บทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์วันที่ 3 ก.พ.59
แนวทางทองคำวันที่ 3-2-59
แนวรับ 1123 1115 1111 แนวต้าน 1128 1132 1135
ราคายังคงแกว่งไปมาใต้แนวต้านแถวบริเวณ 1130 + - ยังมองการพักตัวลงมาด้านล่าง ประเมินแนวรับ 1120 ถึงแม้ภาพรวมจะยังอยู่ในแนวโน้มที่ขึ้นชัดเจน แต่ต้องระมัดระวังการปรับฐานหลังจากขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1130 บริเวณนี้เป็นที่อยู่ของเส้นแนวต้านสำคัญ EMA200 ในภาพวัน ตลอดที่ราคาลงมา 3 ปีไม่เคยผ่านระดับนี้ไป จึงคิดว่า ควรติดตามตลาดให้ดีก่อนดีกว่า หากราคากลับขึ้นไปยืน 1135 สวยๆได้ จึงจะเริ่มดีขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ข่าวบวกยังมีสนับสนุนจากเม็ดเงินที่ไหลเข้า ETF
ทางเลือกรอง : ราคาที่หลุด 1135 ขึ้นไปเลย จะมองว่ามีโอกาสปรับตัวขึ้นอีกในระยะกลาง
USD/THB
ตลาดหุ้นไทย ถอยกลับมายังแนวรับบริเวณ 1280-1290 อีกครั้ง ซึ่งระดับนี้ไม่ควรจะหลุดลงไปหากยังอยากเห็นดัชนีรีบาวน์กลับขึ้นไปแถว 1340 หากหลุดลงไปแล้ว ภาพลบจะกลับมาอีกครั้ง สภาพตลาดทั่วโลกยังคงเปราะบางรวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงแรงคอยกดดันดัชนีอยู่ เมื่อวานนี้ค่าเงินบาทรีบาวน์กลับมาอ่อนค่าอย่างแรงเกินกว่าระดับ 35.77 ยาวมาจนถึงแนวต้าน 35.88 วันนี้มองแข็งค่าลงมาเล็กน้อย 35.77 อีกครั้งหนึ่ง
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวลดลงแรง ได้รับปัจจัยลบจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงแรงหลุดระดับ $30/บาร์เรลอีกครั้ง ช่วงก่อนหน้าราคาน้ำมันดิบได้รับข่าวเรื่องรัสเซียที่ออกมากล่าวว่า อาจจะมีการลดกำลังการผลิตลง จากนั้นซาอุดิอาระเบียได้ออกมากล่าวในอีกประมาณ 30 นาทีหลังจากนั้นว่า ไม่ได้มีแผนที่จะลดกำลังการผลิตและยังไม่จำเป็นต้องรีบจัดการประชุมด่วนในเร็วๆนี้ ทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงอีกครั้ง พร้อมทั้งคาดการณ์ว่า Supply และ สต๊อกน้ำมันดิบของอเมริกายังอยู่ในระดับสูงที่สุดนับจากช่วงปี 1990 ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงเพราะ กังวลเรื่องการเติบโต
- Alphabet (บริษัทแม่ของ Google) ได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก แซงหน้า Apple ไปเรียบร้อย (หุ้น Apple ตกลงมาเล็กน้อยจากการชะลอตัวลงของยอดขาย)
- อัตราว่างงานของยุโรปปรับตัวลดลงสู่ระดับ 10.4% ลดลง 0.1% จาก 10.5% ในเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้อัตราว่างงานของยุโรปเคยขึ้นไปทำจุดสูงสุดช่วงวิกฤติปี 2008 ที่ประมาณ 12% ทางฝั่งดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ยังหดตัวต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงเงินเฟ้อในฝั่งของผู้ผลิตในกลุ่มยูโรโซนยังไม่ฟื้นตัวเท่าไรนัก
- ตลาดหุ้นฝั่งยุโรปปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ได้รับปัจจัยลบจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงแรง และช่วงหลังมานี้ตลาดหุ้นยุโรปมีความสัมพันธ์ในทางเดียวกับน้ำมันดิบมาก
- ดัชนี PMI ภาคบริการของจีนปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนที่ 52.4 จุด สวนทางกับภาคการผลิตที่หดตัวลงต่อเนื่อง ทั้งนี้ตลาดหุ้นจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกง (H-Share) ปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่หลุดกว่าระดับ 8000 จุดในวันนี้ (-2.97%) จากทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกที่กังวลเรื่องการเติบโต
- รายงานการประชุม BOJ ในเดือนธันวาคมพบว่า ดอกเบี้ยที่ติดลบนั้นถือเป็นเรื่อง Surprise ตลาดเพราะในเดือนก่อนหน้ายังมองว่าจะมีแค่การปรับจูนเรื่อง QQE เท่านั้น
- ข่าวพาดหัวจากทาง Bloomberg พบว่า เม็ดเงินไหลเข้ากองทุน ETF อ้างอิงในทองคำเร่งตัวขึ้นในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นในก้าวที่ไวที่สุดในรอบปี ETF ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดจะเป็นกองที่ไปลงทุน ETF กองทุนชื่อ SGOL ที่เป็นกองที่ลงทุนในทองคำเหมือนกับกองอื่นๆ แต่มีสิ่งที่แตกต่างคือ เป็นกองที่ลงทุนในทองแท่งที่เก็บไว้ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งนักลงทุนมีความชื่นชอบประเทศนี้เป็นทุนเดิม