บทวิเคราะห์

ย้อนกลับ

บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 31 พ.ค.2559

 

แนวรับ 1210 1205 1201 แนวต้าน 1215 1217 1223

เมื่อวานเป็นวันหยุดทำการของอเมริกา ทำให้การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างจำกัด ตลาดติดตามการขึ้นดอกเบี้ยของ FED เริ่มมีนักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าเกิดการ Oversold ตามที่ Bloomberg พาดหัวไว้ตามรูป ในระยะสั้นวันนี้มองการรีบาวน์ไปใกล้ระดับ 1218 อีกครั้ง ในขณะที่หากปิดสูงกว่านั้นได้จึงจะเป็นสัญญาณในทางบวกที่ดี และ แนวรับที่มีนัยสำคัญจะอยู่ระดับ $1200

 

 

USD/THB

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเมื่อวานนี้ แต่การขึ้นยังดูว่าเคลื่อนไหวอยู่บริเวณแนวต้าน ต้องติดตามประเด็นดังกล่าว เพราะ คาดว่าใกล้จะมีนัยสำคัญกับการเคลื่อนไหวในเร็วๆนี้ หลังจากแกว่งตัวอยู่ในกรอบมาเป็นระยะเวลานาน ทิศทางค่าเงินบาทยังดูการเคลื่อนไหวในกรอบเช่นกันเมื่อวานนี้ขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 35.80 แล้วยังไม่ผ่าน ย่อลงมาเล็กน้อย

ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ

- Goldman sachs คาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะขึ้นในช่วงเดือน มิถุนายน-กรกฎาคม สำหรับความน่าจะเป็นที่จะขึ้นอยู่ระดับ 38% (ตีว่าประมาณ 40%) เมื่อเทียบกับหลังการประชุม FOMC ประมาณ 33% จากความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจอเมริกาที่ฟื้นตัวขึ้น โดยเฉพาะภาคแรงงาน ทั้งนี้ตลาดรับข่าวพวกนี้ไประดับหนึ่งแล้ว ต้องติดตามว่า ในปีนี้จะขึ้นดอกเบี้ยได้ถึง 2 ครั้งหรือไม่

- ประธาน FED สาขา Atlanta คุณ James Bullard ประเมินว่าตลาดโลกได้เตรียมพร้อมสำหรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงนี้แล้ว และเฟดจะดำเนินการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายแบบค่อยเป็นค่อยไปในตลอดระยะเวลาที่เหลือ เมื่อวานตัวเลขข่าวเศรษฐกิจไม่ค่อยมี แต่มีเพียง Comment พวกนี้ที่เกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ย

- ดัชนีความเชื่อมั้นทางเศรษฐกิจของยูโรโซน (Euro-area economic confidence) ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันและพุ่งสู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน (4 Month high) สู่ระดับ 104.7 จุด โดยมีปัจจัยจากการเติบโตและเงินเฟ้อที่คาดว่าจะถูกปรับประมาณการณ์ขึ้น (การเติบโตในปีนี้มองว่าจะอยู่ 1.4% ปีหน้าจะอยู่ 1.7% และใน 2 ปีถัดไปจะอยู่ 1.8% ส่วนทิศทางเงินเฟ้อจะอยู่ 0.1% ในปีนี้ 1.3% ในปีหน้า และ 1.6% ใน 2 ปีถัดไป

- สถานะ Short สุทธิในตลาดหุ้นจีน A-Share โดยเฉพาะตัว A50 ETF ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 5 เท่าในปีนี้ นักลงทุนต่างมองหาโอกาส และ ได้เห็นการอ่อนค่าของเงินหยวนที่อาจจะจุดประกายการตกลงของตลาดหุ้นครั้งใหม่ นอกจากนี้มีบทวิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงจะกระทบกับสภาะเศรษฐกิจรอบด้าน อย่าง มาเก๊า อ่องกง และไต้หวันด้วย ล่าสุดGDP ของสามประเทศเหล่านี้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง

- นักวิเคราะห์จาก Bloomberg ให้ความเห็นว่า ทองคำปรับตัวลดลงสี่สัปดาห์ต่อเนื่อง เป็นการปรับตัวลดลงแรงสุดเมื่อเทียบ 1 เดือนในรอบ 3 ปี และ ในระยะสั้นทองคำได้เข้าสู่สภาวะ Oversold ทั้งนี้ ตัวนี้บ่งบอกถึงแนวโน้มขาลงมีนัยสำคัญขึ้นมา

- น้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นยาวนานที่สุดตั้งแต่ เมษายน 2011 เป็นการขึ้นต่อเนื่องกว่า 4 เดือนติดต่อกัน ล่าสุดอยู่ระดับแถว $50/บาร์เรล