ย้อนกลับ
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 11 ก.ค.57
แนวทางทองคำวันที่ 11-7-57
เเนวรับ 1335 1333 1330 เเนวต้าน 1340 1345 1350
เมื่อวานนี้ทองคำปิดบวกขึ้นมาได้ค่อนข้างมาก และแสดงถึงแรงซื้อที่ยังมีเข้ามา เพียงแต่การปิดนั้นไส้เทียนค่อนข้างยาวยังดูไม่มั่นคง แต่ก็ยังพอไปต่อได้ ถ้าวันนี้ไม่ปิดลงมาต่ำกว่า1333-1335 มองว่า ทองคำยังจะสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ กรณีปิดลงมาต่ำกว่า 1333 นั้นจะทำให้ภาพรวมของการขึ้นมาเริ่มเสีย และ จะกลับลงไปแกว่งในกรอบใหม่อีกรอบหนึ่ง ค่าเงินดอลลาร์เริ่มแข็งค่าสวนขึ้นมาเมื่อวานนี้จากสถานการณืในยูโรโซนซึ่งต้องมาให้น้ำหนักกับตัวนี้เพิ่มเติม ส่วนตลาดพันธบัตรยังคงปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นและตลาดหุ้นเข้าสู่เทรนลงจึงมองโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นสูงของทองคำนั้นได้เปรียบกว่า ในระยะสั้นมองการเคลื่อนไหวในกรอบ 1335-1345 เป็นช่วง $10
ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ปิดทำการ ซื้อ-ขาย ในวันหยุดวันอาสาฬหบูชา เมื่อวานนี้ต่างชาติก็ยังคงซื้อสุทธิ และตลาดก็ยังปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1520 ไปได้ ยังคงควรจะระมัดระวังแถวๆนี้ให้ดี ซส่วนค่าเงินบาททิศทางอ่อนค่าลงหลังจากปรับตัวลดลงมาถึงระดับ 32.10 –32.12 และเกิดสัญญาณกลับตัวขึ้น ซึ่งถ้าวันนี้ปิดเกินกว่าระดับ 32.21 ได้นั้นมองการอ่อนค่าลงไปได้อีก จากการกลับตัว ณ ระดับแนวรับ
ทางเลือกหลัก : ราคาแกว่งตัวอยู่ในกรอบระหว่าง 1335 และ 1345 จากนั้นมองปรับตัวขึ้นต่อไปยังระดับ 1350 และ 1360 ตามแนวโน้มเดิมที่ยังขึ้นไม่เกิดสัญญาณกลับตัว แต่ทั้งนี้มองว่า ราคายังอยู่ในกรอบและการขึ้นมายังไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไรนัก จึงมองว่า ทางเลือกหลักและทางเลือกรองในวันนี้มีโอกาสความน่าจะเป็นที่จะเกิดใกล้ๆกัน
ทางเลือกรอง : ราคาแกว่งตัวในกรอบจากนั้นปรับตัวลดลงต่ำกว่าแนวรับ 1333-1335 จะทำให้การขึ้นมานั้นดูไม่ดี และ ต้องใช้เวลาในการ Sideways ต่อไปก่อนจะเลือกทางอีกทีหนึ่ง ทั้งนี้ถึงแม้ราคาจะแกว่งลงมาอยู่ในกรอบนั้นก็ยังมองว่า จะไม่ทำให้ราคาตกลงไปมากนัก เพราะ ภาพรวมยังอยู่ในเทรนขึ้น

รายละเอียด
- เมื่อวานมีประเด็นสำคัญเกิดขึ้นหลายอย่าง เริ่มจากในตอนบ่าย อินเดียได้ออกมาเคลื่อนไหวตลาด Physical โดยการยืนยันว่ายังไม่ลดภาษีนำเข้าทองคำ คงการเก็บที่ระดับ 10% เพื่อจำกัดการซื้อจากต่างประเทศ แต่อาจจะไปเพิ่มการลักลอบการนำเข้าทองคำและซิลเวอร์ของประเทศอินเดียซึ่งเป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก
- อีกประเด็นหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ คือ ธนาคารพาณิชย์ในโปรตุเกส Espirito Santo เกิดการผิดนัดชำระหนี้ระยะสั้นขึ้น และ ต้องหยุดทำการซื้อ-ขายหุ้นของธนาคารตัวนี้หลังจากปรับตัวลดลงมาค่อนข้างเยอะ 8% และ บริษัทได้หยุดทำการซื้อ-ขาย สาเหตุมาจาก การที่ธนาคารไม่สามารถชำระหนี้พันธบัตรได้ นักลงทุนจึงขอให้เปลี่ยนตราสารหนี้เป็นหุ้นแทน ซึ่งก็ไม่สามารถทำได้ และอาจจะนำไปสู่ Default ผลที่ตามมาคือ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของโปรตุเกสปรับตัวเพิ่มขึ้น 21 Basis points ไปอยู่ที่ระดับ 3.97% ตัวนี้เองที่จะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของประเทศมากขึ้น และส่งผลให้โปรตุเกสและยูโรโซนที่กำลังฟื้นอยู่ อาจจะฟื้นยากขึ้นหน่อย จากปัญหาการกู้ยืมที่สูงขึ้น และ หลายฝ่ายเริ่มกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจของยูโรโซนขึ้นมาอีกหลังจากเกิดวิกฤติไปช่วง 3 ปีก่อนว่าจะเกิดอะไรซ้ำอีกหรือไม่
- ข่าวเรื่องธนาคารโปรตุเกสผิดนัดชำระหนี้นั้นก่อให้เกิดแรงขายออกจากตลาดหุ้นยุโรปและอเมริกา เมื่อวานนี้ดาวโจนส์ปรับตัวลดลงในระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขาย หลักร้อยจุดก่อนที่จะมีแรงซื้อปรับตัวขึ้นไปปิดลบที่ 70 จุด (-0.42%) โดยมีปัจจัยที่มาสนับสนุนคือ อัตราคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลงเหลือ 304K จากสัปดาห์ก่อนหน้า 315K และคาดการณ์ 316K ซึ่งเป็นการขอรับสวัสดิการว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบ 7 ปี สูงกว่าช่วงต้นปีที่มีอยู่สัปดาห์หนึ่งปรับตัวลดลงไปถึงระดับ 290K นอกจากนี้มีนักวิเคราะห์ออกมาให้ความเห็นว่า สถานการณ์ในโปรตุเกสนั้นไม่ได้รุนแรงอย่างที่คิดและตลาดเพียงแค่ นำเอาข่าวร้ายมาเป็นข้ออ้างในการขายเพื่อปรับฐานหลังจากตลาดหุ้นขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นปี
- SPDR ลดสถานะการถือครองทองคำเล็กน้อย 0.23 ตัน สู่ระดับ 800.5 ตัน ซึ่งราคาทองคำขึ้นมาเมื่อวานนี้อยู่ในระดับสูงนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา