บทวิเคราะห์

บทวิเคราะห์ประจำวันที่ 23 มิ.ย.57
แนวทางทองคำวันที่ 23-6-57
เเนวรับ 1308 1305 1300 เเนวต้าน 1315 1320 1330
ทองคำยังไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนมากนัก ยังมองในมุมของการปรับตัวขึ้นต่อ และในวันนี้มองพักตัวลงมาหน่อย หลังจากพักแนวโน้มนั้นจะกลับขึ้นต่อตามแนวโน้มเดิม โดยมีแนวรับ 1305 แนวต้าน 1320 มีที่น่าสังเกตุคือ ในภาพวัน ส่งสัญญาณ Overbought หรือซื้อมากเกินไป ซึ่งการใช้ Indicator ประเภทนี้นั้นมีอยู่ 2 แบบ คือ ถ้าแนวโน้มแข็งแรงนั้น การปรับตัวขึ้นมาอยู่ในโซนนี้จะหมายถึง การขึ้นของราคาอย่างรุนแรง แต่ถ้าแนวโน้มไม่แข็งแรง มักจะเป็นสัญญาณเตือนว่า หมดรอบ ซึ่งมาดูตอนนี้ยังมองแนวโน้มทางฝั่งแข็งแรงอยู่ เพราะ ไม่เห็นสัญญาณกลับตัวจากแท่งเทียนที่มีนัยสำคัญ
ต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 9 ต่อเนื่องกันอีก 365 ล้านบาท และไป Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก 2,010 สัญญา ค่าเงินบาททิศทางค่อนไปทางแข็งค่าเล็กน้อย แต่มองว่าไม่ได้มีนัยบสำคัญเท่าไรนัก ยังคงแกว่งตัวเป็นแบบ Sideways รอทิศทางที่ชัดเจน ส่วนตลาดหุ้นไทย SET50 ก็เช่นกันยังแกว่งตัวไปมา โดยมีแนวต้าสำคัญ บริเวณ 993 มุมมองยังคงเป็นในทางบวก
ภาพ DAY : เกิดเป็นแท่งเทียนพักตัวหลังจากแท่งเทียน Bullish มองว่า เป็นการชะลอการขึ้นเท่านั้น มุมมองยังคงเป็นบวก แต่น่าจะปรับตัวขึ้นสูงจากนี้ไปได้อีก โดยมีตัวที่น่าสังเกตุ คือ Indicator ประเถทวัดการแกว่ง เช่น MFI RSI ได้ส่งสัญญาณ Overbought หรือซื้อมากเกินไป ตามปกติ ถ้าแนวโน้มแข็งแรงจริง การปิดระดับนี้จะทำให้ราคาวิ่งต่อไปค่อนข้างแรง แต่ถ้าแนวโน้มไม่แข็งแรง จะเป็นการส่งสัญญาณว่า ใกล้จะปรับตัวลดลงแล้ว ต้องมาดูว่า จะมีสัญญาณกลับตัวหรือไม่
ภาพ H4 : เริ่มส่งสัญญาณพักตัวลงมาด้านล่างเล็กน้อย แต่ก็ดูเหมือนจะเป็น Sideways มากกว่า
ภาพ H1 : ราคายังคงแกว่งตัวในกรอบสามเหลี่ยม 1306-1320 มองว่า หลังจากพักตัวแล้วแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นต่อ
รายละเอียด
- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวสูงขึ้น โดย S&P500 ที่เป็นตัววัดดัชนีหุ้นของอเมริกา 500 ตัว ปรับตัวขึ้นสูงและไปทำระดับ New-high ไปในทิศทางเดียวกันกับ DOW30 หรือ ดาวโจนส์ ทั้งนี้ดัชนีดาวโจนส์ยังคงไม่ทำจุดสูงสุดใหม่ โดยมีปัจจัยบวกมาจากอุตสาหกรรม Semiconductor (สารกึ่งตัวนำ)ที่มองกันว่า จะเติบโตไปตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และอีกปัจจัหลักคือ การประชุม FED ที่ออกมาค่อนข้างไปในทางสาย Dovish หรือหงส์ที่เป็นตัวแทนของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งคือ อัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ในระดับต่ำไปอีกไปจนถึงปีหน้า ยังไม่ต้องกังวลเรื่องดอกเบี้ยที่จะขึ้นถึงแม้จะมีการลดวงเงิน QE จนหมดภายในปีนี้ก็ตาม การที่ตลาดรับข่าวทางบวกนั้น เนื่องจากการขึ้นดอกเบี้ยจะส่งผลให้แนวโน้ม EPS หรือกำไรต่อหุ้นของบริษัทจดทะเบียนลดลง เพราะ ดอกเบี้ยเป็นต้นทุนของบริษัท ถ้าดอกเบี้ยขึ้น บริษัทก็มีต้นทุนที่เยอะขึ้น แต่ถ้ามองกันในระยะยาวแล้ว ดอกเบี้ยที่ขึ้นนั้นหมายถึง เศรษฐกิจที่ขยายตัวขึ้นด้วย และเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นตาม สุดท้ายแล้ว บริษัทก็จะสามารถขึ้นราคาสินค้าเพื่อไปชดเชยได้ นั่นหมายถึง ตลาดหุ้นจะเป็นแหล่งพักเงินที่น่าสนใจในระยะยาว
- ทองคำยังคงได้รับปัจจัยสนับสนุนจากสถานการณ์ทั้งจากยูเครนและอิรัก ซึ่งเป็นความตึงเครียดที่ยังไม่จบ และ ยังไม่มีท่าทีจะบรรเทาลงสำหรับเหตุการณ์ในอิรัก ล่าสุดกลุ่มกบฎไอซิสได้บุกยึดเมืองด้านตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงแบกแดดได้อีก 2 เมือง ทำให้เป็นตัวสนับสนุนราคาทองคำ และ ไปทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นโดยตรง เนื่องจากอิรักถือเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับที่ 2 ของโลก โดยมีกำลังการผลิตระดับ 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- ทองคำสำรองของรัสเซียเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 34.7 ล้านทรอยออนซ์ในเดือนพฤษภาคม จากเดิม 34.4 ในเดือนเมษายน อ้างอิงมาจากเว็บไซต์ธนาคารกลางของรัสเซียในวันศุกร์ที่ผ่านมา
- Hedge fund and money managers เพิ่มสถานะ Bullish bet ในทองคำ สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากราคาปรับตัวสูงขึ้น ข้อมูลอ้างอิงจาก CFTC
- กิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน โดยดัชนี PMI ออกมาที่ระดับ 50.8 จากเดือนก่อนหน้าที่ 49.4 และระดับที่เกินกว่า 50 บ่งบอกถึงการขยายตัว
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.45 USD

Flash manufacturing PMI 56.1 56.4
21.00 USD
Existing Home Sales 4.74M 4.65M
เเนวรับ 1308 1305 1300 เเนวต้าน 1315 1320 1330
ทองคำยังไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนมากนัก ยังมองในมุมของการปรับตัวขึ้นต่อ และในวันนี้มองพักตัวลงมาหน่อย หลังจากพักแนวโน้มนั้นจะกลับขึ้นต่อตามแนวโน้มเดิม โดยมีแนวรับ 1305 แนวต้าน 1320 มีที่น่าสังเกตุคือ ในภาพวัน ส่งสัญญาณ Overbought หรือซื้อมากเกินไป ซึ่งการใช้ Indicator ประเภทนี้นั้นมีอยู่ 2 แบบ คือ ถ้าแนวโน้มแข็งแรงนั้น การปรับตัวขึ้นมาอยู่ในโซนนี้จะหมายถึง การขึ้นของราคาอย่างรุนแรง แต่ถ้าแนวโน้มไม่แข็งแรง มักจะเป็นสัญญาณเตือนว่า หมดรอบ ซึ่งมาดูตอนนี้ยังมองแนวโน้มทางฝั่งแข็งแรงอยู่ เพราะ ไม่เห็นสัญญาณกลับตัวจากแท่งเทียนที่มีนัยสำคัญ
ต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 9 ต่อเนื่องกันอีก 365 ล้านบาท และไป Short สุทธิในฟิวเจอร์อีก 2,010 สัญญา ค่าเงินบาททิศทางค่อนไปทางแข็งค่าเล็กน้อย แต่มองว่าไม่ได้มีนัยบสำคัญเท่าไรนัก ยังคงแกว่งตัวเป็นแบบ Sideways รอทิศทางที่ชัดเจน ส่วนตลาดหุ้นไทย SET50 ก็เช่นกันยังแกว่งตัวไปมา โดยมีแนวต้าสำคัญ บริเวณ 993 มุมมองยังคงเป็นในทางบวก
ภาพ DAY : เกิดเป็นแท่งเทียนพักตัวหลังจากแท่งเทียน Bullish มองว่า เป็นการชะลอการขึ้นเท่านั้น มุมมองยังคงเป็นบวก แต่น่าจะปรับตัวขึ้นสูงจากนี้ไปได้อีก โดยมีตัวที่น่าสังเกตุ คือ Indicator ประเถทวัดการแกว่ง เช่น MFI RSI ได้ส่งสัญญาณ Overbought หรือซื้อมากเกินไป ตามปกติ ถ้าแนวโน้มแข็งแรงจริง การปิดระดับนี้จะทำให้ราคาวิ่งต่อไปค่อนข้างแรง แต่ถ้าแนวโน้มไม่แข็งแรง จะเป็นการส่งสัญญาณว่า ใกล้จะปรับตัวลดลงแล้ว ต้องมาดูว่า จะมีสัญญาณกลับตัวหรือไม่
ภาพ H4 : เริ่มส่งสัญญาณพักตัวลงมาด้านล่างเล็กน้อย แต่ก็ดูเหมือนจะเป็น Sideways มากกว่า
ภาพ H1 : ราคายังคงแกว่งตัวในกรอบสามเหลี่ยม 1306-1320 มองว่า หลังจากพักตัวแล้วแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นต่อ
รายละเอียด
- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวสูงขึ้น โดย S&P500 ที่เป็นตัววัดดัชนีหุ้นของอเมริกา 500 ตัว ปรับตัวขึ้นสูงและไปทำระดับ New-high ไปในทิศทางเดียวกันกับ DOW30 หรือ ดาวโจนส์ ทั้งนี้ดัชนีดาวโจนส์ยังคงไม่ทำจุดสูงสุดใหม่ โดยมีปัจจัยบวกมาจากอุตสาหกรรม Semiconductor (สารกึ่งตัวนำ)ที่มองกันว่า จะเติบโตไปตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และอีกปัจจัหลักคือ การประชุม FED ที่ออกมาค่อนข้างไปในทางสาย Dovish หรือหงส์ที่เป็นตัวแทนของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งคือ อัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ในระดับต่ำไปอีกไปจนถึงปีหน้า ยังไม่ต้องกังวลเรื่องดอกเบี้ยที่จะขึ้นถึงแม้จะมีการลดวงเงิน QE จนหมดภายในปีนี้ก็ตาม การที่ตลาดรับข่าวทางบวกนั้น เนื่องจากการขึ้นดอกเบี้ยจะส่งผลให้แนวโน้ม EPS หรือกำไรต่อหุ้นของบริษัทจดทะเบียนลดลง เพราะ ดอกเบี้ยเป็นต้นทุนของบริษัท ถ้าดอกเบี้ยขึ้น บริษัทก็มีต้นทุนที่เยอะขึ้น แต่ถ้ามองกันในระยะยาวแล้ว ดอกเบี้ยที่ขึ้นนั้นหมายถึง เศรษฐกิจที่ขยายตัวขึ้นด้วย และเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นตาม สุดท้ายแล้ว บริษัทก็จะสามารถขึ้นราคาสินค้าเพื่อไปชดเชยได้ นั่นหมายถึง ตลาดหุ้นจะเป็นแหล่งพักเงินที่น่าสนใจในระยะยาว
- ทองคำยังคงได้รับปัจจัยสนับสนุนจากสถานการณ์ทั้งจากยูเครนและอิรัก ซึ่งเป็นความตึงเครียดที่ยังไม่จบ และ ยังไม่มีท่าทีจะบรรเทาลงสำหรับเหตุการณ์ในอิรัก ล่าสุดกลุ่มกบฎไอซิสได้บุกยึดเมืองด้านตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงแบกแดดได้อีก 2 เมือง ทำให้เป็นตัวสนับสนุนราคาทองคำ และ ไปทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นโดยตรง เนื่องจากอิรักถือเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับที่ 2 ของโลก โดยมีกำลังการผลิตระดับ 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- ทองคำสำรองของรัสเซียเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 34.7 ล้านทรอยออนซ์ในเดือนพฤษภาคม จากเดิม 34.4 ในเดือนเมษายน อ้างอิงมาจากเว็บไซต์ธนาคารกลางของรัสเซียในวันศุกร์ที่ผ่านมา
- Hedge fund and money managers เพิ่มสถานะ Bullish bet ในทองคำ สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากราคาปรับตัวสูงขึ้น ข้อมูลอ้างอิงจาก CFTC
- กิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน โดยดัชนี PMI ออกมาที่ระดับ 50.8 จากเดือนก่อนหน้าที่ 49.4 และระดับที่เกินกว่า 50 บ่งบอกถึงการขยายตัว
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19.45 USD

Flash manufacturing PMI 56.1 56.4
21.00 USD
Existing Home Sales 4.74M 4.65M