บทวิเคราะห์

ย้อนกลับ

บทวิเคราะห์วันที่ 18 ม.ค.59

แนวรับ 1086 1080 1075 แนวต้าน 1096 1100 1110

ทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในวันศุกร์ได้รับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวลดลงแรง และหลุดจากเส้นแนวโน้มขาลงระยะสั้นออกมาได้ แนวต้านระยะสั้นวันนี้จะอยู่บริเวณ 1096 ภาพรวมรายสัปดาห์ยังมีมุมมองเชิงบวกอยู่เล็กน้อย แต่โดยรวมแล้ว ยังมีมุมมองที่แกว่งตัวออกข้างในภาพรวม แต่เป็นการแกว่งข้างแบบชะลอการลงหรือค่อยๆปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ในวันนี้จะเป็นวันหยุด มาร์ติน ลูเธอร์ คิง ระบบจะปิดทำการตั้งแต่เวลา 21.00 เป็นต้นไป

 
 

USD/THB

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงแรงช่วงเปิดตลาด และเปิด GAP ทิ้งไว้ มุมมองโดยรวมแล้วยังเป็นลบ คาดหวังการรีบาวน์ระยะสั้น ทั้งนี้แนวรับสำคัญมากๆของดัชนีจะอยู่บริเวณ 1215-1225 หากหลุดจากนี้ไปไม่ดี แนวโน้มเสียทรงลงไปยังระดับ 1100 ถึงต่ำกว่า ดัชนีได้รับดดรงกดดันจากตลาดหุ้นทั่วโลกที่ยังเสียทรงไปตามๆกัน ส่วนทิศทางค่าเงินบาทยังให้น้ำหนักทางแข็งค่าลงมาเล็กน้อย โดยรวมแล้วยังทรงตัว

ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ

- ยอดค้าปลีกของอเมริกาออกมาที่ระดับ –0.1% เท่ากับคาดการณ์ ในขณะที่เดือนก่อนหน้าอยู่ระดับ 0.4% ฝั่งตัวเลขค้าปลีกหมวดไม่รวมสินค้าประเภทยานพาหนะปรับตัวลดลงสู่ระดับ –0.1% เช่นเดียวกัน จากคาดการณ์ 0.2% และเดือนก่อนหน้า 0.3% โดยรวมแล้วตัวเลขออกมาไม่ดี เป็นการหดตัวลงติดลบครั้งแรกในรอบ 5 เดือน

- ตัวเลขอัตราการใช้กำลังการผลิตปรับตัวลดลงสู่ระดับ 76.5% เป็นการปรับตัวลดลงเดือนที่ 14 ติดต่อกัน จากระดับสูงสุดที่ 80% ส่วนผลผลิตสินค้าอุตสาหกรรมปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังคงปรับตัวขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 93.3 จากเดือนก่อนหน้า 92.6 โดยรวมแล้วเศรษฐกิจอเมริกาโดยเฉพาะภาคการผลิตส่งสัญญาณชะลอตัวลงทั้งหมดเมื่อเทียบกับช่วงปีก่อนๆ

- ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยลบจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงแรง ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง 3.4% ส่งผลให้เมื่อวัดจากจุดสูงสุดดัชนีหุ้นของยุโรปปรับตัวลดลงเกินกว่า 20% แล้ว และการปรับตัวลดลงระดับนี้ได้เข้าสู่ภาวะการพักฐาน (Correction) เรียบร้อย เป็นตัวกดดันมุมมองของตลาดหุ้นทั่วโลก

- ในสัปดาห์นี้จะมีการประชุม ECB นักวิเคราะห์ต่างคาดหวังที่จะเห็นมาตรการที่เพิ่มกว่านี้ ปัจจุบันเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเล็กน้อยท่ามกลางการเติบโตที่ชะลอตัวลง

- ในเช้าของวันพรุ่งนี้จะมีประกาศตัวเลข GDP ของจีน ซึ่งคาดการณ์กันว่าจะออกมาที่ระดับ 6.9% และเป็นระดับเฉลี่ยที่เท่ากันทั้งปีของปีที่แล้ว หากตัวเลขออกมาแย่กว่าที่คาดการณืตลาดก็จะคาดหวังถึงมาตรการทั้งด้านการเงินและการคลังในอนาคต ทั้งนี้ปัจจุบันจีนมีปัญหาเรื่องภาวะเงินฝืด (Deflation) เช่นเดียวกับยุโรป

- ยอดสินเชื่อใหม่ของจีนทรงตัวถึงปรับตัวลดลงเล็กน้อย ทั้งนี้สินเชื่อดังกล่าวไม่ใช่ของธนาคารพาณิชย์แต่เป็นส่วนของหุ้นกู้พวกShadow banking และสินเชื่อตลาดทุน 

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงสู่ระดับ $28-29/บาร์เรล เป็นผลมาจากอิหร่านที่เมื่อก่อนถูกคว่ำบาตรจากตะวันตกเนื่องจากมีการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ ปัจจุบันได้ถูกยกเลิกการคว่ำบาตรแล้ว และสามารถส่งออกน้ำมันดิบขายได้โดยไม่กำหนดจำนวนไว้

- ข้อมูลจาก CFCT เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า กองทุนได้เพิ่มสถานะ Bullish bet ในทองคำเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน นอกจากนี้ยังเพิ่มสถานะในซิลเวอร์