บทวิเคราะห์

ย้อนกลับ

บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 21 เม.ย.2559

 

แนวรับ 1246 1242 1235 แนวต้าน 1255 1262 1265

ทองคำยังมองว่าการพักตัวเมื่อวานยังไม่มีแรงพอที่จะดึงฝั่งลงมา มองกลับไปทดสอบแนวต้าน 1255-1262 อีกครั้งในระยะนี้ สำหรับการพักตัวระยะสั้นไม่ควรปรับตัวลดลงเกินกว่า 1246 ซึ่งใช้เป็นจุด Stoploss ทางฝั่งขึ้น ข่าวทิศทางยังคงผสมกัน ข่าวบวกที่สำคัญคือ เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับต้นปี และ ยังมีแนวโน้มอ่อนค่าลงไปอีก แต่ข่าวลบคือ ตลาดหุ้นทำ New-high ไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้ราคาผันผวนในกรอบ

 

USD/THB

ตลาดหุ้นทรงตัวเมื่อวานนี้ ก่อนที่จะปรับตัวสูงขึ้นแรงช่วงเช้าวันนี้ ตามทิศทางเดียวกันกับภูมิภาค และ ทั่วโลก มองว่า การขึ้นมาครั้งนี้หลุดแนวต้านระยะกลางออกมาด้วย แต่ยังอยากเห็นการพักตัวลงมาอยู่ ถ้าพักตัวไม่แรงมองว่า จะกลับขึ้นไปอีกได้ ทิศทางค่าเงินบาทมองเริ่มอ่อนค่าระยะสั้นนี้ มองแนวต้านประมาณ 35.15 อีกรอบหนึ่ง

ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ

- ค่าเงินดอลลาร์ปัจจุบันเมื่อนับจากต้นปี (YTD) ปรับตัวอ่อนค่าลง 4.2% เมื่อเทียบกับเงินยูโร นักวิเคราะห์ประเมินว่า ค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มจะอ่อนค่าลงไปจนถึงสิ้นสุดไตรมาสนี้ และเมื่อนำพฤติกรรมในอดีตมาดูพบว่า หลังจากการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก เงินดอลลาร์มักจะเริ่มอ่อนค่า และ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ค่าเงินดอลลาร์หมดปัจจัยที่จะกระตุ้นให้แข็งค่าแรงๆเหมือนช่วงขึ้นดอกเบี้ยปีที่แล้ว นอกจากนี้กองทุน Hedge fund ต่างๆ ปรับลดสถานะ Bullish bet ลง ทั้งนี้ การอ่อนค่าเมื่อดูจากอดีตพบว่า จะเป็นเพียงช่วงหนึ่งจากนั้นจะกลับแข็งค่าต่อตามทิศทางเดิม จึงเป็นปัจจัยบวกกับทองคำระยะสั้น

- ตลาดหุ้นฝั่งอเมริกาปรับตัวสูงขึ้นทำระดับ New-high ในรอบปีนี้ และในรอบเกือบ 1 ปี (สูงสุดนับจาก ก.ค. 2015) ทั้งนี้ตลาดเจอแรงขายกดลงมาช่วงท้ายของชั่วโมง

- Volkswagen ค่ายรถที่มีปัญหาเรื่องการโกงค่าการปล่อยไอเสียเมื่อปีที่แล้ว ตกลงว่าจะจ่ายค่าชดเชยความเสียหายกับผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบคนละ $5000 ซึ่ง Reuters ประเมินว่า ผลลัพธ์ครั้งนี้จะทำให้บริษัทกำไรลดลงกว่า 70%

-ตลาดหุ้นยุโรปโดยรวมแล้วปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจโดยรวมแล้วออกมาดี โดยเฉพาะความเชื่อมั่น ZEW ถึงแม้จะมีประเด็นเกี่ยวกับ Volkswagen ก็ตาม ในวันนี้จะมีผลการประชุม ECB ในเวลา 19.30 ตามเวลาบ้านเรา

- ตลาดหุ้นทางฝั่งเอเชียส่วนใหญ่แล้วปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นหลังจากธนาคารกลางจีนอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบเศรษฐกิจวงเงิน 2.5 ล้านหยวนผ่านการประมูลพันธบัตรอายุ 7 วัน นอกจากนี้ก่อนเดือน ก.ค. จีนกำลังจะเตรียมเสียบปลั๊กเชื่อมระหว่างตลาดหุ้นเซินเจินกับฮ่องกง เหมือนที่เคยทำมาแล้วในอดีต ซึ่งหลังจากการเสียบปลั๊กรวมกัน ทำให้หุ้นจีนทะยานขึ้นไปกว่า 30% ในช่วงแรก

- Bloomberg คาดการณ์ว่า จีนจะเริ่มลดดอกเบี้ยอีกครั้งในไตรมาสที่ 2 และ 4 ของปีนี้

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ถึงแม้จะมีการประกาศสต๊อกน้ำมันดิบออกมามากกว่าเดิม ล่าสุดซื้อ-ขายกันอยู่ที่ระดับประมาณ $43/บาร์เรล

- ซิลเวอร์ปรับตัวขึ้นแรง หลังจากผ่านแนวต้านสำคัญออกมาประกอบกับ ซิลเวอร์เป็นโลหะที่สามารถนำไปใช้ได้ในอุตสาหกรรม ทำให้เมื่อสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้นจากจีน ก็เลยทำให้ซิลเวอร์ที่สามารถนำไปใช้ได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น