บทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์วันที่ 23 พ.ย.58
แนวรับ 1068 1066 1060 แนวต้าน 1073 1074 1077
จากรูปแบบแท่งเทียน Bullish ในวันก่อนหน้า ปรากฎว่า ราคาปรับตัวสูงขึ้นวันถัดมาแต่ก็กลายเป็นปิดลบ และล่าสุดราคาได้เสียทรงลงมาแนวรับ 1068 บริเวณนี้ หากหลุดจากบริเวณนี้ไปมองว่าจะเริ่มลงอีกครั้ง ระดับราคาปัจจุบันมองว่า ฝั่งขึ้นได้เริ่มเสียความได้เปรียบไป หลังจากราคาปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1073 ลงมา ซึ่งหากราคายังไม่ปิดเหนือ 1073 ได้นี้ให้ระมัดระวังทางฝั่งลง ภาพรายสัปดาห์ก็ดูไม่ดีเช่นเดียวกัน ยังไม่เห็นสัญญาณกลับตัวที่มีนัยสำคัญ
ทางเลือกรอง : ราคาปิดเหนือ 1073 ได้ มองว่า จะเริ่มชะลอการปรับตัวลดลงในระยะสั้นนี้
USD/THB
กระแสเงินทุนต่างชาติยังไม่ได้มีนัยสำคัญเท่าไรนัก มีการเพิ่ม Long สุทธิในฟิวเจอร์เล็กน้อยกว่า 3000 สัญญา ภาพรวมของตลาดหุ้นยังมองว่าเป็นการแกว่งตัว Sideways ในภาพรวม แต่เริ่มมีทิศทางรีบาวน์ขึ้นมาอีกรอบหนึ่ง แต่ยังมองว่าค่อนข้างน้อย จากปัจจัยบวกและลบที่ออกมาสลับกันในแต่ละวัน ส่วนค่าเงินบาทแนวต้านระยะสั้นจะอยู่บริเวณ 35.80 นี้เอง ยังมองว่าให้ราคาเคลื่อนไหวแถวนี้ไปอีกสักพักหนึ่ง
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ประธาน FED สาขา St.Louis คุณ James Bullard กล่าวว่า นักลงทุนควรจะเตรียมตัวรับมือกับความผันผวนในอนาคต และมองว่า ยุคอัตราดอกเบี้ยต่ำกำลังจะหมดไป ต่อไปจะเจอกับ ยุคที่ต้องคาดการณ์การเคลื่อนไหวของธนาคารกลางแบบเดือนต่อเดือน (ติดตามการประชุมทุกๆเดือนเพื่อดูท่าทีนโยบายการเงินที่จะส่งสัญญาณออกมา)
- รองประธาน FED คุณ Fischer ให้ความเห็นว่า ประธาน FED เห็นพ้องกันว่า ควรจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ และตลาดเกิดใหม่รวมถึงเอเชียได้เตรียมรับมือกับเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว และบอกว่าสิ่งที่ FED ควรจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นคือ “Just do it”
- กระแสคู่เงินยูโรและดอลลาร์กำลังกลับมา เนื่องจากในเดือนหน้าจะมีเรื่องของการขึ้นดอกเบี้ยของ US ขณะที่น่าจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจจาก EU
- กรีซได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ให้ไว้กับ EU เมื่อครั้งที่ขอรับความช่วยเหลือ ในขณะที่กรีซจะได้รับเงินช่วยเหลืองวดถัดไปในวันนี้วงเงิน 2 พันล้านยูโร เพื่อนำไปปรับโครงสร้างทุนของธนาคารพาณิชย์
- ตลาดหุ้นเยอรมันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน และเป็นสัปดาห์ที่มีการปรับขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม ปัจจัยหลักที่ได้รับ คือ คาดการณ์ว่า ECB จะมีมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมอีกในเดือน ธันวาคม
- วันนี้เป็นวันหยุดทำการของตลาดหุ้นญี่ปุ่น (Labor Thankgiving day) จึงทำให้ไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ ส่วนตลาดหุ้นเอเชียยังเปิดบวกอยู่เล็กน้อยเนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากฝั่งยุโรปและอเมริกาที่ส่งมาทางบวก
- มีข่าวเกี่ยวกับการเก็บภาษีของไทยว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ หลังจากได้มาประมาณ 34 แนวทาง เช่น อาจเพิ่มค่าลดหย่อนเป็น 120,000 บาทสำหรับบุคคลธรรมดา ซึ่งหากลดการเก็บภาษีจะเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจโดยรวม
- จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง พบว่ากลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันได้รับผลกระทบหนักที่สุด และ คาดว่าจะเกิดการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทน้ำมันเยอะขึ้น
- กองทุน SPDR ปรับลดการถือครองทองคำลงอีก 0.18% สู่ระดับ 660.75 ตัน ยังคงเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ กันยายน 2008 ส่วนกองทุน Hedge fund เปลี่ยนสถานะกลายเป็น Bearish ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาข้อมูลจาก CFCT