บทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์วันที่ 14 ม.ค.59
แนวทางทองคำวันที่ 14-1-59
แนวรับ 1090 1088 1085 แนวต้าน 1095 1100 1105
ราคาทองคำได้รับปัจจัยบวกอีกครั้งหลังจากมองว่าตลาดหุ้นที่เริ่มรีบาวน์นั้นหมดแรงรีบาวน์ ขึ้นได้เพียงวันเดียว ล่าสุดดัชนีหุ้นของอเมริกาเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค (ปรับตัวลดลงเกินกว่า 20%) ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงจึงทำให้ฝั่งพื้นฐานของราคาทองคำนั้นถูกได้รับปัจจัยบวกและลบไปในทางเดียวกัน ซึ่งภาพรวมแล้วทางบวกยังมีน้ำหนักมากกว่า รวมถึงกราฟก็ส่งมาทางบวก แนวต้านระยะสั้น 1095 แนวรับบริเวณ 1090
ทางเลือกรอง : ราคาเริ่มส่งมาทางบวกมากขึ้น ทั้งนี้โดยรวมแล้วยังต้องตั้งจุดตัดขาดทุนไว้ที่ 1090—ต่ำกว่าเล็กน้อย เนื่องจากความผันผวนในช่วงนี้นั้นเพิ่มขึ้น
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวขึ้นแรงเมื่อวานนี้ ต้องติดตามว่า มุมมองทางลบที่ส่งมาจากตลาดหุ้นทั่วโลกจะกระทบไปในทางไหนต้องติดตาม แต่คิดว่าน่าจะไม่น่ารอด ซึ่งแนวโน้มนั้นยังลุ้นดูที่จุดต่ำสุดเดิมว่าจะหลุดหรือไม่ ส่วนทิศทางค่าเงินบาทยังคงทรงตัวยังขาดปัจจัยอะไรใหม่ๆเข้ามา แนวรับที่เปิด GAP ไว้จะอยู่บริเวณ 36.00-36.05
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวลดลงแรงกว่า 365 จุด ส่วน S&P500 ปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1900 จุดเป็นครั้งแรก (-2.5%) นอกจากนี้ดัชนี Russell 2000 ซึ่งเป็นตัววัดหุ้นอเมริกาในปริมาณที่มากขึ้น คือ 2,000 ตัว ซึ่งสะท้อนตลาดหุ้นโดยรวมได้ดีปรับตัวลดลงแรงเกินกว่า 20% นับจากจุดสูงสุด ซึ่งการปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดเกินกว่า 20% นั้นหมายความว่า ตลาดนั้นจะเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค สาเหตุหลักที่ดัชนีไม่สามารถปรับตัวขึ้นสูงได้นั้นเป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบที่ระหว่างวันพยายามปรับตัวสูงขึ้นไปกว่า 4% แต่ก็ได้พบแรงขายใส่ลงมาอย่างต่อเนื่อง และ ไม่สามารถรักษาช่วงบวกได้
- ประธาน FED สาขา Chicago คุณ Charles Evans ให้ความเห็นว่า ที่ประชุม FOMC ควรจะขึ้นในปีนี้เพียง 2-3 ครั้ง
- เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจของทาง EU มีน้อยช่วงนี้จึงไม่ค่อยมีผลอะไรเท่าไรนักกับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ แต่ทั้งนี้ตลาดหุ้นยุโรปยังปรับตัวลดลงต่อท่ามกลางการอ่อนตัวของน้ำมันดิบเช่นเดียวกับตลาดหุ้นฝั่งอเมริกา
- รายงาน Beige book พบว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังแข็งแกร่งทั้งหมวดที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ ส่วนการใช้จ่ายผู้บริโภคทรงตัว ฝั่งการจ้างงานภาคเกษตรเป็นตัวที่กดดันเศรษฐกิจอยู่ เนื่องจากปัญหาภัยธรรมชาติ ทั้งนี้เงินเฟ้อยังทรงตัวระดับต่ำ
- ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงานของญี่ปุ่นปรับตัวลดลง –14.4% ในเดือนพฤศจิกายน ส่งผลให้ตลาดหุ้น Nikkei 225 หลังจากปรับตัวขึ้นเมื่อวานกว่า -2.88% ได้ปรับตัวลดลงมาในวันนี้กว่า 3.86% และกดดันดัชนีหุ้นของเอเชียทั่วภูมิภาคในฝั่งจีนนั้นถึงแม้จะมีการแทกแซงเงินหยวนให้แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเพื่อสร้างเสถียรภาพแต่ล่าสุดดัชนีปรับตัวลดลงไปใกล้ระดับต่ำสุดที่สร้างไว้ในปีที่แล้ว
- สต๊อกน้ำมันดิบของอเมริกาปรับตัวสูงขึ้นต่ออีก 234,000 ล้านบาร์เรล โดยเฉพาะน้ำมันเบนซินที่มีการสต๊อกไว้เยอะกว่าปกติ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบล้างช่วงบวกกว่า 4% และเริ่มปรับตัวลดลงอีกครั้ง ล่าสุดซื้อ-ขายกันที่ระดับ $30-31/บาร์เรล
- ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเมื่อวานนี้หลังจากระหว่างชั่วโมงการซื้อขายปรับตัวลดลงไปเล็กน้อยสู่ระดับ $1080 ท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้น