บทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์วันที่ 4 ก.พ.59
แนวทางทองคำวันที่ 4-2-59
แนวรับ 1129 1120 1111 แนวต้าน 1145 1150 1155
เมื่อวานราคาปรับตัวขึ้นแรงเกินกว่าแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (กรอบเหลือง) ซึ่งเส้นนี้มองว่ามีนัยสำคัญเพราะ ทดสอบมาแล้วตลอด 3 ปีและไม่เคยผ่าน ล่าสุดผ่านมาแล้ว ต้องติดตามตรงนี้ให้ดีๆ เพราะ รอบก่อนก็ผ่านเลยไปประมาณ $30 รอบนี้เลยมาประมาณ $15 มองว่าจากตรงนี้ถึงแม้จะขึ้นต่อแต่ก็ยังอยากเห็นการปรับตัวลดลงมาทดสอบ $1130 อีกรอบหนึ่งก่อน หากไม่ยอมหลุดระดับนี้จริงๆ จะเจอกับขาขึ้นระยะกลาง แต่หากปรับตัวลดลงมาหลุด $1130 ก็จะกลายเป็น False-signal
ทางเลือกรอง : ยังเห็นแรงขึ้นอยู่ แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังเพิ่มขึ้น และ ระยะ Oversold ในภาพวันเริ่มเข้ามาแล้ว ยิ่งต้องใช้ความระมัดระวัง
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวไม่หลุด 1280 ยังมีความหวังที่จะขึ้นไประดับ 1340 อีกครั้งหนึ่ง และตลาดหุ้ยทั่วโลกเริ่มกลับมาดูดีขึ้น นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบดูเหมือนจะสร้างฐานตรงนี้ไปสักระยะ ถึงเริ่มรีบาวน์ขึ้นมาแรงเมื่อวานนี้เป็นปัจจัยบวกกับหุ้นกล่มพลังงานที่มีผลต่อดัชนีหุ้นบ้านเราค่อนข้างมาก ฝั่งค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดมาพบ GAP กระโดดลงบริเวณ 35.70-35.78 จึงใช้เป้นแนวต้าน ส่วนแนวรับ 35.55
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ตัวเลข ADP non-farm employment change ที่สำรวจการจ้างงานนอกภาคเกษตรโดยภาคเอกชนออกมาที่ระดับ 205K จากเดือนก่อนหน้า 267K ขณะที่คาดการณ์ 193K ทิศทางโดยรวมของ ADP ยังคงทรงตัวไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักยังอยู่ในแนวโน้มขยายตัว นับตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา ADP ไม่เคยกลับลงไปติดลบเหมือนช่วงปี 2008
- ดัชนีPMI ภาคบริการของอเมริกา ออกมาที่ระดับ 53.5 จุดจากเดือนก่อนหน้า 55.3 จุดเป็นการปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดที่ประมาณ 60 จุดเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน
- มีความเห็นจากสมาชิกของ FED คุณ Dudley ออกไปในทาง Dovish โทนเนื่องจาก กล่าวว่านับตั้งแต่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยมา ตลาดแรงงานและเศรษฐกิจกลับหดตัวลง ตลาดจึงคาดการณ์ว่าไม่น่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มในปีนี้
- ตลาดหุ้นยุโรปทรงตัวเมื่อวานนี้ถึงแม้ราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวขึ้นแรงกว่า 5% เนื่องจากกลุ่มธนาคารคอยกดดันดัชนี ส่วนหนึ่งเพราะ ผลประกอบการไม่เข้าเป้า และ หลายธนาคารมีแผนปรับลดพนักงานลงอีก ส่วนข่าวดีทางฝั่งสินค้าฟุ่มเฟือย เมื่อวานนี้ LVMH (หลุยส์ วิคตอง) ได้ออกมากล่าวว่า ผลประกอบการในไตรมาส 4 ปรับตัวดีขึ้น ได้รับปัจจัยบวกจากฝั่งยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่นมาชดเชยการชะลอตัวลงจากจีน ส่วนประเด็นอื่นๆยังไม่ได้มีอะไรมากนัก
- จีนปรับเป้าตัวเลขการเติบโตให้เป็นช่วงๆเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี (นับจากปี 1995 ) ประเมินไว้ว่าน่าจะขยายตัว 6.5%-7% ในขณะที่รอบก่อนๆหน้าประมาณไว้ที่ 7% และยังให้ความเห็นว่า Downside risk ของเศรษฐกิจในไตรมาสแรกจะยังค่อนข้างเยอะ และมีแผนจะดูดซับกำลังการผลิตส่วนเกินรวมถึงจัดการกับ Zombie companies หรือ ธุรกิจที่ไม่ก่อให้เกิดกำไร ทั้งนี้ตลาดหุ้นจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกง H-share)ปรับตัวกลับขึ้นมาสู่ระดับ 8000 จุด ( เมื่อวานนี้ปรับตัวลดลงหลุด 8000 จุด)
- สต๊อกน้ำมันดิบของอเมริกาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยตามประกาศออกมาเมื่อวานนี้ แต่ราคาน้ำมันดิบก็ยังปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นกว่า 8% ท่ามกลางมุมมองทางบวกต่อการประชุม OPEC และ Non-OPEC ที่มีความหวังว่าอาจจะยังมีการประชุมฉุกเฉินอยู่
- สำหรับข่าวตลาดทองคำ ยังมีมุมบวกอยู่สำหรับเม็ดเงินที่ไหลเข้ากองทุน ETF ทั้งนี้ตลาดกำลังติดตามตัวเลขยอดซื้อทอง Physical ในช่วงตรุษจีนนี้