บทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์วันที่ 5 พ.ย.58
แนวรับ 1110 1105 1080 แนวต้าน 1112 1118 1125
ราคายังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ลงมาสู่ระดับ 1106 เมื่อเช้านี้ ซึ่งเป็นการหลุด Trend line อันใหญ่ที่บริเวณ 1120 ถึงแม้ภาพรวมจะยังคงเป็นลบชัดเจน และ มองการปรับตัวลดลงต่ำกว่านี้อีกมาก แต่มองว่า ระยะสั้นอยากเห็นการรีบาวน์ประมาณ $10-20 ก่อน เนื่องจากอยู่ในภาวะ Oversold มาตลอดทาง และสร้าง Divergent หลายลูกขึ้น ทั้งนี้หากรีบาวน์ไม่ไหวตามที่ 2 วันที่ผ่านมาเป็นก็จะปรับตัวลดลงต่อ เพียงแต่ราคาปรับตัวลดลงมา 6 วันติดกัน โดยไม่มีการพักตัวเลย ต้องระมัดระวัง
ทางเลือกรอง : ราคายังลงต่อและหลุดลงไปอีก จากเดิมที่มองลบอยู่แล้ว จะมองลึกขึ้นไปอีก มองว่า จะหลุด 1100 ลงมาเล่นกันแถว 1070-1080 อีกรอบหนึ่งในระยะกลาง
USD/THB
ต่างชาติยังคง Long สุทธิในฟิวเจอร์เพิ่มขึ้นอีก 9000 สัญญา ภาพรวมของตลาดหุ้นยังไม่มีทิศทางที่เป็นนัยสำคัญ แต่มีที่น่าสนใจคือ ต่างชาติเข้าสะสม Long เรื่อยๆในช่วงที่ผ่านมา ตรงกันข้ามกับนักลงทุนสถาบันและรายย่อยที่เปิด Short สะสมไว้ค่อนข้างมาก ต้องติดตาม ส่วนทิศทางค่าเงินบาทเมื่อวานนี้ กนง ไม่ลดดอกเบี้ย คงไว้ระดับ 1.50% จึงมองว่า เงินบาทน่าจะแข็งค่าในระยะสั้น แต่ยังมองการแกว่งตัวในกรอบแทน
ข่าวสารประกอบการตัดสินใจ
- อเมริกากลับมาทางกังวลการขึ้นดอกเบี้ยมากขึ้น หลังจากเมื่อวานนี้ คุณ เจเนต เยลเลน ประธาน FED ได้ออกมาให้ความเห็นว่า การขึ้นดอกเบี้ยมีแนวโน้มสูงที่จะขึ้นในเดือน ธันวาคม โดยมีเงื่อนไขว่า หากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาช่วงหลังจากนี้ไม่ได้มีการปรับตัวแย่ลงอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบันมองว่า เศรษฐกิจฟื้นตัวแล้ว โดยเฉพาะ การบริโภคภายในประเทศ นอกจากนี้ยังให้ความเห็นเรื่องอัตราเงินเฟ้อไว้ว่า คาดว่าจะปรับตัวเข้าสู่ระดับ 2% ในระยะกลาง จากอัตราว่างงานที่เริ่มกลับเข้าสู่การว่างงานตามธรรมชาติ (ประมาณ 5%) ซึ่งปัจจุบันอยู่ระดับ 5.1%
- ตลาดหุ้นอเมริกาปรับตัวลดลงเล็กน้อยท่ามกลางข่าวขึ้นดอกเบี้ย ในทางกลับกัน Yield พันธบัตรอายุ 2 ปีปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.82% สะท้อนการขึ้นดอกเบี้ย
- ตลาดหุ้นทางฝั่งยุโรปปรับตัวลดลงนำโดยกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ที่เมื่อวานนี้ ราคาหุ้นของ Volkswagen ปรับตัวลดลงแรงกว่า 9% ท่ามกลางเรื่องการโกงตัวเลขการปล่อยไอเสีย และลากอุตสาหกรรมรถยนต์โดยรวมลงมาด้วย ส่วนฝั่ง Glencore หุ้นกลุ่มเหมืองได้ช่วยพยุงตลาดไว้ หลังจากมีแผนปรับโครงสร้างหนี้ ทั้งนี้ ตลาดหุ้นยุโรปผันผวนในกรอบแคบๆ เนื่องจาก ถึงแม้จะมีข่าวลบกับผลประกอบการ แต่ได้เรื่องของ Sentiment ตลาดโดยเฉพาะจีนที่ส่งมาในทางบวก
- ตลาดหุ้นทางฝั่งยุโรปปรับตัวลดลงนำโดยกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ที่เมื่อวานนี้ ราคาหุ้นของ Volkswagen ปรับตัวลดลงแรงกว่า 9% ท่ามกลางเรื่องการโกงตัวเลขการปล่อยไอเสีย และลากอุตสาหกรรมรถยนต์โดยรวมลงมาด้วย ส่วนฝั่ง Glencore หุ้นกลุ่มเหมืองได้ช่วยพยุงตลาดไว้ หลังจากมีแผนปรับโครงสร้างหนี้ ทั้งนี้ ตลาดหุ้นยุโรปผันผวนในกรอบแคบๆ เนื่องจาก ถึงแม้จะมีข่าวลบกับผลประกอบการ แต่ได้เรื่องของ Sentiment ตลาดโดยเฉพาะจีนที่ส่งมาในทางบวก
- ข่าวบวกเมื่อวานในตลาดหุ้นจีนนอกจากตัวเลข PMI ภาคบริการที่ออกมามากขึ้นนั้นยังมีเรื่องของการเชื่อมปลั๊กระหว่างตลาดหุ้นฮั่งเส็ง และ เสินเจิ้น ในปีนี้ (อาจยาวไปจนถึงต้นปีหน้า ) และทางการฮ่องกงกำลังพิจารณาอยู่ ในปีที่แล้วมีการเชื่อมปลั๊กทีหนึ่งแล้ว ระหว่างจีนและฮ่องกง ทำให้เม็ดเงินไหลเข้ามาในตลาดหุ้นจีนอย่างคึกคัก
- ธปท คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่เดิม ที่ระดับ 1.5% และให้ความเห็นว่า เศรษฐกิจไทยได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปในไตรมาสที่ 3 นี้แล้ว
- มีความเห็นจากประธาน FED สาขา Dudley เพิ่มอีกว่า การขึ้นดอกเบี้ยมีความเป็นไปได้ในเดือนธันวาคมเช่นกัน ส่งผลให้ตัวฟิวเจอร์ที่บ่งบอกให้เห็นถึงความน่าจะเป็นที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50% จากช่วงก่อนหน้าที่อยู่แค่ 30% เท่านั้น
- ถึงแม้ SPDR จะลดสถานะการถือครองทองคำลง แต่ MKS มองว่า มีแรงซื้อเข้ามาจากเอเชียในช่วงที่ราคาลดลงนี้