ประชาสัมพันธ์
แนวทางทองคำวันที่ 2-6-57
เเนวรับ 1240 1235 1230 เเนวต้าน 1250 1255 1260
ทองคำถึงแม้จะยังไม่เห็นสัญญาณกลับตัวที่ชัดเจน แต่มองว่าในระดับ 1240 นั้นจะทำหน้าที่เป็นแนวรับที่ดี และมองการรีบาวน์ขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือ ภาวะ Bullish divergent ที่ชัดเจนในภาพ H1 และ อย่างเบาบางในภาพ H4 แต่ยังมองการดีดตัวขึ้นเป็นไปอย่างจำกัด และคาดว่า แนวโน้มขาลงยังไม่จบ เป็นเพียงการขึ้นเพื่อชะลอตัวลดลง ส่วนปัจจัยสนับสนุนอื่น คือ ค่าเงินยูโรที่เริ่มส่งสัญญาณกลับตัวรีบาวน์เช่นเดียวกัน แต่ตลาดหุ้นอเมริกายังปรับตัวขึ้นทำ New high อย่างต่อเนื่อง และ ตลาดพันธบัตรที่เริ่มปรับตัวลดลงแรง สองตัวนี้เป็นปัจจัยลบ
ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงไปค่อนข้างมาก โดยมีแนวรับสำคัญแถวระดับ 33.00 ซึ่งถ้าดูภาพรายสัปดาห์แล้วพบว่า เงินบาทกำลังจะเข้าสู่ช่วงอ่อนค่าในภาพใหญ่อีกรอบหนึ่ง ต่างชาติขายสุทธิในวันศุกร์ 2,167 ล้านบาท แต่ไปเปิด Long สุทธิในฟิวเจอร์ค่อนข้างเยอะ 6,779 ล้านบาท SET เปิดผ่าน 1420 ถ้าเกิดปิดในระดับนี้ได้ จะยืนยันการไปต่อได้อีกพอสมควรของตลาดหุ้นไทย
ภาพ DAY : ยังเกิดเป็นแท่งเทียนปรับตัวลดลงต่อเนื่อง แต่มองว่า ระดับ 1240 นี้เคยเทรดกันหนาแน่น น่าจะเป็นตัวพยุงราคาในระยะสั้นได้ในระดับหนึ่ง โดยจะยืนยันเมื่อวันนี้ปิดบวกสวยๆได้ แต่ก็ยังอยู่ในแนวโน้มขาลง
ภาพ H4 : เริ่มส่งสัญญาณ Bullish divergent ลูกเล็กๆ ส่งสัญญาณรีบาวน์ขึ้นเล็กน้อย
ภาพ H1 : เกิดสัญญาณ Bullish divergent ที่ใหญ่ขึ้น มองว่า ระดับราคานี้ น่าจะเห็นการขึ้นไปก่อน
รายละเอียด
- ในวันศุกร์มีข่าวออกมาค่อนข้างมาก แต่เป็นข่าวที่ไม่มีนัยสำคัญต่อการเคลื่อนไหวทองคำเท่าไรนัก แต่ก็เป็นข่าวที่บ่งบอกถึงสุขภาพของเศรษฐกิจของอเมริกาได้บ้าง เริ่มจาก ตัวเลข Core PCE price index ที่ FED ใช้เป็นตัววัดเงินเฟ้อ ซึ่งปกติการติดตามเงินเฟ้อนั้นธนาคารกลางจะไม่ได้ใช้ CPI แต่จะใช้ตัวนี้แทน ออกมาทรงตัวที่ระดับ 0.2% เท่ากับเดือนก่อนหน้าและที่คาดการณ์ จากนั้นมียอดการใช้จ่ายรายบุคคล ซึ่งออกมาพบว่าลงมาสู่ระดับติดลบที่ –0.1% จากเดิม 1% แสดงถึงคนมีการจับจ่ายใช้สอยน้อยลงในเดือนนี้ และ รายได้ส่วนบุคคล ก็ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน สู่ระดับ 0.3% ตรงตามคาดการณ์ในขณะที่จากเดิม 0.5% แสดงว่า รายได้ต่อบุคคลก็ลดน้อยลง เลยใช้จ่ายน้อยลง ตามปกติจะเป็นปัจจัยบวกกับราคาทองคำ ที่ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาอ่อนแอ จากนั้นมี Chicago PMI ออกมาปรับตัวดีขึ้น สู่ระดับ 65.5 จากเดิมที่ระดับ 63 และ ความเชิ่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวปรับตัวสู่ระดับ 81.9 ขณะที่คาดการณ์ 82.9 และเดือนก่อนหน้า 81.8 ซึ่งมากขึ้นแต่น้อยกว่าที่คาดการณ์กัน โดยรวมแล้วตัวเลขออกมาไม่ค่อยดีเท่าไรนัก
- ในวันศุกร์มีการออกมาพูดของ ประธาน FED สาขา Philadelphia (Charles Plosser) กล่าวว่า เขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับ GDP ในไตรมาสแรกที่ออกมาอ่อนแอ และคาดการณ์ว่า ในไตรมาสถัดไปจะฟื้นตัวดีขึ้น และยังมั่นใจเป้าหมายการเติบโตที่ 3% โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลัก คือ อัตราว่างงานในระดับที่ต่ำลงและคาดว่าในสิ้นปีนี้ อัตราว่างงานจะต่ำกว่าระดับ 6% และ อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2% ก็ได้แสดงความเห็นว่า เรากำลังเดินไปในทางที่ถูกต้องสำหรับการฟื้นตัว
- Hedge funds and Money managers ลดสถานะการถือครองทองคำลงสัปดาห์ที่ผ่านมาสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน อ้างอิงข้อมูลจาก CFTC ในวันศุกร์ ส่วนความต้องการเหรียญทองคำ และ ทองคำ Physical ยังอยู่ในระดับที่ต่ำ และมองว่า ราคาที่ลดลงจะเข้ามาสนับสนุนความต้องการให้เพิ่มขึ้นได้ ซึ่งในวันจันทร์นี้เป็นวันหยุดของฮ่องกง ทำให้แรงซื้อทองคำแท่งน่าจะเบาบางลงบ้าง แต่ไม่น่าส่งผลต่อตลาดมากเท่าไรนัก
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
ISM Manufacturing PMI 55.7 54.9
เมื่อวาน เริ่มเห็นสัญญาณชะลอตัวลงในแนวโน้มขาลง ซึ่งคาดว่า ตรงจุดนี้อาจจะมีรีบาวน์ขึ้นมาได้บ้าง ถึงบริเวณ 1265-1270 จากภาวะ Bullish divergent ในภาพระยะ H1ซึ่งมองว่า เป็นการรีบาวน์เพื่อที่จะลงต่อ มีกรณีเดียวก็คือ รีบาวน์ขึ้นไปปิดบน 1285-1290 ให้ได้ จึงจะทำให้ภาพแนวโน้มขาลงชะลอตัวไป ซึ่งก็มองว่า โอกาสเกิดนั้นน้อยกว่า โอกาสในทางลงต่อมีสูงกว่ามากในช่วงนี้ ตลาดอื่นๆนั้น พันธบัตรยังคงปรับตัวสูงขึ้น และค่าเงินยูโรที่ยังตกอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มองเริ่มรรีบาวน์ขึ้นมาเช่นเดียวกัน สำหรับแนวรับของการลงรอบนี้ระยะสั้นจะอยู่บริเวณ 1250 ที่หลุดตรงนั้นจะพบเจอแรงลงไปด้านล่าง
ต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 อีก 2,001 ล้านบาท แต่กลับมา Long สุทธิในฟิวเจอร์ 1,456 สัญญา ซึ่งก็เริ่มชะลอตัวลง ส่วนเงินบาทนั้นเป้าหมายในการแข็งค่ารอบนี้จะอยู่บริเวณ 33.00 ระหว่างทางอาจมีพักแข็งค่าระหว่างทางบ้าง แต่มองว่า จะยังคงขึ้นไปทดสอบระดับด้านบนได้ ส่วน SET50 index อยู่ระหว่างการทดสอบแนวต้านที่เป็นเส้นแนวโน้มกดไว้บริเวณ 952 นี้ ตรงจุดนี้น่าจะเกิดการชะลอตัวลง และมาดูแนวโน้มกันใหม่ว่าจะย่อหรือไม่
ภาพ DAY : เกิดสัญญาณชะลอตัวลง ซึ่งคาดว่า ตรงบริเวณ 1250 ราคาทองคำจะยังพยายามสร้างฐานในระยะสั้นนี้ ซึ่งการรีบาวน์นั้นคาดว่าจะเป็นไปอย่างจำกัด
ภาพ H4 : ยังไม่เห็นสัญญาณการขึ้นที่มีนัยสำคัญ
ภาพ H1 : มีภาวะ Bullish divergent ซ่อนอยู่ในภาพระยะนี้ จึงมองว่า เป็นปัจจัยที่จะทำให้ทองคำดีดตัวสูงขึ้นในระยะสั้นนี้ได้
รายละเอียด
- GDP ของสหรัฐอเมริกาออกมาติดลบในระดับ –1.0% จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 0.1% และตัวเลขคาดการณ์ที่ –0.6% เป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 3 ปี โดยสาเหตุหลักมาจาก การส่งออกที่น้อยลง และ การใช้จ่ายภาครัฐที่ชะลอตัวลง ส่วนตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดน้อยลงสู่ระดับ 300K จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 327K และคาดการณ์ 321K ซึ่งข่าวนี้ออกมาค่อนข้างดี จึงทำให้ตลาดมีทิศทางที่สวนทางกัน จากข่าวที่หักล้างกันเอง แต่โดยทั่วไปแล้วข่าวตัวเลข GDP มักจะมีความสำคัญมากกว่า เพราะ เป็นตัวที่สำคัญกว่า ทั้งนี้ทองคำกลับปรับตัวรับข่าวลบเพียงเล็กน้อย เช่นเดียวกันกับ ตลาดหุ้นที่ยังปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยรับข่าวบวก แต่ไม่ยอมสะท้อนข่าวลบ ก็ยังเป็นทิศทางขาขึ้นที่ชัดเจน ตามที่หลายคนบอกไว้ว่า ขาขึ้นเมื่อมีข่าวร้ายก็จะดูเป็นเรื่องเล็กและตลาดจะไม่สนใจกับข่าวร้าย นอกจากนี้มีตัวเลข Pending home sales หรือยอดบ้านรอปิดการขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.4% จากเดือนก่อนหน้า 3.4% และคาดการณ์ที่ 1.1%
- ตอนนี้นักลงทุนต่างรอผลการประชุม ECB ในอาทิตย์หน้า ซึ่งคาดว่า ประธาน ECB นาย ดรากิ อาจดำเนินนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากข้อมูลพบว่า การปล่อยกู้หดตัวลงมาก และ เงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ส่วนทาง UK หรือ อังกฤษ ซึ่งไม่ได้อยู่ในกลุ่มยูโรโซนนั้น BCC หรือ หอการค้า (The British Chambers of Commerce ได้คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของ UK ในปีนี้จะขยายตัวในอัตราที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2007 และมองกันว่า ธนาคารกลางจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปอยู่ที่ระดับ 0.75% ในไตรมาสแรกของปี 2015 และมองไตรมาส 4 ปี 2015 ไว้ว่าจะขึ้นถึง 1.25% และ 2.25% ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2016 ส่วนเศรษฐกิจของสเปนนั้นก็เติบโตขึ้นมากเช่นกัน จากการฟื้นตัวทั้งการใช้จ่ายภาคเอกชนและภาครัฐบาล
- ตัวเลข Core CPI ของญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 3.2% ในเดือนเมษายน นับเป็นการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเร็วที่สุดในรอบ 23 ปี จากการเก็บภาษีที่มากขึ้น ซึ่งตีหน้าข่าวกันว่า Deflation is dead หรือ เงินฝืดจะไม่อยู่กับญี่ปุ่นอีกต่อไป
แนวทางทองคำวันที่ 29-5-57
เเนวรับ 1255 1250 1240 เเนวต้าน 1258 1265 1270
ทองคำยังไม่เห็นสัญญาณกลับตัวใดๆ และยังไม่มีแนวรับที่สำคัญๆจนกว่าจะถึงโซน 1240 ซึ่งมองว่า แนวโน้มยังคงลงต่อ แต่ในระยะสั้นเริ่มเห็นสัญญาณ Bullish divergent ในภาพรายชั่วโมง H1 ซึ่งที่ผ่านมานั้นแรงไม่ค่อยมี อาจจะมีการย่อตัวลงมาก่อนทีนึง หรือ อาจจะดีดขึ้นเลยก็ได้ เพียงแต่ให้ระมัดระวังการรีบาวน์แต่ละรอบ เพราะ ไม่มีแรง การดีดขึ้นจะเป็นไปอย่างจำกัด และจากตัวข่าว GDP ในวันนี้ที่ค่อนข้างแรง ซึ่งคาดการณฺว่าจะออกมาติดลบ ถ้าเป็นไปตามคาดการณ์อาจจะเห็นทองคำดีดตัวขึ้นได้หน่อย แต่มองว่า หลุดมาขนาดนี้แล้ว ถ้าเกิดดีดไม่ถึง 1285 ก็จะลงต่ออีก
ต่างชาติยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยไปเรื่อยๆ เมื่อวานนี้นับเป็นวันที่ 7 ขายสุทธิไป 2,770 ล้านบาท ซึ่งดูจากยอดซื้อสุทธิของต่างชาตินั้นนับจากปี 2009 ที่เงินไหลเข้ามา ตอนนี้เงินไหลออกกลับหมดแล้ว กลายเป็นต่างชาติขายสุทธิ ค่าเงินบาทก็ยังอยู่ในแนวโน้มอ่อนค่า แต่ตลาดหุ้นยังได้รับปัจจัยบวก ซึ่งเป็นปัจจัยบวกจากคนในประเทศโดยไม่ต้องพึ่งพาต่างชาติ SET50 index ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ภาพ DAY : เกิดเป็นแท่งเทียนปรับตัวลดลงมาต่ออีก ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยังอยู่ในเนวโน้มลงต่อเนื่อง
ภาพ H4 : ยังไม่เห็นสัญญาณกลับตัวที่แรงๆ จึงมองว่า ถ้าเกิดไม่มีก็จะลงต่ออีก
ภาพ H1 : เริ่มเห็นสัญญาณชะลอตัวบ้าง และ ภาวะ Bullish divergent ที่อ่อนแรง จึงดูเหมือนว่า ตลาดจะเริ่มส้รางฐาน ซึ่งตอนสร้างฐานนั้นอาจจะปรับตัวลดลงอีกนิดก็ได้ แต่มองว่า น่าจะมีดีดรีบาวน์ขึ้นได้หน่อย
รายละเอียด
- ECB ได้เปิดเผยรายงานเมื่อวานว่า มีความกังวลในเรื่องของ การปล่อยกู้ของธนาคารให้แก่ภาคธุรกิจ โดยฐานเงิน M3 ของยูโรโซนนั้น ลดลงอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันอยู่ที่ระดับแถว 1 % ขณะที่ช่วงก่อนหน้าปี 2008 เคยปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ระดับ 12% สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึง ภาวะเงินฝืดของทางยุโรป จากการที่ธนาคารลังเลในการปล่อยสินเชื่อให้แก่ภาคธุรกิจ ซึ่งตลาดก็ติดตามกันว่า อาทิตย์หน้านั้นจะมีการทำอะไรหรือไม่ หลังจาก ประธาน ECB นายดรากิ ได้ส่งสัญญาณถึงความกังวลในเรื่องนี้มาก่อนหน้า และ อาจจะนำไปสู่การทำมาตรการอะไรใหม่ๆในการกระตุ้นให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเยอะๆ
- ทองคำปรับตัวลดลง 2 วันติดต่อกันเนื่องมาจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว และ การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้น ( เมื่อวานนี้ปรับตัวลดลงเล็กน้อยสำหรับตลาดหุ้นอเมริกา ) แต่มีสิ่งที่น่าสนใจที่นักลงทุนหลายคนตั้งคำถามคือ ตลาดหุ้นขึ้นพร้อมกับ การปรับตัวลดลงของดอกเบี้ยพันธบัตร (yield ลด) ตามที่ได้กล่าวไปว่า เมื่อคนซื้อพันธบัตร ดอกเบี้ยซึ่งเป็นผลตอบแทนที่ได้รับจากพันธบัตรจะปรับตัวลดลงสวนทางกัน ซึ่งตลาดพันธบัตรอายุ 10 ปี ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะ จากข่าวแล้ว FED กำลังลดวงเงิน และ กำลังจะขึ้นดอกเบี้ย ทำให้หลายคนมองว่า Yield ของพันธบัตรจะต้องปรับตัวสูงขึ้น และ เกิดแรงขายในพันธบัตร แต่ผลลัพธ์กลับเป็นตรงกันข้าม Yield พันธบัตรกลับปรับตัวลดลง โดยมีสาเหตุมาจาก การทำ Short covering ของคนที่มองว่าดอกเบี้ยจะขึ้น อีกส่วนหนึ่งมาจาก การที่กองทุนบำเหน็จบำนาญ (Pension fund) ต้องทำ Asset allocation เพราะ ตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาสูงจนทำระดับ New high ทำให้มี Upside ที่เริ่มจำกัด จึงต้องนำเงินไปลงทุนในตลาดพันธบัตรบ้าง
- นักวิเคราะห์ของต่างประเทศเริ่มหันมามองการลงของทองคำเช่นเดียวกัน หลังจากหลุดสามเหลี่ยมลงมา หลายฝ่ายก็วิเคราะห์ในทางลง โดยมีแนวรับเบาๆบริเวณ 1247 และคาดว่าจะลงไปเจอแนวรับใหญ่ 1200
- ยอดค้าปลีกของญี่ปุ่นปรับตัวลดลง 4.4% จากการปรับขึ้นภาษีการบริโภค
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Prelim GDP -0.6% 0.1%
Unemployment claims 321K 326K
21.00 USD
Pending home sales 1.1% 3.4%
แนวทางทองคำวันที่ 28-5-57
เเนวรับ 1260 1255 1240 เเนวต้าน 1268 1275 1285
ทองคำปรับตัวลดลงหลุดกรอบสา
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น
ภาพ DAY : เกิดแท่งเทียนทะลุกรอบล่างข
ภาพ H4 : เกิดแท่งเทียนชะลอตัวของแนว
ภาพ H1 : ส่งสัญญาณรีบาวน์ขึ้นมาเล็ก
รายละเอียด
- ข่าวตัวเลขเศรษฐฏิจเมื่อวาน
- ทางฝั่งยุโรปนั้น ได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการคว่
- การนำเข้าทองคำของจีนปรับตั
- กองทุน SPDR เพิ่มสถานะการถือครองทองคำอ
- Bank of Nova Scotia หนึ่งในธนาคารที่เทรดโลหะมี
แนวทางทองคำวันที่ 27-5-57
เเนวรับ 1289 1285 1280 เเนวต้าน 1295 1303 1305
ทองคำยังคงเกว่งตัวอยู่ในกร
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น
ภาพ DAY : ยังแกว่งตัวในกรอบ ไม่มีทิศทางมาก และ สร้างกรอบเล็กขึ้นมาเพิ่มระ
ภาพ H4 : ไม่มีทิศทางเลย เป็นเพียงการแกว่งตัวในกรอบ
ภาพ H1 : เช่นเดิม กรอบการเคลื่อนไหวเล็กๆบริเ
รายละเอียด
- เมื่อวานนี้มีผลการประชุมขอ
- ทองคำยังคงทรงตัวนิ่งๆ หลังจากไม่มีข่าว และ นักลงทุนต่างรอดูตัวเลขเศรษ
- เมื่อวานนี้ตลาดอเมริกาปิดเ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Core durable goods orders 0.2% 2.4%
Durable goods orders -0.5% 2.9%
20.00 USD
SP composite 11.9% 12.9%
20.30 EUR
Draghi speaks
21.00 USD
CB consumer confidence 83.2 82.3
แนวทางทองคำวันที่ 26-5-57
เเนวรับ 1289 1285 1280 เเนวต้าน 1295 1303 1305
ราคาทองคำยังส่งสัญญาณอืดๆ แกว่งตัวในกรอบไปๆมาๆ วันหนึ่งขึ้น วันหนึ่งลง หรือไม่ก็ขึ้นเช้า ลงดึก มาหลายวัน ข่าวผลการประชุม FOMC ก็ยังไม่ส่งผลมากนัก ซึ่งมาดูข่าวในอาทิตย์นี้พบว่า วันอังคาร น่าจะแรงได้วันหนึ่ง ถ้าเกิดไม่หลุด วันพฤหัสน่าจะหลุดออกมาได้แล้ ว เพราะ ใกล้ถึงปลายสามเหลี่ยมแล้ว เนื่องจากวันพฤหัสมีตัวเลข GDP แบบตรวจทาน ซึ่งเป็นข่าวที่ค่อนข้างแรงพอสมควร ตลาดอื่นๆ พันธบัตรเริ่มกลับตัวสูงขึ้น แต่เงินดอลลาร์กลับเข้าไปสู่แนวโน้มแข็งค่าเรียบร้อย
ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 6,777 ล้านบาท นับเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน และไปเปิดสถานะ Short ในฟิวเจอร์ 2,767 สัญญา ค่าเงินบาทถึงแม้จะยังแกว่งตัวในกรอบ แต่ค่อนไปทางอ่อนค่ามากกว่า ส่วนใหญ่นักลงทุนต่างประเทศจะยังชะลอการลงทุน เพราะ บางประเทศมีนโยบายไม่ลงทุนในประเทศที่มีการรัฐประหาร SET 50 index รีบาวน์ขึ้นมาได้ และแนวโน้มคาดว่าจะแกว่งตัวอีกพักหนึ่ง
ภาพ DAY : ยังเป็นแท่งเทียนเล็กๆ มีไส้บนไส้ล่างสลับกันไปมาในแต่ละวัน วันนึงขึ้น วันนึงลง ทำให้ไม่ได้มีทิศ?งที่ชัดเจนเลย ยังคงแกว่งตัวในกรอบสามเหลี่ยมไปเรื่อยๆ และรอข่าวมายืนยันเช่นเดิม มองว่า ถ้าพรุ่งนี้ไม่สามารถทะลุได้ วันพฤหัสจะมีตัวเลข GDP ประกาศ น่าจะเป็นปัจจัยหนึ่งในการผลักดันราคา
ภาพ H4 : แกว่งไปแกว่งมา และ MACD เริ่มตัด Signal line ลงมาแล้ว
ภาพ H1 : ส่งสัญญาณรีบาวน์ขึ้นไปด้านบนอีกรอบหนึ่ง
รายละเอียด
- ตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ (New home sales) ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 433K จากก่อนหน้าที่ 407K และเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 426K เป็นการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทั้งกว่าที่คาดการณ์และเดือนก่อนหน้าทั้งหมด ถึงแม้ในสองเดือนก่อนหน้านั้น ตลาดบ้านจะไม่ค่อยดี และมีการคาดการณ์กันว่า ภาคการผลิตจะเป็นตัวนำเศรษฐกิจขึ้นมาแทนภาคอสังหาริมทรัพย์ในระยะถัดจากนี้ไปประมาณ 6 เดือน - 1ปี และความเห็นของ FED ก็ยังกังวลเกี่ยวกับตลาดบ้าน ซึ่งตัวเลขที่ออกมาในเดือนนี้นั้นกลับปรับตัวดีขึ้น
- แพลตินัมได้รับปัจจัยบวกจากการประท้วงที่เหมือง ทำให้เกิดการเก็งกำไรจากความกังวลว่า Supply จะขาดแคลนเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับ พัลเลเดียม ส่วนทองคำและซิลเวอร์ยังคงขาดปัจจัยใหม่ๆ
- รัสเซียได้ทำการตุนทองคำเพิ่มขึ้นในปริมาณมาก 27.7 ตันในเดือนเมษายน ปัจจุบันมีการถือครองทั้งหมด 1,068 ตัน ส่วนตุรกีเพิ่ม 13 ตัน สู่ระดับ 497 ตัน ข้อมูลจาก IMF ในวันศุกร์ที่ผ่านมา
- ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันได้ลดสถานะ Long ในทองคำลง แต่ไปเพิ่มสถานะ Short ในซิลเวอร์แทน ข้อมูลอ้างอิงจาก CFTC ในวันศุกร์ที่ผ่านมา
- ธนาคาร Barclays ถูกปรับ $43.8 millions จากการควบคุมภายในที่หละหลวมที่ทำให้เกิดการปั่นราคาทำให้ราคาทองคำผันผวนในช่วงของการตั้งราคาทองคำ
- ตัวเลขทางฝั่งยุโรปปรับตัวดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น GDP ของเยอรมันที่ขยายตัว 0.8% เมื่อเทียบจากไตรมาสที่แล้ว ทั้งนี้ธนาคารกลางเยอรมันประเมินว่าใน ไตรสามที่ 2 จะหดตัวลงจากระดับนี้ ส่วนสถาบันจัดอันดับความเชื่อถือ S&P ปรับเครดิตเรตติ้งสเปนจาก BBB- เป็น BBB และ Fitch ได้ปรับเครดิตเรตติ้งของกรีซ เป็น B- จากเดิมที่ระดับ B นับเป็นสัญญาณที่ดีของยูโรโซน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
ALL USD Bank holidays
แนวทางทองคำวันที่ 23-5-57
เเนวรับ 1290 1285 1280 เเนวต้าน 1297 1303 1305
เมื่อวานนี้ทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1303 ที่เป็นกรอบแนวต้านด้านบนของสามเหลี่ยม จากนั้นได้เจอแรงเทขายลงมา ทำให้เกิดเป็นแท่งเทียน Shooting star เช่นเดิม แต่มองว่า จุดที่เกิดนั้น ไม่ได้มีนัยสำคัญเท่าไร และ มองการแกว่งตัวในกรอบอีกรอบหนึ่ง ขณะที่ในเบื้องต้นมองว่า ราคาจะพยายามกลับไปทดสอบระดับ 1300 ใหม่อีกรอบ จากการเกิดแท่งเทียน Bullish อ่อนในภาพ H1 และ ภาพ H4 ที่ยังอยู่ในแนวโน้มรีบวาวน์ ทางฝั่งตลาดอื่นๆไม่ได้มีสัญญาณอะไรที่ชัดเจนเช่นเดียวกัน
ต่างชาติขายสุทธิเมื่อวานนี้ เป็นวันที่ 3 อีก 1,882 ล้านบาท และไป Short สุทธิอีก 3,290 สัญญา และเมื่อวานนี้ได้เกิดการรัฐประหารขึ้น แต่ค่าเงินบาทกลับไม่ได้อ่อนเท่าไรนัก ค่าเงินบาทดูแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบ ส่วน SET 50 index ได้รับปัจจัยลบเปิดตลาดลงมา –24 จุด จากนั้นรีบาวน์ขึ้นมาด้านบน มองว่า เป็นการรีบาวน์ ณ ระดับแนวรับ แถว 928 พอดี ต้องติดตามแนวโน้มเพิ่มเติม เพราะ ตอนนี้ยังคงอยู่ในกรอบที่กว้าง
ภาพ DAY : เกิดเป็นแท่งเทียน Shooting star อีกรอบหนึ่ง เพราะ ไปทดสอบกรอบสามเหลี่ยมด้านบนบริเวณ 1303 แล้วยังไม่สามารถผ่านไปได้ ก็ยังคงมองการแกว่งตัววนไปวนมาอยู่ในกรอบ
ภาพ H4 : MACD ปรับตัวใกล้ระดับ 0 มองว่า ไม่มีทิศทางที่ชัดเจนเท่าไรนัก แต่ค่อนไปทางบวกเล็กน้อย
ภาพ H1 : ส่งสัญญาณพักฐานลงมา แต่เริ่มกลับตัวขึ้นไป รอการยืนยันจากแท่งเทียน
รายละเอียด
- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 326K จากระดับในเดือนก่อนหน้าที่ 298K ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบหลาบปี ขณะที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 312K ซึ่งตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรอบนี้ กลับไปสู่ระดับใกล้เคียงกับของเดิม ถัดมาที่ตัวเลข Flash PMI ออกมาที่ระดับ 56.2 จากเดือนก่อนหน้า 55.4 และคาดการณ์ที่ 55.6 ส่วนยอดขายบ้านมือสองปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.65M แต่น้อยกว่าที่คาดการณ์ 4.71M และเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 4.59M ข่าวทั้งหลายที่ออกมาเป็นบวกกับทองคำหนึ่งข่าว และ ค่อนไปทางลบอีกสองข่าว จึงเห็นราคาทองคำไปทดสอบกรอบด้านบนที่ระดับ 1303 และ ย่อตัวกลับลงมาแกว่งตัวในกรอบใหม่
- ดัชนี PMI ภาคบริการของฝั่งยูโรโซนออกมาทรงตัวใกล้เคียงกับระดับเดิม ส่วนของเยอรมันปรับตัวดีขึ้นในภาคบริการที่ขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปี ส่วนภาคการผลิตหดตัวจากเดิมเล็กน้อยแต่ก็ยังคงอยู่ในระดับที่มากกว่า 50 ส่วน GDP ของอังกฤษขยายตัวเล็กน้อย 0.8% เทียบจากไตรมาสสุดท้ายของปีก่อนหน้า
- ช่วงเย็นเมื่อวานนั้นมีการทำ รัฐประหาร หลังจากไม่สามารถหาข้อสรุปจากการเจรจาได้ และ เพื่อเป็นการป้องกันเหตุรุนแรง และ ความขัดแย้งที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง จากสถานการณ์ความไม่สงบ คณะรักษาความมั่นคงแห่งชาติซึ่งประกอบด้วย กองทัพบก กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความจำเป็นต้องควบคุมอำนาจในการปกครองประเทศ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2557 เวลา 16.30 เป็นต้นไป
- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเมื่อวานนี้ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาผสม ส่วนตลาดพันธบัตรเริ่มพักฐานลงมานิดหน่อย และค่าเงินดอลลาร์และยูโรที่ทรงตั ว ทำให้ยังไม่มีทิศทางที่มีนัยสำคัญสำหรับตลาดทองคำ และยังขาดข่าวที่เป็นตัวผลักดันราคาในช่วงนี้
แนวทางทองคำวันที่ 22-5-57
เเนวรับ 1290 1285 1280 เเนวต้าน 1295 1300 1305
หลังจากผลการประชุม FOMC ออกมา ไม่ได้ขยับราคาขึ้นมามากเท่าไรนัก ยังคงแกว่งตัวในกรอบ มีเพียงสัญญาณเชิงบวกเล็กๆ คือ Pin bar และแท่งเทียน Bullish ในแนวรับกรอบล่าง ของทุกช่วงเวลา จึงมองว่า ราคาน่าจะกลับไปทดสอบด้านบนถึงระดับ 1300-1305 ที่เป็นกรอบบนของสามเหลี่ยม ก็ยังมองว่า ไม่มีทิศทางที่ชัดเจนเช่นเดิมจนกว่าจะหลุดออกมาได้ ค่าเงินยูโรก็เกิดสัญญาณกลับตัวแข็งค่าเช่นเดียวกัน ส่วนตลาดพันธบัตรทรงตัว และตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น ระหว่างตลาดยังคงไม่ชัดเจน และ ผันผวนพอสมควร จึงเน้นมองแนวรับ แนวต้าน ในระยะสั้นๆไปก่อนจนกว่าจะหลุดกรอบ
ต่างชาติยังคงขายสุทธิ อีก 3,062 ล้านบาท แต่ยังคงเปิด Long สุทธิสวนทางกันจำนวน 494 สัญญา พร้อมกับ ซื้อตราสารหนี้ ทำให้เงินบาทกลับลงมาแข็งค่าอีกแล้ว และ ต่ำลงไปกว่าระดับ 32.40 อีก จึงมองว่า เงินบาทเริ่มกลับมาแข็งค่าอีกรอบหนึ่ง ส่วน SET 50 index จากข่าวเมื่อคืนนี้ทำให้เปิดกระโดดไปทดสอบแนวต้าน 960 และ 967 ตามลำดับ
ภาพ DAY : ข่าว FOMC กลับไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรตลาดมากนัก ยังคงแกว่งตัวในกรอบ แต่แนวรับเมื่อวานที่ระดับแถว 1285 นั้น ยังสามารถรับอยู่ จึงมองว่า ราคามีแนวโน้มจะกลับไปทดสอบกรอบด้านบน
ภาพ H4 : เกิดเป็นสัญญาณกลับตัว ณ แนวรับเช่นเดียวกันกับภาพใหญ่
ภาพ H1 : ก็ยังส่งสัญญาณรอบรีบาวน์ขึ้นมาในระยะสั้นนี้
รายละเอียด
- ผลการประชุม FOMC เมื่อวานนี้ ยังไม่มีการลดวงเงินเพิ่มเติมคงที่อยู่ระดับ 45 พันล้านดอลลาร์ แต่กล่าวว่า จะทยอยลดวงเงินลงจนหมดในระยะสั้นนี้ และเพิ่มเติมว่า อัตราดอกเบี้ยจะยังอยู่ระดับที่ต่ำและยังไม่อยากขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้นนี้ โดยจะมีนโยบายต่างๆที่นำมาใช้ในการกดอัตราดอกเบี้ย อย่างเช่น Overnight Reserve Repurchase หรือ นโยบายที่เล่นกับเงินสำรองของธนาคารพาณิชย์ และ นโยบายอีกบางอันที่ไม่ได้กล่าวถึง ทั้งนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเลือกนโยบายไหนมา แต่เพื่อความชัดเจนในการดำเนินนโยบายควรจะมีการประกาศให้ชัดเจนก่อน เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการดำเนินนโยบายทางการเงิน ส่วนประเด็นด้านเงินเฟ้อยังมองว่าไม่มีปัญหาหรือความเสี่ยงอะไรนัก ยังคงต้องการให้เงินเฟ้อปรับตัวขึ้นไปยังเป้าหมายที่ 2% ส่วนสิ่งที่น่ากังวลนั้นอยู่ในเรื่องของตลาดอสังหาริมทรัพย์ หรือ ตลาดบ้าน ที่ยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ ประกอบกับ สภาพเศรษฐกิจของจีนที่เริ่มชะลอตัวลง แต่ภาพรวมก็ยังเห็นอัตราว่างงานที่ลดลงจากการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบนี้ หลังจากข่าวนี้ทองไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรมากนัก เพราะ ไม่ได้ส่งสัญญาณอะไรมาก ทำให้การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างจำกัด แต่หุ้นได้รับปัจจัยในทางบวก จากอัตราดอกเบี้ยที่คาดกันว่าจะอยู่ในระดับต่ำไปอีกสักพักหนึ่ง
- มาทางฟากผลการประชุม ECB จากที่คาดการณ์ว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย กลับกลายเป็นอาจจะขึ้นแทน เพราะ ภาพรวมเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว และ ตลาดอสังหาที่อาจจะเกิดฟองสบู่ ทำให้อาจมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากปัจจุบัน 0.5% ทั้งนี้ความเสี่ยงเรื่องเงินฝืดยังคงอยู่ ส่วน BOJ หรือ ธนาคารกลางญี่ปุ่นก็ยังคงการดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเช่นเดิม
- SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำลงอีก 3.3 ตัน คงเหลือการถือครองที่ระดับ 776.89 ตัน นับเป็นการถือครองอยู่ในระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ 2008
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.30 USD
Unemployment claims 312K 297K
20.45 USD
Flash manufacturing PMI 55.6 55.4
21.00 USD
Existing Home Sales 4.71M 4.59M
แนวทางทองคำวันที่ 21-5-57
เเนวรับ 1293 1290 1285 เเนวต้าน 1297 1300 1305
ทองคำยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบสามเหลี่ยม ยังไม่ได้เลือกทางออกมา แต่คาดว่า ผลการประชุม FOMC ในตี 1 คืนวันนี้อาจจะทำให้ภาพรวมชัดขึ้น เมื่อวานนี้เกิดสัญญาณกลับตัวแบบ Pin bar ณ แนวรับ และ ส่งสัญญาณรีบาวน์ในระยะสั้นขึ้นมาหมด ทำให้มองว่า ในระยะสั้นจะปรับตัวขึ้นไประดับด้านบนก่อน ก่อนที่ข่าวจะออก สำหรับการคาดการณ์ข่าวนั้นยังคงไม่ชัดเจนเช่นเดียว ถ้ามองปัจจยพื้นฐานเป็นลบกับทองคำ ถ้ามองกราฟสามารถไปได้ทั้ง 2 ฝั่งโดยฝั่งขึ้นได้เปรียบกว่า แต่ถ้ามองตลาดรอบด้านที่สัมพันธ์กับทองคำนั้นพบว่า เป็นบวกกับทอง ภาพรวมไม่ชัด จึงแนะนำว่า รอข่าวจะดีที่สุด
เมื่อวานนี้ต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยอย่างหนัก 8,336 ล้านบาท และ Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก ประมาณ 877 สัญญา ซึ่งตลาดหุ้นปรับตัวลดลงหนักเมื่อวานจากความกังวลในเรื่องของกฎอัยการศึก ค่าเงินบาทปิดลงมาต่ำกว่าระดับ 32.50 ไม่ได้ จึงมองว่า เริ่มจะกลับไปในทิศทางอ่อนค่านิดหน่อยในลักษณะ Sideways และยังรอข่าวคืนนี้เช่นเดียวกัน SET 50 index มองการปรับตัวลดลงไปยังระดับ 940
ภาพ DAY : เช่นเดิมรอทะลุกรอบด้านใดด้านหนึ่ง เมื่อวานลงไปทดสอบแนวรับกรอบด้านล่างแล้วเกิดสัญญาณกลับตัวรูปแบบ pin bar ทำให้มองว่า อาจจะได้เห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปก่อนที่ข่าวจะออก และมาติดตามข่าวกันว่าจะออกมาหน้าไหน
ภาพ H4 : เกิดสัญญาณกลับตัวรูปแบบ Pin bar ที่แนวรับ มองเป็นสัญญาณกลับตัวขึ้นไปด้านบน
ภาพ H1 : ส่งสัญญาณปรับตัวขึ้นต่อเช่นเดียวกัน แนวต้านแรก 1297 MACD เริ่มโผล่พ้นจาก 0 อีกครั้ง
รายละเอียด
- วันนี้ช่วงเวลาตี 1 ตามเวลาบ้านเราจะมีผลการประชุม FOMC ออกมา ซึ่งคาดว่าน่าจะทำให้ทองเหวี่ยงผันผวนรุนแรง และ สามารถเลือกทางจากกรอบสามเหลี่ยมได้แล้ว เนื่องจากกรอบสามเหลี่ยมนั้นโดยปกติจะถือว่าเป็นช่วงพักตัวเพื่อรอแนวโน้มดังนั้นการผ่านออกมาด้านใดด้านหนึ่งราคามักจะวิ่งไปในด้านนั้นเลย เรียกว่า ถ้าผ่านออกมาได้น่าจะชัดขึ้น ว่าจะขึ้น หรือ ลงต่อ ทั้งนี้ข่าว FOMC น่าจะเป็นตัวแปรสำคัญในครั้งนี้ ซึ่งเมื่อวานนี้ก็มีประธาน FED สาขา Dudley ออกมาแลถงว่า เศรษฐกิจยังไม่แข็งแกร่งพอ และ ยังไม่อยากให้รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย เป็นผลทำให้ทองปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น และ หุ้นปรับตัวลดลง และ ความกังวลอีกอย่างคือ กังวลว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินกว่ากำหนด จะเห็นว่า ประธาน FED แต่ละสาขาก็ยังมีความเห็นไม่ตรงกัน แล้วคืนนี้ผลการประชุมคาดว่าจะเป็นอย่างไร ถ้าตามเนื้อข่าวสภาพเศรษฐกิจเป็นลบค่อนข้างแน่นอน เศรษฐกิจอเมริกาที่ฟื้นตัว อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น การชะลอมาตรการ QE เรื่อยๆ และ อัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะปรับเร็วขึ้นกว่ากำหนด ถ้ามองที่กราฟยังคงเป็นสามเหลี่ยม 50:50 มีเพียง Pin bar ที่แนวรับเป็นปัจจัยบวกเพียงเล็กน้อย ส่วนถ้ามองตลาดอื่นนั้นพบว่า เป็นบวกกับราคาทองเกือบทุกตลาด ตลาดพันธบัตรที่ยังอยู่ในขาขึ้น ค่าเงินดอลลาร์ที่เกิดสัญญาณกลับตัวในภาพวัน เช่นเดียวกับยูโร ตลาดหุ้นที่เริ่มปรับตัวลดลง ตลาดรอบข้างเหล่านี้ส่งสัญญาณเชิงบวกเกือบทั้งหมด ทั้งนี้รอดูข่าวดีที่สุด เพราะ ข่าวที่แรงอาจจะทำให้แนวโน้มเปลี่ยน
- มุมมองของคนในตลาดส่วนใหญ่จะเป็นลบ จะเห็นจาก ETP ที่อ้างอิงในทองคำ มีเงินไหลออก จนสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2008 ส่วนกองทุน SPDR ลดการถือครองอีก 1.79 ตันสู่ระดับ 780.19 ตัน ทั้งนี้ กองทุนต่างๆได้ลดสถานะ Long และเพิ่มสถานะ Short เพิ่มขึ้นอีก ส่วนความผันผวน (Volatility)ของทองในรอบ 30 วันที่ผ่านมาลดลงต่ำสุดในรอบ 1ปี เพราะ เคลื่อนไหวในกรอบช่วง $44
- ญี่ปุ่นขาดดุลการค้าน้อยลง ทั้งนี้มาจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น ถึงแม้การนำเข้าจะเพิ่มขึ้นตามแต่ก็เพิ่มในสัดส่วนที่น้อยกว่าการส่งออก
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
10.30 USD FED Chair Yellen Speaks
1.30 USD FOMC Meeting Minutes
แนวทางทองคำวันที่ 20-5-57
เเนวรับ 1290 1285 1280 เเนวต้าน 1295 1300 1305
ราคาทองคำยังแกว่งตัวอยู่ในกรอบสามเหลี่ยม เมื่อวานนี้ไปทดสอบด้านบนแต่ยังไม่สามารถผ่านไปได้ และเกิดเป็นแท่งเทียน Shooting star แต่บริเวณที่เกิดนั้นเป็นกลุ่มของราคาและยังอยู่ในกรอบ มองว่า ไม่ได้แสดงถึงนัยสำคัญออกมาเป็นเพียงแค่แรงขายธรรมดาๆ และหลังจากลงมาทดสอบ 1290 นั้นก็สามารถรับอยู่ ในเบื้องต้นมองการรีบาวน์ขึ้นไปก่อนและแกว่งไปแกว่งมา ตลาดน่าจะรอผลการประชุม FOMC ในคืนพรุ่งนี้ที่จะเป็นตัว Breakout ของทองคำ สำหรับตลาดอื่นน้น พันธบัตรอายุ 10 ปี ยังให้ปัจจัยบวก และ ค่าเงินนั้นก็ให้ปัจจัยบวกอยู่ เงินยูโรมองการแข็งค่าขึ้นในระยะถัดไป
ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 544 ล้านบาท และไปเปิดสถานะ Long สุทธิในฟิวเจอร์ 951 สัญญา ส่วนทิศทางค่าเงินบาทนั้น หลังจากประกาศกฏอัยการศึกอ่อนค่าไปยังระดับ 32.60 จากน้นกลับลงมา 32.50 ซึ่งระดับ 32.50 นั้นเป็นแนวรับหนึ่ง ถ้าเกิดเงินบาทจะอ่อนนั้น 32.50 ต้องรับให้อยู่ไม่อย่างนั้นมองว่า การอ่อนไปทดสอบ 32.60 นั้นจะกลายเป็นโมฆะไป SET 50 index ปรับตัวลดลงตอนเปิดตลาดร่วม 10 จุด มองรีบาวน์นิดหน่อยแล้วมาดูกันต่อ
ภาพ DAY : ราคาวิ่งอยูในกรอบสามเหลี่ยมเช่นเดิม เมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านถึงบริเวณ 1305 แต่ก็เกิดแรงขายกลับลงมาเช่นเดิม เกิดเป็นแท่งเทียน Shooting star ซึ่งเป็นทางลบ แต่บริเวณที่เกิด เกิดในกรอบ และกลุ่ม Sideways จึงไม่ได้มองว่า มีนัยสำคัญ แต่ก็ค่อนไปทางลบ ว่าตลาดยังไม่เห็นด้วยกับราคาด้านบน จากนั้นลงทดสอบกรอบล่าง 1290 ก็ยังไม่สามารถผ่านไปได้ และ คาดว่าจะมีรีบาวน์กลับในกรอบ ก่อนที่จะมีผลการประชุม FOMC ออกมาในวันพรุ่งนี้
ภาพ H4 : ยังไม่ได้มีทิศทางที่สำคัญๆเท่าไรนัก
ภาพ H1 : มองเกิดการรีบาวน์ขึ้นไปอีกรอบ จากการ support จากแนวรับ 1290
รายละเอียด
- ช่วงเวลาตี 3 ในวันนี้ได้มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก หลังจากการชุมนุมมาเกือบ 7 เดือน เพื่อป้องกันความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น โดยกล่าวว่า นี่ไม่ใช่การปฏิวัติ สื่อต่างประเทศหลายสื่อก็ได้แสดงความเห็นไปในทางที่ห่วงเศรษฐกิจของประเทศไทย หลังจากประกาศตัวเลข GDP ไตรมาสแรกออกมาที่ระดับ –0.6% yoy จากที่ขยายตัว 0.6% ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว สาเหตุที่หดตัวมาจาก การชะลอตัวของการบริโภคภายในประเทศ การลงทุนที่น้อยลงจะเห็นเม็ดเงินต่างชาติในปีนี้เข้ามาลงทุนในไทยน้อยมาก ส่วนใหญ่ไปยัง อินเดีย ไต้หวัน และ อินโดนีเซียแทน ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐบาลก็ไม่มี เพราะ ยังไม่มีรัฐบาลเป็นเพียงรักษาการณ์ ส่วน ยอดส่งออกหักด้วยนำเข้า ก็พบว่า ส่งออกยังไม่ดี เมื่อรวมสมการทั้งหมดเข้าด้วยกัน GDP ของไทยเลยออกมาหดตัวลง ต้องมาดูทีท่าของนักลงทุนต่างประเทศว่าจะยังไงกันอีกรอบ แต่ค่อนไปทางลบสำหรับมุมมองโดยรวมในตอนนี้ ทำให้หลายฝ่ายออกมาคาดการณ์ GDP ของไทยจะเติบโตเพียงประมาณ 2.5% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ทั้งปีที่ประมาณ 3.5%
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ IMF ได้ออกมากล่าวว่า เยอรมันควรจะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเพื่อกระตุ้นการเติบโตในระยะยาว และ สนับสนุนค่าเงินยูโร ซึ่ง IMF กล่าวว่า เยอรมันสามารถลงทุนได้เพิ่มอีก 0.5% ของ GDP โดยไม่ไปกระทบกับฐานะการคลัง และกระทบอัตราส่วน Debt / GDP ในระดับที่ต่ำ ซึ่งถ้าลงทุนไปนั้นจะได้รับ GDP ที่เพิ่มขึ้น และ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในยูโรโซนได้อีก
- ทางฝั่งยุโรปนั้นมีการสำรวจจากทาง Bloomberg พบว่า 90% ของนักเศรษฐศาสตร์มองว่า ECBน่าจะดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมในการประชุมครั้งหน้าในเดือน มิถุนายน หลังจาก มีท่าทีจากการประชุมครั้งที่ผ่านมาว่า พร้อมที่จะผ่อนคลายเพิ่มเติม
- มีข่าวว่า ธนาคารกลางยุโรป จะนำกฎหมายมาประมวลใหม่ เกี่ยวกับ การจำกัดการเทขายทองคำ แต่ยังไม่ได้กำหนดเพดานไว้แน่นอน