บทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 4 พ.ค.2559
แนวรับ 1275 1270 1265 แนวต้าน 1284 1288 1295
ราคาทองคำปรับตัวลดลงในลักษณะของการพักฐาน และสร้าง Low ใหม่ระหว่างวัน ยังมองการพักตัวต่อลงไปยังระดับ 1270-1275 ซึ่งตรงจุดนั้นมองว่า ทยอยปล่อยสถานะขายก่อนที่ถือไว้น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะ ตรงกลุ่มนั้นเป็นกลุ่มแนวรับที่ค่อนข้างมีนัยสำคัญ (เป็นที่อยู่ของกลุ่มราคา) ข่าวในช่วงนี้ยังไม่ค่อยมีเท่าไรนัก จะเริ่มมีวันนี้คือตัวเลข ADP เวลา 19.15 คาดการณ์ว่าจะออกมาดีและเป็นลบกับทองคำ
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1270 ลงไปอีก จะทำให้การปรับตัวของราคาลึกลงไปยิ่งขึ้น
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขาย ปรับตัวสูงขึ้น ก่อนที่จะเจอแรงขายท้ายตลาดและปิดลบ ภาพรวม ยังมองว่า ฝั่งลงยังได้เปรียบอยู่เพียงแต่ระยะสั้นนี้ยังอยากเห็นการรีบาวน์ปรับตัวขึ้นมาแรงๆ เพื่อจะไม่ให้ทรงเสีย มองเช่นเดิมหากปรับตัวขึ้นไม่แรง ต้องหันมามองฝั่งลงแทน ทิศทางค่าเงินบาท ชนแนวต้านบริเวณ 35.13 พอดี ระยะสั้นมองการพักตัวแข็งค่าลงมาเล็กน้อย กรอบล่างจะอยู่ที่เดิมแถว 35.80-35.90
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ดัชนีหุ้นปรับตัวลดลงจากความกังวลแถวๆโซนเอเชียรุนแรงมากขึ้น หลังจากสัปดาห์ก่อนหน้าผิดหวังผลการประชุมญี่ปุ่นที่คงอัตราดอกเบี้ย และ ตามมาด้วยในสัปดาห์นี้ที่จีนประกาศตัวเลข PMI ออกมาน้อยกว่าคาดการณ์กัน สร้างความกังวลระลอกใหม่อีกครั้ง นอกจากนี้ยังไม่มีข่าวอะไรที่ดีๆประกาศออกมาเลย
- ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลดลงกว่า 140 จุด ตามทิศทางเดียวกับตลาด Nasdaq ที่ปรับตัวลดลงกว่า 1% ถึงแม้หุ้น Apple จะเริ่มปรับตัวขึ้นเป็นวันแรก หลังจากปรับตัวลดลงแรงสุด 8 วันติดต่อกัน แย่สุดนับตั้งแต่ปี 1998
- Mark Mobius ให้ความเห็นว่า การปรับตัวขึ้นของสินค้าโภคภัณฑ์ประเภท Raw material เพิ่งจะเริ่มหลังจากปรับตัวลดลงแรงมาก และยังเห็น Upside ที่สูง
- มีข้อมูลจาก ECB พูดถึง นโยบายการเงินที่ทำออกมาส่งผลในทางดี การเติบโตดีขึ้น การจ้างงานดีขึ้น (อัตราว่างงานของเยอรมันอยู่ระดับ 4.2% ที่ถือว่าค่อนข้างต่ำ) เสถียรภาพของราคาทรงตัว และ คาดว่านโยบายที่ผ่อนคลายอยู่มีความเหมาะสมแล้ว ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีปัญหาเรื่องแรงงานในบริเวณชายแดน
- ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงเฉียด 1% เมื่อวานนี้จากผลประกอบการที่ทยอยประกาศออกมาและไม่ค่อยดี อย่างกลุ่ม ธนาคาร รถยนต์ และ ปัจจัยลบจากน้ำมันดิบที่ลงแรง
- ตลาดทางฝั่งเอเชียมีกระแสเรื่องการปรับตัวของสินค้าโภคภัณฑ์มาแรง และ ราคาสินค้าต่างปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว กลุ่มที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นประเภท Raw material อย่าง ไข่ไก่ เหล็ก ถึงแม้ราคาไข่ไก่ในอเมริกาจะปรับตัวลดลงก็ตาม มีกระแสการเก็งกำไรที่ค่อนข้างมากในสินค้าโภคภัณฑ์ในประเทศจีน
- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงส่วนใหญ่ ตามตลาดหุ้นทั่วโลกที่เริ่มพักตัวลงมาอีกครั้ง จากประเด็นเรื่องของจีนและญี่ปุ่น
- ความต้องการทองคำของอินเดียในปีนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จะน้อยลง (100 ตัน จากเดิมประมาณ 125 ตัน ) เนื่องจาก ราคาทองคำที่มุมไบปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี (มีนาคม 2016)
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากตัวเลขที่ประกาศออกมาจากจีนค่อนข้างน่าผิดหวัง และ ยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาในช่วงนี้