บทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 24 มี.ค.2559
แนวรับ 1215 1211 1205 แนวต้าน 1218 1222 1225
ทองคำปรับตัวลดลงแรงและหลุดทุกแนวรับ แนวรับที่ประเมินไว้หากจะชะลอตัวลง คือ 1220 ซึ่งหลุดมาแล้ว จะได้แนวรับถัดไปอยู่ระดับ 1200 ถ้วน ซึ่งหากหลุด 1200 อีกที ไม่ควรมีสภานะซื้อแล้ว ราคาจะกลายเป็นแกว่งตัวออกข้างออก—ปรับตัวลดลง และฝั่งขึ้นจะเสียความได้เปรียบไป จากรูปนำ NAV มาให้ดูพบว่า เมื่อวานนี้ มีแรงขายออกจาก SPDR กว่า 2% แต่เมื่อมาดูรวมๆ ยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง เป็นเพียงการชะลอตัวระยะสั้นเท่านั้น
ทางเลือกรอง : มองราคากลับขึ้นไปก่อน มองแนวต้านแถว 1218-1220 หากหลุดขึ้นไปจะทำให้รีบาวน์เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย แต่ยังไม่ไกล
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ แสดงถึงความแข็งแกร่งออกมา ปรับตัวขึ้นผ่านกลุ่ม Sideways ระยะสั้น บ่งบอกถึงการกลับมาแนวโน้มเดิม คือ ขึ้น ประเมินแนวต้านไว้บริเวณ 1460 อีกรอบหนึ่ง เมื่อวานนี้ดัชนีขึ้นมาพร้อมกับปริมาณการซื้อ-ขายกว่า 5 หมื่นล้าน ซึ่งค่อนขางหนาแน่น ส่วนทิศทางค่าเงินบาทอ่อนค่าแรงมาก ท่ามกลางการไม่ลดดอกเบี้ยของ กนง. ผลส่วนหนึ่งมาจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าแรง แนวต้านเงินบาท 35.30
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ยอดขายบ้านใหม่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 512K เท่ากับคาดการณ์ จากเดือนก่อนหน้า 502K ทิศทางยอดขายบ้านใหม่ยังปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับภาคการผลิตที่ประกาศออกมาเมื่อวานที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ข่าวตัวนี้ไม่ได้มีนัยสำคัญกับราคาทองคำเท่าไรนัก ทองคำปรับตัวลดลงมาก่อนช่วงข่าวออก
- ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ $40/บาร์เรล ส่วนตลาดหุ้น Nasdaq ปรับตัวลดลงกว่า 1% และ Russell 2000 ปรับตัวลดลงกว่า 2% อันนี้แสดงให้เห็นถึง หุ้นตัวเล็กเริ่มปรับตัวลดลงแล้ว ขณะที่หุ้นตัวใหญ่ ยังพอพยุงตลาดได้ นักวิเคราะห์ประเมินว่า เป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่จะพักลงมาแล้ว หลังจากตลาดขึ้นมาสูงเร็วเกินไปในระยะสั้นนี้
- ตลาดหุ้นฝั่งยุโรปปิดผสมกัน มีทั้งบวกและ ลบ หลังจากเกิดเหตุการณ์ไม่สงบในเบลเยี่ยม และส่งผลให้หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวปรับตัวลดลงแรง ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับมาเมื่อวานนี้ ล่าสุด DAX ยังอยู่แถวระดับ 10000 จุด บวกลบเล็กน้อย ตลอดชั่วโมงการซื้อ-ขาย เมื่อวานนี้ นอกจากนี้ยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงอีกครั้ง
- มีข่าวทางฝั่งอเมริกาเพิ่มเติมคือ ประธาน FED สาขา Philadelphia คุณ Patrick Harker ให้ความเห็นว่า น่าจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้ได้หากเศรษฐกิจอเมริกาฟื้นตัวดีเช่นนี้
- ผลการประชุม กนง. เมื่อวานนี้พบว่า คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.5% เช่นเดิม แต่มีการปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจลงเหลือ 3.1% จากเดิม 3.5% ในขณะที่ปรับลดการส่งออกเช่นกันเหลือ –2% จากเดิมคาดว่าอยู่ 0% (ไม่ขยายตัว)
- ญี่ปุ่นปัจจุบันยังพบปัญหาเรื่องอัตราดอกเบี้ยติดลบอยู่ ล่าสุด Yield curve เริ่มส่งสัญญาณกลายเป็น Flat yield curve ไปเรียบร้อย (การเติบโตน้อย) ยังต้องติดตามสถาวะแวดล้อมของญี่ปุ่นในช่วงนี้
- สินค้าโภคภัณฑ์นับจากนี้ น่าจะได้รับแรงกดดันจากเงินดอลลาร์อีกครั้ง หลังจากตลาดเริ่มหันกลับมาดูการขึ้นดอกเบี้ยของอเมริกา ส่งผลให้เงินดอลลาร์เริ่มแข็งค่าสวนกลับขึ้นมา และ เป็นปัจจัยลบกับราคาทองคำในระยะนี้
- สถานะกองทุน SPDR ล่าสุด เมื่อวานนี้ NAV ปรับลดลงกว่า 2% สะท้อนถึงแรงขายที่ออกมาแล้ว หลังจากชะลอตัวลงในต้นเดือน