ประชาสัมพันธ์
เเนวรับ 1130 1124 1120 เเนวต้าน 1135 1140 1142
ราคาปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากที่ประชุม FOMC ที่ยังไม่มีทิศทางที่ยืนยันชัดเจนในการขึ้นดอกเบี้ยเดือนกันยายน ภาพรวมในภาพวันยังคงเห็นแรงซื้อเข้ามาหนาแน่น สังเกตุจากราคาขึ้นไปปิดเต็มแท่งเหนือระดับ 2SD ซึ่งเป็นตัวชี้วัดถึงความแข็งแกร่งการรีบาวน์ยังคงดำเนินต่อไป และมีแนวต้านบริเวณ $1140-1145 ที่เป็นแนวต้านสำคัญที่คาดว่าจะได้เห็นแรงขายลงมาจากบริเวณนั้นต้องติดตามส่วนข่าวระยะสั้น ยังมองว่าข่าวบวกยังน้อย แต่ด้วยแรงส่งในทางบวกทำให้คนเลือกที่จะเข้ามาเก็งกำไรระยะสั้น (หากแนวโน้มคนมองบวกถึงแม้ข่าวจะออกมาลบบ้างแต่ก็จะปรับตัวน้อยลง) ก็ยังให้ระมัดระวังแถวแนวต้านเช่นเดิมสำหรับการขึ้นมาในระยะสั้นนี้
ต่างชาติยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องอีก 4,551 ล้านบาท และยังคง Short สุทธิในฟิวเจอร์ 6,756 สัญญา เมื่อวานนี้ตลาดรีบาวน์ขึ้นมาได้ระดับหนึ่งแต่มองว่า ยังไม่เปลี่ยนแนวโน้มและยังต้องใช้ความระมัดระวังเหมือนเดิม ภาพรวมต้องมาดูตัวเลขนักท่องเที่ยวในอนาคต มีตัวเลขประมาณการณ์ว่าจะลดลงเล็กน้อย ซึ่งหากลดลงเพียงเล็กน้อยก็ยังพอลุ้นให้การเติบโตของเศรษฐกิจไปต่อได้ไม่ชะงักกว่านี้ ค่าเงินบาทยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่าแต่ระยะสั้นยังให้น้ำหนักแข็งค่าเล็กน้อย แนวรับ 35.45
ทางเลือกหลัก : มองราคาพักตัวลงมาเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วยังอยากเห็นแรงซื้อไปทดสอบบริเวณ $1140-1145 และตรงนั้นมองว่าเป็นจุดที่น่าติดตาม เพราะ เป็นโซนของดีมานด์และซัพพายในรอบก่อนหน้าที่หนาแน่น
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวลดลงสู่ระดับขยายตัว 0.1% จากเดือนก่อนหน้าขยายตัว 0.3% และคาดการณ์ 0.2% ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคแบบไม่รวมหมวดสินค้าประเภทอาหารสดและพลังงานปรับตัวลดลงสู่ระดับ 0.1% น้อยกว่าคาดการณ์และเดือนก่อนหน้าที่ 0.2% แสดงให้เห็นเงินเฟ้อในอเมริกาชะลอตัวลงอีกแล้ว ถึงแม้ระดับการจ้างงานของอเมริกาจะเข้าใกล้ระดับอัตราว่างงานตามธรรมชาติที่ประมาณ 5.3% ซึ่งเป็นจุดที่มีกำลังการผลิตสูงสุด แต่ก็ไม่สามารถก่อให้เกิดเงินเฟ้อในระบบเศรษฐกิจได้ และ เงินเฟ้อที่น้อยลงอาจสร้างความกังวลให้แก่การขึ้นดอกเบี้ยของ FED เพิ่มเติมในอนาคต
- ผลการประชุม FOMC เมื่อวานนี้ (เกิดข้อผิดพลาดเล็กน้อยมีการแถลงการณ์ก่อน 15 นาที) ได้กลับมากังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อถึงแม้ตลาดแรงงานจะปรับตัวดีขึ้นและใกล้จะขึ้นดอกเบี้ยแล้วก็ตาม แต่เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ เพราะ ตลาดแรงงานได้ฟื้นตัวโดยมีอัตราว่างงานลดลงถึงระดับ 5.3% และก็ฟื้นตัวมา 7 ปีแล้ว แต่อยากคิดให้รอบคอบถึงผลจากภาวะเงินเฟ้อที่ยังอยู่ไกลเป้าหมาย 2% ( 3 ปีแล้วยังไม่ถึง) เพื่อไม่ให้เป็นการขึ้นดอกเบี้ยผิดจังหวะ (Misstep) จึงนำไปสู่ความสับสนของนักลงทุนว่า อัตราดอกเบี้ยจะขึ้นในเดือนหน้าหรือไม่ หรือจะเลื่อนไปในเดือนธันวาคม ซึ่งเมื่อมาดูตัว FED Fund Rate Future พบว่าความน่าจะเป็นที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกันยายนลดลงสู่ระดับ 36% จากที่อยู่ประมาณ 40-50% ก่อนที่จะมีผลการประชุม ส่วนความกังวลเพิ่มเติมนั้นจะอยู่ที่การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและส่งผลให้สินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลดลงและนำไปสู่อัตราเงินเฟ้อในระดับที่ต่ำ ทั้งนี้ต้องติดตามในเดือนหน้าว่าจะออกมาเป็นเช่นไร
- ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ $1135 เมื่อมาดูแล้วพบว่าเป็นระดับที่อยู่ก่อนที่จะลงวันเดียวไปยัง $1080 (วันที่จีนมีการประกาศตัวเลขทองคำสำรอง) ซึ่งภาพรวมยังอยู่ในช่วงรีบาวน์โดยมีแนวต้านสำคัญมากบริเวณ $1140-1145 ซึ่งเป็นจุดต่ำเดิมที่ราคาหลุดลงมา ทั้งนี้ภาพรวมระยะสั้นถึงแม้จะขึ้นแต่ก็ยังหนีไม่พ้นจากแนวโน้มขาลงที่ยังกดดันอยู่ แต่ระยะสั้นยังคงได้เห็นฝั่งซื้อมีแรงเข้ามาบ้าง
- เวียดนามลดค่าเงินดองลง 1% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อวานนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 ในรอบปี และขยายกรอบการเคลื่อนไหวต่อวันเป็น 3% จาก 2% สร้างความกังวลเรื่อง Currency war ในเอเชีย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Unemployment claims 272K 274K
21.00 USD
Existing home sales 5.45M 5.49M
Philly FED Manufacturing index 6.9 5.7
แนวทางทองคำวันที่ 19-8-58
เเนวรับ 1112 1108 1105 เเนวต้าน 1122 1125 1130
ทิศทางของราคายังแกว่งตัวใน
เมื่อวานนี้ต่างชาติและกองท
ทางเลือกหลัก : ราคาพักตัวลงมาเมื่อวานแต่ย
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด $1110 ลงมามองว่าเริ่มลงอีกครั้งห
รายละเอียด
- ตัวเลขยอดขออนุญาติก่อสร้าง
- วันนี้จะมีผลการประชุม FOMC เวลาตี 1 ตามเวลาบ้านเรา แต่ยังไม่ใช่รอบสำคัญที่จะม
- หลังจากมีมาตรการลดค่าเงินห
- ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงแรง 2 วันติดต่อกัน หลังจากการคาดการณ์ว่าจีนจะ
- ตัวเลขการส่งออกของญี่ปุ่นอ
- ECB ลดวงเงินกองทุน ELA ลงตามคำเรียกร้องของกรีซบ่ง
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
CPI 0.2% 0.3%
Core CPI 0.2% 0.2%
แนวทางทองคำวันที่ 18-8-58
เเนวรับ 1112 1108 1105 เเนวต้าน 1118 1122 1125
ทองคำกลับมาแกว่งตัวในกรอบส
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้
ทางเลือกหลัก : ยังมองราคาแกว่งตัวในกรอบโด
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ตัวเลขดัชนีภาคการผลิต Empire state (Empire state manufacturing index ) หดตัวลงสู่ระดับ –14.9 จากเดือนก่อนหน้า 3.9 และคาดการณ์ 5 ซึ่งเป็นการหดตัวค่อนข้างมา
- ในคืนวันพุธจะมีผลของที่ประ
- การผ่อนคลายเรื่องการลดค่าเ
- ข้อมูลเปิดเผยว่ากองทุนของ คุณ John Paulson ที่มีสัดส่วนการลงทุนใน SPDR ที่สูงได้เริ่มลดสถานะการถื
- เกิดเหตุระเบิดที่ราชประสงค
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Building permits 1.21M 1.34M
Housing starts 1.20M 1.17M
แนวทางทองคำวันที่ 17-8-58
เเนวรับ 1112 1108 1105 เเนวต้าน 1118 1122 1125
การเคลื่อนไหวในวันศุกร์ไม่
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น
ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นไปทดสอบระดับใกล
ทางเลือกรอง : ราคาที่หลุด 1112 ลงมามองว่าขาขึ้นระยะสั้นเส
รายละเอียด
- ตัวเลขดัชราคาผู้ผลิตค่อนข้
- ค่าเงินหยวนของจีนค่อนข้างท
- นักวิเคราะห์จาก HSBC ประเมินว่าในช่วงสิ้นปีน่าจ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Building permits 1.21M 1.34M
Housing starts 1.20M 1.17M
เเนวรับ 1110 1108 1102 เเนวต้าน 1116 1125 1130
ราคายังคงปรับตัวลดลงในลักษณะของการพักฐาน ยังมองการปรับตัวลดลงต่อไปยังแนวรับ $1110 หากระดับนี้ยังรับไม่อยู่มองว่า ราคาจะเริ่มปรับตัวลดลงต่อไปยังระดับแนวรับถัดไป $1102 หรือไม่ก็จะแกว่งตัวออกข้าง Sideways ในระยะถัดไป แต่หากรับอยู่และรีบาวน์ก็จะเป็นลักษณะของ Sideways up ซึ่งโดยรวมแล้วต้องติดตามการลงรอบนี้ว่าแรงหลุด $1110 ลงมาหรือไม่ ข่าวบวกในตลาดเริ่มหายไปหลังจากจีนหยุดทำการลดค่าเงินหยวน ซึ่งทองขึ้นมาในฐานะการเป็น Safe-haven ท่ามกลาง Currency war แต่ปัจจุบันมาตรการได้เปลี่ยนไปจึงต้องติดตามผลกระทบตรงนี้ด้วย และทองคำคาดว่าจะมีพฤติกรรมกลับไปรับข่าวเรื่อง FED ซึ่งเป็นลบเหมือนเดิมในอนาคต
ต่างชาติยังคงชายสุทธิในตลาดหุ้นไทย ล่าสุดเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงในช่วงเช้าค่อนข้างแรงร่วม 20 จุด ก่อนที่จะมีแรงรีบาวน์ปรับขึ้นไปจนปิดสูงได้ และยังปิดเหนือระดับ 1400 จริงๆแล้วระดับ 1400 ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ เป็นเพียงแนวรับ-แนวต้านทางจิตวิทยา จากการปิดเมื่อวานนี้ทำให้เกิดแท่งเทียนคล้าย Hammer ซึ่งมองเป็นปัจจัยบวกต่อดัชนีหุ้นและคาดว่าดัชนีมีแนวโน้มรีบาวน์ขึ้นไป ส่วนค่าเงินบาทยังมองการแกว่งตัวอยู่บริเวณนี้ไม่ได้มีนัยสำคัญและยังอยู่ในภาวะ Overbought
ทางเลือกหลัก : มองราคาปรับตัวลดลงมาทดสอบระดับ 110X อีกครั้ง และหากยังรับไม่อยู่ยังมีโอกาสที่จะลงมากกว่านี้อีก
ทางเลือกรอง : หากราคามาหยุดตรง 1110 และสามารถรีบาวน์ได้ มองว่าราคาจะยังไม่ลง และจะเริ่มขึ้นเล็กน้อยอีกครั้งในลักษณะ Sideways up
รายละเอียด
- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 274K มากกว่าคาดการณ์ที่ 272K จากสัปดาห์ก่อนหน้า 269K ข่าวนี้เป็นปัจจัยบวกกับราคาทองคำ ส่วนตัวเลขยอดค้าปลีกปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 0.6% เท่ากับคาดการณ์ในขณะที่เดือนก่อนหน้า 0% ส่วนตัวเลขยอดค้าปลีกที่ไม่รวมสินค้าหมวดยานพาหนะ 0.4% เท่ากับเดือนก่อนหน้าและคาดการณ์ ข่าวนี้โดยรวมเป็นปัจจัยลบกับทองคำ และส่งผลให้เมื่อวานนี้ทองคำปรับตัวลดลงมาสู่ระดับแถวบริเวณ $1113-1115
- ทางการจีนเมื่อวานนี้ประกาศว่าการแทรกแซงเงินหยวนได้สิ้นสุดลงแล้ว และจะปล่อยให้เงินหยวนเคลื่อนไหวตามปกติ หลังจากก่อนหน้าได้ลดค่าเงินหยวนมาทั้งสิ้น 3 วันกว่า 4% และได้สร้างความกังวลเรื่อง Currency wars ให้กับนักลงทุน ส่งผลให้ทองคำได้รับปัจจัยบวกจากการดำเนินนโยบายเช่นนี้ แต่เมื่อการดำเนินนโยบายจบลง นักวิเคราะห์มองว่า ทองคำจะเริ่มปรับตัวลดลงตามข่าวเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (FED) และเมื่อทุกอย่างกลับมาสู่ปกติทองคำก็มีแนวโน้มที่จะถูกเทขายออกมาเพื่อทำกำไรระยะสั้นตามที่นักนักวิเคราะห์มองไว้ว่า ขาขึ้นของทองรอบนี้จะไม่นาน และจะเป็นลักษณะ Short-lived และให้ใช้ความระมัดระวังหากราคายังปรับตัวขึ้นไปด้านบน ภาพรวมของทองคำนั้นถึงแม้จะดูดีขึ้นแต่ยังหนีไม่พ้นอิทธิพลจากแนวโน้มขาลงที่สร้างไว้ช่วงก่อน ยังต้องใช้ระยะเวลาอีกสักพักหนึ่ง
- ข้อมูลจาก WGC (World Gold Council) เปิดเผยว่า ความต้องการทองคำปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีในช่วงไตรมาสสองที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ว่าความต้องการทองคำในไตรมาสสอง และทั้งช่วงครึ่งปีปรับตัวลดลงเกือบทั้งหมด ทางฝั่งของกองทุน SPDR ได้กลับมาซื้อเพิ่มเป็นครั้งแรกในรอบหลายวันหลังจากขายออกมาตลอด แต่ซื้อเพียงเล็กน้อย 0.6% และเป็นการปรับตัวขึ้นนิดหน่อยออกจากระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน กันยายน 2008
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับจุดต่ำสุดเดิมที่ทำไว้ในต้นปีที่ระดับ $41.8/บาร์เรล หลังจากตัวเลขแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของอเมริกายังลดต้นทุนและดำเนินการได้ปกติ ส่วน OPEC ก็ยืนยันจะไม่ลดกำลังการผลิตคาดว่าดีมานด์จะเพิ่มขึ้นในปีหน้า น้ำมันลงก็มีแนวโน้มที่จะดึงกลุ่มโภคภัณฑ์ลงตามด้วย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
PPI 0.1% 0.4%
Core PPI 0.1% 0.3%
21.00 USD
Prelim consumer sentiment 93.5 93.1
เเนวรับ 1118 1115 1108 เเนวต้าน 1125 1133 1140
ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง จากข่าวเรื่องจีนประกาศลดค่าเงินหยวนลงในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ซึ่งโดยปกติแล้วทองคำจะได้รับประโยชน์จากการเป็น Safe-haven เรื่อง Currency war ยังมองว่า เป็นปัจจัยระยะสั้นที่ช่วงหนุนราคาทองคำ และ คนในตลาดยังเข้าสู่โหมด Risk-off หรือ ไม่ต้องการรับความเสี่ยง สังเกตุจากตัวพันธบัตรมีแรงซื้อเข้ามาเรื่อยๆ และ Yield อายุ 2 ปีของ German bund เริ่มปรับตัวติดลบลงอีกในวันที่ผ่านมา ในสัปดาห์นี้หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1135 หรือเกินกว่านั้นได้จะทำให้ภาพรวมระยะสัปดาห์ดูดีขึ้น แต่มองว่า ยังต้องใช้ความระมัดระวังเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของอเมริกาในปีหน้า วันนี้ติดตามข่าวค้าปลีก คาดว่าจะมีความผันผวนเข้ามาเพิ่มอีก
ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 ติดต่อกันอีก 1215 ล้านบาท และเริ่มหันกลับมา Short สุทธิในฟิวเจอร์ต่อเนื่องอีก ภาพรวม SET ยังถูฏกดดันจากทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เมื่อสองวันที่ผ่านมา ตลาดหุ้นรอบบ้านเราล้วนแล้วแต่ปรับตัวลดลง แต่วันนี้รีบาวน์ขึ้นมา ต้องติดตามว่า SET เราจะรับข่าวในทางไหน แต่โดยรวมแล้วยังถูกกดดันจากแนวโน้มขาลงอยู่ ทางฝั่งค่าเงินบาทมองว่ายังอยู่ระดับ Overbought และให้น้ำหนักการแข็งค่าในระยะสั้นลงมาก่อน
ทางเลือกหลัก : มองราคาพักตัวลงมาเล็กน้อยถึงระดับ 111X ปลายๆ และยังให้น้ำหนักของการปรับตัวขึ้นต่อหลังจากการปรับตัวลดลงในรอบนี้ ภาพรวมเริ่มดูดีขึ้นแต่ยังไม่สามารถลบแนวโน้มขาลงได้
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเป็นวันที่ 3ติดต่อกัน โดยได้รับปัจจัยบวกจากทางการจีนที่ลดค่าเงินหยวนลง (Devaluation) ซึ่งตัวนี้ก่อให้เกิดความกังวลต่ออัตราแลกเปลี่ยนทั่วโลก และ ความกังวลเรื่อง Currency war เริ่มกลับมาอีกครั้ง หลังจากประเทศมหาอำนาจต่างเดินเกมส์ลดค่าเงินแข่งกัน ซึ่งสามวันที่ผ่านมานี้จีนลดค่าเงินตัวเองทุกวัน และเมื่อเทียบกับช่วงก่อนลดพบว่าเงินหยวนอ่อนค่าลงมาร่วม 4% โดยปกติการที่เงินหยวนอ่อนค่าลง จะทำให้ประเทศจีนมีการนำเข้าสินค้าในราคาที่แพงขึ้นกว่าเดิม เพราะ ผลจากค่าเงิน และคาดการณ์ว่า สินค้าหรู สินค้าฟุ่มเฟือย อาจจะมีราคาสูงขึ้น ทำให้ความต้องการน้อยลง ทางฝั่งทองคำน่าจะได้รับผลกระทบจากตรงนี้เช่นกัน เพียงแต่ค่าเงินหยวนที่อ่อนค่ามา สร้างความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่จะเกิดในจีน และ อาจจะทำให้ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าประเภททองมากขึ้น เพื่อชดเชยภาวะเงินเฟ้อ
- กลุ่มประเทศ OPEC โดยเฉพาะ ซาอุดิอาระเบีย กำลังประสบปัญหาเรื่องการขาดดุลงบประมาณ และ อาจจะนำไปสู่การถถอยของเศรษฐกิจในอนาคต หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงมาต่ำอีกครั้ง จากการยืนยันว่าจะคงกำลังการผลิตเท่าเดิมของกลุ่มประเทศ OPEC เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้จากอุตสาหกรรม Shale oil ของอเมริกา เมื่อทำเช่นนี้แต่ผลลัพธ์กลับไม่ได้เป็นไปตามที่ซาอุดิอาระเบียคาดไว้ อุตสาหกรรม Shale oil สามารถปรับต้นทุนให้ต่ำลงจากการควบรวมกิจการ และ จำนวนปริมาณน้ำมันดิบก็ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง ถึงแม้ IEA จะคาดการณ์ในปีหน้าว่า Demand จะเพิ่มขึ้นและราคาน่าจะอยู่ที่ระดับสูงกว่านี้ แต่นักวิเคราะห์ประเมินว่า หากจะให้เศรษฐกิจของซาอุดิอาระเบียกลับมาได้นั้นราคาน้ำมันต้องอยู่ระดับที่สูงกว่านี้ประเมินไว้ว่าระดับประมาณ $106/บาร์เรล ปัจจุบันซาอุดิอาระเบียกำลังประสบปัญหาทุนสำรองลดลงเรื่อยๆ
- ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงจากปัญหาเรื่องจีน ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะ ประเทศเยอรมันที่มีสัดส่วนการส่งออกสินค้าไปยีงจีนสูง (รถยนต์ , สินค้าแบรนเนม) ส่งผลให้นักลงทุนเข้าสู่โหมด Risk-off หรือไม่ต้องการแบกรับความเสี่ยง และเงินบางส่วนไหลเข้าตลาดพันธบัตร ทำให้พันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปีของเยอรมัน Yield ติดลบระดับ –0.29% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1990 และทองคำก็ได้ประโยชน์จากตรงนี้
- กรีซได้รับเงินช่วยเหลือรอบที่ 3 หลังจากมีการเจรจากับเจ้าหนี้วงเงิน 8.6 หมื่นล้านยูโร
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Retail sales 0.6% -0.3%
Core retail sales 0.4% -0.1%
Unemployment claims 272K 270K
แนวทางทองคำวันที่ 11-8-58
เเนวรับ 1098 1095 1090 เเนวต้าน 1105 1110 1118
ราคาหลุดกรอบสามเหลี่ยมออกมาเรียบร้อย ยังให้น้ำหนักทางฝั่งขึ้นอยู่ ( เมื่อคืนนี้ขึ้นไปใกล้ $1110 และโดนแรงขายปรับตัวลดลงมา) และคาดว่าจะไปทดสอบอีกครั้งและน่าจะสร้าง new-high ที่เกินกว่า $1110 ได้ ทางฝั่งแนวต้านถัดไปจะอยู่บริเวณ $1118-1120 หากกรณีราคาหลุด $1095 กรณีเดียวจึงจะมองว่า ขาขึ้นเสียความได้เปรียบไป ซึ่งจะออกมาอีก 2 หน้าคือ เริ่มลง หรือ แกว่งตัวออกข้าง แต่ให้น้ำหนักทางฝั่งขึ้นมากกว่า แต่เหตุผลของการขึ้นรอบนี้ยังไม่มาก ให้เหตุผลว่า เป็นการทำ Short-covering เพราะฉะนั้นจึงต้องระมัดระวังทุกครั้งที่ราคาขึ้นส่วนระยะสั้นนี้ความผันผวนจะมากขึ้นจากมาตรการเรื่องค่าเงินของจีนที่ออกมาในเช้าวันนี้ จะทำให้ตลาดเงินผันผวน
SET เมื่อวานนี้ค่อนข้างทรงตัว แต่ยังให้น้ำหนักทางฝั่งปรับตัวลดลงเล็กน้อย ในระยะสั้นยังมองการเคลื่อนไหววนไปวนมาอยู่แถวนี้ และเมื่อมาดูข่าวยังไม่เจอข่าวบวกที่เข้ามาในตลาดเท่าไร ต่างชาติขายสุทธิเล็กน้อยและก็ยัง Long สุทธิเล็กน้อย หลักร้อยสัญญา และ ร้อยล้านบาท ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อ ถึงแม้จะอยู่ในภาวะ Overbought มาตลอด เนื่องจากมีข่าวเรื่องการลดค่าเงินของจีนมาซ้ำจากความเห็นของ FED ที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยทำให้ภาพรวมเงินสกุลคู่ค้าดอลลาร์อ่อนค่าลงหมด
ทางเลือกหลัก : ราคาหลุดกรอบบนมาแล้ว และขึ้นไปทดสอบระดับ 1110 ก่อนที่จะปรับตัวลดลงมาซื้อ-ขายกันที่ 1100 ซึ่งมองว่า ราคาจะผันผวนตรงนี้ก่อน ถึงปรับตัวลดลงเล็กน้อยไปยัง 1095-1098
ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวหลุด 1095 ลงมามองว่า จะเริ่มกลับมาลงอีกครั้ง
รายละเอียด
- เมื่อวานไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจมีเพียงความเห็นของรองประธาน FED นาย Fischer กล่าวว่า ที่ประชุม FED จะพิจารณาการขึ้นดอกเบี้ยโดยคำนึงถึงเศรษฐกิจโลกด้วย แต่มุมมองหลักๆจะอยู่ที่อเมริกาเป็นสำคัญ และมองอัตราเงินเฟ้อว่า ในระยะถัดไปอัตราเงินเฟ้อจะค่อยๆปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจาก ระดับการจ้างงานที่อยู่ระดับการจ้างงานเต็มที่จะทำให้เงินเฟ้อเกิดขึ้นในระยะยาว และอัตราเงินเฟ้อระดับต่ำนี้จะอยู่อีกเพียงชั่วคราว ทั้งนี้โดยปกติแล้วนาย Fischer จะค่อนข้างมีความเห็นที่เป็นแนวเข้มงวด (Hawkish) อยู่แล้ว ส่วนประธาน FED สาขา Atlanta คุณ Dennis Lockhart ได้กล่าวว่า การขึ้นดอกเบี้ยของ FED น่าจะมาถึงในเร็วๆนี้ แต่ไม่ได้ยืนยันว่าจะโหวตให้ขึ้นดอกเบี้ยในที่ประชุม FOMC เหมือนที่เคยบอกในรอบก่อนๆ
- Alan Greenspan อดีตประธาน FEDได้ออกมาเตือนนักลงทุนที่ลงทุนในพันธบัตรว่า ให้ระมัดระวังในการลงทุนหาก FED จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย และตลาดพันธบัตรอาจจะอยู่ในภาวะฟองสบู่ที่กำลังก่อตัวขึ้น ซึ่งสุดท้ายตลาดจะไปทางไหนนั้นต้องดูว่า อัตราดอกเบี้ยทั่วไปนั้นควรจะอยู่ตรงไหน ? ในปัจจุบันผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของอเมริกาอยู่ที่ระดับประมาณครึ่งหนึ่งในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา (โดยเฉลี่ยอัตราดอกเบี้ย 20 ปีที่ผ่านมาอยู่ระดับ 2.73%) และยังอยู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2012 และคาดการณ์ว่า Yield จะขึ้นไปยังระดับ 2.82% ในช่วงกลางปีหน้า
- ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นแตะระดับ $1100 ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 7 สัปดาห์ หลังจากราคาปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนักวิเคราะห์ให้เหตุผลว่า ถึงแม้จะยังไม่มีข่าวบวก แต่ได้แรงบวกจากการทำ Short-covering บางส่วน ส่วนกองทุน SPDR ยังคงลดสถานะการถือครองทองคำลงอย่างต่อเนื่องในวันศุกร์อีก ซึ่งยังอยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน กันยายน ปี 2008
- จีนได้ประกาศลดค่าเงินที่ผูกกับเงินดอลลาร์สหรัฐเอาไว้ สู่ระดับ 6.2298 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ (ลดลง –1.86%) ส่งผลให้เงินหยวนอ่อน 1.5% ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ตัวเลขการส่งออกออกมาน้อยมาก ทางการจีนจึงมีความต้องการที่จะทำให้เงินหยวนอ่อนค่าเพื่อกระตุ้นการส่งออก และตัวนี้ส่งผลกระทบมายังค่าเงินของกลุ่มเอเชีย และ Emerging market ที่ทิศทางอ่อนตามพร้อมทั้งโดนซ้ำจากเรื่องการขึ้นดอกเบี้ย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
16.00 EUR
German ZEW Economic Sentiment 31.1 29.7
ZEW Economic Sentiment 43.9 42.7
เเนวรับ 1089 1084 1080 เเนวต้าน 1096 1100 1110
ราคายังคงแกว่งตัวในกรอบสาม
ต่างชาติยังคงไม่มีทิศทางที
ทางเลือกหลัก : มองราคาไปทดสอบกรอบบนอีกครั
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษต
-ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงไ
- จากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มอ
- ตัวเลขการส่งออกของจีนออกมา
แนวทางทองคำวันที่ 7-8-58
เเนวรับ 1084 1080 1077 เเนวต้าน 1090 1092 1100
ยังมองราคาแกว่งตัวในกรอบ ในลักษณะขาลงยังคงได้เปรียบ
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น
ทางเลือกหลัก : ยังมองราคาแกว่งตัวในกรอบสา
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ทองคำยังปรับตัวลงมาซื้อ-ขา
- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่าง
- มีบทวิเคราะห์จากต่างประเทศ
- กองทุน Hedge funds ที่ลงทุนในคอมโมดิตีเริ่มปร
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
เเนวรับ 1084 1080 1077 เเนวต้าน 1087 1090 1095
ราคายังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอ
ต่างชาติหันกลับมาขายสุทธิใ
ทางเลือกหลัก : ยังมองการเคลื่อนไหวอยู่ในก
ทางเลือกรอง :
รายละเอียด
- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษต
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงสู
- ความผันผวนของตลาดพันธบัตรไ
- มีความเห็นของนักวิเคราะห์ผ
- FED Powell ให้ความเห็นว่าอัตราเอกเบี้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Unemployment claims 273K 267K