บทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์วันที่ 26 ม.ค.59
แนวรับ 1110 1105 1100 แนวต้าน 1115 1125 1130
ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่แนวต้านแรก $1110 มองว่ายังมีแรงปรับตัวขึ้นต่อ แต่ตอนนี้ก็เป็นจุดที่สามารถทยอยลดสถานะได้ โดยมีแนวต้านอีกแนวหนึ่งบริเวณ 1120-1130 ซึ่งมองว่าตรงนั้นเป็นแนวต้านสำคัญมากๆแนวต้านสุดท้ายที่ควรจะลดสถานะฝั่งซื้อ (ถึงแม้ราคาจะสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้อีกก็ตาม) เพื่อความชัวร์ ส่วนข่าวที่มีผลกับทองคำยังคงเหมือนเดิม ทองคำในช่วงต้นปียาวมาจนถึงปีนี้ได้รับแรงบวกจากการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยยามที่อย่างอื่นให้ผลตอบแทนต่ำ
ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1110 ลงมาแรงๆจะทำให้กลายเป็น False break ที่แนวต้านไป ทั้งนี้โอกาสเกิดมองว่าน้อยกว่า
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นอีกเล็กน้อย แต่ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงซึ่งเป็นปัจจัยลบต่อดัชนีโดยรวม ทั้งนี้ยังมองว่า โดยรวมแล้วยังอยู่ในแนวโน้มของการรีบาวน์ปรับตัวสูงขึ้น ค่าเงินบาทเริ่มเห็น Bullish divergent ในรายชั่วโมง มองว่า ระยะสั้นการแข็งค่าจะไม่น่ามากไปกว่านี้เยอะ น่าจะเริ่มอ่อนค่าได้ถึงทรงตัวแนวต้านบริเวณ 36.00
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้กว่า 1% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ นักลงทุนต่างติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่จะทยอยประกาศในท้ายสัปดาห์นี้ และผลการประชุม FOMC ในคืนวันพุธ ซึ่งปัจจุบันตลาดคาดการณ์ว่า ที่ประชุมจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม (หลังจากขึ้นมาแล้วในเดือน ธันวาคม 2015) ในปีนี้สิ่งที่น่าติดตามจากการประชุมแต่ละครั้งคือ ก้าวการขึ้นดอกเบี้ยว่าจะเร็วหรือช้าขนาดไหน
- ถึงแม้ช่วงนี้จะเป็นการประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาสที่ 4 ปีที่แล้ว แต่เบื้องต้นยังไม่มีนัยสำคัญกับการเคลื่อนไหวของดัชนีเท่าไรนัก เบื้องต้นนักวิเคราะห์ประเมินว่า ผลกำไรต่อหุ้นที่จะประกาศอาจจะออกมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ และปัจจุบันอเมริกาเริ่มเผชิญกับอากาศหนาวอีกแล้ว (ทุกต้นปี)
- ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงหลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้ ถึงแม้ในสัปดาห์ก่อนหน้าจะมีการประชุม ECB ที่คุณ ดรากี้กล่าวไปในทำนองที่ว่า มีเครื่องมือที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจรอการใช้งานอยู่ หากอัตราเงินเฟ้อและ เศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะตกต่ำอยู่ ซึ่งตลาดรับข่าวเพียงเล็กน้อย และ ไม่ได้ให้น้ำหนักกับเรื่องดังกล่าวเท่าไร
- German Ifo business climate ที่เป็นตัววัดคล้ายๆกับความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจปรับตัวลดลงเล็กน้อยในเดือนที่ผ่านมา และแนวโน้มโดยรวมยังชะลอตัวลง
- ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มให้กับระบบการเงินล่าสุดเพิ่มอีก 440 ล้านล้านหยวน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับระบบ ขณะที่เพื่อไม่ให้เกิดการผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนจนเกินไป ก่อนที่เข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวตรุษจีน และเพื่อเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจ
- GDP ของรัสเซียหดตัวสูงสุดสู่ระดับ –3.7% จากรอบก่อนหน้าขยายตัว 0.6% ทั้งนี้ยังดีกว่าที่คาดการณ์เล็กน้อยไว้ที่ –3.8%
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้หลังจากขึ้นแรงรอบสองวันกว่า 11% ซึ่งมองว่าเป็นการพักตัวจากการขึ้นแรงเท่านั้น ส่วนข่าวที่ใช้ประกอบ คือ การที่อิรักเพิ่ม Supply ของโลกขึ้นไปอีกในเดือน ธันวาคม ( Oil production เพิ่มสู่ระดับสูงสุด)
- เป้าราคาทองคำเฉลี่ยปีนี้ CNBC ประเมินไว้ว่าจะอยู่ที่ประมาณ $1118 ซึ่งเป็นระดับเฉลี่ยที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009