ประชาสัมพันธ์
แนวทางทองคำวันที่ 30-10-58
แนวรับ 1143 1140 1130 แนวต้าน 1150 1153 1155
จากราคาที่หลุด 1150 ลงมานั้นยิ่งมองทางฝั่งลบ ถึงแม้ระยะสั้นจากการลงมาเช่นนี้จะดูรีบาวน์ขึ้นไปเล็กน้อยถึงระดับบริเวณ 1150 +- แต่น้ำหนักทางขึ้นแล้วลงต่อนั้นสูงมาก มองแนวรับอีกแนวหนึ่งบริเวณ 1140 และหากหลุดระดับนี้จริงมองว่าจะปรับตัวลงไปถึง 1110 ในระยะกลาง และในภาพสัปดาห์และรายเดือน (วันนี้เป็นวันปิดเดือน) หากปิดระดับนี้มองว่า ไม่สวยทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง เนื่องจาก เป็นการไม่สามารถยืนค่าเฉลี่ยได้ ให้ใช้ความระมัดระวังฝั่งลง
ทางเลือกรอง : หากราคารีบาวน์เกินกว่า 1150 แลไปยืนได้ ยังมองว่าจะแกว่งตัวในกรอบสักพัก แต่ยังไม่ให้น้ำหนักทางฝั่งขึ้นในช่วงนี้
USD/THB
ต่างชาติยังคงขายสุทธิอีกหลัก 2000 ล้านบาท และ Short สุทธิในฟิวเจอร์เป็นวันที่ 3 อีกกว่า 10000 สัญญา สถานะ Short สะสมของต่างชาติเริ่มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ปิดลบอย่างหนัก และคาดว่าระยะสั้นจะมีรีบาวน์สักพักหนึ่งแต่ยังมองว่า แท่งเทียนเมื่อวานนั้นค่อนข้างอาการหนักให้ระมัดระวังเล็กน้อย ส่วนค่าเงินบาทเมื่อยึดรูปแบบขึ้นดอกเบี้ยยังมองการอ่อนค่าต่อไปอีกในระยะกลาง
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาที่ระดับ 260K จากสัปดาห์ก่อนหน้า 259K และคาดการณ์ 264K ส่วนตัวเลข Advance GDP หดตัวลงสู่ระดับ 1.5% จากรอบก่อนหน้า 3.9% นักวิเคราะห์มองว่า เป็นผลมาจากสต๊อกสินค้าคงเหลือของธุรกิจที่มีความผันผวนอย่างรุนแรง และคาดว่าจะเป็นปัจจัยชั่วคราว ส่วนการบริโภคของภาคเอกชน และ ธุรกิจยังฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ถึงแม้ค่าจ้างแรงงานจะยังคงทรงตัว ตลาดให้น้ำหนักกับการขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า จึงเป็นผลทำให้ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะปรับตัวลดลงแรง
-ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อวานนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นทางฝั่งยุโรป นำโดยหุ้น Apple
- มีรายงานตัวเลขผลประกอบการของ Deutsche bank (ด๊อยซ์แบงค์) ซึ่งเป็นธนาคารยักษ์ใหญ่ในเยอรมันพบว่า ขาดทุน 6 ล้านยูโร และมีแผนจะปรับลดพนักงานลงอีกในอนาคต ส่วน Barclay หดตัวลงเล็กน้อย
- เมื่อวานนี้หุ้น NOKIA ปรับตัวลดลงแรงกว่า 10.4% จากข่าวที่ว่า จะทำการคืนเงินให้แก่ผู้ถือหุ้น ผ่านการจ่ายเงินปันผล และ การซื้อหุ้นคืน ทั้งนี้ตลาดหุ้นในยุโรปโดยรวมค่อนข้างทรงตัว หลังจากช่วงสัปดาห์ก่อนหน้าปรับตัวขึ้นมาแรง
- วันนี้จะมีผลการประชุมของ BOJ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะยังไม่มีอะไรในเดือนนี้ ถึงแม้ตลาดยังอยากจะให้มีมาตรอะไรเพิ่มเติมก็ตาม
- ผลการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ พบว่า จีนยืนยันจะไม่ดำเนินการลดค่าเงินหยวน และคาดว่าจะไม่ใช้นโยบาย QE ส่วนเป้าหมายการเติบโตถูกปรับลดเหลือ 6.53% จากระดับเดิมที่มองไว้ประมาณ 7%
- จีนได้ทำการตกลงกับเยอรมันเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนโดยจะเริ่มจาก Interbank
- ช่วงนี้ข่าวของกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ไม่ค่อยมีมามากนัก และยังคงโดนกดดันทั้งกลุ่มจากประเด็นเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของอเมริกา น้ำมันดิบยังค่อนข้างทรงตัว แต่ตลาดที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วงคือ แร่เหล็ก หลังจากจีนมาเปิดเผยว่า ความต้องการเหล็กน้อยลง แต่อุปทานกลับเพิ่มขึ้นจนล้นตลาด ซึ่งเป็นผลทำให้ราคาเหล็กปรับตัวลดลงแรงต่อเนื่องในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา
แนวทางทองคำวันที่ 29-10-58
แนวรับ 1155 1153 1150 แนวต้าน 1167 1173 1183
ผลการประชุม FOMC พบว่า ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมก่อน เพียงแต่ แนวโน้มจะขึ้นในเดือนธันวาคมนั้นมีค่อนข้างสูง เมื่อยึดข่าวนี้ทำให้ปัจจัยพื้นฐานกลายเป็นลบทันทีและกดดัน Upside ของราคาทองคำในอนาคตในช่วงกลางหากราคายังขึ้นต่อ มองว่าจะไปเจอแนวต้านระยะสั้น 1168 ในวันนี้ แต่ยังมองว่า การขึ้นจะไม่แข็งแกร่งแล้ว และให้ระวังลง โดยเฉพาะหากหลุดเกินกว่าระดับ 1150 ลงมา จะเปิด Downside ระยะกลางอีกมาก ระมัดระวังครับ ท่าทีของ FOMC เปลี่ยนไวมาก
ทางเลือกรอง : ราคาขึ้นไปเหนือ 1167-1170 ยังมองว่า ราคาจะยังคงชะลอตัวอยู่ในกรอบอีกครั้ง แต่เริ่มให้น้ำหนักทางฝั่งขึ้นน้อยลงในช่วงนี้
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงต่อเนื่อง และ วันนี้เปิดมา –7 จุดยิ่งซ้ำเติมแนวโน้มรีบาวน์ให้เสียทรงพอสมควร มองว่า ตลาดหุ้นน่าจะโดนกดดันจากประเด็นการขึ้นดอกเบี้ยด้วย สำหรับทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติยังขายสุทธิ และเริ่มหันกลับมา Short สุทธิเป็นวันที่ 2 อีกกว่า 10000 สัญญา ค่าเงินบาทจากนี้ไปคาดว่าจะหมดช่วงการพักตัวแข็งค่า และมองเริ่มอ่อนค่าไปอีกครั้งหนึ่งภายใต้มุมมองของการขึ้นดอกเบี้ย
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- เมื่อวานตลาดหุ้นอเมริกาค่อนข้างผันผวนแต่สามารถปิดบวกได้นำโดยกลุ่มแบงค์ที่ปรับตัวสูงขึ้นแรง 2.4% มากสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน และกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น
- ที่ประชุม FOMC ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม แต่ให้แนวโน้มว่าน่าจะขึ้นในช่วงเดือน ธันวาคม (FED future fund rate แสดงความน่าจะเป็นว่าอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นเดือน ธ.ค. ขยับจากประมาณ 30% ไปสู่ 40%) โดยมีเหตุผลสนับสนุนคือ การบริโภคภายในประเทศที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง และความกังวลเรื่องเศรษฐกิจจีนและความผันผวนของตลาดเงิน ตลาดทุนทั่วโลก มีแนวโน้มลดลง สังเกตุจากการตัดคำที่แสดงถึงความกังวลลดลงในเอกสารที่ออกมา
- สภาล่างขยายเพดานการก่อหนี้ของอเมริกาทำให้สามารถกู้ได้ไม่จำกัดไปจนถึง 2560
- ธนาคารกลางสวีเดนขยายวงเงิน QE ต่ออีกเป็นครั้งที่ 4 และส่งผลให้เงินโครนอสปรับตัวอ่อนค่าลง ทั้งนี้ยังไม่ได้มีนัยสำคัญกับตลาดการเงินทั่วโลกมากนัก
- หุ้นของ Volkswagen ที่ช่วงก่อนหน้ามีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการโกงตัวเลขการปล่อยไอเสีย ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อวานนี้ หลังจากรายงานผลประกอบการออกมาขาดทุน 3.48 ล้านล้านยูโร และคาดว่าในปีหน้าผลประกอบการจะยังโดนกดดันต่อไปอีก ตลาดไม่ได้รับข่าวตัวเลขที่ออกมาแย่นี้เท่าไรนัก โดยรวม DAX ยังปรับตัวขึ้น
- พรุ่งนี้จะมีการประชุม BOJ หรือ ธนาคารกลางญี่ปุ่น ตลาดยังอยากเห็นมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันได้เปรียบเทียบขนาดของ QQE ญี่ปุ่นได้กับ ปืนบาซูก้า ซึ่งสูงกว่าของทั้งยุโรป และ อเมริกา
- การใช้สกุลเงินหยวนในการซื้อ-ขาย หดตัวลงเล็กน้อย สู่ระดับที่ 5 รองจากญี่ปุ่นเล็กน้อย หลังจากมูลค่าแซงขึ้นไประดับที่ 4 ในช่วงเดือนก่อนหน้า
- เทรดเดอร์ในตลาดทองคำมองว่า การปรับตัวลดลงเกินกว่าระดับ 1150 ลงมานั้นคาดว่าจะส่งผลลบต่อทองคำในอนาคตอีก และให้ความเห็นเพิ่มเติมอีกว่า จากนี้ไปน่าจะเห็นการปิด Long position และเริ่มกลับมา Short มากขึ้น หลังจากราคาหลุดค่าเฉลี่ย
- สต๊อกน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย ขณะที่สต๊อกหน้าโรงกลั่นปรับตัวลดลงส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นสูงกว่า 6%
แนวทางทองคำวันที่ 28-10-2558
แนวรับ 1160 1155 1152 แนวต้าน 1167 1173 1183
เมื่อวานนี้ราคาลงไปอย่างรวดเร็วก่อนบริเวณแนวรับบริเวณ 1160 ก่อนที่จะมีแรงรีบาวน์กลับเข้ามา ทั้งนี้ยังมองว่าแนวโน้มยังไม่มีอะไรมากนัก ราคาได้ขึ้นมาติดอยู่บนแนวต้านบริเวณ 1168 หากผ่านระดับนี้ไปได้มองว่า จะเริ่มหยุดการพักตัวและจะค่อยๆขึ้นไปอีกครั้ง ทั้งนี้วันนี้จะมีผลการประชุม FOMC ในเวลาตี 1 ตามเวลาบ้านเรา คาดว่าที่ประชุมจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม ซึ่งเป็นปัจจัยบวกกับทองคำ แต่หากมีผิดคาดขึ้นดอกเบี้ยเลย ตรงนั้นเป็นความเสี่ยงหนักๆในวันนี้
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1155-1150 ลงมามองว่าจะเริ่มลงอีกครั้ง และไม่ควรมีสถานะซื้ออยู่ ยังคงต้องติดตามผลการประชุมเช่นเดิม
USD/THB
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,728 ล้านบาท และยัง Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก 4,974 ล้านบาท ภาพรวมตลาดหุ้นยังมองว่าได้รับปัจจัยลบจากตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับฐาน ทั้งนี้ภาพรวมของตลาดยังอยู่ในแนวโน้มรีบาวน์ วันนี้ราคาได้ลงมาปิด GAP ด้านล่างที่เปิดไว้เรียบร้อยแล้ว ติดตามว่าตลาดจะตีความยังไง ส่วนทิศทางค่าเงินบาทยังมองว่า ไม่ได้มีทิศทางที่มีนัยสำคัญ
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable goods) หดตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน (แต่หตัวน้อยงลง) สู่ระดับ –1.2% จากเดือนก่อนหน้า –2.3% และคาดการณ์ –1.1% ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนหมวดไม่รวมยานพาหนะหดตัวเพิ่มขึ้น –0.4% จาก –0.2% และคาดการณ์ 0% ตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนยังบ่งบอกว่าเศรษฐกิจอเมริกายังไม่ฟื้นตัวแข็งแกร่งนัก ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคกลับปรับตัวลดลงสู่ระดับ 97.6 จุดจากเดือนก่อนหน้า 102.6 จุด กลุ่มตัวเลขที่ออกมานั้นดูไม่ดีกับเศรษฐกิจและคาดว่าที่ประชุม FOMC ในวันนี้เวลาตี 1 จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม ตลาดคาดว่าจะไปขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธันวาคมหรือไม่ก็ปีหน้า
- ตัวเลขยอดขาย Apple ออกมายังเติบโตได้โดยเฉพาะตลาดในจีน
- ข่าวทางฝั่งยุโรปในช่วงที่ผ่านมายังไม่มีอะไรมากนัก หลังจากมีผลการประชุม ECB ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเพียงการประกาศตัวเลข GDP ของอังกฤษพบว่า ขยายตัว 2.3% (YoY) เป็นการขยายตัวน้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 2013 ส่งผลให้เงินปอนด์ปรับตัวลดลงในวันที่ผ่านมา ทั้งนี้นักลงทุนต่างจับตามองผลการประชุม FOMC ในวันนี้ และ BOJ ในวันศุกร์ว่าจะมีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง
- ตลาดหุ้นยุโรปทรงตัวถึงปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อวานแต่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น
- จะมีผลการประชุม BOJ (Bank Of Japan) ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ ซึ่งตลาดยังอยากให้มีการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม ในปัจจุบันพบว่ายังมีช่องทางอีกมากที่จะให้ธนาคารกลางเข้าซื้อ เช่น พันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น กองทุน J-REITs พันธบัตรรัฐบาลท้องถิ่น ปรับลดอัตราดอกเบี้ย และ อื่นๆอีกมาก ทั้งนี้ท่าทีของ คุณ ชินโซ อาเบะ และ ประธาน BOJ คุณ คุโรดะ ยังออกไปในแนวทางที่ว่า น่าจะยังไม่มีมาตรการอะไรในรอบนี้
- GFMS ที่เป็นแผนกวิเคราะห์โลหะมีค่าของ รอยเตอร์ เปิดเผยว่า ความต้องการทองคำในรูปทองแท่งและเหรียญทองปรับตัวสูงขึ้น 7% ในไตรมาสที่ 3 ทั้งนี้ Supply ยังคงเกินอยู่ 51 ตัน ส่วนตัวเลขการนำเข้าทองคำจากฮ่องกงสู่จีนปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน 2014
- Moody’s วิเคราะห์ว่า ราคาเหล็กในปีหน้าจะปรับตัวลดลงอีกจาก Supply ที่ยังมาก
แนวทางทองคำวันที่ 27-10-2558
แนวรับ 1160 1155 1152 แนวต้าน 1167 1173 1183
ในวันนี้เริ่มให้น้ำหนักทางฝั่งลบมากขึ้น เมื่อวานราคาพยายามปรับตัวขึ้นไปแต่ก็ยังไม่มีแรงผ่านไปได้ และเริ่มลง มองแนวรับบริเวณ 1155-1160 ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญ และไม่ควรจะหลุดจากตรงนี้ไป แต่เมื่อมาดูภาพรวม กลุ่มการเคลื่อนไหวที่ลงๆมานี้ ยังมองเป็นการปรับฐานในภาพใหญ่ (หากราคายังไม่หลุดแถว 1155 + - ลงมา) ภาพรวมข่าวยังไม่มีอะไรมากนัก ตลาดเริ่มไปติดตามผลการประชุม FOMC ในวันพุธที่จะถึงนี้เวลา ตี 1 ตามเวลาบ้านเรา คาดว่าจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1155+ - ลงมามองว่า จะปรับตัวลดลงและไม่ควรจะมีสถานะซื้ออยู่ ส่วนอีกทางคือผ่าน 1170 ขึ้นไปมองว่าจะเริ่มขึ้นอีกครั้งเลย
USD/THB
ต่างชาติยังคงซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย และ Long สุทธิในฟิวเจอร์ เมื่อวานนี้ตลาดได้ปัจจัยบวกจากจีน แต่เป็นการเปิด GAP ของราคาทิ้งไว้ มองว่าให้ระมัดระวัง และอยากให้ลงมาปิด GAP ด้านล่างก่อน (อีกประมาณ 5 จุด) แล้วค่อยขึ้นต่อจะดีกว่า มองว่าระยะสั้นมีความเสี่ยงเรื่องก่ารพักตัวลงมาก่อน ส่วนค่าเงินบาทยังไม่มีทิศทางที่สำคัญๆมากนัก ภาพรวมยังเป็นน้ำหนักในเชิงผสมกัน ต้องใช้เวลาเช่นกัน
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ตลาดหุ้นอเมริกาค่อนข้างทรงตัวหลังจากมีการทยอยประกาศผลประกอบการ หลักๆก็มีกลุ่ม Microsoft และ google ที่ออกมาดี (หุ้น Apple ปรับตัวลดลง 3% หลังจากมีข้อมูลจาก Supplier ของ Apple ประกาศออกมาว่า ยอดสั่งซื้อ Semiconductor ไม่เข้าเป้า และคาดว่าในไตรมาสหน้า Apple น่าจะยังไม่โดดเด่น ) และคาดว่ากลุ่ม Blueship จะมีผลประกอบการค่อนข้างดี ทั้งนี้ตลาดทางฝั่งอเมริกาให้น้ำหนักกับผลการประชุม FOMC ที่จะถึงในคืนวันพุธนี้ ตลาดยังคาดว่ายังไม่น่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ย และให้น้ำหนักไปขึ้นดอกเบี้ยในเดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้ในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมเกี่ยวกับ Debt ceiling ว่าจะขยายเพดานหนี้หรือไม่ อย่างไร และ เมื่อไร ทั้งนี้ตลาดหุ้น SP500 ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในรอบสามสัปดาห์ที่ผ่านมากว่า 10%
- ตลาดหุ้นยุโรปค่อนข้างทรงตัวเมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างก็ยังจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจของอเมริการวมถึงผลการประชุม FOMC เพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะยังไม่มีการเคลื่อนไหวในเดือนนี้ ที่เหลือก็เป็นการทยอยประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 3 เมื่อวานนี้น้ำมันดิบปรับตัวลดลงเล็กน้อยส่งผลให้กลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันปรับตัวลดลง
- ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจในเยอรมันลดลงแต่ยังขยายตัวในระดับที่มากกว่าคาดการณ์
- ธนาคารกลางจีนออกมายืนยันว่า การลดดอกเบี้ยและ RRR ในรอบนี้นั้นสมเหตุสมผลกับเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง นอกจากนี้ที่ประชุม IMF อาจจะมีการประชุมเรื่องการนำเงินหยวนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของตะกร้าเงิน ซึ่งจะมีการประชุมหารือเรื่องนี้ในเดือนหน้า
- ยอดส่งออกของไทยหดตัว –5.5% จากเดือนก่อนหน้า –6.7% และคาดการณ์ –8.1% เป็นการปรับตัวดีขึ้น ทำให้ยอดส่งออกทั้งปี (9เดือน)หดตัวอยู่ที่ –4.98% ส่วนนำเข้าปรับตัวลดลงแรง –26.2% ส่งผลให้ดุลการค้ายังคงเกินดุล
- ข่าวในตลาดทองคำและน้ำมันยังไม่มีอะไรมาก ยังเคลื่อนไหวในลักษณะค่อนข้างทรงตัว แต่มีข่าวเกี่ยวกับคึวามไม่สงบเล็กน้อยระหว่างจีนและอเมริกา หลังจาก อเมริกาได้นำเรือลบเข้าไปในน่านน้ำของจีนบริเวณเกาะที่สร้างโดยจีนบริเวณทะเลจีนใต้ ต้องติดตามว่า สถานการณ์นี้จะดำเนินไปอย่างไร แต่คาดว่าไม่มีอะไรเพิ่มเติม
แนวทางทองคำวันที่ 26-10-2558
แนวรับ 1160 1155 1152 แนวต้าน 1167 1173 1183
จากการเคลื่อนไหวในช่วงวันศุกร์มองว่าราคามีความผันผวนค่อนข้างมากจากทั้งเรื่อง ECB และ PBOC ที่ต่างมีแนวโน้มผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม และทำให้ทองคำผันผวนไปมา โดยรวมแล้วระยะสั้นราคายังอยู่ในช่อง Downtrend ภายในชั่วโมง โดยมีแนวต้านบริเวณ 1168-1170 ซึ่งเป็นแนวต้านภายในวัน มองว่า ราคาจะขึ้นไปทดสอบในกรอบนั้นก่อน หากราคายังคงอยู่ในช่องขาลงมองว่าจะยังไม่ผ่านและจะไหลกลับลงมาแถวบริเวณ 1155-1160 อีกรอบหนึ่ง
ทางเลือกรอง : ราคาทะลุผ่านระดับ 1170 ไปเลย มองว่าจะทำให้ราคาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อในระยะกลางได้ ทั้งนี้โอกาสเกิดทั้งสองทางยังมีเท่าๆกัน เพียงแต่ระยะสั้นลุ้นขึ้นไปก่อน
USD/THB
ทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติยังไม่มีทิศทางที่มีนัยสำคัญเท่าไรนัก แต่คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะได้รับประโยชน์จากการที่ทั้ง ECB และ PBOC ผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในช่วงวันหยุดบ้านเรา ในฝั่งของปัจจัยในประเทศนั้นพบว่ากระแสเรื่อง PTTEP กับการสำรองด้อยค่าของสินทรัพย์ที่มากดดันให้มีการขาดทุนอย่างหนักในไตรมาสที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่น่าติดตาม ค่าเงินบาทมองว่ายังรีบาวน์แต่ติดตามแนวต้าน 35.60
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 259 K จากสัปดาห์ก่อนหน้า 256K และคาดการณ์ 266K เป็นการปรับตัวสูงขึ้นกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าเล็กน้อย ทั้งนี้แนวโน้มโดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง
- คุณ เบน เบอนันเก้ ได้ออกมาแสดงความเห็นว่าเป็นเรื่องยากที่ คุณ เจเนต เยลเลนจะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยภายใต้สภาวะเช่นนี้ และ การตัดสินใจจะเกี่ยวกับ การที่ดูว่า เศรษฐกิจในประเทศมีแรงส่งพอไหวที่จะต้านทานกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจอื่นทั่วโลกไหม โดยเฉพาะจีนและตลาดเกิดใหม่ ทั้งนี้ปฎิเสธที่จะให้มุมมองเกี่ยวกับเมื่อไรที่ FED น่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องในวันศุกร์จากมาตรการผ่อนคลายที่จีน
- ในวันพฤหัสบดีมีผลการประชุม ECB ออกมายังพบว่า ที่ประชุมคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่เดิม นอกจากนั้นยังไม่มีมาตรการผ่อนคลายอะไรเพิ่มเติม ทั้งนี้ คุณ ดรากี้ กล่าวเป็นนัยๆว่า จะมีการทบทวนนโยบายนี้ใหม่ในเดือน ธันวาคม (Re-examined in December ) และ ยังพร้อมที่จะนำเครื่องมือต่างๆมาใช้เพิ่มเติมอีก ทำให้ตลาดตีความว่า น่าจะมีการผ่อนคลายทางการเงินเกินกว่าเดือนกันยายนปีหน้า ส่งผลให้ตลาดหุ้นขึ้น
- ดัชนี PMI ของยูโรโซนปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 54 ซึ่งเป็น Above all expectations
- เมื่อวันศุกร์ PBOC มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ในขณะที่ปรับลด RRR (เงินที่ธนาคารพาณิชย์ต้องสำรอง) อีก 0.5% เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอ ทั้งนี้ นับตั้งแต่เดือน พฤศจิกายนปีที่แล้ว จีนได้ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 6 และส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นทั่วโลกต่างรับข่าวดีเข้าไป ถึงแม้จะมีหลายคนมองว่า การขึ้นนั้นเป็นการรับข่าวแค่ชั่วคราวตัวเศรษฐกิจจีนจริงๆนั้นยังไม่ได้ฟื้นตัวเท่าไรนัก
- SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำลงอีก 0.26% สู่ระดับ 695.54 ตัน
-กองทุน Hedge fund เพิ่มสถานะ Long อีกในสัปดาห์ที่ผ่านมา ข้อมูลจาก CFCT เปิดเผยเมื่อวันศุกร์
- ข้อมูลจาก US Government เปิดเผยว่า กองทุนได้ตัดสินใจการเปิดสถานะในทองคำผิดทาง ในช่วง 9 สัปดาห์ที่ผ่านมามีแนวโน้มผิดทางไป 5 สัปดาห์
แนวทางทองคำวันที่ 22-10-2558
แนวรับ 1160 1155 1152 แนวต้าน 1167 1173 1183
ราคาปรับตัวลดลงมาสู่แนวรับบริเวณ 1165 บวกลบนิดหน่อย ซึ่งมองเป็นระดับแนวรับที่สำคัญแต่ก็ไม่มาก มีทางเลือกสองทางคือ 1. ราคาปรับตัวขึ้นเกินกว่า 1167 หรือสูงกว่า ซึ่งยึดเป็นทางเลือกหลัก ราคาจะมีแนวโน้มชะลอตัวการปรับตัวลดลง และกลับไปเล่นในกรอบ 1165-1180 จากข่าวที่คาดการณ์ว่า ECB จะยังคงไม่ดำเนินมาตรการอะไรเพิ่มเติม ทั้งนี้ต้องติตตามว่า การปรับตัวขึ้นนั้นจะเป็นผลบวกกับทองคำได้มากหรือไม่ หรือเป็นเพียงปัจจัยเฉพาะตัว
ทางเลือกรอง : หากราคาขึ้นไม่ไหวและหลุดบริเวณ 1165 ลงมา ก็จะได้กรอบใหม่ที่จะไปเทรดกันระหว่าง 1155-1165 ตามสี่เหลี่ยมล่างในรูปที่แนบไว้
USD/THB
เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงเล็กน้อย และในวันนี้ก็มองว่าจะเริ่มปรับตัวลดลงต่อตามทิศทางของตลาดทั้งภูมิภาค หลังจากขาดปัจจัยใหม่ๆเข้ามากระตุ้น ทั้งนี้ ต่างชาติหันกลับมา Short สุทธิในฟิวเจอร์อีกเล็กน้อย ส่วนทิศทางค่าเงินบาทมองว่ายังอยู่ในช่วงอ่อนแต่เป็นช่วงอ่อนแบบรีบาวน์ขึ้นมา และให้ติตตามสัญญาณว่า จะเกิดการแข็งค่าเมื่อไร เพราะตอนนี้เป็นระดับแนวต้านของเงินบาทที่บริเวณ 35.60-35.65
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ตลาดหุ้นอเมริกาค่อนข้างทรงตัวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากมีการประกาศผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนและพบว่าแต่ละบริษัทมีทิศทางการเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างผสมกัน บางบริษัทออกมาดี บางบริษัทออกมาแย่ ส่งผลให้ VIX index ที่เป็นดัชนีวัดความกลัวหรือความผันผวนปรับลดลงประมาณ 33% ในเดือนนี้
- Goldman Sachs มองว่า FED น่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้และยาวไปจนถึงปีหน้า คาดว่าจะปรับตัวขึ้น 100 Basispoint และ ไม่เป็นผลดีกับทองคำมองว่าทองจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ $1000 ในระยะเวลา 12 เดือนข้างหน้า ความเห็นนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับ Blackrock ที่มองว่า จะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้เช่นกัน ทั้งนี้ Blackrock เป็นหนึ่งในเจ้าพ่อของการลงทุ่นระดับโลกโดยเฉพาะพันธบัตร
- ไม่ค่อยมีข่าวอะไรประกาศออกมานักสำหรับ ECB ในช่วงนี้ แต่กำลังจะมีผลการประชุมเวลา 19.30 ตามเวลาบ้านเราในวันนี้ การประชุมครั้งนี้จะจัดขึ้นที่ Malta ซึ่งในเดือนนี้จะเป็นประเด็นเกี่ยวกับจะเพิ่มวงเงินหรือขยายระยะเวลาในการผ่อนคลายนโยบายจากเดิมที่ 1 ล้านล้านยูโร ทั้งนี้สมาชิกใน ECB ต่างมองไปในทางที่ว่า ยังไม่น่าจะมีอะไรเพิ่มเติมจากปัจจุบันเพราะ ระยะเวลาในปัจจุบันก็ยาวไปจนถึงเดือนกันยายนปี 2016 แล้ว ต้องติดตามว่าจะเป็นเช่นไร
- ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง หลังจากเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นจีนปิดทำการไป 1 วันและเปิดมาวันนี้ก็ได้รับปัจจัยลบหลังจากไม่มีปัจจัยอะไรใหม่ๆเข้ามาและยอดส่งออกของญ่ปุ่นเมื่อวานนี้ก็ออกมาค่อนข้างน่าผิดหวัง
- ผู้ว่า ธปท มองว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 2.7% ในขณะปีหน้าคาดว่าจะโต 3.6-3.7% ซึ่งมองการส่งออกว่าน่าจะฟื้นตัวขึ้นในปีหน้าหลังจากในปีนี้คาดว่าจะหดตัว –5% และยังได้รับปัจจัยบวกจากภาคการท่องเที่ยวที่ยังแข็งแกร่ง
- เมื่อวานมีการประกาศตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบออกมาพบว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมามีการสต๊อกเพิ่ม ทั้งนี้ในสัปดาห์นี้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเกือบ 5% หลังจากขึ้นมาแรงในช่วงก่อนหน้า
- เทรดเดอร์มองว่า ราคาที่ไปยืนบน $1175 ที่เป็นค่าเฉลี่ย 200 วัน แล้วกลับลงมาถึง $10 ค่อนข้างเป็นปัจจัยลบกับราคาทองคำ
แนวทางทองคำวันที่ 21-10-2558
แนวรับ 1173 1169 1165 แนวต้าน 1178 1183 1190
ในวันนี้มองว่ากรอบราคาน่าจ
ทางเลือกรอง : ในวันนี้ยังมองการแกว่งตัวไ
USD/THB
ต่างชาติยังซื้อสุทธิในตลาด
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ตลาดหุ้นอเมริกายังค่อนข้าง
- ตัวเลขยอดขออนุญาติก่อสร้าง
- จะมีการเจรจาเรื่องการขยายเ
- ตลาดหุ้นยุโรปค่อนข้างทรงตั
- เมื่อวานนี้เป็นการเข้าตลาด
- ตัวเลขการส่งออกของญี่ปุ่นข
- มีข่าวเกี่ยวกับเรื่อง sinostell ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำเหล็กอย
- ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจา
แนวทางทองคำวันที่ 20-10-2558
แนวรับ 1165 1160 1155 แนวต้าน 1173 1178 1183
ราคาตกลงมาแนวรับบริเวณ 1165 + - บริเวณนี้เรียบร้อย ซึ่งระดับบริเวณนี้มองว่าน่
ทางเลือกรอง : มองว่าราคาไหลหลุด 1165 ไปเลย จะเริ่มปรับตัวลงไปอีกรอบหน
ต่างชาติกลับมา Long สุทธิประมาณ 5000 สัญญา เมื่อวานนี้ไม่ได้มีทิศทางท
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- เมื่อวานไม่มีประกาศอะไรมาก
- ตลาดหุ้นอเมริกาเริ่มแสดงคว
- ช่วงนี้เป็นช่วงทยอยประกาศผ
- ทางฝั่งยุโรปก็ไม่ได้มีข่าว
-ตลาดหุ้นเอเชียยังค่อนข้าง
- ข้อมูลจาก CFCT พบว่า กองทุน Hedge fund เพิ่มสถาะ Long สุทธิในฟิวเจอร์เพิ่มมากขึ้
- กองทุน SPDR เริ่มขายออกครั้งแรกในรอบหล
- มีความเห็นจากนักวิเคราะห์ว
ปัจจัยที่ต้องติตตาม
USD
20.15 FOMC Speaks
แนวทางทองคำวันที่ 19-10-2558
แนวรับ 1170 1165 1160 แนวต้าน 1173 1178 1183
วันศุกร์จนถึงเช้าวันจันทร์
ทางเลือกรอง : หากราคาลงแล้วหลุดไปเลย นั่นคือสิ่งที่ต้องระมัดระว
ต่างชาติยังไม่ได้ทำไรมาก เมื่อวันศุกร์ Short สุทธิเพียงเล็กน้อย แต่ระดับปัจจุบันนั้นต่างชา
รายละเอียด
- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวเพิ่
- ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเล
- จีนประกาศตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 3 ปรับตัวลดลงเหลือระดับ 6.9% แต่น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ท
- ประธาน BOJ คนก่อนได้ออกมาแสดงความเห็น
- เทรดเดอร์ประเมินว่าทองคำยั
- SPDR เพิ่มการถือครองทองคำอีก 5.1 ตันสู่ระดับ 700 ตันในวันพฤหัสที่ผ่านมา เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ก
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
USD
21.00 FOMC Member speaks
Resistance 1185 1190 1195
Support 1179 1175 1172
ราคาทองคำ ผันผวนเมื่อคืนนี้ระหว่างวันได้พยายามปรับตัวขึ้นไประดับ 1190 แต่ยังเจอแรงขายออกมาค่อนข้างมาก และทิศทางเมื่อคืนค่อนข้างผันผวน วันนี้ดูเริ่มการปรับตัวลงมาด้านล่างโดยประเมินแนวรับแรกแถวบริเวณ 1176 แต่ยังคาดว่าราคาจะปรับลงมาบริเวณเส้นแนวโน้ม ขาขึ้นที่บริเวณ 1170 หรือต่ำกว่านั้นเล็กน้อยได้ ทั้งนี้การปรับตัวลงมานั้นยังไม่ได้มองเป็นขาลงแต่อย่างใด เป็นการพักตัวในแนวโนม้ขาขึ้นและเมื่อมาถึงแนวรับแล้วเราจะมาติดตามกันอีกคร้ัง
ทางเลือกรอง : ยังให้น้ำหนักเกิดน้อยกว่าคือ ราคาวิ่งผ่าน 1185-1190 ขึ้นไป หากราคาเลือกที่จะขึ้นก่อน ยังคงให้ใช้ความระมัดระวังเช่นเดิม ไม่คุ้มค่า กับความเสี่ยงที่จะโดนพักฐานลงมา
USD/THB ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยเล็กน้อยกว่า 900ล้านบาท ส่วนตลาดฟิวเจอร์น่าสนใจอีกครั้งหลังจากต่างชาติยังคง Long สุทธิในฟิวเจอร์เพิ่มมากถึง 11,000 สัญญา ทิศทางตลาดหุ้นน่าสนใจมากยังมองว่า จะขึ้นต่อไปอีกสักระยะ ในขณะที่ระยะสั้นระวังการย่อตัวเล็กน้อยหลังจากขึ้นแรง ส่วนทิศทางค่าเงินบาทเห็น Bullish divergent ในระยะ H4 ซึ่งมองว่า เงินบาทน่าจะเริ่มอ่อนค่าอีกคร้ัง ให้ระมัดระวังตรงนี้ด้วย
US - ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ CPI ออกมาที่ระดับ –0.2% จากเดือนก่อนหน้า -0.1% แต่เงินเฟ้อ หมวดไม่รวมสินค้าหมวดอาหารและพลังงานปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 0.2% จากเดือนก่อน หน้า 0.1% จากตัวเลขเงินเฟ้อจะเห็นว่า เงินเฟ้อถ้าไม่นับราคาพลังงานที่ปรับตัวลดลงมายังปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ส่วนจำนวนคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลดลงสุ่จุดต่ำสุดใหม่ที่ระดับ 255K ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี นำไปสู่การทำให้ราคาทองคำปรับตัวผันผวนจากความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของอเมริกาเช่นเดิม หลายคนเห็นตัวเลขออกมาดีก็ให้น้ำหนักว่าจะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ ทั้งนี้มองว่าข่าวเรื่อง ขึ้นหรือไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวมองว่า ไม่ได้มีนัยสำคัญเท่าไรในช่วงนี้
EU - ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับ ตลาดหุ้นอเมริกา ถึงแม้ รายงานผลประกอบการส่วนใหญ่จะออกมามีทั้งบวกและลบ อย่างเช่น Burberry รายงานว่ามียอดขายโตเพียง 2% (Miss estimate) เนื่องจากตลาดอย่างจีนชะลอตัวส่วน ค่ายรถยนต์ Volkswagen ปรับตัวลดลงเช่นกันเนื่องจากมีการเรียกคืนรถยนต์ที่ใช้เครื่อง ดีเซลเป็นจำนวนประมาณ 8.5 ล้านคัน ส่วนหุ้นของ Unilever ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.6% หลังจากรายงานยอดขายเติบโต 9.4%
ASIA - ตลาดหุ้นทางฝั่งเอเชียปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากการนำมาของตลาดหุ้นอเมริกาและยุโรป ฝั่งที่โดดเด่นเห็นจะเป็นตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ปรับตัวขึ้นกว่า 1.4% หลังจากค่าเงินดอลลาร์/ เยน อ่อนค่าลงเมื่อวาน ที่ผ่านมาและเป็นมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มที่ส่งออกหลักๆ อย่างเช่น Canon Sony Toyota ที่ต่างปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในวันนี้
Commodities - SPDR ซื้อทองคำ เพิ่มอีก 7.7 ตัน เมื่อวานที่ผ่านมาเป็นการซื้อวันเดียวที่มากสุด นับตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์(2 ก.พ.)
- ความต้องการทองคำแท่งยังคงไม่ดีนัก ล่าสุดค่าพรีเมียมของตลาด Gold exchange ของจีนปรับตัวลดลงเหลือ $0.5
จากช่วงก่อนที่อยู่ระหว่าง $2-3
- ผลสำรวจของรอยเตอร์ยังพบว่าทองคำมีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงอีกในปี 2016