บทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์วันที่ 7 ม.ค.59
แนวทางทองคำวันที่ 7-1-59
แนวรับ 1095 1090 1082 แนวต้าน 1100 1110 1125
ทองคำได้รับปัจจัยบวกจากการที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงแรงโดยเฉพาะจีนที่ในช่วงสัปดาห์นี้มีการทำ Circuit breaker ถึง 2 ครั้ง (ครั้งที่ 2 ในวันนี้ ) และคาดว่าความผันผวนที่หนักนี้จะทำให้เงินส่วนหนึ่งไหลเข้าไปยังทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่เป็นการหลบความผันผวนของตลาดการเงิน ส่วนแนวต้านระยะสั้น 1100 มองว่า จะชะลอตรงนี้สักพักหนึ่ง ยังให้น้ำหนักแนวต้านสุดท้ายที่ระดับ 1125 ซึ่งบริเวณนั้นน่าจะทยอยลดสถานะซื้อลง เนื่องจากเป็นแนวต้านสำคัญมาก
ทางเลือกรอง : ระดับ 1125 นั้นหากราคาไปถึงมองว่าสำคัญเนื่องจากเป็นเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันในภาพวัน ตลอดเวลาที่ลงมานับตั้งแต่ปี 2012 ราคาขึ้นไปทดสอบถึง 5 ครั้งและไม่เคย
ผ่านไปได้
USD/THB
ตลาดหุ้นไทยยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องถึงแม้เมื่อวานนี่จะเริ่มเห็นปัจจัยบวกจากกาที่ราคาลงแนวรับและรีบาวน์ขึ้นมา ซึ่งควรจะเป็นปัจจัยบวกระยะสั้นหากไม่มีเหตุการณ์พิเศษในวันนี้คือ จีนที่มีการทำ Circuit breaker เป็นครั้งที่ 2 ในระยะเพียงสัปดาห์เดียว ซึ่งดัชนีปรับตัวลดลงแรงในวันนี้ -7% ทำให้ทิศทางของหุ้นไทยได้รับผลกระทบเชิงลบนี้เข้าไปด้วย ส่งผลให้เกิดเงินไหลออกและค่าเงินบาทอ่อนซึ่งมองว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (ADP Non-farm employment change) ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงสู่ระดับ 257K จากเดือนก่อนหน้า 211K และคาดการณ์ 193K เป็นระดับสูงสุดในรอบ 17 เดือน (เกือบ 1 ปีครึ่ง) ทั้งนี้ราคาทองคำกลับปรับตัวลดลงไม่มากนัก ระหว่างข่าวออกลงไปทดสอบระดับ 1080 ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามา
- ประธาน FED หลายท่านยังให้ความเห็นว่า อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้ ถึงแม้จะยังมีความไม่แน่นอนที่เงินเฟ้อจะเพิ่มมากขึ้นก็ตาม โดยรวมแล้วคาดว่าทิศทางอัตราดอกเบี้ยจะสามารถปรับขึ้นได้ต่ออีกในปีนี้
- ดุลการค้าอเมริกาขาดดุลน้อยกว่าคาดการณ์เป็นผลมาจากการนำเข้าที่หดตัวแรงกกว่าการส่งออก ส่วน PMI ภาคบริการปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อวานนี้
- ดัชนี PMI ภาคบริการของเยอรมันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 17 เดือน ที่ระดับ 56 จุด แต่ทั้งนี้ตลาดหุ้นทางฝั่งยุโรปยังปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ข่าวดีในยุโรปจะออกมาค่อนข้างเยอะไม่ว่าจะเป็นผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่เติบโตแซงหน้าอเมริกาไปเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ได้รับปัจจัยลบจากการปรับตัวลดลงแรงของหุ้นจีนที่ยุโรปและเยอรมันมีสัดส่วนการส่งออกสินค้าไปยังจีนที่สูง เช่น กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยประเภทแบรนด์เนม และรถยนต์
- ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงแรงอีกในช่วงแรกของการซื้อ-ขาย (-7%) และได้มีการทำ Circuit breaker อีกครั้งในวันนี้ (เป็นวันที่ 2 หลังจากเปิดปีใหม่มา) ความกังวลหลักๆมาจากการที่กฎหมายห้ามผู้บริหารขายหุ้นออกมาเกินกว่า 5% จะหมดอายุในวันพรุ่งนี้ จึงเห็นแรงขายออกมาก่อนจากการกังวลว่าผู้บริหารจะกลับมาขายอีกครั้ง และถึงแม้จะมีนโยบายตั้งกองทุนเข้ามาอุ้มตลาดหุ้นจีนแต่กลับไม่เห็นความประสบความสำเร็จมากนัก ดัชนียังปรับตัวลดลงแรงต่ออีกในวันนี้
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงแรงกว่า 5% เมื่อวานนี้และเป็นการปรับตัวลดลงแรงที่สุดในรอบ 11 ปี โดยมีสาเหตุจาก ความไม่สงบระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่านที่มีแนวโน้มเป็นปัญหาทางการฑูตเท่านั้น และ ตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบของอเมริกาออกมามาก รวมทั้งประเด็นสำคัญคือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน (ถึงแม้จะยังนำเข้าเพิ่ม)
- ทองคำปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์หลังจากเกิดความไม่แน่นอนขึ้น