17 กันยายน 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 17 ก.ย. 2558
17 กันยายน 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 17 ก.ย. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 17-9-58
เเนวรับ 1118 1114 1109 เเนวต้าน 1123 1127 1130
ราคาปรับตัวเกินกว่า 1112 ออกมาได้ ให้น้ำหนักทางฝั่งบวกมากขึ้น ในระยะสั้นเริ่มมองการแกว่งตัวออกข้างก่อน หลังจากนั้นในตี 1 ตามเวลาบ้านเราจึงจะเริ่มมีการประกาศข่าวเรื่องผลการประชุม FOMC ซึ่งปัจจุบันตลาดคาดการณ์ว่า จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยไปยังช่วงสามเดือนที่เหลือของปี ด้วยสาเหตุหลักดังนี้ 1. การชะลอตัวของเงินเฟ้อที่ยังไม่ถึงเป้า 2. ความผันผวนของตลาดสินทรัพย์การเงินทั่วโลก 3. การอ่อนค่าของเงินหยวนและคาดการณ์การชะลอตัวของศรษฐกิจจีน ซึ่งปัจจุบันทั้งนักวิเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์เริ่มให้น้ำหนักน้อยลงกับการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ ทั้งนี้หากผิดคาดและ FED เริ่มขึ้นดอกเบี้ย จะทำให้ spot ปรับตัวลดลงทันที ต้องติดตามข่าวคืนนี้ครับ
ต่างชาติซื้อสุทธิเล็กน้อย 402 ล้านบาท กลับมา Long สุทธิในฟิวเจอร์ 2,820 สัญญา ภาพรวม SET ยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อ ถึงแม้ กนง จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิมที่ 1.5% นอกจากนี้ในวันนี้กลุ่มพลังงานคาดว่าจะเป็นผลบวกกับดัชนีหลังจาก น้ำมันดิบปรับตัวขึ้นแรงกว่า 6% เมื่อคืนนี้ ก็ยังให้น้ำหนักทางฝั่งรีบาวน์—แกว่งตัวออกข้างสำหรับตลาดหุ้นไทยไปสักพักหนึ่ง ส่วนค่าเงินบาทเริ่มแข็งค่ามาแล้วปรับตัวลงสู่แนวรับ 35.85 เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะชะลอเล็กน้อยแต่ยังดูแข็งค่าต่อ
ทางเลือกหลัก : จากราคาที่เกิน 1112 มามองว่าภาพรวมเริ่มดูดีขึ้น ระยะสั้นเริ่มแกว่งตัวออกข้าง รอข่าวคืนนี้ คาดการณ์ข่าวเป็นบวก และภาพรวมนั้นดูดีขึ้นเลยสำหรับฝั่งขึ้น
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคหดตัวในเดือนนี้สู่ระดับ –0.1% จากเดือนก่อนหน้า 0.1% และคาดการณ์ว่าจะทรงตัว นับเป็นการติดลบครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ส่วนตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคหมวดไม่รวมสินค้าประเภทพลังงานและอาหารสดยังคงขยายตัว 0.1% เท่ากับเดือนก่อนหน้าและคาดการณ์ พบว่า เงินเฟ้อในเดือนนี้หดตัวลงอีกเล็กน้อย ทองคำเลยปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเมื่อวานนี้ จากการคาดการณ์ว่า เงินเฟ้อที่น้อยลงนั้นจะทำให้ธนาคารกลางพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยช้ากว่ากำหนด เลื่อนไปยังช่วงที่เหลือของปีที่จะมีการประชุมอีก 3 ครั้ง
- ผลสำรวจของ Reuters ที่ทำการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์จำนวน 80 คนพบว่า 45 คนมองว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ (56%) ส่วนที่เหลือ 35 คนมองว่า จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้เลย (44%)
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้าน NAHB Housing index ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเป็น +1 จุด สู่ระดับ 62 จุด เป็นการปรับตัวสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2005 บ่งบอกให้เห็นถึง แนวโน้มการแข็งแกร่งของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
- ตัวเลข CPI ของยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.1% จาก 0.2% ที่คาดการณ์และเดือนก่อนหน้า ยังบ่งบอกให้เห็นถึงแนวโน้มของเงินเฟ้อทั่วโลกยังไม่ปรับตัวสูงขึ้นเลย ซึ่ง ECB ได้ปรับลดเงินเฟ้อลงในช่วงก่อนหน้าเหลือระดับ 0.1% จากเดิม 0.3% ต้องมาดูว่าแนวโน้มจะมีการปรับลงอีกไหม หลังจากเงินเฟ้อยังต่ำต่อเนื่อง โดยสาเหตุหลักของเงินเฟ้อที่ต่ำมาจาก การแข็งค่าของเงินยูโร และ ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ต้องลุ้นให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นกว่านี้เงินเฟ้อถึงจะเกิด นอกจากนี้เงินเฟ้อในระดับต่ำเช่นนี้ตลาดคาดหวังว่า ECB จะดำเนินนโยบาย QE ในปริมาณที่มากขึ้นในอนาคต
- สถาบันจัดอันดับเครดิตเรตติ้ง S&P ปรับลดเครดิตญี่ปุ่นลงสู่ระดับ AA- จากเดิม A+ หลังจากแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อชะลอตัวลง นอกจากนี้ตัวเลขการส่งออกของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเพียง 3.1% จากเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้น 7.5% เป็นผลมาจากการส่งออกไปยังจีนที่ชะลอตัวลง
- ผลการประชุม กนง เมื่อวานนี้พบว่ายังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิมที่ 1.5% พร้อมยังกล่าวว่า เศรษฐกิจยังคงต้องการการกระตุ้นเศรษฐกิจและระดับปัจจุบันยังมองว่าเพียงพอแล้ว และคาดการณ์เงินเฟ้อจะเริ่มกลับเป็นบวกในไตรมาสแรกของปีหน้า
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Unemployment claims 276K 275K
Current account -111B -113B
21.00 USD
Philly Fed manufacturing index 6.1 8.3
16 กันยายน 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 16 ก.ย. 2558
16 กันยายน 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 16 ก.ย. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 16-9-58
เเนวรับ 1104 1100 1095 เเนวต้าน 1112 1118 1125
กรอบการเคลื่อนไหวยังเป็นบริเวณใกล้เดิม หลังจากราคาไม่ขยับไปไหน ขึ้นแล้วก็ลง จากนั้นก็มีแรงซื้อท่ามกลางข่าวที่ค่อนข้างน้อย ยังคาดว่าตลาดจะยังคงแกว่งตัวรอข่าวต่อไป ในสัปดาห์นี้ ผลการประชุม FOMC จะเลื่อนไปอยู่คืนวันพฤหัสแทน ทำให้จากเดิมที่ให้ข่าวว่า จะมีผลการประชุมในวันนี้เป็นข้อมูลที่ผิดพลาด และ ต้องไปรอติดตามคืนพรุ่งนี้แทน ทิศทางจึงมองว่า ยังคงจะแกว่งตัวในกรอบต่อไปอีกสองวัน ระยะสั้นดูการปรับตัวขึ้นไปก่อน ถึงระดับใกล้ 1112 หากยังผ่านไปไม่ได้นั้นก็ยังมองว่า ราคาจะลงมาแกว่งในกรอบเช่นเดิม วันนี้เวลา 19.30 จะมีประกาศตัวเลข CPI 8ดว่าจะหดตัวถึงทรงตัวเล็กน้อย ก็ยังมองว่า ยังไม่มีข่าวที่มีนัยสำคัญเท่าไร
ต่างชาติยังคงขายสุทธิและยัง Short สุทธิในฟิวเจอร์อย่างต่อเนื่อง ภาพรวมตลาดหุ้นยังมองไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก คงต้องใช้เวลาสักพักในวันนี้จะมีผลการประชุม กนง ในช่วงเวลาบ่ายโมง คาดว่า จะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิมที่ 1.5% ส่วนทิศทางในอนาคตบางคนมองว่า ตรงนี้เป็นจุดต่ำของดอกเบี้ยแล้ว โอกาสลดอีกค่อนข้างน้อยหากอเมริกาเริ่มขึ้นดอกเบี้ย ค่าเงินบาทหากไม่ลดดอกเบี้ยมองทรงตัวถึงแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ยังมองแนวรับบริเวณ 35.85 เป็นแนวรับแรกก่อน
ทางเลือกหลัก : ราคายังคงแกว่งตัวในกรอบแนวรับแนวต้านใกล้เคียงนี้ไปอีกสักระยะหนึ่ง แนวรับ 1104 แนวต้าน 1112
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ตัวเลขค้าปลีกขยายตัวเล็กน้อยระดับ 0.2% จากเดือนก่อนหน้า 0.7% และคาดการณ์ 0.3
% เป็นการขยายตัวที่น้อยกว่าเดือนก่อนหน้าและน้อยกว่าคาดการณ์ ส่วนตัวเลขค้าปลีกหมวดที่ไม่รวมสินค้าประเภทยานพาหนะ ปรับตัวน้อยกว่าคาดการณ์สู่ระดับ 0.1% จากเดือนก่อนหน้า 0.6% และคาดการณ์ 0.2% ทิศทางของตัวเลขค้าปลีกนั้นยังไม่มีนัยสำคัญ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเดือนนึงลดลงเดือนนึง ซึ่งเดือนนี้ลดลงพร้อมกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงเล็กน้อยเช่นกัน มองว่า ผู้บริโภคมีการใช้จ่ายที่ลดลงในช่วงนี้ แต่นักวิเคราะห์ยังคงมองว่า การปรับตัวลดลงเล็กน้อยนั้นก็ยังอยู่ระดับ Healthy pace หรือ ยังดีอยู่
- ดัชนีภาคการผลิต Empire state หดตัว -14.7 มากกว่าคาดการณ์ –0.5 และเดือนก่อนหน้า –14.9 บ่งบอกให้เห็นถึงภาคการผลิจของ New York ยังไม่มีการผลิตที่ฟื้นเท่าไรนัก นอกจากนี้อัตราการใช้กำลังการผลิตยังปรับตัวลดลงสู่ระดับ 77.6% จากเดือนก่อนหน้า 78% และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัว –0.4% จากเดือนก่อนหน้า 0.9% หดตัวทั้งการใช้กำลังการผลิต (เป็นเดือนที่ 10 ต่อเนื่องกัน) และผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับ PMI ของอเมริกาที่ปรับตัวลดลง แสดงให้เห็นถึง ภาคการผลิตเริ่มชะลอตัวลง
- ตัวเลข German Zew หดตัวเช่นกันลงสู่ระดับ 12.1 จากเดือนก่อนหน้า 25 ตัวนี้จะเป็นการสำรวจนักวิเคราะห์ซึ่งถือว่ามีข้อมูลอย่างตัวเลขเศรษฐกิจอยู่ว่ามีมุมมองอย่างไรในอนาคต ถ้าเลขยิ่งมากยิ่งดี แสดงให้เห็นถึงนักวิเคราะห์ประเมินว่าในอนาคตเศรษฐกิจจะฟื้นตัวช้ากว่าเดิมเล็กน้อยเป็นต้น ซึ่งตัวเลขนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับ Zew ของยุโรปที่ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 33.3 จากเดิม 47.6
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย หลังจาก ประธานาธิบดี บารัก โอบามา กล่าวว่า รัฐสภาไม่เห็นชอบในการนำกฎหมายเรื่องการห้ามส่งออกน้ำมันมาทบทวนใหม่ เดิมกฎหมายนี้ได้เกิดเมื่อประมาณ 40 ปีที่แล้ว หลังอเมริกามีความต้องการน้ำมันอย่างสูงและได้ออกร่างกฎหมายการห้ามส่งออกน้ำมันดิบออกนอกอเมริกา ซึ่งเป็นข่าวบวกสำหรับน้ำมันดิบเล็กน้อยเนื่องจากจะจำกัด Supply ของ Shale oil ในตลาดโลก
- ผลการประชุม BOJ ยังพบว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงระดับการเพิ่มปริมาณเงินไว้ที่ 80 ล้านล้านเยน
- โบรกเกอร์ของจีนหลายแห่งเริ่มทยอยปิดให้บริการในส่วนของฟิวเจอร์ ทำให้วอลุ่มลดลงถึง 99%
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
CPI 0.0% 0.1%
Core CPI 0.1% 0.1%
15 กันยายน 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 15 ก.ย. 2558
15 กันยายน 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 15 ก.ย. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 15-9-58
เเนวรับ 1104 1100 1095 เเนวต้าน 1112 1118 1125
ราคายังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ แนวรับแนวต้านใกล้เดิม แต่เนื่องจากราคาไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือ 1112 ได้ จึงมองความได้เปรียบเมื่อวานเริ่มลดลงไป และกลายเป็นราคาไม่มีนัยสำคัญของทิศทางแทน ยังวนไปวนมาในกรอบ ลักษณะรอข่าวผลการประชุม FOMC ในวันพรุ่งนี้ แต่ระยะสั้นจากบริเวณที่ตกแนวรับแล้ว ยังมองการปรับตัวขึ้นไปเล็กน้อยสู่ระดับใกล้ 1112 เช่นเดิม ในวันนี้จะมีข่าวตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงเวลา 19.30 ซึ่งเป็นตัวเลขค้าปลีก คาดการณ์ว่าจะออกมาเป็นบวกกับทองคำ ทั้งนี้โดยปกติข่าวนี้มักจะเป็นสร้างความผันผวนระยะสั้นในลักษณะการเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาเท่านั้นต้องใช้ความระมัดระวังให้ดี กรอบการเหวี่ยงจะอยู่ประมาณ + - $5
ต่างชาติยังคงขายสุทธิและ Short สุทธิในฟิวเจอร์เพิ่มเติมอีก เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงพอประมาณ แต่ยังอยู่ในแนวโน้มแกว่งตัวออกข้าง ข่าวบวกเริ่มมีมากขึ้น หลังจากเริ่มมีการพิจารณาลดอัตราภาษีนิติบุคคลลง ทั้งนี้ คาดว่าในวันพรุ่งนี้ กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม 1.5% และนักวิเคราะห์คาดว่าจะคงระดับนี้ปจนถึงสิ้นปี เพราะ อเมริกากำลังจ่อที่จะขึ้นดอกเบี้ยรวมถึง การลดดอกเบี้ยในรอบที่ผ่านมาไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไรนัก ค่าเงินบาทยังดูแนวโน้มแข็งค่าลงมาแนวรับ 35.85
ทางเลือกหลัก : ราคายังคงแกว่งตัวในกรอบแนวรับแนวต้านใกล้เคียงนี้ไปอีกสักระยะหนึ่ง แนวรับ 1104 แนวต้าน 1112
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ข่าวช่วงนี้ยังคงไม่มีอะไรมาก นอกจากนี้ตัวเลขข่าวเศรษฐกิจที่เบาบาง ทำให้การเคลื่อนไหวยังคงเป็นไปอย่างจำกัด ข่าวที่พาดหัวอยู่ในช่วงนี้ส่วนใหญ่เป็นลักษณะเรื่องของ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นส่วนใหญ่ ว่าจะขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ และถ้าขึ้นจะขึ้นขนาดไหน ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยต่ำมาเป็นเวลา 6-7 ปีนั้นจึงมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบกับตัวนี้เป็นหลัก (มากกว่าบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น เนื่องจาก ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่อ้างอิงทางตรงกันข้ามกับเงินดอลลาร์เลย แต่หุ้นยังมีเรื่องของการเติบโตของผลกำไรและลักษณะการดำเนินธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย) ในปัจจุบันการคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกันยายนนั้นได้เบาบางลงจากระดับ 50% เหลือระดับ 28% เนื่องจาก การลดค่าเงินหยวนของจีนประกอบกับความผันผวนที่เกิดในตลาดหุ้นทั่วโลก และ Yield ของพันธบัตรอเมราที่ปรับตัวขึ้นเรื่อยๆ
- กองทุน Pimco (pacific investment management ) ซึ่งเป็นหนึ่งในกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ลงทุนในตราสารหนี้ และปัจจุบัน นาย เบน เบอนันเก้ อดีต ประธาน FED เป็นผู้บริหารเม็ดเงินอยู่ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า โอกาสที่จะขึ้นดอกเบี้ยเหลือต่ำกว่า 50% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันพรุ่งนี้
- ในสัปดาห์นี้จะมีผลการประชุม BOJ เพิ่มเติม นักลงทุนก็ต่างติดตาม เนื่องจาก ในปัจจุบัน จีนและญี่ปุ่นเข้ามามีบทบาทกับความผันผวนค่อนข้างมาก ล่าสุดตัวเลขของญี่ปุ่นหลังจากนโยบายของ นาย ชินโซ อาเบะ พบว่าปรับตัวดีขึ้น แต่ยังไม่เข้าเป้าหลายอย่างโดยเฉพาะ เงินเฟ้อ และ การขยายตัวของเศรษฐกิจ นักลงทุนและเทรดเดอร์ต่างติดตามผลการประชุมว่าจะมีอะไรใหม่หรือไม่
- กลุ่มโอเปกปรับลดประมาณการณ์การผลิตน้ำมันดิบปีหน้าลง 110,000 บาร์เรล/วัน แต่โดยรวมแล้วกำลังการผลิตของ OPEC ก็ยังอยู่ในระดับสูงและยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ราคาน้ำมันดิบในปัจจุบันยังคงทรงตัวอยู่แถวระดับ $43-44 ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงก่อนหน้าลงไปแตะระดับ $38 และมีแรงซื้อเทคนิคัลรีบาวน์ขึ้นมา
- BOI (Board of investment) ของไทยเตรียมตัวที่จะแก้ไขเพื่อลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ทั้งนี้ก่อนหน้านี้มีนโยบายอัดฉีดเงินให้กับ SMEs โดยจะเป็นสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำกว่าปกติ ตลาดกำลังติดตามผลการประชุม กนง ในวันพรุ่งนี้ นักวิเคราะห์หลายคนคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่เดิมที่ 1.5%
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Retail sales 0.3% 0.6%
Core retail sales 0.2% 0.4%
Empire state manufacturing index 0.5% -14.9
14 กันยายน 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 14 ก.ย. 2558
14 กันยายน 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 14 ก.ย. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 14-9-58
เเนวรับ 1104 1100 1095 เเนวต้าน 1112 1118 1125
ราคาปรับตัวลดลงไปยังระดับต่ำกว่า 1100 ในวันศุกร์ก่อนที่จะมีแรงซื้อปิดขึ้นระดับ 1106 และเกิดภาวะ Bullish divergent ในรายชั่วโมง จึงมองว่าราคามีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นไปยังระดับ 1112 หรือเกินกว่า หากราคายังปรับตัวไม่เกินกว่านั้นก็ยังมองว่า การแกว่งตัวยังคงออกข้าง ไปอีกสักพักหนึ่ง โดยสรุป ติดตามระดับ 1112 ยิ่งขึ้นสูงกว่านั้นยิ่งแข็งแกร่ง ส่วนข่าวนั้น ได้เห็นเม็ดเงินไหลออกจากกองทุน ETP ที่อ้างอิงในทองคำ ส่วนสถานะ Short ยังปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้สัปดาห์นี้จะมีผลการประชุม FOMC ดูจากตัวความน่าจะเป็นที่วัดจาก FED Fund rate พบว่า ปัจจุบันคาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยในวันพุธนี้เพียง 28% ต้องติดตามว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
นักลงทุนต่างชาติหนักลับมาขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 512 ล้านบาทและยังคง Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก 4633 สัญญา ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงในวันศุกร์ แต่โดยรวมแล้วยังคงอยู่ในแนวโน้มของการรีบาวน์ต่อเนื่อง แต่ก็เช่นเดิมระดับ 1400 ยังคงเป็นแนวต้านทางจิตวิทยา ราคาน้ำมันดิบยังค่อนข้างปรับตัวลดลงเล็กน้อยหลังจากรีบาวน์มาแรง ซึ่งยังต้องอาศัยกลุ่มพลังงานมาช่วยดันดัชนี ค่าเงินบาทมองเริ่มแข็งค่าลงมาด้านล่าง หลังจากพยายามอ่อนค่าอยู่นานโดยมีแนวรับสำคัญบริเวณ 35.85
ทางเลือกหลัก : มองราคาปรับตัวขึ้นเล็กน้อย จากภาวะ Bullish divergent ในระยะชั่วโมง โดยมีแนวต้านระยะสั้น 1112 หรือสูงกว่า
ทางเลือกรอง : ราคาไม่สามารถผ่าน 1112 ไปได้ มองว่าก็ยังคงแกว่งตัวสั้นๆแทน
รายละเอียด
- ในสัปดาห์นี้จะมีผลการประชุม FOMC ครั้งสำคัญ และจะเป็นสัปดาห์ที่ FED มีแนวโน้มจะพิจารณาว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ หลังจากดำเนินนโยบายดอกเบี้ยต่ำมาเป็นระยะเวลากว่า 7 ปี ในปัจจุบันการคาดการณ์ว่าดอกเบี้ยจะขึ้นในเดือน กันยายนนี้ ลดลงสู่ระดับ 28% จากช่วงกลางปีที่ตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 50% ซึ่งตัวเลขเหล่านี้บ่งบอกจาก FED Fund Rate ที่เป็นฟิวเจอร์ในอัตราดอกเบี้ยของ FED ปัจจุบันความน่าจะเป็นมากที่สุดที่จะขึ้นดอกเบี้ยถูกเลื่อนออกไปยังวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2016 ด้วยความน่าจะเป็น 95% สาเหตุหลักที่ถูกเลื่อนไปมากเนื่องจาก ความผันผวนของตลาดหุ้น ตลาดเงิน รวมถึง การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และ การปล่อยค่าเงินหยวนให้อ่อนค่า นอกจากนี้ถึงแม้ตัวเลขเศรษฐกิจอเมริกาจะฟื้นแล้ว แต่ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่องมองว่า จะกระทบกับภาคการส่งออกและการแข่งขันในตลาดโลกของอเมริกาต้องติดตามกันต่อ
- ทองคำได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากเงินที่ไหลออกจากผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่อ้างอิงในทองคำ (ETP : Exchange trade product) ในรอบสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนนักเก็งกำไรปรับลดสถานะการถือ Long ลงอีก 36% สู่ 28286 สัญญา ส่วนสถานะ Short เริ่มกลับมามากอีกครั้งจำนวนถึง 87815 สัญญา นับเป็นการเพิ่มขึ้น 18% ส่วนนักวิเคราะห์ต่างประเทศบางคนมองว่า ในระยะยาวท่ามกลางประเทศต่างๆที่แข่งกันลดค่าเงินนั้นทองจะเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจได้ แต่ระยะสั้นคงได้รับแรงกดดันจากตัวค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
- ตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลงที่ระดับ 0% จากเดือนก่อนหน้า 0.2% และคาดการณ์ –0.1% ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิตหมวดไม่รวมสินค้าประเภทอาหารสดและพลังงานปรับตัวเพื่มสูงขึ้นเล็กน้อย 0.3% เท่ากับเดือนก่อนหน้า ขณะที่คาดการณ์จะเพิ่ม 0.1% บ่งบอกให้เห็นว่า หากตัดเรื่องของพลังงานออก เราจะได้เห็นการพัฒนาขึ้นของตัวเลขเงินเฟ้อ ในฝั่งของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือนที่ระดับ 85.7 จากเดือนก่อนหน้า 91.9 และคาดการณ์ 91.4 ทั้งนี้คาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.9% จากเดิม 2.8%
- ยอดสินเชื่อสกุลเงินหยวนปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น4.9 หมื่นล้านหยวน ส่วนปริมาณเงิน M2 ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน 13.3% บ่งบอกถึงปริมาณเงินหยวนที่มีมากขึ้นในระบบเศรษฐกิจ
11 กันยายน 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 11 ก.ย. 2558
11 กันยายน 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 11 ก.ย. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 11-9-58
เเนวรับ 1105 1100 1080 เเนวต้าน 1115 1117 1119
หลังจากราคาหลุดระดับ 1112 ลงมา ราคาไหลลงอย่างต่อเนื่อง และ ปัจจุบันรีบาวน์ขึ้นมาแตะระดับ 1112 ซึ่งตรงจุดนี้มองว่า เป็นจุดที่ก้ำกึ่งว่าจะไปต่อหรือจะลง น้ำหนักโดยรวมยังให้ทางฝั่งลง ทั้งภาพวันและจากตัวข่าว จึงมองว่า ระดับนี้ราคาจะวิ่งขึ้นไปอีกเล็กน้อย อาจจะสูงกว่านี้ที่ประมาณ 1115 และก็คาดว่าจะกลับลงมาแกว่งในกรอบด้านล่าง มีกรณีที่จะผิดคือ ราคาขึ้นไปยืน 1112 ได้เลย และ ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ไม่ยอมหลุด 1112 มา จึงจะมองว่า ราคาวิ่งกลับไปแกว่งในแนวโน้มใหม่ และจะไปแกว่งอยู่บริเวณ 1112-1125 (โอกาสเกิดยังมีน้อยกว่าฝั่งลง) ฝั่งที่มีสถานะ Short อยู่ ควรจะปิดออกมาดูตลาดก่อน ในช่วงนี้ยังอยากให้เน้นเก็งกำไรระยะสั้นพอ เพราะใกล้ 16-17 แล้ว
ต่างชาติซื้อสุทธในตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 7 วันทำการ 825 ล้านบาท ซึ่งถือกลับมาซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบหลายวัน หลังจากขายต่อเนื่องหลักพันล้านบาท ทั้งนี้หันกลับมา Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก 10600 สัญญา นอกจากนี้ยังขายสุทธิต่อเนื่องในตลาดตราสารหนี้ทำให้เงินบาทอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องส่วนมุมมองตลาดหุ้นยังให้น้ำหนักรีบาวน์ต่อเนื่อง ลุ้น 1400 เมื่อวานโดนแรงขายใส่ลงมาก่อนก่อนที่จะปิดลบเพียงเล็กน้อย ค่าเงินบาทมองว่าเริ่มมีทิศทางแข็งค่าอีกครั้ง แนวรับ 36.00 และ35.85
ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นต่ออีกเล็กน้อยประมาณ 1115 แต่ยังคาดว่าไม่ผ่านและปรับตัวลดลงต่อมายังระดับแถวนี้ใหม่
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 275K ขณะที่สัปดาห์ก่อนหน้าอยู่ระดับ 281K และคาดการณ์ 279K ซึ่งเป็นทั้งปัจจัยลบและบวกปนกัน เนื่องจากออกมาดีขึ้นแต่ดีน้อยกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้ทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่ยังไม่มีความผันผวนที่มากนัก โดยรวมแล้วทองคำยังคงปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่สามต่อเนื่องกัน เนื่องจากความกังวลเรื่องขึ้นดอกเบี้ยเช่นเดิม
- ตลาดช่วงนี้แสดงความกังวลในเรื่องของเศรษฐกิจจีนและญี่ปุ่นมากขึ้น ท่ามกลางการชะลอตัวของสองประเทศนี้นำไปสู่ความกังวลเรื่อง FED ว่าจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ และความผันผวนที่เพิ่มมากขึ้นนี้เองส่งผลให้ตลาดหันไปให้ความสนใจกับตลาดหุ้นเอเชียมากขึ้น วอลุ่มการซื้อ-ขายใน SP500 ของอเมริกาปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ส่วน Volatility ของญี่ปุ่นเพิ่มสูงขึ้นและนักวิเคราะห์จาก Bloomberg ก็ทำกราฟออกมาแสดงให้เห็นถึง ความผันผวนของญี่ปุ่นนั้นแซงจีนไปเรียบร้อยแล้ว
- BNP Paribas ปรับลดการคาดการณ์ราคาทองคำในปีนี้ลงอีก หลังจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและความกังวลในเรื่องของการเติบโตของเศรษฐกิจจีนทำให้ธนาคารปรับคาดการณ์ราคาทองคำลง $15 สู่ระดับ $1145 ในสิ้นปีนี้ ซึ่งหากคิด ณ ระดับปัจจุบันจะมี Upside ประมาณ 3% เท่านั้น ทางฝั่ง London metal exchange กำลังร่วมมือกับอุตสาหกรรมทองคำในการออกผลิตภัณฑ์อนุพันธ์ที่อ้างอิงในโลหะมีค่าแบบใหม่ขึ้น ซึ่งรายละเอียดปัจจุบันยังไม่ชัดเจนเท่าไรนัก ต้องรอดูความคืบหน้าของตัวนี้ในอนาคต
- ความวุ่นวายในตลาดหุ้นจีนยังดำเนินต่อไป ล่าสุดมีการตรวจสอบผู้บริหาร Investment bank แห่งหนึ่งโดยมีข้อหาเกี่ยวกับการสงสัยเรื่องการซื้อ-ขายที่ผิดกฎหมาย และอาจจะเป็นตัวที่ทำให้ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงแรงในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ช่วงระยะหลังที่ดัชนีหุ้นจีนตกลงมานั้น ทางการได้มีนโยบายต่างๆเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตลาด ไม่ว่าจะเป็นการห้ามผู้บริหารขายหุ้นออกมาเกิน % ที่กำหนดไว้ และการเข้ามาเข้มงวดที่มากขึ้นของการตรวจสอบและควบคุม ทั้งนี้นักวิเคราะห์ต่างประเทศมองว่า ที่จีนกำลังทำอยู่นั้นเป็นการแทรกแซงกลไกตลาด ทำให้ไม่สะท้อนดีมานด์และซัพพายออกมาได้ดี
- จีนเตรียมที่จะเปิดตลาดอัตราแลกเปลี่ยนให้ต่างประเทศสามารถเข้ามาซื้อ-ขายได้ในเร็วๆนี้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
PPI -0.1% 0.2%
Core PPI 0.1% 0.3%
21.00 USD
Prelim UoM consumer sentiment 91.4 91.9
10 กันยายน 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 10 ก.ย. 2558
10 กันยายน 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 10 ก.ย. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 10-9-58
เเนวรับ 1105 1110 1080 เเนวต้าน 1112 1115 1119
เมื่อวานนี้ราคาไหลลงและหลุดระดับ 1112 ซึ่งเป็นที่อยู่ของฟิโบแนนซี่ที่ 61.8% ในภาพวัน จึงมีมุมมองในทางลบเพิ่มขึ้นประกอบกับเส้นเฉลี่ยที่ยืนยันฝั่งลงมากขึ้น มองราคาจะกลับลงไปแกว่งในกรอบกว้างๆบริเวณ 1080-1120 อีกครั้งหนึ่ง ในระยะสั้นมองการปรับตัวขึ้นไปก่อนเล็กน้อยถึงบริเวณ 1110-1112 ซึ่งตรงจุดนั้นให้ระมัดระวังแรงขาย กรณีกลับกันหากมีแรงซื้อเข้ามามากและปรับตัวไปปิดสูงกว่า 1112 นั้นจะเริ่มให้น้ำหนักฝั่งชะลอตัวแทน ความผันผวนที่มากขึ้นนั้นอาจจะมาจากปัจจัยร่วมกับตลาดอื่นๆด้วย ตลาดหุ้นยังคงแกว่งตัวผันผวนและสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนเช่นเดียวกับตลาดทองคำที่ได้เห็นแรงขายมาเมื่อวานค่อนข้างหนักจากข่าวที่น้อย ต้องระมัดระวัง
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องอีก แต่หันกลับไป Long สุทธิเล็กน้อยเมื่อวานนี้ ดัชนี SET ปัจจุบันปรับตัวเข้าใกล้ระดับ 1400 แล้ว หลังจากปรับตัวลดลงแรงในช่วงสัปดาห์ก่อนๆ ก็ยังให้น้ำหนักของฝั่งรีบาวน์อยู่แต่ในระยะสั้นให้ระมัดระวังแนวต้าน 1400 ซึ่งจริงๆแล้วไม่ได้มีนัยสำคัญแต่เป็นแนวต้านทางจิตวิทยาเลยคาดว่าจะมีแรงขายออกมาบ้าง ค่าเงินบาทหลังจากแข็งค่าไปเล็กน้อยกลับอ่อนค่าอีกแล้ว ซึ่งยังมองเหมือนเดิมคือการอ่อนค่ามาระดับนี้นั้นคาดว่าจะอยู่ได้ไม่นาน
ทางเลือกหลัก : มองราคาขึ้นไปเล็กน้อย่อนที่จะปรับตัวลดลงต่อไปซื่อ-ขายกันระดับ 1080-1100
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
-ทองคำปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงเมื่อวานนี้และปรับตัวลดลงมาสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ ท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้น และประเด็นหลักคือ การคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้าซึ่งหากขึ้นจริงเราคงได้เห็นการเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างผันผวนแรง กระแสตอนนี้ยังแบ่งออกเป็นสองฝ่ายเช่นเดิม ยังไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนการเคลื่อนไหวของตลาดต่างๆเมื่อวานนี้พบว่า ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดเขียวค่อนข้างแรง ในขณะที่มาทางฝั่งยุโรปและอเมริกาปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะปรับตัวลดลง ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ท่ามกลางมุมมองบวกจากจีนและญี่ปุ่นที่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม
- Job openings ของอเมริกาที่เปิดเผยเมื่อวานนี้พบว่า ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน กรกฏาคม ซึ่งเป็นเหตุผลที่สนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ตามที่นักวิเคราะห์คาดกัน
- กองทุน SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำลงอีก 0.61% สู่ระดับ 678.18 ตัน ในวันพุธ ซึ่งเป็นการลดสถานะมากที่สุดนับตั้งแต่ 12 สิงหาคม ตัวนี้บ่งบอกให้เห็นว่า แรงขายจากกองทุนยังออกมาอย่างต่อเนื่องแสดงให้เห็นว่า นักลงทุนยังไม่ต้องการที่จะถือทองคำในสภาวะเช่นนี้
- ท่านผู้นำของจีน ลี กี เชียง (Li Keqiang) กล่าวว่า จีนไม่ได้มีความต้องการที่จะทำสงครามค่าเงิน และไม่ได้ต้องการทำให้เงินหยวนอ่อนค่าเพื่อกระตุ้นการส่งออก ทั้งนี้ระดับนี้มองว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศ อยู่ระดับที่สมเหตุสมผล ทั้งนี้การเติบโตและการจ้างงานของจีนจะต้องอยู่ในสภาวะที่มีเสถียรภาพ
- ตัวเลขการสั่งซื้อเครื่องจักรของญี่ปุ่นปรับตัวลดลงมากกว่าคาดการณ์สู่ระดับ –7.9% เป็นการปรับตัวลดลงติดต่อกันสองเดือนต่อเนื่องและสร้างความกังวลให้กับการฟื้นตัวของญี่ปุ่น ทั้งนี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นแรงมากกว่า 7% เมื่อวานในวันเดียวก่อนที่จะปรับตัวลดลง –4% ในวันนี้ซึ่งจะเห็นความผันผวนออกมาเยอะ
- ซาอุดิอาระเบียคาดว่าจะเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก และคาดว่าการเติบโตของ GDP จะออกมาที่ระดับ 2.8% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.5% เนื่องมาจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงแรง ทำให้รัฐบาลต้องใช้เงินทุนสำรองไปมาก รวมถึงการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ทำให้เป็นปัจจัยเข้ามาซ้ำเติม ทั้งนี้ประเทศอื่นๆในกลุ่ม Emerging ได้รับผลกระทบทางลบจากนโยบายของ FED เช่น บราซิลที่โดนลดอันดับเครดิตเรตติ้งอย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Unemployment claims 279K 282K
09 กันยายน 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 9 ก.ย. 2558
09 กันยายน 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 9 ก.ย. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 9-9-58
เเนวรับ 1118 1112 1110 เเนวต้าน 1126 1130 1133
ราคายังเคลื่อนไหวเล็กน้อยเมื่อวานนี้ไม่ได้มีนัยสำคัญมากนัก แต่ภาพรวมเริ่มย่อตัวลงมาเรื่อยๆ จึงมองว่า จะยังคงโดนกดดันต่อไป แนวรับสำคัญที่มองไว้จะอยู่บริเวณ 1112-1115 แต่หากระยะสั้นราคาได้ปรับตัวเกินกว่า 1130 ขึ้นไปนั้นมองว่า จะทำให้การลงเสียความได้เปรียบไป และราคาจะเริ่มกลับมาแกว่งตัวในกรอบถึงขึ้นเล็กน้อย แต่การขึ้นช่วงนี้มองอย่างจำกัดเช่นกันเนื่องจากใกล้ช่วงเวลาพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยแล้ว ต้องระมัดระวังให้ดี สำหรับมุมมองตลาดในระยะสั้นนักลงทุนเริ่มกลับเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น (โหมด Risk-on) หลังจากมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายของจีน ทำให้มองว่า แรงซื้อในทองคำน่าจะหายไปบางส่วนจากตรงนี้
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นอีก 1150 สัญญา และ ยังคง Short สุทธิในฟิวเจอร์เพิ่มอีก รวมถึงเมื่อวานนี้ได้ขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้ค่อนข้างมาก ภาพรวม SET เริ่มรีบาวน์ขึ้นมานอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นรอบโลกที่รีบาวน์ขึ้นแรงเมื่อวานนี้ รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทำให้มองว่า ตลาดหุ้นไทยจะยังคงมีแนวโน้มรีบาวน์ต่อไปแต่ขึ้นก็ยังมองจำกัดหากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆเข้ามา ค่าเงินบาทเริ่มปรับตัวแข็งค่าลงมาแต่ยังไม่มาก แนวรับระยะสั้น 35.85
ทางเลือกหลัก : มองราคาปรับตัวขึ้นไม่เยอะ และยังมองการปรับตัวลดลงไปยังระดับ 1112
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1130 มองว่าจะทำให้ขาลงเสียความได้เปรียบไป
รายละเอียด
-ทองคำยังซื้อ-ขายกันที่กรอบแคบๆ แต่ปรับตัวลดลงมาที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางสิงหาคม (1 เดือน) ที่ระดับบริเวณ $1116 หลังจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ออกมาจากวันศุกร์ได้นำไปสู่การคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ ทำให้การปรับตัวขึ้นของทองคำยังได้รับแรงกดดันจากตัวนี้ด้วย
- ตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวานนี้ หลังจากมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจฝั่งยุโรปพบว่ายังคงเติบโตได้ดี ถึงแม้บางรายการจะมีการชะลอตัวลงบ้าง พร้อมทั้งได้รับปัจจัยบวกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนผ่านนโยบายการคลังเพิ่มเติมที่ออกมาเมื่อวานนี้ โดยจะเน้นที่ การลงทุนในพวก Major construction การปฎิรูปหนี้ของรัฐบาล และ มาตรการทางภาษี ส่วนทางญี่ปุ่นตลาดหุ้นก็ปรับตัวขึ้นแรงเช่นเดียวกันจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าและการปรับลดภาษี Corporate tax ทำให้มีมุมมองในทางบวกเพิ่มมากขึ้นสำหรับตลาดหุ้นทั่วโลก และนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า นักลงทุนจะเข้าสุ่โหมด Risk-on มากขึ้น
- อินโดนีเซีย คาดว่าจะมีการพิจารณากลับเข้าสู่ OEPC อีกครั้งในเดือน ธันวาคม ซึ่งหากกลับเข้าจริงจะทำให้ Supply ของน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นอีก 3% ซึ่งในปัจจุบันนั้นปริมาณที่ผลิตได้ยังคงแตะอยู่ระดับสูงสุดในรอบหลายปีอยู่ ในอดีตอินโดนีเซียเคยเป็นประเทศเดียวที่อยู่ในกลุ่มอาเซียนที่อยู่ในกลุ่มประเทศ OPEC มากว่า 50 ปี แต่ได้ลาออกจากกลุ่มเมื่อปี 2009 เนื่องจาก ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นสู่ Record high , การเพิ่มขึ้นของความต้องการน้ำมันในประเทศ และ การปรับตัวลดลงของการผลิตที่ผลิตออกมาได้ ทำให้อินโดนีเซียกลายเป็นประเทศ Net-importer น้ำมันดิบ ซึ่งคาดว่าในเดือนธันวาคมนี้น่าจะรู้คำตอบ
- World bank ได้ออกมาเตือนว่า อยากให้ FED ชะลอการขึ้นดอกเบี้ยไปหลังเดือนกันยายน เนื่องจากหากขึ้นดอกเบี้ยตอนนี้จะทำให้กลุ่มประเทศ Emerging market นั้นมีปัญหา และเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัวอยู่หากขึ้นดอกเบี้ยผิดจังหวะจะเป็นผลเสียต่อเศรษฐกิจโลก
- Warren buffet ได้ออกมาให้ความเห็นว่า การเติบโตของเศรษฐกิจอเมริการะดับปัจจุบันนี้ที่ 2% นั้นพบว่า ไม่ได้เป็นการเติบโตที่แย่ แต่ก็ไม่ได้ดี (not a bad rate but not a boomig rate,either)และให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า หากอัตราดอกเบี้ยอเมริกสูงกว่ายุโรปจะทำให้การส่งออกเริ่มแย่ลง
08 กันยายน 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 8 ก.ย. 2558
08 กันยายน 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 8 ก.ย. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 8-9-58
เเนวรับ 1118 1112 1110 เเนวต้าน 1126 1130 1133
ราคาเมื่อวานค่อนข้างทรงตัว แต่ได้เกิดลักษณะคล้าย Dead cross ขึ้น (จากเส้นค่าเฉลี่ยที่ใช้) ทำให้มองว่า ราคาจะเริ่มไหลลง ทั้งนี้จุดเปลี่ยนแนวโน้มระยะสั้นจะอยู่บริเวณ 1126-1130 ขึ้นไป หากราคาปิดเหนือกว่านี้ได้นั้นจึงจะมองว่า การไหลลงเริ่มหมดความได้เปรียบ และราคาจะค่อนข้างทรงตัว แต่ยังให้น้ำหนักในฝั่งนี้น้อย ยังมองราคาปรับตัวลดลงต่อไปยังระดับแนวรับ 1112 และการเคลื่อนไหวช่วงนี้มีข่าวค่อนข้างน้อยทำให้มองว่า ราคามจะมีลักษณะค่อยๆไหลลงไปด้านล่าง สำหรับข่าวยังไม่มีอะไรเพิ่มเติม ตลาดยังรอผลการประชุม FOMC ในวันที่ 16-17 กันยายนนี้ ซึ่งรอบนี้มองว่าสำคัญและต้องติดตามให้ดี เนื่องจากจะมีผลต่อการดำเนินนโยบายของ FED ในอนาคต
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1936 ล้านบาท และยัง Short สุทธิในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ในวันนี้มีการขึ้นประกาศ XD ของกลุ่ม Bank เช่น BAY KBANK BBL แต่นักวิเคราะห์ประเมินว่า จะมีผลต่อดัชนีเพียงเล็กน้อย ภาพรวมตลาดยังคงแกว่งตัวออกข้าง แต่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เริ่มส่งมาทางบวก ยังมีหวังสำหรับการขึ้นต่อ ค่าเงินบาทอ่อนค่าผ่านระดับ 36 ไปอย่างรวดเร็ว และไม่มีทีท่าจะชะลอ ส่วนหนึ่งเกิดจากเงินหยวนส่วหนึ่ง ปัจจัยภายในประเทศส่วนหนึ่งและจากการเก็งกำไรค่าเงินบาท
ทางเลือกหลัก : จากน้ำหนักข่าวที่น้อย ยังมองว่า วันนี้ราคายังมีแนวโน้มจ่ะอ่อนตัวลงต่อไปยังแนวรับ 1112
ทางเลือกรอง : สำหรับการปรับตัวเกินกว่า 1126 ขึ้นไป หากยิ่งสูงเท่าไร จะยิ่งชะลอการลงเท่านั้น
รายละเอียด
- เมื่อวานไม่มีประกาศตัวเลขเศรษฐกิจออกมา เนื่องจากเป็นวันหยุดของอเมริกาทำให้ราคาไม่เคลื่อนไหวเท่าไรนัก แต่ก็มีความเห็นเรื่องต่างๆเข้ามารวมทั้งการเคลื่อนไหวของประเทศอื่น เช่น เมื่อคืนมีนักวิเคราะห์มองว่า ตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมานั้นดีพอที่จะสามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้แล้ว นอกจากนี้เทรดเดอร์ทองคำก็มองว่า ราคาทองคำน่าจะได้รับแรงกดดันจากที่ประชุม FOMC ในวันที่ 16-17 กันยายนนี้ ส่วนแรงซื้อจากจีนเริ่มเข้ามาค่อนข้างทรงตัว ค่าพรีเมียมทรงตัวอยู่ที่ระดับ $4
- ตัวเลขทุนสำรองของจีนที่ประกาศออกมาเมื่อวานนั้นพบว่า ทุนสำรองของจีนปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องสู่ระดับ 3.56 ล้านล้านดอลลาร์ จากเดือนก่อนหน้า 3.65 ล้านล้านดอลลาร์ หลังจากช่วงที่ผ่านมาจีนได้มีมาตรการทำให้เงินหยวนอ่อนค่า และได้ทำการขายสกุลเงินดอลลาร์ในรูปของพันธบัตรอย่างต่อเนื่อง เกิดเป็นกระแส QT (Quantitative tightening) ซึ่งลามไปยังธนาคารประเทศกลุ่ม Emerging market ที่ทยอยขายพันธบัตรของอเมริกาเพื่อหยุงไม่ให้ค่าเงินของประเทศตนอ่อนเกินไป จนทำให้ทุนสำรองระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศเหล่านี้ เริ่มลดลง และ ค่าเงินก็ยังอ่อนค่าอยู่ต่อเนื่อง ค่าเงินบาทของประเทศเราก็ได้รับปัจจัยเหล่านี้ด้วย ทำให้อ่อนค่าลงไปแตะระดับ $36 ประกอบทั้งปัจจัยในประเทศที่ยังไม่มีข่าวดีใหม่ๆเข้ามา ทั้งนี้ทางการจีนได้พิจารณานำมาตรการ Circuit breaker มาใช้ (คาดว่าหลังวันที่ 21 กันยายน) หลังจากมูลค่าของตลาดหุ้นจีนโดยรวมแล้วหายไปกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ มาตรการเซอร์กิตนั้นจะหยุดทำการ 30 นาที หลังจากดัชนีร่วงลง 5% เหตุผลที่ต้องทำเพื่อป้องกันไม่ให้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงแรงจนเกินไป และยังได้ออกมาตรการควบคุมการไหลออกของเงินทุนผ่านการไม่ให้อนุมัติสถาบันของจีนนำเงินไปลงทุนต่างประเทศ
- ตัวเลขตรวจทาน GDP ไตรมาสที่ 2 ของญี่ปุ่น พบว่าหดตัวน้อยกว่าเดิมเล็กน้อยออกมาที่ระดับ –1.2% จากเดิม –1.6% แต่ Capital expenditure กลับปรับตัวลดลงแรงกว่าคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า ทำให้คาดว่าจะมีมาตรการอะไรเพิ่มเติมจาก BOJ และข่าวล่าสุด นาย ชินโซ อาเบะ ได้รับเสียงข้างมากให้อยู่ต่อ จึงคาดว่า การดำเนินนโยบายของญี่ปุ่นยังมีความต่อเนื่อง ถึงแม้นโยบายที่ออกมานั้นจะยังไม่ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเต็มที่
- ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมันปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.7% น้อยกว่าคาดการณ์ที่ 1.1%
07 กันยายน 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 7 ก.ย. 2558
07 กันยายน 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 7 ก.ย. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 7-9-58
เเนวรับ 1120 1112 1110 เเนวต้าน 1126 1130 1133
ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากตัวเลขอัตราว่างงานที่ประกาศออกมาในวันศุกร์ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2007 (5.1%) ถึงแม้ระยะสั้นจะได้รับข่าวบวกจากตัวเลข NFP ที่ออกมาน้อยกว่าเดือนก่อนหน้าและคาดการณ์ก็ตาม ภาพรวมเริ่มเข้าสู่ช่วงพักลงมาโดยมีแนวรับสำคัญบริเวณ 1112 ประเด็นที่คอยกดดันตลาดทองคำจะเป็นเรื่องของที่ประชุม FED จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือนนี้หรือไม่ ซึ่งยังแตกออกเป็นสองเสียงทั้งขึ้นและไม่ขึ้นเช่นเดิม จึงมองว่าในช่วงนี้เน้นเก็งกำไรระยะสั้นไปก่อน หากลงมาแล้วไม่หลุด 1112 ยังพอซื้อได้ แต่คาดว่าการเคลื่อนไหวในวันนี้อาจจะไม่รุนแรงนักเนื่องจากเป็นวันหยุดวันแรงงานของอเมริกา
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องหลักพันล้านบาทและหันกลับมา Short สุทธิในฟิวเจอร์ร่วม 10000 สัญญา ซึ่งนับว่าค่อนข้างมาก ดัชนีหุ้นทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวได้บ้าง และวันนี้จีนจะกลับมาซื้อ-ขายปกติหลังจากวันหยุดสองวันต่อเนื่องช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า ค่าเงินบาทยังได้รับแรงกดดันจากการเก็งกำไรในทั้งตลาด On-shore และ Off-shore ว่าเงินบาทจะมีการอ่อนค่าไปอีกในอนาคต ซึ่งระดับปัจจุบันก็อ่อนมามากแล้ว และยังเห็น Divergent ซ้อนกันหลายลูก ต้องติดตามค่าเงินบาทช่วงนี้ครับ
ทางเลือกหลัก : ยังเห็นการอ่อนตัวของราคาอย่างต่อเนื่อง มองว่า ราคาจะขึ้นไปไม่ไกล และจะเริ่มลงมายังแนวรับ 1112 ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญ
ทางเลือกรอง : ราคาขึ้นไปยืนเหนือ 1130 ยังมองว่า ขาลงจะชะลอลง แต่เป็นเพียงการชะลอเท่านั้น
รายละเอียด
- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับตัวลดลงสู่ระดับ 173K จากเดือนก่อนหน้า 245K และคาดการณ์ 215K เป็นการปรับตัวลดลงสามเดือนติดต่อกันและมาอยู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน แต่ตัวเลขอัตราว่างงานกลับปรับลดลงสู่ระดับ 5.1% แรงกว่าคาดการณ์ที่ 5.2% และปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 5.3% ระดับปัจจุบันเป็นระดับที่ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน เมษายน 2551 หรือช่วงก่อนเกิดวิกฤติ ส่วนตัวเลข Hourly earning หรือตัวเลขค่าจ้างแรงงานต่อชั่วโมงปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 0.3% จากคาดการณ์และเท่ากับเดือนก่อนหน้าที่ 0.2% จากข่าวตัวเลขดังกล่าวพบว่าค่อนข้างผสมกันออกมา และทองคำเหวี่ยงขึ้นและลงกลับมา เนื่องจากรับข่าวบวกเรื่อง NFP ที่ออกมาน้อยลง แต่อัตราว่างงานก็ปรับตัวลดลงสู่ระดับก่อนวิกฤติเช่นกัน
- จากตัวเลขข่าวดังกล่าว ได้มีความเห็นจาก FED ท่านอื่นๆว่า ตัวเลขแรงงานยังออกมาดี และไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงสำหรับภาพรวมนโยบายการเงิน ส่วนนักวิเคราะห์ท่านอื่นมองว่า ตัวเลข Non-farm ออกมาน้อยนั้นน่าจะมีการปรับขึ้น เนื่องจากอัตราว่างงานลดลงและรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงก็เพิ่มขึ้น
- ความต้องการทองคำช่วงนี้ค่อนข้างจะเบาบางหลังจากจีนซึ่งเป็นผู้บริโภคอันดับต้นๆของโลกปิดทำการสองวันทำการ และวันนี้ตลาดอเมริกาจะปิดทำการเช่นเดียวกันเนื่องจากวัน Labor day ฝั่งการซื้อ-ขายทองคำแท่งที่อินเดียพบว่า มีค่า Premium ติดลบครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือน กรกฏาคม ถึงแม้อินเดียจะมีการนำเข้าทองคำเพิ่มขึ้นในช่วงสิงหาคมก็ตาม นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าการแต่งงานของอินเดียในปีนี้เมื่อดูจากวันที่จองแล้วคาดว่าจะมีน้อยกว่าช่วงปี 2014 แต่ก็ยังคาดว่า การฟื้นตัวจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ที่อาจจะมีการแต่งงานเพิ่มมากขึ้น และเป็นช่วงเทศกาลของอินเดีย
- สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนออกมาปรับลดการเติบโตของเศรษฐกิจจีนลงเหลือระดับ 7.3% หลังจากก่อนหน้านั้นคาดการณ์ไว้ที่ 7.4% ปัจจัยหลักมาจากภาคบริการที่คาดว่าจะชะลอตัวลงโดยปรับลดเหือการเติบโตเพียง 7.8% จากรอบก่อนหน้าที่ประมาณไว้ที่ 8.1% ส่วน รมว คลังออกมากล่าวว่า ตลาดเงินจะมีเสถียรภาพระยะยาว และเงินหยวนจะไม่ถูกลดค่าเงินในระยะยาว พร้อมทั้งยืนยันว่าการเติบโตของจีนที่ 7% นั้นเหมาะสมแล้ว และจะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมผ่านนโยบายการคลังด้วย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
ALL USD
Bank holiday
04 กันยายน 2558
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 4 ก.ย. 2558
04 กันยายน 2558 : บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 4 ก.ย. 2558
แนวทางทองคำวันที่ 4-9-58
เเนวรับ 1120 1115 1110 เเนวต้าน 1130 1132 1137
หลังจากการอ่อนตัวหลุดแนวรับ 1130 ลงมานั้น เมื่อวานรีบาวน์ขึ้นไปทดสอบอีกครั้งและเริ่มย้อยกลับลงมา มองว่า จะลงไปทดสอบ Low เดิมที่ระดับ 1120 อีกครั้งหนึ่งหลังจากราคาไม่สามารถยืนได้ แต่ยังมองการปรับตัวลดลงเป็นไปอย่างจำกัดก่อนที่จะมีการประกาศข่าวตัวเลข Non-farm employment ซึ่งข่าวรอบนี้คาดการณ์ว่าจะเป็นลบกับทองเล็กน้อย แต่ตัวเลขไม่ได้โดดเด่น ต้องติดตามดูข่าวเช่นเดิม เพราะ ปกติข่าวนี้จะค่อนข้างสร้างความผันผวนให้กับราคาทองได้มาก สำหรับภาพรวมนั้น ยังมองว่าจากที่ส่งมาเมื่อวานทางฝั่งลงค่อนข้างได้เปรียบกว่า หากวันนี้ราคาปิดเกินกว่า 1130 ไม่ได้ (หรือไม่ขึ้น/ขึ้นไม่แรง)คาดว่าในอนาคตคงได้เห็นราคาค่อยๆปรับตัวลดลงต่อ
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1499 ล้านบาท และยังคง Short สุทธิอีกเล็กน้อย เมื่อวานยังเห็นตลาดหุ้นไทยรีบาวน์ขึ้นมาต่อเนื่อง หลังจากวันนี้ช่วงเปิดตลาดมาปรับตัวลดลงเล็กน้อย ซึ่งยังให้น้ำหนักของการรีบาวน์ต่ออยู่ นักวิเคราะห์เริ่มมองที่ระดับ 1400 ข่าวเริ่มมีบ้างแต่ส่วนใหญ่เป็นภาครัฐ หลังจากมีแผนการเกี่ยวกับนโยบายจะช่วยเหลือ SMEs ให้เข้าถึงเงินกู้ได้ง่ายขึ้น ทิศทางค่าเงินบาทยังคงแกว่งตัวในกรอบ ตราบใดที่ยังไม่หลุดระดับ 33.50 ก็ยังคงมองทางฝั่งอ่อนค่าเล็กน้อย
ทางเลือกหลัก : หลังจากราคาหลุด 1130 ลงมาและกลับไปยืนไม่ได้ ระยะสั้นยังมองการอ่อนตัวไปยังระดับ 1120 + - เล็กน้อยบริเวณนี้ก่อน
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 282K จากสัปดาห์ก่อนหน้า 270K และคาดการณ์ 273K เป็นการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย แต่โดยรวมก็ยังอยู่ในแนวโน้มที่ดีขึ้น ส่วนตัวเลขดุลการค้า ออกมาที่ระดับ –41.9B ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าและคาดการณ์บ่งบอกให้เห็นถึงการส่งออกที่มากกว่าการนำเข้า และมีตัวเลขดัชนีภาคบริการ (PMI Service) ปรับตัวลดลงเหลือระดับ 59 จากเดือนก่อนหน้า 60.3 และคาดการณ์ 58.3 เป็นการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นแต่น้อยกว่าคาดการณ์ โดยรวมแล้วเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบทางบวกและลบกับทองคำ แต่เนื่องจากมีผลการประชุม ECB พ่วงเข้ามาด้วยทองคำเลยปรับตัวลดลงตามค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าลงแรงกว่า 1% เมื่อวานนี้
- ECB กล่าวว่ายังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำที่เดิม แต่มีข่าวดีคือ จะมีการขยายวงเงินการทำ QE โดยการเพิ่มสัดส่วนที่สามารถซื้อได้เป็น 33% จากเดิม 25% นอกจากนี้ยังปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อเหลือ 1.1% จากคาดการณ์ครั้งก่อน 1.5% และปรับลดอัตราการเติบโตของยูโรโซนลงสู่ระดับ 1.7% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ว่าจะเติบโต 1.9% พร้อมทั้งแสดงท่าทีพร้อมที่จะดำเนินนโยบายผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมหากจำเป็น หากเศรษฐกิจโลกมีการชะลอตัวมากกว่านี้ หรือ อัตราเงินเฟ้อยังไม่ยอมเข้าเป้า 2% สำหรับเป้าหมายระยะเวลานั้นมองว่า อย่างน้อยจะไปสิ้นสุดที่เดือน กันยายน ปี 2016 และอาจจะสามารถขยายเวลาได้อีกทั้งนี้กล่าวว่า เรื่องของจีนนั้นไม่ค่อยกังวลเท่าไร กังวลเพียงแต่ตัวเลขเงินเฟ้อ หลังจากประกาศค่าเงินยูโรเทียบกับดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลง 1% และส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงตามมาด้วยจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
- ราคาน้ำมันดิบผันผวนเมื่อวานนี้ โดยช่วงแรกได้รับปัจจัยบวกจากนโยบายผ่อนคลายของ ECB พร้อมทั้งตลาดหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้นก่อนที่จะปรับตัวลดลงมาเล็กน้อยจากข่าวที่ว่า สต๊อกน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นเร็วสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน ทั้งนี้ตลาดน้ำมันดิบคาดว่าจะผันผวนไปอีกสักพักหนึ่ง
- แรงซื้อในทองคำยังค่อนข้างเบาบาง เนื่องจาก จีนปิดทำการเป็นวันที่สอง และจะเริ่มเปิดทำการในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ส่วนการผลิตทองคำของรัสเซียปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากปี 2015 นอกจากนี้ยังมีข่าวเรื่องบริษัทค้าปลีกจิลเวอรีในดูไบได้เกิดการผิดนัดชำระหนี้ธนาคารขึ้นจำนวน $136 ล้าน ได้เริ่มมีการเจรจากับธนาคาร
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Non-farm employment change 217K 215K
Unemployment rate 5.2% 5.3%
Average hourly earning 0.2% 0.2%