บทวิเคราะห์

ย้อนกลับ

บทวิเคราะห์วันที่ 7 มี.ค.59

 

แนวรับ 1254 1250 1245 แนวต้าน 1262 1266 1271

ราคาเริ่มเห็นการพักฐานลงมาในระยะสั้น มองแนวรับสำคัญที่สุดบริเวณ 1245 เนื่องจาก 1245 เดิมเคยเป็นกรอบบนของสามเหลี่ยม หากลงมาทดสอบแล้วไม่หลุด จะเปิดขาขึ้นในระยะกลางไป 1300 บริเวณนั้น ส่วนระยะสั้นนี้มองลงแนวรับแรก 1254 ยาวจนถึง 1250 ต้องติดตามแต่ละแนวรับว่าจะมีแรงซื้อเข้ามาหรือไม่ ส่วนข่าวบวกยังพอมีอยู่ ยังเห็นเม็ดเงินยังไหลเข้ากองทุน SPDR อย่างต่อเนื่อง และมูลค่า NAV ยังสูงขึ้นเรื่อยๆทั้งนี้ต้องระมัดระวังเพราะ ยังไม่เคยมีการพักตัวเลย

ทางเลือกรอง : ราคหลุด 1245 ลงมา มองว่า จะเกิดเป็น False signal ขาขึ้นทันที และ แนะนำออกมารอดูตลาดก่อน

 

USD/THB

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเข้าใกล้ระดับ 1400 จุด นำโดยกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบถึงแม้จะมีการขึ้น XD ของ PTT แต่กลับไม่ปรับตัวลดลง ทั้งนี้เริ่มเห็น Bearish divergent ย่อยๆในรายชั่วโมง ประกอบกับตลาดหุ้นเอเชียที่เริ่มปรับฐานจึงมองว่า เป็นสัญญาณให้ระมัดระวังแรก ค่าเงินบาทเริ่มเห็น bullish divergent และมองการอ่อนค่า แนวต้าน 35.55

ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ

- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm payroll) ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 242K จากเดือนก่อนหน้า 172K และคาดการณ์ 195K ปรับตัวสูงขึ้นแรงจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นปัจจัยลบกับราคาทองคำ ทั้งนี้เมื่อออกมาดูภาพรวมการจ้างงานนอกภาคเกษตรยังอยู่ระดับเกินค่าเฉลี่ยและอยู่ระดับค่อนข้างสูง บ่งบอกถึงทิศทางการจ้างงานที่ค่อนข้างดี ส่วนอัตราว่างงานคงที่ ณ ระดับ 4.9% ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง บ่งบอกถึงทิศทางที่ดีเช่นเดียวกัน (ช่วงวิกฤติ 2008 เคยขึ้นไปแตะระดับ 10%) และตัวสุดท้าย รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงหดตัวแรง –0.1% ซึ่งมีตัวนี้ตัวเดียวที่ยังไม่ดี เมื่อรวมแล้วตีความได้ว่า การจ้างงานออกมาดีขึ้น แต่คุณภาพของการจ้างงานยังไม่ดี เพราะ ค่าจ้างลดลง ทั้งนี้ดัชนีดาวโจนส์สามารถยืนเหนือ 17000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน

- ตลาดหุ้นยุโรปยังไม่ได้มีข่าวใหม่ ยังรอผลการประชุม ECB มากกว่า กลุ่มที่ยังปรับตัวขึ้นจะเป็นกลุ่มเหมืองอยู่เหมือนเดิม จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์โดยเฉพาะทองคำที่ฟื้นตัว รวมถึง ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นแรงเกินกว่า $36/บาร์เรล จะช่วยทำให้ตลาดหุ้นยุโรปมีมุมมองในทางบวกขึ้นมาในระยะนี้

- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของเยอรมัน ให้ความเห็นว่า ไม่อยากให้อังกฤษฮอกจากกลุ่มยูโรโซน เพราะ จะกระทบกับเศรษฐกิจทั่วโลก ของทั้งยูโร และ อังกฤษเอง

-ในวันเสาร์มีการประชุมสภาประชาชนจีน (NPC) มีการตั้งเป้าหมายการเติบโต GDP ที่ระดับ 6.5%-7% ฝั่งเงินเฟ้อ CPI คาดการณ์ไว้ที่ 3% และการขาดดุลงบประมาณคาดว่าจะอยู่ 3% ของ GDP ทั้งนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการดูดซับสภาพคล่องออกจากระบบของธนาคารกลางจีน รวมทั้งมีการแทรกแซงตลาดหุ้นด้วย

- เปิดตลาดเอเชียเช้านี้ตลาดหุ้นจีนเปิดในแดนบวก แต่ญี่ปุ่นเริ่มหดตัวลงสู่ช่วงลบข่าวดีในเบื้องต้นที่ส่งมาคือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ออกมาดี

- ราคาน้ำมันดิบก็ได้รับปัจจัยบวกจากเรื่องการจ้างงานเช่นกัน รวมทั้ง ได้รับแรงซื้อในรูปแบบของ Technical buying หลังจากราคาน้ำมันดิบผ่านแนวต้านระยะสั้นบริเวณ $34/บาร์เรลออกมา ล่าสุด ราคาน้ำมันดิบซื้อ-ขายกันที่ระดับ $36/บาร์เรล

- กองทุน SPDR ซื้อทองคำเพิ่มอีก 5 ตันในวันพฤหัสที่ผ่านมา ยังเห็นเม็ดเงินที่ไหลเข้ากองทุนอยู่ในช่วงนี้