บทวิเคราะห์

ย้อนกลับ

บทวิเคราะห์วันที่ 16 ก.พ.59



แนวรับ 1195 1190 1180 แนวต้าน 1202 1205 1210

ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ค่อนข้างเร็ว ผันผวนระดับ $60 ในระยะนี้ ตามมาจากความผันผวนของตลาดเงิน ตลาดทุนทั่วโลก ข่าวในช่วงนี้ที่เป็นบวกกับทองคำเริ่มหายไป ล่าสุดหลุดระดับ 1207 ลงมา ซึ่งระดับนั้นเป็นเส้น Uptrend ในระยะกลาง จึงมองว่า ไม่ดี ล่าสุดลงมาหลุด 1200 ซึ่งเป็นการหลุดแท่ง Bullish ที่เคยทำไว้ในวันศุกร์ จึงมองว่า กรอบการแกว่งของทองคำจะขยับลงมาเป็น 1180-1200 ซึ่งมองว่า ยังไม่ได้หลุดพรวดพราด แต่เป็นการแกว่งตัวในกรอบ Sideways แทน

ทางเลือกรอง : ยังมีช่องว่างที่เป็น Breakaway gap ตรงบริเวณ 1235-1239 ที่ยังไม่ได้ปิด ซึ่งมองว่า น่าจะกลับไปปิดได้ เพียงแต่ GAP แบบนี้ต้องใช้เวลาในการปิดเท่านั้น
 
 
 
 


USD/THB

ตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้นต่อ และ เข้าใกล้ระดับ 1300 จุด ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีที่แนวรับ 1280-1290 ยังสามารถทำงานได้ดีอยู่ ปัจจัยบวกที่เข้ามาคือ ตลาดหุ้นทั่วโลกที่เริ่มรีบาวน์รวมถึง น้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อ คาดว่าจะส่งผลให้ SET ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีกในระยะกลาง ส่วนค่าเงินบาทยังมองการแกว่งตัวในกรอบแคบๆไปสักพักหนึ่งบริเวณ 35.60-35.70 ยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน เบื้องต้นมองการอ่อนค่าในภาพรวมที่แข็งค่า

ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ

- เมื่อวานเป็นวันหยุดทำการ วันประธานาธิบดี (The President’day) ของทางฝั่งอเมริกาทำให้การเคลื่อนไหวของตลาดทั่วโลกเป็นไปอย่างจำกัด ทางฝั่งดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ถึงแม้จะเป็นวันหยุด แต่ก็มีตัวฟิวเจอร์เคลื่อนไหวอยู่ ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยบวกกับตลาดหุ้นระยะนี้ ส่วนใหญ่แล้วความกังวลเริ่มเบาบางลง และนักลงทุนเริ่มหันเข้ามาซื้อหุ้นมากขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงมาตั้งแต่ช่วงต้นปี นักวิเคราะห์ประเมินว่า น่าจะเริ่มรับข่าวเรื่องการเติบโตที่ชะลอตัวลงไประดับหนึ่งแล้ว

- ถึงแม้ตลาดหุ้นทางฝั่งอเมริกาจะไม่เคลื่อนไหวมากนัก แต่ตลาดหุ้นทางฝั่งยุโรปกลับคึกคักปรับตัวขึ้นกว่า 3%เมื่อวานนี้ ท่ามกลางราคาน้ำมันดิบที่รีบาวน์ขึ้นมา รวมทั้งภาคธนาคารพาณิชย์ที่จะกล่าวถึงต่อไปในหมวดของ EU

- ประธาน ECB คุณ มาริโอ ดรากี้ ยืนยันว่าจะมีนโยบายเพิ่มเติมหากความเสี่ยงด้านของตลาดเงินส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง และเพื่อที่จะทำให้มั่นใจว่านโยบายทางการเงินจะเป็นไปตามเป้าหมายของธนาคารกลางที่วางไว้ ( อัตราเงินเฟ้อระดับ 2%) และจะติดตามเรื่อง เสถียรภาพของราคาน้ำมันดิบ

- ธนาคารในอิตาลีอย่าง Banco Popolare และ Banca Monte dei Paschi di Siena ที่มีปํญหาเรื่องหนี้เสีย หลังจากเผชิญกับความผันผวนตลอดสัปดาห์ล่าสุดปรับตัวขึ้น 7%

- ยอดสินเชื่อใหม่ของจีนปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 2.51 Trillion Yuan ซึ่งเป็นการปรับตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในขณะที่ยอดหนี้เสียของจีนกลับพุ่งอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่ปี 2006 เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ

- หลังจากประกาศตัวเลข GDP ออกมา ล่าสุด สภาพัฒน์ได้ปรับลดการคาดการณ์ GDP ลง โดยปัจจัยหลักที่คอยกดดันคือ การส่งออก เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น หลังจากมีข่าวที่ยังไม่ยืนยันแน่นอน และ แหล่งที่มาของข่าวขอไม่เปิดเผยตัวตน เนื้อข่าวรายงานว่า น่าจะมีการประชุมระหว่าง OPEC และรัสเซียขึ้นในเร็วๆนี้ ขณะที่ช่วงก่อนหน้า OPEC ออกมาให้ความเห็นว่า จะลดกำลังการผลิตก็ต่อเมื่อนอกประเทศ OPEC ลดกำลังการผลิตลง 

- ทองคำปรับตัวลดลงกว่า 2% หลังจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อวานนี้