ประชาสัมพันธ์
แนวทางทองคำวันที่ 27-11-58
แนวรับ 1068 1065 1055 แนวต้าน 1072 1075 1078
ราคายังคงแกว่งตัวในกรอบ ซึ่งปัจจุบันยังขาดปัจจัยให
ทางเลือกรอง : ราคายังแกว่งตัวในกรอบ บนบริเวณเหนือแนวรับ 1068 จะยังมองว่า ทำรูปแบบสามเหลี่ยมต่อไป
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงต่อเ
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- เนื่องจากเป็นวันหยุดทำการข
- Goldman sachs ออกมาให้ความเห็นว่า ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบันด
- ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้
- สถานการณ์ความไม่สงบระหว่าง
- ตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่นหด
- Bank of America เปิดเผยว่า ได้เห็นแรงขายออกจากกลุ่มโล
- การนำเข้าทองคำของจีนปรับตั
แนวทางทองคำวันที่ 26-11-58
แนวรับ 1072 1068 1065 แนวต้าน 1076 1078 1085
ราคาเมื่อวานนี้ไม่ได้ทำรูป
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยยังไม่มีทิศทางท
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่าง
- ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนปรับต
- ดัชนีเงินเฟ้อ Core PCE ทรงตัว 0% ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้
- ค่าเงินยูโร ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดใ
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภ
- ตลาดหุ้นทางฝั่งเอเชียปรับต
- ทองคำปรับตัวลดลงต่อเมื่อวา
- ทองคำที่ได้รับปัจจัยบวกจาก
แนวทางทองคำวันที่ 25-11-58
แนวรับ 1075 1070 1068 แนวต้าน 1080 1086 1100
ราคาได้รับปัจจัยบวก (ระยะสั้น)จากความไม่สงบระหว่างรัสเซียและตุรกี และส่งให้ราคามาทดสอบระดับ 1080 ซึ่งระดับนี้มองว่า เป็นแนวต้านสำคัญแนวหนึ่ง ราคาเคยทดสอบถึง 5 ครั้งและยังไม่ผ่าน กรณีผ่านไปได้จะเจอแนวต้านสุดท้ายที่ 1086 และถ้าผ่านรูปแบบนี้ไปได้จะยืนยันการเป็น Double bottom และจะปรับตัวขึ้นไปใกล่ 1100 ภาพรายวันส่งสัญญาณชะลอการลงเมื่อวานนี้ แต่เช่นเดิม ต้องติดตามว่า จะผ่านได้หรือไม่ เพราะปัจจัยบวกค่อนข้างน้อยในช่วงนี้
USD/THB
ตลาดหุ้นปรับตัวลดลง –9 จุดเมื่อวานนี้ ทิศทางโดยรวมยังมองว่า ไม่ได้มีนัยสำคัญเช่นเดิม ยังคงเป็นการแกว่งตัวไปมาแบบ Sideways เนื่องจากปัจจัยบวกและลบเข้ามาพร้อมๆกัน ทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติค่อนข้างเบาบางลง แต่ยังซื้อสุทธิอยู่เล็กน้อย ส่วนทิศทางค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าระยะสั้นโดยมีแนวรับบริเวณ 35.60
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ตัวเลข GDP ของอเมริกาออกมาเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ 1.5% และคาดการณ์ที่ 2.0% ออกมาขยายตัวมากกว่าที่คาดการณ์ด้วยสำหรับตัวเลข GDP ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลงแรงสู่ระดับ 90.4 จากเดือนก่อนหน้า 99.1 และคาดการณ์ 99.3 ข่าวทั้งสองข่าวนี้เป็นทั้งบวกและลบกับทองคำ
- ตลาดหุ้นอเมริกาค่อนข้างทรงตัวหลังจากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้น เมื่อวานช่วงเย็นตามเวลาบ้านเรา ได้มีเครื่องบินรบรัสเซียถูกเครื่องบินรบตุรกีโจมตี เนื่องมาจาก ตุรกี กล่าวอ้างว่า เครื่องบินของรัสเซียได้บินเข้ามาในน่านฟ้าของตุรกีที่ติดกับพรมแดนซีเรีย และ รัสเซียก็ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจ และ ทองคำได้รับปัจจัยบวกเข้ามา จากตรงนี้ถึงแม้ว่าจะมีตัวเลข GDP ที่ออกมาดีก็ตาม
- ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงแรงกว่า 1.6% หลังจากมีข่าวเรื่อง ความไม่สงบระหว่างรัสเซียและตุรกี ถึงแม้ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นจะเป็นปัจจัยบวกทางด้านเงินเฟ้อให้กับยุโรปแต่นักลงทุนยังแสดงความวิตกกังวลกับสถานการณ์ดังกล่าว นอกจากนี้กลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักสุดคือ กลุ่มท่องเที่ยวและขนส่ง เนื่องจากผู้คนเริ่มแสดงความกังวลที่จะเดินทางมากขึ้น
- ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเยอรมันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในเดือนที่ผ่านมา
- ธนาคารกลางญี่ปุ่นเปิดเผยผลการประชุม BOJ ในวันที่ 30 ตุลาคม พบว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นคาดว่าจะชะลอตัวลงในปี 2017 เนื่องจากการขึ้นภาษีการบริโภค และแสดงความกังวลเกี่ยวกับโครงสร้างการส่งออก หลังจากล่าสุดตัวเลขส่งออก ออกมาที่ระดับ –2.1% ซึ่งต่ำสุดในรอบ 14 เดือน
- ผู้นำจีนยังยืนยันว่า เศรษฐกิจจีนจะเติบโตระดับ 7% ในปีนี้ ซึ่งกำลังจะผ่านช่วงการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่จะเน้นการเติบโตระยะกลางถึงยาว
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นร่วม 3% เมื่อวานนี้หลังจากมีเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างรัสเซียและตุรกี
- จากเหตุการณ์เครื่องบินรัสเซียถูกยิงดังกล่าว ได้ส่งผลให้ทองคำได้รับปัจจัยบวกในระยะสั้นนี้ด้วยเนื่องจากการเป็น Safe-haven ทั้งนี้มองว่าหากเหตุการณ์ไม่ลุกลามจนเกินไป คาดว่าการขึ้นของทองจะเป็นไปอย่างจำกัด
แนวทางทองคำวันที่ 24-11-58
แนวรับ 1068 1066 1060 แนวต้าน 1073 1074 1077
ราคาปรับตัวลดลงมาสู่แนวรับบริเวณ 1066-1068 บริเวณนี้และยังไม่หลุดก่อนที่จะมีแรงรีบวาน์ขึ้นไป ซึ่งการรีบาวน์มองแนวต้านไว้ประมาณ 1075 แต่อาจจะไม่ถึง เนื่องจากแนวโน้มยังคงดูอ่อนแอ และหากราคาปรับตัวลดลงเกินกว่า 1066-1068 ลงมา จึงจะมองว่า เริ่มลงอีกครั้ง (หากยังไม่หลุดราคาก็จะยังคงแกว่งตัวในกรอบแบบอืดๆ) ในวันนี้จะมีการประกาศตัวเลข GDP ของอเมริกาในเวลา 20.30 ตามเวลาบ้านเรา คาดว่าจะขยายตัว 2.0% เร่งตัวจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นปัจจัยลบกับทองคำ
ทางเลือกรอง : ราคาที่ปรับตัวขึ้นเกินกว่า 1075 ก็จะทำให้ชะลอตัวทางฝั่งลง มองว่าจะกลายเป็น Sideways ถึงขึ้นเล็กน้อย
USD/THB
ต่างชาติซื้อสุทธิและยังคง Long สุทธิในตลาดหุ้นไทย ดัชนี SET เมื่อวานนี้ปิดสูงขึ้น แต่ยังมองว่าไม่ได้มีนัยสำคัญเท่าไรนัก ยังไม่ได้มีปัจจัยอะไรที่เข้ามากระทบ คาดว่าจะรอตัวเลข GDP เช่นเดียวกัน ส่วนทิศทางค่าเงินบาทยังมองว่าแกว่งตัวในกรอบแบบไม่มีนัยสำคัญเช่นกัน กรอบการเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 35.66 และ 35.94
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ยอดขายบ้านมือสอง (Existing home sales) ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 5.36M จากเดือนก่อนหน้า 5.55M และคาดการณ์ 5.39M ทั้งนี้แนวโน้มโดยรวมของยอดขายบ้านมือสองยังคงอยู่ในแนวโน้มที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
- คุณ เจเนต เยลเลน ประธาน FED ได้กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยที่กำลังจะขึ้นเป็นประโยชน์ต่อผู้ออมเงินชาวอเมริกัน และจะเป็นยุคที่ดอกเบี้ยค่อยๆเพิ่มสูงขึ้นทีละน้อย ทั้งนี้ การปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจะยังคงเป็นไปอย่างชั่วคราว
- ตลาดหุ้นปรับตัวค่อนข้างทรงตัวเมื่อวานนี้ ระดับปัจจุบันนั้นอยู่ใกล้ระดับจุดสูงสุดเดิมที่เคยทำไว้ ตลาดยังคงจับตาดูตัวเลข GDP ที่จะประกาศในคืนนี้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ตัวเลขคาดการณ์นั้นออกมาดีขึ้นที่ระดับ 2%
- ตัวเลข Flash manufacturing PMI ของยุโรปออกมาปรับตัวสูงขึ้นเกือบทั้งหมด ทำให้ Flash PMI ของยูโรโซน ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 52.8 จากเดือนก่อนหน้า 52.3 ซึ่งนับเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปีที่แล้ว ทั้งนี้ตลาดหุ้นยังค่อนข้างทรงตัวเมื่อวานนี้ ทั้งนี้นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า ดัชนี PMI ที่เร่งตัวขึ้นเป็นสัญญาณการเติบโตที่ดี และ คาดว่าจะได้เห็นการเติบโตที่เร่งขึ้นมากสุดเมื่อเทียบเป็นไตรมาสในรอบ 4 ปีครึ่ง และ ถึงแม้จะมีเหตุการณ์เรื่องก่อการร้ายก็ยังขยายตัวได้ดี
- ฝั่งตลาดเอเชียในช่วงนี้ไม่ได้มีข่าวอะไรเพิ่มเติมนัก เมื่อวานญี่ปุ่นปิดทำการ 1 วัน ล่าสุดหุ้นเอเชียเปิดตลาดมาค่อนข้างผันผวน คาดว่าส่วนหนึ่งยังคงรอข่าว GDP ของอเมริกาที่จะประกาศในคืนนี้เวลา 20.30 ตามเวลาบ้านเรา
- ตลาดเอเชียรวมทั้งตลาดทั่วโลก เริ่มหันไปให้น้ำหนักกับการประชุม OPEC มากขึ้น ซึ่งผลการประชุมจะจัดขึ้นในวันที่ 4 ธันวาคม 2015 นี้ ติดตามว่าจะมีการลดกำลังการผลิตเพื่อพยุงราคาหรือไม่
- ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ไล่ไปตั้งแต่น้ำมันดิบ โลหะต่างๆ เช่น นิคเกิล ทองแดง ทองคำ ซิลเวอร์ ปรับตัวลดลงทั้งหมด โดยได้รับแรงกดดันจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และ ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าแตะระดับ 100 จุด โดยเฉพาะทองแดง (Copper) ที่ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี
- SPDR ปรับลดการถือครองทองคำลงอีก 0.18% สู่ระดับ 660.75 ตัน
แนวรับ 1068 1066 1060 แนวต้าน 1073 1074 1077
จากรูปแบบแท่งเทียน Bullish ในวันก่อนหน้า ปรากฎว่า ราคาปรับตัวสูงขึ้นวันถัดมาแต่ก็กลายเป็นปิดลบ และล่าสุดราคาได้เสียทรงลงมาแนวรับ 1068 บริเวณนี้ หากหลุดจากบริเวณนี้ไปมองว่าจะเริ่มลงอีกครั้ง ระดับราคาปัจจุบันมองว่า ฝั่งขึ้นได้เริ่มเสียความได้เปรียบไป หลังจากราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1073 ลงมา ซึ่งหากราคายังไม่ปิดเหนือ 1073 ได้นี้ให้ระมัดระวังทางฝั่งลง ภาพรายสัปดาห์ก็ดูไม่ดีเช่นเดียวกัน ยังไม่เห็นสัญญาณกลับตัวที่มีนัยสำคัญ
ทางเลือกรอง : ราคาปิดเหนือ 1073 ได้ มองว่า จะเริ่มชะลอการปรับตัวลดลงในระยะสั้นนี้
USD/THB
กระแสเงินทุนต่างชาติยังไม่ได้มีนัยสำคัญเท่าไรนัก มีการเพิ่ม Long สุทธิในฟิวเจอร์เล็กน้อยกว่า 3000 สัญญา ภาพรวมของตลาดหุ้นยังมองว่าเป็นการแกว่งตัว Sideways ในภาพรวม แต่เริ่มมีทิศทางรีบาวน์ขึ้นมาอีกรอบหนึ่ง แต่ยังมองว่าค่อนข้างน้อย จากปัจจัยบวกและลบที่ออกมาสลับกันในแต่ละวัน ส่วนค่าเงินบาทแนวต้านระยะสั้นจะอยู่บริเวณ 35.80 นี้เอง ยังมองว่าให้ราคาเคลื่อนไหวแถวนี้ไปอีกสักพักหนึ่ง
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ประธาน FED สาขา St.Louis คุณ James Bullard กล่าวว่า นักลงทุนควรจะเตรียมตัวรับมือกับความผันผวนในอนาคต และมองว่า ยุคอัตราดอกเบี้ยต่ำกำลังจะหมดไป ต่อไปจะเจอกับ ยุคที่ต้องคาดการณ์การเคลื่อนไหวของธนาคารกลางแบบเดือนต่อเดือน (ติดตามการประชุมทุกๆเดือนเพื่อดูท่าทีนโยบายการเงินที่จะส่งสัญญาณออกมา)
- รองประธาน FED คุณ Fischer ให้ความเห็นว่า ประธาน FED เห็นพ้องกันว่า ควรจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ และตลาดเกิดใหม่รวมถึงเอเชียได้เตรียมรับมือกับเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว และบอกว่าสิ่งที่ FED ควรจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นคือ “Just do it”
- กระแสคู่เงินยูโรและดอลลาร์กำลังกลับมา เนื่องจากในเดือนหน้าจะมีเรื่องของการขึ้นดอกเบี้ยของ US ขณะที่น่าจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจจาก EU
- กรีซได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ให้ไว้กับ EU เมื่อครั้งที่ขอรับความช่วยเหลือ ในขณะที่กรีซจะได้รับเงินช่วยเหลืองวดถัดไปในวันนี้วงเงิน 2 พันล้านยูโร เพื่อนำไปปรับโครงสร้างทุนของธนาคารพาณิชย์
- ตลาดหุ้นเยอรมันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน และเป็นสัปดาห์ที่มีการปรับขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม ปัจจัยหลักที่ได้รับ คือ คาดการณ์ว่า ECB จะมีมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมอีกในเดือน ธันวาคม
- วันนี้เป็นวันหยุดทำการของตลาดหุ้นญี่ปุ่น (Labor Thankgiving day) จึงทำให้ไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ ส่วนตลาดหุ้นเอเชียยังเปิดบวกอยู่เล็กน้อยเนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากฝั่งยุโรปและอเมริกาที่ส่งมาทางบวก
- มีข่าวเกี่ยวกับการเก็บภาษีของไทยว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ หลังจากได้มาประมาณ 34 แนวทาง เช่น อาจเพิ่มค่าลดหย่อนเป็น 120,000 บาทสำหรับบุคคลธรรมดา ซึ่งหากลดการเก็บภาษีจะเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจโดยรวม
- จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง พบว่ากลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันได้รับผลกระทบหนักที่สุด และ คาดว่าจะเกิดการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทน้ำมันเยอะขึ้น
- กองทุน SPDR ปรับลดการถือครองทองคำลงอีก 0.18% สู่ระดับ 660.75 ตัน ยังคงเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ กันยายน 2008 ส่วนกองทุน Hedge fund เปลี่ยนสถานะกลายเป็น Bearish ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาข้อมูลจาก CFCT
แนวทางทองคำวันที่ 20-11-58
แนวรับ 1078 1074 1070 แนวต้าน 1085 1098 1111
เมื่อวานเกิดเป็นแท่งเทียน Bullish เป็นวันแรกหลังจากปรับตัวลด
ทางเลือกรอง : ในวันนี้หากปิดต่ำกว่าระดับ
USD/THB
เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทย SET index ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วยังแกว่งตัวอย
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่าง
- ดัชนีภาคการผลิต Philly FED ออกมาที่ระดับ 1.9 จากเดือนก่อนหน้า –4.5 และคาดการณ์ 0.1 ทั้งนี้ดัชนีตัวนี้ไม่ได้มี
- รองประธาน FED คุณ Fisher ได้ออกมาให้ความเห็นว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนา
- รายงานการประชุม ECB พบว่า น่าจะมีมาตรการผ่อนคลายนโยบ
- ธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราดอ
- ตัวเลขการส่งออกญี่ปุ่นหดตั
- ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงมาเ
แนวทางทองคำวันที่ 19-11-58
แนวรับ 1073 1070 1065 แนวต้าน 1079 1085 1090
ผลการประชุม FOMC แนวโน้มส่งไปในทางขึ้นดอกเบี้ยปีหน้าแน่นอน (โดยปกติเป็นข่าวลบ) ทั้งนี้ระยะสั้นราคารีบาวน์ขึ้นมาจากการรับข่าวและคาดว่าจะขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป การรีบาวน์ในวันนี้อยากให้เกินกว่าระดับ 1085 ถึงจะดี และ หากเกิน ยังมองเป้า 1100-1111 ไว้ในใจ สำหรับที่จะรอเปิดสถานะขายลงมาจากบริเวณนั้น เนื่องจากมองว่าเป็นการรีบาวน์ก่อนที่จะปรับตัวลดลงต่อ เพราะ ภาพรวมของข่าวยังเป็นปัจจัยลบอย่างมาก แต่ระยะสั้นอยู่ในภาวะอิ่มตัวจากการขายมาสักพัก
ทางเลือกรอง : ราคาขึ้นไม่ผ่าน 1085 ยังมองว่า ไม่ได้มีนัยสำคัญฝั่งขึ้นอย่างโดดเด่นและต้องออกมารอดูตลาดกันอีกครั้งหนึ่งก่อน
USD/THB
ตลาดหุ้นปรับตัวลดลง แต่ยังมองว่า การลดลงนั้นยังเป็นการแกว่งตัวออกข้างมากกว่า เพราะ ได้รับปัจจัยบวกมาจากตลาดหุ้นและทิศทางที่ยังดูชะลอการขึ้นดอกเบี้ยไปปีหน้ามากกว่า ยังไม่เห็นการเคลื่อนไหวที่มีนัยสำคัญในช่วงนี้ และ ยังมองว่าต้องติดตามรายวันมากกว่า ส่วนทิศทางค่าเงินบาท แข็งค่าลงมาเล็กน้อย แต่ยังมองว่า หากแข็งค่าลงมาแค่ระดับนี้ยังให้น้ำหนักทางอ่อนค่าต่อไปอีก
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ผลการประชุม FOMC เมื่อวานนี้พบว่าความน่าจะเป็นที่ FED จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ธันวาคมนั้นมีสูงมาก ความเห็นปัจจุบันแยกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกที่เป็นกลุ่มใหญ่สุด มองว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะส่งให้อัตราดอกเบี้ยขึ้นได้พอดีในเดือนหน้า อีกกลุ่มหนึ่งมองว่า ระดับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปัจจุบันสามารถขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ได้เลย และกลุ่มสุดท้ายซึ่งกลายเป็นกลุ่มน้อยไปแล้ว มองว่า ยังไม่สามารถขึ้นได้ ทั้งนี้มองเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อจะสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้ในระยะกลาง
- จากข่าวเรื่องการขึ้นดอกเบี้ย มองว่า ก้าวของการขึ้นจ่ะค่อยๆเป็นไปอย่างค่อยๆไป ซึ่งตลาดเริ่มรับข่าวไปแล้วส่วนหนึ่ง หลังจากประกาศ ทองคำ หุ้น น้ำมัน รวมถึงค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นพร้อมๆกัน
-ตลาดหุ้นทางฝั่งยุโรปปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นอเมริกา ถึงแม้จะมีเหตุการณ์ความไม่สงบในฝรั่งเศสขึ้น มีการจับกุมผู้ต้องหา 10 รายที่คาดว่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อการร้ายเมื่อสิ้นสัปดาห์ที่ผ่านมา และ 2 คนได้เสียชีวิตระหว่างมีการดำเนินการของตำรวจ ส่วนอีก 8 รายได้ถูกจับกุมได้เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ข่าวความไม่สงบดังกล่าวกลับส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นยุโรปค่อนข้างน้อย และภาพโดยรวมก็ออกมายังค่อนข้างไม่มีทิศทางที่มีนัยสำคัญ
- การใช้จ่ายของรัฐบาลจีนปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 18.1% ในช่วง 10 เดือนแรกของปี และนักวิเคราะห์คาดว่า จีนจะใช้นโยบายขาดดุลทางการคลังต่อไป เพื่อมาช่วยนโยบายทางการเงินที่ดำเนินการไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ผลเท่าไรนัก ประเมินว่าการขาดดุลของรัฐบาลจะอยู่ที่ 2.6%-3% ของ GDP ในปีหน้า
-จีนในปัจจุบันได้กลายเป็นผู้ซื้อทองคำมากขึ้น หลังจากประเทศอื่นขาย เนื่องจากการตกต่ำของตลาดหุ้น ปัจจุบันการนำเข้าทองคำของจีนจากฮ่องกงสูงสุดในรอบ 19 เดือน
- ราคาเหล็กปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 7 ปี หลังจากความต้องการเหล็กของจีนปรับตัวลดลง รวมทั้งมีข่าวเรื่องบริษัทเหล็กหลายบริษัทจะปิดตัวลง ถึงแม้ Supply จะมีแนวโน้มลดลง แต่ Demand มีแนวโน้มที่ลดลงไวกว่า
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นหลังจากมีการ Short-covering ท่ามกลางข่าวสต๊อกน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง และ กิจกรรมหน้าโรงกลั่นมีความคึกคักขึ้น
แนวทางทองคำวันที่ 18-11-58
แนวรับ 1062 1060 1050 แนวต้าน 1073 1080 1085
ราคาปรับตัวลดลงต่อเนื่องมา 16 วันทำการ เมื่อนับจากเดือนก่อนหน้าปรับตัวลดลงกว่า 10% ซ้ำด้วยเมื่อวานนี้ที่มีการประกาศตัวเลข CPI ที่ออกมาขยายตัวมากขึ้น และคาดการณ์ว่า จะทำให้การขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้าเป็นไปด้วยความสบายใจมากขึ้น ซึ่งวันนี้ต้องดูผลการประชุม FOMC ว่าจะเป็นเช่นไร ตลาดในปัจจุบันให้น้ำหนักกับทางขึ้นดอกเบี้ยค่อนข้างสูงในเดือนหน้า (มากกว่า 70%) ในวันนี้ด้วยภาพรวมที่ยังดูไม่ดี แต่มีข้อขัดแย้งหลายฝั่ง จึงแนะนำให้รอออกมาดูก่อน
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยทรงตัวเล็กน้อยหลังจากเห็นแท่งเทียน Bullish ในวันก่อนหน้า ตามมาด้วยแท่งเทียนที่ทรงตัว มองว่า จะมีการแกว่งตัวออกข้างสักพัก แต่ต้องติดตามผลการประชุมในคืนนี้ด้วย เพราะ ลักษณะการเคลื่อนไหวของหุ้นไทยกับทองคำในช่วงนี้มองว่า เป็นไปในทิศทางเดียวกันเพราะรับข่าวเรื่องขึ้นดอกเบี้ยเหมือนกัน ส่วนทางฝั่งค่าเงินบาทนั้นมองว่าหลุดจากแนวต้าน 36.00 มาเรียบร้อยแล้ว
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ออกมาขยายตัวสู่ระดับ 0.2% จากเดือนก่อนหน้าหดตัว –0.2% และคาดการณ์ 0.2% ทางฝั่งดัชนีราคาสินค้าหมวดไม่รวมสินค้าประเภทอาหารสดและพลังงานขยายตัว 0.2% เช่นกัน นำไปสู่การคาดการณ์ที่ว่า อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นนี้จะทำให้ FED ขึ้นดอกเบี้ยได้อย่างสบายใจมากขึ้นในเดือนหน้า
- ดัชนีตลาดบ้าน (Housing index) ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 62 จุด จากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 65 จุด และคาดการณ์ 64 จุด
- นักวิเคราะห์ต่างประเทศมองว่า นักลงทุนต่างหลีกเลี่ยงที่จะเปิดสถานะหนักๆในวันนี้ เนื่องจากจะมีผลการประชุม FOMC ทั้งนี้ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางการประกาศผลประกอบการที่ยังเหลืออยู่แต่ยังไม่ได้มีนัยสำคัญเท่าไรนัก
- เมื่อวานมีการอพยพคนออกจาสนามฟุตบอลเนื่องจากมีข่าวว่าอาจจะมีการก่อการร้ายในสนามฟุตบอลแห่งนี้ขึ้น ในสนามตอนนั้นเป็นการแข่งขันระหว่าง เยอรมัน และ เนเธอแลนด์ ก่อนที่จะถูกยกเลิกไป
- ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางการประกาศผลประกอบการเช่นกัน นำโดยกลุ่มรถยนต์ที่ปรับตัวสูงขึ้น (Volkswagen ปรับตัวลดลง) และเลิกที่จะสนใจข่าวเรื่องระเบิดที่สนามฟุตบอล นอกจากนี้ยังได้รับความคลายกังวลสถานการณ์ในฝรั่งเศส
- ข่าวทางฝั่งเอเชียยังไม่มีอะไรมากในช่วงนี้ หลังจากจีนและญี่ปุ่นไม่ได้มีการดำเนินนโยบายอะไรเพิ่มเติมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีเพียงประกาศตัวเลข GDP ของญี่ปุ่นที่ออกมาเข้าสุ่ภาวะถดถอยในไตรมาสที่ผ่านมา
- นายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา มอบหมายให้รองนายกเร่งจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน หลังจากมีเงินใช้จ่ายไม่เพียงพอและมีแนวโน้มจะขอให้ฝั่งเอกชนมาร่วมลงทุนกับกองทุนเหล่านี้ด้วย
- ทองคำปรับตัวลดลงกว่า 10% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ถึงแม้จะมีข่าวเรื่องความไม่สงบในฝรั่งเศส แต่ราคาก็ไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้เนื่องจาก ค่าเงินดอลลาร์ยังมีแนวโน้มี่ยังทำจุดสูงสุดใหม่เรื่อยๆโดยเฉพาะในช่วงเดือนหลังนี้
- สต๊อกน้ำมันดิบที่คาดว่าจะประกาศในวันนี้ ยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังคอยกดดันราคาน้ำมันดิบและ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งกลุ่ม
แนวทางทองคำวันที่ 17-11-58
แนวรับ 1080 1075 1070 แนวต้าน 1083 1085 1090
เมื่อวานราคาได้ลงมาปิด GAP บริเวณ 1083 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งปัจจุบันมองว่า ทรงยังไม่สวยนัก หลังจากปิดแล้วไม่ยอมรีบาวน์ ยังให้น้ำหนักทางฝั่งลงในภาพรวม แต่ระยะสั้นด้วยภาวะ Oversold ต่อเนื่องกันมานาน จึงมองว่า ยังไม่คุ้มเสี่ยงที่จะขายก่อนตรงระดับนี้ และยังไม่ควรซื้อก่อนเช่นกัน ทางเลือกที่ดีที่สุด คือ รอขายขณะที่ราคาขึ้นไปใกล้ระดับ 1100 หรือสูงกว่าอีกครั้ง หรืออีกทางเลือกหนึ่ง ซื้อบริเวณนี้โดยตั้งจุด Stop loss บริเวณ 1075-1080 เพื่อลุ้นการรีบาวน์ระยะสั้น
ทางเลือกรอง : ราคายังไหลลงต่อเนื่องหลุด 1075 ถึงแม้จะลงก็ยังต้องใช้ความระมัดระวังเพิ่มขึ้น เพราะ ไม่มีตัวไหนลงไปตลอดขาเดียวโดยไม่มีรีบาวน์ขึ้นมาพัก
USD/THB
เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงแรงในช่วงเช้าก่อนที่จะมีแรงซื้ออย่างหนาแน่นกลับเข้ามา และแท่งเทียนที่เจอกลายเป็นแท่งเทียนกลับตัว (Bullish ) ในระยะสั้น ซึ่งเป้นสัญญาณขึ้นแท่งแรก ถึงแม้จะพึ่งเริ่มแต่ก็ยังมองว่า แนวโน้มดูดีขึ้นสำหรับตลาดหุ้นไทย ส่วนต่างชาติยังขายสุทธิพร้อมกับ Short สุทธิอย่างต่อเนื่อง ค่าเงินบาทขึ้นมาทดสอบระดับ 36.00 เรียบร้อย ทิศทางยังคงอ่อนค่าลงต่อไปอีก
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นแรงเมื่อวานนี้ หลังจากได้รับปัจจัยบวกมาจากตลาดหุ้นยุโรปเอง โดยมีความเห็นที่ว่า สถานการณ์ความรุนแรงในยุโรปเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องถึงแม้จะเลวร้ายแต่ท้ายที่สุดดัชนีหุ้นที่ตกลงมาก็จะกลับไปขึ้นไปโดยระยะเวลาที่ใช้กลับขึ้นไปในอดีตมีทั้ง 1 วัน 1 สัปดาห์ หรือ 1 เดือนหลังจากที่เกิดเหตุการณ์รุนแรง และมองว่าปัจจัยความไม่สงบจะเป็นเพียงระยะสั้น (Short-lived) จึงทำให้เกิดแรงซื้อเข้ามาหลังจาก ดัชนีปรับตัวลดลงแรงเมื่อช่วงเปิดตลาด
- ที่ประชุม G-20 (ประเทศตุรกี) ยังคงเป้าหมายการเติบโตของกลุ่มไว้ที่ 2% เป้าหมายของกลุ่มนั้นจะเน้นการแก้ไข สถานการณ์ผู้ลี้ภัยในยุโรป , สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว , การเก็บภาษี , ความปลอดภัยในเครือข่ายออนไลน์ (Cyber security)
- อัตราเงินเฟ้อที่แท้จริง (Core CPI) ของยุโรปปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 1.1% สูงกว่าที่คาดการณ์ 1.0% และ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (CPI) ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเช่นกันสู่ระดับ 0.1% จากเดือนก่อนหน้าหดตัว –0.1% ซึ่งเป็นการฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยเป็นไปในทางที่ดี
- ตลาดหุ้นยุโรปทรงตัวในช่วงปิดเมื่อวานนี้ หลังจากมีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดหุ้น เนื่องจากความกังวลถึงสถานการณ์ในฝรั่งเศสมีการปรับตัวลดลงเล็กน้อย และ ในช่วงเช้าดัชนีฟิวเจอร์ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องอีก
- รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอินเดีย คุณ Arun Jaitley ให้ความเห็นว่า เศรษฐกิจของอินเดียน่าจะเติบโตเกินกว่า 7.3% ในปีนี้ ทั้งนี้การที่อินเดียเติบโต ต้องดูว่าเริ่มเกินดุลบัญชีเดินสะพัดไหม เนื่องจากในปัจจุบันอินเดียเพิ่มภาษีนำเข้า รวมถึง การบังคับให้ผู้นำเข้าทองคำต้องส่งออก 20% เพื่อลดปัญหาการขาดดุลบัญชี ทั้งนี้หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ยังมองว่าแรงซื้อ Physical ในอินเดียยังค่อนข้างเบาบาง
- เงินหยวนอ่อนค่าลงอีกต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาสู่ระดับ 6.379 หยวนต่อดอลลาร์
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเข้าใกล้ระดับต่ำสุดที่เคยทำไว้ หลังจากรีบาวน์ในระยะสั้นจากเรื่องความกังวลในฝรั่งเศส
- ทองคำเมื่อวานนี้ถึงแม้จะมีรีบาวน์ขึ้นมาแรงในช่วงเปิดตลาด แต่ปิดตลาดก็กลับปิดในแดนลบ เป็นการปรับตัวต่อเนื่องวันที่ 13 และ ยังอยู่ในภาวะ Oversold
แนวทางทองคำวันที่ 16-11-58
แนวรับ 1086 1083 1075 แนวต้าน 1096 1100 1105
ทองคำได้รับปัจจัยบวกจากควา
ทางเลือกรอง : ราคาขึ้นไปทดสอบ 1100 และยืนอยู่ มองว่า ราคาจะเริ่มทรงตัว แต่เช่นเดิมมองว่าโอกาสเกิด
USD/THB
ต่างชาติยังขายสุทธิในตลาดห
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ตัวเลขค้าปลีกทั้งแบบปกติแล
- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวลดลง
- ตัวเลข GDP ของเยอรมันหดตัวลงเล็กน้อยส
- ญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะการถดถอย
- เจ้าหน้าที่ IMF ได้เสนอให้เงินหยวนเข้าเป็น
- น้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเล็กน้
- ทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องเ