บทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์วันที่ 12 ม.ค.59
แนวทางทองคำวันที่ 12-1-59
แนวรับ 1092 1087 1083 แนวต้าน 1098 1108 1113
ราคาปรับตัวลดลงมาถึงระดับแนวรับ 1092 และยังไม่หลุดลง ซึ่งเมื่อวานมองว่า หากหลุดลงไปแล้วจะทำให้ขาขึ้นระยะสั้นเสียไปเล็กน้อย จึงใช้จุดตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1090-1092 แถวนี้สำหรับการเก็งกำไรระยะสั้น ส่วนภาพรวมทองคำถึงแม้จะหลุดเกิน 1092 ลงมา แต่แนวโน้มโดยรวมจะพิจารณาสำหรับการเข้าซื้ออีกครั้งในแนวรับถัดไปหากราคายังปรับตัวลดลง แนวรับทีน่าสนใจคือ 1085 ซึ่งขณะนี้ยังไม่หลุด 1092 ก็ยังมองขึ้นไปอยู่ในกรอบจนถึงแนวต้าน 1113
USD/THB
เมื่อวานดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงแรงระหว่างชั่วโมงการซื้อ-ขาย ก่อนที่จะปรับตัวรีบาวน์มาปิดลดช่วงลบลง ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณบวกเข้ามาในระยะสั้นสำหรับ SET Index และคาดหวังถึงมุมมองการรีบาวน์ เพียงแต่ให้ระมัดระวังกลุ่มพลังงานให้ดีเมื่อวานนี้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงกว่า 6% นอกจากนี้มีรายงาน World bank ให้ความเห็นว่า เศรษฐกิจไทยจะเติบโตช้าสุดในกลุ่มอาเซียน
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวผันผวนอยู่ในกรอบ หลังจากขาดปัจจัยบวกอะไรใหม่ๆที่เข้ามา นอกจากนั้นยังโดนซ้ำจากปัญหาเรื่องการตกต่ำของสินค้าโภคภัณฑ์ หลังจากล่าสุดราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงแรงอีกกว่า 6% นักวิเคราะห์ประเมินว่า ตอนนี้คนในตลาดต่างกำลังหาจุดต่ำสุดของดัชนี (Finding a bottom) ทั้งนี้ Goldman sachs คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นยุโรปในปีนี้จะน่าสนใจกว่าอเมริกา และมองว่า การตกของตลาดหุ้นในอนาคตจะเป็นโอกาสที่ดีในการซื้อลงทุน
- วันนี้จะมีการประกาศ JOLTS job openings ซึ่งเป็นตัวเลขที่บริษัทเปิดรับสมัครงาน (ไม่รวมหมวด Farming industry) เพียงแต่ช่วง 3 เดือนมานี้หลังจากขึ้นไปทำจุดสูงสุดเมื่อปีที่แล้วก็ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง (บริษัทเปิดรับสมัครงานน้อยลง)
- จากข่าวด้านบนที่ Goldman sachs ให้ความเห็นว่า ตลาดหุ้นยุโรปจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าอเมริกาเนื่องจากดัชนีปัจจุบันมูลค่ายังถูกกว่าอเมริกาเนื่องจาก กำไรของบริษัทจดทะเบียนที่เติบโตขึ้น โดยประเมินไว้ว่าดัชนี Stoxx600 มี Upside 18% สำหรับ 12 เดือนข้างหน้า (มากกว่าตลาดหุ้นอเมริกาประมาณ 2 เท่า) นอกจากนี้คาดการณ์ว่า กำไรของบริษัทจดทะเบียนจะขยายตัว 8% ในขณะที่โบรกอื่นประเมินไว้ที่ประมาณ 5.7% ทั้งนี้ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวานนี้เริ่มปรับตัวขึ้นเล็กน้อยหลังจากปรับตัวลดลงแรงตลอดทาง
- นักวิเคราห์ต่างคาดการณ์ว่า ในปีนี้ GDP ของจีนน่าจะออกมาที่ระดับต่ำกว่า 6.8% หลังจากช่วงปี 2015 ประเมินไว้ว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวได้ 6.9%-7%
- ทางการจีนให้ความเห็นว่า การอ่อนค่าของเงินหยวนแรงๆในอนาคตอย่างที่ตลาดคาดการณ์กันนั้นเป็นสิ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้นน้อย ส่วนผู้นำจีนยืนยันว่าจะยังไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นนี้
- หลังจากเปิดปีใหม่ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงกว่า 20% ล่าสุดเมื่อวานนี้ WTI ปรับตัวลดลงประมาณ 6% มาซื้อ-ขายกันที่ระดับ $31-32/ บาร์เรล จากการคาดการณ์ว่าความต้องการน้ำมันดิบจะชะลอตัวลงไปอีกนอกจากนั้นสถานะ Short สะสมของกองทุน Hedge fund ยังอยู่ในปริมาณที่มาก
- ทองคำทรงตัวเมื่อวานนี้หลังจากไม่มีปัจจัยอะไรใหม่ๆเข้ามา
- ตัวเลขดุลการค้าของญี่ปุ่นออกมาเกินดุลเป็นเดือนที่ 17 ติดต่อกัน