บทวิเคราะห์

ย้อนกลับ

Weekly update (17-21 JUN) : FED in focus

สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 3% ก่อนที่จะมาหยุดบริเวณแนวต้าน $1350 และยังไม่สามารถผ่านไปได้ ซึ่งลักษณะของการเกิดราคาเป็นแบบ Pin bar หรือ ไส้บนยาว บ่งบอกให้เห็นถึงราคาที่วิ่งผ่านแนวต้านก่อนที่จะโดนแรงขายกดลงมาด้านล่าง มองว่าเป็นสัญญาณที่ไม่ดีสำหรับสัปดาห์นี้ แนะนำ ทยอยขายทำกำไรบางส่วนหากต้นทุนต่ำ ในขณะที่การมองลงด้านล่างนั้นยังมองว่าไม่มากในเบื้องต้น ทางฝั่งค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าในสัปดาห์ก่อนหน้า ล่าสุดแข็งค่าขึ้นแรงวิ่งออกจากค่าเฉลี่ย 200 วัน จึงมองว่า ในระยะถัดไป ทองคำน่าจะยังผ่านแนวต้าน $1350 ยังไม่ได้
สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจมีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้ออกมาพบว่า ตัวเลขเงินเฟ้อชะลอตัวลงหากเทียบกับเดือนก่อนหน้า สร้างแรงกดดันให้ FED ปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยกระแสเริ่มมีว่าอาจจะลดในเดือนหน้าทันทีจากเดิมที่มองไว้ว่าอาจจะลดปีหน้า ทั้งนี้ตลาดรับรู้ไประดับหนึ่งแล้วว่า FED จะดำเนินการลดดอกเบี้ย หากมีการลดดอกเบี้ยจริงมองว่า ตลาดจะไม่ได้รับข่าวเท่าไรนัก
เรือบรรทุก 2 ลำถูกโจมตีในอ่าวโอมานทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น
สัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดเหตุเรือบรรทุก 2 ลำ เกิดเหตุระเบิดและไฟไหม้จากการถูกโจมตี ในขณะที่แล่นอยู่ในบริเวณอ่าวโอมาน ใกล้ช่องแคบ Hormuz ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันที่สำคัญที่สุดในโลก โดยขนส่งน้ำมันปริมาณเกือบ 20 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือกว่า 20% ของน้ำมันในตลาดโลก โดยช่องแคบ Hormuz เป็นช่องแคบที่อยู่ติดกับพรมแดนของประเทศอิหร่าน ซึ่งก่อนหน้านี้ทางอิหร่านเคยขู่ว่าจะปิดช่องแคบดังกล่าว หากทางสหรัฐฯ จำกัดการขนส่งน้ำมันดิบของอิหร่านสู่ตลาดน้ำมันดิบโลก ล่าสุดสหรัฐฯ กล่าวหาอิหร่านว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์โจมตีดังกล่าว ในขณะที่ทางอิหร่านได้ออกมาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา การโจมตีเรือบรรทุกในครั้งนี้ ส่งผลให้ความตึงเครียดทางการทหารระหว่างอิหร่านและสหรัฐฯ ในตะวันออกกลางรุนแรงมากขึ้น ถึงแม้จะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ Supply ในตลาดโลกโดยตรง
ราคาน้ำมันดิบในช่วงก่อนหน้านั้นปรับตัวลดลงแรงจากสาเหตุเรื่องความกังวลการเติบโตของเศรษฐกิจโลก แต่หลังเกิดเหตุการณ์ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 2% ซึ่งมองว่า เป็นเทคนิคอลรีบาวน์เท่านั้น ส่งผลให้ทองคำปรับตัวสูงขึ้นแตะ $1350 เช่นกัน มองว่าปัจจัยจากราคาน้ำมันดิบเป็นเพียงปัจจัยระยะสั้น
เงินเฟ้อเดือน ชะลอตัวลงมากกว่าคาดอาจทำให้ FED พิจารณาลดดอกเบี้ย
เงินเฟ้อทั่วไป เดือน พ.ค. ชะลอตัวลงเป็น +0.1% เมื่อเทียบขากเดือนก่อนหน้าจากการปรับลดลงของราคาน้ำมันและรถยนต์มือสอง ส่งผลให้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เงินเฟ้อทั่วไปชะลอตัวลงเป็น +1.8% จาก +2.0% ในเดือนก่อน และต่ำกว่าตลาดคาดที่ +1.9% เช่นเดียวกับ Core inflation ที่ขยายตัวน้อยกว่าเดือนก่อนหน้าและน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์เช่นกัน
เงินเฟ้อที่ออกมาต่ำ ตลาดแรงงานที่เริ่มส่งสัญญาณอ่อนแอ และความตึงเครียดทางการค้ากับจีนที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า Fed อาจปรับลดดอกเบี้ยลงเร็วกว่าที่คาด และมีโอกาสสูงที่จะปรับลดในการประชุมในเดือนหน้านี้ โดยอีกสิ่งหนึ่งที่ FED กังวลคือ การเติบโตของเศรษฐกิจหากการเจรจาสงครามการค้าในที่ประชุม G20 นั้นไม่สำเร็จ (มีการปรับลดการเติบโตของ GDP อเมริกา ลงเป็น 1.9% จากเดิม 2.3%) ซึ่งต้องไปดูท่าทีของการประชุม FED อีกครั้งในสัปดาห์นี้ ปัจจุบันตลาดคาดการณ์ไว้ระดับหนึ่งแล้วว่าน่าจะมีการลดดอกเบี้ยในช่วงใดช่วงหนึ่งจนทำให้ตลาดหุ้น และ ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เพียงแต่ตลาดการเงินมักจะมีการ Price in ไปล่วงหน้า จึงมองว่า ถึงแม้จะมีการปรับลดดอกเบี้ย แต่การปรับตัวสูงขึ้นของตลาดหุ้นและทองคำจะได้รับปัจจัยบวกเพียงระยะสั้นเท่านั้น เพราะเป็นสิ่งที่ตลาดรับรู้อยู่แล้ว
นักลงทุนกลับมาซื้อทองคำอีกครั้งท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการค้า
รายงานสถานะการลงทุนของนักเก็งกำไรในตลาดซื้อขายล่วงหน้า (CFTC Commitment of Trader Report) ซึ่งสะท้อนมุมมองของนักลงทุนประเภท Hedge Funds ในสัปดาห์ท่านมา นักเก็งกำไรเริ่มกลับมาซื้อทองอีกครั้งโดยมียอดซื้อสุทธิที่ +69,427 สัญญา หลังเทขายต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ติด (รวม -37,848 สัญญา) ซึ่งส่งผลให้สถานะการเก็งกำไรในทองคำเพิ่มขึ้นมาที่ระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี ที่ +156,115 สัญญา สูงสุดในรอบ 1 ปี ในขณะที่ขายน้ำมัันต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา (รวม -147,191 สัญญา) สอดคล้องกับการเพิ่มสถานะในเงินยูโรเพิ่มเติมหลังจากที่เริ่มเห็นส่วนต่างระหว่างนโยบายของ ECB และ FED กล่าวคือ ECB ส่งสัญญาณคงอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่ FED ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย จึงมองว่าโอกาสที่เงินดอลล์จะอ่อนค่าลงมีมาก นักลงทุนจึงเพิ่มสถานะซื้อในเงินยูโรซึ่งเป็นสกุลคู่หลักของเงินดอลลาร์
ในขณะที่ตลาดพันธบัตรยังคงทรงตัว ช่วงที่ผ่านมาเงินจะไหลเข้ามายังสินทรัพย์ปลอดภัยเป็นหลัก หลังจากทิศทางของสงครามการค้าเริ่มปะทุขึ้นมาอีกรอบ จึงทำให้ทองคำมีความน่าสนใจในระยะที่ผ่านมา และนักลงทุนเริ่มเข้ามาเก็งกำไร ถึงแม้ราคาจะเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยาก แต่การเริ่มเข้ามาของนักเก็งกำไรนั้นมองว่าจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาดทองคำให้มีความคึกคักมากขึ้นในระยะถัดไป