ประชาสัมพันธ์
Resistance 1185 1190 1195
Support 1179 1175 1165
Strategy ราคายังปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหลุดระดับ 1180 ขึ้นมา ยังมองเหมือนเดิมคือ ระดับราคานี้ถึงแม้ราคาจะขึ้นต่อ แต่ยังมองไม่ไกล และ ให้ระมัดระวังการปรับตัวลดลงเช่นเดิม อย่างแรกคือ การปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในภาพวันปัจจุบันอยู่เหนือกว่าเส้นเฉลี่ยประมาณ $21 (วัดจากราคาปัจจุบัน $1184 หักด้วยค่าเฉลี่ย 8 วัน $1163) ซึ่งในอดีตการถ่างออกจากเฉลี่ยมากสุดประมาณ $30 จึงมองว่า ปัจจุบันยังไม่คุ้มเสี่ยง และโอกาสเจอพักฐานลงมามีสูง ให้ระมัดระวัง
ทางเลือกรอง : หากราคายังขึ้นต่อไปซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้ ก็ยังไม่แนะนำให้ซื้อตามเช่นเดิม เพราะ มองว่าเป็นช่วงปลาย รอสัญญาณการขายออกมาจะเป็นทางเลือกที่คุ้มเสี่ยงมากกว่า USD/THB กระแสเงินทุนต่างชาติยังไม่มีนัยสำคัญมากเท่าไรนักสำหรับในตลาดหุ้น
เมื่อวานนี้ค่อนข้างทรงตัว หลังจากมีแรงขายออกมาเล็กน้อยยังมองทางฝั่งบวกอยู่ถึงแม้จะยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาก็ตาม เมื่อวานนี้เห็นแรงซื้อเข้ามาในตลาดพันธบัตรค่อนข้างมากร่วมกว่า หมื่นล้านบาท ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่า ซึ่งเมื่อวานนี้มองว่าจะรีบาวน์ขึ้นไปแต่กลับเจอแท่งเทียนปิดลงมาแบบนี้ เลยต้องเปลี่ยนหน้าทันที และให้น้ำหนักทางแข็งค่าต่อ
US - ตัวเลขค้าปลีกออกมาที่ระดับ 0.1% ขยายตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ตรงตัว 0% ส่วนตัวเลขค้าปลีกแบบไม่รวมหมวดยานพาหนะหดตัว –0.3% จากเดือนก่อนหน้า –0.1% แสดงให้เห็นถึง การค้าปลีกของอเมริกาหดตัวต่อเนื่อง และ ยอดขายของบริษัท Walmart ที่เป็นบริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกาหดตัวและคาดว่าจะหดตัวไปถึงปีหน้า ส่งผลให้หุ้นปรับตัวลดลง 10% หนักสุดในรอบ 20 ปี และ การผิดหวังเรื่องผลประกอบการเหล่านี้เองทำให้แรงซื้อมีเข้ามาในทองคำเมื่อวานนี้ - รายงาน Beige book พบว่า เศรษฐกิจโดยรวมยังขยายตัวแบบปานกลางถึงดีเล็กน้อยภาคการผลิตยังออกมาผสมกันชะลอตัวเล็กน้อยทิศทางเดียวกับ ตลาดแรงงานและยอดขายบ้าน แต่การใช้จ่ายและบริโภคปรับตัวขึ้นเล็กน้อย
EU - ตลาดหุ้นยุโรปยังคงปรับตัวลดลงสาเหตุหลักมาจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้บริษัทหลายบริษัทโดยเฉพาะกลุ่มสินค้าแบรนด์เนมที่ส่งออกไปยังจีนมีราคาหุ้นลดลง เช่น Pandora บริษัททาจิลเวอรีจาก Danish ปรับตัวลดลง 6% เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับ Christian dior และ Louis Vuitton (LVMS) นอกจากนี้ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากอุตสาหกรรมรถยนต์ที่มีเรื่องการโกงการปล่อยไอเสีย กลุ่มที่อ้างอิงกับสินค้าคอมโมดิตีที่ปรับตัวลดลงแรงในช่วงครึ่งปีหลัง
ASIA - ส่วนตลาดหุ้นเอเชียค่อนข้างทรงตัวถึงปรับตัวขึ้นเล็กน้อยหลังจากค่าเงินดอลลาร์เยนอ่อนค่าลง คาดว่าจะเป็นผลบวกกับบริษัทในประเทศญี่ปุ่น ส่วนข่าวอื่นๆนั้นยังไม่ค่อยมี หลังจากชุดตัวเลขของจีนที่ทยอยประกาศออกมาก่อนหน้าและไม่ค่อยดี - นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย คุณ Najib Razak กาลังเผชิญกับปัญหาหลังจากช่วงก่อนหน้ามีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการยักยอกเงินจากกองทุนมาเลเซียวันเข้าบัญชีของตนเอง ซึ่งยังคงต้องติดตามข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร
COMMODITIES - ตลาดน้ำมันดิบยังไม่ค่อยมีข่าวในช่วงนี้ แต่มีข่าวในตลาดทองคำเข้ามาแทน เทรดเดอร์เมืองนอกประเมินว่าทองคำผ่านแนวต้าน (Breakout) มาแล้ว และอีกคนหนึ่งมองว่า ราคาขึ้นไปเหนือเส้นเฉลี่ย 200 วันซึ่งเป็นปัจจัยบวกกับทองคำในระยะสั้น และได้ข่าวบวกจากความน่าจะเป็นที่ FEDจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมเหลือเพียง 27% จากช่วง 2 เดือนก่อนหน้าที่อยู่ระดับ 74%
Resistance
1175 |
1177 |
1180 |
Support
1171 |
1167 |
1163 |
Strategy
ปัจจุบันราคาได้ขึ้นมาจนถึงแนวต้านสำคัญบริเวณ 1170 แล้วซึ่งบริเวณนี้มองว่า ติดตามว่าจะกลับตัวลงมาไหมเนื่องจากเป็นโซนของแนวต้านสำคัญเรียบร้อยประกอบกับภาพรายชั่วโมงที่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและเริ่มออกอาการอ่อนแรง ไม่ควรจะมีสถานะซื้อตอนนี้ ระวังการปรับตัวลดลง ทั้งนี้การปรับตัวลดลงยังมองไว้ที่ระดับเดิมคือ 1150 ซึ่งเป็นกรอบสามเหลี่ยมตามรูป หากไม่หลุดคิดว่า ในอนาคตน่าจะปรับตัวเกินกว่าระดับ 1170 อีกครั้ง แต่คาดว่ายังไม่ใช่ตอนนี้
ทางเลือกรอง : หากราคายังไม่หยุดจริงๆ ก็จะยังขึ้นต่อไป และผ่าน 1180 ขึ้นไป ยังคงแนะนำให้ใช้ความระมัดระวังเช่นเดิมหากราคายังพยายามขึ้นไปต่อ ยังอยากเห็นราคาพักตัวลงมาก่อน
USD/THB
มีข่าวในประเทศเรื่องการยืนยันการคงภาษีนิติบุคคลไว้ที่ 20% เป็นการถาวรจากนโยบายตอนแรกที่จะสิ้นสุดในปีนี้นอกจากนี้ยังปรับลดภาษีให้กับบริษัท Venture capital เพื่อกระตุ้นการลงทุน ส่วนตลาดหุ้นไทยเริ่มได้รับแรงกดดันจากตัวเลขจีนที่ต่างออกมาแย่กว่าคาดการณ์ทั้งหมด ส่วนกระแสเงินทุนต่างชาติเริ่มขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย และ หันกลับมา Short สุทธิในฟิวเจอร์เล็กน้อย ส่วนเงินบาทมองรีบาวน์อ่อนค่าแนวต้าน 35.80
US
- FED governor คุณ Daniel Tarullo ซึ่งปกติท่านนี้จะไม่ค่อยออกมาให้ความเห็นเท่าไร ได้ออกมาเตือนเป็นคนที่ 2 ประมาณว่า FED ยังไม่ควรจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เป็นไปในทิศทางเดียวกับคุณ Lael Brainard ที่กล่าวว่า ควรจะคงอัตราดอกเบี้ยไปก่อนจนกว่าความผันผวนของเศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจโลกจะบรรเทาลง
- ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลดลงเป็นวันแรกในรอบ 7 วันทำการ ส่วนหนึ่งมาจากการรายงานผลกำไรของ Goldman sachs ที่รายได้ลดลง –6.4% ส่วนดาวโจนส์หมวดขนส่งปรับตัวลดลงแรง –2.2% ซึ่งตัวนี้ใช้ติดตามกลุ่มบริษัทขนส่ง มองว่าหากกิจกรรมทางเศรษฐกิจดีขึ้นหุ้นกลุ่มขนส่งจะต้องดีขึ้นด้วย ซึ่งควรจะขึ้นพร้อมดาวโจนส์ปกติหากเวลาที่ดัชนีขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
EU
- ตัวเลข ZEW economics ที่เป็นตัว Leading indicator ของเศรษฐกิจยุโรป ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 55.2 จุด จากเดือนก่อนหน้า 67.5 จุด ส่วน ZEW ของเยอรมันพบว่า ปรับตัวลดลงแรงสู่ระดับ 1.9 จุดจากเดิม 12.1 จุด นอกจากนี้สถาบัน ZEW ยังให้ความเห็นว่า เรื่องการโกงการปล่อยตัวเลขไอเสียของ Volkswagen และการชะลอตัวของเศรษฐกิจกลุ่ม Emerging market ได้กดดันการเติบโตของเยอรมันค่อนข้างมากแต่คาดว่าจะยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย นอกจากนี้กลุ่มสินค้าแบรนเนมต่างปรับตัวลดลงหมด
ASIA
- ตัวเลขเงินเฟ้อของจีนขยายตัวระดับ 1.6% หลังจากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ 2% และคาดการณ์ 1.8% ส่วน PPI หดตัว –5.9% เป็นเดือนที่ 43 ติดต่อกัน จึงมีความเห็นว่า เศรษฐกิจจีนในช่วงนี้ไม่ได้มีเสถียรภาพเลย จากทั้ง Domestic demand และ External demand ที่ต่างปรับตัวลดลงทั้งหมด นอกจากนี้ยังซ้ำเติมด้วยการปรับตัวลดลงของสินค้ากลุ่มคอมโมดิตี ทาให้เงินเฟ้อยิ่งน้อยลงเข้าไปอีก ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวลดลงกันหมด
COMMODITIES
-ค่า Discount ของทองคำแท่งในอินเดียปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนจากความต้องการทองคำแท่งที่ปรับตัวลดลงทั้งเอเชีย
- มีรายงานจาก EIA ว่าความต้องการน้ำมันดิบในปีหน้าจะลดลง (สวนทางกับที่ OPEC เปิดเผยก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น)
Resistance
1160 |
1165 |
1170 |
Support
1150 |
1145 |
1140 |
Strategy
ทิศทางในวันนี้ยังมองคล้ายกับเมื่อวาน ให้น้ำหนักในทางบวกต่อไปทดสอบระดับ 1170 หรือสูงกว่าในระยะกลาง ขณะที่ระยะสั้นมองการพักตัวลงมาเล็กน้อยไม่เกิน $1150 ที่เป็นกรอบบนของสามเหลี่ยมที่ราคาหลุดลงมา และ ตอนนี้กลายเป็นแนวรับไปเรียบร้อยแล้ว ตราบใดที่ราคายังเหนือกว่า 1150 ยังมองว่า ภาพรวมยังเป็นบวก สำหรับข่าวช่วงนี้ไม่มีผลกระทบอะไรกับทองคำมากนัก และ ก็เริ่มติดตาม Earning seasons ของทางอเมริกาด้วยว่าจะมีแนวโน้มอย่างไร
ทางเลือกรอง : หากราคาหลุด 1150 ลงมาซึ่งเป็นที่อยู่ของกรอบบนที่ราคา Break-out ออกมา มองว่าเป็นแนวรับ หากต่ำกว่าระดับนี้มองว่าไม่สวย และควรออกมาดูตลาดก่อนสำหรับการเก็งกำไร
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยทรงตัวเล็กน้อยเมื่อวานนี้ เป็นไปตามทิศทางของภูมิภาค และทั่วโลกที่ปริมาณการซื้อ-ขายยังค่อนข้างเบาบาง ส่วนกระแสเงินทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยเล็กน้อยและยัง Long ต่อเนื่องอีกเป็นวันที่ 10 นอกจากนี้สิ่งที่น่าสนใจคือ มีแรงซื้อเข้ามาในพันธบัตรค่อนข้างมากเมื่อวานส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าหลุด 35.50 ก่อนที่จะกลับขึ้นมาปิดเหนือกว่าเล็กน้อย ยังมองว่า จะแข็งต่อลงไปอีก
US
- เนื่องจากเป็นวันหยุดของทางอเมริกาทำให้ปริมาณการซื้อ-ขายของทุกตลาดค่อนข้างเบาบาง และนักวิเคราะห์ต่างรอที่จะติดตามผลกำไรของบริษัทจดทะเบียน ล่าสุด JP Morgan chase จะประกาศงบการเงินในไตรมาส 3 ของกลุ่มไฟแนนซ์ ในวันพุธจะเป็นของ Bank of America , ส่วนวันพฤหัสจะเป็นของ Citigroup และ Goldman sachs นอกจากนี้เทรดเดอร์ยังให้ความเห็นว่าการรีบาวน์ของ S&P500 เป็นลักษณะของ W –pattern ที่เป็นแนวโน้มพักตัวในโซน Correction และติตดามให้ดีว่าอาจจะหมดรอบรีบาวน์ที่ขึ้นมาแรงของดัชนีหุ้นอเมริกา ทั้งนี้ความเห็นดังกล่าวเป็นเพียงการคาดการณ์
- Goldman sachs มองเป้าราคาทองคำ $1150 ในช่วง 3 เดือน และจะลงสู่ $1100 ใน 6 เดือน นอกจากนี้มองว่าในปีหน้าราคาทองจะลงไปถึง $1050
EU
- ตลาดหุ้นฝั่งยุโรปค่อนข้างทรงตัวเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับประเทศอื่นๆทั่วโลกที่ยังไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สาคัญๆ
ASIA
- ตัวเลขการส่งออกของจีนปรับตัวลดลง –1.1% จากปีก่อนหน้าในขณะที่ การนำเข้าปรับตัวลดลง -17.7% ส่งผลให้ดุลการค้าของจีนยังคงเกินดุลอยู่ ทั้งนี้ตัวเลขดังกล่าวค่อนข้างอ่อนแอ นักวิเคราะห์ประเมินว่า ตัวเลขการส่งออกจีนน่าจะฟื้นตัวในไตรมาสที่ 4 หลังจากมีการลดค่าเงินหยวนเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา (สิงหาคม)
- ประธาน BOJ ยืนยันว่า จะยังไม่มีมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในเดือนนี้ และยังมองว่า พร้อมจะดำเนินการหากมีความจำเป็น
COMMODITIES
- OPEC รายงานว่า ตัวเลขน้ำมันที่อเมริกาผลิตได้มีแนวโน้มจะปรับตัวลดลง 300,000 บาร์เรลต่อวัน และมีแนวโน้มจะลดต่อเนื่องไปอีก และคาดว่าจะฟื้นตัวในปลายปี 2559 ซึ่งรายงานส่วนใหญ่ติดตามอุตสาหกรรม Shale oil ของอเมริกา
- Mitsui จะเลิกดำเนินการแผนกโลหะมีค่าในลอนดอนและนิวยอร์คสิ้นปีนี้
Resistance
1155 |
1152 |
1140 |
Support
1155 |
1152 |
1140 |
Strategy
วันศุกร์ราคาปรับตัวขึ้นต่อจากช่วงกลางวันอีกเล็กน้อยและปิดเหนือกว่ากรอบบนของสามเหลี่ยมเป็นวันแรก ให้น้ำหนักในทางบวกต่อไปทดสอบระดับ 1170 หรือสูงกว่าในระยะกลาง ขณะที่ระยะสั้นมองการพักตัวลงมาเล็กน้อยไม่เกิน $1150 หรืออาจจะไม่ถึงก่อนที่จะปรับขึ้นต่อ ในวันนี้จะไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของอเมริกา เนื่องในวัน Columbus day จึงมองว่าการเคลื่อนไหวอาจจะน้อย แต่จะมี Comment ของประธาน FED สาขาต่างๆมาแทน ซึ่งยังมองการลงและขึ้นเป็นทางหลัก
ทางเลือกรอง : หากราคาหลุด 1150 ลงมาซึ่งเป็นที่อยู่ของกรอบบนที่ราคา Break-out ออกมา มองว่าเป็นแนวรับ หากต่ำกว่าระดับนี้มองว่าไม่สวย และควรออกมาดูตลาดก่อนสาหรับการเก็งกำไร
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยปิดบวกแรงเหนือระดับ 1400 จุด จากมุมมองของตลาดหุ้นทั่วโลก ถึงแม้ล่าสุดจะโดนปรับลดประมาณการณ์การเติบโตในปีหน้า 2% ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในอาเซียน (ข้อมูลจาก World bank) นักวิเคราะห์ประเมินว่า ไม่น่าจะมีอะไรแย่ไปกว่านี้ และมอง Downside risk เริ่มน้อยลง หลังจากตลาดเริ่มซึมซับข่าวร้ายไปค่อนข้างมาก ค่าเงินบาทมองการแข็งค่าในระยะกลางและหากหลุด 35.50 ไปยิ่งยืนยันการแข็งค่า
US
- ความเห็นจากรองประธาน FED คุณ Fischer มองว่า เศรษฐกิจของอเมริกาแข็งแกร่งพอที่จะสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ในปีนี้ เป็นผลหลักๆมาจากตลาดแรงงานที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งและมองว่า อัตราเงินเฟ้อจะเข้าใกล้ระดับ 2% ในอนาคต ทั้งนี้โดยปกติแล้ว คุณ Fischer ค่อนข้างมีแนวโน้มเอียงไปทางฝั่ง Hawkish หรือสายที่มองขึ้นดอกเบี้ย
- ตลาดหุ้น S&P 500 ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 2000 จุดซึ่งเป็นแนวต้านทางจิตวิทยา โดยเป็นผลมาจากทิศทางอัตราดอกเบี้ยของ FED เช่นกัน หลังจากที่ประชุมมีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำไปก่อน ทั้งนี้ตลาดหุ้นอเมริกากาลังจะเข้าสู่ช่วง Earning season ที่บริษัทจดทะเบียนจะทยอยออกงบการเงินไตรมาส 3 และคาดว่าจะสร้างความผันผวนให้กับดัชนีหุ้นในช่วงถัดๆไป
EU
- ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวกเช่นเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นแรง และ ทำให้กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ ข่าวเรื่อง Volkswagen ที่มีการตั้งซอฟแวร์โกงตัวเลขการปล่อยไอเสียของเครื่องยนต์ดีเซล ล่าสุด ได้มีการออกมาแถลงว่า การโกงตัวเลขนี้ไม่ได้เป็นแนวคิดขององค์กร แต่เป็นแนวคิดของตัวบุคคลเอง (Individual) ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นกว่า3% ในวันศุกร์
ASIA
- วันนี้ตลาดญี่ปุ่นปิดทาการ 1 วันเนื่องจากเป็นวัน Health and sport holiday
- ตลาดหุ้นจีนปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจาก the China Securities Journal ได้ Quote ของนักการธนาคารอาวุโสคนหนึ่งว่า การปรับฐานของตลาดหุ้นจีนเกือบจะจบแล้ว (Almost over) นอกจากนี้ คุณ Yi gung รองผู้ว่า PBOC กล่าวในที่ประชุม IMF และ World bank ว่า การปรับฐานของตลาดหุ้นจีนรอบนี้ส่งผลกระทบในวงแคบกับ เศรษฐกิจจีน เนื่องจากจีนยังมีมาตรการที่จะรองรับความเสี่ยงดังกล่าวเพิ่มอีก
COMMODITIES
- น้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นกว่า 9% หลังจากคาดการณ์ความต้องการน้ามันดิบในปีหน้าปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งสถานการณ์ความไม่สงบระหว่างประเทศที่รัสเซียเปิดฉากโจมตีกลุ่ม ISIS ในซีเรียมาสักระยะหนึ่งแล้ว
- กองทุน Hedge fund เพิ่มสถานะ Long ในทองคำอีกในสัปดาห์ที่ผ่านมา
Support
1141 |
1137 |
1130 |
Resistance
1145 |
1151 |
1160 |
Strategy
จากการเคลื่อนไหวเมื่อคืนที่ค่อนข้างผันผวน ขึ้นลงไปมาอย่างรวดเร็ว มองว่า ต้องใช้เวลาสักพักกว่าราคาจะนิ่ง และ กว่าจะมีแนวโน้มที่ชัดเจน แต่เมื่อดูจากเนื้อข่าวของผลการประชุมที่ออกมาในโทน Dovish นั้นมองว่า จะเป็นปัจจัยบวกกับทองคำอยู่ในระยะกลาง ในขณะที่ระยะสั้นนี้ เมื่อวานราคาลงไปแกว่งกันโซน 1130-1140 ก่อนจะมีแรงซื้อขึ้นมาบนนี้ มองว่า ทางฝั่งบวกเริ่มกลับมาได้เปรียบเพียงแต่ ยังอยากเห็นการแกว่งตัวออกข้างไปสักพักก่อนจึงจะขึ้นต่อ ภาพรวมยังเป็นการเก็งกำไรระยะสั้นระหว่างวัน เนื่องจากทิศทางโดยรวมยังเป็น Sideways ค่อนข้างชัดเจน ทาให้การขึ้น-ลงนั้นจะอยู่ในกรอบและค่อนข้างเร็ว
USD/THB
ต่างชาติยังซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย และยัง Long สุทธิในฟิวเจอร์ต่อเนื่องแต่ลดจานวนสัญญาลง เมื่อวานตลาดหุ้นค่อนข้างทรงตัวหลังจากขึ้นไปทดสอบระดับ 1400 จุดและยังไม่สามารถผ่านไปได้ วันนี้มองว่า จะขึ้นไปทดสอบอีกครั้งหนึ่งหลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกส่งมาทางบวกและราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นแรง ค่าเงินบาทคาดว่าได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากเปิดกลุ่มการค้า TPP และทาให้การแข็งค่าเป็นไปอย่างรวดเร็วมองแนวรับบริเวณ 35.50 เป็นแนวรับแรก
US
- รายงานผลการประชุม FOMC ในเดือนกันยายนเปิดเผยออกมา พบว่าที่ประชุม FED ชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกันยายนออกไปเนื่องจาก ความกังวลเรื่องการเติบโตของจีน ส่วนปัจจัยภายในประเทศพบว่า ตลาดบ้าน และ การใช้จ่ายของผู้บริโภคฟื้นตัวได้ดี จึงมองการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจจีนว่าจะส่งผลกระทบต่อปัจจัยภายในประเทศอเมริกาน้อย และ ยังอยากรอดูความชัดเจนของเศรษฐกิจ และตลาดอื่นๆเพิ่มเติม ทั้งนี้ความกังวลด้านเงินเฟ้อยังคงมีอยู่ถึงแม้จะมองว่าระยะกลางเงินเฟ้อจะปรับขึ้นไปที่เป้าหมาย 2% ได้ นักวิเคราะห์ประเมินว่า การขึ้นดอกเบี้ยอาจจะเลื่อนไปยังช่วงมีนาคมปี 2016 ซึ่งเป็นปัจจัยบวกกับราคาทองคำในระยะสั้น
EU
- ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องเมื่อวานนี้ จากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวขึ้นช่วยดัชนีหลังจากราคาน้ามันดิบปรับตัวขึ้นแรง ถึงแม้ระหว่างวันจะมีการประกาศตัวเลขการส่งออกของเยอรมันที่ออกมาหดตัว 5.2% ในเดือนสิงหาคม เป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2009 แต่ตลาดหุ้น DAX กลับไม่สนใจข่าวนี้เท่าไรนัก
-รายงานจากอเมริกาว่าขีปนาวุธแบบติดตามที่ยิงจากเรือบริเวณทะเลแคสเปียน (Caspian)ไปยังซีเรียที่มีการต่อสู้ระหว่างรัสเซีบและ ISIS ได้มีส่วนหนึ่งตกไปที่อิหร่าน แต่รัสเซียยืนยันว่า ขีปนาวุธดังกล่าวตกที่ซีเรีย ต้องติดตามผลต่อไป
ASIA
- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเกือบทั้งหมด และ Nikkei ของญี่ปุ่นได้ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากช่วงก่อนหน้ามียอดคาสั่งซื้อสินค้าประเภทเครื่องจักรที่ออกมาแย่ และ แรงขายทำกำไรระยะสั้นจากคนที่มีต้นทุนต่ากว่า ซึ่งดัชนีหุ้นเอเชียปรับตัวสูงติดต่อกัน 5 วัน
- ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยปรับตัวลดลงสู่ระดับ 72.1 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 72.3 ซึ่งเป็นระดับต่าสุดในรอบ 16 เดือน จากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง
COMMODITIES
- ราคาน้ามันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่ออีก 2% จากความกังวลเรื่องของสงครามที่รัสเซียกาลังมีปัญหากับซีเรีย ประกอบกับตลาดหุ้นจีนที่รีบาวน์ และ การคาดการณ์ว่า De-mand ในปีหน้าจะเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้มีการปรับคาดการณ์ราคาเป้าหมายช่วงปีหน้าอยู่ระดับประมาณ $75 / บาร์เรล ทำให้น้ามันเกิดแรงซื้อเข้ามามากในช่วงนี้ และในรายสัปดาห์เริ่มเห็น Bullish divergent ชัดเจนมากขึ้น
เเนวรับ 1143 1140 1137 แนวต้าน 1150 1155 1160
Strategy of the day
เมื่อวานราคาปรับตัวลดลงมา หลังจากเกิด Bearish divergent และชนบริเวณแนวต้าน 1150-1154 ระยะสั้นจึงแบ่งโซนการเล่นออกเป็นกรอบอย่างชัดเจน ปัจจุบันลงมาทดสอบแนวรับบริเวณ 1140 ซึ่งมองว่าจากน้าหนักโดยรวมของภาพวันที่ยังเป็นบวกยังมองไม่หลุดลงมา และมองการรีบาวน์จากแนวรับ 1140 นี้ ราคายังแกว่งตัวในกรอบโดยมีแนวต้าน 1153 ด้านบน ในทางกลับกันหากมองผิดหลุด 1140 ลงมา ราคาจะเริ่มลงไปเล่นในกรอบ 1130-1140 ซึ่งน้าหนักทางฝั่งนี้ให้โอกาสเกิดน้อยกว่าทางแรก
USD/THB
ต่างชาติซื้อสุทธิและ Long ฟิวเจอร์เพิ่มอีกค่อนข้างมากเป็นวันที่ 7 ต่อเนื่องกัน ให้น้าหนักมุมบวกต่อตลาดหุ้นไทย เมื่อวานนี้ปิดบวกแรงและเข้าใกล้ระดับ 1400 จุด ส่วนค่าเงินบาทมองการอ่อนค่าเล็กน้อยในลักษณะของการรีบาวน์หลังจากเมื่อวานนี้ปรับตัวแข็งค่าแรงกว่า 40 สตางค์ ทั้งนี้ทิศทางโดยรวมเริ่มแข็งค่าชัดเจนแล้วประเมินแนวรับที่ระดับประมาณ 35.50 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดที่เคยทำในเดือนที่แล้ว
US
เมื่อวานนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของอเมริกา แต่ทองคำกลับปรับตัวเล็กน้อย หลังจากได้รับข่าวบวกเรื่อง การชะลอการขึ้นดอกเบี้ยของอเมริกาในช่วงก่อนหน้า และผลการประชุมในเดือนกันยายนที่ผ่านมาจะมีการประกาศในวันนี้ช่วงวลา ตี 1 ตามเวลาบ้านเรา เป็น FOMC Meeting minutes ขนาดย่อยๆ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 100 จุด หลังจากราคาน้ามันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น และ กลุ่มอุตสาหกรรม Healthcare โดยเฉพาะกลุ่ม Biotech ขณะที่ปัจจัยใหม่ๆยังไม่มีเข้ามากระทบมากนัก และนักลงทุนเริ่มติดตามการประกาศผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 2 (Earning seasons)
EU
ตลาดหุ้นยุโรปปิดทรงตัวหลังจากได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ามันดิบเช่นกัน และ กลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์เกิดแรงซื้อรีบาวน์ขึ้นมาหลังจากปรับตัวลดลงแรง ซึ่งอุตสาหกรรมรถยนต์ของยุโรปนั้นถือว่ามีสัดส่วนสูงมากในดัชนี โดยเฉพาดัชนี DAX ของอเมริกา นอกจากนี้หุ้นกลุ่มเหมืองและ Basic materials ต่างก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกันจากน้ามันดิบที่สูงขึ้นเมื่อวานนี้
ASIA
ผลการประชุม BOJ เมื่อวานพบว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตรไว้ที่ 80 ล้านล้านเยนต่อปีไว้เท่าเดิม แต่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ อาจจะมีการเพิ่มมาตรการผ่อนคลายทางการเงินอีกวันนี้จีนจะกลับมาเปิดทาการเป็นวันแรกหลังจากปิดทาการเนื่องในวันชาติ
COMMODITIES
สต๊อกน้ามันดิบของอเมริกาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเมื่อวานนี้ แต่ราคาน้ามันดิบทุกตลาดปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น (Brent , NYMEX) และไม่สนใจตัวเลขสต๊อกที่ออกมา เนื่องจากยังให้น้าหนักกับรายงานของ EIA เกี่ยวกับความต้องการใช้น้ามันในปีหน้าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น SPDR ปรับลดสถานะลงอีก 0.26% สู่ระดับ 687.20 ตันเมื่อวานนี้
แนวทางทองคำวันที่ 7-10-58
เเนวรับ 1143 1140 1133 เเนวต้าน 1150 1154 1160
จากราคาที่ขึ้นมาเมื่อวานมอ
ต่างชาติหันกลับมาซื้อสุทธิ
ทางเลือกหลัก : มองราคาเริ่มปรับตัวลดลงเล็
ทางเลือกรอง :
รายละเอียด
- ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่
- ตัวเลขดุลการค้าของอเมริกาเ
- ตลาดน้ำมันดิบเริ่มกลับมาน่
- IMF ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ
- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ
- มีข่าวว่าเม็ดเงินของจีนไหล
แนวทางทองคำวันที่ 6-10-58
เเนวรับ 1132 1129 1125 เเนวต้าน 1140 1145 1150
ภาพรวมตลาดยังคงแกว่งตัวในก
ทิศทางต่างชาติในตลาดหุ้นไท
ทางเลือกหลัก : ยังมองราคาแกว่งตัวในกรอบ 1130-1140 ซึ่งระยะสั้นมองขึ้นไปทดสอบ
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1130 ลงมามองว่าฝั่งขึ้นเริ่มเสี
รายละเอียด
- ตัวเลข ISM-PMI ภาคบริการออกมาปรับตัวลดลงส
- กองทุน SPDR ขายทองคำออกเป็นครั้งแรกเมื
- ประธาน FED สาขา Boston กล่าวว่า ตัวเลขแรงงานที่ออกมาในเดือ
- พรุ่งนี้จะมีการแลถงการประช
- ความเห็นจากประธาน FED ท่านก่อน นาย เบน เบอนันเก้ ออกมากล่าวว่า ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้อง
- ธนาคารโลกปรับลดการเติบโตขอ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Trade balance -47.6B -41.9B
แนวทางทองคำวันที่ 5-10-58
เเนวรับ 1136 1133 1125 เเนวต้าน 1139 1142 1150
จากวันศุกร์ทองคำได้รับปัจจ
ต่างชาติซื้อสุทธิเล็กน้อย และยัง long สุทธิในฟิวเจอร์เพิ่มอีกหน่
ทางเลือกหลัก : มองราคาพักตัวถึงแกว่งตัวเล
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1133 ลงมามองว่าจะใช้เวลาพักตัวน
รายละเอียด
- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่าง
- กองทุน Hedge fund ปรับเพิ่มการถือสถานะ Long ในฟิวเจอร์และออพชัน สู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ แต่ปรับลดสถานะ Long ในซิลเวอร์เล็กน้อย ข้อมูลจาก CFCT เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่า
- กองทุน IMF ออกมาเสนอให้ยูเครนออกพันธบ
- ในวันเสาร์ได้เกิดสงครามขึ้
- ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับต
- ซาอุดิอาระเบียปรับลดราคาขา
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
21.00 USD
ISM non -manufacturing PMI 58.0 59.0
แนวทางทองคำวันที่ 2-10-58
เเนวรับ 1112 1109 1105 เเนวต้าน 1117 1119 1122
จากพฤติกรรมเมื่อวาน ราคาขึ้นไปเล็กน้อยก่อนที่จ
กระแสเงินทุนต่างชาติในตลาด
ทางเลือกหลัก : มองราคาปรับตัวลดลงไปยังแนว
ทางเลือกรอง : -
รายละเอียด
- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่าง
- เมื่อวานถึงแม้จะไม่มีเหตุก
- คุณ John Williams ประธาน FED สาขาซานฟรานซิสโก ออกมาแสดงความเห็นว่า อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มจะขึ
- World bank ออกมาแสดงความกังวลต่อเศรษฐ
- กองทุน SPDR ซื้อทองคำเพิ่มอีก 0.26%สู่ระดับ 689.20 ตัน เป็นการซื้อเข้าวันที่ 5 ต่อเนื่องกัน
- Fitch rating ปรับลดการเติบโตของ GDP ไทยลงเหลือ 2.7% ในขณะที่ในปีหน้าคาดว่าจะขย
-เงินเฟ้อไทยปรับตัวลดลง –1.07% นำโดยสินค้าประเภทเชื้อเพลิ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Non-farm employment change 201K 173K
Unemployment claims 5.1% 5.1%