ประชาสัมพันธ์

วันที่ประกาศ

เรื่อง

04 มีนาคม 2559

บทวิเคราะห์วันที่ 4 มี.ค.59

04 มีนาคม 2559 : บทวิเคราะห์วันที่ 4 มี.ค.59

แนวรับ 1257 1250 1245 แนวต้าน 1265 1270 1275

ราคาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับเกินกว่า 1245 ซึ่งเป็นการหลุดกรอบสามเหลี่ยมขึ้นมาด้านบนมองว่า เป็นปัจจัยบวกในระยะกลางทันที อย่างน้อยสองสัปดาห์ก่อนที่จะไปติดตามผลการประชุม FOMC ในช่วงกลางเดือน แต่มีข้อแม้คือ การประกาศตัวเลข Non-farm payroll ในวันนี้ต้องไม่ดีจนราคาหลุด 1245 ลงมา หากดีมากจนหลุด 1245 ลงมาจะกลายเป็น False breakout และขาขึ้นจะเสียทรงไปทันที ทั้งนี้หากไม่หลุดยังมองขึ้นต่อเนื่องไปอีกประมาณ $40 ใกล้เคียง $1300

USD/THB

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน บวกร่วม 50 จุด จากราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับทิศทางของตลาดหุ้นทั่วโลก ส่วนทิศทางค่าเงินบาทมองว่า แข็งค่ามาค่อนข้างรวดเร็ว และช่องว่างให้แข็งค่าจากตรงนี้ไปค่อนข้างน้อยแล้ว เข้าสู่ภาวะ Oversold ทุกช่วงเวลา จึงมองการลุ้นรีบาวน์ขึ้นไประดับ 35.40-35.50 อีกครั้งหนึ่งในวันนี้ ทั้งนี้ยังต้องติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร

ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ

- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 278K จากสัปดาห์ก่อนหน้า 272K และคาดการณ์ 271K แนวโน้มโดยรวมยังไม่ได้มีนัยสำคัญ

- ตัวเลขดัชนี PMI ภาคบริการชะลอตัวลงสู่ระดับ 53.4 จากเดือนก่อนหน้า 53.5 ซึ่งชะลอตัวลงจากจุดสูงสุดในรอบ 8 เดือนต่อเนื่องกัน และเป็นสัญญาณที่ไม่ดีสำหรับสภาพเศรษฐกิจโดยรวม เพราะ ชะลอตัวลงทั้งภาคการผลิตและภาคบริการ

- หลังจากประกาศข่าวพบว่า ดัชนีหุ้นค่อนข้างผันผวน แต่โดยรวมแล้วยังเป็นบวกมากกว่า นักลงทุนยังติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้ ซึ่งตลาดค่อนข้างจับตามากเป็นพิเศษ เพราะ ตอนนี้หลายคนยังอยากได้การยืนยันจากเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของอเมริกาหลังจากเศรษฐกิจทั่วโลก

- ตลาดหุ้นฝั่งยุโรปทรงตัวเล็กน้อย แต่ในช่วงนี้ได้รับปัจจัยลบจากกลุ่มอุตสาหกรรม Health care จากการที่ Moody’s ปรับลดมุมมองโดยรวมของกลุ่ม Pharma จาก Positive สู่ Stable ในขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองก็มีผลงานที่ดีมาตลอดในช่วงต้นปี หลังจาก กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์รวมทั้งทองคำปรับตัวสูงขึ้นแรงนับตั้งแต่ต้นปี

- Final service PMI โดยรวมแล้วออกมาดีขึ้น และดีกว่าฝั่งอเมริกา ยังอยู่ระดับที่มากกว่า 50 จุดมีแนวโน้มที่ยังขยายตัว ยกเว้นฝรั่งเศสที่ยังหดตัว

-ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของจีนออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับนโยบายที่กำลังออกมา เพราะ นโยบายการเงินของจีนเป็นการกระตุ้นให้เกิดการนำเงินไปลงทุนในภาคอสังหา และจะเกิดภาวะฟองสบู่ขึ้นเนื่องจากคาดว่าจะมีการเก็งกำไรมากขึ้น ทั้งนี้ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่แล้วยังทรงตัวหลังจากปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่อง

- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยชะลอตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับ ความเชื่อมั่นในรายได้ในอนาคต

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับ $35/บาร์เรล ถึงแม้จะยังไม่มีข่าวอะไรที่ประกาศออกมา มีเพียงคาดการณ์ว่า กำลังการผลิตจะไม่เพิ่มไปกว่านี้

- เม็ดเงินที่ไหลเข้าในทองคำยังไหลเข้าไปต่อเนื่อง ล่าสุด ปริมาณเม็ดเงินยังไหลเข้าพร้อมกับ ปริมาณ Open interest ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เป็นปัจจัยบวกกับทองคำในระยะนี้ และล่าสุดราคาสามารถผ่านแนวต้าน 1245 มาได้แล้ว

03 มีนาคม 2559

บทวิเคราะห์วันที่ 3 มี.ค.59

03 มีนาคม 2559 : บทวิเคราะห์วันที่ 3 มี.ค.59

แนวรับ 1237 1234 1230 แนวต้าน 1242 1245 1250

ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบสามเหลี่ยม ยังไม่มีนัยสำคัญกับการเคลื่อนไหวเท่าไรนัก ถึงแม้จะมีข่าวบวกเรื่องของ ADP non-farm ที่ออกมาดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทองคำลงไปเท่าไรนัก ข่าวบวกยังเข้ามาต่อเนื่องคือ แรงซื้อของกองทุน SPDR และ สินทรัพย์อ้างอิงทองคำ ยังคงเพิ่มขึ้น และยังไม่หยุดในช่วงนี้ เม็ดเงินที่ไหลเข้ามาจะคอยพยุงราคาทองคำ เมื่อลงก็จะมีแรงซื้อเข้ามาทำให้ราคายังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ คาดว่าอย่างน้อยต้องรอข่าว Non-farm ในวันศุกร์

USD/THB

ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอีกต่อเนื่อง ล่าสุดปรับตัวขึ้นกว่า 18 จุดเมื่อวานนี้ จากหุ้นกลุ่มพลังงาน และ ตลอดปีมานี้ SET ให้ผลตอบแทนกว่า 6% สูงสุดเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นฝั่งเอเชีย ส่วนมูลค่าของ SET ปัจจุบันอยู่ระดับ PER ประมาณ 14.3 ขณะที่เฉลี่ยอยู่ที่ 13.7 ซึ่งก็ไม่ได้เป็นระดับที่ถูก ส่วนค่าเงินบาทแข็งค่าลงมาทดสอบ 35.50 ถึงแม้จะยังไม่หลุด แต่โอกาสหลุดยังมีสูง

ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ

- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ADP ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 214K จากเดือนก่อนหน้า 193K และคาดการณ์ 185K เป็นการปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง แต่ทั้งนี้เมื่อมาดูภาพรวมของ ADP พบว่า ไม่ได้มีนัยสำคัญกับราคาทองคำเท่าไรนักในระยะหลังนี้

- ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวสูงขึ้นต่อเมื่อวานนี้ หลังจากช่วงต้นของชั่วโมงการซื้อ-ขายปรับตัวลดลงเล็กน้อย ได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง และ การคาดการณ์ไปถึงตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์ที่อาจจะออกมาดี

- รายงาน Beige book กล่าวถึง สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมว่า ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือน มกราคมเป็นต้นมา ,การใช้จ่ายผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้ความกังวลจะอยู่เรื่องของการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้

- ข่าวทางฝั่งยุโรปยังไม่ค่อยมีอะไรมากนัก ยังคงติดตามเรื่องการประชุม ECB ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ หลังจากสมาชิกหลายท่านของ ECB มองว่า ปัญหาเงินฝืดจะเพิ่ม Downside risk ให้กับเศรษฐกิจยูโรโซนเพิ่มขึ้นกว่านี้อีก และ ล่าสุดประกาศตัวเลขดัชนี CPI ที่เป็นตัวชี้วัดระดับเงินเฟ้อยังพบว่า หดตัวลงต่อเนื่อง

- กลุ่มอุตสาหกรรมเหมืองเมื่อวานนี้ดูเหมือนจะปรับตัวสูงขึ้นแรง จากราคาทองคำและกลุ่มคอมโมดิตี้ที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้ง กลุ่มธนาคารที่เริ่มมีสัญญาณทางบวกขึ้น

- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะ ญี่ปุ่นที่เริ่มเห็นสัญญาณทางบวกจากกราฟมากขึ้น ทั้งนี้ทางข่าวด้านพื้นฐานยังพบว่า ไม่ได้มีอะไรใหม่ในช่วงนี้ มีเพียงแค่พันธบัตรอายุ 10 ปี ของญี่ปุ่นเริ่มเข้าสู่ระดับติดลบไปเมื่อวันก่อน

-ตลาดหุ้นจีนหลังจากห่างหายจากหน้าข่าวไป เบื้องต้นได้เริ่มรีบาวน์กลับขึ้นมาเล็กน้อยในช่วงที่ผ่านมา แต่ดูยังไม่มีนัยสำคัญเช่นเดิม ยังคงเป็นการสร้างฐานพักตัวหลังจากปรับตัวลดลงมากว่า 50% นับจากกลางปี 2015

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดมาซื้อ-ขายกันที่ระดับประมาณ $34-35/บาร์เรล ถึงแม้จะมีการประกาศสต๊อกน้ำมันดิบออกมามากกว่าที่คาดการณ์กัน

- มีเม็ดเงินไหลเข้ากองทุน SPDR อีกเมื่อวันอังคาร 1.15% มีการถือครองระดับ 786.2 ตัน เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ กันยายน 2014 ซึ่งตัวนี้เป็นตัวที่ทำให้ ราคาทองคำยังได้รับปัจจัยบวกจากเม็ดเงินที่ยังไหลเข้าอยู่

02 มีนาคม 2559

บทวิเคราะห์วันที่ 2 มี.ค.59

02 มีนาคม 2559 : บทวิเคราะห์วันที่ 2 มี.ค.59

แนวทางทองคำวันที่ 2-3-59

แนวรับ 1217 1212 1207 แนวต้าน 1229 1235 1243

ทองคำปรับตัวลดลงหลังจากขึ้นไปทดสอบระดับแถว 1250 แล้วยังไม่ผ่าน เบื้องต้นมองแนวรับไว้ 1217 ถัดจากนั้น 1212 และ 1207 ซึ่งเป็นแนวรับสุดท้าย ขาขึ้นจะเสียทรงเมื่อหลุด 1207 เพราะฉะนั้น ยังมีพิจารณาเข้าซื้อเมื่อราคาลงมาแนวรับ ข่าวบวกยังมีอยู่ในระยะกลาง จากเม็ดเงินที่ไหลเข้า หรือแม้แต่การสะสมทองคำของธนาคารกลาง แต่ในระยะสั้นมองว่า เริ่มรับปัจจัยลบจากตลาดหุ้นที่เริ่มรีบาวนกลับขึ้นมาแล้วในระยะนี้

ทางเลือกรอง : ราคาไม่หลุด 1217 และรีบาวร์เลยก็รีบาวน์จากแนวรับแรก จะทำให้ชะลอการลงไปสักพักหนึ่ง

USD/THB

ตลาดหุ้นปรับตัวกลับขึ้นมาเมื่อวานนี้ หลังจากลงไปเพียงเล็กน้อย มุมทางบวกเริ่มกลับมาอีกครั้ง ราคายืนอยู่บนค่าเฉลี่ยทุกเส้น โยได้รับปัจจัยบวกมาจากหุ้นทั่วโลกที่รีบาวน์ จะให้ดีอยากให้วันนี้ถอยกลับมาย้ำตรงแนวรับลงมาอีกประมาณ 5-6 จุด หากไม่หลุดยังมี upside เหลือ ทั้งนี้ปัจจัยในประเทศยังดูไม่ดี ค่าเงินบาทยังมองการแข็งค่าไประดับ 35.50

ปัจจัยที่ต้องติตตาม

- ดัชนีภาคการผลิต ISM-PMI ของอเมริกาปรับตัวเพิม่สูงขึ้นสู่ระดับ 49.5 จุด จากเดือนก่อนหน้า 48.2 จุด ในขณะที่คาดการณ์ 48.5 จุด เป็นการหยุดการลงเดือนแรกในรอบประมาณ 8 เดือน (8 เดือนที่แล้วชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง) ทั้งนี้ดัชนียังอยู่ระดับที่ต่ำกว่า 50 จุด ยังบ่งบอกถึงการหดตัวของภาคการผลิต ทั้งนี้ตลาดรับข่าวนี้เป็นข่าวดีสำหรับตลาดหุ้น ส่งผลให้ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวสูงขึ้นแบบ Triple digit (2%) และขึ้นไปซื้อ-ขายกันที่ระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ $34/บาร์เรล

- ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องอีกเช่นกัน หลังจากมีการประกาศตัวเลขดังกล่าว และ ยังเริ่มกลับเข้าสู่แนวโน้มแข็งค่า ซึ่งตัวนี้เป็นปัจจัยลบกับทองคำ

- ประธาน ECB คุณ ดรากี้ กล่าวไว้กับ Reuters 57ถึงเรื่องภาวะเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มจะหดตัวลงมากกว่าคาดการณ์ และเป็น Downside risk ที่เพิ่มเติมให้กับยูโรโซนจากที่ประเมินไว้ในตอนแรก ยังต้องติดตามว่า จะมีมาตรการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่

- ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้นแรงเกือบทั้งหมด และเป็นการปรับขึ้นกว่า 2% หลังจากราคาน้ำมันดิบรีบาวน์และทิศทางของตลาดหุ้นทั่วโลกที่ส่งมาทางบวก

- Moody’s ปรับลดเครดิตความน่าเชื่อถือของจีนลงเป็นระดับ Negative จาก Stable ทั้งนี้ปัจจุบันจีนยังมีเครดิตระดับที่ดีพอสมควร (Aa3)

- พันธบัตรอายุ 10 ปีของญี่ปุ่นปรับตัวเข้าสู่ระดับติดลบเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ หลังจากช่วงก่อนหน้านั้นติดลบมาจนถึงช่วงอายุ 7 ปี ทั้งนี้ยังเห็น BID ที่เข้ามาในตลาดพันธบัตรค่อนข้างเยอะ คาดว่า ยังมีการคาดการณ์ถึงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมไปอีก

- ธนาคารกลางสะสมทองคำเพิ่มเข้าอีก ปีที่ผ่านมาซื้อเพิ่ม 590 ตัน ซึ่งนับเป็นกว่า 14% ของ Total demand ในปีที่ผ่านมา ซึ่งในข่าวกล่าวว่า ธนาคารกลางทำ Diversify จากค่าเงินที่ผันผวน เป็นการซื้อเข้า 8 ปีติดต่อกัน ต่อเนื่องมากสุดนับตั้งแต่ ค.ศ. 1965

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นอีกต่อเนื่อง สู่ระดับ $34/บาร์เรล ถึงแม้จะมีการคาดการณ์ว่าสต๊อกน้ำมันดิบจะยังคงเพิ่มขึ้น

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

20.15 USD ADP non-farm employment change 185K 205K

01 มีนาคม 2559

บทวิเคราะห์วันที่ 1 มี.ค.59

01 มีนาคม 2559 : บทวิเคราะห์วันที่ 1 มี.ค.59

แนวรับ 1240 1235 1230 แนวต้าน 1250 1252 1255

ทองคำปรับตัวขึ้นมาทดสอบระดับ 1250 เมื่อคืนนี้ โดยรวมแล้วทองคำยังคงแกว่งตัวในกรอบกว้างๆ ยังไม่ได้มีทิศทางที่มีนัยสำคัญในภาพรวม ระยะสั้นมองการพักตัวลงมาเล็กน้อยถึงระดับ 1240 ในเบื้องต้น ยังมีน้ำหนักเชิงบวกอยู่จากข่าวต่างๆที่ประกาศออกมา และตลาดหุ้นที่ยังปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ล่าสุดจีนประกาศลด RRR ลงอีกเมื่อวานนี้ ส่วนเม็ดเงินที่ไหลเข้ากองทุน SPDR ยังอยู่ระดับสูง อยากให้ขึ้นต้องลุ้นให้ผ่านบริเวณ 1250-1253 ขึ้นไป จะเปิดทางขึ้นในภาพรวมได้

USD/THB

ตลาดหุ้นไทยเริ่มออกอาการพักฐานแล้วในเบื้องต้น เมื่อวานปรับตัวลดลงเกือบ 10 จุด ยังให้น้ำหนักของการพักลงมาต่ออีกประมาณ 10-20 จุด ทั้งนี้โดยรวมแล้วยังไม่ได้เสียรูปสำหรับฝั่งขึ้นเท่าไรนัก ค่าเงินบาทดูการเริ่มแข็งค่าลงมาแนวรับบริเวณ 35.50 ในอันดับแรก ตัวเลขที่ประกาศออกมาและความเห็นจาก ธปท ยังพบว่า เศรษฐกิจไทยยังคงน่าเป็นห่วง การส่งออกชะลอตัว พร้อมทั้งอุตสาหกรรมรถยนต์ชะลอตัวเช่นกัน

ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ

- ตัวเลขยอดบ้านรอปิดการขาย (Pending home sales) หดตัว –2.5% จากเดือนก่อนหน้า 0.9% และคาดการณ์ 0.6% หดตัวรอบสุดในช่วง 1 ปีมานี้ (นับจากเดือน มกราคม 2015 ) ทั้งนี้ข่าวนี้เป็นบวกกับทองคำเล็กน้อย เนื่องจากนัยสำคัญของข่าวนี้น้อย

- ดัชนี Chicago PMI ที่เป็นตัวชี้วัดการผลิตของเมือง ชิคาโก ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 47 .6 จุด จากเดือนก่อนหน้า 55.6 จุด และคาดการณ์ 55.2 จุด

- ตลาดหุ้นอเมริกาในช่วงแรกของชั่วโมงการซื้อ-ขาย ก่อนที่จะปรับตัวลดลงมาปิดลบเมื่อวานนี้ ถึงแม้ราคาน้ำมันดิบจะยังปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ตอนนี้ในอเมริกามีการคาดการณ์ถึงการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยหรือแม้กระทั่งพิจารณาการใช้ดอกเบี้ยติดลบ ต้องดูว่าท่าทีของประธาน FED คุณ เจเนต เยลเลน จะเป็นอย่างไร

- ดัชนีเงินเฟ้อ CPI ของยุโรปปรับตัวลดลงสู่ระดับ –0.2% ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 0.3% ขณะที่คาดการณ์ว่าจะทรงตัว 0% ทางฝั่ง Core CPI (เงินเฟ้อพื้นฐานหมวดไม่รวมสินค้าประเภทอาหารและพลังงาน) หดตัวเล็กน้อยเช่นกันสู่ระดับ 0.7% จากเดือนก่อนหน้า 1% และคาดการณ์ 0.9% หดตัวในทิศทางเดียวกับเงินเฟ้อทั่วไป

-ตลาดหุ้นยุโรปโดยส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวานนี้ถึงแม้จะมีข่าวร้ายในอุตสาหกรรมกลุ่มแบงค์ เพราะ ผลประกอบการออกมาไม่ค่อยดี

- เมื่อวานจีนประกาศลด RRR ลงอีก 0.5% จากเดิม 17.5% สู่ระดับ 17% ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่งผลให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงต่อเนื่องอีก ทั้งนี้ระดับ RRR ของจีนยังเป็นระดับที่สูงที่สุดในโลก จีนยังค่อยๆปรับเสถียรภาพของตัวเองอยู่ในช่วงนี้

- ดัชนี Caixin PMI ออกมาที่ระดับ 48 จุด จากเดือนก่อนหน้า 48.4 จุด เป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องและต่ำกว่า 50 จุด ทั้งนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งสองดัชนี คือ ทั้งภารบริการและภาคการผลิตปรับตัวลดลงหมด แต่ภาคบริการยังอยู่ระดับสูงกว่า

- ทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเมื่อคืนนี้จากการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้น และเม็ดเงินที่ไหลเข้าไปยังกองทุน ETP ที่อ้างอิงทองคำ และ คาดการณ์ว่า FED จะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ทำให้ทองคำได้รับปัจจัยบวกจากเรื่องดังกล่าว

- น้ำมันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นไปเทรดกันที่ระดับ $33/บาร์เรลอีกครั้ง หลังจากซาอุดิอาระเบียจะหาทางเจรจากับผู้ผลิตน้ำมันดิบอื่นๆ เพื่อลดความผันผวนลง

29 กุมภาพันธ์ 2559

บทวิเคราะห์วันที่ 29 ก.พ.59

29 กุมภาพันธ์ 2559 : บทวิเคราะห์วันที่ 29 ก.พ.59

แนวทางทองคำวันที่ 29-2-59

แนวรับ 1220 1212 1207 แนวต้าน 1226 1232 1240

ทองคำในปี 2016 เป็นปีที่ผลตอบแทนชนะตลาดอื่น ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ตราสารหนี้ เป็นสินทรัพย์ที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ตลาดอื่นปรับตัวลดลง สวนทางกับปีที่แล้วที่ผลตอบแทนแย่ ระยะสั้นนี้มองว่า น่าจะได้เห็นการพักตัวลงมาเล็กน้อยสู่ระดับ 1207 ซึ่งตรงนั้นยังมองว่า ไม่ได้เสียทรงขาขึ้นแต่อย่างไร หากหลุดลงมาจึงจะเสียทรง เบื้องต้นระหว่างวันอาจจะมีการรีบาวน์ไปถึงระดับ 1228 แต่ยังมองฝั่งขึ้นยังไม่ไกล และให้น้ำหนักลงมาแนวรับ 1212 ถึง 1207 มากกว่า

ทางเลือกรอง : ราคาหลุดผ่านระดับ 1228 ขึ้นไปมองว่า จะปรับตัวสูงขึ้นต่อไปอีกสักระยะในลักษณะ Sideways

USD/THB

ตลาดหุ้นไทยยังปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง แต่เบื้องต้นมองว่าระดับใกล้ 1340 แล้ว มองว่า ใกล้เข้าการพักตัวลงมาเล็กน้อย และจากตลาดหุ้นฝั่งเอเชียที่ส่งมาทางลบ มองว่า อาจจะมีการปรับตัวลดลงบ้างเล็กน้อย ส่วนทางฝั่งมูลค่า P/E ,P/BV ยังมองว่า อยู่ระดับกลางๆ ไม่ได้ถูกหรือแพง เมื่อเทียบกับเฉลี่ย ทิศทางค่าเงินบาทอ่อนค่าแตะระดับ 35.70 ยังมองว่า ไม่ได้มีทิศทางที่มีนัยสำคัญเช่นกัน แนวต้านระหว่างวัน 35.76

ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ

- การขยายตัวของเศรษฐกิจอเมริกา (Prelim GDP) ออกมาระดับ 1% จากรอบก่อนขยายตัว 0.7% และคาดการณ์ 0.4% เมื่อดูเฉพาะตัว Prelim จะพบว่า มีการชะลอตัวลงมาสามไตรมาสติด แต่เมื่อดูการขยายตัวจากรอบก่อนหน้าพบว่า ขยายตัวขึ้น โดยรวมแล้วตลาดหุ้นปรับตัวผันผวน แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ Dow transport ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 ตัวนี้เป็นตัวที่ใช้ดูควบคู่ไปกับดัชนีดาวโจนส์ปกติ หากปรับตัวสูงขึ้นทั้งสองดัชนี บ่งบอกถึงเศรษฐกิจที่เติบโตแบบแข็งแกร่ง (เพราะ กิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องมาพร้อมกับการขนส่ง)

- รายได้และค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล (Personal income , personal spending) ขยายตัว 0.5% มากกว่าเดือนก่อนหน้าและคาดการณ์ ออกมาดีต่อเศรษฐกิจทั้งคู่

- หนึ่งในสมาชิกของ ECB คุณ Francois Villeroy ออกมาให้ความเห็นว่า สิ่งที่น่ากังวลต่อภาวะเศรษฐกิจของยูโรโซน คือ ภาวะเงินฝืดไม่ใช่ภาวะเงินเฟ้อ หลังจากตัวเลข CPI ของ 16 ประเทศในยูโรโซนออกมาที่ระดับ 0.3% และ ให้ความเห็นว่า ควรจะต้องติดตามนโยบายของธนาคารกลางประเทศอื่นๆด้วย ว่าผลลัพธ์จากการทำ QE นั้นเป็นอย่างไร ทั้งนี้ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อวันศุกร์

- ผลประกอบการของ RBS (Royal bank of Scotland) ปรับตัวลดลง 7%

- ตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมและตัวเลขค้าปลีกของญี่ปุ่นที่ประกาศออกมาในช่วงเช้าของวันนี้ พบว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมดีขึ้น +3.7% แต่เดือนก่อนหน้า –1.7% ผันผวนค่อนข้างรุนแรง ส่วนตัวเลขค้าปลีกหดตัวต่อเนื่อง –1.1% ส่งผลให้เช้านี้ตลาดหุ้นฝั่งเอเชียต่างปรับตัวลดลง

- ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน ล่าสุดดัชนี CSI ปรับตัวลดลงกว่า 4.4% ในช่วงเริ่มของการซื้อ-ขาย ท่ามกลางข่าวไม่ดีของฝั่งเอเชีย

- นับจากช่วงต้นปี ทองคำให้ผลตอบแทนในระดับที่สูงที่สุด และ เม็ดเงินไหลเข้ากองทุน ETP อ้างอิงทองคำสูงที่สุด รวมทั้งกองทุน Hedge fund เพิ่มสถานะ Bullish bet ในทองคำเป็นจำนวนมากสุดในรอบปี สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยบวกกับราคาทองคำ

- กองทุน SPDR เพิ่มสถานะการถือครองทองคำอีก 0.27% สู่ระดับ 762.41 ตันในวันศุกร์ บ่งบอกถึงแรงซื้อที่เข้ามาต่อเนื่อง

26 กุมภาพันธ์ 2559

บทวิเคราะห์วันที่ 26 ก.พ.59

26 กุมภาพันธ์ 2559 : บทวิเคราะห์วันที่ 26 ก.พ.59

แนวรับ 1230 1225 1220 แนวต้าน 1237 1240 1252

ราคายังคงปรับตัวอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมอีกครั้ง ยังไมได้มีทิศทางที่มีนัยสำคัญ แต่ค่อนไปทางลบมากกว่าจาก Pin bar ในวันก่อนหน้า ประกอบกับ ราคาน้ำมันดิบพร้อมกับตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้นมา จึงมองว่าเป็นปัจจัยลบกับราคาทองคำ ส่วนปัจจัยบวกก็ยังมีอยู่ อย่างเม็ดเงินที่ไหลเข้ากองทุน SPDR ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มีนาคม 2015 จากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลก วันนี้ดูแนวรับระยะสั้นไว้แถวบริเวณ 1229 ติดตามตัวเลข GDP ในคืนนี้ คาดการณ์เป็นบวกกับทองคำ

USD/THB

SET ปรับตัวขึ้นมาทดสอบ 1340 ระดับนี้มองว่าต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควร เพราะ เป็นแนวต้านค่อนข้างสำคัญ แต่ดูเหมือนดัชนีจะยังพยายามปรับตัวสูงขึ้นต่อ ก็ยังพอมีช่องว่าง แต่ไม่น่าตามแล้ว ตัวเลขการส่งออกของไทยประกาศออกมาพบว่าหดตัวต่อเนื่องอีก –8.9% เป็นเดือนที่ 13 ติดต่อกัน และ หดตัวแรงสุดในรอบ 53 เดือน เพียงแต่เป็นสิ่งที่คาดการณ์กันอยู่แล้ว ค่าเงินบาทยังแข็งค่าต่อสู่ระดับ 35.60

ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ

- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 272K จากสัปดาห์ก่อนหน้า 262K และคาดการณ์ 271K เป็นการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย จากสัปดห์ก่อนหน้าที่อยู่ในระดับต่ำมาก ทั้งนี้ไม่ได้มีนัยสำคัญมากนัก

- ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนออกมาที่ระดับ 4.9% จากเดือนก่อนหน้า –5% และคาดการณ์ 3% ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนหมวดไม่รวมยานพาหนะ (ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ เรือ เครื่องบิน ยาวอวกาศ) ปรับตัวสูงขึ้นเช่นเดียวกันสู่ระดับ 1.8% จากเดือนก่อนหน้า –1% และคาดการณ์ 2% บ่งบอกให้เห็นถึงการฟื้นตัวเล็กน้อยของอเมริกา หลังจากชุดตัวเลขที่ออกมาช่วงก่อนหน้านั้นไม่ค่อยดี ทั้งนี้เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องอีกกว่ 1.29% และเป็นการผ่านแนวต้านระยะสั้นออกมาได้

- ตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซนออกมาน้อยกว่าคาดการณ์กัน สู่ระดับขยายตัว 0.3% จากคาดการณ์ 0.4% สร้างแรงกดดันให้กับธนาคารยุโรป ECB ว่าจะออกมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่ นักวิเคราะห์คาดการณ์กันว่า น่าจะเป็นช่วงเดือนหน้า (มีนาคม) ที่ ECB จะดำเนินการกระตุ้นเพิ่มอีก

- GDP ของอังกฤษ (UK) ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 0.5% จากเดิม 0.4% ถือว่าดีขึ้น

- ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวานนี้โดยรวมแล้วยังคงปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

- ธนาคารกลางจีนอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มขึ้นอีก 3.4 แสนล้านหยวน ผ่าน Repo อายุ 7 วัน ซึ่งตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ธนาคารกลางจีนอัดฉีดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ผู้นำจีนออกมากล่าวไว้ว่า จะสร้างความโปร่งใส และ เสถียรภาพให้กับค่าเงิน

- การส่งออกของไทยปรับตัวลดลงแรงกว่า –8.9% เป็นการหดตัวต่อเนื่องเดือนที่ 13 ติดต่อกัน และเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 53 เดือน เป็นผลมาจากสินค้าประเภทสินค้าเกษตรอย่าง ยางพาราเป็นหลัก

- ราคาน้ำมันดิบปิดบวกกว่า 2.9% มาซื้อ-ขายกันที่ระดับใกล้ $33/บาร์เรล หลังจากมีข่าวว่ากลุ่ม OPEC และรัสเซียน่าจะมีการประชุมถึงเรื่องกำลังการผลิตอีกครั้งในเดือน มีนาคม ทั้งนี้ ข่าวในตลาดน้ำมันดิบต้องติดตามให้ดี เพราะ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างมีนัยสำคัญ หากตัดสินใจคงกำลังการผลิต

- ข่าวในตลาดทองคำยังคงมีค่อนข้างน้อย มีข่าวบวกคือ เม็ดเงินที่ยังไหลเข้า SPDR

25 กุมภาพันธ์ 2559

บทวิเคราะห์วันที่ 25 ก.พ.59

25 กุมภาพันธ์ 2559 : บทวิเคราะห์วันที่ 25 ก.พ.59

แนวรับ 1230 1225 1220 แนวต้าน 1235 1240 1252

เมื่อวานนี้ราคาเกิดรูปแบบ Pin-bar คือ ราคาขึ้นไปแรงจนถึงระดับ 1250 แต่กลับลงมาปิดบริเวณ 1227 ซึ่งเป็นการไม่หลุดกรอบบนออกไป จึงมองว่า เป็นสัญญาณเตือนให้ระมัดระวังสำหรับฝั่งขึ้น ในเบื้องต้นมองว่า อาจจะมีรีบาวน์กลับขึ้นไปอีกครั้งใกล้เคียงกับ 1240 แต่ทั้งนี้หากลงมาก็มองแนวรับไว้แค่ระดับ 1207 ซึ่งเป็นกรอบล่าง ยังไม่ได้มองว่าจะหลุดยาวลงไป ข่าวบวกที่เข้ามาคือ ล่าสุดการซื้อเข้าของกองทุน SPDR ในช่วง 2 เดือนมานี้สมารถชดเชยเงินไหลออกปีที่แล้วทั้งปี

USD/THB

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง แลยังไม่พัก มองว่า ยังลุ้นหาโอกาสตลาดหุ้นพัก แต่เบื้องต้นมองการพักตัวยังไม่แรงมากนัก ในช่วงสัปดาห์หน้าจะมีทยอยปันผลของหุ้นหลายตัวอย่างเช่น PTT ต้องระมัดระวังการดึงดัชนีลงมา ส่วนทิศทางค่าเงินบาทมองการแข็งค่าหลังจากหลุด 35.70 ลงมา มองแนวรับบริเวณ 35.60 และ 35.55

ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ

- ระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขาย ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลดลงแรง ก่อนที่จะมีแรงซื้อรีบาวน์กลับขึ้นมาปิดบวก ลดช่วงลบไปถึง 266 จุด และสามารถปิดบวกเพิ่มได้อีกกว่า 50 จุด เป็นการฟื้นตัวมากสุดใน 1 วัน นับตั้งแต่ปี 2008 โดยได้รับปัจจัยบวกและลบจากราคาน้ำมันดิบที่ผันผวนลงในช่วงต้นของชั่วโมงการซื้อ-ขายก่อนจะปรับตัวขึ้น

- ตัวเลข Flash PMI ภาคบริการปรับตัวลดลงสู่ระดับ 49.8 จากเดือนก่อนหน้า 53.2 และคาดการณ์ 53.4 เป็นการปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 50 และชะลอตัวลงต่อเนื่อง ทั้งนี้ ตัวนี้เป็นตัว Flash PMI ต้องไปลุ้น PMI ของจริงช่วงต้นเดือนหน้า

- ยอดขายบ้านใหม่ (New home sales) หดตัวลงสู่ระดับ 494K จากเดือนก่อนหน้า 544 K และคาดการณ์ 522K ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน

- ตลาดฝั่งยุโรปปรับตัวลดลงแรงระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขาย ก่อนที่จะรีบาวน์กลับขึ้นมาเหลือปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยรวมแล้วยังดูไม่ดีเท่าทางฝั่งอเมริกา และ ยังมีท่าทางอ่อนแออยู่นิดหน่อย ข่าวสำหรับทางฝั่งยุโรปยังไม่มีความคืบหน้า ช่วงนี้ตลาดน่าจะรอการประชุม ECB เป็นหลัก

- อีกข่าวที่สำคัญคือ การทำประชามติของอังกฤษ (British)ที่จะโหวตว่าจะออกจากยูโรโซนในเดือน มิ.ย.หรือไม่ เหตุการณ์ดังกล่าวมีชื่อเรียกกันว่า “Brexit” (British exit)

- มี Research จาก PIMCO พบว่า สินทรัพย์ในกลุ่มของ Emerging market นั้นค่อนข้างถูก และอาจจะเป็นการเทรดของทศวรรษ (The trade of a decade) เป็นไปในทางเดียวกับกองทุนอื่นๆอย่าง Blackrock ,Goldman Sachs ที่เริ่มหันมามอง Emerging market หลังจากลดสถานะในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้สินทรัพย์ของ PIMCO กว่า 35% อยู่ในสินทรัพย์ของ Emerging market เป็นหลัก

- ทองคำปรับตัวสูงขึ้นแรงสู่ระดับ 1252 เมื่อวานนี้ หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงแรง ทั้งนี้ขณะที่ราคาน้ำมันดิบรีบาวน์ขึ้นมา ทองคำกลับปรับตัวลดลงแรงเช่นกัน ผันผวนตลอดชั่วโมงการซื้อ-ขาย

- กองทุน SPDR ซื้อทองคำเพิ่มอีกในวันพุธสู่ระดับ 760 ตัน สถานะของกองทุน SPDR 2 เดือนแรกของปี เพิ่มสูงขึ้นชดเชยกับการไหลออกปีที่แล้วทั้งปีเรียบร้อยแล้ว

24 กุมภาพันธ์ 2559

บทวิเคราะห์วันที่ 24 ก.พ.59

24 กุมภาพันธ์ 2559 : บทวิเคราะห์วันที่ 24 ก.พ.59

แนวรับ 1223 1220 1215 แนวต้าน 1228 1232 1236

กองทุน SPDR ซื้อทองคำเพิ่มในวันจันทร์อีก 19 ตันสู่ระดับ 752 ตัน และ สถานะของกองทุนปรับตัวเข้าใกล้ระดับ High เดิม ยังต้องติดตามแต่โดยรวมแล้วยังเป็นในทางบวก ส่วนทิศทางทองคำเมื่อวานนี้ได้รับปัจจัยบวกจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวลดลง (ตามรูป) ส่งผลให้มาทดสอบแนวต้านระยะสั้น 1226 โดยรวมแล้วยังมองบวกอยู่ไปทดสอบใกล้ 1235 อีกครั้ง เพียงแต่ระยะสั้นอาจจะมีการพักตัวลงมาระดับ 1223 ก่อนได้ หากไม่หลุดก็ยังขึ้นต่อ

ทางเลือกรอง : จุดตัดขาดทุนระยะสั้นจะอยู่บริเวณ 1223 ซึ่งหลุดตรงนั้น สำหรับการเก็งกำไรระยะสั้น น่าจะปิดสถานะออกมาดูก่อน

USD/THB

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง แต่ลดความร้อนแรงลง ในเบื้องต้นมองว่า น่าจะถึงเวลาพักฐานลงมาระยะสั้นแล้ว ลุ้นการปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วระยะกลางยังมีมุมมองที่จะกลับไปทดสอบ 1340 ได้อยู่ หากการปรับฐานนั้นไม่ได้ลึกจนเกินไป ปัจจัยใหม่ๆยังไม่มีเข้ามาในตลาดช่วงนี้ ทิศทางค่าเงินบาทมองการแกว่งตัวในกรอบเช่นกัน กรอบจะอยู่บริเวณ 35.70-35.76

ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ

- ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CB consumer confidence) ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 92.2 จากเดือนก่อนหน้า 97.8 และคาดการณ์ 97.4 เป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากระดับสูงสุดที่ประมาณ 100 จุด ทั้งนี้นำรูปแนวโน้มโดยรวมของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคมาให้ดูพบว่า ยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นไปใกล้เคียงกับระดับก่อนวิกฤติปี 2008

- ยอดขายบ้านมือสองปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยในเดือน มกราคมออกมาที่ระดับ 5.47M จากเดือนก่อนหน้า 5.45M และคาดการณ์ 5.37M ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น

- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้จากเรื่องความเชื่อมั่นที่ปรับตัวลดลง ซ้ำด้วยการปรับตัวลดลงแรงของน้ำมันดิบ ทั้งนี้ถึงแม้จะปรับตัวลดลงแรงหลัก Triple digit (ร้อยจุด) แต่ก็ยังไม่มีอะไรที่มีนัยสำคัญมากมาย

- German Ifo business climate ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องสู่ระดับ 105.7 จากเดือนก่อนหน้า 107.3 และคาดการณ์ 107 ตัวนี้เป็นตัวที่บ่งบอกถึงสภาวะโดยรวมของเศรษฐกิจซึ่งถือว่าเป็น Leading indicator ประเภทหนึ่ง ดัชนีชะลอตัวลงพร้อมกับสภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ถึงแม้จะมีการกระตุ้นจาก ECB แต่ทางฝั่งยุโรปก็ยังไม่ดีเท่าไรนัก

- ตลาดหุ้นทางฝั่งยุโรปโดยเฉพาะเยอรมันปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อวานนี้ เป็นไปในทางเดียวกับตัวเลขที่อ่อนแอและราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง

- ตลาดหุ้นฮ่องกงกำลังเสนอให้มีการซื้อ-ขายสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าในสกุลเงินหยวนพร้อมกันกับคู่เงินค่าอื่นๆ เป็นการเพิ่มผลิตภัณฑ์ในตลาดให้มากขึ้น

- ข่าวตลาดหุ้นทางเอเชียยังไม่มีปัจจัยอะไรใหม่ๆเข้ามา ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงเล็กน้อยในวันนี้ (ปรับขึ้นเล็กน้อยเมื่อวานนี้) ทั่วโลกกำลังจับตามองพัฒนาการของจีนโดยเฉพาะค่าเงินหยวนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงแรงสู่ระดับ $31/บาร์เรล หลังจาก อิหร่านและซาอุดิอาระเบีย ยังยืนยันว่าจะไม่มีการลดกำลังการผลิตลง เพราะ ซาอุดิอาระเบียมองว่า ความต้องการใช้น้ำมันในอีก 20 เดือนข้างหน้าจะชดเชยปริมาณน้ำมันดิบที่มากได้

- ข่าวจากนักวิเคราะห์ที่ออกมาทาง Bloomberg มองว่า ทองคำอาจจะปรับตัวเข้าไปใกล้ระดับ $1400 ได้ เนื่องจากความไม่สงบในตลาดการเงินทั่วโลก

23 กุมภาพันธ์ 2559

บทวิเคราะห์วันที่ 23 ก.พ.59

23 กุมภาพันธ์ 2559 : บทวิเคราะห์วันที่ 23 ก.พ.59

แนวรับ 1210 1207 1202 แนวต้าน 1220 1225 1230

ทองคำปรับตัวลงแนวรับ 1207 และ รีบาวน์กลับขึ้นมา เบื้องต้นมองแนวต้านวันนี้ประมาณ 1220 อยากให้เป็นเก็งกำไรระยะสั้นระหว่างวัน ในรูปนำ NAV ของ SPDR มาให้ดู พบว่า ไม่ได้ทำจุดสูงสุดใหม่ รวมถึง MACD เริ่มชะลอตัวออกข้าง เป็นสิ่งที่น่าสนใจเนื่องจาก การขึ้นของทองคำมักจะมีตัว SPDR สนับสนุนหากตัวนี้ไม่สนับสนุนก็คงยากที่จะเห็นการขึ้นแรงๆ ทั้งนี้ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด พบว่า ตัวนี้น่าสนใจในการพิจารณาร่วมกันกับราคาทองคำเพียงอย่างเดียว

ทางเลือกรอง : หากราคาหลุด 1207 ลงมาอีกครั้งจึงจะมองว่า เริ่มลงอีกครั้ง แนวรับ 1180-1190

USD/THB

ตลาดหุ้นไทยในวันก่อนๆปรับตัวสูงขึ้นก็เป็นสัญญาณที่ดีในการไปทดสอบ 1340 ในระยะกลาง ปัจจัยบวกจะมาจากตลาดหุ้นทั่วโลกที่ช่วงนี้เพิกเฉยต่อข่าวร้ายไปพอสมควร และ ยังปรับตัวรีบาวน์ขึ้นต่อเนื่อง ส่วนปัจจัยในประเทศยังคงไม่มีอะไรใหม่ที่น่าสนใจมากนัก ค่าเงินบาทก็เช่นกันยังมองการผันผวนอยู่ในกรอบแคบๆ ระหว่าง 35.70-35.76

ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ

- ตลาดหุ้นทางฝั่งอเมริกาปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง และ เมื่อวานนี้ปรับตัวผ่านแนวต้านระยสั้นขึ้นมา ทำให้นักวิเคราะห์มองว่า ระดับที่ตกไปช่วงก่อนหน้านั้นจะเจอจุดต่ำสุดหรือยัง ? เค้าก็ไปดูกันที่ตัวพื้นฐานว่ามอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีหรือไม่ ในเบื้องต้นพบว่าความเห็นส่วนใหญ่ ยังไม่แน่ใจว่าอะไรๆพัฒนาไปในทางที่ดีหรือไม่ เพราะ ประธาน FED ที่กล่าวไว้เมื่อปลายปีที่แล้วยังคาดว่าปีนี้จะขึ้นดอกเบี้ยประมาณ 3-4 ครั้ง และ ฝั่งยูโรโซนก็มีท่าทางยังไม่ค่อยดี ส่วนพัฒนาการในตลาดน้ำมันดิบเค้ามองว่า หากราคาน้ำมันดิบสร้างฐานตรงนี้ได้ และเริ่มชะลอการลง สิ่งนั้นจะทำให้พื้นฐานสามารถพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นได้

- Flash PMI ของทางยุโรปโดยรวมแล้วเยอรมันชะลอตัวลงเล็กน้อยในเดือน มกราคม ตัวที่ชะลอตัวแรงนั้นจะเป็นภาคการผลิตที่ปรับตัวลงมาใกล้ 50 จุด ส่วนภาคบริการปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อย โดยรวมแล้วทิศทางของเศรษฐกิจยุโรปเป็นไปคล้ายกัน อเมริกา และจีน ที่ภาคบริการเริ่มมีบาทบาทสำคัญมากกว่าภาคการผลิต สังเกตุจากกลุ่มตัวเลขภาคการผลิตนั้นจะออกมาชะลอตัวลงทั้งหมด

- ตลาดหุ้นยุโรปยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเมื่อวานนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกับทั่วโลก

- ตัวเลขผลกำไรของ HSBC พบว่า กำไรของบริษัทออกมาไม่ค่อยดี แต่ตลาดหุ้นฮั่งเส็งของฮ่องกงยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อ เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นเอเชียอื่นๆ อย่าง ญี่ปุ่นและจีน ช่วงนี้ดูเหมือนนักลงทุนจะเริ่มชินกับข่าวร้าย และ เมื่อมาดูราคาหุ้นของกลุ่มธนาคารใหญ่ๆทั่วโลกพบว่า ต่างปรับตัวลดลงมาใกล้เคียงกับระดับช่วงเกิดวิกฤติปี 2008 เป็นสิ่งที่น่ากังวลเพิ่มเติมสำหรับเศรษฐกิจโลก

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นแรงหลังจากมีข่าวว่า Shale oil บางส่วนจะเริ่มยกเลิกการผลิต ทั้งนี้มีข่าวในช่วงเช้าวันอังคารว่า อิหร่านจะยังคงกำลังการผลิตไว้เหมือนเดิม

- เมื่อวานนี้พบว่าเม็ดเงินที่ไหลเข้ากองทุน SPDR ชะลอตัวลง และ หลังจากที่ไปทำจุดสูงสุดไว้ในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า ในสัปดาห์นี้พบว่า ไม่สามรถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ แสดงให้เห็นถึงแรงฝั่งซื้อที่เริ่มชะลอตัวลงของกองทุนนี้

ปัจจัยที่ต้องติตตาม

22.00 USD CB Consumer confidence

เดือนก่อนหน้า 98.1 คาดการณ์ 97.4 คาดการณ์ว่าจะเเย่ลง เป็นปัจจัยบวกกับทองคำ

22 กุมภาพันธ์ 2559

บทวิเคราะห์วันที่ 22 ก.พ.59

22 กุมภาพันธ์ 2559 : บทวิเคราะห์วันที่ 22 ก.พ.59

แนวทางทองคำวันที่ 22-2-59

แนวรับ 1220 1216 1207 แนวต้าน 1225 1230 1235

ราคาทองคำยังคงทรงตัวในกรอบ ไม่ได้มีนัยสำคัญมากนัก ล่าสุดปรับตัวลงมทดสอบแนวรับบริเวณ 1220 ถ้าหากยังไม่หลุด ราคายังมีแนวโน้มวิ่งขึ้นไปต่อ และจะเล่นกันในกรอบ 1220– 1230 อีกครั้ง แต่หากหลุดราคามีแนวโน้มจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1207 ซึ่งการหลุดนั้นมองว่ามีน้ำหนักมากกว่าในวันนี้ สำหรับระยะกลางข่าวบวกที่เข้ามาคือ กองทุน SPDR ซื้อทองเพิ่มในวันศุกร์กว่า 2.7% รวมถึงการเพิ่มสถานะ Bullish ในทองคำมากสุดในรอบ 4 เดือน

ทางเลือกรอง : ราคาไม่หลุด 1220 ก็จะมองการกลับไปแกว่งในกรอบระหว่าง 1220-1230 และ ก็จะแกว่งตัวอยู่ในกรอบอีกครั้ง

USD/THB

ในวันศุกร์ดัชนี SET ยังคงปรับตัวสูงขึ้น จากที่เคยมองว่า ต้องมีแรงซื้อหนักๆแรงซื้อนั้นก็เข้ามาแล้ว โดยกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์คือกลุ่มของราคาน้ำมันดิบ (PTTEP) ที่ปรับตัวสูงขึ้นแรงกว่า 8% ทั้งนี้ในวันนี้เป็นวันหยุดทำการวันมาฆบูชา ทำให้ตลาดหุ้นหยุดทำการ 1 วัน ทิศทางค่าเงินบาทจึงมองว่าไม่ได้มีนัยสำคัญอะไรในวันนี้

ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ

- ตัวเลขเงินเฟ้อของอเมริกาทรงตัว 0% จากเดือนก่อนหน้าหดตัว –0.1% เท่ากับคาดการณ์ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ตัวเลขเงินเฟ้อหมวดไม่รวมสินค้าประเภทพลังงานและอาหารสด ปรับตัวขึ้นแรงกว่า 0.3% เป็นการขยายตัวระดับมากสุดในรอบ 8 เดือน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อหมวดนี้เคยขยายตัวสูงสุดอยู่ที่ 0.4% ตัวนี้เองเป็นตัวที่คนในตลาดเริ่มหันกลับมาคิดว่า หากตัวเลขออกมาดี และ ตัวเลขเศรษฐกิจในอนาคตออกมาดีด้วยแล้ว อาจจะมีการขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องในปีนี้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นอเมริกา ปรับตัวลดลงในช่วงแรกก่อนมีแรงซื้อกลับเข้ามาทำให้ปิดลบเล็กน้อย โดยรวมแล้วยังอยู่ในช่วงรีบาวน์

- ตลาดหุ้นอเมริกาและตลาดหุ้นทั่วโลก (รวมถึงสินค้าเช่นทองคำ และ VIX index) ต่างทรงตัวอยู่ในกรอบแคบๆ ไม่ได้มีทิศทางที่มีนัยสำคัญ

- นายกเทศมนตรี (Mayor) อังกฤษ คุณ Boris Johnson ได้ออกมารณรงค์เรื่อง อยากให้อังกฤษออกจากกลุ่มยูโรโซนในช่วงเดือน มิถุนายน ถึงแม้ คุณ David Cameron จะมีการประชุมกับผู้นำ EU หลายๆท่าน และได้ข้อสรุปมาว่า กลุ่มอียูจะจัดตำแหน่งอังกฤษให้ดำรงตำแหน่งที่พิเศษในยูโรโซน ทั้งนี้ยังต้องติดตามความคืบหน้าในกรณีนี้

- ตลาดหุ้นยุโรปในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้น ล่าสุด DBS ประกาศออกมาไตรมาสล่าสุดกำไรโตกว่า 20% เป็นผลมาจากรายรับดอกเบี้ยที่ถ่างออกมากสุดในรอบ 5 ปี

- มีความเห็นจากคุณ Takeshi Fujimaki ซึ่งเป็น นาย ธนาคาร ถึงคุณ คุโรดะ ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นไม่น่าจะดำเนินนโยบายดอกเบี้ยติดลบในปีนี้ เพราะ จะมีช่องว่างให้ทำต่อได้น้อย เนื่องจาก มาตรการการคลังที่หนี้สาธารณะปัจจุบันอยู่ระดับกว่า 200% ของ GDP ทั้งนี้ข่าวนี้เป็นเพียงความเห็นเท่านั้น

- ตลาดหุ้นทางฝั่งเอเชียโดยรวมแล้วปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเกือบทั้งหมด ทั้งนี้ยังไม่มีข่าวหรือประกาศที่สำคัญๆออกมา

- ปิดสัปดาห์ล่าสุดทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในปีนี้ ปรับตัวสูงขึ้น 15% ท่ามกลางการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้น และความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ

- กองทุน SPDR ปรับเพิ่มสถานะการถือครองทองคำในวันศุกร์อีก 2.71% สู่ระดับ 732.96 ตัน เป็นการซื้อเข้ามากสุดใน 1 วันนับตั้งแต่เดือน สิงหาคมปี 2011

- กองทุน Hedge fund เพิ่มสถานะ Long สุทธิในฟิวเจอร์สู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน