บทวิเคราะห์

ย้อนกลับ

บทวิเคราะห์วันที่ 11 ม.ค.59

 

แนวรับ 1098 1090 1087 แนวต้าน 1109 1113 1125

ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาปรับตัวดีขึ้นมากส่วนอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5% ซึ่งจริงๆแล้วเป็นปัจจัยลบกับราคาทองคำ แต่ทองคำกลับไม่ได้ปรับตัวลดลงมากนัก และยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง แนวต้านระยะสั้นจะอยู่บริเวณ 1112-1115 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิมที่เคยทำไว้ในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว โดยปัจจัยบวกในช่วงนี้มาจากการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งหากรีบาวน์ขึ้นมาจึงคาดว่าจะเริ่มเห็นแรงขายออกมาจากตลาดทองคำ (ช่วงนี้ยังไม่มี)

ทางเลือกรอง : ราคาหลุด 1092 ลงมาจะทำให้เป็นภาพลบทันทีในระยะสั้น ซึ่งโอกาสเกิดทางนี้ยังมองว่าน้อย

USD/THB

ตลาดหุ้นไทยรีบาวน์ขึ้นมาเล็กน้อยในวันศุกร์ แต่เนื่องจากมาเจอสภาพตลาดจีนที่เปิดขึ้นมาแล้วปิดลบรุนแรงเช่นนี้มองว่าน่าจะไม่น่ารอดเช่นเคย (เปิดตลาดติดลบเกือบ 1%) แนวรับสุดท้ายอยู่บริเวณ 1215 ซึ่งหลุดจากจุดนี้ไปมองว่าจะเปิดช่องว่างให้ดัชนีไหลลงไปอีก ซึ่งหากหลุด 1215 จริงมีแนวโน้มจะเกิดเป็นรูปแบบ Double bottom แต่ระยะสั้นเริ่มเห็น Bullish divergent ในรายชั่วโมง จึงอาจจะมีการลุ้นรีบาวน์ได้ในระยะสั้น

ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ

- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm payroll : NFP) ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 292K จากเดือนก่อนหน้า 252K และคาดการณ์ 203K เป็นการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นกว่าทั้งเดือนก่อนหน้าและคาดการณ์ และปรับตัวเข้าใกล้ระดับสูงสุดที่เคยทำไว้ในช่วงเดือน ธันวาคม 2014 ที่ระดับประมาณ 320K ส่วนอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5%เท่ากับเดือนก่อนหน้า (ในปีนี้ FED คาดว่าอัตราว่างงานจะปรับตัวลดลงชะลอตัวลงจากปีที่แล้ว คาดว่าจะอยู่ระดับ 4.7% ภายในปีนี้) ทั้งนี้รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงกลับไม่ขยายตัว (0%) ทั้งนี้โดยรวมแล้ว ทิศทางของตลาดแรงงานเปิดมาต้นปียังพบว่าใช้ได้

- ตลาดหุ้นของอเมริกาทั้ง DOW30 ,SP500, NASDAQ ต่างปรับตัวลดลงทุกตลาดจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจจีนที่ยังคอยกดดัน Sentiment หุ้นทั่วโลก

- ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับปัจจัยลบเช่นเดิมจากทั้งราคาน้ำมันดิบและความผันผวนของตลาดหุ้นจีน ส่งผลให้ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงแรงกว่า 6.6% ส่วนตลาดหุ้นเยอรมันปรับตัวลดลงกว่า 8.3% เทียบกับการปรับตัวลดลงครั้งที่แรงที่สุดเมื่อเดือน สิงหาคม 2011 ที่ปรับตัวลดลง 8.63%

- ที่ประชุม EU มีแผนที่จะเริ่มดำเนินมาตรการสร้างกำแพงภาษีสินค้าที่จะนำเข้ามาจากจีน โดยจะหารือวันแรกในอีก 2 วัน (13 ม.ค.) สินค้าเหล่านั้นเช่น เหล็ก

- ตลาดหุ้นจีนในวันศุกร์เป็นวันแรกที่มีการยกเลิกมาตรการ Circuit breaker ตลาดหุ้นปิดบวกประมาณ 1.8% ก่อนที่เช้าวันนี้จะสร้างจุดต่ำสุดใหม่ปรับตัวลดลงประมาณ 3% (H-share) ส่วนข่าวล่าสุด PBOC ประกาศแข็งค่าเงินหยวนขึ้นอีกเล็กน้อยสู่ระดับ 6.5626 จากเดิม 6.5636 แต่ก็ไม่ได้ส่งผลให้เกิด Sentiment ทางบวกแก่นักลงทุน ทั้งนี้มีความเห็นจาก George Soros ว่าวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหม่น่าจะมีจุดเริ่มต้นมาจากประเทศจีน หลังจากทุนสำรองลดลงอย่างเรื่อยๆ (ถึงแม้จะมีมากก็ตาม)

- ราคาน้ำมันดิบยังปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดซื้อ-ขายกันอยู่ระดับ $32-33/ บาร์เรลถึงแม้จะยังไม่มีข่าวบวกหรือข่าวลบแรงๆมาในช่วงนี้

- SPDR ปรับเพิ่มการถือครองทองคำอีก 4.2 ตัน นับจากต้นปีที่ผ่านมาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นกว่า 4% ท่ามกลางความผันผวนจองตลาดการเงินทั่วโลกนำโดยจีน