอรมันว่า Yield ปรับตัวลดลงค่อนข้างเยอะเมื่อวานนี้ และ ทองคำกับเงินเยนก็ได้ประโยชน์จากการเป็น Safe asset เช่นเดียวกัน

- กองทุน SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำลง 2.4 ตัน สู่ระดับ 797.65 ตันในวันพุธ

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 EUR

ECB press conference 

USD

Unemployment claims 305K 302K

แนวทางทองคำวันที่ 6-8-57

เเนวรับ 1285 1280 1270 เเนวต้าน 1292 1297 1300

หลังจากทองคำไม่หลุดเกินกว่าระดับ 1280-1285 ที่เป็นโซนแนวรับสำคัญและมีแรงซื้อเข้ามานั้นมองว่า ในระยะสั้นจะมีแรงส่งขึ้นมาต่อไปยังระดับ 1292 ซึ่งจากปัจจุบันที่ 1290 อาจจะยังมี Upside จำกัด เพียงแต่ต้องมาดูว่า จะผ่านระดับ 1292 และไปยืนได้หรือไม่ ซึ่งมุมมองส่วนตัวมองว่า มีลุ้นผ่านไป กรณีผ่านไปจะทำให้ราคาทองคำ Break downtrend line ได้ และจะทำให้เปิดทางไปยังระดับ 1297-1300 กรณีที่ผ่านไม่ได้ และราคาลงมาจะมีระดับแนวรับเดิมคือ 1285-1280 ในตอนนี้รอยืนยันจากการผ่าน 1292 ให้ได้อย่างเดียว ถ้าผ่านได้จะดีขึ้น แต่ถ้าผ่านไม่ได้ จะโดนกดดันจากแนวโน้มเดิมในภาพใหญ่คือลง และแนวโน้มจะปรับตัวลดลงไปต่ำกว่าระดับ 1280

ต่างชาติเปลี่ยนหน้ามาขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยเล็กน้อย 843 ล้านบาท แต่ไป Long สุทธิ 4,890 ล้านบาท ซึ่งเมื่อวานนี้จะเห็น SET รีบาวน์ขึ้นมาแรง มองว่าอาจจะมีมุมมองในทางบวกอยู่บ้าง แต่ระยะสั้นนี้ถ้าไม่สามารถขึ้นไปทำ New-high เหนือระดับ 1550 ได้ มองว่า ความเสี่ยงในการปรับฐานต่อลงมาค่อนข้างมาก ค่าเงินบาทแนวโน้มทรงตัว ถึงค่อนไปทางแข็งค่าลงมาด้านล่าง โดยมีกรอบแนวรับ แนวต้าน ที่ระดับ 32.05-32.25 

ทางเลือกหลัก : ราคาปรับตัวสูงขึ้นไปทดสอบ 1292 และมองว่า จากโมเม็นตัมเชิงบวกมีลุ้นผ่านไปยังระดับ 1297 และ 1300 ได้ กรณีผ่านไม่ได้หรือผ่านไปแล้วยืนไม่ได้ จะทำให้ทองคำมีโอกาสปรับตัวลดลงมาแกว่งในกรอบ ถ้าแกว่งไปแกว่งมายังไม่มีปัจจัยใหม่อาจจะทำให้โดนแนวโน้มขาลงในภาพใหญ่กดดันและราคาน่าจะลงไปทำจุดต่ำสุดใหม่ได้ 

ทางเลือกรอง : ราคาลงไปผ่าน 1280-1285เลยโดยไม่มีการรีบาวน์ ซึ่งทางเลือกนี้มองว่า ยังไม่น่าเกิดในวันนี้ ควรจะได้เห็นราคาขึ้นไปหทดสอบระดับด้านบนก่อน 

รายละเอียด

- สถานการณ์ระหว่างยูเครนและรัสเซียส่อแววจะมีความรุนแรงมากขึ้นหลังจาก รัสเซียได้นำกองกำลังไปที่ชายแดนระหว่างรัสเซียและยูเครนเพื่อเป็นการกดดันประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น และ นาย วลาดิเมีย ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียก็ได้กล่าวว่าให้เตรียมการแก้แค้นกับประเทศตะวันตกที่ได้ทำการคว่ำบาตรรัสเซีย โดยกล่าวว่า สินค้าจากต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศตะวันตกในช่วงนี้อาจจะน้อยหน่อย โดยมาตรการคว่ำบาตรของอเมริกาและอียูนั้นจะเน้นไปที่อุตสาหกรรมอาวุธ และ น้ำมัน จะเห็นว่า สถานการณ์ที่เหมือนสงครามเย็นรอบนี้นั้นจะไม่จบง่ายๆ ทองคำก็จะมีแรงซื้อเข้ามาตลอด โดยที่ผ่านมาที่ทองคำปรับตัวขึ้น 7% หรือประมาณ $60-70/Oz. นั้นเป็นผลมาจากสงครามส่วนหนึ่ง

- ตัวเลขเศรษฐกิจของอเมริกาเมื่อวานนั้นออกมาค่อนข้างดี เริ่มจาก PMI ภาคบริการที่ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 60.8 ขณะที่คาดการณ์และเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 61.0 ส่วน ISM ภาคบริการออกมาดีสู่ระดับ 58.7 จากเดิม 56.0 และคาดการณ์ 56.6 นอกจากนี้ Factory order ออกมาจากโซนติดลบที่ระดับ 1.1% จากเดือนก่อนหน้า –0.6% และคาดการณ์ 0.6% จะเห็นว่า ตัวเลขส่วนใหญ่ออกมาดีขึ้น เพียงแต่ตลาดทองคำไม่รับข่าวหรือรับเพียงเล็กน้อยเพราะ สถานการณ์ความตึงเครียดจากฝั่งรัสเซียและยูเครนมาบดบังตัวเลขเศรษฐกิจซึ่งตัวเลขเหล่านี้โดยปกติแล้ว ไม่ได้เป็นตัวเลข High-impact หรือ ตัวเลขที่ส่งผลแรงต่อราคาทองคำ ซึ่งการปรับตัวขึ้นของทองคำเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการตกลงของตลาดหุ้นเมื่อวานนี้ด้วย

- ตัวเลขกลุ่ม PMI ภาคบริการของฝั่งยูโรโซนโดยรวมแล้วออกมาชะลอตัวเล็กน้อย เพียงแต่ประเด็นที่น่าจับตามองนั้นคือ ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ สาเหตุที่เป็นที่น่าจับตามองเพราะว่า ตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซน (CPI) ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 0.4% จาก 0.5% ในเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับที่ชะลอตัวลงอีกแล้ว รวมถึงอยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2009 ส่งผลให้มีการกังวลถึงภาวะเงินฝืดของยูโรโซนและต้องการให้ธนาคารกลางอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเพื่อสร้างเม็ดเงินให้หมุนเวียนในระบบมากขึ้น แต่ก็ยังคาดการณ์กันว่า ยังไม่น่ามีอะไรเพิ่ม ยังคงไม่มีนโยบายใหม่ๆออกมา ซึ่งในปัจจุบันค่าเงินยูโรที่อ่อนลงจากช่วงต้นปีก็มีแนวโน้มที่จะทำให้เศรษฐกิจในยูโรโซนขยายตัวเพิ่มขึ้นได้จากการส่งออกที่ดีขึ้น

แนวทางทองคำวันที่ 5-8-57

เเนวรับ 1285 1280 1270 เเนวต้าน 1292 1295 1300

หลังจากเมื่อวานนี้ทองคำปรับตัวลดลงมายังแนวรับที่เหนือกว่าระดับ 1285 และมีการรีบาวน์ขึ้นมามองว่า ในระยะสั้นอาจจะมีแรงส่งขึ้นมาได้อีกรอบหนึ่งไปยังระดับใกล้กับ 1295 แต่มองว่า การปรับตัวขึ้นนั้นจะเป็นไปอย่งาจำกัดและแนวโน้มที่ค่อนไปทางลงทางเดิมนั้นยังมีน้ำหนักอยู่ ยังไม่ค่อยเห็นสัญญาณเชิงบวกแรงๆนอกเหนือจากการรีบาวน์ ถ้าเกิดราคายังอยู่ในโซนนี้มองว่า อาจจะได้เห็นการปรับตัวค่อยๆลดลงไปยังระดับใกล้ 1250 หากไม่มีแรงซื้อเข้ามายืนเหนือ 1290 ได้ ส่วนค่าเงินยูโรก็มีทิศทางของการรีบาวน์ที่ไม่ค่อยแข็งแรงเช่นเดียวกันกับตลาดทองคำ 

ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้อีกหลัก 1000 ล้านบาท และไป Long สุทธิในฟิวเจอร์ร่วม 6,000 สัญญา ส่งสัญญาณในทางบวกต่อตลาดหุ้นไทย หลังจากเมื่อวานนี้สามารถปิดบวกแรง และ ปิดบวกเข้าใกล้ระดับสูงสุดของวัน รวมถึงแท่งเทียนออกมาในหน้าบวก จึงมองว่า แนวโน้มการรีบาวน์น่าจะเกิดขึ้นในช่วงนี้ เพียงแต่จะรีบาวน์ได้ไกลขนาดไหนนั้นต้องมาดูกัน เงินบาททิศทางทรงตัวค่อนไปทางแข็งค่าเล็กน้อย

ทางเลือกหลัก : ราคาขึ้นไปทดสอบระดับใกล้ 1290-1295 จากนั้นแนวโน้มน่าจะยังไม่ผ่านระดับนั้น และ ส่งผลให้ราคากลับตัวลงมาด้านล่าง ซึ่งการกลับมานั้นมองว่าระดับ 1285 ถ้ารับไม่อยู่ ระยะกลางแนวโน้มลงไปทดสอบ 1250

ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวลดลงไปเลยเกินกว่าระดับ 1285 จะทำให้มุมมองกลายเป็นลบ 

รายละเอียด

- เมื่อวานนี้ไม่ได้มีข่าวตัวเลขเศรษฐกิจออกมา มีแต่เพียงข่าวในเรื่องผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในอเมริกาที่ทยอยประกาศงบออกมาเรื่อยๆ มีการวิเคราะห์กันต่อว่า ต้องติดตามผลประกอบการให้ดีว่า การปรับตัวลดลงของกำไรในไตรมาสแรกจากภาวะภัยหนาวที่ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงจะส่งผลกระทบต่อรอบนี้หรือไม่ หรือ เศรษฐกิจจะเข้าสู่การกลับมาฟื้นตัวต่อเนื่องตามแนวโน้มเดิม

- อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตลาดหุ้นอเมริกาฟื้นตัวมาได้นั้นคือ ธนาคารในโปรตุเกส Banco Espirito Santoที่เคยมีการผิดนัดชำระหนี้ในเดือนที่ผ่านมาได้รับเงินช่วยเหลือ $6.6 Billions ส่งผลให้สถานการณ์ความกังวลในเรื่องของการผิดนัดชำระหนี้ที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจของยูโรโซนโดยรวมเริ่มมีปัญหาได้บรรเทาลง ส่วนสถานการณ์การผิดนัดชำระหนี้ในอาร์เจนตินานั้นยังคงไม่มีความคืบหน้า

- อิสราเอลและกลุ่มฮามาสได้ทำข้อตกลงการหยุดยิงร่วมกัน ซึ่งเป็นการหยุดยิงในรอบ 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงแม้จะมีลูกหลงในเยรูซาเล็มบ้างหลังจากการหยุดยิงแต่สถานการณ์โดยรวมก็คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น

- ฝั่งยูเครนนั้นได้แสดงความต้องการที่จะเจรจากับมอสโกเพื่อเรียกทหารที่อยู่บริเวณพรมแดนที่มีความขัดแย้งจำนวน 311 นายกลับ แต่ทางมอสโกก็ไม่ได้ตกลงแต่อย่างใด

- ในช่วงนี้ข่าวตัวเลขเศรษฐกิจค่อนข้างเบาบาง ทำให้เริ่มมีความเห็นต่างๆมามากขึ้น ล่าสุดการคาดการณ์ว่า Dollar Yen ว่าเงินเยนจะอ่อนค่าจริงไหม หลังจากกราฟดอลลาร์เยน (USD/JPY) ได้หลุดออกมาจากกรอบสามเหลี่ยมในภาพสัปดาห์แสดงให้เห็นถึง การหลุดแนวต้าน ซึ่งก็มีการให้ความเห็นตามมาว่า การหลุดแบบนี้มักจะกลายเป็น False หรือ การอ่อนค่าลงเพียงแปปเดียวของเงินเยน หมายความว่า เงินดอลลาร์นั้นอาจจะกลับลงมาอ่อนค่าอีกครั้งได้อีก

- ตลาดพันธบัตรอายุ 10 ปี ของอเมริกายังคงปรับตัวสูงขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในเดือนทีผ่านมา ส่งผลให้ Yield ของพันธบัตรอายุ 10 ปีของอเมริกาเริ่มปรับตัวลดลงมา และมองว่า เป็นการลดแรงกดดันจากการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในระยะสั้นนี้

- SPDR เพิ่มสถานะการถือครองทองคำอีก 1.79 ตันสู่ระดับ 800.05 ตันในวันจันทร์

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

21.00 USD 

ISM non-manufacturing PMI 56.6 56.0

แนวทางทองคำวันที่ 4-8-57

เเนวรับ 1290 1285 1280 เเนวต้าน 1295 1300 1305

ทองคำได้รับปัจจัยบวกดีดตัวขึ้นจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ออกมาน้อยลงและอัตราว่างงานกลับมาเพิ่มสูงขึ้น เพียงแต่มองว่า ถ้ายังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาเพิ่มเติมอาจได้เห็นการพักตัวลงมา และหมดรอบขึ้นได้ เพราะ การขึ้นมาแบบนี้ถึงแม้จะเกิดสัญญาณในทางบวกจากกราฟแล้ว แต่ถ้าปัจจัยต่างๆไม่มีมาสนับสนุนเงินก็จะยังไม่ไหลเข้า มองว่า ในวันนี้มีแนวโน้มลงไปแถว 1290 จากนั้นมาดูกันว่า จะสามารถพยุงราคาได้หรือไม่ ซึ่งถ้ามองจากภาพ H4 นั้นมองว่า น่าจะมีแรงซื้อเข้ามาจากเนวโน้มรีบาวน์ที่ดูดีขึ้น เพียงแต่ให้ระมัดระวังการปรับตัวลดลงเกินกว่าระดับ 1285 จะทำให้ภาพรวมการขึ้นเสียไป

ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยอีกเล็กน้อย 468 ล้านบาท และ Short สุทธิในฟิวเจอร์ 6,118 สัญญา นับเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน 

ทางเลือกหลัก : ราคาปรับตัวลดลงมาสู่ระดับ 1285-1290 จากนั้นคาดว่า น่าจะมีแรงซื้อเข้ามาตรงจุดนี้ จากภาพวันที่เกิดแท่งเทียน Bullish ขึ้นมา และภาพ H4 ซึ่งส่งสัญญาณรีบาวน์ขึ้นมา แต่ระยะสั้นมองการปรับตัวลดลงไปก่อน หมายความว่า ถ้าปรับตัวลดลงไม่ต่ำกว่า 1285 นั้นโดยรวมแล้วมองเป็นการลงเพื่อขึ้นต่อ

ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวลดลงมาต่ำกว่าระดับ 1285 จะทำให้มุมมองเริ่มกลายเป็นลบ

รายละเอียด

- ตัวเลข Non-farm payroll หรือตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาลดลงกว่าเดือนที่แล้วเล็กน้อยที่ระดับ 209K จากเดือนก่อนหน้า 298K และคาดการณ์ 231K ส่วนตัวเลขอัตราว่างงานนั้นเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 6.2% เมื่อเทียบกับ 6.1% ในเดือนก่อน ซึ่งตัวเลขนั้นค่อนข้างสวนทางกับจำนวนคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่แต่ละสัปดาห์นั้นคนขอรับการว่างงานน้อยลงเรื่อยๆ แต่ระดับ 209K นั้นมองว่า ยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง และโดยเฉลี่ยแล้วก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่าค่าเฉลี่ย ทางฝั่ง Average hourly earning ไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น รายรับส่วนบุคคลอยู่ที่ระดับเดิม ส่วนการใช้จ่ายแต่ละบุคคลปรับตัวลดลงเล็กน้อย 

- ตลาดหุ้นอเมริกายังปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาน้อย ส่งผลทำให้เกิดแรงขายออกมาจากตลาดหุ้นซึ่งก็มีมุมมองจากต่างประเทศว่า ในปัจจุบันตลาดหุ้นเพิ่งเริ่มจะตกและยังมี Downside risk ที่ยังสูงอยู่ และมุมมองทาง Technical บ่งบอกว่า ราคาได้หลุดลงจากระดับเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน และเริ่มเตือนว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตลาดแทบจะไม่ปรับฐานลงแรงเลย ทำให้นักลงทุนอาจหลงลืมไปว่า ตลาดหุ้นนั้นไม่ได้มีแต่ฝั่งขึ้นอย่างเดียว ซึ่งนับตั้งแต่ต้นปีมานั้นดูเหมือนนักลงทุนจะลืมว่าตลาดหุ้นก็สามารถตกได้ด้วย และได้เปลี่ยนคำแนะนำเป็นให้ใช้ความระมัดระวังในการลงทุน

- จาก Sentiment ในตลาดหุ้นเชิงลบนั้น ส่งผลให้ตลาดพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้นมาเมื่อวันศุกร์ จากการคาดการณ์ว่า ตัวเลขตลาดแรงงานที่ไม่ค่อยดีนั้นอาจจะทำให้การขึ้นอัตราดอกเบี้ยช้ากว่ากำหนด จึงทำให้เงินที่ไหลออกจากพันธบัตรนั้นกลับเข้าไปบางส่วน ค่าเงินดอลลาร์ทิศทางอ่อนค่าลงเล็กน้อย เพียงแต่ ยังมองว่า เป็นการอ่อนค่าที่ยังไม่มีน้ำหนักพอที่จะเปลี่ยนแนวโน้ม เช่นเดียวกับทองคำถึงแม้จะมีการรีบาวน์ขึ้นมาบ้าง แต่แนวโน้มยังไม่แข็งแรงต้องรอปัจจัยบวกมาสนับสนุนมากกว่านี้

- Hedge fund and money manager ลดสถานะ Bullish bet ลง ตามการปรับตัวลดลงของราคาข้อมูลอ้างอิงจากวันศุกร์ที่ 29 เดือนที่ผ่านมาจาก CFTC

- สถานการณ์ความรุนแรงระหว่างประเทศที่มีสงครามในช่วงระยะสั้นนี้วิเคราะห์กันว่าจะเป็นตัว Support ราคาทองคำได้บ้าง จะเห็นจากราคาที่ระดับไม่ต่ำกว่า $1,290 จะมีแรงซื้อเข้ามาตลอดซึ่งมองว่า ปัจจัยสงครามนั้นน่าจะเป็นจุดพยุงราคาแทน Physical demand ที่ปรับตัวลดลง

แนวทางทองคำวันที่ 1-8-57

เเนวรับ 1280 1270 1260 เเนวต้าน 1286 1290 1300

ในวันนี้จะมีการประกาศตัวเลข Non-farm payroll ซึ่งตัวเลขคาดการณ์นั้นมองไปทางบวกกับทองคำ หมายความว่า ตัวเลขคาดการณ์มองขึ้น โดยมีตัวสนับสนุนคือ ADP .นวันพุธที่การจ้างงานนอกมาน้อยลงด้วย เพียงแต่เมื่อมาดูอย่างอื่นประกอบพบว่า คนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เดือนที่ผ่านมาปรับตัวลดลงต่ำมาก จึงต้องมาลุ้นกันว่า จะออกมาหน้าไหน ค่าเงินยูโรก็ลงมาเยอะมากจนใกล้จะอิ่มตัว ก็มาลุ้นกันจะออกมาหน้าไหน แต่มองว่า ถ้าราคาไม่หลุด 1280 ลงมาก็ยังไม่ชัวร์ว่าจะลง การหลุด 1280 นั้นจะทำให้ภาพรวมเสียและปรับตัวไปยัง 1250 สำหรับการดีดขึ้นถ้ามีในวันนี้ควรจะยืน 1300 ให้ได้ จึงจะทำให้ไม่น่าเกลียดจนเกินไป

ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,095 ล้านบาท และยัง Short สุทธิในตลาดหุ้นไทย 2,520 สัญญา ทำให้เมื่อวานนี้ SET ลงมาทดสอบ 1500 และวันนี้เปิดตลาดมาที่ต่ำกว่าระดับ 1500 มาอยู่แถว 1490 คาดว่าจะมีรีบาวน์ขึ้นไปต่ออีกนิดหน่อยก่อนที่จะปรับตัวลดลงต่อโดยมีเป้าหมายแถวระดับ 1480 ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญอีกแนวหนึ่ง ค่าเงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่าลงไปอีกหลังจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมามาก และ ส่งผลให้เป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นไทยอีกทางหนึ่ง

ทางเลือกหลัก : ราคาแกว่งตัวอยู่แถวบริเวณนี้ เพียงแต่เมื่อวานนี้เป็นวันปิดแท่งเดือนที่ผ่านมา พบว่า ราคาก็ยังอยู่ในกรอบมองว่า ในภาพใหญ่สุดอย่างภาพเดือนนั้นราคากำลังสร้างฐานอยู่เหนือ 1180 และได้เกิดสัญญาณทารงบวกขึ้นนิดหน่อยจาก MACD ที่ตัด Signal line ขึ้นมา จึงมองว่า การปรับตัวลดลงช่วงนี้จะเป็นไปอย่างจำกัด (แนวรับใหญ่ 1180) แต่เมื่อมาดูภาพสัปดาห์ถ้าเกิดวันนี้ราคาดีดตัวแรงๆไปปิดบน 1300 ไม่ได้แนวโน้มในสัปดาห์หน้านั้นอาจได้เห็นราคาปรับตัวลดลงไปสู่ระดับ 1250 ได้ ถ้าเกิดยังไม่มีการรีบาวน์เกิดขึ้นในวันนี้

ทางเลือกรอง : -

รายละเอียด

- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาที่ระดับ 302K จากสัปดาห์ก่อนหน้า 279K และคาดการณ์ 303K ในสัปดาห์ที่แล้วที่ระดับ 279K นั้นเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 14 ปี หมายความว่า คนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 14 ปี แสดงถึงมุมมองว่า ตลาดแรงงานยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องไป ถึงแม้ในสัปดาห์นี้จะปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อยแต่โดยรวมแล้วยังอยู่แถวค่าเฉลี่ยในระยะยาว ซึ่งเมื่อนำมาเฉลี่ยกันแล้วพบว่า ตัวเลขในเดือนนี้ออกมาดีจนทำให้ภาพรวมของคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์โดยเฉลี่ยออกมาที่ระดับใกล้ระดับ 300K ซึ่งยังคงอยู่ระดับใกล้ จุดต่ำสุดในรอบ 14 ปี

- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวลดลงแรงร่วม 300 จุด นับเป็นการปรับตัวลดลงรุนแรงภายใน 1 วัน ในรอบ 6 เดือนนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ สาเหตุหลักมาจาก ประเทศอาร์เจนตินาได้ผิดนัดชำระหนี้เงินกู้และไม่สามารถเจรจากับ Hedge fund ในอเมริกาซึ่งเป็นเจ้าหนี้ได้ และตัวเลขเงินเฟ้อในยูโรโซนที่ออกมาเมื่อวานนี้พบว่า เงินเฟ้อชะลอตัวลงอีกเล็กน้อย ส่งสัญญาณว่า เศรษฐกิจในยูโรโซนยังอ่อนแอยังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจกระตุ้นการใช้จ่ายให้เกิดเงินเฟ้อในระบบได้ และนำไปสู่ความกังวลในเรื่องของภาวะเงินฝืดในยูโรโซน ทั้งนี้ดัชนีความเชื่อมั่นในฝั่งยูโรโซนกลับปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดแรงงาน แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจในยูโรโซนยังค่อยๆฟื้น แต่ฟื้นแบบเป็นส่วนๆไม่ได้ฟื้นทั้งหมด (สเปนยังมีปัญหาอยู่เรื่องธนาคารขาดทุน) และการฟื้นตัวนั้นมีปัญหาที่ตามมาคือ ภาวะเงินฝืด

- ตัวเลขค่าจ้างแรงงานออกมาเมื่อวานนี้พบว่า ค่าจ้างแรงงานปรับตัวเพิ่มขึ้นในรอบ 5 ปีครึ่ง ซึ่งหลังจาก FED กังวลเกี่ยวกับค่าจ้างที่ยังไม่ฟื้นตัว ค่าจ้างก็กลับมาฟื้นตัวในไตรมาสนี้ และ เป็นสัญญาณเชิงบวกถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนดหลังจาก FED ขอรอดูทิศทางตลาดแรงงานรวมถึงค่าจ้างด้วย 

- ยอดขายเหรียญทองคำในอเมริกาปรับตัวลดลง 40% ในกรกฎาคม เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน

- ความต้องการทองคำในอุตสาหกรรมจิลเวอรีของประเทศจีนปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 ปี ในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ และคาดการณ์กันว่า ดีมานด์ในกลุ่มจิลเวอรีนี้จะลดลงตลอดทั้งปีที่ประมาณ 20%

- เงินส่วนใหญ่ตอนนี้หลีกเลี่ยงออกจากสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น และ ก็หลีกเลี่ยงพันธบัตรจากการกังวลการขึ้นดอกเบี้ย เงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไปยังเงินดอลลาร์ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมาในรอบ 10 เดือน

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD 

Non-farm employment change 231K 288K
Unemployment rate 6.1% 6.1%
Average Hourly Earnings 0.2% 0.2%

แนวทางทองคำวันที่ 31-7-57

เเนวรับ 1293 1288 1280 เเนวต้าน 1300 1303 1305

ราคาทองคำค่อนข้างทรงตัว เพียงแต่ในภาพระยะวันนั้นยังส่งสัญญาณที่เป็นลบออกมาพอสมควรและมองการปรับตัวลดลงไปทดสอบระดับที่ต่ำกว่านี้แถว 1285-1288 เพราะ ข่าวด้านบวกไม่ค่อยมี ประกอบกับ แรงซื้อค่อนข้างหายไปหมด ซึ่งตลาดยังติดตามข่าวในวันศุกร์นี้ที่จะมีการประกาศตัวเลข Non-farm payroll ที่ราคามักจะผันผวนรุนแรง ส่วนตัวคาดการณ์นั้นมองว่าการจ้างงานจะออกมาน้อยลง แต่สัญญาณอื่นบ่งชี้ว่าทองคำจะปรับตัวลดลงต่อทำให้สภาพคล่องในช่วงนี้น่าจะหายไปบางส่วนเพราะ ข่าวที่แรงนั้นนักลงทุนมีทีท่าที่จะไม่เล่นและรอการประกาศข่าว แต่มองว่าตราบใดที่ยังไม่หลุด 1280 ลงมานั้นภาพรวมก็ยังพอลุ้นปรับตัวสูงขึ้นได้

ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย เพียงแต่เป็นการขาย Big lot ในหุ้น SIM ซึ่งหากหักตรงส่วนนี้แล้วจะทำให้ต่างชาติกลายเป็นซื้อสุทธิ 1,203 ล้านบาท และยังคง Short สุทธิอีก 4,666 สัญญา เงินบาทแนวโน้มอ่อนค่า และใกล้ผ่านระดับ 32.00 แล้ว SET index เมื่อวานตอนช่วงเช้าปรับตัวลดลงแรง แต่บ่ายมีรีบาวน์กลับและเกิดเป็นแท่งเทียน Pin bar มองว่า ราคาอาจจะมีกลับลงไปทดสอบอีกรอบหนึ่ง เพียงแต่ระดับ 1500 นั้นจะทำหน้าที่เป็นแนวรับที่ดีในระยะนี้ ภาพรวมยังมองลงไปมากกว่า

ทางเลือกหลัก : ราคาย่อตัวลงไปสู่ระดับ 1288 และ 1285 ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญในภาพวัน และไปดูกันตรงจุดนั้นว่าจะมีแรงซื้อเข้ามาพยุงราคาหรือไม่

ทางเลือกรอง : ราคาขึ้นไปยืนเหนือ 1303 จึงจะกลายเป็นมุมมองทางบวกทันที ซึ่งมองว่าโอกาสเกิดทางฝั่งนี้นั้นค่อนข้างน้อย

รายละเอียด

- เมื่อวันนี้มีข่าวออกมาค่อนข้างมาก แต่ราคากลับผันผวนอยู่ในกรอบ โดยรวมแล้วยังอยู่ในกรอบทิศทางเดิม แต่ระหว่างทางมีความผันผวนค่อนข้างมาก เริ่มจากการประกาศตัวเลข ADP non-farm payroll ที่ออกมาน้อยลงกว่าเดือนที่แล้ว และน้อยกว่าที่คาดการณ์ ระดับตัวเลขออกมาที่ 218K จากเดือนก่อนหน้า 281K และคาดการณ์ 234K ซึ่งเมื่อข่าวนี้ออกมาทองคำค่อนข้างทรงตัวจากนั้นมีประกาศตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 2 ออกมาพบว่าออกมาที่ระดับสูงมาก ขยายตัว 4% จากไตรมาสก่อนหน้า –2.9% และคาดการณ์ 3.1% นับเป็นการขยายตัวค่อนข้างมากโดยมีปัจจัยหลักมาจาก การขยายตัวของสต๊อกสินค้าคงคลัง และ ตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นหลังจากช่วงไตรมาสแรกของปีอเมริกาได้ประสบภัยหนาวและทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวไปมากส่งผลให้ GDP ในไตรมาสแรกออกมาไม่สวย

- ผลการประชุม FOMC เมื่อวานนี้ยังไม่มีอะไรใหม่ FED ยังคงเดินหน้าลดวงเงินไปอีก $10 พันล้านดอลลาร์และคาดว่าจะไปสิ้นสุดโปรแกรมในเดือนตุลาคม ส่วนระดับอัตราดอกเบี้ยนั้นยังไม่มีแนวโน้มจะขึ้นในระยะสั้นนี้ ไปดูกันตอนหลังจากยกเลิก QE จนหมด และได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับตลาดแรงงานและอัตราเงินเฟ้อที่เป็นตัวชี้วัดสำคัญของ FED ไว้ว่า ตลาดแรงงานฟื้นตัวแต่ยังต้องการงานที่มีคุณภาพ และค่าจ้างที่สูงขึ้นกว่านี้ ส่วนอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบัน PCE ที่เป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อของ FED (ปกติจะใช้ PCE อ้างอิงแทน CPI) ในไตรมาสที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 2.3% ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่ 2 % เพียงแต่ว่าเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นนี้ทาง FED มองว่า เป็นแค่ระยะสั้นและจะชะลอตัวลงในที่สุด โดยรวมแล้วก็ยังส่งสัญญาณทั้งฝั่ง Dovish (สายหงส์) และ Hawkish (สายเหยี่ยว) ที่มีมุมมองทั้งการคงการกระตุ้นเศรษฐกิจและนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นผสมกันจากผลการประชุมรอบเมื่อคืนนี้ ทำให้ทองคำยังไม่มีการเคลื่อนไหวมากเท่าไรนัก

- ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลดลงไปในทิศทางเดียวกันกับภูมิภาคยุโรป ซึ่งช่วงนี้จะเห็นเงินไหลออกจากหุ้นยุโรปมายังเอเชียเหนือแทน หลังจากหุ้นกลุ่มเอเชียเหนืออย่าง จีน ญี่ปุ่น ไต้หวันขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่ในรอบหลายปี ทางฝั่งตลาดพันธบัตรของอเมริกานั้นเมื่อวานนี้ปรับตัวลดลงรับข่าวส่งผลให้ Yield สูงขึ้น

- S&P ออกมาปรับลดเครดิตอาร์เจนตินาสู่ Default หรือผิดนัดชำระหนี้หลังจากไม่สามารถจ่ายคืนเงินกู้ได้ ซึ่งในปัจจุบันก็อยู่ระหว่างการตกลงเจรจา

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD

Unemployment claims 303K 284K

แนวทางทองคำวันที่ 30-7-57

เเนวรับ 1296 1288 1280 เเนวต้าน 1303 1305 1315

ทองคำเกิดอาการไม่ดีในภาพวันหลังจากไม่สามารถไปยืนบนค่าเฉลี่ยได้ และภาพรวมนั้นแนวโน้มถ้ายังไม่สามารถกลับไปยืนเหนือ 1315 ได้ โอกาสปรับตัวลดลงยังสูง ค่าเงินยูโรให้สัญญาณ Bullish divergent ซ้อนกันมาหลายรอบแล้ว อาจเกิดการดีดตัวขึ้นได้ในระยะใกล้ๆนี้และน่าจะเป็นผลให้ทองคำปรับตัวขึ้นตาม เพียงแต่ต้องมาติดตามว่า ทองคำจะสามารถปรับตัวสูงขึ้นไปยืน 1315 และเคลียร์ภาพลบออกไปได้ไหม แนวต้านระยะสั้นจะอยู่บริเวณ 1305 และในวันนี้จะมีข่าวสำคัญออกมาค่อนข้างมาก ส่วนใหญ่คาดการณ์จะเป็นบวกกับทองคำ จึงมองว่า อาจได้เห็นแรงซื้อขึ้นไปก่อน และ ช่วงออกข่าวต้องมาติดตามกันใหม่

ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,784 ล้านบาท และไป Short สุทธิในฟิวเจอร์เป็นวันแรก 2,660 สัญญา และยังคงซื้อสุทธิในตราสารหนี้ มีสื่อต่างประเทศ CNBC พาดหัวไว้ว่า Upside ของตลาดหุ้นไทยจะเป็นไปอย่างจำกัดแล้ว หลังจากที่รับข่าว คสช เข้ามาฟื้นฟูประเทศ จากนี้ไปคงได้เห็นการชะลอตัวลง และเข้าสู่เฟส 2 ของการดำเนินนโยบาย เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงแรงในวันนี้มองการรีบาวน์เล็กน้อยก่อนจะลงต่ออีก เงินบาททรงตัวถึงอ่อนค่า

ทางเลือกหลัก : ราคาขึ้นไประดับที่สูงเกินกว่า 1300 โดยมีแนวต้าน 1305 และ 1315 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากค่าเงินยูโรในระยะสั้นนี้ เพียงแต่แท่งเทียนในภาพวันของเมื่อวานนั้น น้ำหนักค่อนไปทางลบมากกว่า ทำให้มองการรีบาวน์ต้องติดตามให้ดีว่าจะคงยืนอยู่ในระดับสูงได้หรือไม่

ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวลดลงเกินกว่า 1296 จะเปิดทางไปสู่ 1288 และ 1280

รายละเอียด

- ตัวเลข S&P Case chiller ที่เป็นดัชนีตัววัดราคาบ้านหดตัวลงเล็กน้อยในเดือนที่ผ่านมาสู่ระดับ 9.3% จากเดือนก่อนหน้า 10.8% และคาดการณ์ 9.8% แสดงให้เห็นถึงตลาดบ้านยังมีทิศทางการฟื้นตัวไม่ชัดเจนราคาบ้านนั้นปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม2555รัฐที่มีการลดลงของราคาบ้านหนักที่สุดนั้นคือแอตแลนต้า

- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CB Consumer confidence) ออกมาที่ระดับดีมากระดับ 90. 9 จากเดือนก่อนหน้า 86.4 และคาดการณ์ 85.5 การที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคออกมาดีเช่นนี้เป็นการปรับตัวดีขึ้นในรอบหลายปี และไปใกล้เคียงกับช่วงก่อนวิกฤติซัพไพร์ม ระดับมากกว่า 90 ไม่ได้เห็นมาหลายปีแล้ว สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และ ความเชื่อมั่นที่มากขึ้นหมายถึงประชาชนกล้าที่จะใช้จ่ายขึ้น และ ส่งผลให้เศรษฐกิจนั้นมีแนวโน้มจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งขึ้น

- อเมริกาและยุโรปจะเริ่มทำการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ หลังจากเหตุการณ์ยังไม่มีความสงบ และ เรื่อง MH17 ที่ถูกยิงตกในช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา โดยจะเริ่มมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มอีกอย่างเช่น การเข้าไปกำหนดเป้าหมายธนาคารพาณิชย์ของรัสเซีย รัฐวิสาหกิจของรัสเซียที่เกี่ยวกับการทหารและอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ

- สงครามระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ยังคงกำเนินต่อไป ล่าสุดมีการใช้ Air strike ที่กลุ่มฮามาสอีกแล้ว ข่าวสงครามยังคงมีให้เห็นอยู่ทุกวัน แต่ราคาทองคำกลับไม่ค่อยรับข่าวเหล่านี้เท่าไร รวมถึงในแอฟริกาได้มีเชื่อไวรัสอีโบร่าระบาดขึ้นมาอีกรอบ ล่าสุด แพทย์ผู้รักษาได้ติดเชื้อ และ นางพยาบาลทั้ง 3 คนของทีมแพทย์ที่ได้เข้าไปรักษาด้วยกันนั้น ติดเชื้อและเสียชีวิตลงเรียบร้อย

-ในช่วงวันนี้สภาพคล่องของทองคำอาจหายไปบางส่วนเนื่องจากนักลงทุนต่างจับตาดูตัวเลขทางเศรษฐกิจยังไม่กล้าทำอะไรมากนัก เพราะ ตัวเลขที่ออกมานั้นเยอะและแต่ละตัวค่อนข้างมีความสำคัญมาก ทั้งตัวเลข GDP และ การประชุม FOMC รวมถึงตัวเลข Non-farm ในวันศุกร์

- ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นปรับตัวลดลงมากสุดนับตั้งแต่มีนาคม 2554 จากภาษีที่เพิ่มสูงขึ้น

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.15 USD

ADP non-farm payroll 234K 281K.

19.30 USD

Advance GDP 3.1% -2.9%

1.00 USD 

FOMC Statement

แนวทางทองคำวันที่ 28-7-57

เเนวรับ 1296 1288 1280 เเนวต้าน 1306 1310 1315

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นผ่านระดับ 1303 และไปหยุดที่ระดับ 1306 แต่ช่วงเช้าเปิดตลาดมาพบว่า ปรับตัวลดลงมาอีกรอบหนึ่ง และทำให้การขึ้นกลายเป็นไม่มีความหมาย เกิดเป็นสัญญาณกลับตัวลงมา ทำให้มองว่า ราคามีแนวโน้มจะกลับลงไปต่ำกว่า 1300 ได้อีกรอบหนึ่ง ซึ่งมีแนวรับเล็กๆที่ 1296 และ 1288 แนวรับใหญ่ที่ 1280 แนวโน้มนั้นราคาอาจมีการลงระยะสั้นบ้าง แต่ถ้าไม่หลุดแถว 1280 นั้นยังมองระยะยาวว่ายังเป็นในเชิงบวก ส่วนค่าเงินดอลลาร์นั้นพบว่า ยังแข็งค่าและขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ จึงเป็นปัจจัยลบ ตลาดพันธบัตรทรงตัว และ ตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงเป็นปัจจัยบวกกับทองคำ

ต่างชาติกลับมาขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 998 ล้านบาท แต่ยังคง Long สุทธิในฟิวเจอร์ 1,476 สัญญา และยังคงซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้อยู่ ค่าเงินบาทแนวโน้มทรงตัววิ่งอยู่ในกรอบสักพักหนึ่ง ส่วนตลาดหุ้นไทยนั้นพบว่า ได้รับปัจจัยลบจากหุ้นต่างประเทศเข้ามาประกอบกับการไม่มีข่าวใหม่ และ ภาวะซื้อมากเกินไปจึงมีความเสี่ยงที่ตลาดจะปรับฐานลงมา หากระยะสั้นนี้ยังไม่สามารถทำ New-high ขึ้นไปได้

ทางเลือกหลัก : ราคาเมื่อวันศุกร์ได้ขึ้นผ่านแนวต้าน 1301 มา และไปปิดที่ 1306 ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญถัดไป จากนั้นเปิดตลาดมาตอนเช้าได้ปรับตัวลดลงและเกิดเป็นสัญญาณกลับตัวที่แนวต้าน 1306 มองราคากลับลงไปต่ำกว่าระดับ 1300 อีกครั้งหนึ่ง จะไปเจอแนวรับแรก 1296 และแนวรับสำคัญ 1288 และ 1285 มองว่า ราคาจะกลับลงไปแถวนั้น ถ้าเกิดไม่สามารถผ่านลงไปได้นั้น แนวโน้มอาจจะได้เห็นรีบาวน์ขึ้นมาแรงพอสมควร 

ทางเลือกรอง : ราคายืนเหนือ 1305 นั้นจะมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นต่อไปอีก 

รายละเอียด

- ตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนออกมาที่ระดับ 0.7% จากเดือนก่อนหน้า 0.4% และคาดการณ์ระดับ -0.9% ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้างคงทนแบบไม่รวมสินค้าหมวดยานพาหนะพบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกันที่ระดับ 0.8% จากเดือนก่อนหน้า 0% และคาดการณ์ 0.6% ตัวยอดสั่งซื้อสินค้างคงทนจะเห็นว่า ปรับตัวดีขึ้นมาก ทั้งจากระดับเดือนก่อนหน้าและตัวคาดการณ์ เพียงแต่ตลาดหุ้นกลับไม่ได้รับปัจจัยลบนี้ไปเท่าไร เพราะ เกิดความรุนแรงจากสงครามที่ล่าสุด มีการปะทะกันเกิดขึ้น และ ฮามาสได้ละเมิดสัญญาการหยุดยิง ส่วนฝั่งลิเบียก็ปะทุขึ้นมาอีกครั้งจึงทำให้วันศุกร์ที่ผ่านมา ถึงแม้ตัวเลขจะออกมาดี แต่ตลาดหุ้นยังตก และทองคำได้รับปัจจัยบวกจากข่าวสงครามในระยะสั้นขึ้นมา รวมถึง พันธบัตรรัฐบาลของอเมริกาก็ปรับตัวสูงขึ้น และ Yield ลดลงต่ำกว่าระดับ 2.5% เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน

- มีการวิเคราะห์กันว่า FED อาจจะขึ้นดอกเบี้ยไวกว่ากำหนด ซึ่งเกิดจากเพื่อต้องการลดความร้อนแรงของภาวพฟองสบู่ลง โดยให้ความเห็นว่า ถ้าราคาสินทรัพย์พุ่งสูงขึ้นเร็วกว่าอัตราเงินเฟ้อนั้นจะทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ และ FED จะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อลดความร้อนแรงลง อีกมุมหนึ่ง ด้านปัจจัยพื้นฐานก็มีการวิเคราะห์กันว่า น่าจะยังไม่เห็นการปรับตัวลดลงแบบโหดๆของตลาดหุ้นอเมริกาอาจจะมีเพียงแค่การพักฐานในระยะสั้น เนื่องจาก สภาพเศรษฐกิจยังออกมาดี และ Yield curve ยังอยู่ในรูปแบบของชันขึ้น แสดงให้เห็นถึง อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นต่ำกว่าระยะยาว ซึ่งจะเริ่มมีปํญหาเมื่ออัตราดอกเบี้ยระยะสั้นสูงกว่าระยะยาว จะเป็นตัวบ่งชี้ของภาวะเศรษฐกิจถดถอย ในปัจจุบันเรายังไม่เห็นสัญญาณบ่งชี้ตัวนั้น จึงทำให้การขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในรอบนี้จะเป็นเพียงแค่ทำให้เกิดแรงขายออกมา และ ตลาดมีแนวโน้มจะขึ้นกลับไปคืน

- Hedge fund และ Money manager ได้เพิ่มสถานะ Bullish bet ในทองคำ หลังจากราคาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในวันศุกร์ และทำให้ภาพรวมรายสัปดาห์นั้นทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่ไปลดสถานะ Bullish ในซิลเวอร์ลงเล็กน้อย ข้อมูลจาก CFTC เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

- ข้อมูลจาก IMF ระบุว่า รัสเซีย และ ตุรกี ได้เพิ่มการสำรองทองคำเพิ่มอีก รวมทั้งหมดเป็นการซื้อตุนทองคำ 3 เดือนติดต่อกัน 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

21.00 USD 

Pending home sales -0.2% 6.1%

แนวทางทองคำวันที่ 25-7-57

เเนวรับ 1290 1285 1280 เเนวต้าน 1295 1303 1306

ราคาทองคำปรับตัวลดลงมาสู่ระดับแนวรับ 1290 และมองว่าระดับนี้น่าจะเกิดการชะลอตัวลง และ ปรับตัวรีบาวน์ขึ้นมา โดยมีจุดที่น่าสนใจอยู่บริเวณระดับ 1300-1303 ซึ่งโซนนี้เป็นโซนแนวรับสำคัญที่ปัจจุบันกำลังกลายเป็นแนวต้านสำคัฐ ถ้าเกิดราคาจะลงต่อไปยัง 1280 นั้น ตรงจุด 1303 มักจะเกิดสัญญาณกลับตัวอย่างเช่น ไปทดสอบแล้วยืนไม่อยู่ กรณีไปปิดเหนือ 1303 ในวันนี้ได้จะทำให้ภาพรวมกลายเป็น Sideways อีกครั้งหนึ่ง แต่ตลาดค่อนไปทางลบมากกว่าจึงคาดว่าจะปรับตัวลดลงต่อไปอีก ค่าเงินยูโรก็เริ่มสร้างฐานแถวบริเวณนี้ได้ จึงมองว่า น่าจะพอมีแรงซื้อขึ้นไปเล็กน้อย เพียงแต่ว่า ให้ระมัดระวังอารมณ์ตลาดที่ค่อนข้างลบ

ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยต่อ 1,163 ล้านบาท หลังจากขายสุทธิในวันก่อนหน้า และยังไป Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก 3,404 สัญญา และก็คงการซื้อตราสารหนี้ต่อไป ค่าเงินบาทแนวโน้มยังทรงตัวถึงค่อนไปทางอ่อนค่าหน่อยๆ SET ยังคงปรับตัววนเวียนอยู่แถวระดับแนวต้าน จะให้ดีและขึ้นต่อนั้นควรจะขึ้นไปทำ New-high ถ้าไม่สามารถทำได้ จะมีความเสี่ยงในด้านการปรับฐานอยู่ ซึ่งสัญญาณที่เห็นในปัจจุบันยังไม่ดีเท่าไร

ทางเลือกหลัก : ราคาลงมาทดสอบระดับแนวรับ 1290 ที่เป็นแนวรับในภาพวันแล้ว แต่จุดนี้ไม่ใช่แนวรับใหญ่ จึงระดับนัยสำคัญของการรีบาวน์มีบ้าง แต่ไม่มาก ในระยะสั้นมองว่า อาจจะมีการรีบาวน์จากระดับนี้ขึ้นไปหน่อย แต่มองว่า สมควรที่จะหาสัญญาณขายลงมา โดยมีจุดที่น่าสนใจคือ แนวต้าน 1303 ภาพระยะวันส่งสัญญาณปรับตัวลดลงอย่างชัดเจน และยังไม่เห็นสัญญาณกลับตัว ซึ่งมองว่าถ้าจะกลับตัวได้อย่างต่ำต้องไปยืน 1303 ให้ได้ จึงได้จุดที่น่าจะติดตามการกลับตัวที่ 1303 นั่นเอง ถ้าเกิดเปิด Short แล้วราคาไหลขึ้นไปก็จำเป็นต้องตัดขาดทุนออกมา แต่แนวโน้มน่าจะไม่ขึ้นไม่รอดสำหรับทองคำช่วงนี้

ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวขึ้นเกินกว่า 1303 และไปยืนได้ จะมองเป็นรูปแบบการแกว่งตัวออกข้างไปอีกสักพักหนึ่ง

รายละเอียด

- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาในระดับที่ต่ำมากในสัปดาห์นี้ ตัวเลขออกมาที่ระดับ 284K ซึ่งไม่ได้เห็นระดับที่ต่ำกว่า 300K มาเป็นเวลานาน จากสัปดาห์ก่อนหน้า 303K และคาดการณ์ 310K ส่วน Flash manufacturing PMI ออกมาที่ระดับ 56.3 ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าที่ 57.3 และคาดการณ์ 57.5 ถึงแม้จะออกมาน้อยกว่าเดิมเล็กน้อย แต่อยู่เหนือระดับ 50.0 มาค่อนข้างมากแสดงให้เห็นถึงภาคการผลิตยังขยายตัวอย่างต่อเนื่องแต่มาชะลอตัวลงในเดือนนี้ จากนั้นมีตัวเลข New-home sales ออกมาพบว่าปรับตัวลดลงมากสู่ระดับ 406K จากเดือนก่อนหน้า 442K และคาดการณ์ 485K จะเห็นว่า ตัวเลขเหล่านี้ก็เป็นไปตามที่ FED มองไว้ คือ ตลาดแรงงานและภาคการผลิตโดยรวมดีขึ้น แต่ตลาดบ้านและที่อยู่อาศัยยังคงออกมาค่อนข้างผสมมีทั้งดีและไม่ดี

- กลุ่มตัวเลข Flash PMI ของยูโรโซนออกมาค่อนข้างทรงตัว เริ่มจากฝรั่งเศสออกมาปรับตัวน้อยลงและต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งฝรั่งเศสนั้นในตอนนี้เป็นประเทศที่ภาคการผลิตชะลอตัวลงค่อนข้างมาก ส่วนของเยอรมันนั้นออกมาปรับตัวดีขึ้น ไปในทิศทางเดียวกันกับยูโรโซนโดยรวม คือดีขึ้น แต่ดีขึ้นเพียงเล็กน้อย และ น้อยกว่าที่คาดการณ์ เมื่อข่าวออกก็ทำให้เงินยูโรเริ่มแข็งค่าขึ้นมาระหว่างวันหลังจากอ่อนตัวลงไปด้านล่าง และ เกิดอาการชะลอตัวลง ณ ระดับนี้

- การนำเข้าทองคำของจีนจากฮ่องกงปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือนในเดือนมิถุนายน เนื่องมาจากค่าเงินหยวนที่อ่อนค่า และ การนำเข้าทองคำโดยตรงของจีน

- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ IMF ปรับลดการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2014 ลงเนื่องจาก การเติบโตที่ต่ำกว่าคาดการณ์ในไตรมาสแรกโดยเฉพาะในอเมริกาและกลุ่มประเทศเกิดใหม่ที่ยังดูไม่ดีเท่าไรนัก ซึ่งปรับลดลงจากเดือนเมษายนลงมาสู่ระดับ 3.4% ลดลงจาก 3.7% แต่ยังมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ในปี 2013 ที่ 3.2% และได้กล่าวเพิ่มเติมว่า เศรษฐกิจโลกจะยังอยู่ระดับอ่อนแออีกไปสักพักเนื่องจากขาดแรงส่งหรือโมเม็นตัมหลักๆในประเทศพัฒนาแล้ว และ นโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นของประเทศกำลังพัฒนา

- SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำลง 3.6 ตันเมื่อวานนี้

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD

Core durable goods orders 0.6% 0.0%
Durable goods orders 0.4% -0.9%

แนวทางทองคำวันที่ 24-7-57

เเนวรับ 1295 1290 1280 เเนวต้าน 1302 1306 1310

เมื่อวานไม่มีข่าวที่มีนัยสำคัญ แต่ทองคำก็ค่อยๆปรับตัวลดลงไปยังระดับ 1300 และในตอนเช้าช่วงของการซื้อ-ขายตลาดเอเชีย ราคาก็ได้ตกผ่านระดับแนวรับจิตวิทยา 1300 ไปได้ ซึ่งภาพรวมมองว่า ราคากำลังจะลงไปที่ระดับ 1290 ซึ่งเป็นแนวรับย่อยแนวหนึ่ง จากนั้นมองลงไปสู่ระดับ 1280 ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญของภาพใหญ่เลย การหลุดระดับนี้จะทำให้กรขึ้นมาไม่สวย สำหรับทั้งเดือนที่ผ่านมา ภาพระยะวัน และ H4 เกิดสัญญาณกลับตัวลงมาชัดเจนขึ้น เส้นค่าเฉลี่ยสั้นตัดยาวลงมาเรียบร้อย ส่วนตลาดอื่นอย่างเงินดอลลาร์นั้นแข็งค่าพอสมควร และ เงินยูโรก็อ่อนค่าและมองว่าจะอ่อนค่าลงไปอีก จึงเป็นปัจจัยลบกับราคาทองคำ

ต่างชาติเริ่มขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยเล็กน้อยเป็นวันแรก 762.8 ล้านบาท นับว่าเป็นจำนวนที่ไม่มาก และยังไป Long สุทธิในฟิวเจอร์เพิ่มอีกแต่เป็นจำนวนน้อยลงที่ 937 สัญญา SET หลังจากวันก่อนปรับตัวลดลง 20 จุด เมื่อวานนี้รีบาวน์กลับมาเกือบเท่าเดิม และเมื่อเช้านี้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นไปกว่าวันที่ตก แนวต้านอยู่แถวบริเวณนี้ผ่านได้มองว่าจะเปิดทางไปสู่ระดับที่สูงขึ้น ต้องมาติดตามกันในระดับนี้ส่วนเงินบาทแนวโน้มทรงตัวถึงอ่อนค่าเล็กน้อย

ทางเลือกหลัก : ราคาหลุดระดับ 1300 ลงมา มองว่าพร้อมจะปรับตัวไปสู่ระดับ 1290 ซึ่งเป็นแนวรับในรอบเก่า มองว่าตรงจุดนั้นอาจจะมีการรีบาวน์ขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่จะปรับตัวลดลงไปสู่ระดับ 1280 ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญสุดท้าย และ ไม่ควรจะหลุดลงไปจากระดับนี้ เพราะจะทำให้ภาพการขึ้นในระยะเดือนเสียไป

ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวรีบาวน์ขึ้นแรงไปยืนเหนือ 1306 ได้ กรณีทางเลือกรองนี้มองว่าในวันนี้โอกาสการเกิดค่อนข้างน้อย

รายละเอียด

- เมื่อวานนี้ไม่มีข่าวตัวเลขเศรษฐกิจอเมริกาออกมา ตลาดเล่นกันตามการเก็งกำไรทางเทคนิค และได้รับ Sentiment ในทางลบจากตลาดหุ้นอเมริกาที่ S&P500 เมื่อวานได้ขึ้นไปแตะระดับ New-high อีกรอบ แต่ดาวโจนส์ไม่ได้ไปตาม โดยมีสาเหตุหลักมาจากการปรับตัวขึ้นของหุ้น Apple และ Facebook ที่กำไรออกมาเกินกว่าที่คาดการณ์และราคาหุ้นได้ทำ New-high ขึ้นไปส่งผลให้ Sentiment ตลาดนั้นออกมาค่อนข้างดี และเงินไหลเข้าไปเก็งกำไรในตลาดหุ้น ส่วนตลาดทองคำนั้นหลังจากหมดแรงบวกที่จะส่งจากข่าวตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆที่ออกมาดีเกือบทั้งหมจึงยากที่ทองคำจะขึ้น ถึงแม้ระยะสั้นข่าวเรื่องความไม่สงบของประเทศที่มีสงครามจะออกมาบ้างก็ตามแต่ตลาดไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไรแล้ว และทำได้เพียงพยุงราคาเหนือระดับ $1300 แต่เมื่อตลาดเริ่มชินกับข่าว จึงทำให้ข่าวที่พยุงราคาไม่สามารถพยุงได้และส่งผลให้เช้าวันนี้ในช่วงของการซื้อ-ขายในตลาดเอเชีย ราคาได้ปรับตัวหลุดลงกว่าแนวรับ $1,300

- เงินยูโรช่วงนี้เป็นประเด็นหลักที่ตลาดให้การจับตามอง เนื่องจากในวันก่อนหน้าหลุดระดับแนวรับหนาแน่นบริเวณ 1.35 ซึ่งเป็นระดับแนวรับในรอบ 10 เดือน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลาง ECB และนโยบายการเงินที่เข้าสู่ภาวะเสถียรของ FED ซึ่งทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่ามาอีกทางหนึ่ง จากนี้ไปคาดการณ์กันว่า เงินยูโรจะลดลงไปอยู่ระดับ 1.32 ที่เป็นแนวรับสำคัญอีกแนวหนึ่ง และเงินยูโรที่อ่อนค่านั้นจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศเยอรมันที่ช่วงเดือนก่อนหน้าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นมามาก เยอรมันได้ออกมาเร่งให้ ECB ผ่อนคลายทางการเงินเพื่อทำให้เงินยูโรอ่อนค่าลงเพื่อที่จะกระตุ้นการส่งออก ซึ่งเงินยูโรปัจจุบันได้เข้าสู่ช่วงอ่อนค่าแล้ว คาดว่าเยอรมันจะกลับมาฟื้นตัวได้ดีกว่าเดิม

- การเติบโตของเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของยูโรโซน ประเทศสเปนคาดว่า GDP นั้นจะเติบโต 0.5% ในไตรมาส 2 เมื่อเปรียบเทียบกับ 0.4% ในไตรมาสแรก นอกจากนี้ธนาคารกลางของสเปนได้ออกมาปรับเป้าการเติบโตของปีหน้าด้วย

- SPDR เพิ่มสถานะการถือครองทองคำอีก 0.6 ตัน สู่ระดับ 805.44 ตันซึ่งเป็นการซื้อสองวันต่อเนื่องกัน

- HSBC Flash PMI ของจีนออกมาปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือนที่ 52.0

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19.30 USD 

Unemployment claims 310K 302K

21.00 USD

New home sales 485K 504K