บทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 12 พ.ค.2559
แนวรับ 1272 1270 1267 แนวต้าน 1275 1280 1285
ทองคำปรับตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้านแถว 1275 เบื้องต้นมองว่า แนวรับระยะสั้นวันนี้จะอยู่บริเวณ 1272 ซึ่งเป็นจุดตัดของเส้น EMA 8 และ 21 วันที่ใช้ หากหลุดลงมาจะทำให้ฝั่งลงมีน้ำหนักมากขึ้น หากหลุดลง จะประเมินแนวรับไม่ลึกมากประมาณ 1267 ภาพรวมยังเป็นฝั่งขึ้นอยู่ แต่ต้องระมัดระวังเช่นเดิม ข่าวบวกที่เข้ามาจะเป็นเรื่องของกาปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นทั่วโลก และเงินดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนค่าอีกครั้ง
ทางเลือกรอง : ราคาไม่หลุด 1272 จะมองว่า จะเริ่มกลับไปแกว่งตัวในกรอบ 1272-1278 บริเวณกรอบสีดำ
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ยังขาดการขึ้นแรงๆและเริ่มมองว่าให้ระมัดระวังการปรับตัวลดลงต่อหากยังไม่เห็นแรงขึ้นหนักๆ ต่างชาติยังคงขายสุทธิอย่างต่อเนื่อง ทิศทางค่าเงินบาทหลังจากที่ประชุม กนง. คงดอกเบี้ย มองว่า จะเริ่มอ่อนค่าเล็กน้อย เพราะ แนวโน้มหลุด 35.13 ออกมาตั้งแต่วันก่อน จะเริ่มมองการอ่อนค่า
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- มีความเห็นจาก Bloomberg มองว่า ไม่ว่าใครจะถูกเลือกมาเป็นประธานาธิบดี คนคนนั้นอาจจะต้องเผชิญกับภาวะถดถอยของเศรษฐกิจอเมริกา ปัจจุบันการขยายตัวกินเวลา 83 เดือนซึ่งเป็นการขยายตัวต่อเนื่องมากที่สุดติด 1ใน 4 ที่เคยยาวนานสุดๆ เมื่อเทียบย้อนกลับไป 150 ปีที่แล้ว ในปัจจุบันเริ่มเห็นสัญญาณกระทิงที่เริ่มมีอายุแล้ว จากกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ผ่าจุดสูงสุด และ แรงกดดันค่าจ้างแรงงาน รวมถึงการเติบโตโดยรวมเฉลี่ยที่อยู่เพียงระดับ 2% นับตั้งแต่ มิถุนายน 2009 ถ้าประธานาธิบดีคนต่อไปไม่เจอกับเศรษฐกิจถดถอย จะกลายเป็น U.S. record ใหม่ทันที (การขยายตัวต่อเนื่องครั้งที่ยาวนานที่สุดกินเวลา 10 ปี ในปี 1991)
- ตลาดหุ้นฝั่งอเมริกาปรับตัวลดลงเมื่อวาน ถึงแม้จะมีช่วงขึ้นไประหว่างชั่วโมงซื้อ-ขาย
- ตลาดหุ้นฝั่งยุโรปโดยรวมแล้วปรับตัวลดลง จากการผิดหวังเรื่องผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะในอิตาลี รวมทั้ง ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนค่อนข้างน่าผิดหวัง ราคาหุ้นของ Banco popolare ที่มีปัญหาเรื่องสินเชื่อตอนช่วงต้นปีปรับตัวลดลงกว่า 9% จากกำไรไตรมาสแรกที่ออกมาน่าผิดหวัง
- สถานการณ์ในกรีซดูเหมือนจะผ่านไปด้วยดี ล่าสุด ECB เตรียมพิจารณาการเปิดทำการของธนาคารพาณิชย์กรีซในเดือนหน้า และคาดว่าจะมีสรุปผลการทำงานของกรีซ
- ตัวเลขกุลการค้าของญี่ปุ่นขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 21 ติดต่อกัน หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเป็นประโยชน์ต่อการนำเข้า ทั้งนี้ตัวเลขการส่งออกยังไม่ดี และ สถานการณ์โดยรวมของญี่ปุ่นยังมีปัญหาเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ
- ผลการประชุม กนง. ของไทยเมื่อวานมีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.5% โดยให้เหตุผลว่า เศรษฐกิจไทยในภาพรวมยังขยายัวได้ในทิศทางเดียวที่ใกล้เคียงกับการประเมินไว้ครั้งก่อน แต่มีความเสี่ยงเพิ่มเติมจากภาวะภัยแล้ง
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นไปซื้อ-ขายระดับใกล้เคียง $45/บาร์เรล เป็นระดับที่ใกล้จะทำ New-high ในระยะสั้น ทั้งนี้ยังไม่สามรถผ่านไปได้ ปัจจัยบวกที่เห็นคือ การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐอีกครั้งหนึ่ง
- SPDR เพิ่มสถานะการถือครองทองคำอีก 0.3% สู่ระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่ ธันวาคม 2013 หลังจากเงินดอลลาร์เริ่มอ่อน และ ตลาดหุ้นเริ่มปรับตัวลดลง