ย้อนกลับ
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 6 เม.ย.2559
แนวทางทองคำวันที่ 6-4-59
แนวรับ 1228 1225 1220 แนวต้าน 1230 1235 1240
ทองคำกำลังจะปรับตัวผ่านแนวต้าน Downtrend ออกมาในระยะสั้น สังเกตุตรงบริเวณฟ้าผ่า ซึ่งมองว่า โอกาสที่จะหลุดออกมามีสูง หลังจากเมื่อวานนี้การปรับตัวลดลงของราคาไม่แรงพอที่จะสร้างแนวโน้มลงต่อ แต่หการหลุดยังมองเป็นการแกว่งตัวออกข้าง Sideways มากกว่า แนวต้านระยะสั้น 1240 บริเวณนั้น ปัจจัยต่างๆมองว่ายังไม่เยอะ แต่เริ่มมีข่าวบวกจากการเข้าสู่โหมด Risk-off อีกครั้ง หลังจากสินทรัพย์ปลอดภัยเมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้นยกกลุ่ม(เยน,สวิสฟรังซ์,พันธบัตร,ทองคำ)
ทางเลือกรอง : ราคาขึ้นไปแล้ว กลับลงมาต่ำกว่า 1225-1228 มองว่า จะกลับมาแกว่งในกรอบ Downtrend อีกครั้ง
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงมากเมื่อวานนี้ หลังจากมีข่าวลบมารุมเร้าอย่างเยอะ เริ่มจากกลุ่มพลังงานได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ได้รับแรงกดดันจากการลดดอกเบี้ยเงินกู้ กลุ่มสื่อสารได้รับแรงกดดันจากกรณีคลื่น 900 ของ JAS และ ADVANC นอกจากนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกยังส่งมาทางลงต่อ จึงทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงแรงเมื่อวานนี่ ส่วนวันนี้เป็นวันหยุดวันจักรี ตลาดปิดทำการ
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ดัชนี PMI ภาคการผลิตของอเมริกาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 54.5 จากเดือนก่อนหน้า 53.4 เเละคาดการณ์ 54.1 เป็นการปรับตัวขึ้นเดือนเเรกหลังจากชะลอตัวลงมากว่า 8 เดือน ส่งสัญญาณที่ดีขึ้นสำหรับทิศทางภาคการผลิต และยังอยู่เหนือกว่าระดับ 50 จุด ทั้งนี้ตลาดกลับไม่ได้รับข่าวดังกล่าวเท่าไรนัก ตลาดหุ้นยังคงปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้ เมื่อดูทิศทางโดยรวมของตลาดหุ้นอเมริกาพบว่า ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา (นับจากเดือนมกราคม 2016) ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และ กลับตัวในลักษณะ V-shape จึงมองว่าน่าจะมีการพักตัวของตลาดหุ้นในช่วงนี้บ้าง ส่วนทางด้าน Valuation ของตลาดหุ้นดาวโจนส์พบว่าอยู่ในระดับที่มีมูลค่าแพงติด 1 ใน 10 เรียบร้อยแล้ว
- นักวิเคราะห์ปรับลดประมาณการณ์การเติบโตกำไรของ Goldman Sachs ลงถึง 45%
- มีรายงานจาก ECB เมื่อวานนี้ว่า ธนาคารกลางจะถูกปกป้องจากภาวะล้มละลาย เนื่องจากความสามารถของธนาคารกลางคือ การพิมพ์ธนบัตร ซึ่งสามารถดำเนินงานได้แม้ส่วนทุนจะเป็นลบ (Negative equity) และเขียนไว้อีกว่า ธนาคารกลางจะไม่มีทางเงินหมดเพราะ ธนาคารกลางเป็นผู้ผลิตเงิน และ ผู้ผลิตเงินจะไม่มีวันเงินหมด
- Final service PMI หรือ PMI ภาคบริการของยูโรโซน ปรับตัวลดลงเล็กน้อย เกือบทุกประเทศหลัก ทั้งนี้ ไม่ได้มีนัยสำคัญเท่าไรนัก และ ยังอยู่เหนือระดับ 50 จุด
- เงินเยนปรับตัวแข็งค่าที่สุดสู่ระดับ 110 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับที่แข็งค่าที่สุดนับตั้งแต่ปี 2014 (เกือบ 2 ปี) หลังจากตลาดหุ้น Nikkei ปรับตัวลดลงแรง และ เมื่อตลาดหุ้นปรับตัวลดลงแรง คนก็หันเข้าไปสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเงินเยน และ เมื่อเยนยิ่งแข็งเงินก็ยิ่งไหลออกจากตลาดหุ้น เป็นวัฎจักรตามกันไป
- การออกพันธบัตรของภาคเอกชน (Bond) ของจีนชะลอตัวลงในเดือนมีนาคมนี้ ลดลงกว่า 62 บริษัท ( 7 Billions dollar) หลังจากการผิดนัดชำระหนี้ในระบบเพิ่มสูงขึ้น
- ทองคำได้รับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวลดลง หลังจากเมื่อวานนี้ MSCI World index ปรับตัวลดลงกว่า 1.3% และ นักลงทุนต่างเข้าสู่โหมด Risk-off อย่างชัดเจนเนื่องจาก ทองคำ ซิลเวอร์ เงินเยน พันธบัตร เงินสวิสฟรังค์ ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
- น้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อวานนี้หลังจาก คูเวต คาดว่าจะมีการคงกำลังการผลิต (Freeze output) โดยไม่ได้มีอิหร่านร่วมด้วย (อาจจะคงกำลังการผลิตคนเดียว)