บทวิเคราะห์

ย้อนกลับ

บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 26 พ.ค.2559

 

แนวรับ 1227 1225 1218 แนวต้าน 1235 1245 1250

ราคาปรับตัวลดลงสู่กลุ่มแนวรับเมื่อวานนี้ และเกิดเป็นแท่งเทียน โดจิ = แสดงให้เห็นถึง แรงซื้อที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น โดยทั่วไปต้องติดตามแท่งเทียนถัดไปว่าจะปิดบวกสวยๆได้หรือไม่ ปิดบวกสวยๆ หมายความว่า ต้องเกินกว่าครึ่งแท่ง ซึ่งเท่ากับ 1235 จึงมองว่า ในระยะสั้นราคาจะรีบาวน์ไปยัง 1235 ก่อน หากยืนไม่ไหว จะทำให้ภาพลบส่งมาแรงอีกครั้ง และ ถ้าเป็นเช่นนั้น จะยังไปลุ้นระดับ 1200

ทางเลือกรอง : ราคาพยายามเกาะกลุ่มที่เหนือกว่า 1235 มองว่า จะเริ่มชะลอการลงไปอีกสักระยะหนึ่ง

 

 

USD/THB

จากดัชนีที่ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวานพรวดเดียวนับจากเปิดตลาดนั้น ล่าสุดมองว่าอาจจะมีการพักตัวลงมาเล็กน้อย และ มองการปิด GAP ที่เปิดไว้เมื่อวาน GAP ที่ว่านี้จะอยู่ต่ำกว่านี้อีกประมาณ 7-8 จุด ติดตามตรงนั้น แต่เบื้องต้นมองการย่อตัวลงก่อน ต่างชาติเริ่มหันกลับมา Long สุทธิในตลาดฟิวเจอร์มากขึ้น ส่วนทิศทางค่าเงินบาทมองการแข็งค่าจาก Double top ในรายชั่วโมง แนวรับ 35.50 และหากหลุดลงไปมองการแข็งค่าอีกประมาณ 0.15 บาท

ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ

- ตัวเลขดุลการค้าของอเมริกาออกมาขาดดุล $57.5 Billions จากเดือนก่อนหน้าขาดดุล –$57.1 Billions ขาดดุลเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากตัวเลขส่งออกที่ขยายตัว 1.8% แต่การนำเข้าขยายตัวมากกว่า 2.3% ส่งผลให้ดุลบัญชียังคงขาดดุล

- ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นแบบ Triple-digit อีกวันหนึ่ง จากราคาน้ำมันดิบที่ทำ New-high ในรอบปี หลังจากตกลงมาแรง นอกจากนี้ยังได้รับแรงกดดันจาก Short Squeeze ของคนที่มีสถานะ Short วันก่อนๆได้ถูกบังคับให้ปิดจากการปรับตัวขึ้นแรง และเป็นตัวเร่งให้ดัชนีปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

- US Dollar index ปรับตัวอ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อวานนี้หลังจากแข็งค่าที่สุดในรอบ 2 เดือน และทำให้ทองคำรีบาวน์ปรับตัวขึ้นมาในช่วงเช้าวันนี้

- S&P กล่าวว่า หากอังกฤษออกจากยูโรโซน (Brexit) จะทำให้ค่าเงินปอนด์ (GBP) อาจจะไม่อยู่ในตะกร้าเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ และ อันดับความน่าเชื่อถือในปัจจุบันอาจจะถูกปรับลดอีก จากเดิมระดับ AAA ซึ่งประเมินว่า หากอังกฤษออกจากยูโรโซนจริงจะทำให้ GDP หดตัวลงอีกประมาณ 2%

- German Ifo business climate ที่เป็นตัววัดดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 107.7 จากเดือนก่อนหน้า 106.7 และคาดการณ์ 106.9

- นักวิเคราะห์ประเมินว่า การผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ภาคเอกชนของจีน อาจจะเป็นเรื่องที่ดี โดยให้เหตุผลว่า จะเพิ่มความโปร่งใสให้กับธุรกรรมทางการเงินของจีนในอนาคต ปัจจุบันหุ้นกู้ของจีนกว่า 63% ถูกจัดอันดับเครดิตอยู่ในเกรด AA หรือสูงกว่า

- แผนการพัฒนาพลังงานอย่างยั่งยืนของญี่ปุ่น โดยใช้พลังงานทดแทน แทนพลังงานนิวเคลียร์หลังเกิดเหตุเรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ช่วงหลายปีก่อนพบว่า ปัจจุบันสัดส่วนการผลิตพลังงานไฟฟ้าโดยใช้พลังงานทางเลือก เช่น ลม และ Solar มีสัดส่วนกว่า 45%

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น และ Brent ปรับตัวสูงขึ้นกว่าระดับ $50/บาร์เรล เป็นครั้งแรก จากสต๊อกน้ำมันดิบที่ประกาศมาเมื่อวานนี้หดตัวแรงกว่าที่คาดการณ์

- กองทุน SPDR ปรับลดการถือครองทองคำลง 3.9 ตันในวันอังคารที่ผ่านมา เมื่อมาดูสถานะ NAV โดยรวมของกองทุน ยังพบว่าอยู่ในระดับที่สูง แต่เริ่มมีการชะลอตัวลงจากช่วงเดือน มีนาคม ยังไม่เห็นแรงขายหนักๆที่ออกมา