ประชาสัมพันธ์
แนวทางทองคำวันที่ 23-7-57
เเนวรับ 1302 1290 1280 เเนวต้าน 1310 1313 1318
ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1310 จากนั้นมีแรงพยายามกลับไปยืน และยืนไม่ได้ ปรับตัวขึ้นไปอยู่เพียงแปปเดียว กลายเป็นสัญญาณในทางลบทันที และมองการปรับตัวลดลงต่อไปด้านล่างที่ระดับ 1280-1290 โดยมีเนวรับแรกของวันที่ 1302 ข่าวต่างๆนั้นพบว่าไม่ได้เป็นบวกกับทองคำเลย อเมริกามีตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีเกือบทั้งหมด ข่าวสงครามถูกมองว่าเป็นเรื่องภายในประเทศ และไม่กระทบกับเศรษฐกิจโลก ค่าเงินยูโรหลังจากตั้งฐานแถวแนวรับระดับ 10 เดือนได้ จากนั้นไม่สามารถทนแรงขายได้และส่งผลให้หลุดแนวรับสำคัญมา มองว่าตัวนี้ก็จะเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำอีกด้วย
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,716 ล้านบาท และไป Long สุทธิในฟิวเจอร์อีก 4,465 สัญญา ส่วนตลาดตราสารหนี้พบว่า ต่างชาติซื้อสุทธิ 23,635 ล้านบาท ซึ่งค่อนข้างหนาแน่น และส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าลงมาอย่างต่อเนื่อง SET index หลังจากปรับตัวลดลงแรงเมื่อวานเกือบ 20 จุด วันนี้เปิดตลาดมามีแรงซื้อเข้ามาพอสมควร และยังอยู่ในทิศทางของ Sideways แต่ค่อนไปทางลบเล็กน้อย จากแท่งเทียนเมื่อวานนี้
ทางเลือกหลัก : หลังจากเมื่อวานราคาหลุดลงมาจากระดับ 1310 และ พยายามกลับไปยืนด้านบนแต่ยืนไม่สำเร็จนั้นมองว่า ถึงเวลาที่ราคาจะปรับตัวลดลงต่อไปอีก ภาพ H4 เข้าสู่ Downtrend แต่ยังคงออกอาการ Sideways เช่นเดียวกับภาพ H1 เริ่มปรับตัวลดลงอีกครั้งถึงแม้จะยังไม่ลงแรง แต่ระยะสั้นมองว่า ความเสี่ยงเรื่องราคาลงแรงอาจมีบ้างแล้ว แนวรับเป้าหมาย 1280-1290 ในรอบนี้
ทางเลือกรอง : ราคากลับขึ้นไปยืนระดับ 1310 ได้และไม่หลุดลงมา
รายละเอียด
- ตัวเลขเงินเฟ้อเมื่อวานของอเมริกาออกมาต่ำกว่าเดือนที่แล้ว และ ต่ำกว่าที่คาดการณ์ ออกมาที่ระดับ 0.3% เท่ากันกับที่คาดการณ์จากเดือนก่อนหน้า 0.4% ส่วน Core CPI ที่ไม่รวมสินค้าหมวดอาหารและพลังงานออกมาที่ระดับ 0.1% จากเดือนก่อนหน้า 0.3% และคาดการณ์ 0.2% เมื่อข่าวนี้ออกราคาทองคำได้รีบาวน์ขึ้นมาด้านบนน่าจะจากการคาดการณ์ที่ว่า เงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงนั้นอาจจะทำให้ FED ชะลอการขึ้นดอกเบี้ยไปก่อน แต่ระดับที่ขึ้นไปสูงนั้นก็ไม่สามารถยืนได้ เพราะ น้ำหนักจากข่าวยังน้อยประกอบกับ ข่าวอีกข่าวหนึ่งคือ ตัวเลข Existing Home sales ซึ่งขายดีสุดในรอบ 8 เดือน ตัวเลขออกมาที่ระดับ 5.04M จากเดือนก่อนหน้า 4.91M และคาดการณ์ 4.98M มากกว่าทั้งเดือนก่อนหน้าและคาดการณ์ ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาทั้งหมดดูเหมือนจะเป็นปัจจัยลบกับทองคำ และตอนนี้เมื่อมาดูทางด้านปัจจัยพื้นฐาน พบว่า ไม่มีข่าวใดสนับสนุนการขึ้นของทองคำได้เลย เมื่อไม่มีปัจจัยมาสนับสนุนให้ระมัดระวังการปรับตัวลดลงเมื่อราคาขึ้นมาอยู่ในระดับที่สูง ข่าวสงครามตลาดเริ่มไม่ให้ความสนใจมากเท่าไรนักแล้ว เพราะ ส่วนใหญ่มองว่าเป็น Local risk หรือความเสี่ยงภายในประเทศไปแล้ว ซึ่งปัจจุบันวิเคราะห์กันว่า ความเสี่ยงเรื่องสงครามได้สะท้อนเข้าไปในราคาทองคำแล้วผ่านระดับที่ยินเหนือ $1,300 ซึ่งดูเหมือนจะยังได้แค่ระดับนี้
- นักวิเคราะห์จาก Reuters poll วิเคราะห์ว่า ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้คาดว่าจะเห็นราคาทองคำปรับตัวลดลงไปอีก จากนโยบายการเงินของ US กลับเข้าสู่ระดับปกติ และ ความต้องการ Physical ของเอเชียที่ยังอยู่ในระดับอ่อนแอ ซึ่งแรงซื้อ Physical มองว่าราคาต้องต่ำกว่าระดับ $1,300/Oz. จึงจะมีเข้ามา
- สถานการณ์ในยูเครนผ่อนคลายลง จากการที่กลุ่มกบฎได้มอบกล่องดำของเครื่องบิน MH17 ให้กับรัฐบาลมาเลเซียและเปิดทางเส้นทางรถไฟบรรทุกผู้เสียชีวิตออกจากที่เกิดเหตุ
- ค่าเงินยูโรหลังจากเกิด Pin bar เมื่อวานนี้ไม่สามารถยืนอยู่ได้ และ เกิดแรงขายลงมาต่ำกว่าระดับในรอบ 10 เดือน เป็นผลทำให้ Sentiment เป็นในทางลบทันที และ จะดึงทองคำลงมาด้วย
- SPDR เพิ่มสถานะการถือครองทองคำ 1.5 ตัน สู่ระดับ 804.84 ตันในวันอังคารที่ผ่านมา
แนวทางทองคำวันที่ 22-7-57
้เเนวรับ 1310 1306 1280 เเนวต้าน 1318 1320 1325
ทองคำเมื่อวานนี้ค่อนข้างทรงตัว ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวมากนัก (ยกเว้นค่าเงินบาทที่แข็งค่าลงมาอย่างแรง) และหลังจากขึ้นไปทดสอบ 1318 แล้วไม่ผ่านก็ย่อตัวลงมาด้านล่าง ทำให้มองว่า ภาพ H1 ราคาออกอาการ Sideways แต่ค่อนไปทางขึ้น แต่ภาพ H4 ยังคงอยู่ในช่วงขึ้นไม่ได้เสียรูป และมองว่าพร้อมจะขึ้นไปทดสอบระดับ 1323-1325 อีกรอบหนึ่ง กรณีราคาหลุด 1310 ลงมานั้นมองลงไปยังแนวรับ 1306 และถ้าหลุด 1306 แล้ว มองว่ามีช่องว่างให้ลงอีกพอสมควร แต่ทางลือกในฝั่งขึ้นนั้นได้เปรียบมากกว่าในวันนี้ ค่าเงินยูโรเกิดสัญญาณชะลอตัวระดับแนวรับสำคัญจึงมองว่าตัวนี้น่าจะเป็นปัจจัยบวกเพิ่มเติมให้กับทองคำในระยะนี้ด้วย
ต่างชาตืซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 558 ล้านบาท และเปลี่ยนหน้าฟิวเจอร์กลายเป็น Short สุทธิ 4,094 สัญญา และประเด็นสำคัญที่น่าติดตามคือ เมื่อวานนี้ต่างชาติเข้ามาซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรมากถึง 10,019 ล้านบาท ตัวนี้เองน่าจะเป็นตัวที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าลงมาอย่างรุนแรงผ่านแนวรับ 31.96 ลงมาอีก และ ดูเหมือนแรงขายจะยังไม่หมดแต่มองว่าน่าจะเริ่มชะลอตัวลงเพราะเงินบาทไม่เคยเคลื่อนไหวลงรุนแรงสองวันติดกันมานานแล้ว
ทางเลือกหลัก : ภาพรวมทองคำนั้นยังส่งสัญญาณเป็นบวกอยู่ หลังจากเมื่อวานขึ้นไปทดสอบด้านบนแถว 1318 และยังไม่สามารถผ่านได้ ราคามีการย่อตัวลงมาพักระดับด้านล่าง มองว่า ภาพ H1 ยังส่งสัญญาณ Sideways ลักษณะค่อนไปทางขึ้น ส่วนภาพ H4 ยังส่งสัญญาณขึ้นอยู่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด จึงมองราคกลับขึ้นไปทดสอบด้านบนบริเวณ 1323-1325
ทางเลือกรอง : ราคากลับลงไปทดสอบระดับที่ต่ำกว่า 1310 จะทำให้การขึ้นเริ่มเสีย และจะปรับตัวไปยัง 1306 แนวรับสำคัญถัดมา กรณีหลุด 1306 นั้นมองเป็นลบทันที โอกาสเกิดทางเลือกรองในวันนี้มีมากขึ้น แต่ก็มองว่า น้ำหนักในทางเลือกหลักนั้นยังคงได้เปรียบมากกว่า
รายละเอียด
- สถานการณ์ความรุนแรงในยูเครนและรัสเซีย รวมถึงทางฟาก อิสราเอล และ ปาเลสไตน์ ก็ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ยังคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรงเพิ่มเติมในอนาคต ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถึงแม้จะเป็นตัวกดดันสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกอย่างหุ้น ที่มีข่าวชะลอตัวลงถึงแม้ตัวเลขเศรษฐกิจจะออกมาดี แต่ช่วงหลังตลาดเริ่มไม่ให้ความสนใจกับข่าว นับตั้งแต่เครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ถูกยิงเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมานั้น ตลาดรับข่าวเพียงเล็กน้อย จากนั้นในวันอื่นถึงแม้จะมีการปะทะกันอยู่เรื่อยๆ แต่กลับมองว่ากลายเป็นปัญหาของแต่ละประเทศมากกว่าที่จะเป็นปัญหาที่จะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อระบบเศรษฐกิจโลกโดยรวม จึงทำให้ข่าวสงครามในช่วงนี้ไม่ได้เป็นปัจจัยหนุนหลักเท่าไรนัก นอกจากนี้จะเห็นว่าตลาดหุ้นแต่ละประเทศไม่ได้ให้น้ำหนักกับข่าวสงครามในทิศทางเดียวกัน จะเห็นว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา ตลาดยุโรปและอเมริกาปรับตัวลดลงจากความกังวลเรื่องยูเครน แต่ตอนเช้าเมื่อตลาดเอเชียเปิดพบว่า ดัชนีหุ้นฮั่งเส็ง และ นิเคอิ ปรับตัวสูงขึ้นร่วม 1% ท่ามกลาง Sentiment ฝั่งตะวันตกที่เป็นลบ
- ทองคำปรับตัวสูงขึ้นมายืนเหนือระดับ $1,310/ Oz. จากสถานการณ์ความกังวลเรื่องสงคราม ที่ระดับนี้วิเคราะห์กันว่าเป็นที่อยู่ของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ซึ่งราคาไม่หลุดโซนนี้ก็น่าจะมีแรงซื้อเข้ามา Support ราคาทองคำในระยะสั้น ค่าเฉลี่ย 200 วันหมายถึง ราคาเฉลี่ยเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา พบว่า ทองคำยังคงปรับตัวสูงขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยที่ระดับ $1,310/Oz.
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวานนี้ไปในทิศทางเดียวกันกับความรุนแรงที่เกิดขึ้น เพียงแต่ในปัจจุบันนี้มองว่า ราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวขึ้นได้อย่างจำกัด เพราะ สงครามในอิรักมองว่า ไม่ได้ผลกระทบกับบ่อน้ำมันโดยตรง กลุ่มกบฎได้ยึดทางตอนเหนือซึ่งมีบ่อน้ำมันน้อย และยังไม่ได้ยึดตอนใต้ซึ่งเป็นที่อยู่ของบ่อน้ำมันหลายบ่อ อีกฟากหนึ่งคือ Supply น้ำมันดิบยังคงอยู่ในระดับสูงหลังจากอเมริกาและซาอุดิอาระเบียยังคงสามารถผลิตได้เต็มกำลังการผลิตและยังเร่งตัวขึ้นอีกด้วย
- SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำลงเล็กน้อย 1.8 ตัน คงเหลือที่ระดับ 803.34ตัน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
CPI 0.3% 0.4%
Core CPI 0.2% 0.3%
21.00 USD
Existing home sales 4.98M 4.89M
แนวทางทองคำวันที่ 21-7-57
เเนวรับ 1306 1304 1280 เเนวต้าน 1315 1320 1325
ทิศทางภาพรวมนั้นในภาพวันเริ่มออกอาการ Sideways เพียงแต่ภาพสัปดาห์นั้นทรงเสียพอสมควร เป็นสัญญาณเตือนให้ระมัดระวังการปรับตัวลดลงในสัปดาห์นี้แต่ภาพระยะสั้นมองว่า ราคาจะยังสามารถขึ้นไปได้จากภาพ H1 และ H4 ที่ยังคงเป็นบวกและพร้อมที่จะปรับตัวขึ้นต่อไปทดสอบ 1323-1325 อีกรอบหนึ่ง ค่าเงินยูโรเกิดสัญญาณกลับตัว Pin Bar ระดับแนวรับสำคัญในรอบ 10 เดือน จึงมองเป็นสัญญาณบวกว่า เงินดอลลาร์น่าจะถึงเวลาอ่อนค่าลงมาแล้ว และทองคำถ้าจะรับข่าวกับตัวเงินดอลลาร์ก็น่าจะไปในทิศทางขึ้นเช่นกัน แต่ตามภาพสัปดาห์ที่กลายเป็นลบไปแล้ว จึงมองว่า ระหว่างที่ขึ้นมานี้ไม่ควรจะถือยาวเพื่อลดความเสี่ยง
ต่างชาติยังคงซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 797 ล้านบาท และ Long สุทธิในฟิวเจอร์ค่อนข้างมากอีก 3,013 สัญญา ส่งผลให้ค่าเงินบาทเปิดตลาดมาเช้าวันจันทร์แข็งค่าอย่างรุนแรง มองว่าถ้าเป็นอย่างนี้ ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าหลุดระดับ 32.00 ไปยังระดับ 31.96 แนวรับอีกรอบหนึ่ง ส่วน SET index ยังมองแกว่งไปแกว่งมาอยู่บริเวณนี้อีกสักพักหนึ่ง เพราะภาพรวมปนกัน มีการเล่นเปลี่ยนกลุ่มอุตสาหกรรม และ กองทุนทริกเกอร์ที่ใกล้จะปิดสถานะ
ทางเลือกหลัก : ราคาลงมาระดับล่างแล้วจากนั้นเริ่มรีบาวน์ขึ้นมา ทำให้ภาพรวมไม่เสียนัก ทั้งภาพ H1 และ H4 เกิดสัญญาณไปต่อทั้งหมด มองว่า ราคาน่าจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับ 1323-1325 อีกครั้ง เพียงแต่ภาพวันนั้นยังออกอาการ Sideways และภาพสัปดาห์ในสัปดาห์ที่ผ่านมาปิดไม่สวยเท่าไร จึงมองว่า หลังจากขึ้นไปแล้วให้ระมัดระวังหน่อยจะดีกว่า
ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1304-1306 จะเปิดทางไปสู่ 1280
รายละเอียด
- ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของคนอเมริกันลดลงจากเดือนก่อนหน้าเล็กน้อยสู่ระดับ 81.3 จากเดือนก่อนหน้า 82.5 และคาดการณ์ 83.0 ถือเป็นการปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อยสำหรับความเชื่อมั่นผู้บริโภค
- ประธานาธิบดีรัสเซีย ปูติน ได้โดนกดดันจากทางอเมริกาเรื่องของเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ที่ตกในยูเครน หลังจาก รมว.ต่างประเทศได้พบว่า จรวดนั้นทำจากประเทศรัสเซีย ส่วนประเทศออสเตรเลียซึ่งมีผู้เสียชีวิตอยู่ในเครื่องบินลำดังกล่าวก็ได้ออกมากดดันปูตินถึงคำตอบว่า รัสเซียเป็นผู้สนับสนุนอาวุธให้กลุ่มกบฎนิยมรัสเซียหรือไม่ และใครจะเป็นผู้รับผิดชอบเหตุการณ์เหล่านี้
- ประธานธิบดีบารักโอบามา กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า มีคนอเมริกันอย่าง 1 คนที่เสียชีวิตอยู่บนเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ที่ถูกยิงร่วง และ ต้องการที่จะให้มีการสืบสวนเพิ่มเติม
- เงินยูโรเมื่อวันศุกร์ลงไปต่ำกว่าระดับ $1.35 จากนั้นมีแรงซื้อกลับเข้ามาทำให้ปิดเหนือแนวรับและเกิดสัญญาณกลับตัวขึ้นมา และมองกันว่าระดับ 1.3460-1.3480 นั้นเป็นระดับแนวรับ ที่สำคัญในรอบ 10 เดือนที่ผ่านมาและคาดว่าจะเป็นตัว Support เงินยูโรได้อยู่ ส่วน JP Morgan ก็ออกมาให้ความเห็นว่า สถานการณ์ความรุนแรงนั้นอาจจะเป็นความเสี่ยงของแต่ละประเทศ ไม่ใช่ความเสี่ยงที่เป็นระบบที่กระทบทั่วโลก จึงเป็นผลทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงมาเล็กน้อย
- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวสูงขึ้นจากการเก็งกำไรผลประกอบการ และยังไม่มีเหตุการณ์อะไรใหม่เกิดขึ้น ส่วนตลาดพันธบัตรก็พักตัวลงมาเล็กน้อย ส่วนราคาน้ำมันดิบหลังจากปรับตัวสูงขึ้นจากสถานการณ์รุนแรงต่างๆ ในช่วงเช้าของวันนี้ได้เจอแรงขายออกมาพอสมควร แต่ราคาก็ยังอยู่ในระดับที่สูงขึ้นจากช่วงสามสัปดาห์ก่อนหน้านี้
- กองทุน Hedge funds และ Money manager ลดสถานะ Bullish bet ลงในสัปดาห์นี้ นับเป็นการปรับลดลงครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ท่ามกลางความกังวลที่บรรเทาลงของการผิดนัดชำระหนี้ของธนาคารพาณิชย์ในโปรตุเกส
- SPDR เพิ่มสถานะการถือครองทองคำอีก 0.2% สู่ระดับ 805.14 ตัน
แนวทางทองคำวันที่ 18-7-57
เเนวรับ 1315 1312 1306 เเนวต้าน 1321 1324 1330
ราคาทองคำดีดตัวขึ้นแรงจากแนวรับด้านล่าง มองว่า ระยะสั้นได้ปรับตัวพักลงมาแล้วส่วหนึ่ง มองการพักตัวลงแถว 1315 ต้องมาดูตรงนี้ว่าแรงซื้อจะเข้ามาหรือไม่ ถ้ายังไม่มีก็มาดูอีกทืที่ 1307 แต่มองว่าระดับ 1315 น่าจะโอเคแล้ว เมื่อกลับตัวได้ มองว่าจะมีช่องว่างขึ้นไปทดสอบแนวต้านเดิมแถวบริเวณ 1323-1325 ที่เป็นแนวต้านสำคัญพอสมควร จากเส้นแนวโน้มและฟิโบของรอบนี้ที่ 61.8% ถ้าผ่านไปได้อีกมองการกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านเดิมที่ 1345 ยังพอมีหวังสำหรับฝั่งขึ้นตามที่มองว่าถ้าเกิดมายืน 1306 ได้นั้นก็เป็นมุมที่ดีมากขึ้น สำหรับค่าเงินยูโรลงมาสู่แนวรับสำคัญเรียบร้อย มาลุ้นหาสัญญาณกลับตัว
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,866 ล้านบาท และ หันมาเปิดสถานะฝั่ง Long ในฟิวเจอร์ 580 สัญญา ค่าเงินบาททิศทางตรงตัวถึงอ่อนค่า ตลาดหุ้นไทยยังมีความพยายามที่จะขึ้นมาอีกรอบหนึ่ง ตอนนี้ก็ยังอยู่แถวบริเวณแนวต้าน มองว่า ถ้าผ่านแล้วก็ผ่านเลย แต่ให้ระมัดระวังเช่นเดิม ตลาดรอบโลกก็ยังไม่เอื้อต่อการขึ้นเท่าไร แต่ทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติยังคงไหลเข้าภูมิภาคอยู่ ก็ต้องติดตามกันให้ดี
ทางเลือกหลัก : ราคาปรับตัวลดลงมาด้านล่างบริเวณ 1307-1315 และรับอยู่ จากนั้นมีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบ 1320-1325 อีกรอบหนึ่ง ภาพ H4 เริ่มส่งสัญญาณทางบวกมากขึ้นเส้นค่าเฉลี่ยสั้นตัดยาวขึ้นมา ส่วนภาพ H1 ส่งสัญญาณพักอยู่ หมายความว่า ราคามีแนวโน้มลงเพื่อที่จะขึ้นต่อไปอีก จึงควรหาสัญญาณแรกแถว 1315 ว่าแรงซื้อจะเข้ามาเหนือแรงขายหรือไม่
ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวลดลงผ่านระดับ 1307 จะทำให้การขึ้นมาทั้งหมดเสียทรง
รายละเอียด
- ประเด็นสำคัญเมื่อวานนี้ที้ทำให้ตลาดทองปรับตัวสูงขึ้นคือ เครื่องบินพาณิชย์ที่บินจาก อัมสเตอร์ดัม ไป กัวลาลัมเปอร์ ได้บินผ่านไปยังพรหมแดนระหว่างยูเครนและรัสเซีย จากนั้นมีมิสไซส์ยิงเข้าใส่ ทำให้เครื่องบินระเบิด ผู้เสียชีวิตร่วม 300 คน หลังจากข่าวนี้ออกทำให้ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ยังคงต้องการตรวจสอบเพิ่มเติมและเรียกร้องให้คนที่ยิงออกมาแสดงความรับผิดชอบ เพียงแต่ในตอนนี้ต่างฝ่ายต่างยังไม่รับว่าใครเป็นคนยิง ฝั่งยูเครนก็อ้างว่ารัสเซีย ฝั่งรัสเซียก็อ้างว่า ยูเครนและต่างฝ่ายต่างเรียกร้องให้อีกฝ่ายออกมาแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งกลุ่มกบฎ (กลุ่มสนับสนุนรัสเซีย)ก็กล่าวไว่ว่า ไม่มีอาวุธที่มีศักยภาพพอที่จะยิงขึ้นไปบนอากาศที่สูงขนาดนั้นได้ ส่วนทางฟากอิสราเอลและฮามาสก็ยังทำสงครามกันต่อหลังจากสิ้นสุดสัญญาหยุดยิงในช่วงบ่ายของเมื่อวาน ข่าวสงครามเหล่านี้ทำให้ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลดลงแบบ Triple digit หรือเลขสามหลักปิดลบไป –0.94% และส่งผลให้ตลาดหุ้นยุโรปตกและเอเชียเปิดเป็นสีแดงเมื่อเช้านี้
- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาที่ระดับ 302K จากเดือนก่อนหน้า 305K และคาดการณ์ 310K ตัวเลขนั้นออกมาต่ำมากๆ ต่ำกว่าช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาแสดงถึงตลาดแรงงานกำลังฟื้นตัวอย่างดี ส่วนตัวเลข Housing starts และ Building permits ต่างก็ปรับตัวลดลงทั้งคู่และน้อยกว่าที่คาดการณ์
- ประธาน FED สาขา เซนต์หลุยส์ นาย James Bullard ได้ออกมาให้ความเห็นว่า หากอัตราว่างงานดีขึ้นในระดับนี้ และ อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นแบบนี้เช่นเดียวกัน FED อาจจะตัดสินใจที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่กำหนด
- โลหะอื่นๆอย่างแพลตินัมนั้นก็ได้รับผลประโยชน์จากการที่เกิดเหตุการณ์ในรัสเซียขึ้น เนื่องจากเป็นประเทศรายใหญ่ที่ทำการผลิตแพลตินัม อีกทางฝั่งพัลเลเดียมก็ได้ประโยชน์จากยอดขายรถยนต์อยู่ ล่าสุดตัวเลขยอดขายรถยนต์ใน EU เพิ่มสูงขึ้น 10 เดือนติดต่อกัน
- ธนาคารจีน Bank of communication ได้ส่งสัญญาณไม่สามารถชำระหนี้ได้อีกแล้ว แต่ตลาดก็ไม่ได้ให้ความสนใจอะไรมาก นอกจากนี้ราคาบ้านในจีนตกลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา
- SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำลง 2.69 ตัน สู่ระดับ 803.34 ตัน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20.55 USD
Prelim Consumer sentiment 83.5 82.5
แนวทางทองคำวันที่ 17-7-57
เเนวรับ 1296 1293 1290 เเนวต้าน 1302 1306 1312
ทองคำพยายามปรับตัวขึ้นมาจากภาวะ Bullish divergent ในภาพ H1 ทำให้ราคาขึ้นมา และเกิดเส้นค่าเฉลี่ยสั้นตัดยาวขึ้นพร้อมกับ MACD ที่ตัด Signal line ขึ้นมาตามตำรา แต่ภาพ H4 นั้นยังไม่แสดงอาการขึ้นแรงเท่าไร ยังคงเป็นแค่การรีบาวน์จากการที่ตกลงมาเยอะ ทำให้มองว่า ถึงแม้ราคาจะมองขึ้นไปทดสอบระดับใกล้ 1306 นั้น แต่ก็ยังคงให้ใช้ความระมัดระวัง เพราะ ภาพรวมเป็นลบพอสมควร ถ้าขึ้นแรงไม่พอ จะปรับตัวลดลงมาอีก ขึ้นแรงพอหมายถึงต้องยืนบนกรอบ 1306-1310 ให้ได้ในช่วงระยะนี้ ค่าเงินยูโรเมื่อวานนี้อ่อนฮวบลงมาใกล้แนวรับสำคัญ ต้องมาดูว่าจะรีบาวน์แล้วพาทองขึ้นด้วยได้หรือไม่ ตลาดหุ้นดาวโจนส์ยังทำ New-high ส่วนตลาดพันธบัตรก็ปรับตัวสูงขึ้น
ต่างชาติยังคงทำเหมือนเดิม คือ ซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย วันที่เจ็ดติดต่อกัน 1,316 ล้านบาท และยัง Short สุทธิเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันอีก 2,196 สัญญา ยังคงมองการพักฐานของ SET ลงมาด้านล่างจากการที่ขาดปัจจัยใหม่ และตลาดขึ้นมาต่อเนื่องหลายวันโดยไม่พัก แต่ก็มองเพียงแค่เป็นการพักตัวลงมาในแนวโน้มขาขึ้น ยังไม่เสียรูปแต่อย่างใด ค่าเงินบาททิศทางยังคงอยู่ในช่วงอ่อนค่า
ทางเลือกหลัก : จาก Bullish divergent เมื่อวานในภาพ H1 นั้นในวันนี้ได้มีแรงส่งให้ราคาไปต่อได้อีก มองแนวต้านไว้ที่ประมาณ 1306 ที่เป็นที่อยู่เดิมของแนวรับสำคัฐ ภาพรวมระยะสั้นเริ่มเป็นบวกมากขึ้น ภาพ H1 เข้าหลัก เส้นค่าเฉลี่ย สั้น ตัด ยาว ขึ้นมา และ MACD เหนือ 0 ส่วน H4 ยังส่งสัญญาณเพียงแค่แนวโน้มรีบาวน์ จะให้ดีและไม่ลงต่อนั้นราคาควรจะขึ้นไปปิด 1306 ให้ได้ในวันนี้
ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวลดลงไปด้านล่างต่ำกว่า 1295 และ 1290 จะเปิดทางไป 1280 ทันที
รายละเอียด
- ตัวเลขดัชนีราคาฝั่งผู้ผลิต PPI ปรับตัวสูงขึ้น 0.4% จากเดือนก่อนหน้า –0.2% และคาดการณ์ 0.2% ตัวเลขนี้บ่งบอกถึง เงินเฟ้อทางฝั่งผู้ผลิตที่เร่งตัวสูงขึ้น ก็เป็นสัญญาณที่ดีและไม่ดีกับทองคำ สัญญาณที่ดี หมายถึง เงินเฟ้อที่สูงขึ้นนั้นจะทำให้ทองคำน่าดึงดูดมากขึ้นในฐานะสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันเงินเฟ้อ ( ตัวนี้มีข้อแม้คือ เงินเฟ้อที่รุนแรง และ พักหลังมานี้ทองคำถูกอ้างว่าเป็นสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อน้อยลง) ทางด้านลบนั้น หมายถึง เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นจะเปิดช่องให้ FED ขึ้นอัตราดอกเบี้ยไวขึ้น ซึ่งตัวนี้น่าจะมีอิทธิพลมากกว่าสำหรับทางลบ มีนักวิเคราะห์จากเมืองนอกคาดการณ์กันว่า ตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในช่วงนี้ ถ้าเกิดเป็นอย่างนี้ต่อไปอาจจะทำให้ FED ขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนด
- อัตราการใช้กำลังการผลิตลดลงเล็กน้อยจากคาดการณ์ แต่ก็ไปเท่ากับในเดือนก่อนหน้า ส่วนผลผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยรวมการใช้กำลังการผลิตก็ยังอยู่ในระดับที่ดีใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในระยะยาว ตัวนี้ก็ยังส่งสัญญาณในทางบวกกับเศรษฐกิจอเมริกา
- Beige Book หรือสมุดที่ FED ใช้บันทึกกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆที่ว่ากันว่า สามารถใช้ดูแนวโน้มเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี พบว่า สภาพเศรษฐกิจ ตลาดแรงงาน ฟื้นตัวอย่างดี โดยมีสองรัฐเท่านั้นที่เติบโตช้ากว่าชาวบ้านนิดหน่อย คือ Boston และ Richmond ภาคท่องเที่ยวนั้นเติบโตได้อย่างดีในทุกภูมิภาค ยอดค้าปลีกดีขึ้นเล็กน้อย นำโดยการเพิ่มขึ้นของยอดขายรถยนต์ ภาคการผลิตก็ยังขยายตัว ฝั่งตลาดบ้านนั้นยังมีทิศทางที่ยังไม่ชัดเจน บางรัฐดี บางรัฐไม่ดี และ Janet Yellen ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ต้องจับตาดูตลาดแรงงานว่าจะมีการฟื้นตัวเกินกว่าที่คาดไว้หรือไม่ รวมถึง อัตราค่าจ้างด้วย อยากให้ค่าจ้างเพิ่มจะได้ดึงดูดคนที่มีศักยภาพเพิ่มขึ้น ซึ่งเรื่องค่าจ้างในปัจจุบันยังไม่เป็นปัญหาที่รุนแรงนัก อีกตัวหนึ่งที่จะจับตาดูอัตราเงินเฟ้อ และช่วงที่ผ่านมาอัตราเงินเฟ้อก็เริ่มปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งถ้ามีอะไรขึ้นไปแบบรุนแรงก็จะทำการขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำลง 2.7 ตันสู่ระดับ 806.03 ตัน แสดงถึง Sentiment ของตลาดที่ค่อนไปทางลบไปในทิศทางเดียวกันกับที่หลายฝ่ายเริ่มออกมาคาดการณ์กัน ( Sentiment ตลาดส่วนหนึ่งได้รับรู้ถึงเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งไปส่วนหนึ่งแล้วผ่านการปรับลดของราคาที่ค่อนข้างหนัก ต้องลองติดตามตัวนี้ด้วย)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Unemployment claims 310K 304K
Building permits 1.04M 0.99M
Housing starts 1.02M 1.00M
แนวทางทองคำวันที่ 16-7-57
เเนวรับ 1293 1290 1280 เเนวต้าน 1300 1302 1306
ทองคำปรับตัวลดลงผ่านแนวรับสำคัญ 1306 ซึ่งปัจจุบันระดับนี้จะกลายเป็นแนวต้านไป ในระยะสั้นจากภาวะ Bullish divergent มองว่า จะทำให้ราคากลับไปทดสอบระดับ 1300-1306 ได้ แต่ถ้าตลาดแบบนี้ ควรหาสัญญาณขายจากด้านบน โดยมีจุดเปลี่ยนจากเชิงลบเป็นกลางคือ ราคาสามารถไปปิดเหนือ 1306 ได้ จึงจะมองว่าดีขึ้น ถ้าเกิดปิดไม่ได้แนวโน้มจะปรับตัวลดลงต่อไปอีก ซึ่งจะเจอแนวรับสำคัญอีกแนวหนึ่งที่ 1280 ซึ่งกรณีการหลุด 1280 ไปนั้นมองว่า ราคาจะเข้าสู่แนวโน้มขาลงอีกครั้งทันที และมีแนวโน้มจะหมดรอบรีบาวน์ภาพใหญ่ ซึ่งกว่าจะถึงจุดนั้นต้องมาดูกันอีกรอบ ค่าเงินยูโรส่งสัญญาณอ่อนค่าลงชัดเจน และยังมีช่องว่างให้ลงไปอีก
ต่างชาติยังคงซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย อีก 1,592 ล้านบาท แต่ไปเริ่ม Short สุทธิในฟิวเจอร์เพิ่มอีกเป็นวันที่สอง 2,026 สัญญา ทิศทาง SET เริ่มเห็นอาการพักฐาน เพียงแต่ยังมีแรงซื้อพยุงขึ้นมาในระยะสั้น แต่มองว่า ถ้าเกิดไปทดสอบแนวต้านเดิมแถว 152X แล้วยังไม่ผ่าน คาดว่าน่าจะทำให้ SET ปรับตัวลดลงอีกรอบหนึ่ง ลักษณะให้น้ำหนักลงเล็กน้อยในช่วงนี้ ส่วนค่าเงินบาททิศทางยังคงมองอ่อนค่าขึ้นไปเช่นเดิม
ทางเลือกหลัก : จากภาวะ Bullish divergent มองว่า ระยะสั้นทองคำได้รับปัจจัยหนุนอยู่ตรงนี้ และมองกลับไปทดสอบระดับ 1300 –1306 โดยทั้งโซนนั้นจะกลายเป็นแนวต้านสำคัญไปแล้ว มุมมองเริ่มเป็นลบมากขึ้นหลังจากหลุดลงมา มีกรณีเดียวที่จะกลายเป็นกลางคือ ในวันนี้ราคาต้องขึ้นไปปิดบน 1306 ให้ได้ และสำหรับคนเล่น ต้องหาจัหงวะขายบริเวณแนวต้านหากพบสัญญาณกลับตัว
ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวลดลงต่อและผ่าน 1290 ไปได้ จะเจอแนวรับสำคัญอีกทีแถว 1280 แต่มองว่า โอกาสเกิดทางเลือกรองในวันนี้ค่อนข้างน้อย เพราะ Bullish divergent ค่อนข้างชัด
รายละเอียด
- เมื่อวานมีตัวเลขเศรษฐฏิที่สำคัญพอสมควร เริ่มจากช่วงบ่าย ตัวเลข German ZEW economic sentiment ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 27.1 จากเดือนก่อนหน้า 29.8 และตัวเลขคาดการณ์ 28.9 ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงน้อยกว่าทั้งเดือนที่แล้ว และ คาดการณ์ ส่วน ZEW economic sentiment ออกมาที่ระดับ 48.1 จากเดือนก่อนหน้า 58.4 และ คาดการณ์ 62.3 ตัวนี้ก็ออกมาน้อยกว่าเดือนที่แล้วและคาดการณ์เช่นกัน ซึ่งตัว ZEW นั้นจะเป็นการสำรวจความเชื่อมั่นของนักลงทุน นักธุรกิจต่างๆ และนำมาคำนวณเป็นตัวเลข ตัวเลขที่น้อยลงนั้นจะหมายถึง ความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจในอนาคตก็น้อยลง ส่งลให้เงินยูโรอ่อนค่าลงมา และเมื่อวานนี้หลุดแนวรับสำคัญระยะสั้น กำลังมุ่งหน้าไปยังแนวรับถัดไปแถว 1.350-1.352 ซึ่งตัวเงินยูโรที่อ่อนค่าลงจะหมายถึง แรงกดดันแก่ราคาทองคำได้ การที่เงินยูโรอ่อนค่าลงอาจจะเป็นผลดีต่อเยอรมันมากขึ้นหลังจากช่วงทีผ่านมาได้ออกมากล่าวว่า เงินยูโรปัจจุบันแข็งค่าจนเกินไป และ อยากให้อ่อนกว่านี้หน่อย จากนี้ไปก็คงเป็นผลดีกับประเทศเยอรมัน
- ในช่วงหัวค่ำมีตัวเลขยอดค้าปลีกของอเมริกาออกมาสู่ระดับ 0.4% ตามคาดการณ์ และน้อยกว่าที่คาดการณ์ที่ 0.5% ซึ่งตัวเลขนี้เป็นหมวด Core retails sales เป็นหมวดค้าปลีกซึ่งไม่รวมสินค้าประเภทรถยนต์ ส่วนค้าปลีกทั่วไป หรือ Retail sales ออกมาปรับตัวเล็กน้อย 0.2% จากเดือนก่อนหน้า 0.5% และคาดการณ์ 0.6% จริงๆแล้วข่าวนี้ไม่ได้ส่งผลต่อทองคำมากนัก แต่ค่อนไปทางลบจากตัวเลขที่ดีขึ้น
- Janet Yellen ประธาน FED ออกมากล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจนั้นยังคงไม่ฟื้นตัวดี และยังคงต้องการนโยบายผ่อนคลายทางการเงินอยู่ และในอนาคตอาจจะมีการนำมาตรการเหล่านี้มาใช่ใหม่ได้อีกหากมีความจำเป็น ประเด็นที่จับตามองนั้นจะเป็นเรื่องตลาดแรงงาน และจะนำมาพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากตลาดแรงงานนี้เช่นกัน หากตลาดแรงงานมีการปรับตัวดีขึ้นแบบกระโดดอาจจะพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนด (ทองคำน่าจะโดนจากประโยคนี้จนปรับตัวลดลง) ส่วนตลาดสินเชื่อนั้นยังมีความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยต่ำ และนักลงทุนหันไปซื้อ Junk Bond ที่ความเสี่ยงสูงแต่ให้อัตราดอกเบี้ยสูง และได้กล่าวว่า หุ้นกลุ่ม Social media และ Biotech อาจจะมีราคาที่สูงเกินจริง
- ระดับที่ต่ำกว่า $1300 นั้นหลายคนให้ติดตามดูแรงซื้อ Physical ล่าสุดเศรษฐกิจจีนขยายตัว 7.5% ในไตรมาสที่ 2 จากคาดการณ์ที่ 7.4% ซึ่งจีนดีขึ้นหมายถึง ความต้องการซื้อทองคำที่อาจจะมากขึ้นตาม
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
PPI 0.2% -0.2%
Core PPI 0.2% -0.1%
21.00 USD
FED Chair Yellen testifies
1.00 USD
แนวทางทองคำวันที่ 15-7-57
เเนวรับ 1306 1300 1290 เเนวต้าน 1312 1315 1323
ทองคำเมื่อวานนี้ปรับตัวลดลงร่วม $30 จากข่าวยืนยันเป้าหมายเดิมสิ้นปีที่ระดับ $1,050 ระหว่างวันราคาได้ลงมาถึง 1306 และปิดอยู่บนระดับนี้ได้พอดี ซึ่งระดับนี้มองว่า Demand น่าจะยังเป็นแรงรับอยู่ได้ และน่าจะมีการรีบาวน์ขึ้นมา เพียงแต่ต้องมาดูในขณะที่รีบาวน์นั้นมีแรงพอหรือไม่ ถ้าเกิดไม่มีแรงพอที่จะขึ้นไปถึง 1310-1315 ได้ และยังแกว่งตัวออกข้างเรื่อยๆ มองว่า อาจจะทำให้รอบรีบาวน์จบลงและพร้อมจะปรับตัวลดลงต่อไปอีก ค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าอยู่ และในวันนี้ตลาดไปติดตามรอว่าประธาน FED นาง Janet Yellen จะมีมุมมองอย่างไรต่ออัตราดอกเบี้ยในอนาคต สำหรับการปิดต่ำกว่าระดับ 1306 นั้นจะทำให้ภาพรวมเป็นลบทันที
ต่างชาติชะลอการซื้อสุทธิลง เหลือ 411 ล้านบาท และเริ่ม Short สุทธิในฟิวเจอร์วันแรก 1,602 สัญญา เป้นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ ในขณะที่ SET Index ปรับตัวขึ้นมาเกิน 10 วันต่อเนื่องกันแล้ว และเมื่อวานผ่านแนวต้าน 1520 ไปอีกด้วย ก็ยังเป็นมุมมองเดิม คิอให้ระมัดระวังการปรับตัวลดลงแถวๆระดับนี้ ไม่น่าจะตามซื้อเข้าไปแล้ว ค่าเงินบาทหลังจากเกิด Bullish divergent ก็เริ่มอ่อนค่าขึ้นไปมองการอ่อนค่าไปได้อีก
ทางเลือกหลัก : ราคาตกลงมายังแนวรับสำคัญมากพอสมควร เพราะ ตลอดที่ราคขึ้นไปนั้น ราคาได้ลงมาทดสอบระดับ 1306 ตลอด และสามารถรับอยู่ตลอด จึงมองว่า โซนนี้ ดีมานด์ ค่อนข้างแข็งแรง และยังน่าจะพยุงราคาอยู่ได้ แต่ถ้าระหว่งารีบาวน์นั้น แรงซื้อหายไปและแกว่งตัวออกข้างไปเรื่อยๆ ไม่สามารถไปยืนเหนือระดับ 1310-1315 ได้ มองว่า รอบรีบาวน์นั้นอาจจะสั้นจากทิศทาง Sentiment ที่ลบ และ จะปรับตัวลดลงต่อ แต่ขั้นแรกนั้นยังให้น้ำหนักกับการขึ้นไปด้านบนก่อน
ทางเลือกรอง : ราคาตกหลุดระดับแนวรับ 1306 และมาทดสอบอีกรอบแล้วยืนไม่ได้ มองการพักฐานในภาพใหญ่ และจะเห็นโอกาสที่จะปรับตัวลดลงสูงมาก
- เมื่อวานนี้สาเหตุที่ทองคำตกลงมานั้นมีสาเหตุมาจาก นักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs นาย Jeffrey Currie ซึ่งเป็นคนที่คาดการณ์ราคาทองคำว่าจะตกอย่างหนักในปีก่อนหน้า ได้ออกมายืนยันมุมมองเดิม คือ สิ้นปีหรือในเดือนธันวาคมนั้น ทองคำมีแนวโน้มจะปรับตัวลดลงไปยังระดับ $1,050 /Oz. ถึงแม้กองทุน Hedge funds ต่างๆนั้นจะยังคงเพิ่มสถานะซื้อก็ตาม ประกอบกับ ความกังวลในเรื่องธนาคารในโปรตุเกสเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาได้ผ่อนคลายลง หลังจากหลายคนมองว่า การผิดนัดชำระหนี้รอบนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมอย่างที่คาดการณ์กัน ส่งผลให้ Yield พันธบัตรรัฐบาลของโปรตุเกสปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้ หลังจากขึ้นไปในวันก่อนหน้า ซึ่งจะเห็นการผ่อนคลายความกังวลจากตลาดหุ้นรอบโลกที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างเขียวสดใส
- สถานการณ์ทองคำแท่งหรือ Physical ยังไม่มีแรงซื้อเข้ามาสนับสนุนในขณะที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นเท่าไรนัก ภาษีนำเข้าทองคำของอินเดียก็ยังคงอยู่ที่ระดับ 10% ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งนักลงทุนต่างให้ความสนใจกับแรงซื้อ Physical พอสมควรช่วงนี้ เนื่องจาก การขึ้นรอบที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่า ไม่มีการสนับสนุนจากแรงซื้อ Physical เข้ามาเลย จึงทำให้การขึ้นนั้นไปได้ไม่ไกล เกิดจากแรงซื้อเก็งกำไรอย่างเดียว เมื่อมีแต่แรงซื้อเก็งกำไร คนที่เล่นเมื่อขายทำกำไรก็จะมีคนขายตามทำให้ตลาดผันผวนตามที่เห็นเมื่อวานนี้
- นาย Draghi ประธาน ECB ได้ออกมาเตือนธนาคารพาณิชย์ว่า ไม่ควรใช้เงินจากนโยบาย TLTRO หรือ เงินทุนที่คิดดอกเบี้ยต่ำสำหรับเพิ่มสภาพคล่องให้ธนาคารพาณิชย์ไปใช้ทำ Carry trade เพื่อหาส่วนต่างของผลตอบแทนระหว่างตราสารหนี้ โดยให้เหตุผลว่า เงินก้อนนี้นั้นจะมีภาคเอกชนและครัวเรือนกำกับร่วมกัน และ ผลตอบแทนที่ได้จากการทำ Carry trade ในรอบนี้น่าจะได้น้อยลงกว่าปี 2554
- เงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าท่ามกลางกระแสจับตามองประธาน FED ที่จะออกมาพูด เพื่อที่จะจับตาดูทิศทางของอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
- SPDR เพิ่มสถานะการถือครองทองคำอีกท่ามกลางราคาที่ตกลงมาอย่างรุนแรงเมื่อวานนี้ ซื้อเข้า 8.68 ตัน สู่ระดับ 808.73 ตัน บ่งบอกถึง Senti,ment ของตลาดทองคำที่ลังเลแล้ว ไม่เหมือน Bullish ชัดเจนในสัปดาห์ก่อน จะเห็นจากนักวิเคราะห์หลายฝ่ายเริ่มหันมามองมุมเดียวกับ Currie มากขึ้น แต่ SPDR ยังคงซื้อเข้า
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
16.00 EUR
German ZEW Economics sentiment 28.9 29.8
ZEW Economics sentiment 62.3 58.4
19.30 USD
Core retail sales 0.5% 0.1%
Retail sales 0.6% 0.3%
21.00 USD
FED Chair Yellen Testifies
แนวทางทองคำวันที่ 14-7-57
เเนวรับ 1333 1330 1320 เเนวต้าน 1340 1345 1350
ในวันนี้มองว่า ราคาเริ่มจพักตัวลงมา หลังจากวันพฤหัสราคาขึ้นมาค่อนข้างแรง และ วันศุกร์เริ่มออกอาการพักตัว ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ถ้าการพักตัวและมีแรงซื้อเข้ามาจะทำให้ทองคำปรับตัวขึ้นต่ออีก แต่ช่วงนี้มองว่า แรงซื้อเข้ามาค่อนข้างน้อย และ อาจจะส่งผลให้ ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อไปยังแนวรับ 1330-1335 ซึ่งบริเวณนี้ก็ถือเป็นบริเวณแนวรับแล้ว กรณีหลุดลงด้านล่างนั้น จะทำให้กลับลงไปแกว่งตัวในกรอบใหม่ และทำให้ภาพการขึ้นมาเริ่มเสียรูปเล็กน้อย ถ้าเกิดสัญญาณกลับตัวและยืนได้ มองการกลับไปทดสอบ 1345 อีกรอบหนึ่ง ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นพอสมควร ตัวนี้จะทำให้ทองคำได้รับแรงกดดันเพิ่มเติม
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 3,692 ล้านบาท และ Long สุทธิเพิ่มอีก 1,726 สัญญา เมื่อเช้าตลาดหุ้นเปิดตลาดมาทดสอบ 1520 และเกินไปแล้ว ถึงแม้จะเป็นมุมมองเชิงบวกขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังให้ระมัดระวังเช่นเดิม เพราะ การขึ้นมาตลอด 10 วันทำการนั้นไม่ได้พักลงมาเลย ค่าเงินบาทหลังจากแข็งค่า มาทดสอบ 32.10 แล้วนั้นมองว่า เกิดสัญญาณ Bullish divergent และใกล้จะกลับตัวอ่อนค่าแล้ว ให้ระมัดระวัง มากขึ้น
ทางเลือกหลัก : หลังจากราคาไม่สามารถฝืนขึ้นไปได้อีกชุดหนึ่ง และเริ่มปรับตัวลดลงมามองว่า อาจจะเข้าสู่รอบของการพักฐานระยะสั้นของทองคำ โดยปกติแล้ว หลังจากราคาขึ้นมามักจะพักแล้วขึ้นต่อ แต่ดูเหมือนรอบนี้พักลงมาค่อนข้างแรงเกินกว่าปกติ และ ไม่มีแรงกลับขึ้นไปยืน มองการปรับตัวลดลงมาแนวรับ 1330-1333 การหลุดระดับนี้จะทำให้ภาพรวมเริ่มเสียไปนิดหน่อย และ มองทองคำกลับลงไปในกรอบ ตามทางเลือกรองในวันศุกร์ที่มาชัดเจนขึ้นในวันนี้
ทางเลือกรอง : ราคาลงมาทดสอบแนวรับ 1330 จากนั้นเด้งกลับขึ้นไปด้านบนได้ จะมีแนวต้าน 1345 ที่เป็นกรอบด้านบนของราคาทองคำ
รายละเอียด
- ตลาดหุ้นทางยุโรปและอเมริกาเริ่มฟื้นตัวขึ้นสองวันที่ผ่านมานี้ หลังจากตกลงมารับข่าวธนาคารในโปรตุเกสมีแนวโน้มจะผิดนัดชำระหนี้ในระยะสั้น ซึ่งล่าสุดธนาคาร Banco Espirito Santo ได้ออกมาขอยืดเวลาการชำระหนี้ระยะสั้นออกไปอีก หลังจากไม่สามารถชำระหนี้ประเภท Commercial paper นอกจากนี้ช่วงนี้จะเป็นช่วงเก็งกำไรงบไตรมาส 2 ที่กำลังจะออกมา ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาในตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึง ตลาดหุ้นในโซนเอเชียที่เปิดบวกจากการเก็งกำไรงบไตรมาสที่กำลังจะออกมาเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ตลาดหุ้นดาวโจนส์เมื่อดูภาพรวมทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วพบว่าเป็นสัปดาห์ที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลง
- เหตุการณ์ความรุนแรงระหว่าง อิสราเอล และ ปาเลสไตน์ ปะทุขึ้นเมื่อวันหยุด เสาร์- อาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากอิสลาเอลโจมตี ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลักร้อยคน และได้ออกมาเตือนว่า หากไม่อพยพหนีไปจากพื้นที่อาจจะมีการโจมตีทางอากาศเพิ่มอีกให้ระมัดระวังกันด้วย ส่วนสถานการณ์ในอิรักก็ยังไม่สามารถหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้ ถึงแม้จะยังไม่เกิดความรุนแรงขึ้น แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน เรื่องข่าวสงครามนั้นน่าจะมีผลเป็นตัวบวกกับทองคำได้ในระดับหนึ่ง แต่เมื่อตลาดเปิดมาแล้ว กลับไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้นรับข่าวแต่อย่างใด ต้องมาติดตามสถานการณ์เพิ่มเติมกันให้ดี
- กองทุน Hedge funds เพิ่มสถานะ Bullish bet ในฟิวเจอร์ และ ออปชันที่อ้างอิง ทอง และ ซิลเวอร์ ข้อมูลจาก CFTC เมื่อวันที่ 8 กรกฏาคมที่ผ่านมา
- ในสัปดาห์นี้จะมี Yellen Testimony หรือการออกมาแถลงการณ์ของ นาง เจเน็ต เยลเลน ประธาน FED คนปัจจุบันว่าจะมีทิศทางอย่างไรเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในอนาคต แต่ความรุนแรงของข่าวนั้นอาจจะไม่ได้มีการเหวี่ยงของราคาเหมือนอย่างเช่น FOMC
- ภาพรวมตลาดต่างๆนั้นพบว่า กลุ่มของน้ำมันดิ ไม่ว่าจะเป็น Crude oil , natural gas , heating oil ล้วนแล้วปรับตัวลดลงทั้งหมด ไปในทิศทางเดียวกันกับกลุ่ม Soft commodity จำพวก ฝ้าย ข้าวโพด โกโก้ กาแฟ น้ำตาล ส่วนกลุ่มโลหะมีค่าอย่างทองคำและซิลเวอร์เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลงในแนวโน้มขาขึ้นไปในทางเดียวกันกับ แพลตินัม และ พัลเลเดียม ส่วนตลาดหุ้นยังคงทรงตัวใกล้ระดับ High เดิม
แนวทางทองคำวันที่ 11-7-57
เเนวรับ 1335 1333 1330 เเนวต้าน 1340 1345 1350
เมื่อวานนี้ทองคำปิดบวกขึ้น
ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ปิดทำกา
ทางเลือกหลัก : ราคาแกว่งตัวอยู่ในกรอบระหว
ทางเลือกรอง : ราคาแกว่งตัวในกรอบจากนั้นป
รายละเอียด
- เมื่อวานมีประเด็นสำคัญเกิด
- อีกประเด็นหนึ่งที่เกิดขึ้น
- ข่าวเรื่องธนาคารโปรตุเกสผิ
- SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำเล็ก
แนวทางทองคำวันที่ 10-7-57
เเนวรับ 1320 1315 1312 เเนวต้าน 1333 1335 1340
หลังจากข่าวการประชุม FOMC เมื่อวานนี้ ค่าเงินยูโรได้ส่งสัญญาณเป็
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้
ทางเลือกหลัก : ราคาปรับตัวสูงขึ้นแต่ยังไม
ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวลดลงเกินกว่าระด
รายละเอียด
- ผลการประชุม FOMC เมื่อวานนี้ FED ยังคงเดินหน้าลดวงเงิน (ในการประชุมรอบนี้ยังไม่ได
- ตอนนี้ตลาดที่ซื้อ-ขาย Physical ยังคงจับตาดู รัฐบาลชุดใหม่ของอินเดียซึ่
- ตลาดคาดการณ์กันว่า ธนาคารจีนจะอัดฉีดสภาพคล่อง
- การส่งออกของจีนปรับตัวเพิ่
- Palladium ปรับตัวสูงขึ้น 14 วันทำการต่อเนื่องกัน ตลาดยังให้ความสนใจกับตัวนี
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Unemployment claims 316K 315K