03 กันยายน 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 3 ก.ย. 2558
03 กันยายน 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 3 ก.ย. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 3-9-58
เเนวรับ 1130 1125 1119 เเนวต้าน 1137 1146 1155
หลังจากเมื่อวานราคาพยายามขึ้นแต่ขึ้นไม่ไหว และตกลงมาแนวรับพอดี จากข่าวตัวเลข ADP ซึ่งยังมองว่า ข่าวนี้ไม่ได้ส่งผลเท่าไรนัก ในระยะสั้นราคาตกลงมาที่แนวรับ Uptrend ซึ่งหากหลุดลงไปนั้นไม่ควรมีสถานะซื้อในมือ หรือ มีก็มีน้อย เพราะ ราคาจะเริ่มลง หากตลาดยังดีหน่อยก็จะแกว่งตัวออกข้าง แต่จะเริ่มเสียความได้เปรียบขาขึ้นไป ในขณะที่หากราคายังไม่หลุดกรอบ Uptrend ที่ 1130 บริเวณนี้มองว่า ราคาจะยังคงแกว่งตัวในกรอบลักษณะ Sideways up ขึ้นไปใกล้ 1160 เช่นเดิม สำหรับคนที่ไม่มีสถานะ เสี่ยงซื้อตรงนี้ โดยตั้งจุดตัดขาดทุนไว้ตามความเสี่ยงที่รับได้ วันนี้ช่วง 19.30 จะมีการประกาศตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานและผลการประชุม ECB
ต่างชาติยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย และ Shortสุทธิในฟิวเจอร์เป็นวันแรก หลังจากเมื่อวานนี้ดัชนีปรับตัวสูงขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ยังมองว่าแกว่งตัวในกรอบอยู่ไปอีกสักระยะหนึ่ง มุมทางบวกเริ่มมีมากขึ้นจากตลาดต่างประเทศ ส่วนตลาดภายในยังคงได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว ค่าเงินบาทหลังจากแข็งค่ามาเล็กน้อยก็กลับมาอ่อนค่าอีกแล้วส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัจจัยบวกในประเทศที่ไม่มีด้วย นักวิเคราะห์มองเป้าที่ 36 พบว่า ไม่ได้เป็นการอ่อนค่าเกินจริงเท่าไร
ทางเลือกหลัก : ราคาลงมาแนวรับบริเวณ 1130 พอดี หากหลุดตรงนี้ไปจะเริ่มลง หากไม่หลุดจะขึ้นไปแกว่งตัวในกรอบ
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรภาคเอกชน (ADP Non farm employment change) ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 190K เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าเล็กน้อยที่ 177K แต่ยังเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดการณ์เยอะที่ระดับ 204K ตลาดคาดการณ์ไปถึงการขึ้นดอกเบี้ยว่าอาจจะขึ้นดอกเบี้ยช้ากว่ากำหนด ทั้งนี้การเคลื่อนไหวตลาดอื่นเมื่อวานนี้ค่อนข้างเงียบเหงา ไม่คึกคักเหมือนช่วงสอง-สามวันที่ผ่านมา ตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ตลาดน้ำมันดิบก็ค่อนข้างทรงตัว จึงมองว่า ข่าวเมื่อวานไม่มีนัยสำคัญเท่าไรนัก ตลาดกำลังติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ ทั้งนี้ตัวเลขคาดการณ์ในวันศุกร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
- ข้อมูลจาก Beige book เปิดเผยว่า เศรษฐกิจอเมริกากำลังเติบโตแบบแข็งแกร่ง (Solid growth) แต่มีเพียงอุตสาหกรรมพลังงานเท่านั้นที่กดดันการเติบโตของเศรษฐกิจหลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงตลอดทั้งปี กิจกรรมภาคการผลิตยังค่อนข้างดี (Mostly sensitive) ถึงแม้ นิวยอร์คและแคนซัสจะชะลอตัวลง ตัวเลขค้าปลีกก็เป็นไปในทิศทางที่ดีเช่นเดียวกับอสังหาริมทรัพย์ ฝั่งค่าจ้างแรงงานยังค่อนข้างทรงตัว หลังจากมีรายงานออกมา ก็ไม่ได้ส่งผลให้ตลาดหุ้นมีการเคลื่อนไหวเท่าไร ทั้งนี้ได้มีความเห็นจาก คุณ Bill gross ที่ได้ฉายาว่าเป็นเจ้าพ่อพันธบัตรกล่าวว่า FED มีความเป็นไปได้ที่จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกันยายนนี้และคาดว่าจะคงดอกเบี้ยหลังจากากรขึ้นครั้งแรกเป็นระยะเวลาค่อนข้างนาน ส่วนทางฝั่งนักวิเคราะห์อื่นๆมองว่า เศรษฐกิจยังไม่ได้เติบโตแบบสูงสุด ยังขาดพค่าจ้างที่สูงขึ้น ยังติดปัญหาหนี้สินซึ่งหากขึ้นดอกเบี้ยก็จะไปส่งผลกระทบด้วย
- IMF ออกมากล่าวว่า การชะลอตัวหรือการเติบโตระดับปานกลางของเศรษฐกิจโลกในช่วงที่ผ่านมานั้นมีสาเหตุมาจาก 1.การชะลอตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging country) และ 2. การฟื้นตัวที่ยังไม่แข็งแกร่งเต็มที่ของเศรษฐกิจประเทศที่พัฒนาแล้ว และให้ความเห็นว่า ความผันผวนของตลาดการเงิน การไหลเข้าของเงินทุนระดับต่ำ และค่าเงินของประเทศเกิดใหม่ที่อ่อนค่า จะทำให้เกิดความยากลำบากขึ้นแก่เศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนา
- สองวันนี้วันพฤหัสและวันศุกร์ตลาดจีนจะปิดทำการเนื่องจากวันหยุด และคาดว่าจะทำให้สภาพคล่องและปริมาณซื้อ-ขายในตลาดทองคำในโซนเอเชียมีความเบาบางลง
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Unemployment claims 273K 271K
EUR
ECB Press conference
21.00 USD
ISM Non-manufacturing PMI 58.3 60.3
02 กันยายน 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 2 ก.ย. 2558
02 กันยายน 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 2 ก.ย. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 2-9-58
เเนวรับ 1130 1125 1119 เเนวต้าน 1139 1146 1155
ราคายังคงปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น แต่ปรับตัวแบบ Sideways up แทน ตามกรอบในรูป ทั้งนี้ในภาพรวมก็ยังคงเป็น Uptrend อยู่ แต่จุดเปลี่ยนแนวโน้มเริ่มชัดขึ้นคือบริเวณ 1130 หากราคาหลุดตรงนี้ลงมามองว่า ราคาจะไม่ขึ้นแล้ว จะเริ่มปรับตัวลดลงถึงสร้างฐานใหม่ ซึ่งหากมีสถานะซื้อควรจะตัดขาดทุนที่บริเวณนี้ แต่หากราคาไม่หลุดนั้นมองว่า จะยังคงมองเป้าหมายเดิมที่ระดับใกล้ High เดิมบริเวณ 1160 อีกครั้ง ข่าวบวกยังมีเพียง การปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องของตลาดหุ้นทั่วโลก แต่ข่าวอื่นๆนั้นยังไม่มีเข้ามาเท่าไร ในวันนี้จะมีการประกาศตัวเลข ADP non-farm employment คาดว่าจะออกมาดีขึ้นซึ่งเป็นปัจจัยลบกับทองคำ แต่ตัวนี้โดยปกติแล้วมักจะแค่สร้างความผันผวนเท่านั้น
ต่างชาติยังมีการซื้อ-ขายในตลาดหุ้นไทยที่เบาบาง แต่ยังคง Long สุทธิในฟิวเจอร์ต่อเนื่องกัน เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงต่ออีก 20 จุด ถึงแม้จะยังให้มุมมองรีบาวน์ขึ้นมา แต่ก็โดนแรงขายกดลงแรง จึงยังมองว่า ยังแกว่งตัวตรงนี้ไปสักพัก และหากยังไม่หลุด Low เดิมที่ต่ำกว่า 1300 จุดก็ยังคงมีหวัง ปัจจัยต่างๆทั้งภายนอกภายในยังเป็นลบกับตลาดหุ้น แต่นักวิเคราะห์มองว่าหุ้นหลายตัวเริ่มมีมูลค่าที่เริ่มถูกลงในการลงทุนระยะยาวแล้ว ค่าเงินบาทยังลุ้นการปรับตัวแข็งค่าลงมาเกินกว่า 35.50
ทางเลือกหลัก : ตราบใดที่ราคายังไม่หลุด 1130 ลงมาก็ให้น้ำหนักทางฝั่งค่อยๆปรับตัวขึ้นไปใกล้ High เดิมที่ 1160
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ตัวเลข ISM-PMI ภาคการผลิตของอเมริกาปรับตัวลดลงสู่ระดับ 51.1 จากเดือนก่อนหน้า 52.7 และคาดการณ์ 52.6 เป็นการปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2014 หรือต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี ส่งผลให้ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลดลงแรงและทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเข้าสู่รอบปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากรีบาวน์ขึ้นมาได้ในช่วงท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ทองคำไม่รับข่าวทางฝั่งปรับตัวขึ้นเท่าไรนัก
- ราคาน้ำมันดิบผันผวนรุนแรงมากในช่วงระยะหลังมานี้ ซึ่งเมื่อวานนี้เป็นการปรับตัวลดลงแรงสุดภายในวันในรอบ 2 เดือนหลังจากปรับตัวขึ้นมาแรงสามวัน 27% ซึ่งก็เป็นการขึ้นมากสุดสามวันติดต่อกันในรอบ 25 ปี จากความกังวลที่ตรงข้ามกับเมื่อวันก่อนที่ว่า OPEC จะมีการประชุมหลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งข่าวเหล่านี้ค่อนข้างไม่ได้มีผลมากนัก ตลาดน้ำมันเข้าสู่ช่วงภาวะ High-volatility และการปรับตัวขึ้น-ลง ระดับ 5-10% ต่อวันแบบนี้จะมีไปอีกสักพักหนึ่งท่ามกลางข่าวที่ค่อนข้างสับสน
- ตลาดหุ้นทางฝั่งเอเชียปรับตัวลดลงต่อจากความกังวลต่อเศรษฐกิจจีน ล่าสุดตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ปรับตัวลดลงอีกกว่า 1% ปัจจัยหลักมาจากการประกาศตัวเลข PMI ที่ออกมาน้อยกว่าคาด ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินเยน รวมทั้ง ตัวเลขเศรษฐกิจในญี่ปุ่นก็ยังออกมาไม่ดีเท่าไร ถึงแม้ตลาดหุ้นญี่ปุ่น Nikkei 225 จะมีการรีบาวน์ตอนช่วงเปิดตลาดแต่ก็ยังโดนกดดันจากแนวโน้มขาลงอยู่ ซึ่งการที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงนั้นจะทำให้ทองคำได้รับความน่าสนใจขึ้นมาบ้างในระยะสั้นนี้
- ตัวเลขการจ้างงานของกลุ่มประเทศยูโรโซนปรับตัวลดลงสู่ระดับ 10.9% ในเดือนกรกฎาคมเทียบกับ 11.1% ในเดือนมิถุนายน ระดับนี้เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ประเทศที่อัตราว่างงานที่สูงสุดที่สุดอยู่ในประเทศกรีซที่ระดับ 25% (1ใน4) รองลงมาคือสเปน (22.2%) ส่วนประเทศที่ต่ำสุดคือ เยอรมันที่ระดับ 4.7% ส่วนทางฝั่ง UK อยู่ที่ระดับ 5.6% และอเมริกาที่ 5.3% ตัวเลขอัตราว่างงานนี้ประกาศหลังจากตัวเลข PMI ที่ยังออกมาชะลอตัว จึงไม่เห็นตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้นเท่าไรนัก แต่ยังคาดว่าการฟื้นตัวยังค่อยเป็นค่อยไป
- อัตราเงินเฟ้อของไทยชะลอตัวลงอีก –1.19% มากกว่าคาดการณ์ที่ระดับ –1.05% เป็นผลจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงและคาดว่าจะมีการทบทวนเป้าหมายเงินเฟ้อเพิ่มเติม แต่ยังไม่กังวลเรื่องภาวะเงินฝืดเท่าไรนัก
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.15 USD
ADP non-farm employment change 204K 185K
01 กันยายน 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 1 ก.ย. 2558
01 กันยายน 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 1 ก.ย. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 1-9-58
เเนวรับ 1136 1134 1127 เเนวต้าน 1146 1150 1159
ราคายังคงทำ Uptrend ในภาพรายชั่วโมง และ รายวัน ซึ่งรายวันการปรับตัวขึ้นเมื่อวานนั้นทำให้ภาพรวมดูดีขึ้นมา และเป็นการวิ่งออกจากค่าเฉลี่ยที่ใช้คือ 8 และ 21 วัน รวมถึงพฤติกรรมการสร้าง higher high ยังมองมุมบวกขึ้นไปทดสอบใกล้ๆ High เดิมที่บริเวณ 1160 ถึงแม้ข่าวบวกด้วยตัวของทองเองจะมีไม่มาก แต่ได้รับแรงจากนอกตลาดอื่น ตลาดหุ้นยังคงปรับตัวลดลงเล็กน้อย และ ภาคการผลิตของจีนก็มาซ้ำเพิ่มเติม รวมถึง ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นทำให้กลุ่มดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้นไป แต่การปรับตัวยังมองเป็นไปอย่างจำกัดในรอบใหญ่จากแนวโน้มที่ผลการประชุม FOMCของเดือนนี้มีความสำคัญที่จะส่งผลต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ย
ปริมาณการซื้อ-ขายในตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ค่อนข้างต่ำ และต่างชาติยัง Long สุทธิในฟิวเจอร์อีกเล็กน้อยแต่ปริมาณ Short สะสมของต่างชาติกำลังปรับตัวลดลงเรื่อยๆทั้งนี้ตลาดหุ้นไทยเริ่มสร้างฐานอยู่บริเวณนี้ และยังให้น้ำหนักแกว่งตัว ทั้งนี้ตลาดหุ้นนอกประเทศยังปรับตัวลดลงต่อเนื่องทั้งโลก รวมถึง ตัวเลขในประเทศที่ยังออกมาแย่หากยังไม่มีข่าวดีเข้ามามองว่าการปรับตัวขึ้นแรงๆคงมีโอกาสน้อย เงินบาทล่าสุดปรับตัวแข็งค่ามาอีกครั้ง ต้องดูว่า จะแรงพอให้หลุด 35.50 ได้หรือไม่ในรอบนี้
ทางเลือกหลัก : ยังมองราคาขึ้นไปทดสอบใกล้ High เดิมบริเวณ 1160
ทางเลือกรอง : ราคาชะลอตัวลงมา หากต่ำกว่า 1130 ก็จะมองการแกว่งตัวในกรอบ ไม่ขึ้น ถึงลงเล็กน้อย โอกาสเกิดยังมองว่าน้อย
รายละเอียด
- ทองคำปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อที่เข้ามาในฐานะของ Safe haven หลังจากกลุ่มดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ที่รวมกลุ่มสินค้าโดยรวมปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นนำโดยการปรับตัวของน้ำมันดิบทำให้แรงซื้อส่วนหนึ่งเข้ามาในทองคำด้วย และยังซ้ำเติมจากเรื่องจีนที่ประกาศตัวเลขดัชนี PMI ออกมาเมื่อเช้านี้พบว่าออกมาที่ระดับ 49.7ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2009 และยังอยู่ระดับที่ต่ำกว่า 50 ที่เป็นเลขที่แบ่งระหว่างการหดตัวกับการขยายตัว นอกจากนี้ทองคำยังได้รับปัจจัยบวกจากความเห็นของประธานFED นาย Fischer ที่ปกติจะออกมาโทนขึ้นดอกเบี้ยแต่ความเห็นเมื่อเร็วๆนี้กลับเริ่มกลายเป็นกลางมากขึ้น รวมถึงความเห็นจาก คุณ Ray dalio ผู้จัดการกองทุน Hedge fund ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อแห่ง Macroeconomics ได้ออกมาให้ความเห็นเพิ่มเติมอีกว่า FED อาจจะไม่ได้ขึ้นดอกเบี้ย อาจมีแม้กระทั่ง QE4 ในอนาคตก็ได้ ซึ่งตลาดก็ยังคงติดตามเรื่องนี้ต่อไป
- เมื่อวานนี้มีความเคลื่อนไหวในตลาดน้ำมันดิบค่อนข้างแรง ปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 8% (แรงมาแล้วต่อเนื่อง 3 วันติดต่อกัน ปรับตัวขึ้นทั้งหมด 27%) จากข่าวบวกที่เข้ามาในตลาดสองเรื่อง คือ 1.EIA ได้ออกมาเปิดเผยว่า อุปทานน้ำมันดิบ (oil production) ของอเมริกาปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องหลังจากไปทำระดับสูงสุดที่เดือนเมษายนจำนวน 9.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับแท่นขุดเจาะที่ค่อยๆกลับมาดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา ส่วนข่าวที่ 2 คือ OPEC เริ่มออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงแรงและจะจัดให้มีการประชุมเร็วๆนี้เพื่อหารือกันว่าจะทำอย่างไรกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง
- อัตราเงินเฟ้อของยุโรปยังอยู่ที่ระดับต่ำถึงแม้จะเพิ่มขึ้น 0.2% จากคาดการณ์ 0.1% แต่ก็ยังไม่เห็นสัญญาณที่จะปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งถึงแม้จะมีนโยบาย QE ของยุโรปแล้วก็ตาม
- ตัวเลข Chicago PMI ของอเมริกาออกมาปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั้งนี้ตัวเลขนี้เป็นแค่ตัววัดเฉพาะรัฐชิคาโก้เท่านั้นไม่ได้มีนัยสำคัญกับการเคลื่อนไหวจของราคาทองคำเท่าไรนัก
- ธปท เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจไทยพบว่า เศรษฐกิจยังคงอ่อนแอ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ขณะที่การส่งออกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ยังซบเซา ปัจจัยที่ดึงเศรษฐกิจยังมาจากภาคการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายของภาครัฐ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
21.00 USD
ISM Manufacturing PMI 52.6 52.7
31 สิงหาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 31 ส.ค. 2558
31 สิงหาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 31 ส.ค. 2558
เเนวรับ 1130 1125 1121 เเนวต้าน 1139 1144 1147
ราคาปรับตัวลดลงสู่แนวรับ 1120 ในภาพรวม ก่อนที่จะรีบาวน์กลับขึ้นมา และในวันศุกร์ราคาเริ่มกลับตัวขึ้นมา และกลับมาพุ่งออกจากค่าเฉลี่ย ซึ่งมองว่า จะเป็นการปรับตัวสูงขึ้นต่อในระยะถัดไป โดยมีแนวต้านระยะสั้นที่ 1138 และหากยังไม่หลุดจะยาวไปถึงโซน 1150-1160 แต่ยังมองไม่ไกลไปกว่านั้นเนื่องจากปัจจัยบวกที่เข้ามายังเป็นไปอย่างจำกัด ส่วนในทางกลับกันกรณีราคาในวันนี้ปรับตัวลดลงเกินกว่าระดับ 1129 มองว่า จะเริ่มกลับลงมาแกว่งตัวในกรอบลักษณะ Sideways อีกครั้ง ทั้งนี้ถึงแม้ราคาจะปรับตัวขึ้นไปแต่ยังมองการปรับตัวขึ้นยังคงเป็นไปอย่างจำกัด และในเดือนหน้าจะมีกระแสการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ยิ่งต้องใช้ความระมัดระวังเพิ่มเติม
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยอีก 1226 ล้านบาท เป็นวันที่ 9 ติดต่อกัน แต่ยังคง Long สุทธิเป็นจำนวนมากอีกเป็นวันที่ 2 กว่า 16000 สัญญา ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในแนวโน้มของการรีบาว์ขึ้นมา แต่ยังไม่เห็นสัญญาณบวกที่แข็งแกร่งนัก ส่วนทิศทางค่าเงินบาทเมื่อวันศุกร์ ธปท.ได้ออกนโยบายให้นักลงทุนสามารถนำเงินไปลงทุนนอกประเทศได้ ส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าเพิ่มเติมอีกจากปัจจัยดังกล่าว และแนวโน้มยังอ่อนค่าอยู่ แต่ก็มองว่าในภาวะเช่นนี้ ติดตามต่อไปว่าจะออกมาเป็นเช่นไร
ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นไปทดสอบ 1138 หรือสูงกว่า
ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวลดลงเกินกว่า 1129 มองว่าขาขึ้นเสียเปรียบไป
รายละเอียด
- ตัวเลข Core PCE Price index ทรงตัวที่ระดับ 0.1% จากเดือนก่อนหน้า 0.1% เท่ากับคาดการณ์แสดงให้เห็นถึงทิศทางเงินเฟ้อที่ยังไม่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในช่วงนี้ ส่วนรายได้ผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มเท่ากับเดือนก่อนหน้า 0.3% ขณะที่คาดการณ์ 0.4% และ ตัวเลขค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4% เท่ากับเดือนก่อนหน้าและคาดการณ์ แสดงให้เห็นถึง ผู้บริโภคยังมีการใช้จ่าย และ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ประกาศออกมาช่วงก่อนหน้าก็ออกมาดี ซึ่งเป็นปัจจัยที่สอดคล้องกัน ทั้งนี้มีตัว Revised consumer sentiment กลับปรับตัวลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ 91.9 จากเดือนก่อนหน้า 92.9
- FED’s Fischer ได้ออกมาให้ความเห็นว่า ความปั่นป่วน ความผันผวนของตลาดสินทรัพย์การเงินช่วงนี้ ยังไม่สามารถบอกได้แน่ชัดว่า อัตราดอกเบี้ยจะขึ้นในเดือนกันยายนแน่หรือไม่ แต่ความผันผวนที่ออกมานั้นเป็นปัจจัยหนึ่งที่ FED กำลังเฝ้าระวังอยู่ ส่วนการประชุมที่ Jackson hole ธนาคารกลางต่างๆทั่วโลก ได้ออกมาให้ความเห็นว่า พร้อมแล้วที่จะรับมือกับเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ FED และกล่าวประมาณว่า อยากให้ขึ้นดอกเบี้ยให้จบๆไป ไม่อยากให้ความไม่แน่นอนเช่นนี้อยู่นาน
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นแรง สองวันร่วม 16% จากข่าวเรื่องการทำ Short-covering ถึงแม้จำนวนแท่นขุดเจาะจะเพิ่มอีก 1แท่น สู่ระดับ 675 แท่น ซึ่งเมื่อเทียบกับปีที่แล้วนั้นยังพบว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันปรับตัวลดลงจากระดับ 900 แท่น แต่ข่าวดีที่เข้ามาในตลาดน้ำมันนั้นคือ เวเนซูเอล่า เรียกประชุมประเทศในกลุ่ม OPEC รวมทั้งรัสเซียเพื่อวางแผนที่จะช่วยให้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น แต่แผนนี้ยังเป็นไปได้ยากเนื่องจากขาดการสนุนจากคนหลักอย่าง ซาอุดิอาระเบียที่ไม่เห็นด้วยกับการลดกำลังการผลิตลง
- ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดปรับตัวลดลงอีก 3% จากความกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และล่าสุดญี่ปุ่นมีประกาศตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมหดตัวลงอีกและเงินเฟ้อยังอยู่ใกล้กับระดับ 0% นักลงทุนจึงเริ่มกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจเบอร์ 1 และ 2 ของเอเชีย
- ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นโดยส่วนหนึ่งมาจากแรงซื้อทางเทคนิค และได้มีแรงซื้อเพิ่มเติมเข้ามาอีก จากเรื่องความต้องการจากอินเดียและจีนที่มากขึ้นท่ามกลางราคาที่ปรับตัวลดลงมา
28 สิงหาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 28 ส.ค. 2558
28 สิงหาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 28 ส.ค. 2558
- ราคาทองคำปิดลบเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลข ผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (GDP) ไตรมาส สอง ขยายตัวมากกว่าที่คาดการณ์
-
- GDP สหรัฐ ไตรมาสสอง ขยายตัว 3.7% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขก่อนหน้านี้ที่ประเมินไว้ที่ 2.3% และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.3% โดยเกิดจากการที่ภาคธุรกิจเพิ่มการลงทุน และเพิ่มสต๊อกสินค้า รวมถึงการที่ผู้บริโภคและรัฐบาลเพิ่มการใช้จ่ายมากขึ้นด้วย
-
- นอกจากนี้ ข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันราคาทอง จากรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 6,000 ราย สู่ระดับ 271,000 ราย ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ 273,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดแรงงานสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
-
- ในทาง Technical ทองลงมาทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1118 เป็นรอบที่สอง แต่ยังไม่ผ่าน มีแรงมารับซื้อ กลับขึ้นมาแกว่งตัวในกรอบ 1125-1132 ลักษณะแบบ side way up มีแนวต้านที่ 1136 โดยมีน้ำมันที่ราคาดีดขึ้นมาเป็นตัวหนุนให้ทองปรับขึ้นมา คาดว่าช่วงกลางวันจะแกว่งตัวในกรอบนี้ก่อน
-
- เนื่องจากเป็นวันศุกร์ ความผันผวนน่าจะเบาบางลงจากการที่นักลงทุนส่วนใหญ่มักจะปิดทำกำไรในวันสุดสัปดาห์ ดังนั้นถ้าไม่มีข่าวแรงๆมากระทบ ราคาก็น่าจะเคลื่อนไหวไปตาม technical
- กลยุทธ์เทรด ควรซื้อขายตามแนวรับ-แนวต้าน
-
- Resistance:
R2 1136
R1 1128
Support:
S1 1125
S2 1118
27 สิงหาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 27 ส.ค. 2558
27 สิงหาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 27 ส.ค. 2558
• จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลดต่ำลง โดยดัชนีการยื่นขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เพิ่มขึ้น 0.2% ประกอบด้วย ดัชนียื่นขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน เพิ่มขึ้น 1.7% ขณะที่ดัชนียื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์ ลดลง 1.0%
• ยอดสั่งซื้อสินค้ำคงทนของสหรัฐปรับตัวขึ้น 2% ในเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นมากขึ้น อย่างไรก็ดี ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ยอดสั่งซื้อสินค้ำคงทนลดลง 5.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลกระทบจากธุรกิจกลุ่มพลังงานที่ชะลอการลงทุน
• รัฐบาลญี่ปุ่นคงระดับการประเมินเศรษฐกิจของประเทศในเดือน ส.ค. แต่ได้ปรับลดมุมมองในส่วนของการบริโภคภาคเอกชนเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 1 ปี แต่ยังมองแนวโน้มในอนาคตว่า เศรษฐกิจโดยรวมน่าจะฟื้นตัวได้ดีขึ้น โดยมีความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และความผันผวนในตลาดการเงินและตลาดทุน
• รัฐบาลจีนเตรียมปรับลดค่าธรรมเนียมในการส่งออกและนำเข้าของบริษัทจีนเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่าย ท่ามกลางภาวะการค้าที่ซบเซา หลังจากยอดการส่งออกและนำเข้าของจีนในเดือน ก.ค.ลดลง 8.3% และ 8.1% ตามลำดับ โดยจะปรับลดค่าธรรมเนียมการค้าในส่วนที่เรียกเก็บโดยรัฐบาลกลาง และจะกำหนดระดับค่าธรรมเนียมใหม่ที่เรียกเก็บโดยรัฐบาลท้องถิ่น
• เริ่มมีกระแสข่าวว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดน่าจะเป็นไปได้ยากขึ้น เนื่องจากผลกระทบที่เกิดขึ้นในตลาดโลกกำลังแผ่กระจายเป็นวงกว้าง อีกทั้งเหล่าผู้จัดการกองทุนระดับโลกต่างๆ ออกมาให้ความเห็นค่อนข้างไปในทิศทางเดียวกันว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจเป็นไปได้ยาก แต่ถ้ำ QE4 อาจเป็นไปได้มากว่า รวมถึงมาตรการอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ส่งผลให้ตลาดเริ่มคลายความตึงเครียดลง จากปัจจัยเหล่ำนี้ ทำให้รำคำทองปรับตัวลงมาอย่างมาก
• ในทาง Technical ทองปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ลงไปลึกถึง 1118 ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญแล้ว ก่อนกลับขึ้นมาติดแนวต้านที่ 1128 น่าจะเคลื่อนที่ side way ในกรอบ 1120-1127 ก่อนหาโอกาสทดสอบแนวรับเดิมอีกครั้ง
Resistance:
R2 1133/1134
R1 1128
Support:
S1 1121
S2 1117
• คาดว่าจะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน R1 หรืออาจจะขึ้นไปถึง R2 ก่อนลงมาทดสอบแนวรับอีกครั้งหนึ่ง จุดสำคัญอยู่ที่แนวรับ 1117 ถ้าเกิดผ่านไปได้ เบื้องต้นหมายถึงลงยาว
26 สิงหาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 26 ส.ค. 2558
26 สิงหาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 26 ส.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 26-8-58
เเนวรับ 1135 1125 1121 เเนวต้าน 1144 1147 1150
จากการทดสอบแล้วไม่ผ่านของภาพรวมบริเวณ 1165 และได้เกิดแรงขายอย่างต่อเนื่อง ในระยะสั้นคาดว่า จะมีแรงชะลอตรงบริเวณ 1135 แถวนี้ก่อน แต่ยังให้น้ำหนักการปรับตัวลดลงต่อไปยังแนวรับ 1120-1125 ซึ่งบริเวณนั้นมองว่า สำหรับคนที่มีสถานะ Short หรือขายก่อนควรจะปิดออกมารอดูตลาดกันก่อน ส่วนคนที่ยังไม่มีสถานะติดตามว่าจะลองเสี่ยงซื้อตรงบริเวณแนวรับนั้นได้หรือไม่ ข่าวยังมีทั้งบวกและลบผสมกันเช่นเดิม เลยมองว่า ในระยะสั้นทองจะยังคงแกว่งตัวตามเทคนิคไปอีกสักระยะหนึ่ง กรณีกลับกันหากราคาในวันนี้ขึ้นไปเหนือกว่า 1145 จะให้น้ำหนักทางฝั่งลงเริ่มเสียไปแต่จะเป็นการกลับไปแกว่งในกรอบ 1145-1160 อีกครั้ง น้ำหนักฝั่งนี้ยังน้อยอยู่
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยอีก 3312 ล้านบาท แต่หันกลับไป Long สุทธิในฟิวเจอร์มากถึง 16625 สัญญา เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นรีบาวน์ขึ้นมาแรงเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นทั่วโลก (ยกเว้นจีนและอเมริกา) ซึ่งมุมมองระยะสั้นเริ่มเห็นอาการดีขึ้นบ้าง (เล็กน้อย) สำหรับตลาดหุ้น เมื่อวานนี้ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าลงมาทดสอบระดับ 35.50 แต่ยังไม่สามารถผ่านไปได้และยังรีบาวน์ขึ้นมาอ่อนค่าต่อจากนโยบายของจีนที่เข้ามาซ้ำ มองว่าตราบใดที่ยังไม่หลุด 35.50 ก็ยังอ่อน ถึงแกว่งในกรอบ
ทางเลือกหลัก : มองราคาชะลอตัวบนแนวรับ 1135 ตรงนี้มองว่า จะรีบาวน์เล็กน้อยก่อนที่จะปรับตัวลดลงต่อไปยังระดับ 1120 ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญ
ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวเกินกว่า 1145 ขึ้นไปมองว่า จะกลับไปแกว่งในกรอบใหม่
รายละเอียด
- ตัวเลขดัชนีราคาบ้านแต่ละตัวออกมาผสมกัน ทั้งนี้ไม่ได้มีนัยสำคัญกับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำเท่าไรนัก ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 101.5 จากเดือนก่อนหน้า 91 และคาดการณ์ 92.8 เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าเดือนก่อนหน้าและคาดการณ์ ส่วนตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ (New home sales ) ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 507K จากเดือนก่อนหน้า 481K และคาดการณ์ 512K ส่วนใหญ่แล้วเป็นข่าวค่อนข้างลบกับราคาทองคำ จึงเป็นตัวกระตุ้นให้ทองคำปรับตัวลดลงหลังจากตลาดหุ้นเริ่มรีบาวน์
- ตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มปรับตัวสูงขึ้นหลังจากวันก่อนหน้าที่ตกลงมาอย่างรุนแรง ส่าวนหนึ่งเป็นเพราะ จีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมโดยการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% สู่ระดับ 4.6% (เป็นการปรับลดครั้งที่ 9 ในรอบปีนี้) นอกจากนี้ยังประกาศการลดอัตราเงินสำรองที่ธนาคารพาณิชย์ต้องสำรองลงอีก 0.50% เหลือระดับ 18% เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐฏิจทั้งนี้หลังจากประกาศข่าว ตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มปรับตัวรีบาวน์ขึ้น เพียงแต่ท้ายตลาดนั้นเกิดแรงขายออกมาบางส่วน แต่เมื่อมาดูฝั่งตลาดของอเมริกาพบว่า ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นระหว่างวันถึง 500 จุดแต่กลับปรับตัวลงมาลบถึง 200 จุดซึ่งบ่งบอกถึงความผันผวนที่ค่อนข้างมากของสินทรัพย์การเงินทั่วโลกในระยะนี้
- ผู้จัดการกองทุน Hedge fund ระดับโลก คุณ Ray dalio ได้ออกมาให้ความเห็นว่า ท่าทีที่เราจะได้เห็นนโยบายของ FED ในช่วงต่อๆไปนั้นไม่ใช่เป็นการดำเนินนโยบายแบบเข้มงวด (tighten) แต่เป็นการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายแทน (Loosen) ซึ่งต้องติดตามว่าหมายความว่าอย่างไร
- กระแสการทำ Carry-trade ในปัจจุบันเริ่มมีกระแสออกมาว่า ทำได้ยากขึ้น และ มีแนวโน้มจะขาดทุนมากขึ้นหลังจากธนาคารกลางจีนและกลุ่มประเทศ Emerging market เกิดเงินอ่อนค่ามา และ อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มห่างกันมากขึ้นทำให้เม็ดเงินที่ไหลวนอยู่นั้นไม่สามารถหาที่ลงได้
- ตัวเลขเศรษฐกิจเยอรมันปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยมีการส่งออกที่ขยายตัว 2.2% และการขยายตัวของการบริโภคที่ระดับ 0.2% ทั้งนี้การลงทุนยังหดตัว ส่วนนโยบายการคลังยังคงเป็นแบบเกินดุล ทั้งนี้ตลาดหุ้น DAX เมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้นกว่า 4% หลังจากลงมาต่อเนื่องในวันก่อนหน้า
ปัจจัยที่ต้องติตตาม
19.30 USD
Durable goods orders -0.4% 3.4%
Core Durable goods orders 0.3% 0.6%
25 สิงหาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 25 ส.ค. 2558
25 สิงหาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 25 ส.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 25-8-58
เเนวรับ 1149 1145 1140 เเนวต้าน 1160 1165 1170
ราคาไปทดสอบแนวต้านตามบริเวณวงกลมที่วงไว้ และ ยังไม่สามารถผ่านไปได้ ยังมองลงไปต่อ ขอให้หลุดแนวรับ 1149 ลงมา จะเปิดการลงของทองให้มากกว่านี้ ภาพรวมตลาดหุ้นเริ่มรีบาวน์ขึ้นมาหลังจากเมื่อวานปรับตัวลดลงแรงมากและได้มีแรงซื้อเข้ามาในช่วงท้ายตลาด ทำให้มองว่า หากหุ้นรีบาวน์ขึ้นมาจริงทองคำที่ขึ้นมาจากความกังวลของนักลงทุนจะโดนแรงขายเทกำไรออกมาบางส่วน นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า ตราบใดที่ FED กำลังจะขึ้นดอกเบี้ยทองที่ขึ้นมาระดับนี้ค่อนข้างจะ Outperform หรือขึ้นเกินไปแล้ว ซึ่งมองไว้เป็นมุมมอง กรณีกลับกันหากราคาขึ้นหลุด1170 นั้นจะทำให้การขึ้นของทองเกิดอีกรอบ จะชะลอการลงแต่โอกาสเกิดน้อย
ต่างชาติขายสุทธิ ขณะที่ยัง Short สุทธิในฟิวเจอร์ทั้งนี้ถึงแม้จะมีปริมาณสะสมไม่มากนัก แต่ตลาดหุ้นเมื่อวานนี้ปรับตัวลดลงรุนแรงกว่า 5% ปิดระดับ –64 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงที่หนักมาก และแรงเกินกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์กัน ทั้งนี้ให้มุมมองเริม่รีบาวน์จากภาวะ Oversold ตรงนี้ด้วย แต่ภาพรวมยังโดนกดดันอยู่เช่นเดิม ขณะที่ค่าเงินบามองว่าจะเริ่มแข็งค่าระยะสั้นลงมาโดยมีแนวรับสำคัญ 35.50 ต้องหลุดลงมาถึงจะแข็งค่าลงมาอีก ในเบื้องต้นลองดูแรงขายขณะลงมาทดสอบ 35.50
ทางเลือกหลัก : มองราคาปรับตัวลดลงมาทดสอบ 1149 และอาจจะหลุดลงไปด้านล่าง
ทางเลือกรอง : ราคาขึ้นเหนือ 1170 มองว่าทางฝั่งขึ้นจะกลับมาอีกครั้งแต่โอกาเสกิดน้อย
รายละเอียด
- เมื่อวานสำหรับตลาดหุ้นทั่วโลกกลายเป็น Black Monday ขนาดย่อมๆ เพราะ ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงแรงมาก ทั้งเอเชียและยุโรป ซึ่งไทม์ไลน์ไล่จาก จีนเปิดมาลบกว่า 7% จากนั้นในระหว่างวันตลาดหุ้นปรับตัวลดลงหลัก 3-6% และตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงกว่า 5% (-64 จุด) จากนั้นช่วงตลาดบ่ายตามเวลาบ้านเรา ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับตัวลดลงกว่า 5% และดัชนี Dax ของเยอรมันก็ปรับตัวลดลงแรงเช่นเดียวกันก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับมา โดยเหตุผลนั้นคือ ความกังวลการเติบโตของเศรษฐกิจจีนหลังจากประกาศลดค่าเงินหยวน และคาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลง สินค้าคอมโมดิตีปรับตัวลดลง และเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งนักวิเคราะห์หลายคนมองว่า เหตุผลที่นำมาอ้างอิงนั้นค่อนข้างไม่สมเหตุสมผลที่จะทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงแรงติดต่อกัน 4 วัน และเมี่อคืนนี้ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลดลงช่วงเปิดตลาดกว่า 1000 จุด ก่อนที่จะรีบาวน์กลับมาปิดตลาดสูงขึ้นแต่ก็ยังปิดลบอยู่เล็กน้อยเมื่อวานนี้
- ประธาน Fed สาขา Atlanta คุณ Dennis Lockhart ได้ออกมาให้ความเห็นว่า น่าจะเห็นการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้เหมือนเดิม แต่สถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าเงินดอลลาร์ที่แข็ง การลดค่าเงินหยวนของจีน และราคาน้ำมันดิบในระดับต่ำ ทำให้การประเมินการเติบโตในอนาคตมีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ตัวเค้าเองคาดว่าดอกเบี้ยจะขึ้นในปีนี้อย่างแน่นอนแต่ต้องดูว่าจะเป็น กันยายน หรือไม่ก็ธันวาคม ซึ่งตัวนี้จะยังคงเป็นตัวกดดันราคาทองคำ และทำให้นักวิเคราะห์มีความเห็นว่าทองที่ขึ้นมานี้ค่อนข้าง Outperform
- ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อวานนี้ หลังจากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ ส่วนเงินยูโรแข็งค่าขึ้นมาจนทำให้นักลงทุนบางรายคาดว่าเป็น Safe-haven แทนหรือไม่ ซึ่งข่าวนี้ไม่ได้มีนัยสำคัญเท่าไร แต่ตลาดค่าเงินเมื่อวานนี้ก็ผันผวนไม่แพ้กัน เงินเยนก็ค่อนข้างผันผวนนอกจากนี้ ตลาดน้ำมันดิบก็ผันผวนแรงเช่นเดียวกัน หลังจากอิหร่านยืนยันว่าจะไม่ลดกำลังการผลิตแน่นอน ล่าสุดราคาน้ำมันดิบลงมาแตะระดับ $37-38 ต่อบาร์เรล แต่คาดว่าจะเริ่มมีแรงซื้อรีบาวน์ขึ้นมาบ้าง และในตลาดหุ้นน่าจะคลายความกังวลบางส่วน
- สงครามระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้สงบลงแล้วหลังจากทั้งสองฝ่ายสามารถเจรจากันได้และได้ยุติการยิงกันระหว่างชายแดนกันไป ทั้งนี้จะมีการเจรจาเพิ่มเติมในระยะถัดๆไป
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
21.00 USD
CB Consumer Confidence 92.8 90.9
New home sales 512K 482K
24 สิงหาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 24 ส.ค. 2558
24 สิงหาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 24 ส.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 24-8-58
เเนวรับ 1155 1150 1145 เเนวต้าน 1160 1165 1170
ภาพรวมตลาดปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาแตะระดับแนวต้าน 1165 และยังโดนกดดันอยู่ แนวต้านตรงนี้มองว่ามีนัยสำคัญมาก หากหลุดขึ้นไปจะยังพอให้ราคาขึ้นไปอีกสักพักหนึ่ง แต่ยังให้มุมมองทางลบได้เปรียบกว่า ทั้งนี้ควรตั้งจุด Stop loss ส่วนภาพรวมของข่าวมีปัจจัยบวกมากขึ้นจากเรื่องของความกลัวในตลาดหุ้นที่กดดันตลาดหุ้นอยู่ทั่วโลก ล่าสุดดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลงจากจุดต่ำสุดเกินกว่า 20% และเข้าสู่ภาวะขาลง จึงทำให้คนหนีออกจากตลาดหุ้นชั่วคราว ทั้งนี้ ปัจจัยบวกจากทองคำจะจำกัดไว้ที่การขึ้นดอกเบี้ย ที่จะถึงในเดือนหน้าหรือไม่ก็ในเดือนธันวาคม ส่วนตลาดน้ำมันดิบยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องทำระดับต่ำสุดใหม่นับตั้งแต่ปี 2009
ต่างชาติยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยและยังคง Short สุทธิ ถึงแม้จะเบาบางลง แต่มุมมองตลาดที่ส่งมาจากทั่วโลกมองว่า ตลาดหุ้นไทยจะโดนเทขายอีกระลอก ซึ่งล่าสุดเปิดตลาดปรับตัวลดลงกว่า 40 จุด หลายตลาดได้ปรับตัวลดลงต่ำกว่าไปยังระดับใกล้วิกฤติปี 2008 ส่วนค่าเงินบาทยังปรับตัวอ่อนค่าอยู่ท่ามกลางภาวะ Overbought ซึ่งสาเหตุหนึ่งมาจาก การอ่อนค่าของเงินทั่วภูมิภาคและหลายภูมิภาคจากทั้งเรื่องจีนและเรื่องบอง FED จึงทำให้ค่าเงินอ่อนเป็นแนวโน้มใหญ่อยู่
ทางเลือกหลัก : ราคาแกว่งตัวใต้แนวต้าน 1165 ซึ่งยังมองการปรับตัวลดลง เพียงแต่ตั้งจุดตัดขาดทุนไว้บริเวณที่สูงกว่านั้นเล็กน้อย
ทางเลือกรอง : ราคาหลด 1165 ขึ้นไปมองว่าจะมีการปรับตัวสูงขึ้นไปอีกสักระยะหนึ่ง
รายละเอียด
-ดัชนีภาคการผลิต (Flash PMI) ออกมาปรับตัวลดลงเล็กน้อยที่ระดับ 52.9 จากเดือนก่อนหน้า 53.8 และคาดการณ์ 53.9 ข่าวนี้ค่อนข้างเป็นปัจจัยบวกแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในขณะที่ตลาดหุ้นอเมริกาตอนนี้ได้เข้าสู่ขาลงเต็มตัว (Correction) หลังจากปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดเกินกว่า 20% และได้สร้างความกังวลเพิ่มเติมให้กับตลาดหุ้นทั่วโลก ส่งผลให้ตลาดหุ้นเยอรมันปรับตัวลดลงแรงต่อเนื่องหลุดระดับ 10000 จุด ถึงแม้จะมีประกาศ PMI ภาคการผลิตของเยอรมันปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้จีนปรับตัวลดลงแรงต่อเนื่องอีก 8% และดึงตลาดหุ้นเอเชียลงกันอีกทั้งแถบ ซึ่งถือว่า ตลาดหุ้นในช่วงครึ่งหลังของปีเป็นคนละหน้ากับช่วงครึ่งแรกที่ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น ส่วนทองคำปรับตัวลดลงอย่างเดียว มาในเดือนนี้ทองคำปรับตัวสูงขึ้นคู่กับพันธบัตร ส่วนตลาดหุ้นปรับตัวลดลงกันทั้งหมด
-จุดเริ่มต้นของความกลัวในตลาดหุ้นส่วนหนึ่งมาจากการลดค่าเงินหยวนของจีนทำให้มุมมองของนักลงทุนในตลาดมองว่า เศรษฐกิจโลกจะอ่อนแอลงกว่านี้อีกนอกจากนี้กระแส Currency war ในกลุ่มประเทศเกิดใหม่จะสร้างความผันผวนให้กับระบบการเงินโลกเพิ่มเติมไปอีก ซ้ำเดิมจากการที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมามองว่า ค่อนข้างมีความผันผวนเกิดขึ้นในตลาดการเงินทั่วโลกพอสมควร และเงินส่วนหนึ่งได้ไหลเข้าไปยังตลาดทองคำและตลาดพันธบัตร เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่เข้าสู่สถานะ Risk-off โหมด หรือโหมดกลัวสินทรัพย์เสี่ยง นอกจากนี้ VIX Index ที่เป็นดัชนีวัดความกลัว หรือ ความผันผวนของตลาดหุ้นอเมริกาผ่านออพชัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงมาต่อเนื่องหลายวัน บ่งบอกชัดเจนถึงความกลัวในตลาดหุ้น
-เกิดเหตุระเบิดโกดังเก็บสารเคมีที่จีนอีกโกดังหนึ่งพร้อมทั้งเกิดเหตุระเบิดฐานทัพของอเมริกาในประเทศจีนเช่นเดียวกัน ซึ่งช่วงหลังมานี้มีเหตุระเบิดเกิดค่อนข้างบ่าย และก็ยังมีเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ แต่มองว่าผลกระทบทางฝั่งนี้หากไม่ลุกลามจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ คาดว่าจะไม่มีผลกับทองคำเท่าไรนัก นักลงทุนมองว่าเป็นเหตุการณ์เพียงระยะสั้นเท่านั้น
-ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงแรงและล่าสุดต่ำกว่าระดับ $40/บาร์เรล ปัจจุบันซื้อ-ขายกันที่ระดับ $39 ได้รับปัจจัยลบจากอิหร่านยืนยันว่าจะคงกำลังการผลิตไว้ที่เดิม ณ ทุกระดับต้นทุนเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด
21 สิงหาคม 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 21 ส.ค. 2558
21 สิงหาคม 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 21 ส.ค. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 21-8-58
เเนวรับ 1160 1155 1150 เเนวต้าน 1167 1170 1180
จากการรีบาวน์ในช่วงที่ผ่านมาพบว่า ราคาปรับตัวขึ้นแรงจากจุดต่ำสุดมาร่วม 7% มองว่า การปรับตัวขึ้นมานี้มาจากเรื่องความไม่แน่นอน และ ตลาดหุ้นสองวันมานี้ที่ปรับตัวลดลงจึงสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนค่อนข้างมาก ทำให้เงินไหลเข้าไปพักในทองคำ ระดับนี้เป็นระดับแนวต้านภาพใหญ่ในระยะวันพอดี คาดว่าน่าจะเป็นจุดพิจารณาขายทำกำไรสำหรับคนที่ซื้อมา และเป็นจุดที่น่าสนใจสำหรับสถานะ Short เนื่องจากเมื่อมาดูช่วงเวลาเล็กลงแล้ว พบว่าอยู่ในช่วง Overbought เกือบทั้งหมด ประกอบกับ ข่าวที่ยังบวกไม่มากและแรงซื้อจาก ETF ที่น้อย จึงมองว่า โอกาสที่จะไม่ผ่านมีสูงกว่า แต่ทั้งนี้หากผ่าน 1170 ขึ้นไปคาดว่าจะยังขึ้นอีกในระยะสั้น
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 4714 ล้านบาท เป็นการขายสามวันหนักๆติดต่อกัน ส่วนสถานะ Short ในฟิวเจอร์ยังคงเบาบาง ตลาดหุ้นยังปรับตัวลดลงต่อเนื่องและเป็นการปรับตัวลดลงทั้งโลก หลายตลาดปรับตัวจะถึงจุดที่ก่อนจะขึ้นแรงช่วงต้นปี ปัจจัยในประเทศนอกประเทศเป็นลบกับตลาดหุ้นทั้งหมด จึงมองว่า Downside risk ของตลาดหุ้นจะยังคงเปิดกว้าง กว่านี้ ยังต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุน ค่าเงินบาทยังได้รับแรงกดดันโดนรวมทั้ภูมิภาคให้อ่อนค่าลงอีก
ทางเลือกหลัก : มองว่าราคาระดับนี้เริ่มต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูงมาก เพราะ ติดเส้นแนวโน้มขาลงในภาพวันที่เป็นภาพใหญ่พอดี ขณะที่ภาพระยะสั้นออกอาการ Overbought ทุกช่วงเวลา จึงมองว่าระยะสั้นจะยังคงไม่ผ่านไป
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1170 ขึ้นไปอีก ยังจะมี Upside ให้ขึ้นอีก แต่มองว่าทางนี้โอกาสเกิดน้อยกว่า
รายละเอียด
- ในปัจจุบันเกิดความผันผวนกับตลาดหุ้นทั่วโลกอย่างหนัก เริ่มมาจากการลดค่าเงินหยวนของจีนที่เริ่มสร้างความกังวลว่า เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลง , สถานการณ์ความกังวลของกรีซ และ ปัญหาเรื่องสกุลเงินในประเทศกลุ่มเกิดใหม่ (Emerging market) ที่อ่อนค่าลงเรื่อยๆ ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงทั้งโซนเอเชีย ยุโรป และมาซ้ำอีกด้วยอเมริกา ซึ่งหากหุ้นอเมริกาลงแรงนั้นจะทำให้ Sentiment ตลาดทั้งโลกค่อนข้างโดนกดดัน และ MSCI all-country world index ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน มกราคม ตลาดหุ้นทั่วโลกในปัจจุบันค่อนข้างกลับกันกับช่วงต้นปีที่ค่อนข้าง Outperform ตลาดอื่น แต่ปัจจุบันตลาดหุ้นเหล่านั้นปรับตัวลดลงหมด และ บางตลาดเริ่มหลุดเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ทำไว้ตั้งแต่ปี 2008 ส่งผลให้ VIX index ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นร่วม 49% สร้างความกังวลให้นักลงทุนทั่วโลก
- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 277K จากสัปดาห์ก่อนหน้า 273K และคาดการณ์ 272K ส่วนตัวเลขยอดขายบ้านมือสอง(Existing home sales) ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.59 ล้านหลัง จากเดือนก่อนหน้า 5.48 ล้านหลังและคาดการณ์ 5.45 ล้านหลัง ส่วนดัชนีภาคการผลิต Philly FED ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 8.3 จากเดือนก่อนหน้า 5.7 และคาดการณ์ 6.9 จะเห็นว่าตัวเลขของอเมริกาออกมาดีเกือบทั้งหมด แต่ตลาดทองยังปรับตัวขึ้นต่อซึ่งเป็นปกติของตลาดกระทิงที่เลือกรับข่าวบวก ในขณะที่หากตลาดยังลงถึงแม้จะมีข่าวบวกก็จะไม่ขึ้นเช่นกัน
- นายกรัฐมนตรีกรีซ นาย ซิปลาส ประกาศลาออกจากตำแหน่งเนื่องจาก ให้ความเห็นว่าได้ผิดสัญญาเรื่องการเจรจาของเงินช่วยเหลือกับเจ้าหนี้ นาย ซิปลาย ได้ชูนโยบายหาเสียงว่าไม่รัดเข็มขัด แต่ผลลัพธ์กลับต้องขอความช่วยเหลือพร้อมทั้งรัดเข็มขัดต่อไป จึงประกาศลาออกจกตำแหน่งและให้ประชาชนเลือกตั้งใหม่
- เทรดเดอร์ทางฝั่งอเมริกาให้ความเห็นว่า การขึ้นของราคาครั้งนี้เหมือนกับปี 1980 ที่ราคาปรับตัวลดลงกว่า 40% จากนั้นรีบาวน์กลับขึ้นมาเป็น V-shape ซึ่งในปัจจุบันราคาก็รีบาวน์กลับขึ้นมาเหมือนในช่วงก่อน แต่สัดส่วนการปรับตัวค่อนข้างน้อยกว่า ถ้าเป็นเช่นนี้จริงเทรดเดอร์ให้ความเห็นต่อไปว่าจะเกิดแรงขายในขณะที่ราคาปรับตัวขึ้นมาและจะปรับตัวลดลงไปอีกครั้ง
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
20.45 USD
Flash manufacturing PMI 53.9 53.8