ย้อนกลับ
บทวิเคราะห์วันที่ 16 พ.ย.58
แนวทางทองคำวันที่ 16-11-58
แนวรับ 1086 1083 1075 แนวต้าน 1096 1100 1105
ทองคำได้รับปัจจัยบวกจากความไม่สงบในฝรั่งเศส และเป็นผลทำให้เปิด GAP ขึ้นมาในช่วง 1083-1086 ซึ่ง GAP เช่นนี้มองว่ามีโอกาสลงไปปิดสูงมากเพราะ เป็น GAP จากเหตุการณ์ที่เป็นความตกใจระยะสั้น จึงมีสองทางเลือก คือ 1. ราคาลงไปปิดช่องว่างบริเวณ 1083 ก่อน ก่อนที่จะทรงตัว หรือ 2. ราคาขึ้นไปทดสอบ 1100 ก่อน ทางที่ดีราคาควรจะวิ่งลงมาปิดช่องว่างด้านล่างก่อน (บริเวณสีเหลือง) ทั้งนี้ปัจจัยทั้งหมดเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราวที่เป็นปัจจัยบวกเล็กน้อยกับทองคำ
ทางเลือกรอง : ราคาขึ้นไปทดสอบ 1100 และยืนอยู่ มองว่า ราคาจะเริ่มทรงตัว แต่เช่นเดิมมองว่าโอกาสเกิดยังน้อยกว่า และ ลุ้นให้ราคาลงไปปิดช่องว่างก่อนจะดีกว่า
USD/THB
ต่างชาติยังขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยกว่า 2478 ล้านบาท และยัง Short สุทธิในฟิวเจอร์ เป็นวันที่ 7 อีก 7761 สัญญา ภาพรวม SET หลังจากไม่สามารถขึ้นไปเกินกว่า 1430 ได้และค่อยๆปรับตัวลดลงยังมองเป็นปัจจัยลบระยะกลาง ประกอบกับดัชนีทางลบที่ส่งมาจากทั่วโลกยิ่งเพิ่ม Downside risk เข้าไปอีก ทิศทางค่าเงินบาทยังมองการอ่อนค่าไปสู่ระดับแนวต้าน 36.00
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- ตัวเลขค้าปลีกทั้งแบบปกติและแบบไม่รวมหมวดยานพาหนะของฝั่งอเมริกาปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้า แต่น้อยกว่าคาดการณ์ ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) หดตัวต่อเนื่องสู่ระดับ –0.4% จากเดือนก่อนหน้า –0.5% ทั้งนี้ข่าวเหล่านี้ค่อนข้างผสมกัน ส่วนความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 93 จุด
- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวลดลงกว่า 200 จุดท่ามกลางตัวเลขค้าปลีกที่น่าผิดหวัง และราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง เป็นความกังวลก่อนการขึ้นดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มจะถึงในเดือนหน้า ทั้งนี้ได้รับปัจจัยลบจาก เหตุการณ์การก่อการร้ายในฝรั่งเศสในวันเสาร์ที่มีการกราดยิงขึ้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 100 คน และบาดเจ็บอีกประมาณ 300 คน เหตุการณ์ล่าสุด ฝรั่งเศสได้โจมตี Airstrike ฐานที่มั่นของ ISIS ในซีเรีย
- ตัวเลข GDP ของเยอรมันหดตัวลงเล็กน้อยสู่ระดับ 0.3% เท่ากับคาดการณ์เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ 0.4% เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับ GDP ของยูโรโซนที่ขยายตัว 0.3% เท่ากัน ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงกว่า 1% พร้อมทั้งได้รับปัจจัยลบจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่น่าผิดหวัง รวมถึงราคาน้ำมันดิบและสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังซ้ำด้วยเหตุการณ์ที่เกิดในฝรั่งเศส
- ญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะการถดถอยทางเทคนิค (Technical recession) หลังจาก GDP ไตรมาสที่ 3 ออกมาที่ระดับ –0.7% จากไตรมาสก่อนหน้า –0.8% นับว่าเป็นการถดถอยทางเทคนิคของญี่ปุ่นเป็นรอบที่ 2 จากปัจจัยหลักคือ การลงทุนของภาคเอกชนและสินค้าคงเหลือที่ปรับตัวลดลง
- เจ้าหน้าที่ IMF ได้เสนอให้เงินหยวนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของตะกร้า SDR ซึ่งจะมีการพิจารณาในช่วงระยะถัดๆไป นอกจากนี้จีนได้ประกาศเพิ่มวงเงินมาร์จิ้นอีกเป็น 100%
- น้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเล็กน้อยหลังจากลงไปซื้อ-ขาย กันบริเวณจุดต่ำสุดเดิม ได้รับปัจจัยบวกมาจากเหตุการณ์ในฝรั่งเศสเช่นกัน แต่เป็นเพียงเล็กน้อย
- ทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 12 ติดต่อกัน หลังจากได้รับข่าวเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนที่จะมีการปรับขึ้นวันนี้เป็นวันแรกและนักเศรษฐศาสตร์ให้ความเห็นว่า เงินเฟ้อที่ลดลงและการใช้จ่ายที่น้อยลงจะไม่เป็นปัญหาในการขึ้นดอกเบี้ย