ประชาสัมพันธ์
แนวทางทองคำวันที่ 6-4-59
แนวรับ 1228 1225 1220 แนวต้าน 1230 1235 1240
ทองคำกำลังจะปรับตัวผ่านแนว
ทางเลือกรอง : ราคาขึ้นไปแล้ว กลับลงมาต่ำกว่า 1225-1228 มองว่า จะกลับมาแกว่งในกรอบ Downtrend อีกครั้ง
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงค่อน
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ดัชนี PMI ภาคการผลิตของอเมริกาปรับตั
- นักวิเคราะห์ปรับลดประมาณกา
- มีรายงานจาก ECB เมื่อวานนี้ว่า ธนาคารกลางจะถูกปกป้องจากภา
- Final service PMI หรือ PMI ภาคบริการของยูโรโซน ปรับตัวลดลงเล็กน้อย เกือบทุกประเทศหลัก ทั้งนี้ ไม่ได้มีนัยสำคัญเท่าไรนัก และ ยังอยู่เหนือระดับ 50 จุด
- เงินเยนปรับตัวแข็งค่าที่สุ
- การออกพันธบัตรของภาคเอกชน (Bond) ของจีนชะลอตัวลงในเดือนมีนา
- ทองคำได้รับปัจจัยบวกจากตลา
- น้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ
แนวทางทองคำวันที่ 5-4-59
แนวรับ 1220 1215 1208 แนวต้าน 1226 1230 1237
ทองคำปรับตัวสูงขึ้นออกจากแ
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยเปิดมาปรับตัวลด
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลดล
- ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงาน ( Factory order) หดตัวลงสู่ระดับ –1.7% จากเดือนก่อนหน้า 1.2% และคาดการณ์ -1.5% หดตัวมากกว่าก่อนหน้าและคาด
- อัตราว่างงานของยูโรโซนปรับ
- ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวผันผวน
- Bloomberg ประมาณการณ์ว่า ค่าเงินหยวนจะอ่อนค่าลงอีก 3.3% ในปีนี้ สอดคล้องกับ Citigroup ที่คาดว่าจะอ่อนลงถึง 7% ซึ่งค่าที่ได้อาจแตกต่างกัน
- ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับ
- กระแสคนชื่นชอบทองคำ (Gold bug) ยังไม่หยุด หลังจากทองคำปิดไตรมาสแรกขอ
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงแร
แนวรับ 1223 1215 1210 แนวต้าน 1228 1233 1237
ทองคำปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้และต่ำกว่าระดับ 1228 ถึงแม้ภาพรวมจะไม่เลวร้ายเท่ากับหลุด 1223 แต่เท่านี้ก็มองว่าเพียงพอที่จะดึงภาพรายวันให้ลงมาต่อ ดูแนวรับแรกไว้ที่เดิมคือแถว 1223 ก่อน และ อาจมีลุ้นลงไปถึง 1215 ได้ ภาพรวมขาดปัจจัยใหม่ๆ และซ้ำด้วยการทำ New-high ในปีนี้ของดัชนีหุ้นอเมริกา ทำให้มองว่า ปัจจัยบวกในทองคำในระยะสั้นเริ่มหายไป ทั้งนี้หากราคาปรับตัวเกินกว่า 1228 จะยังมองว่า มีแนวต้านถัดไปบริเวณ 1233-1237 อีกครั้งหนึ่ง
ทางเลือกรอง : หากราคาเกินกว่า 1228-1230 จะมองการปรับตัวขึ้นอีกช่วงหนึ่งแต่เพียงระยะสั้น แนวต้าน 1233-1237
USD/THB
ตลาดหุ้นออกจากช่วงพักฐาน และยืนยันด้วยการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นพร้อมปริมาณการซื้อ-ขายที่หนาแน่นการช่วงพัก เป็นปัจจัยบวก ยังลุ้นระดับ 1430-1460 อยู่ในระยะกลาง คาดว่าตลาดหุ้นจะยังคงอยู่ในสภาวะ Uptrend สิ่งที่น่าสนใจคือ เมื่อวานนี้ต่างชาติซื้อหุ้นไทยมากถึง 8000 ล้านบาท และ Long สุทธิเพิ่มในฟิวเจอร์อีกร่วม หมื่นสัญญา สอดคล้องกับทิศทางค่าเงินบาทที่มองแข็งค่าทดสอบระดับ 35.15
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ADP Non-farm employment change ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 200K จากเดิมเดือนก่อนหน้า 205K และ คาดการณ์เพียง 195K ตีความได้ว่า ออกมาแย่กว่าเดือนก่อนหน้าแต่มากกว่าคาดการณ์ทำให้ทองคำผันผวนอยู่ในกรอบแคบๆ ไม่ได้มีนัยสำคัญเท่าไรเมื่อคืนนี้ และเมื่อออกมาดูภาพรวมของ ADP พบว่า แนวโน้มยังอยู่ในฝึ่งปรับตัวขึ้นอยู่ ความเคลื่อนไหวในแต่ละเดือนไม่ได้ผันผวนมากนัก อยู่ระดับใกล้เคียงเดิม บวกลบนิดหน่อย
- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวขึ้นทำ New-high ต่อเนื่อง หลังจากเมื่อวานนี้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบปี 2016 ทั้งนี้หากตลาดหุ้นยังทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องก็จะมองว่าเป็นปัจจัยลบกับราคาทองคำ
- สถาบันจัดอันดับ S&P ปรับลดประมาณการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจยูโรโซนลง สู่ระดับ 1.5% จากครั้งก่อน 1.8% และ ปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อลงเหลือระดับ 0.4% จาก 1.1% เป็นผลมาจากค่าเงินยูโรที่เริ่มแข็งค่าอีกครั้งทำให้กระทบกับการส่งออก และ เงินเฟ้อ นอกจากนี้เศรษฐกิจยูโรโซนยังพึ่งพิงปัจจัยทางเศรษฐกิจเพียงแค่ด้านเดียว
- ถึงแม้จะมีการปรับลดการเติบโตลง แต่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวานนี้ยังคงปรับตัวสูงขึ่นต่อ ล่าสุดดัชนีหุ้นเยอรมัน(DAX) สามารถยืนเหนือระดับ 10000 จุดเรียบร้อยแล้ว
- MSCI กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ของการที่จะนำดัชนีหุ้นของจีนเข้ามาคำนวณดัชนี โดยตั้งเงื่อนไขเกี่ยวกับ Trading halt หรือ มาตรการที่จะหยุดการซื้อ-ขายหากตลาดหุ้นมีการปรับตัวลดลงแบบรุนแรง ทั้งนี้ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติม
- ตลาดหุ้นเอเชียยังได้รับปัจจัยบวกที่ส่งมา สิ่งทีน่าติดตามคือ HSCEI หรือหุ้นจีนตัวที่จดทะเบียนในฮ่องกง กำลังจะผ่านแนวต้านระยะกลาง (Downtrend line) ออกมาได้แล้ว ซึ่งคาดว่าหากผ่านออกมาจะเป็นปัจจัยบวกกับหุ้น และ ลบกับทองคำ
- ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 3 เดือนต่อเนื่องแรง ทำสถิติใหม่ในรอบ 30 ปี ในไตรมาสแรก (เหลือปิดวันนี้) จากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe-haven bid)
- กองทุน SPDR ปรับลดสถานะการถือครองทองคำต่อเนื่องลงอีกเล็กน้อยเมื่อวานนี้
- สต๊อกน้ำมันดิบของอเมริกาประกาศออกมาเมื่อวานนี้พบว่า ปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุด All-time high และส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง
แนวทางทองคำวันที่ 30-3-59
แนวรับ 1235 1230 1223 แนวต้าน 1239 1242 1245
หลังจากราคาผ่านแนวต้าน 1223 ออกมา ทิศทางฝั่งขาลงก็เริ่มชะลอต
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1223 ลงมาในรอบเดียวมองว่า ฝั่งขึ้นจะเสียความได้เปรีย
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยมองว่า น่าจะออกจากกลุ่มการพักตัวเ
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ประธาน FED คุณ เจเนต เยลเลน เมื่อวานนี้ ส่งสัญญาณไปในโทนผ่อนคลายทา
- ตลาดหุ้น SP500 ซึ่งเป็นตลาดหุ้นใหญ่ของทาง
- ตลาดหุ้นยุโรปผันผวนเมื่อวา
- ฝั่งยุโรปถึงแม้จะยังไม่มีป
- ผลผลิตอุตสาหกรรมปรับตัวลดล
- ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับ
- ทองคำได้รับปัจจัยบวกจาก Dovish tone ของ Yellen ทำให้ปรับตัวสูงขึ้นทั้งนี้
- กองทุน SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำอีก -0.4% ไม่ได้มีนัยสำคัญ ทั้งนี้มูลค่ากองทุนยังคงปร
แนวทางทองคำวันที่ 29-3-59
แนวรับ 1210 1205 1200 แนวต้าน 1223 1225 1230
จากเมื่อวานที่ราคารีบาวน์ขึ้นไป (เกิน 1215) และไปหยุด 1223 ซึ่งเป็นการทดสอบครั้งที่ 3 ตามลูกศรสีเหลือง ในเบื้องต้นวันนี้มองการปรับตัวลดลงต่อไประดับ 1210 แต่หากกรณีผิดทางราคาหลุดเกินกว่า 1223 ขึ้นไปจะมองการขึ้นระยะสั้นอีกครั้ง ทั้งนี้ภาพรวมทองคำเริ่มเข้าสู่การพักฐาน ปัจจัยเรื่องตลาดหุ้นทั่วโลกดูเหมือนจะอยู่ในช่วงขาขึ้น และ ยังไม่เสียทรงเท่าไร นอกจากนี้แรงซื้อของกองทุน SPDR ค่อนข้างเบาบาง ถึง ทยอยขายออกมาเล็กน้อยในช่วงนี้
ทางเลือกรอง : ราคาผ่าน 1223 ขึ้นไป มองว่า จะปรับตัวสูงขึ้นต่อในระยะสั้น ไปจนถึงแนวต้านบริเวณ 1230 ซึ่งฝั่งคนที่มีสถานะขายก่อน ควรตัดขาดทุนแถว 1223
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยทรงตัวเมื่อวานนี้ หลังจากตลาดฝั่งเอเชียส่วนใหญ่ปิดทำการ ในระยะนี้มองว่า SET ยังไม่เสียทรงขาขึ้น ยังพอมีช่องว่างให้ขึ้นอยู่ และมองตรงนี้เป็นเพียงการพักตัวเท่านั้น ยังไม่ได้ถึงกับเป็นแนวโน้มขาลง ส่วนปัจจัยบวกยังไม่ค่อยมี เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดต่างประเทศมากกว่า ค่าเงินบาทมองเริ่มแข็งค่าเล็กน้อย แต่ยังไม่มีนัยสำคัญเท่าไรนัก
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อ Core PCE ชะลอตัวลงเหลือ 0.1% จากเดือนก่อนหน้า 0.3% ปรับตัวลดลงในลักษณะผันผวนเดือนต่อเดือน ซึ่งตัวนี้เป็นอัตราเงินเฟ้อที่ FED ให้น้ำหนักมากกว่าตัว CPI ทั้งนี้ โดยปกติตัวนี้ไม่มีผลต่อราคาทองคำเท่าไรนัก
- การใช้จ่ายผู้บริโภค (Personal spending) ขยายตัว 0.1% เท่ากับเดือนก่อนหน้า ขณะที่รายรับของผู้บริโภค (Personal income) หดตัวลงเหลือเพียงขยายตัว 0.2% จาก 0.5% ในเดือนก่อนหน้า การใช้จ่ายและรายได้ของผู้บริโภคเมื่อดูทิศทางโดยรวมยังไม่ได้มีแนวโน้มชัดเจน ยังหดตัวและขยายตัวผันผวนในแต่ละเดือน
-ตลาดหุ้นอเมริกาในช่วงแรกของชั่วโมงการซื้อ-ขายปรับตัวลดลงระดับปานกลาง (เกือบ 100 จุด) ก่อนที่จะมีแรงซื้อเข้ามาจนสามารถปิดบวกได้เมื่อวานนี้
- ข่าวทางฝั่งยุโรปไม่มีประกาศออกมาเมื่อวานนี้ เนื่องจากเป็นวันหยุดทำการ
- มีข่าวทางฝั่งอเมริกาเพิ่มเติมคือ เมื่อวานมีเหตุการณ์ความไม่สงบที่ U.S. Capital visitor center ซึ่งเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวค่อนข้างนิยม มีคนร้ายถูกยิงบาดเจ็บโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ ยังไม่ได้มีประกาศออกมาว่าสาเหตุจากอะไร แต่เบื้องต้นสันนิษฐานว่า ไม่ได้เป็นเหตุการณ์ที่จะส่งผลกระทบในวงกว้าง ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานก็สามารถจัดการเหตุการณ์ให้เข้าสู่ระดับปกติได้
- มีข่าวที่ยังไม่ยืนยันจากรัฐบาลญี่ปุ่นว่า อาจจะมีการอัดฉีดเงินเพิ่มอีก 5 ล้านล้านเยน เพื่อพยุงเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ยังคงอ่อนแออยู่ในช่วงนี้ ล่าสุดตัวเลขค้าปลีกที่ประกาศออกมายังคงขยายตัวน้อยกว่าคาดการณ์อยู่ (0.2% VS 1.6%)
- ตลาดหุ้นจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกง (HSCEI) ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นชนแนวต้านเส้นแนวโน้มขาลง ซึ่งหากผ่านไปได้ (ระดับ 9000 จุด) ก็จะส่งผลให้แนวโน้มฝั่งขึ้นน่าจะเริ่มมาอีกครั้ง แต่เป็นการขึ้นระยะสั้นเท่านั้น
- ทองคำปรับตัวลดลงและไม่เห็นแรงซื้อเข้ามาพยุงในช่วงนี้ หลังจากตลาดหันกลับมาคาดการณ์กันถึงทิศทางดอกเบี้ยว่ามีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องในปีนี้
- ฝั่งข่าวในตลาดน้ำมันดิบไม่ได้มีข่าวที่มีนัยสำคัญ ยังได้เห็นน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอยู่เล็กน้อยในช่วงนี้ ข่าวบวกโดยรวมนั้นมาจาก การที่ปีที่ผ่านมา การปรับตัวลดลงของน้ำมันดิบเป็นผลจากน้ำมันล้นตลาด ไม่ใช่ ความต้องการน้ำมันดิบน้อยลง
แนวรับ 1210 1205 1200 แนวต้าน 1215 1222 1225
ทองคำเริ่มได้รับปัจจัยลบจากแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของอเมริกาที่มีกระแสเริ่มกลับมามากขึ้นในช่วงนี้ รวมถึงแรงขายจากกองทุน SPDR ที่ลดสถานะจน NAV ใกล้เคียงกับระดับต้นเดือน กุมภาพันธ์ ซึ่งถ้าเทียบกับระดับสปอตแล้วจะอยู่บริเวณ 1190-1200 ก็ถือว่าใกล้เคียงกันกับระดับนี้ จนถึงตอนนี้มองว่า ทองคำเริ่มการพักตัวมาสักพักหนึ่งแล้ว และลุ้นระดับ 1190-1200 ให้รับอยู่ ภาพรวมรายสัปดาห์เริ่มพักตัวสัปดาห์แรก ในระยะสั้นมองการปรับตัวขึ้นไป 1215 ก่อน
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงในวันศุกร์ แต่โดยรวมแล้วยังอยู่ในระดับที่เป็นบวกอยู่ ถึงแม้จะมีการย่อถอยกลับมาเล็กน้อย ส่วนข่าวที่ออกมาในวันศุกร์คือ การส่งออกของไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น 10% ส่วนการนำเข้าหดตัว –16% ทั้งนี้เป็นผลมาจากการขยายตัวของการส่งออกทองคำ และ น้ำมันดิบ ซึ่งหากไม่รวมผลกระทบจากสินค้าสองตัวนี้จะทำให้การส่งออกของไทยขยายตัวเป็นเดือนแรกกว่า 2%
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- GDP Q4 2015 ของอเมริกา รอบสุดท้าย (Final GDP) ขยายตัว 1.4% มากกว่าประมาณการณ์รอบก่อนที่ 1% ทั้งนี้ถึงแม้จะขยายตัวดีขึ้นแต่ตลาดกลับไม่ได้ตกใจเท่าไรนัก เพราะ แนวโน้มโดยรวมของ GDP ยังคงชะลอตัวจากช่วงปีที่แล้ว
- GDP price index หรือราคาสินค้า/บริการที่ถูกนำมาคิดรวมใน GDP ขยายตัว 0.9% เท่ากับเดือนก่อนหน้าและคาดการณ์ ไม่ได้มีผลที่เป็นนัยสำคัญมากนัก
- ประธาน FED สาขาซานฟรานซิสโก คุณ John Williams ให้ความเห็นว่า เค้าเชื่อว่าเศรษฐกิจอเมริกานั้นค่อนข้างดีจากการจ้างงานที่แข็งแกร่ง และ อัตราเงินเฟ้อที่เริ่มมีเสถียรภาพ แต่ยังกังวลความผันผวนของตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลกที่ยังเปราะบาง และ ต้องประเมินว่าจะส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์และเศรษฐกิจอเมริกาอย่างไร
- ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี (วันศุกร์หยุดทำการเนื่องในวัน Good Friday) จากสินค้าประเภทคอมโมดิตี้ที่ปรับตัวลดลงแรงในช่วงนี้ นอกจากนี้ยังได้รับความกังวลจากการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ที่มีแนวโน้มมากขึ้นในช่วงนี้
- มีข่าวการควบรวมกิจการของธนาคารอิตาลี คือ Banco popolare และ Banca Popolare di Milano ที่เคยมีปัญหาเรื่องหนี้เสียในช่วงปลายปีที่แล้ว ได้ควบรวมกิจการเข้าด้วยกันแล้ว ทั้งนี้หุ้นทั้งสองตัวนี้ปิดลบต่อเนื่องหลังจากการควบรวมกิจการ
- วันนี้จะเป็นวัน Easter Monday ทำให้ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการซื้อ-ขาย
-ตลาดหุ้นฝั่งเอเชียที่เปิดส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น หลังจากญี่ปุ่นได้รับปัจจัยบวกจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และ ความกังวลเรื่องการเติบโตของจีนก็เบาบางลง ล่าสุดตลาดหุ้นจีนเริ่มชะลอการตกเรียบร้อยแล้ว
- กำไรภาคอุตสาหกรรมของจีนปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน ขยายตัว 4.8% ยังคงมีปัญหาเรื่องสินค้าคงคลังที่อยู่ในระดับสูง
- ทองคำปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยหลังจากผ่านสัปดาห์ที่แล้ว ที่ปรับตัวลดลงแรงสุดนับจากเดือน พฤศจิกายน 2015 ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าอเมริกามีแนวโน้มจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นในช่วงกลางปีนี้มากกว่าที่เคยมองไว้ช่วงก่อนหน้า
- สถานะกองทุน SPDR เริ่มเห็นแรงขายออกมาในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา และส่งผลให้มูลค่าของกองทุนลดลงสู่ระดับเดียวกับต้นเดือน กุมภาพันธ์
แนวรับ 1215 1211 1205 แนวต้าน 1218 1222 1225
ทองคำปรับตัวลดลงแรงและหลุดทุกแนวรับ แนวรับที่ประเมินไว้หากจะชะลอตัวลง คือ 1220 ซึ่งหลุดมาแล้ว จะได้แนวรับถัดไปอยู่ระดับ 1200 ถ้วน ซึ่งหากหลุด 1200 อีกที ไม่ควรมีสภานะซื้อแล้ว ราคาจะกลายเป็นแกว่งตัวออกข้างออก—ปรับตัวลดลง และฝั่งขึ้นจะเสียความได้เปรียบไป จากรูปนำ NAV มาให้ดูพบว่า เมื่อวานนี้ มีแรงขายออกจาก SPDR กว่า 2% แต่เมื่อมาดูรวมๆ ยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง เป็นเพียงการชะลอตัวระยะสั้นเท่านั้น
ทางเลือกรอง : มองราคากลับขึ้นไปก่อน มองแนวต้านแถว 1218-1220 หากหลุดขึ้นไปจะทำให้รีบาวน์เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย แต่ยังไม่ไกล
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ แสดงถึงความแข็งแกร่งออกมา ปรับตัวขึ้นผ่านกลุ่ม Sideways ระยะสั้น บ่งบอกถึงการกลับมาแนวโน้มเดิม คือ ขึ้น ประเมินแนวต้านไว้บริเวณ 1460 อีกรอบหนึ่ง เมื่อวานนี้ดัชนีขึ้นมาพร้อมกับปริมาณการซื้อ-ขายกว่า 5 หมื่นล้าน ซึ่งค่อนขางหนาแน่น ส่วนทิศทางค่าเงินบาทอ่อนค่าแรงมาก ท่ามกลางการไม่ลดดอกเบี้ยของ กนง. ผลส่วนหนึ่งมาจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าแรง แนวต้านเงินบาท 35.30
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ยอดขายบ้านใหม่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 512K เท่ากับคาดการณ์ จากเดือนก่อนหน้า 502K ทิศทางยอดขายบ้านใหม่ยังปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับภาคการผลิตที่ประกาศออกมาเมื่อวานที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ข่าวตัวนี้ไม่ได้มีนัยสำคัญกับราคาทองคำเท่าไรนัก ทองคำปรับตัวลดลงมาก่อนช่วงข่าวออก
- ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ $40/บาร์เรล ส่วนตลาดหุ้น Nasdaq ปรับตัวลดลงกว่า 1% และ Russell 2000 ปรับตัวลดลงกว่า 2% อันนี้แสดงให้เห็นถึง หุ้นตัวเล็กเริ่มปรับตัวลดลงแล้ว ขณะที่หุ้นตัวใหญ่ ยังพอพยุงตลาดได้ นักวิเคราะห์ประเมินว่า เป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่จะพักลงมาแล้ว หลังจากตลาดขึ้นมาสูงเร็วเกินไปในระยะสั้นนี้
- ตลาดหุ้นฝั่งยุโรปปิดผสมกัน มีทั้งบวกและ ลบ หลังจากเกิดเหตุการณ์ไม่สงบในเบลเยี่ยม และส่งผลให้หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวปรับตัวลดลงแรง ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับมาเมื่อวานนี้ ล่าสุด DAX ยังอยู่แถวระดับ 10000 จุด บวกลบเล็กน้อย ตลอดชั่วโมงการซื้อ-ขาย เมื่อวานนี้ นอกจากนี้ยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงอีกครั้ง
- มีข่าวทางฝั่งอเมริกาเพิ่มเติมคือ ประธาน FED สาขา Philadelphia คุณ Patrick Harker ให้ความเห็นว่า น่าจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้ได้หากเศรษฐกิจอเมริกาฟื้นตัวดีเช่นนี้
- ผลการประชุม กนง. เมื่อวานนี้พบว่า คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.5% เช่นเดิม แต่มีการปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจลงเหลือ 3.1% จากเดิม 3.5% ในขณะที่ปรับลดการส่งออกเช่นกันเหลือ –2% จากเดิมคาดว่าอยู่ 0% (ไม่ขยายตัว)
- ญี่ปุ่นปัจจุบันยังพบปัญหาเรื่องอัตราดอกเบี้ยติดลบอยู่ ล่าสุด Yield curve เริ่มส่งสัญญาณกลายเป็น Flat yield curve ไปเรียบร้อย (การเติบโตน้อย) ยังต้องติดตามสถาวะแวดล้อมของญี่ปุ่นในช่วงนี้
- สินค้าโภคภัณฑ์นับจากนี้ น่าจะได้รับแรงกดดันจากเงินดอลลาร์อีกครั้ง หลังจากตลาดเริ่มหันกลับมาดูการขึ้นดอกเบี้ยของอเมริกา ส่งผลให้เงินดอลลาร์เริ่มแข็งค่าสวนกลับขึ้นมา และ เป็นปัจจัยลบกับราคาทองคำในระยะนี้
- สถานะกองทุน SPDR ล่าสุด เมื่อวานนี้ NAV ปรับลดลงกว่า 2% สะท้อนถึงแรงขายที่ออกมาแล้ว หลังจากชะลอตัวลงในต้นเดือน
แนวทางทองคำวันที่ 23-3-59
แนวรับ 1240 1235 1230 แนวต้าน 1248 1255 1262
เมื่อวานนี้ระหว่าชั่วโมงกา
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยค่อนข้างทรงตัวเ
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- Flash manufacturing PMI ของอเมริกาปรับตัวเพิ่มขึ้น
- ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดทรงตัว
- German ZEW ที่เป็นตัวชี้วัดของแนวโน้ม
- ฝั่ง ZEW ของยูโรโซนโดยรวมปรับตัวเพิ
- ตลาดหุ้นยุโรปผันผวนเช่นเดี
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบา
- จีนประกาศว่ามีแผนจะนำเงินไ
- ฝั่งการเคลื่อนไหวของสินค้า
แนวรับ 1245 1240 1235 แนวต้าน 1255 1261 1266
กรอบการเคลื่อนไหวของทองคำเมื่อวานกับวันนี้ยังคงเป็นกรอบเดิม เนื่องจาก เมื่อวานราคาปรับตัวลดลงมาหยุดที่แนวรับแถว 1240-1245 พอดี มองว่าแนวรับนี้ยังค่อนข้างมีนัยสำคํญ ระหว่างวัน ยังมองการปรับตัวลดลงสู่แนวรับ 1240 ก่อน แต่ยังคิดว่า น่าจะยังชะลอตัวอยู่แถวนี้สักพักหนึ่ง ภาพรวมในรายสัปดาห์ยังส่งสัญญาณเป็นขาขึ้นอยู่ ทั้งนี้หากราคาหลุด 1240 จริงๆ ก็จะเปิดให้ทองคำปรับตัวลดลงต่อไปอีกไปยังแนวรับ 1234 บริเวณนั้น โดยที่ขาขึ้นก็ยังไม่เสียเช่นเดิม
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1250 ขึ้นไปด้านบนมองว่า จะหยุดการพักตัว และมีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นต่อ
USD/THB
เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นช่วงท้ายตลาด หลังจาก JAS ไม่ชำระค่าใบอนุญาติคลื่นที่ได้ประมูลไป ทำให้กลุ่มสื่อสารตัวอื่นๆปรับตัวขึ้นดันดัชนี เพราะ คู่แข่งน้อยลงไปอีก 1 ราย จากที่คาดการณ์ว่า กลุ่มสื่อสารที่มีคู่แข่งมากขึ้นจะทำให้ผลการดำเนินงานแย่ลง และ Credit Suisse ก็ได้ปรับประมาณการณ์เป้าราคากลุ่มสื่อสารแต่ละตัวขึ้น ทั้งนี้เงินบาทยังมองอ่อนค่าไปใกล้ 35.00
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ยอดขายบ้านมือสองลดลง –7.1% จากเดือนก่อนหน้า 0.4% และคาดการณ์ –2.4% เป็นการปรับตัวลดลงน้อยกว่าเดือนก่อนหน้าและคาดการณ์ที่ค่อนข้างมาก เป็นการปรับตัวลดลงมากสุดนับตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน ทั้งนี้ นัยสำคัญของข่าวนี้ในปัจจุบันเริ่มมีผลกับทองคำน้อยลง ส่งผลให้ทองคำไม่รับข่าวบวกเท่าไรนัก
- ตลาดหุ้นอเมริกาเมื่อวานนี้พบว่ามีปริมาณการซื้อ-ขายที่ค่อนข้างเบาบาง หลังจาก 5 สัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้นแรงเกือบทั้งหมด นำโดยกลุ่ม Telecom และ Healthcare
- ประธาน FED สาขา Atlanta คุณ Dennis lockhart ให้ความเห็นว่า การขึ้นดอกเบี้ยอาจจะมาเร็วถึงเดือนหน้านี้เลย และคาดหวังว่าตลาดแรงงานจะฟื้นตัวได้ต่อเนื่องอีกในปีนี้ ทั้งนี้ คุณ Lockhart ถือว่าเป็น Non-voting member (ไม่มีสิทธิ์ออกเสียง)
- ข่าวทางยุโรปยังไม่มีอีกเช่นเคย ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ-ปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อวานนี้ หลังจากผันผวนตามราคาน้ำมันดิบ ในวันนี้จะข้ามไปทางฝั่งความเห็นของประธาน FED ในแต่ละท่านแทน
- ประธาน FED สาขา San Francisco คุณ John Williams ให้ความเห็นว่า ถ้าข้อมูลที่ออกมาเป็นไปตามที่เค้าคาดการณ์คาดว่าจะได้เห็น FED ขึ้นดอกเบี้ยในเดือน เมษายน หรือ มิถุนายน
-ตลาดหุ้นฝั่งเอเชียยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวมากนัก ยังปรับตัวสูงขึ้นบ้างลดลงบ้าง ตามการขาดปัจจัยอะไรใหม่ๆ ไม่เหมือนช่วงต้นปีที่มีประเด็นเรื่องการชะลอตัวของจีนค่อนข้างเยอะ ในปัจจุบันความกังวลดังกล่าวเริ่มน้อยลง หลังจากเงินหยวนแข็งค่าขึ้น
- IMF ประเมินว่า เศรษฐกิจเวียดนาม กำลังเผชิญกับความเสี่ยงหากไม่สามารถปฎิรูปโครงสร้างอย่าง ธนาคาร และ รัฐวิสาหกิจ หลังจากสินค้าโภคภัณฑ์ตกต่ำ การชะลอตัวของจีน และ และนโยบายการเงินที่อาจจะเข้มงวดขึ้น
- ทองคำได้รับปัจจัยลบจากการคาดการณ์ว่า ที่ประชุม FOMC อาจจะกลับมาขึ้นดอกเบี้ยได้ในเร็วๆนี้ (เมษายน-มิถุนายน) ทำให้ทองคำเผชิญกับความเสี่ยงที่จะโดนแรงเทขายออกมา อ้างอิงจากความเห็นนักวิเคราะห์ที่เปิดเผยใน CNBC
- กองทุน SPDR ยังคงซื้อเพิ่มทองคำอีก 11.9 ตัน ในวันศุกร์ ส่งผลให้เมื่อนับจากช่วงต้นปีมีเม็ดเงินไหลเข้ากองทุน 176.6 ตัน เทียบกับ 40.8 ตัน ปีก่อนหน้าในช่วงเดียวกัน
แนวทางทองคำวันที่ 21-3-59
แนวรับ 1245 1240 1235 แนวต้าน 1255 1261 1266
จากรูปแบบ Head and shoulder ในวันศุกร์ ยังมองการปรับตัวลดลงมาต่อ โดยมีแนวรับ 1240-1245 แถวบริเวณนั้น ซึ่งคาดว่าฝั่ง Short ควรจะไปปิดบริเวณนั้นเพื่อค
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยยังค่อนข้างทรงต
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ตัวเลขคาดการณ์ดัชนีความเชื
- ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของผ
- ตลาดหุ้นอเมริกาส่วนใหญ่แล้
- ข่าวทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรปยั
-JP morgan Chase ออกมาให้ความเห็นว่า ถึงเวลาที่จะซื้อทองคำมากกว
- ตลาดหุ้นจีนปรับตัวเพิ่มสูง
- กองทุน Hedge fund ปรับลดสถานะ Bullish bet ในทองคำลงอีก และเป็นการลดจากระดับสูงสุด
- ทองคำทรงตัวหลังจากขาดปัจจั
- ราคาน้ำมันดิบพักตัวลงมาสู่