บทวิเคราะห์

ย้อนกลับ

บทวิเคราะห์วันที่ 8 ธ.ค.58

แนวทางทองคำวันที่ 8-12-58

แนวรับ 1068 1063 1055 แนวต้าน 1074 1082 1088

ราคาทองคำได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ออกมาแย่ลง และปรับตัวสูงขึ้นไปทดสอบระดับ 1088 ซึ่งมองว่าเป็นแนวต้านสำคัญก่อนที่จะปรับตัวลดลงมา ในปัจจุบันยังมองการปรับตัวลดลงไปเส้นเทรนไลน์ที่ระดับ 1063 และไปติดตามตรงจุดนั้น หากราคาหลุดลงไปเลยก็จะทำให้ฝั่งขึ้นเสียทรงไปเลย และหากราคาไม่หลุด ยังมองการแกว่งตัวขึ้นไปใหม่อีกรอบ แต่ยังมองการขึ้นไม่มาก ด้วยเหตุผลลำเอียงของการขึ้นดอกเบี้ยตอนกลางเดือน

USD/THB

ตลาดหุ้นยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องและยังไม่เห็นสัญญาณกลับตัวที่มีนัยสำคัญ ทั้งแท่งเทียนหรือ อินดิเคเตอร์ใดๆยังคาดว่าได้รับแนวโน้มฝั่งลงต่อ และซ้ำมาด้วยราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงแรงกว่า 6% เมื่อวานนี้จึงมองว่า กลุ่มพลังงานน่าจะได้รับปัจจัยลบดังกล่าวมามาก ส่วนทิศทางค่าเงินบาทมีแนวต้านอยู่บริเวณ 35.90 และยาวไปจนถึงระดับ 36.05 ถ้ายังไม่หลุดก็ยังมองการแกว่งในกรอบ

ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ

- ตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (Non-farm payroll : NFP) ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 211K จากเดือนก่อนหน้า 298K และคาดการณ์ 201K ตีความได้ว่า ออกมาหดตัวจากเดือนก่อนหน้าแต่ยังหดตัวน้อยกว่าที่คาดการณ์ และเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ทองคำปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ 

- อัตราว่างงานของ US ยังคงทรงตัวที่ระดับ 5% เท่ากับเดือนก่อนหน้า ส่วนรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงปรับตัวลดลงเหลือ 0.2% ขณะที่เดือนก่อนหน้า 0.4% 

- จากกลุ่มข่าวตัวเลข NFP ที่ประกาศมานั้น มองว่า เป็นปัจจัยบวกกับทองคำเพียงระยะสั้นเนื่องจาก ตัวเลขถึงแม้จะออกมาแย่ลง แต่แนวโน้มโดยรวมของการจ้างงานยังพบว่า ยังอยู่ในแนวโน้มที่ระยะกลางฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

- ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเมื่อวานนี้ โดยเฉพาะตลาดหุ้นเยอรมันปรับตัวเข้าใกล้ 11000 หลังจากในช่วงวันพฤหัสก่อนหน้าปรับตัวลดลงแรงท่ามกลางความผิดหวังเกี่ยวกับผลการประชุม ECB ทั้งนี้ในช่วงท้ายของตลาดได้เจอแรงขายออกมา เนื่องจาก ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงแรงหลุดระดับ $40 และเป็นระดับที่ต่ำสุดนับจากปี 2008 ส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลงทั้งยุโรปและอเมริกา ส่วนข่าวบวกอื่นๆคือ คำสั่งซื้อเยอรมันเพิ่มขึ้น แต่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมต่ำกว่าคาด

- ตัวเลขการส่งออกของจีนหดตัว –3.7% (YoY) ขณะที่ตัวเลขการนำเข้าปรับตัวลดลง 5.6% ส่งผลให้จีนยังเกินดุถลบัญชีอยู่ 343.1 ล้านหยวน นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลข GDP ของจีนในไตรมาสนี้น่าจะเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 10 ปี จากสถานการณ์ที่แย่ลงทั้งจากในประเทศและนอกประเทศ , ระดับหนี้ที่สูง , และการลงทุนที่ชะลอตัว

- ตัวเลขตรวจทาน GDP ของญี่ปุ่นออกมาที่ระดับ 1% หลีกเลี่ยงจากภาวะถดถอยทางเทคนิคหลังจากรอบแรก GDP ออกมาเพียง –0.1% 

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงแรงกว่า 6% สู่ระดับ $37/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี หลังจากที่ประชุม OPEC ไม่ได้มีการลดกำลังการผลิต และยังคงเดินหน้ารักษากำลังการผลิตต่อไปเพื่อรักษาส่วนแบ่งจากอุตสาหกรรม Shale oil ของอเมริกา

- ทองคำได้รับปัจจัยบวกจากการทำ Short-covering ส่วนกองทุน SPDR ยังคงปรับลดดการถือครองทองคำลงอีก และจีนคาดว่าจะซื้อเพิ่ม 21 ตัน