ประชาสัมพันธ์
แนวรับ 1246 1242 1235 แนวต้าน 1255 1262 1265
การเคลื่อนไหวของทองคำเมื่อวานนี้ ออกมาเป็นรูปแบบ Pinbar แต่มองว่า สถานที่เกิดยังอยู่ใน Uptrend ภาพรวมจึงแค่เป็นสัญญาณเตือนให้ระมัดระวังเท่านั้น ระยะสั้นมองการปรับตัวขึ้นไปทดสอบบริเวณ 1255 ก่อน ในวันนี้อยากให้เป็นการซื้อ-ขายระยะสั้นแทน เพราะ ภาพรวมยังไม่ชัดเจน และยังต้องรอยืนยันราคาปิดในวันนี้ หากราคาปิดเหนือกว่า 1255 จะมองว่า ภาพลงไม่ได้แรงนัก เทรนโดยรวมวันจันทร์น่าจะชัดเจนขึ้น
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นต่อเมื่อวานพร้อมกับภาวะ Bearish Divergent ในรายต่ำกว่าชั่วโมงมองว่าการขึ้นนั้นไม่ไกล และ ให้น้ำหนักการปรับตัวลดลงแล้ว ยังมีช่องว่างที่เปิดไว้ในระดับที่ต่ำกว่านี้ ยังมองการพักตัวลงมาด้านล่าง แต่โดยรวมแล้วตลาดหุ้นยังอยู่ใน Uptrend ไม่ได้เสียทรงเท่าไร ทิศทางค่าเงินบาทมองว่า เริ่มอ่อนค่าต่อเนื่องในช่วงนี้ ประเมินแนวต้านแรกไว้ระดับ 35.10
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลดลงสู่ 247K เป็นจุดต่ำสุดใหม่ หลังจากทำจุดต่ำสุดเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 253K และคาดการณ์ 265K เมื่อออกมาดูในขณะที่เกิดวิกฤติปี 2009 ขึ้น ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานตัวนี้เคยปรับขึ้นไปสูงสุดถึงระดับประมาณ 600K
- ดัชนีภาคการผลิต Philly FED หดตัวลงอีกครั้งสู่ระดับ –1.6 จากเดือนก่อนหน้า 12.4 และคาดการณ์ 8.1 ตัวนี้ผันผวนอยู่ระหว่างบวกและลบ ไม่ค่อยมีผลกระทบต่อทองคำเท่าไรนัก เพราะ เป็นดัชนีภาคการผลิตที่บ่งบอกสภาวะของเศรษฐกิจเพียงรัฐเดียว
-ตลาดหุ้นทางฝั่งอเมริกาปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกหลังจากปรับตัวสูงขึ้นมาแรงติดต่อกันหลายสัปดาห์ ทั้งนี้เป็นการพักตัวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
- ตลาดหุ้นยุโรปโดยรวมแล้วปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อวานนี้ หลังจากที่ประชุม ECB ไม่มีนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม และยังคงอัตราดอกเบี้ยไม่ได้มีการปรับลดแต่อย่างใด และ คุณ ดรากี้ ประธาน ECB แสดงความกังวลเรื่องภาวะเงินเฟ้อที่อาจจะกลับมาติดลบอีกครั้งในเดือนนี้ (เดือนก่อนๆเริ่มฟื้นตัวกลับมา)
- ราคาหุ้นของ Volkswagen ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 5% หลังจากตกลงกันได้ในเรื่องของการโกงการปล่อยไอเสีย และ ถึงแม้จะเป็นข่าวร้ายก็ตาม
- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นส่วนใหญ่เมื่อวานนี้ หลังจากตลาดหุ้นโดยรวมส่งมาทางบวก และยังไม่มีปัจจัยอะไรใหม่ๆเข้ามา
- ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้คอมโพสิสปรับตัวลดลงแรง 4.5% ในรอบสัปดาห์ เป็นตลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทนแย่สุดเมื่อเทียบกับดัชนีกว่า 93 ตัว ทั่วโลก ส่วนเงินหยวนยังซื้อ-ขายกันอยู่ระดับที่อ่อนค่าสุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินทั่วโลก จากความกังวลเรื่อง Credit default ซึ่งเป็นไปในทางเดียวกันกับที่ จอร์จ โซรอส ออกมาให้ความเห็น
- กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ในปีนี้เหมือนเป็นหนังคนละม้วนกับปีที่แล้ว ท่ามกลางความต้องการของจีนที่มากขึ้น ประกอบกับ ภาวะภัยแล้งทั่วโลก ส่งผลให้ Bloomberg commodities index ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นกว่า 15%
- ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขาย หลังจากที่ประชุม ECB คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม ก่อนที่จะเจอแรงขายปรับตัวลดลงมาแรงกว่า $20
แนวรับ 1246 1242 1235 แนวต้าน 1255 1262 1265
ทองคำยังมองว่าการพักตัวเมื่อวานยังไม่มีแรงพอที่จะดึงฝั่งลงมา มองกลับไปทดสอบแนวต้าน 1255-1262 อีกครั้งในระยะนี้ สำหรับการพักตัวระยะสั้นไม่ควรปรับตัวลดลงเกินกว่า 1246 ซึ่งใช้เป็นจุด Stoploss ทางฝั่งขึ้น ข่าวทิศทางยังคงผสมกัน ข่าวบวกที่สำคัญคือ เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับต้นปี และ ยังมีแนวโน้มอ่อนค่าลงไปอีก แต่ข่าวลบคือ ตลาดหุ้นทำ New-high ไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้ราคาผันผวนในกรอบ
USD/THB
ตลาดหุ้นทรงตัวเมื่อวานนี้ ก่อนที่จะปรับตัวสูงขึ้นแรงช่วงเช้าวันนี้ ตามทิศทางเดียวกันกับภูมิภาค และ ทั่วโลก มองว่า การขึ้นมาครั้งนี้หลุดแนวต้านระยะกลางออกมาด้วย แต่ยังอยากเห็นการพักตัวลงมาอยู่ ถ้าพักตัวไม่แรงมองว่า จะกลับขึ้นไปอีกได้ ทิศทางค่าเงินบาทมองเริ่มอ่อนค่าระยะสั้นนี้ มองแนวต้านประมาณ 35.15 อีกรอบหนึ่ง
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ค่าเงินดอลลาร์ปัจจุบันเมื่อนับจากต้นปี (YTD) ปรับตัวอ่อนค่าลง 4.2% เมื่อเทียบกับเงินยูโร นักวิเคราะห์ประเมินว่า ค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มจะอ่อนค่าลงไปจนถึงสิ้นสุดไตรมาสนี้ และเมื่อนำพฤติกรรมในอดีตมาดูพบว่า หลังจากการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก เงินดอลลาร์มักจะเริ่มอ่อนค่า และ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ค่าเงินดอลลาร์หมดปัจจัยที่จะกระตุ้นให้แข็งค่าแรงๆเหมือนช่วงขึ้นดอกเบี้ยปีที่แล้ว นอกจากนี้กองทุน Hedge fund ต่างๆ ปรับลดสถานะ Bullish bet ลง ทั้งนี้ การอ่อนค่าเมื่อดูจากอดีตพบว่า จะเป็นเพียงช่วงหนึ่งจากนั้นจะกลับแข็งค่าต่อตามทิศทางเดิม จึงเป็นปัจจัยบวกกับทองคำระยะสั้น
- ตลาดหุ้นฝั่งอเมริกาปรับตัวสูงขึ้นทำระดับ New-high ในรอบปีนี้ และในรอบเกือบ 1 ปี (สูงสุดนับจาก ก.ค. 2015) ทั้งนี้ตลาดเจอแรงขายกดลงมาช่วงท้ายของชั่วโมง
- Volkswagen ค่ายรถที่มีปัญหาเรื่องการโกงค่าการปล่อยไอเสียเมื่อปีที่แล้ว ตกลงว่าจะจ่ายค่าชดเชยความเสียหายกับผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบคนละ $5000 ซึ่ง Reuters ประเมินว่า ผลลัพธ์ครั้งนี้จะทำให้บริษัทกำไรลดลงกว่า 70%
-ตลาดหุ้นยุโรปโดยรวมแล้วปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจโดยรวมแล้วออกมาดี โดยเฉพาะความเชื่อมั่น ZEW ถึงแม้จะมีประเด็นเกี่ยวกับ Volkswagen ก็ตาม ในวันนี้จะมีผลการประชุม ECB ในเวลา 19.30 ตามเวลาบ้านเรา
- ตลาดหุ้นทางฝั่งเอเชียส่วนใหญ่แล้วปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นหลังจากธนาคารกลางจีนอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบเศรษฐกิจวงเงิน 2.5 ล้านหยวนผ่านการประมูลพันธบัตรอายุ 7 วัน นอกจากนี้ก่อนเดือน ก.ค. จีนกำลังจะเตรียมเสียบปลั๊กเชื่อมระหว่างตลาดหุ้นเซินเจินกับฮ่องกง เหมือนที่เคยทำมาแล้วในอดีต ซึ่งหลังจากการเสียบปลั๊กรวมกัน ทำให้หุ้นจีนทะยานขึ้นไปกว่า 30% ในช่วงแรก
- Bloomberg คาดการณ์ว่า จีนจะเริ่มลดดอกเบี้ยอีกครั้งในไตรมาสที่ 2 และ 4 ของปีนี้
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ถึงแม้จะมีการประกาศสต๊อกน้ำมันดิบออกมามากกว่าเดิม ล่าสุดซื้อ-ขายกันอยู่ที่ระดับประมาณ $43/บาร์เรล
- ซิลเวอร์ปรับตัวขึ้นแรง หลังจากผ่านแนวต้านสำคัญออกมาประกอบกับ ซิลเวอร์เป็นโลหะที่สามารถนำไปใช้ได้ในอุตสาหกรรม ทำให้เมื่อสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้นจากจีน ก็เลยทำให้ซิลเวอร์ที่สามารถนำไปใช้ได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
แนวรับ 1252 1249 1243 แนวต้าน 1256 1260 1270
การเคลื่อนไหวของทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และเมื่อมาดูภาพรวมของแท่งเทียนระยะ H1 หรือรายชั่วโมง จะพบว่า ราคายืนยันการเป็น Uptrend มาตั้งแต่เย็นเมื่อวาน หลังจากขึ้นแรงมาหยุดที่ 1243 แล้วพักตัวเบาๆ จากนั้นขึ้นต่อที่ 1254 แล้วพักเบาๆ จากนั้นตามด้วยแท่งเทียน Bullish ตามกรอบสี่เหลี่ยม มองว่า จะยืนยันการขึ้นต่อจากแท่งเทียนล่าสุด ไปยังแนวต้าน 1260 โดยระหว่างทางอาจจะมีการพักตัวเล็กน้อย
ทางเลือกรอง : ราคาพักหลุดแท่งเทียน Bullish บริเวณ 1249 บ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นที่เสียทรง
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรงหลุดระดับ 1400จุดขึ้นมา เมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 5 ต่อเนื่องกัน (สามวันที่ปรับตัวขึ้นแรงๆ) มองว่า ระยะยาวยังมีแนวโน้มเชิงบวกสำหรับตลาดหุ้นไทย แต่ระยะสั้นอาจจะมีการพักตัวลงมาบ้าง มีช่องว่างที่เปิดไว้ในช่วงบริเวณ 1400 จุดรอการปิดอยู่ (ลงจากนี้ประมาณไม่เกิน 10 จุด) ส่วนเงินบาทที่แข็งค่าแรงต่อเนื่องนั้นมองว่า ยังไม่หยุด แต่ระยะสั้นมองการรีบาวน์อ่อนค่าไประดับ 34.90-34.95
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ยอดขออนุญาติก่อสร้าง (Building permits) ชะลอตัวลงเหลือ 1.09M จากเดือนก่อนหน้า 1.18M และคาดการณ์ 1.20M เมื่อดูทิศทางโดยรวมพบว่า ยอดขออนุญาติก่อสร้างชะลอตัวลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน แต่การชะลอตัวลงเป็นไปเพียงเล็กน้อย และยังอยู่ในระดับที่ดีกว่าช่วงปี 2009 (ปี 2009 ยอดตัวนี้ต่ำมาก อยู่ต่ำกว่าระดับ 1M) ส่วน ยอดขอสร้างบ้านใหม่ (Housing start) ชะลอตัวลงเช่นเดียวกัน และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน สำหรับนัยสำคัญของข่าวสองตัวนี้มองว่า ไม่ค่อยสำคัญกับทองคำเท่าไรนัก
- ดัชนีหุ้น SP500 ปรับตัวขึ้นเหนือกว่า 2100 จุดเป็นครั้งแรกเป็นการผ่านแนวต้านทางจิตวิทยา ก่อนที่จะมีการปรับตัวลดลง ลดช่วงบวก และ ก็ปิดค่อนข้างทรงตัว มองว่า เริ่มเห็นสัญญาณพักบ้างแล้ว หลังจากขึ้นมาแรง
- ดัชนีความเชื่อมั่น ZEW ของเยอรมันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 11.2 จุด จากเดือนก่อนหน้า 4.3 จุด และคาดการณ์ 8.2 จุด เป็นการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ทางฝั่ง ZEW ของยูโรโซนปรับตัวขึ้นแรงสู่ระดับ 21.5 จุด จากเดือนก่อนหน้า 10.6 จุด และเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 12 เดือน (1 ปี ) บ่งบอกถึงทิศทางที่ดี ซึ่งตัว ZEW นี้จะทำการสำรวจถึงมุมมองของนักวิเคราะห์ที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจในอนาคต
- ตลาดหุ้นยุโรปโดยรวมแล้วปรับตัวขึ้นแรงกว่า 1.5% เมื่อวานนี้ จากข่าวบวกดังกล่าว
- ตัวเลขดุลการค้าของญี่ปุ่นเกินดุล จากนำเข้าที่หดตัวแรงกว่าส่งออกที่หดตัว (หดตัวทั้งคู่ แต่นำเข้าหดตัวแรงกว่า ) หลังจากตัวเลขส่งออกออกมาระดับ –6.8% จากค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นแรงกว่า 10% นับจากต้นปี และยังกดดันการขยายตัวของญี่ปุ่นอยู่
- เมื่อวานนี้เป็นวันแรกที่มีการเปิด Gold exchange ของจีน ซึ่งจะเป็นการกำหนดมาตรฐานในการเทรดทองคำในประเทศจีนที่ถือว่า มีปริมาณความต้องการทองคำแท่งสูง ทำให้ตลาดการซื้อ-ขายทองคำหลักๆจะมีเพิ่มจาก อังกฤษ และ อเมริกา คือ จีน
- กองทุน SPDR ปรับลดการถือครองทองคำอีก 7.43 ตัน สู่ระดับ 805.03 ตันในวันอังคาร ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงแรงสุดในรอบเดือน นักวิเคราะห์ประเมินว่า การขึ้นที่ไม่มีการสนับสนุนจากกองทุน จะทำให้การขึ้นไม่ยั่งยืน
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นต่อจากการหยุดประท้วง (Strike) ของประเทศคูเวต หลังจากรัฐบาลยืนยันจะไม่มีการเจรจากับผู้ประท้วง
แนวรับ 1230 1228 1225 แนวต้าน 1235 1241 1246
เมื่อเช้าราคาหลุดกรอบล่างเส้น Uptrend ลงมา มองว่า กลับขึ้นไปทดสอบอีกครั้งบริเวณ 1235 จากความพยายามของแท่งเทียน Bullish ที่โผล่ออกมา ซึ่งจุด 1235 เป็นจุดที่ต้องระมัดระวัง กรณียืนได้เท่านั้นจึงจะชะลอการลง ทางฝั่งลงยังมองไม่เยอะ มองระดับ 1225 ก่อนเป็นแนวรับสำคัญ ข่าวบวกยังเข้ามาในตลาดพอสมควร กองทุนสนใจเพิ่มสถาะการถือครองทองคำมากขึ้น แต่ฝั่งลบก็มีเช่นกัน คือ ตลาดหุ้นทำ New-high ภาพรวมจึงผสม
ทางเลือกรอง : ราคายืนเหนือ 1235 ได้ จะเริ่มกลับขึ้นไปอีกครั้งหนึ่ง
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นแรงเมื่อวานนี้ และตลาดยังคงดำเนินแบบ Uptrend อยู่ ล่าสุดเมื่อวานนี้ต่างชาติยังซื้อเพิ่มอีกกว่า 1600 ล้านบาท และยังคง Long สุทธิเพิ่มในฟิวเจอร์อีกกว่า 12,000 สัญญา ยังมองว่าเป็นสัญญาณเชิงบวกให้กับตลาดหุ้นไทย ส่วนทิศทางค่าเงินบาท มองการแข็งค่าต่อเนื่องอีกแนวรับแรก 34.95
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ประธาน FED สาขานิวยอร์ค คุณ Dudley ประเมินว่า เศรษฐกิจอเมริกายังฟื้นตัวไม่เต็มที่จากช่วงวิกฤติการเงินที่ผ่านมา และ ยังเผชิญกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก จึงให้ความเห็นว่าจะระมัดระวังการปรับเปลี่ยนเรื่องนโยบายการเงิน
- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่ในรอบปี ระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขายปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 18000 จุด นำโดยกลุ่ม Health care ในเบื้องต้นนักวิเคราะห์มองว่า ได้รับปัจจัยบวกจาก น้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงแรงก่อนจะฟื้นตัวลงมาใกล้ระดับเดิมก่อนที่จะมีการปรับตัวลดลง นอกจากนี้ยังมองว่า ตลาดรับข่าวร้ายไปแล้ว
- ผลประกอบการของ Morgan Stanley ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่ JP morgan กลับมีผลประกอบการที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก
- จากกระแสที่ว่าอังกฤษจะออกจากกลุ่มยูโรโซนเมื่อช่วงต้นปี ล่าสุด รมว.คลังอังกฤษวิเคราะห์ว่า หากออกจากยูโรโซนจริงจะมีผลต่อ GDP ประมาณ 6% และจะทำให้แนวโน้มประชากรอังกฤษมีความยากจนลง
- ตลาดหุ้นยุโรปโดยรวมแล้วปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ถึงแม้ระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขาย จะปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบเช่นกัน ล่าสุดดัชนี DAX ของเยอรมันปรับตัวขึ้นผ่านระดับ 10000 จุดเรียบร้อยและยังส่งสัญญาณ In uptrend
- ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นแรงกว่า 3.6% หลังจากตกลงมาในช่วงก่อนหน้า และถึงแม้จะมีเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เมือง คุมาโมโต แต่ตลาดกลับไม่รับข่าวร้ายเท่าไรนัก ตลาดหุ้นเอเชียทั่งภูมิภาคล้วนแล้วแต่ปรับตัวสูงขึ้นต่อตามฝั่งยุโรปและอเมริกา
- S&P ออกมาแสดงความกังวลถึงฐานะความแข็งแกร่งของรัฐวิสาหกิจจีน หลังมีแนวโน้มที่จะผิดนัดชำระหนี้สูงมากขึ้น หลังจากรัฐบาลยังคงเดินหน้าปิดบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีกำลังการผลิตส่วนเกินเหลือเยอะ
- ทองคำทรงตัว แต่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตลาดทองคำกำลังรับข่าวการขึ้นดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ไปแล้ว และหากมีการผิดคาดขึ้นดอกเบี้ยเกินกว่า 1 ครั้งจะเป็นปัจจัยลบกับทองคำ แต่กรณีกลับกันหากไม่ขึ้นดอกเบี้ยเลยเราคงได้เห็นทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นกว่าระดับนี้อีก
- น้ำมันดิบปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับ $40/บาร์เรลเช่นเดิมหลังจากปรับตัวลดลงม
เมื่อเช้าราคาหลุดกรอบล่างเส้น Uptrend ลงมา มองว่า กลับขึ้นไปทดสอบอีกครั้งบริเวณ 1235 จากความพยายามของแท่งเทียน Bullish ที่โผล่ออกมา ซึ่งจุด 1235 เป็นจุดที่ต้องระมัดระวัง กรณียืนได้เท่านั้นจึงจะชะลอการลง ทางฝั่งลงยังมองไม่เยอะ มองระดับ 1225 ก่อนเป็นแนวรับสำคัญ ข่าวบวกยังเข้ามาในตลาดพอสมควร กองทุนสนใจเพิ่มสถาะการถือครองทองคำมากขึ้น แต่ฝั่งลบก็มีเช่นกัน คือ ตลาดหุ้นทำ New-high ภาพรวมจึงผสม
ทางเลือกรอง : ราคายืนเหนือ 1235 ได้ จะเริ่มกลับขึ้นไปอีกครั้งหนึ่ง
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นแรงเมื่อวานนี้ และตลาดยังคงดำเนินแบบ Uptrend อยู่ ล่าสุดเมื่อวานนี้ต่างชาติยังซื้อเพิ่มอีกกว่า 1600 ล้านบาท และยังคง Long สุทธิเพิ่มในฟิวเจอร์อีกกว่า 12,000 สัญญา ยังมองว่าเป็นสัญญาณเชิงบวกให้กับตลาดหุ้นไทย ส่วนทิศทางค่าเงินบาท มองการแข็งค่าต่อเนื่องอีกแนวรับแรก 34.95
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ประธาน FED สาขานิวยอร์ค คุณ Dudley ประเมินว่า เศรษฐกิจอเมริกายังฟื้นตัวไม่เต็มที่จากช่วงวิกฤติการเงินที่ผ่านมา และ ยังเผชิญกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก จึงให้ความเห็นว่าจะระมัดระวังการปรับเปลี่ยนเรื่องนโยบายการเงิน
- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่ในรอบปี ระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขายปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 18000 จุด นำโดยกลุ่ม Health care ในเบื้องต้นนักวิเคราะห์มองว่า ได้รับปัจจัยบวกจาก น้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงแรงก่อนจะฟื้นตัวลงมาใกล้ระดับเดิมก่อนที่จะมีการปรับตัวลดลง นอกจากนี้ยังมองว่า ตลาดรับข่าวร้ายไปแล้ว
- ผลประกอบการของ Morgan Stanley ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่ JP morgan กลับมีผลประกอบการที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก
- จากกระแสที่ว่าอังกฤษจะออกจากกลุ่มยูโรโซนเมื่อช่วงต้นปี ล่าสุด รมว.คลังอังกฤษวิเคราะห์ว่า หากออกจากยูโรโซนจริงจะมีผลต่อ GDP ประมาณ 6% และจะทำให้แนวโน้มประชากรอังกฤษมีความยากจนลง
- ตลาดหุ้นยุโรปโดยรวมแล้วปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ถึงแม้ระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขาย จะปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบเช่นกัน ล่าสุดดัชนี DAX ของเยอรมันปรับตัวขึ้นผ่านระดับ 10000 จุดเรียบร้อยและยังส่งสัญญาณ In uptrend
- ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นแรงกว่า 3.6% หลังจากตกลงมาในช่วงก่อนหน้า และถึงแม้จะมีเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เมือง คุมาโมโต แต่ตลาดกลับไม่รับข่าวร้ายเท่าไรนัก ตลาดหุ้นเอเชียทั่งภูมิภาคล้วนแล้วแต่ปรับตัวสูงขึ้นต่อตามฝั่งยุโรปและอเมริกา
- S&P ออกมาแสดงความกังวลถึงฐานะความแข็งแกร่งของรัฐวิสาหกิจจีน หลังมีแนวโน้มที่จะผิดนัดชำระหนี้สูงมากขึ้น หลังจากรัฐบาลยังคงเดินหน้าปิดบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีกำลังการผลิตส่วนเกินเหลือเยอะ
- ทองคำทรงตัว แต่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตลาดทองคำกำลังรับข่าวการขึ้นดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ไปแล้ว และหากมีการผิดคาดขึ้นดอกเบี้ยเกินกว่า 1 ครั้งจะเป็นปัจจัยลบกับทองคำ แต่กรณีกลับกันหากไม่ขึ้นดอกเบี้ยเลยเราคงได้เห็นทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นกว่าระดับนี้อีก
- น้ำมันดิบปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับ $40/บาร์เรลเช่นเดิมหลังจากปรับตัวลดลงมา
แนวรับ 1230 1228 1225 แนวต้าน 1235 1240 1245
หลังจากในวันศุกร์ราคาปรับตัวลดลงลงมาสู่แนวรับบริเวณ 1228-1230 ซึ่งเป็นเส้นแนวโน้มขาขึ้น แล้ว ราคาไม่หลุดมีรีบาวน์ขึ้นมา มองว่า หากลงมาอีกรอบหนึ่งแล้วไม่หลุด ราคาก็จะวิ่งขึ้นในรูปแบบ Uptrend ระยะสั้นต่อไป ข่าวบวกเริ่มเข้ามามากขึ้น ถึงแม้ตลาดหุ้นจะทำ New-high ไปในวันศุกร์ แต่ความสนใจในทองคำยังปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนสถานะซื้อที่มากขึ้นของกองทุนและ การเพิ่มสถานะ Bullish bet
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นก่อนวันหยุด ในขณะที่ช่วงวันหยุดยาวตลาดต่างประเทศต่างปรับตัวสูงขึ้นแรง (เจอแรงขายแค่ช่วงเช้านี้ที่ผิดหวังผลการประชุม OPEC) มุมมองยังเป็นในทางบวก ถึงแม้เปิดตลาดมาจะทรงตัวเหมือนไม่ได้รับผลกระทบตลาดต่างประเทศที่ขึ้นมาเท่าไร ค่าเงินบาทมองการแข็งค่าหลุดระดับ 35.00 ในระยะกลาง
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ข่าวตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในช่วงวันหยุดสงกรานต์บ้านเรามีค่อนข้างมาก จะยกตัวที่สำคัญๆมาให้ เริ่มจาก ตัวเลขค้าปลีกหดตัว –0.3% จากเดือนก่อนหน้าไม่ขยายตัว
- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ตัวนี้ปรับตัวลดลงแรงมาก และต่ำสุดในรอบหลายปีสู่ระดับ 253K เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า 266K และคาดการณ์ 270K
- อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานชะลอตัวลงเหลือระดับ 0.1% จากเดือนก่อนหน้า 0.3% และคาดการณ์ 0.2% ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัวเล็กน้อย 0.1% จากที่ติดลบในเดือนก่อนหน้า –0.2% และคาดการณ์ 0.2%
- โดยรวมแล้วช่วงวันหยุดตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และทำ New-high จากที่เคยทำไว้ในเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้วันจันทร์เปิดมากลับชะลอตัวลงเปิด GAP ไว้
- คุณ ดรากี้ ประธาน ECB ให้ความเห็นว่า ยังยืนยันว่ายังมีมาตรการเพิ่มเติมหากจะกระตุ้นภาวะเงินเฟ้อ แต่ปัจจุบันยังไม่เห็นภาวะเงินเฟ้อแต่อย่างใด และ ยังไม่เห็นภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์ ทั้งนี้ภาพรวมของเศรษฐกิจฝั่งยูโรโซนยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน ทั้งราคาน้ำมันดิบ และ ประเทศในกลุ่มประเทศเกิดใหม่
- CPI ของยูโรโซนยังคงอยู่ระดับดิดลบ แต่ติดลบน้อยลง ล่าสุดออกมาระดับ –0.1% จากเดือนก่อนหน้า –0.2% ลดลงติดต่อ 5 เดือนติดต่อกัน
- การขยายตัวของเศรษฐกิจจีน (GDP) ออกมาน่าผิดหวัง 6.7% จากรอบก่อนหน้า 6.8% เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง แต่เริ่มเห็นสัญญาณดีขึ้นทั้งการค้าปลีก ยอดการลงทุน ส่วนตัวเลขราคาบ้านใหม่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้โดยรวมแล้วตลาดส่งมาเดียวกับฝั่งอเมริกาและยุโรป คือ ขึ้นตลอดสามวันที่ผ่านมา ก่อนจะลงเมื่อเช้า
- ผลการประชุม OPEC เมื่อวานนี้ยาวมาจนถึงวันนี้ ได้ข้อสรุปว่า จะยังไม่ได้ลดกำลังการผลิต หลังจากเมื่อวานนี้มีข่าวเบื้องต้นออกมาว่า จะไม่เพิ่มกำลังการผลิตไปจนใกล้ระดับสูงสุดในเดือน มกราคม โดยสรุปยังไม่มีความคืบหน้าในการลดกำลังการผลิต
- ทองคำได้เห็นแรงซื้อเข้ามาอีก SPDR ยังซื้ออีก 0.7% สู่ระดับ 812.46 ตันในวันศุกร์รวมทั้งสถานะ Bullish bet ของกองทุนยังปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
แนวทางทองคำวันที่ 12-4-59
แนวรับ 1250 1246 1243 แนวต้าน 1258 1260 1265
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเล็
USD/THB
ต่างชาตืยังขายสุทธิในตลาดห
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นอเมริกา
- Mortgage rate หรืออัตราดอกเบี้ยจำนอง ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดใ
-ประธาน FED สาขา Dallas คุณ Robert Kaplan กล่าวเมื่อวานนี้ว่า เค้าไม่เห็นด้วยกับการขึ้นอ
-ฝั่งตลาดหุ้นยุโรปยังได้รั
-เงินเยนเคลื่อนไหวแข็งค่าต
-ฝั่งตลาดหุ้นเอเชียยังเคลื
- ทองคำได้รับปัจจัยบวกจากสิ่
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มส
แนวทางทองคำวันที่ 11-4-59
แนวรับ 1247 1244 1240 แนวต้าน 1252 1255 1260
ทองคำปรับตัวสูงขึ้นหลุดระด
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1245 ลงมามองว่าฝั่งขึ้นจะเสียทร
USD/THB
นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุ
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ตลาดหุ้นดาวโจนส์/
- IMF ประเมินว่า อัตราดอกเบี้ยติดลบนั้นสามา
- ประธาน FED สาขา New-York คุณ Dudley Fischer ให้ความเห็นว่า การปรับอัตราดอกเบี้ยแบบค่อ
- กลุ่มธนาคารพาณิชย์ในยุโรปเ
- ตลาดหุ้นยุโรปโดยรวมแล้วปรั
- ดัชนีเงินเฟ้อของจีน (CPI) ขยายตัว 2.3% ดีกว่าที่คาดการณ์ หลังจากดัชนีราคากลุ่มอาหาร
-ประเด็นเรื่องปัญหาในญี่ปุ
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นแร
- กองทุน SPDR รวมถึง Hedge fund ต่างปรับลดสถานะการถือครองท
แนวรับ 1234 1228 1225 แนวต้าน 1240 1242 1245
ทองคำยังปรับตัวไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวมากนัก หลังจากข่าวบวกและลบยังเข้ามาผสมกันไป ไม่ได้มีนัยสำคัญ แต่ช่วงนี้ข่าวบวกจะค่อนข้างมากกว่า หลังจากเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นมาแรงจนทำให้เงินดอลลาร์อ่อน ประกอบกับการซื้อเข้าอย่างต่อเนื่องของกองทุน SPDR ระยะสั้นมองการปรับตัวลดลงไปแนวรับ 1234 ก่อนเป็นอันดับแรก และต่อไปที่ 1228 หากยังไม่หลุดระดับนั้นยังมองลงแล้วขึ้นต่อ
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1240 ขึ้นไปเลยมองว่าจะปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องทันที
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงต่ออีก –16 จุด สองวันเฉียด 50 จุด จากความกังวลหลายเรื่อง โดยเฉพาะ กลุ่มธนาคารพาณิชย์และกลุ่มสื่อสาร ขณะที่ต่างชาติยังสะสม Short สุทธิต่อเนื่อง เบื้องต้นมองว่าการหลุด 1370 ลงมายิ่งเสียทรงมากขึ้นไปอีก ลุ้นรีบาวน์ระยะสั้นไปใกล้ๆ 1370 หากไม่ไหวจริงๆ ให้น้ำหนักการลงต่อชองดัชนีไปใกล้ระดับ 1225 ค่าเงินบาททิศทางแข็งค่าสวนการปรับตัวลดลงของดัชนีแนวรับ 35.05
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานปรับตัวลดลงสู่ระดับ 267K จากสัปดาห์ก่อนหน้า 261K และคาดการณ์ 271K ทิศทางโดยรวมเริ่มปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง แต่มองว่าแนวโน้มโดยรวมไม่มีนัยบสำคัญ ยังแข็งแกร่งอยู่สำหรับตลาดแรงงาน
- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวลดลงแรงกว่า 1% จากกลุ่มอุตสาหกรรมการเงิน เนื่องจากความกังวลเรื่อง Global growth กลับมาอีกครั้ง หลังจากเงินเยนแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว และ ตัวเลขเศรษญกิจของญี่ปุ่นก็ออกมาไม่ดี นอกจากการชะลอตัวดังกล่าวย้ำถึงความไม่ค่อยมีประสิทธิภาพของนโยบายการเงินที่กระตุ้นเศรษฐกิจแล้วไม่ได้ผล
- ความเห็นส่วนใหญ่ของนักวิเคราะห์ต่างประเทศยังลังเลระหว่างข่าวที่ออกมา เพราะ มีทั้งข่าวดีและร้ายผสมกัน (ร้ายมากกว่าจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก)
- ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันเช่นเดียวกับทางตลาดหุ้นอื่นซึ่งกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีปัญหาในตอนนี้คือ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (Banking sector)
- มีความเห็นจากคุณ ดรากี้ พูดถึงนโยบายดอกเบี้ยติดลบนั้นเป็นประโยชน์แก่ธนาคารพาณิชย์ในยูโรโซน แต่แสดงความกังวลเพิ่มเติมว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้ติดลบมากขึ้นไปอีกนั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อผลกำไรของกลุ่มธนาคารพาณิชย์อย่างมีนัยสำคัญ ตลาดจึงมองว่า ไม่น่าจะมีนโยบายตัดลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในช่วงนี้
- ความกังวลเรื่อง Global growth กลับมาอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้กลับมาที่ญี่ปุ่น (หลังจากช่วงก่อนหน้าเป็นจีน) หลังจากค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นแรง และ แรงไปจนอยู่ระดับก่อนการทำ QQE จึงสร้างแรงกดดันว่า นโยบายการเงินที่ญี่ปุ่นทำอาจจะไม่ค่อยได้ผลและญี่ปุ่น อาจจะยังเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวต่อไป
- ทุนสำรองของจีนเพิ่มขึ่นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน หลังจากช่วงก่อนหน้าจีนใช้ทุนสำรองในการแทรกแซงค่าเงินหยวน ทั้งนี้เงินหยวนเมื่อวานนี้อ่อนค่าอีกครั้ง
- ทองคำได้รับประโยชน์จากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงแรง ท่ามกลางเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น ทั้งนี้ประโยชน์ดังกล่าวยังมองไว้เป็นอย่างจำกัด ภาพรวมยังส่งสัญญาณไม่ชัดเจน
- กองทุน SPDR เพิ่มสถานะการถือครองทองคำอีก 0.51% ไปสู่ระดับ 819.6 ตันในวันพุธ จะเห็นสถานะกองทุนซื้อต่อเนื่องแต่ซื้อวันละเล็กวันละน้อย
- ราคาน้ำมันดิบพักตัวลงมาเมื่อวานนี้-ทรงตัวเล็กน้อยไม่มีนัยสำคัญ
แนวรับ 1225 1220 1212 แนวต้าน 1230 1235 1240
ทองคำทรงตัวหลังจากมีถ้อยแถลงของ คุณ เจเนต เยลเลนเมื่อวานนี้ ระยะสั้นปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ก่อนที่จะลดความโดดเด่นโดย การปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก ถึงแม้เบื้องต้นนักลงทุนจะอยู่ในโหมดไม่ต้องการความเสี่ยง แต่เงินกลับไหลเข้าไปในพันธบัตรมากกว่าทองคำ ดูจากรูปที่นำมาคือ Yield ของ Global bond ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบกว่า 20 ปี ในระยะสั้นมองการพักตัวลงมาเล็กน้อย แต่ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวนัก
ทางเลือกรอง : ราคาปรับตัวเกินกว่า 1228 ก็จะให้น้ำหนักทางฝั่งขึ้นระยะสั้นอีกครั้ง แต่ก็มองว่า ยังอยู่ในแนวโน้มทรงตัว
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยหลังจากปรับตัวลดลงแรง วันนี้คาดว่าจะมีการรีบาวน์ขึ้นมาเล็กน้อย ตามทิศทางของตลาดทั่วโลก รวมทั้งราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้การรีบาวน์ยังมองค่อนข้างน้อย จากแรงส่งทางลบที่ส่งมา ทิศทางค่าเงินบาทเริ่มเห็นสัญญาณกลับตัวแข็งค่าเป็นครั้งแรกแนวรับ 35.05
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- เมื่อวานคุณ เจเนต เยลเลน ประธาน FED ให้ความเห็นเล็กน้อยว่า คาดว่าจะทยอยขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ในปีนี้ หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจอเมริกาออกมาค่อนข้างแข็งแกร่ง
- อีกฝั่งหนึ่งของความเห็น คุณ James Bullard ประธาน FED สาขา เซนต์หลุยส์ เห็นว่า อเมริกาต้องการแผนพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาว รวมถึง ภาษี และ การปฎิรูปการศึกษาเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน และไม่อยากให้พึ่งพาการกระตุ้นระยะสั้นจากมาตรทางการเงินและการคลังเพียงอย่างเดียว
- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวขึ้นแรงกลับมาใกล้จุดก่อนที่จะลงเมื่อวานนี้ นำโดยกลุ่ม Health care และ พลังงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ
- Global bond yield ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดใน 20 ปีที่ 1.3% บ่งบอกถึง Disinflation
- ตลาดหุ้นฝั่งยุโรปปรับตัวกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งเช่นเดียวกัน หลังจาก Caixin PMI ภาคบริการของจีนปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้งและกลับมาอยู่ระดับสูงกว่า 50 จุดรวมทั้ง ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น บวกกับ การปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นของงตลาดหุ้นอเมริกา ทำให้ตลาดหุ้นยุโรปที่ขาดปัจจัยอะไรใหม่ๆปรับตัวขึ้นตาม Sentiment ทั่วโลก
- วันนี้จะมีการพูดของคุณ Draghi ประธาน ECB ทั้งนี้การพูดรอบนี้ไม่ได้มีนัยสำคัญกับราคาทองคำเท่าไร และ ไม่ได้มีกำหนดเวลาที่จะมีการประกาศ (Tentative)
- ปัญหาที่เจอในญี่ปุ่นอีกตามที่ Bloomberg พาดหัวข่าวไว้คือ Bank Of Japan BOJ) ประสบปัญหาคือ ไม่มีพันธบัตรรัฐบาลเหลือให้ซื้อ หลังจากมีเป้าหมายว่าจะเข้าซื้อพันธบัตรวงเงินกว่า $80 Trillions
- มีข่าวต่างความเห็นของธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง Goldman sachs และ Citigroup เกี่ยวกับประเด็นของ Emerging market (EM) สองโบรกใหญ่นี้มองต่างกันสิ้นเชิง Goldman แนะนำให้ลดการลงทุนใน EM ขณะที่ในวันเดียวกัน Citi ปรับเพิ่มการลงทุนใน EM
- น้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องค่อนข้างแรง ล่าสุดแตะระดับ $38/บาร์เรล หลังจากในช่วงก่อนหน้าปรับตัวลงไปดสอบ $35/บาร์เรล
- ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะมีผลการประชุม FOMC ทั้งนี้ ปัจจัยบวกที่โดดเด่นนั้นถูกลดลงจากการปรับตัวสูงขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อคืนนี้ และ ส่งผลให้ทองคำทรงตัวอยู่ในกรอบการเคลื่อนไหวแคบๆ